กัสโต้ เวิล์ด ทัวร์

บริการคุณภาพ ทุกเส้นทางท่องเที่ยว

เลขที่ 11/03295

แพ็คเกจญี่ปุ่น OSAKA KYOTO NARA

แพ็คเกจญี่ปุ่น
รหัส 004-2262
วันที่เดินทาง
ต.ค.65 - ธ.ค.65
ช่วงเวลา
5 วัน 3 คืน
ราคาเริ่มต้น
23,900 บาท
แผนการเดินทาง
วันที่ 1
กรุงเทพฯ – สนามบินสุวรรณภูมิ
วันที่ 2
สนามบินนานาชาติคันไซ – นารา – วัดพระใหญ่โทไดจิ – โอซาก้า – ปราสาทโอซาก้า – พิพิธภัณฑ์นิชชินคัพนูดเดิล - ชินไซบาชิ
…..น.

เช้า

-นารา วัดโทไดจิ เป็นวัดที่มีชื่อเสียงในระดับโลกของญี่ปุ่นถ้าจะกล่าวถึง วัดโทไดจิ ประวัติ นั้นนับว่ามีมายาวนานสร้างสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 752 สมัยที่นารายังเป็นเมืองหลวงของญี่ปุ่นก่อนที่จะย้ายไปตั้งเมืองใหม่ที่เกียวโต วัดนี้มีอายุกว่า 1,200 ปี เรียกได้ว่ามีความเก่าแก่จนได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากยูเนสโก ชื่อ Todaiji แปลว่า มหาวิหารตะวันออก เดิมทีวิหารหลังเดิมตั้งแต่เริ่มสร้างนั้นนับได้ว่ามีขนาดใหญ่กว่าวิหารในปัจจุบันถึง 3 เท่า แต่เนื่องจากเหตุการไฟไหม้จึงมีการสร้างและบูรณะวิหารใหม่ในขนาดที่เราเห็นกันในปัจจุบันที่เรียกว่าวิหารไดบุทสึเด็น (Daibutsuden Hall) เป็นที่ประดิษฐานไดบุตสึ หรือที่เรียกกันว่าหลวงพ่อโตแห่งนารา แต่ก็ยังนับว่าเป็นวิหารไม้ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกอยู่ดี ปัจจุบันวัดแห่งนี้เป็นสถานที่เก็บสมบัติชาติที่สำคัญไว้หลายชิ้น

-ปราสาทโอซาก้า “สวนปราสาทโอซาก้า” สวนสาธารณะเชิงประวัติศาสตร์ขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ใจกลางโอซาก้า เป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมของผู้คนที่ชื่นชอบปราสาทญี่ปุ่น และนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ปราสาทโอซาก้า ถูกสร้างขึ้นในช่วงครึ่งหลังของศตวรรษที่ 16 เพื่อเป็นที่พำนักของโทโยโทมิ ฮิเดโยชิ (*1) ผู้รวมญี่ปุ่นให้เป็นหนึ่งเดียวในสมัยนั้น ใช้เวลาตั้งแต่เริ่มก่อสร้างจนถึงเสร็จสมบูรณ์ยาวนานกว่า 16 ปี เป็นปราสาทขนาดใหญ่ที่กลายเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของญี่ปุ่น แต่ทว่า ปราสาทโอซาก้าที่ก่อสร้างขึ้นในยุคสมัยนั้นถูกเผาทำลายไปพร้อมกับการล่มสลายของตระกูลโทโยโทมิ กำแพงหินและยากุระ (หอสังเกตุการณ์) ที่เห็นนี้ จึงได้รับการฟื้นฟูขึ้นใหม่ในสมัยเอโดะ ส่วนตัวปราสาทก็ถูกสร้างขึ้นใหม่หลังจากนั้น แม้กระนั้น ในปัจจุบันปราสาทโอซาก้าก็ยังคงได้รับการดูแลให้อยู่ในสภาพที่น่าเกรงขามและยิ่งใหญ่ จนนับว่าเป็นหนึ่งในสามปราสาทที่มีชื่อเสียงที่สุดในญี่ปุ่น เทียบเท่ากับปราสาทนาโกย่าและปราสาทคุมาโมโตะ

-พิพิธภัณฑ์นิชชินคัพนู้ดเดิล “พิพิธภัณฑ์อนุสรณ์การค้นพบบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป” สถานที่ชื่อดังในเมือง Ikeda โอซาก้า ซึ่งที่นี่เองก็เป็น “บ้านเกิดของบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป” ในปี 1958 บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปอันแรกของโลก “ราเมนไก่” ที่คุ้นเคยกันว่า “อร่อยทันที, อร่อยมาก” ก็กำเนิดขึ้น โดยเกิดใน “กระท่อมวิจัยเล็กๆ” ที่ตั้งในสวนบ้านของ Ando Momofuku ผู้คิดค้นและผู้ก่อตั้ง Nissin Foods ที่อยู่ในเมือง Ikeda โดย “พิพิธภัณฑ์อนุสรณ์การค้นพบบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป” ที่ก่อตั้งในปี 1999 นี้ ตั้งขึ้นเพื่อบอกเล่าประวัติศาสตร์และความสำคัญของ “การประดิษฐ์และค้นพบ” บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ภายในไม่เพียงแต่คุณจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับการเกิดของบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเป็นขั้นๆ ทั้งประวัติศาสตร์การพัฒนา, วิธีการผลิต แต่ยังมีให้คุณได้ทำบะหมี่ถ้วยในแบบของคุณเองที่ “My Cup Noodles Factory” (ไม่ต้องจอง, มีค่าใช้จ่าย) และมุมให้คุณได้ลองทำราเมนไก่ด้วยตนเองที่ “Chicken Ramen Factory” (ต้องจอง, มีค่าใช้จ่าย) ซึ่งได้รับความนิยมอย่างมาก และน่าสนุกสนาน!

-โอซาก้า ย่านชินไซบาชิ ตั้งอยู่ใกล้กับนัมบะและโดทงโบริ จุดท่องเที่ยวยอดนิยมในโอซาก้า ที่นี่มี ย่านร้านค้า ชินไซบาชิซุจิ (Shinsaibashsuji Shotengai) แหล่งช้อปปิ้งชื่อดังของโอซาก้าด้วย ย่านร้านค้าชินไซบาชิซุจิมีระยะทางทั้งหมด 600 เมตร หากรวมย่านร้านค้าอื่นๆ ที่อยู่หัวและท้ายด้วยก็จะกลายเป็นย่านร้านค้าที่มีความยาวราว 2 กิโลเมตรเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นร้านขายยา ร้านขายเครื่องสำอาง ร้านปลอดภาษี (Duty Free) ร้าน 100 เยน ร้านคาแรคเตอร์ต่างๆ ไปจนถึงร้านอาหารและคาเฟ่มากมายก็รวมตัวกันอยู่ที่นี่ เรียกได้ว่ามีทุกอย่างที่อยากได้จริงๆ

เย็น เช็คอินเข้าที่พัก…..
มื้อกลางวัน รับประทานอาหารมื้ออิสระ
มื้อเย็น รับประทานอาหารมื้ออิสระ
วันที่ 3
เกียวโต – วัดคิโยมิซุ – ศาลเจ้าเฮอัน – พิธีชงชา – ศาลเจ้าฟูจิมิอินาริ – โอซาก้า
…..น.

เช้า

-เกียวโต วัดคิโยมิซุ วัดน้ำใส สายน้ำ 3 สายในกรุงเก่าเกียวโต วัดเก่าแก่บนเนินเขาที่มีอายุเก่าแก่กว่าตัวเมืองเกียวโต ได้แก่ วัดคิโยมิสึเดระ (清水寺 Kiyomizu-dera) แปลเป็นภาษาไทยว่า “วัดน้ำใส” เป็นวัดที่มีชื่อเสียงที่สุดในเมืองเกียวโต สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 778 หรือ พ.ศ. 1321 นักท่องเที่ยวนิยมเดินทางมาเพื่อสักการะและขอพรจากองค์พระโพธิสัตว์เจ้าแม่กวนอิม 11 พักตร์ 1000 กร ซึ่งเป็นพระประธานของวัด นอกจากนี้ ที่นี่ยังเป็นที่ประดิษฐานของเทพเอบิสึผู้เป็นเทพเจ้าแห่งความร่ำรวยมั่งคั่ง

-ศาลเจ้าเฮอันจิงงุ แม้ว่าจะไม่ได้มีประวัติยาวนานเป็นพันปีหรือร้อยๆปีเหมือนกับที่อื่นๆ แต่บอกเลยว่าที่นี่ไม่ธรรมดาเลยนะคะ เพราะเป็นศาลเจ้าที่ถูกสร้างขึ้นเนื่องในโอกาสครบรอบปี 1100 ของเมืองเกียวโตเมื่อร้อยกว่าปีก่อนเท่านั้นเอง โดยเฉพาะจุดไฮไลท์อย่างประตูโทริอิยักษ์สีแดงที่ตั้งอยู่ด้านหน้าของวัดที่สามารถเห็นแต่ไกลลิบๆใครไปใครมาต้องถ่ายรูปตรงบริเวณนี้ ศาลเจ้าแห่งนี้นั้นถูกสร้างขึ้นเพื่อให้ระลึกถึงจักรพรรดิคัมมุ (Emperor Kammu) และจักรพรรดิ์โคเมอิ (Emperor Komei) ผู้ที่มีความสำคัญต่อเมืองเกียวโตอย่างมาก เนื่องจากเป็นจักรพรรดิองค์แรกและองค์สุดท้ายของเกียวโต ตัวศาลเจ้าเองก็มีดีไม่แพ้จุดอื่นๆเหมือนกัน โดยเฉพาะสถาปัตยกรรมที่บอกได้ว่าเมื่อเทียบกันแล้วค่อนข้างจะโดดเด่นจากศาลเจ้าอื่นๆของญี่ปุ่น ตัวอาคารหลักๆนั้นมีต้นแบบมาจากพระราชวังสมัยยุคเฮอันเพียงแต่จะมีขนาดที่เล็กกว่าของจริงอยู่ซักหน่อย บริเวณสวนที่รายรอบวัดนั้นก็แลดูร่มรื่น เต็มไปด้วยต้นไม้หลากหลายสายพันธุ์เน้นการตกแต่งสไตล์ญี่ปุ่นดั้งเดิม ที่เด็ดสุดก็เป็นช่วงฤดูใบไม้ผลิที่นับเป็นอีกหนึ่งจุดชมซากุระที่โด่งดังของเกียวโตเลยก็ว่าได้

-พิธีชงชา หรือ ซะโด (Sado) หรือ บางที่อาจจะเรียกแค่ โอฉะ (Ocha) ซึ่งแปลว่า “วิถีแห่งชา” (The Way of Tea) คือ พิธีกรรมการเสิร์ฟและดื่มชาเขียวมัทฉะชงร้อนๆ ด้วยอุปกรณ์พิเศษสำหรับชงชา เพื่อต้อนรับแขกผู้มาเยือน มีกระบวนการที่เป็นขั้นตอนตามกำหนดการและท่วงท่าอันเป็นเอกลักษณ์ เป็นศิลปะที่แม้จะไม่ได้วาดลวดลายร่ายรำแต่กลับดูมีเสน่ห์เฉพาะตัวอย่างเหลือเชื่อ และสะท้อนถึงวัฒนธรรมอันทรงคุณค่าผ่านวิถีชีวิตอันเรียบง่ายแต่เต็มไปด้วยเอกลักษณ์ของชาวญี่ปุ่นตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันได้เป็นอย่างดี ซึ่งมีขั้นตอนมากมาย เริ่มตั้งแต่การชงชา การรับชา และ การดิ่มชา ทุกขั้นตอนประกอบไปด้วยรายละเอียดอันงดงาม ไม่ได้เพียงแค่รับชม แต่ยังได้มีส่วนร่วมในพิธีชงชานี้อีกด้วย จากนั้นให้ท่านได้อิสระเลือกซื้อของที่ระลึกตามอัธยาศัย

-ศาลเจ้าฟูจิมิอินาริไทฉะ สร้างขึ้นเพื่ออุทิศแก่ อินาริ เทพเจ้าแห่งการเพาะปลูกและการค้าที่รุ่งเรือง เป็นศาลเจ้าที่สำคัญที่สุดในบรรดาศาลเจ้าอินาริทั้งหมดในญี่ปุ่น แนวเสาประตูโทริอิสีส้มสดใสทอดยาวอย่างสุดตา ขึ้นไปจนถึงยอดเขาอินาริ ทำให้เกิดเป็นภาพอันน่าประทับใจและเป็นหนึ่งในภาพที่โด่งดังที่สุดของญี่ปุ่น ว่ากันว่าศาลเจ้าแห่งนี้ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 711 ก่อนที่เมือเกียวโตจะกลายเป็นเมืองหลวงของญี่ปุ่น ตลอดทางขึ้นสู่ภูเขาอินาริที่มีความสูง 233 เมตรจะมีศาลเจ้าเล็ก ๆ มากมายตั้งอยู่รายทาง และรวมตลอดเส้นทางนี้มีเสาประตูโทริอิประมาณ 10,000 ต้น อุโมงค์เสาประตูโทริอิสีส้มสดใสที่ทอดยาวนี้ถือเป็นภาพอันเป็นเอกลักษณ์ของเมือเกียวโต

เย็น เช็คอินเข้าที่พัก…..
มื้อเช้า รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารโรงแรม ( บุฟเฟ่ )
มื้อกลางวัน รับประทานอาหารมื้ออิสระ
มื้อเย็น รับประทานอาหารมื้ออิสระ
วันที่ 4
โอซาก้า อิสระท่องเที่ยวและช้อปปิ้งเต็มวัน ( ทัวร์เสริม ยูนิเวอร์เซลสตูดิโอเจแปน )
…..น.

เช้า

***ไกด์แนะนำเที่ยวโดยรถไฟฟ้าตะลุยนครโอซาก้า / เดินทางโดยรถไฟตลอดวัน***

ย่านชินเซไก(Shinsekai) ย่านกลางคืนสุดเจ๋งที่เป็นเสมือนแลนด์มาร์กสำคัญอีกแห่งหนึ่งของเมืองโอซาก้า โดยชื่อชินเซไกสามารถแปลตรงๆตัวว่า “โลกใหม่” ที่ก็น่าจะหมายถึงโลกใบใหม่แห่งโอซาก้านั่นเองล่ะค่ะ ที่สำคัญมาที่เดียวได้มากกว่าแค่ช็อปปิ้งนะคะ เพราะยังมีหอคอยซึเทนคาคุ(Tsutenkaku)ที่เป็นเหมือนสัญลักษณ์ของย่านชินเซไกนี้ตั้งอยู่ตรงกลางอีกด้วย ที่นี่จะคึกคักแบบสุดๆก็ช่องกลางคืนนี่แหล่ะค่ะ บอกเลยว่าร้านค้าเพียบ ผู้คนมากินดื่มกันตามร้านตามๆอย่างเนืองแน่น บริเวณนี้ยังมีถนนแคบๆที่เรียกกันว่า จันจัน โยโกะโช(Jan Jan Yokocho)ที่เป็นแหล่งรวมร้านกินดื่มสำหรับคนญี่ปุ่น เปิดไฟร้านเรียกแขกคึกคัก มีอาหารและขนม และกับแกล้มให้ลองชิมกันมากมาย และแถวๆนี้ยังมีร้านขายของที่ระลีกให้เลือกช็อปปิ้งกันอีกหลายร้าน หลายคนที่ไปที่นี่จะพบเห็นหุ่นคล้ายลิงนั่งยิ้ม ตามมุมต่างๆที่เจอ นั่นก็คือบิลลิเคน(Billikan)หรือเทพแห่งโชคลาภนั่นเองที่เป็นอีกหนึ่งสัญลักษณ์ของย่านนี้อีกด้วย

สปาเวิลด์ (Spa World) ศูนย์รวมบ่อน้ำแร่ออนเซนใหญ่ที่สุดในโอซาก้า เป็นศูนย์รวมวารีบำบัดที่ใหญ่ที่สุดในโอซาก้า ตั้งอยู่ในย่าน Shinseikai ใกล้หอคอยทสึเทงคาคุ ภายในอาคารประกอบด้วย บ่อน้ำแร่ธรรมชาติในที่ร่ม แยกเป็นโซนยุโรปและโซนเอเชีย รวมทั้งสิน 16 บ่อ มีห้องซาวน่า สปาหินร้อน นวดผ่อนคลายและนวดสปา สวนน้ำ ฟิตเนสเซ็นเตอร์ โรงแรม ห้องจัดเลี้ยง เปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง ใครที่เดินเที่ยวจนเมื่อยขา ลองมาใช้บริการแช่น้ำแร่ธรรมชาติได้ที่นี่โดยไม่ต้องไปตระเวนหาออนเซ็นนอกเมืองให้เสียเวลา (สถานีรถไฟใต้ดิน Dobutsuenmae)

เรือ Santa Maria ท่องอ่าวโอซาก้า (สถานี Osaka-ko / Chuo Line ทางออกหมายเลข 1)

ชิงช้าสวรรค์แห่งเทมโบซาน ชิงช้าสวรรค์เท็มโปซานนั้นตั้งอยู่ใกล้กับพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำโอซาก้าไคยูคัง​ (Osaka Aquariam Kaiyukan) โดยชิงช้าสวรรค์ขนาดยักษ์แห่งนี้ สร้างขึ้นตั้งแต่ปี 1997 หรือสร้างมาแล้วกว่า 23 ปี ซึ่งในขณะนั้นถือว่าเป็นชิงช้าสวรรค์ที่ขนาดใหญ่โตและสูงที่สุดในโลก โดยมีความสูงประมาณ 112 เมตร และเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 100 เมตร  ความใหญ่โตของชิงช้าสวรรค์ทำให้การหมุนของชิงช้าสวรรค์ในแต่ละรอบจะใช้เวลาประมาณ​ 15 นาที ในส่วนของภายในตู้โดยสารสามารถนั่งได้ 4-5 คน และแต่ละตู้จะมีส่วนบริเวณพื้นให้เลือกว่าจะเป็นพื้นแบบกระจกใส​เพื่อเพิ่มความหวาดเสียวเมื่อมองลงมาจากด้านบนขณะที่ตู้โดยสารถูกเคลื่อนให้อยู่ในจุดที่สูงที่สุดของตัวชิงช้าสวรรค์ คือพื้นแบบทึบปกติธรรมดา ซึ่งแน่นอนว่าในขณะนั้นผู้เขียนเลือกพื้นแบบทึบหรือพื้นปกติธรรมดาเนื่องจากอาการกลัวความสูงเป็นทุนเดิม

พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำไคยูคัง หรือที่หลายคนเรียกสั้น ๆ ว่า Kaiyukan อควาเรียมแห่งหนึ่งที่มีความยิ่งใหญ่ระดับโลก และถูกจัดเป็นอควาเรียมที่ดีที่สุดในประเทศญี่ปุ่นและเอเชีย ซึ่งอควาเรียมแห่งนี้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวเหมาะจะมาเดินเล่นเพลิดเพลินกันทั้งครอบครัว มีทั้งลิฟต์และล็อกเกอร์เพื่ออำนวยความสะดวกสำหรับครอบครัวที่พาเด็กเล็กมาด้วยนะ

ภายในพิพิธภัณฑ์จัดแสดงเหล่าสิ่งมีชีวิตไว้ตามถิ่นที่อยู่ มีให้ชมถึง 15 ตู้ จัดแสดงให้ชมทั้งสัตว์น้ำ สัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ สัตว์เลื้อยคลาน นก สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม สัตว์ไม่มีกระดูกรวมไปถึงพืชพันธุ์ต่าง ๆ มากถึง 30,000 ชีวิต ราว 620 สายพันธุ์

โดยจะจัดสิ่งมีชีวิตประเภทต่าง ๆ เอาไว้ร่วมกันแบบใกล้เคียงกับระบบนิเวศน์ในธรรมชาติมากที่สุด เราจึงจะได้เห็นสิ่งมีชีวิตมากมายอาศัยอยู่ในอควาเรียมแห่งนี้ภายใต้การจัดแสดงที่เสมือนจริง การเข้าชมอควาเรียมแห่งนี้จะต้องเข้าชมจากชั้นบนสุดก่อนแล้วค่อย ๆ เดินวนลงมาจนถึงชั้นล่างสุด ขณะที่เดินชมในแต่ละชั้นก็จะได้พบกับสัตว์น้ำที่อาศัยอยู่ในระดับน้ำที่มีความลึกต่างกัน จึงมีโซนต่าง ๆ ให้เราได้ชมอย่างมากมาย

ย่านอุเมดะ แหล่งช้อปปิ้งขนาดใหญ่ใกล้สถานีรถไฟโอซาก้า อูเมดะ (ญี่ปุ่น: 梅田; โรมาจิ: Umeda) เป็นย่านการค้า ธุรกิจ และบันเทิง ในแขวงคิตะ นครโอซากะ จังหวัดโอซากะ ประเทศญี่ปุ่น และเป็นที่ตั้งของชุมทางสถานีรถไฟสายหลักทางทิศเหนือของโอซากะ (สถานีรถไฟโอซากะ และสถานีรถไฟอูเมดะ) คำว่า อูเมดะ มีความหมายว่า “ทุ่งบ๊วย”

อูเมดะเป็นจุดที่มีการคมนาคมสัญจรสูง มีสำนักงาน โรงแรม ตั้งอยู่หลายแห่งในอูเมดะตะวันตก โดจิมะ และนากาโนชิมะ มีตึกระฟ้าตั้งอยู่ในบริเวณนี้กว่า 40 ตึก อูเมดะเป็นที่รู้จักกันในฐานะแหล่งช็อปปิ้ง มีห้างสรรพสินค้าที่ใหญ่ที่สุดของเมืองโอซากะตั้งอยู่ที่นี่ (ห้างฮันคิน ห้างฮันคิว ห้างไดมารุ และห้างอิเซตัน) และมีห้างเล็กอีกมากมาย อาทิ ดิอามอร์โอซากะ HEP Five Hep Navio และวิตตี้ โอซากะ

อาคารชมวิวอุเมดะสกาย (Umeda Sky Building) ชมวิวเมืองโอซาก้าแบบ 360 องศา (รถไฟใต้ดิน สถานีอูเมดะ)

หรือ ท่านที่สนใจเดินทางสู่

ยูนิเวอร์แซล สตูดิโอ เจแปน (Universal Studio Japan) ซึ่งตั้งอยู่ในเมืองโอซาก้าและเป็น 1 ใน 4 ของสวนสนุกยูนิเวอร์เซลสตูดิโอ ของบริษัทยูเอสเจ จำกัด ให้ท่าน “สนุกสนานเพลิดเพลิน กับเครื่องเล่นมากมาย

ที่จำลองมาจากฉากในภาพยนตร์ฮอลลีวู้ด” สถานที่ซึ่งนักท่องเที่ยวที่จะไปเที่ยวแถบโอซาก้าจะพลาดไม่ได้เป็นอันขาด ที่นี่คือสวนสนุกขนาดใหญ่ที่ให้คุณได้สัมผัสกับโลกแห่งภาพยนตร์ฮอลลีวู้ด สร้างความสุขสนุกสนานให้กับทุกคน ไม่ว่าจะเป็นผู้ที่ชื่นชอบการชมภาพยนตร์หรือไม่ก็ตาม ภายในตกแต่งด้วยบรรยากาศราวกับกำลังเดินหลงทางอยู่ในฮอลลีวู้ด นิวยอร์ก และซานฟรานซิสโกเหมาะกับการเดินเล่นสนุกสนานกับกลุ่มเพื่อนเป็นอย่างยิ่ง และที่นี่ยังเต็มไปด้วยเครื่องเล่นอลังการ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง โซน “Harry Potter” นั้นได้รับการกล่าวถึงว่าเหมือนก้าวเข้าสู่โลกเวทมนตร์ในหนังสือเลยทีเดียว การได้มาเที่ยวที่นี่กับเพื่อนๆ และแต่งตัวเป็นคาแรคเตอร์ต่างๆ เช่น นักเรียนโรงเรียนเวทมนตร์ แก๊ง Minion และ Sesame Street เหมือนกันทั้งกลุ่ม ก็กำลังเป็นที่นิยมในญี่ปุ่นขณะนี้

ชำระเพิ่มท่านละ 2,800.- บาท ( ไม่รวมค่าเดินทาง )

**เพื่อไม่เป็นการรบกวนเวลาของท่าน อิสระอาหารกลางวัน และ อาหารค่ำตามอัธยาศัย**

เย็น เช็คอินเข้าที่พัก…..
มื้อเช้า รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารโรงแรม ( บุฟเฟ่ )
มื้อกลางวัน รับประทานอาหารมื้ออิสระ
มื้อเย็น รับประทานอาหารมื้ออิสระ
วันที่ 5
สนามบินนานาชาติคันไซ – กรุงเทพฯ – สนามบินสุวรรณภูมิ
มื้อเช้า รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารโรงแรม ( บุฟเฟ่ )
เงื่อนไข
  1. รถส่วนตัวพร้อมคนขับ (รวมค่าน้ำมัน ค่าทางด่วน ค่าที่จอดรถ)
  2. ที่พักพร้อมอาหารเช้า
  3. ประกันอุบัติเหตุการเดินทาง
  4. ไกด์ท้องถิ่นส่วนตัวนำเที่ยว
  5. แถมฟรีมื้ออาหารเย็นบุฟเฟ่ต์ 1 มื้อ
  6. ฟรี!!!ค่าบริการวางแผนเดินทางท่องเที่ยว
  1. ค่าใช้จ่ายอื่นๆส่วนตัว
  2. ค่าทิปคนชับรถ 1500 บาท / ท่าน
  3. ค่าอาหารมื้อกลางวันและมื้อเย็น
  4. ค่าเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ
  5. ค่าตั๋วเครื่องบินไป-กลับ
  6. ภาษีมูลค่าเพิ่ม 7 % และ หัก ณ ที่จ่าย 3 %

*** โปรแกรมท่องเที่ยวแบบส่วนตัว สามารถปรับเปลี่ยนรายการท่องเที่ยวได้ตามความต้องการและความเหมาะสมของลูกค้า ***

Share on social networks
โปรแกรมทัวร์ที่น่าสนใจ
  • ธ.ค.65
  • 7 วัน 4 คืน
เริ่มต้น 52,999 บาท
  • พ.ค.65 - ก.ค.65
  • 3 วัน 2 คืน
เริ่มต้น 14,999 บาท
  • มิ.ย.65 - ส.ค.65
  • 5 วัน 3 คืน
เริ่มต้น 49,777 บาท