กัสโต้ เวิล์ด ทัวร์

บริการคุณภาพ ทุกเส้นทางท่องเที่ยว

เลขที่ 11/03295

ทัวร์ไอซ์แลนด์ แกรนด์ไฮซ์แลนด์

รหัส 002-1783
วันที่เดินทาง
ส.ค.65 - ก.ย.65
ช่วงเวลา
12 วัน 9 คืน
ราคาเริ่มต้น
195,900 บาท
แผนการเดินทาง
วันที่ 1
ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ

22.20 น.       สมาชิกทุกท่านพร้อมกัน ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศชั้น 4 เคาร์เตอร์สายการบินไทย (เคาเตอร์ D ) พร้อมเจ้าหน้าที่คอยดูแลเช็คสัมภาระและบัตรที่นั่งบนเครื่อง

01.20 น.       ออกเดินทางสู่โคเปนเฮเก้น โดยสายการบินไทยเที่ยวบินที่ TG 950

วันที่ 2
โคเปนเฮเก้น – เรคยาวิค – ชมเมือง

05.55 น.       เดินทางถึงสนามบินนานาชาติโคเปนเฮเก้น ประเทศเดนมาร์ก หลังผ่านการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากรแล้ว

14.10 น.        ออกเดินทางสู่ เมืองเรคยาวิค Reykjavik โดยสายการบินไอซ์แลนด์แอร์ Icelandair เที่ยวบินที่ FI205

15.25 น.        เดินทางถึงสนามบินเคฟลาวิก เมืองเรคยาวิค Reykjavik เมืองหลวงของประเทศไอซ์แลนด์  หลังผ่านการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากรแล้ว จากนั้นนำท่านชม กรุงเรคยาวิค Reykjavik เมืองหลวงของประเทศ ไอซ์แลนด์ ซึ่งเป็นเมืองที่ได้ชื่อว่าเป็นเมืองหลวงที่อยู่เหนือสุดของโลก และมีอากาศที่บริสุทธิ์ที่สุดในโลก นำท่านเที่ยวชมเมืองหลวงแสนสวยริมชายฝั่งทะเลแห่งนี้ โดยรอบ เรคยาวิค Reykjavik เป็นเมืองหลวงของประเทศไอซ์แลนด์ และเป็นเมืองหลวงที่ตั้งอยู่ใกล้กับขั้วโลกเหนือมากที่สุดโดยตั้งอยู่ไม่ไกลจากเส้นอาร์กติกเซอร์เคิลมากนัก ทำเลที่ตั้งอยู่ทางด้านตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศ ซึ่ง Ingolfur Arnarson ชาวนอร์ดิค เป็นผู้อพยพคนแรกที่มาตั้งรกรากที่เรคยาวิกในปี ค.ศ. 874 เมื่อเรคยาวิก กลายเป็นเมืองที่เป็นศูนย์กลางทางการค้าและธุรกิจการประมง จึงได้มีการก่อตั้งให้เป็นเมืองหลวง  ปัจจุบันเขตเมืองมีประชากรประมาณ 120,000 คน จากนั้นนำท่านชมตึกอาคารรัฐสภา รูปทรงทันสมัยและนำท่านเก็บภาพอาคารHofdi ที่ใช้ประชุมผู้นำระหว่างประธานาธิบดีเรแกน กับประธานาธิบดีกอบอชอฟ ในสมัยสงครามเย็น นำท่านเดินเล่นชมเมืองเก่าเก็บภาพอาคารฮาร์ป้า (Harpa Concert Hall) ที่ได้รับรางวัลจากการประกวดทางสถาปัตยกรรม จากนั้นนำท่านเก็บภาพซัน โวยาเจอร์(Sun Voyager) สัญลักษณ์ของเสรีภาพ เป็นแลนด์มาร์กที่สำคัญของกรุงเรคยาวิค จากนั้นนำท่านเก็บภาพประภาคารกรอตต้า (Grotta Lighthouse) ที่ตั้งอยู่ริมชายฝั่งเป็นจุดชมวิวท้องทะเลที่สวยงามของกรุงเรคยาวิค

ค่ำ               บริการอาหารมื้อค่ำ ณ ภัตตาคาร

พักที่ : Radisson Blu Saga Hotel ที่พักระดับใกล้เคียง

วันที่ 3
เรคยาวิค – วงกลมทองคำ(Golden Circle) - ธิงเลลีย์ น้ำตกกัลล์ฟอสส์ – ภูเขาไฟเคริด – หมู่บ้านฮเวร์เรเกร์ดี – น้ำตกเซลยาลันส์ฟอสส์ – วิค

เช้า              บริการอาหารมื้อเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรมที่พัก

นำท่านออกเดินทางสู่เส้นทางวงกลมทองคำ Golden Circle เส้นทางสนสวยที่ขาดไม่ได้ในการท่องเที่ยวไอซ์แลนด์ บริเวณนี้เป็นที่ตั้งของบ่อน้ำพุร้อนที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของไอซ์แลนด์ ผ่านชมบริเวณทะเลสาบ Pingvallavatn ทะเลสาบธรรมชาติที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในไอซ์แลนด์ นำท่านชมบ่อน้ำพุร้อน Geysir ที่มีความสูงของน้ำพุถึง 200 ฟุตจากพื้นดิน ที่พวยพุ่งสู่ท้องฟ้าทุกๆ 7-10 นาที และถือเป็นคำศัพท์ที่ใช้เรียกน้ำพุร้อนแบบนี้ทั่วโลก มีเวลาให้ท่านเก็บภาพอย่างจุใจ จากนั้นนำท่านชมน้ำตกกัลล์ฟอสส์ (Gullfoss) หรือน้ำตกทองคำ (Golden Falls) ซึ่งน้ำตก ที่มีความสวยงามที่สุด และใหญ่ที่สุดในประเทศไอซ์แลนด์ สายน้ำที่ใสสะอาดที่เกิดจากการละลายของธารน้ำแข็งบนยอดเขาใหลลงมา

เที่ยง           บริการอาหารมื้อกลางวัน ณ ภัตตาคาร

บ่าย             จากนั้นนำท่านเดินทางเข้าสู่บริเวณอุทยานแห่งชาติธิงเลลีร์ Thingvellir National Park  องค์การยูเนสโกได้ขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกด้านวัฒนธรรมในปี ค.ศ.2004 ชมจุดบริเวณที่เคยเป็นเป็นรัฐสภา หรือสถานที่แสดงความคิดเห็นและคัดเลือกผู้นำของชาวไอซ์แลนด์มาตั้งแต่ปี ค.ศ.930 และเป็นพื้นที่ ที่ได้การยอมรับว่ามีธรรมชาติที่สวยงามของไอซ์แลนด์แห่งหนึ่ง จากนั้นนำท่านชมรอยแตกร้าวของของโลก ที่มีความลึกลงสู่ใต้ดินถึง 14  เมตร ที่เกิดจากแผ่นดินไหว เมื่อปี ค.ศ. 1784 และทุกๆปีรอยแตกนี้ก็จะขยายออกไปอีกถึงปีละ 1 เซนติเมตร ผ่านชมภูเขาไฟเคริด (Kerid) ปากปล่องภูเขาไฟในสมัยโบราณซึ่งดับแล้ว นำท่านชมหมู่บ้านฮเวร์เรเกร์ดี (Hveragerði) หมู่บ้านที่ได้รับสมญานามว่า “หมู่บ้านแผ่นดินไหวหรือหมู่บ้านน้ำพุร้อน” เป็นหมู่บ้านที่มหัศจรรย์สุดๆ เนื่องจากลำธารที่ไหลผ่านกลางหมู่บ้านเป็นน้ำพุร้อน(น้ำแร่) ในเมืองจะมีชาวไอซ์แลนด์และนักท่องเที่ยวมาใช้บริการกันอย่างเนืองแน่น เป็นธรรมชาติสุดๆ นอกจากนี้เมืองนี้ยังมีกรีนเฮาท์ ที่ใช้ปลูกพืชเมืองร้อนสำหรับบริโภคภายในประเทศอีกด้วย เรียกได้ว่าเป็นเมืองที่อยู่เหนือที่สุดของโลกที่สามารถปลูกกล้วยได้ได้เวลาสมควรนำท่านออกเดินทางสู่เมืองวิก แวะชม น้ำตก เซลยาลันส์ฟอส (Seljalands Foss) ซึ่งเกิดจากการละลายของธารน้ำแข็งบนยอดเขา และเป็นน้ำตกที่สวยงามมากอีกแห่งหนึ่งของประเทศไอซ์แลนด์ นำท่านชมน้ำตกอย่างใกล้ชิด และท่านสามารถเดินลอดน้ำตกแห่งนี้ได้ ผ่านชมวิวภูเขาไฟเอยาฟจาลลายุค (Eyjajallajikull) ภูเขาไฟอันโด่งดังของไอซ์แลนด์ ภายหลังจากการปะทุในช่วงปีค.ศ. 2010 ปัจจุบันเป็นสถานที่ ท่องเที่ยวที่สำคัญที่มีนักท่องเที่ยวแวะเวียนมาถ่ายรูปความสวยงามของภูเขาไฟแห่งนี้ ที่ยอดเขาปกคลุม ไปด้วยหิมะตลอดทั้งปีอีกด้วยระหว่างทางท่านจะได้สัมผัสกับธรรมชาติอันงดงามยิ่ง แวะเก็บภาพเครื่องบิน Douglas R4D-8 ของทหารอเมริกัน ที่เกิดอุบัติเหตุลงฉุกเฉินบนธารน้ำแข็ง ในวันที่ 21 พ.ย.1973 แต่ไม่ใครได้รับบาดเจ็บในเหตุการณ์ครั้งนั้น

ค่ำ               บริการอาหารมื้อค่ำ ณ ภัตตาคารจากนั้นนำคณะท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก

พักที่ : Dyrholaey Hotel Vik หรือที่พักระดับใกล้เคียง

วันที่ 4
วิค – ขับรถสโนโมบิล ทุ่งน้ำแข็งไมดาลโจคูล น้ำตกสโกก้า – เรย์นิสดรันก้าร์ – วิค

เช้า              บริการอาหารมื้อเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรมที่พัก

นำท่านเดินทางสู่บริเวณธารน้ำแข็ง Myrdalsjokull Glacier ซึ่งมีความหนาของน้ำแข็งมากที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศ โดยที่บางจุดมีความหนาของน้ำแข็งถึง 1 กิโลเมตร มีความกว้างเป็นอันดับ 4 ที่มีพื้นที่กว่า 596 ตารางกิโลเมตร เมื่อโดนแสงกระทบจะเกิดเป็นสีฟ้าอมเขียวใสสวยงามเหมือนมรกต นำท่านตื่นเต้นเร้าใจกับการนั่งรถโฟร์วิล (ขับเคลื่อนสี่ล้อ) ไต่ขึ้นเขาที่มีความสูงชัน และมีความสูงกว่าระดับน้ำทะเลถึง 1,000 เมตร จากนั้นมีเวลาให้ท่านได้สัมผัสกับการขับรถสโนว์ โมบิล(Snowmobile) ในบริเวณธารน้ำแข็งขนาดใหญ่บนกลาเซียร์ Myrdaljokul ซึ่งเป็นกลาเซียร์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไอซ์แลนด์ โดยมีเนื้อที่ถึง 8,300 ตารางกิโลเมตร

*** ใช้เวลาขับสโนโมบิล ประมาณหนึ่งชั่วโมง ขับคันล่ะสองท่าน หากต้องการขับคนเดียวมีค่าใช้จ่ายเพิ่มท่านล่ะ 6,000 บาท มีชุดกันหนาว ถุงมือ หมวกนิรภัย และรองเท้าลุยหิมะเตรียมไว้บริการทุกท่าน ***

เที่ยง            บริการอาหารมื้อกลางวัน ณ ภัตตาคาร

บ่าย              นำท่านเข้าสู่เขตอุทยานแห่งชาติสกาฟตาเฟล (Skaftafel) ผ่านชมทัศนียภาพที่สวยงามของประเทศไอซ์แลนด์ ซึ่งเต็มไปด้วยความแปลกของแนวภูเขาไฟ และชั้นหินลาวาที่แข็งตัว แบบที่ท่านไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อน ชมน้ำตกระหว่างเส้นทาง ที่เกิดจากการละลายของธารน้ำแข็งบนยอดเขา เป็นเส้นทางที่สวยงามมากอีกแห่งหนึ่งของประเทศไอซ์แลนด์ นำท่านชมความงามของน้ำตก Skogafoss ซึ่งเป็นน้ำตกที่สวยงามอีกแห่งหนึ่งของไอซ์แลนด์มีความสูงประมาณ 62 เมตร ซึ่งไหลมาจากแม่น้ำสโกก้า นำท่านชม เรย์นิสดรันก้าร์ (Reynisdrangar) ซึ่งเป็นลักษณะของภูเขาเล็กๆ ที่เกิดจากลาวาของภูเขาไฟ และก่อตัวขึ้นกลางแม่น้ำตามธรรมชาติ ชมหาดทรายดำ ที่เต็มไปด้วยหินสีดำและเม็ดทราย รวมทั้งแนวหินบะซอลต์ (เกิดจากลาวาภูเขาไฟที่แข็งตัวอย่างรวกเร็วเมื่อเจอน้ำกับทะเลที่เย็น) รูปทรงเหมือนแท่งออร์แกนในโบสถ์ และในบริเวณนี้ยังเต็มไปด้วยบรรดานกต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง นกแก้วทะเล หรือ พัฟฟิ่น (Puffin) นกทะเลท้องถิ่นที่น่ารักได้เวลาสมควรนำท่านเดินทางกลับสู่ที่พัก

ค่ำ               บริการอาหารมื้อค่ำ ณ ภัตตาคาร / จากนั้นนำคณะท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก

พักที่ : Dyrholaey Hotel Vik หรือที่พักระดับใกล้เคียง

วันที่ 5
วิก – ถ้ำน้ำแข็งคัทล่า – ไดมอนด์ บีช – เอไกล์สตาดีร์

เช้า              บริการอาหารมื้อเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรมที่พัก

นำท่านออกเดินทางสู่ถ้ำน้ำแข็งคัทลา (Katla Ice Caves) ซึ่งตั้งอยู่ใต้ธารน้ำแข็งไมดาลโจคูล นำท่านเปลี่ยนการเดินทางเป็นรถขับเคลื่อนสี่ล้อ (4WD Super Jeep) ชมวิวทิวทัศน์ที่แปกตาระหว่างทาง เดินทางถึงจุดจอดรถ ไกด์ท้องถิ่นจะเตรียมรองเท้าตะข้อและหมวกกันน็อค ให้กับทุกท่าน เพื่อการเดินท่องเที่ยวอย่างปลอดภัย นำท่านเดินจากจุดจอดรถประมาณ 15 นาที จนถึงบริเวณปากถ้ำ ถ้ำน้ำแข็งคัทลา ตั้งอยู่บริเวณภูเขาไฟคัทล่า ที่ดับลงแล้ว นำท่านเข้าชมภายในถ้ำน้ำแข็งที่มีสีฟ้าสวยงาม นำทางโดยไกด์ท้องถิ่นผู้ชำนาญเส้นทางเก็บภาพความงดงามอย่างจุใจ

เที่ยง           บริการอาหารมื้อกลางวัน ณ ภัตตาคาร

บ่าย             นำท่านเก็บภาพความสวยงามของก้อนน้ำแข็งบริเวณชายหาดไดมอนด์ บีช (Diamond Beach) ที่มีก้อนน้ำแข็งอยู่บริเวณ ชายหาดประดุจก้อนเพชรเรียงราย อยู่มากมาย จากนั้นนำท่านนั่งรถโค้ชชมความงามของชายฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติก ผ่านชมเมือง Breiddalsvik ซึ่งเป็นเมืองชายทะเลทางฝั่งตะวันออกของประเทศไอซ์แลนด์ โดยระหว่างทางเต็มไปด้วยธรรมชาติอันงดงามไม่ว่าจะเป็นลาวาของภูเขาไฟ น้ำตกใหญ่น้อยนับร้อยสายและสัตว์ต่างๆ ที่อยู่ตามธรรมชาติสองข้างทาง เช่น กวางเรนเดียร์, หงส์ป่า, นกเป็ดน้ำ ฯลฯ และสัตว์เลี้ยงอีกหลายชนิดมากมาย เดินทางถึงเมือง Egilsstadir เมืองซึ่งตั้งอยู่ริมฝั่งของ ทะเลสาบโลกูริน (Logurinn) ซี่งเป็นทะเลสาบที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับที่สามของประเทศไอซ์แลนด์ โดยมีเนื้อที่ถึง 53 ตารางกิโลเมตร ท่านจะได้ชมเมืองเล็ก ๆ เงียบ ๆ ตามแบบชนบทของ ไอซ์แลนด์อย่างแท้จริง

ค่ำ               บริการอาหารมื้อค่ำ ณ ภัตตาคาร

พักที่ : Fosshotel Eastfjords  หรือที่พักระดับใกล้เคียง

วันที่ 6
เอไกล์สตาดีร์ – ฮูซาวิค – ล่องเรือชมปลาวาฬ – เมวัท

เช้า              บริการอาหารมื้อเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรมที่พัก

นำท่านสู่เมือง ฮูซาวิก (Husavik) เมืองประมงเล็กๆ ตั้งอยู่บนชายฝั่งตะวันออกของ Skjálfandi Bay ทางตอนเหนือของประเทศไอซ์แลนด์ ภูมิประเทศที่น่าอัศจรรย์นี้ทำให้ฮูซาวิกเป็นหนึ่งในเมืองที่สวยที่สุดในไอซ์แลนด์ เมืองเล็กๆ แห่งนี้มีชื่อเสียงในเรื่องของการดูวาฬ โดยเป็นหนึ่งในสถานที่ที่ดีที่สุดในโลกสำหรับการดูวาฬ จนได้รับการขนานนามให้เป็นเมืองหลวงแห่งการดูวาฬของประเทศไอซ์แลนด์ (The Whale watching capital of Iceland) และยังถูกยกย่องให้เป็นเมืองหลวงแห่งการดูวาฬของยุโรป (The Whale watching capital of Europe) อีกด้วย

เที่ยง           บริการอาหารมื้อกลางวัน ณ ภัตตาคาร

บ่าย             นำท่านล่องเรือชมปลาวาฬ (Husavik Whale Watching) ซึ่งท่านจะได้สัมผัสกับประสบการณ์ใหม่ในการชมสัตว์ทางท้องทะเลซึ่งท่านจะได้พบกับนกทะเลชนิดต่าง ๆ มากมาย รวมไปถึงปลาวาฬนานาพันธุ์ ไม่ว่าจะเป็นพันธุ์ Killer Whale (Orca) , Minke Whale, Humpback Whale  นอกจากนั้น ท่านจะมีโอกาสได้พบกับความน่ารักของ ปลาโลมา (Doiphin) ซึ่งจะมาว่ายน้ำหยอกล้อท่านอยู่ข้างเรืออย่างมากมาย ถือเป็นความน่ารักและความงดงามทางธรรมชาติซึ่งมีเฉพาะในดินแดนแถบนี้เท่านั้น นำท่านเดินทางสู่เมืองเมวัท

ค่ำ               บริการอาหารมื้อค่ำ ณ ภัตตาคาร

พักที่ : Foss Hotel Myvatn ที่พักระดับใกล้เคียง

วันที่ 7
เมวัท – ทะเลสาบเมวัท – ดิมมูโบร์กีร์ – บ่อโคลนเดือด น้ำตกโกด้าฟอสส์ – พิพิธภัณฑ์พื้นบ้าน – สติกกิชฮอลเมอร์

เช้า              บริการอาหารมื้อเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรมที่พัก

นำท่านเดินทางสู่ เขตทะเลสาบเมวัท Myvatn Lake ซึ่งเป็นที่ตั้งของบ่อน้ำพุร้อนซึ่งมีผลพวงมาจากลาวาภูเขาไฟและพื้นที่ที่มีความอุดมสมบูรณ์ทางธรณีวิทยา และได้รับการประกาศให้เป็นเขตอนุรักษ์ของไอซ์แลนด์ ในปี ค.ศ. 1974 เขตทะเลสาบเมวัท เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมแห่งหนึ่งของประเทศ เขตทะเลสาบแห่งนี้ยังเป็นแหล่งชุกชุมของเป็ดน้ำที่สวยงามนานาพันธุ์ และถือเป็นเขตที่มีพันธุ์เป็ดน้ำมากที่สุดในยุโรป นำท่านชมดิมมูโบร์กีร์ (Dimmuborgir) หรือที่แปลว่า ปราสาทดำ พื้นที่ซึ่งเกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟครั้งใหญ่ในอดีตกาล ราว 2,000 ปีก่อน ธารลาวาที่ไหลปกคลุมพื้นที่เ มื่อโดนอากาศและน้ำ ที่เย็นจัด จึงทำให้พื้นที่โดยรอบกลายเป็นดินภูเขาไฟ และหินภูเขาไฟรูปทรงประหลาดต่างๆ ชาวพื้นเมืองเชื่อว่า ดินแดนแห่งนี้เป็นสถานที่เชื่อมต่อระหว่างโลกมนุษย์และดินแดนใต้พิภพ ซึ่งเมื่อซาตานถูกขับไล่จากสวรรค์ลงสู่ ดินแดนใต้พิภพและผ่านดิมมูโบร์กีร์ ทำให้พื้นที่แห่งนี้เกิดภัยธรรมชาติขึ้น นำท่านชมบ่อโคลนเดือดนามาฟแจล (Namafjall) (แอ่งตะกอนที่อิ่มตัวไปด้วยน้ำ) ซึ่งมีไอน้ำร้อนจัดอยู่เบื้องล่าง เมื่อไอน้ำนั้นเคลื่อนที่จะทําให้โคลนที่อยู่ด้านบนพุ่งกระจายขึ้นมาคล้ายการระเบิดย้อยๆ ในบริเวณภูเขาไฟปกติบ่อโคลนเดือดมักมีกํามะถันอยู่มาก อิสระให้ท่านได้เก็บ ภาพปรากฏการณ์ทางธรรมชาติอีกแห่งหนึ่งของ นำท่านแวะเก็บภาพบริเวณน้ำตกโกด้าฟอส (Godafoss) น้ำตกแสนสวยรูปทรงโค้งเสี้ยวพระจันทร์ ประดุจจำลองน้ำตกไนแองการ่า มาตั้งไว้ที่นี่เลยทีเดียว เก็บภาพความสวยงามอย่างเต็มที่

เที่ยง           บริการอาหารมื้อกลางวัน ณ ภัตตาคาร

บ่าย             จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ พิพิธภัณฑ์พื้นบ้าน Glaumbaer  Folk Museum ซึ่งเป็นพิธิภัณฑ์ที่จัดแสดงงานศิลปะหัตกรรมพื้นบ้านของชาวไอซ์แลนด์ รวมถึงเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ของประเทศไอซ์แลนด์อีกด้วยจากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมือง สติกกิชฮอลเมอร์ (Stykkishólmur) เมืองที่มีความโดดเด่นทางด้านประวัติศาสตร์และธรรมชาติที่สามารถดึงดูด เพลิดเพลินไปกับความงามของธรรมชาติ อันแสนเงียบสงบ ลัดเลาะไปตามชายฝั่งตะวันตกของอ่าวแคบๆ ในเขตเมืองกรุนดาร์ฟจอร์ดูร์ ไม่พลาดไปชมความงดงามของภูเขาเคิร์กจูเฟล ภูเขาที่มีความสูงประมาณ 463 เมตร เป็นภูเขาที่มีทรงสวยงามและได้รับความนิยมมากในหมู่นักไต่เขา ใกล้ๆภูเขายังมีน้ำตกขนาดเล็กๆที่สวยงามมากแห่งหนึ่งอีก / นำท่านเดินทางสู่โรงแรมที่พัก

ค่ำ               บริการอาหารมื้อค่ำ ณ ภัตตาคาร

พักที่ : Foss Hotel Stykkisholmur ที่พักระดับใกล้เคียง

วันที่ 8
สติกกิชฮอลเมอร์ – ภูเขาคีร์กจูเฟล – นํ้าตกเฮินฟอซซ่า – เรคยาวิค

เช้า              บริการอาหารมื้อเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรมที่พัก

นำท่านออกเดินทางสู่ ภูเขาคีร์กจูเฟล (Kirkjufell) เป็นภูเขาทางฝั่งตะวันตกของไอซ์แลนด์ (West Iceland) หนึ่งในสถานที่ถ่ายภาพทิวทัศน์ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของไอซ์แลนด์ ในมุมมองยอดเขารูปกรวยคว่ำ มีน้ำตกและธารน้ำรายรอบ เป็นภาพสัญลักษณ์ของประเทศไอซ์แลนด์ก็ว่าได้ ภูเขาลูกนี้มีความสูงประมาณ 463 เมตร ไม่ว่าจะมาเที่ยวที่นี่ในช่วงไหนก็มีความงดงามตลอดทั้งปี โดยเฉพาะในหน้าหนาวที่จะมองเห็นภูเขา Kirkjufell ปกคลุมไปด้วยหิมะสีขาว

เที่ยง           บริการอาหารมื้อกลางวัน ณ ภัตตาคาร

บ่าย             นําท่านชมความสวยงามของ นํ้าตกเฮินฟอซซ่า (Hraunfossar Waterfalls) ซึ่งเป็นนํ้าตกสาขาหนึ่งของนํ้าตกใหญ่ที่ก่อกําเนิดจากแหล่งลําธารและแม่นํ้าสายต่างๆเป็นระยะทางกว่า 900 เมตร ของทุ่งลาวาที่เกิดจากภูเขาไฟที่อยู่ภายใต้ธารนํ้าแข็ง แลงโจกุล (Langjökull) จากนั้นนำท่านเดินทางลอดอุโมงกลับสู่เมือง เรคยาวิค นำท่านชมนครเรคยาวิค เมืองหลวงของประเทศไอซ์แลนด์ ที่มีความสวยงามไม่แพ้เมืองหลวงอื่นๆในแถบสแกนดิเนเวีย ท่านจะได้สัมผัสกับธรรมชาติอันแสนบริสุทธิ์ จากนั้นอิสระเลือกซื้อหาสินค้าท้องถิ่นเป็นของที่ระลึก

ค่ำ               บริการอาหารมื้อค่ำ ณ ภัตตาคารไทย

พักที่ : Radisson Blu Saga Hotel ที่พักระดับใกล้เคียง

วันที่ 9
แช่น้ำแร่บลูลากูน - โบสถ์ฮัลล์กรีมสคิร์คยา – ช้อปปิ้ง ชมวิวบนอาคารพาร์ลานพร้อมดินเนอร์

เช้า            บริการอาหารมื้อเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรมที่พัก

นำท่านเดินทางสู่ บ่อน้ำร้อน บลูลากูน Blue Lagoon  ซึ่งเป็นบ่อน้ำร้อนซึ่งเต็มไปด้วยแร่ธาตุมากมาย อาทิ ซิลิกา (Sillica), พืชทะเล (Blue green algae), โคลนซิลิกา (Sillica Mud), ฟลูออรีน (Fluoringe), โซเดียม Sodium, โปตัสเซียมPotassium, แคลเซี่ยมCalcium, ซัลเฟต Salphate, คลอรีน(Chlorine), คาร์บอนไดออกไซด์Carbon Dioxide เป็นต้น นอกจากนั้น ภายในบ่อน้ำร้อนบูล ลากูน ยังมีเกลือแร่ซึ่งจะช่วยให้ท่านผ่อนคลาย และรักษาโรคที่เกี่ยวกับผิวหนังได้ และยังช่วยให้ผิวพรรณเปล่งปลั่งอีกด้วย ท่านจะได้สัมผัสกับความสบายตัวจากการลงแช่และอาบน้ำในบ่อน้ำร้อนบูล ลากูน

*** กรุณาเตรียมชุดว่ายน้ำติดตัวไปด้วย ***

เที่ยง           บริการอาหารมื้อกลางวัน ณ ภัตตาคาร

บ่าย             นำท่านชมโบสถ์ฮัลล์กรีมสคิร์คยา โบสถ์ประจำเมืองที่ใช้จัดงานพิธีทางศาสนาที่สำคัญของประเทศซึ่งมีรูปทรงสถาปัตยกรรมแปลกไม่เหมือนที่ใดในโลก นำท่านเดินทางกลับสู่ กรุงเรคยาวิก จากนั้น อิสระเลือกซื้อหาสินค้าท้องถิ่นเป็นของที่ระลึก ชมย่านถนนคนเดินที่สองข้างทางเต็มไปด้วยอาคารสวยๆ เรียงรายไปด้วยสินค้าพื้นเมืองและแบรนด์ต่างๆ อิสระให้ท่านได้เลือกซื้อสินค้าตามอัธยาศัย ในย่านถนนคนเดิน หรือห้างสรรพสินค้าชื่อดังจากนั้นนำท่านขึ้นลิฟต์สู่ชั้นบนสุดของตึกพาร์ลาน เป็นตึกสไตล์โมเดิร์น ที่มีภัตตาคารอยู่ด้านบนให้ท่านชมวิทิวทัศน์ของกรุงเรคยาวิคอย่างเต็มที่แบบ 360 องศา

ค่ำ               บริการอาหารมื้อค่ำ ณ ภัตตาคาร ของตึกพาร์ลาน พร้อมชมวิวที่สวยงาม

พักที่ : Park Inn By Radisson Keflavik Hotel ที่พักระดับใกล้เคียง

วันที่ 10
เคฟราวิค – โคเปนเฮเก้น – ช้อปปิ้งแบรนด์เนม

เช้า               บริการอาหารมื้อเช้าแบบกล่อง

04.45 น.       นำท่านสู่สนามบินเคฟลาวิก (Keflavik International Airport) กรุงเรคยาวิก

09.25 น.        ออกเดินทางสู่กรุงโคเปนเฮเก้น โดยสายการบินไอซ์แลนด์แอร์ Icelandair เที่ยวบินที่ FI204

15.50 น.        เดินทางถึงสนามบินกรุงโคเปนเฮเก้นหลังผ่านการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากรแล้ว นำท่านออกเดินทางเพื่อไปเดินเล่นย่านถนน “Strøget” แหล่งช้อปปิ้งที่ใหญ่ที่สุดของโคเปนเฮเกน และอยู่ในใจกลางเมือง Strøget เป็นถนนคนเดินยาวที่สุดในโลกที่มี ตั้งแต่ร้านขายของที่ระลึก, ห้างสรรพสินค้าอิลลุม, ร้านขายแต่งบ้าน, ร้านขายขนมหวานร้านช็อกโกแลต ไปจนถึงร้านขายสินค้าหรูของแบรนด์เนมชื่อดังมากมาย อิสระใหท่านเดินเล่นช้อปปิ้งตามอัธยาศัย

ค่ำ                บริการอาหารมื้อค่ำ ณ ภัตตาคารไทย

พักที่ : Radisson Collection Royal Hotel, Copenhagen ที่พักระดับใกล้เคียง

วันที่ 11
กรุงเทพฯ

เช้า            บริการอาหารมื้อเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรมที่พัก

มีเวลาพักผ่อนยังโรงแรมที่พักสบายๆ ก่อนนำท่านออกเดินทางสู่สนามบินนานาชาติโคเปนเฮเก้นให้ท่านได้มีเวลาในการทำภาษีก่อนขึ้นเครื่องเดินทางกลับ

14.25 น.    ออกเดินทางสู่กรุงเทพฯโดยสายการบินไทยเที่ยวบินที่ TG 951

วันที่ 12
กรุงเทพฯ

06.00 น.       เดินทางถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ / โดยสวัสดิภาพพร้อมความประทับใจ

เงื่อนไข

อัตราค่าบริการนี้รวม

  • ค่าตั๋วเครื่องบินไป-กลับ กรุงเทพฯ-โคเปนเฮเก้น-เรคยาวิค-โคเปนเฮเก้น-กรุงเทพฯ
  • ค่ารถปรับอากาศนำเที่ยวตามระบุไว้ในรายการ พร้อมคนขับรถที่ชำนาญเส้นทาง กฎหมายในยุโรปไม่อนุญาตให้คนขับรถเกิน 12 ช.ม./วัน
  • ค่าธรรมเนียมในการยื่นวีซ่ายุโรปหรือกลุ่มเชงเก้นวีซ่าและค่าธรรมเนียมวีซ่า ทางสถานทูตไม่คืนให้ท่านไม่ว่าท่านจะผ่านการพิจารณาหรือไม่ก็ตาม
  • โรงแรมที่พักตามระบุหรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน โรงแรมส่วนใหญ่ในยุโรปจะไม่มีเครื่องปรับอากาศ เนื่องจากอยู่ในแถบที่มีอุณหภูมิต่ำและราคาโรงแรมจะปรับขึ้น 3-4 เท่าตัว หากวันเข้าพักตรงกับงานเทศกาล เทรดแฟร์หรือการประชุมต่างๆ อันเป็นผลที่ทำให้ต้องมีการปรับเปลี่ยนย้ายเมือง โดยคำนึงถึงความเหมาะสมเป็นหลัก
  • ค่าอาหารที่ระบุในรายการ ให้ท่านได้เลิศรสกับอาหารท้องถิ่นในแต่ละประเทศ
  • ค่าบริการนำทัวร์โดยหัวหน้าทัวร์ผู้มีประสบการณ์นำเที่ยวให้ความรู้ และคอยดูแลอำนวยความสะดวกตลอดการเดินทาง
  • ค่าประกันอุบัติเหตุในการเดินทางวงเงินท่านละ 3,000,000 บาท (ตามเงื่อนไขกรมธรรม์) หากท่านอายุเกิน 75 ปี หรือไม่ได้เดินทางไปและกลับพร้อมกรุ๊ป ท่านต้องซื้อประกันเดี่ยวเพิ่ม
  • ค่าทิปพนักงานขับรถในยุโรป
  • น้ำดื่มบริการบนรถโค้ชทุกวันท่าน 1 ขวด ต่อท่าน ต่อวัน
  • ค่า RT-PCR TEST ก่อนเดินทางขึ้นเครื่องขากลับแบบไม่เกิน 72 ชั่วโมง ตามมาตราการของภาครัฐ
  • ค่าพนักงานยกกระเป๋า ณ โรงแรมที่พัก (กรุณาตรวจสัมภาระของท่านให้เรียบร้อยก่อนรถออกทุกครั้ง) หากท่านลืมสัมภาระไว้ในห้องพัก มีค่าใช้จ่ายในการจัดส่งคืน และอาจเกิดความล่าช้าหรือสูญหายได้
    *** บางโรงแรมมีพนักงานยกกระเป๋าไม่พอทำให้เกิดความล้าช้า ท่านสามารถนำสัมภาระขึ้นห้องพักได้ด้วยตัวเอง ***

อัตราค่าบริการนี้ไม่รวม

  1. ค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม 7 % และค่าภาษีหัก ณ ที่จ่าย 3 %
  2. ค่าทิปหัวหน้าทัวร์ วันละ 100 บาท / ท่าน (1,200 บาท)
  3. ค่าใช้จ่ายส่วนตัว อาทิ ค่าโทรศัพท์ ค่าซักรีด ค่าเครื่องดื่มและอาหารนอกเหนือจากที่ระบุในรายการ
  4. ค่าผกผันของภาษีน้ำมันที่ทางสายการบินแจ้งเปลี่ยนแปลงกะทันหัน
  5. ค่า Test & Go ตามมาตรการของภาครัฐ (สามารถจองเองหรือให้ทางบริษัทฯจองให้ได้)

หมายเหตุ…โปรแกรมการเดินทางอาจเปลี่ยนแปลงได้ตามความเหมาะสม เนื่องจากสภาพ ลม ,ฟ้า , อากาศ,การล่าช้าอันเนื่องมาจากสายการบิน และสถานการณ์ในต่างประเทศที่ทางคณะเดินทางในขณะนั้น เพื่อความปลอดภัยในการเดินทาง โดย ได้มอบหมายให้ หัวหน้าทัวร์ผู้นำทัวร์ มีอำนาจตัดสินใจ ณ ขณะนั้นทั้งนี้การตัดสินใจ  จะคำนึงถึงผลประโยชน์ของหมู่คณะเป็นสำคัญ

เงื่อนไขการสำรองที่นั่ง และการชำระเงิน

  1. กรุณาจองล่วงหน้าพร้อมชำระงวดแรก 60,000 บาท เมื่อจอง พร้อมส่งสำเนาหน้าหนังสือเดินทาง Passport มายังบริษัท และค่าใช้จ่ายส่วนที่เหลือกรุณาชำระก่อนการเดินทางไม่น้อยกว่า 20 วัน มิฉะนั้นจะถือว่าท่านยกเลิกการเดินทาง
  2. เนื่องจากรายการทัวร์นี้เป็นแบบเหมาจ่ายเบ็ดเสร็จ หากท่านสละสิทธิ์การใช้บริการใดๆตามรายการ หรือถูกปฏิเสธการเข้า และออกประเทศไม่ว่าในกรณีใดก็ตาม บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ไม่คืนเงินในทุกกรณี
  3. บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ยกเลิกการเดินทางก่อนล่วงหน้า 10 วัน ซึ่งจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อไม่สามารถทำกรุ๊ปได้อย่างน้อย 15 ท่าน และหรือ ผู้ร่วมเดินทางในคณะไม่สามารถผ่านการพิจารณาวีซ่าได้ครบ 10 ท่าน ซึ่งในกรณีนี้ ทางบริษัทฯ ยินดีคืนเงินให้ทั้งหมดหักค่าธรรมเนียมวีซ่า หรือจัดหาคณะทัวร์อื่นให้ ถ้าท่านต้องการ
  4. บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ที่จะเปลี่ยนแปลงรายละเอียดบางประการในทัวร์นี้ เมื่อเกิดเหตุจำเป็น สุดวิสัย จนไม่อาจแก้ไขได้ และจะไม่รับผิดชอบใดๆ ในกรณีที่สูญหาย สูญเสียหรือได้รับบาดเจ็บ ที่นอกเหนือความ รับผิดชอบของหัวหน้าทัวร์และเหตุสุดวิสัยบางประการเช่น การนัดหยุดงาน ภัยธรรมชาติ การจลาจล ต่างๆ
  5. เมื่อท่านได้ชำระเงินมัดจำหรือทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นการชำระผ่านตัวแทนของบริษัทฯ หรือชำระโดยตรงกับทางบริษัทฯ ทางบริษัทฯ จะขอถือว่าท่านรับทราบและยอมรับในเงื่อนไขต่างๆของบริษัทฯ ที่ได้ระบุไว้โดยทั้งหมด

เงื่อนไขการยกเลิก 

  1. ยกเลิกก่อนการเดินทาง 30 วัน – คืนค่าใช้จ่ายทั้งหมด ยกเว้นกรุ๊ปที่เดินทางช่วงวันหยุด หรือเงินค่ามัดจำที่ต้องการันตีที่นั่งกับสายการบิน หรือ กรุ๊ปที่มีการการันตีค่ามัดจำที่พักโดยตรงหรือโดยการผ่านตัวแทนในประเทศ หรือต่างประเทศและไม่อาจขอคืนเงินได้ (ค่าใช้จ่ายตามความเป็นจริง)
  2. ยกเลิกก่อนการเดินทาง 15 – 29 วันขึ้นไป – เก็บค่าใช้จ่าย 50 % ของราคาทัวร์
  3. ยกเลิกก่อนการเดินทาง 1 – 15 วัน – เก็บค่าบริการทั้งหมด 100 %
Share on social networks
โปรแกรมทัวร์ที่น่าสนใจ