18.30 น. สมาชิกทุกท่านพร้อมกัน ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศ ชั้น 4
เคาน์เตอร์ S สายการบินฟินน์แอร์ เจ้าหน้าที่คอยดูแลเช็คสัมภาระและบัตรที่นั่งบนเครื่อง
21.30 น. เหิรฟ้าสู่ กรุงเฮลซิงกิ โดยสายการบินฟินแอร์ (Finn Air) เที่ยวบินที่ AY 144
05.50 น. เดินทางถึง กรุงเฮลซิงกิ ประเทศฟินแลนด์ หลังผ่านพิธีตรวจคนเข้าเมืองเรียบร้อยแล้วจากนั้น ต่อเครื่องสู่นครเรคยาวิค ประเทศไอซ์แลนด์
07.45 น. ออกเดินทางสู่ เมืองเรคยาวิค (Reykjavik) โดยสายการบินฟินน์แอร์ (Finnair) เที่ยวบินที่ AY991
08.35 น. เดินทางถึง สนามบินเคฟลาวิก เมืองเรคยาวิค Reykjavik เมืองหลวงของประเทศไอซ์แลนด์ จากนั้นนำท่านออกเดินทางสู่เส้นทางวงกลมทองคำ Golden Circle เส้นทางสนสวยที่ขาดไม่ได้ในการท่องเที่ยวไอซ์แลนด์ บริเวณนี้เป็นที่ตั้งของบ่อน้ำพุร้อนที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของไอซ์แลนด์ นำท่านเดินทางเข้าสู่ “บริเวณอุทยานแห่งชาติธิงเลลีร์” Thingvellir National Park องค์การยูเนสโกได้ขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกด้านวัฒนธรรมในปี ค.ศ.2004 ชมจุดบริเวณที่เคยเป็นเป็นรัฐสภา หรือสถานที่แสดงความคิดเห็นและคัดเลือกผู้นำของชาวไอซ์แลนด์มาตั้งแต่ปี ค.ศ.930 และเป็นพื้นที่ ที่ได้การยอมรับว่ามีธรรมชาติที่สวยงามของไอซ์แลนด์แห่งหนึ่ง จากนั้นนำท่านชมรอยแตกร้าวของของโลก ที่มีความลึกลงสู่ใต้ดินถึง 14 เมตร ที่เกิดจากแผ่นดินไหว เมื่อปี ค.ศ. 1784 และทุก ๆ ปีรอยแตกนี้ก็จะขยายออกไปอีกถึงปีละ 1 เซนติเมตร ผ่านชมบริเวณทะเลสาบ Pingvallavatn ทะเลสาบธรรมชาติที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในไอซ์แลนด์ นำท่านชม “บ่อน้ำพุร้อน” Geysir ที่มีความสูงของน้ำพุถึง 200 ฟุตจากพื้นดิน
ที่พวยพุ่งสู่ท้องฟ้าทุกๆ 7-10 นาที และถือเป็นคำศัพท์ที่ใช้เรียกน้ำพุร้อนแบบนี้ทั่วโลก มีเวลาให้ท่านเก็บภาพอย่างจุใจ จากนั้นนำท่านชม “น้ำตกกัลล์ฟอสส์” (Gull Foss) หรือ น้ำตกทองคำ (Golden Falls) ซึ่งน้ำตก ที่มีความสวยงามที่สุด และใหญ่ที่สุดในประเทศไอซ์แลนด์ สายน้ำที่ใสสะอาดที่เกิดจากการละลายของธารน้ำแข็งบนยอดเขาไหลลงมา
เที่ยง บริการอาหารมื้อกลางวัน ณ ภัตตาคาร
นำท่านชม “เคริด” Kerid ปากปล่องภูเขาไฟในสมัยโบราณ ซึ่งดับแล้ว ในบริเวณนั้นจะมีน้ำขังตัวอยู่ใต้ดิน เป็นลักษณะที่หาชมได้ยากมาก ระหว่างเส้นทางท่านจะเห็นกรีนเฮาท์ ที่ใช้ปลูกพืชเมืองร้อนสำหรับบริโภคภายในประเทศมากมาย เรียกได้ว่าเป็นเมืองที่อยู่เหนือที่สุดของโลกที่สามารถปลูกพืชเขตร้อนได้ จากนั้นนำท่านออกเดินทางสู่เมืองวิก ระหว่างทาง แวะชมวิว “น้ำตกเซลยาลันส์ฟอส (Seljalands Foss) ซึ่ง เกิดจากการละลายของธารน้ำแข็งบนยอดเขา และเป็นน้ำตกที่สวยงามมากอีกแห่งหนึ่งของประเทศไอซ์แลนด์ นำท่านชมน้ำตกอย่างใกล้ชิด และท่านสามารถเดินลอดน้ำตกแห่งนี้ได้ (หากมีเวลา ท่านสามารถเดินไปชมความสวยงามของ “น้ำตกกลูย์ฟาร์บูร์” Gljufrabui เป็นน้ำตกที่ไหลลงมาตรงซอกเขาแล้วใหลผ่านถ้ำที่มีห้องโถงเหมาะกับการถ่ายรูป ระยะทาง 650 เมตร) ผ่านชมวิวภูเขาไฟเอยาฟจาลลายุค (Eyjajallajikull) ภูเขาไฟอันโด่งดังของไอซ์แลนด์ ภายหลังจากการปะทุในช่วงปีค.ศ. 2010 ปัจจุบันเป็นสถานที่ ท่องเที่ยวที่สำคัญที่มีนักท่องเที่ยวแวะเวียนมาถ่ายรูปความสวยงามของภูเขาไฟแห่งนี้ ที่ยอดเขาปกคลุม ไปด้วยหิมะตลอดทั้งปีอีกด้วยระหว่างทางท่านจะได้สัมผัสกับธรรมชาติอันงดงามยิ่ง
ค่ำ บริการอาหารมื้อค่ำ ณ ภัตตาคาร / นำคณะท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก
พักที่: Dyrholaey Hotel Vik หรือที่พักระดับใกล้เคียง
เช้า บริการอาหารมื้อเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรมที่พัก
นำท่านเดินทางสู่บริเวณธารน้ำแข็ง Myrdalsjokull Glacier ซึ่งมีความหนาของน้ำแข็งมากที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศ โดยที่บางจุดมีความหนาของน้ำแข็งถึง 1 กิโลเมตร มีความกว้างเป็นอันดับ 4 ที่มีพื้นที่กว่า 596 ตารางกิโลเมตร เมื่อโดนแสงกระทบจะเกิดเป็นสีฟ้าอมเขียวใสสวยงามเหมือนมรกต นำท่านตื่นเต้นเร้าใจกับการนั่งรถโฟร์วิล (ขับเคลื่อนสี่ล้อ) ไต่ขึ้นเขาที่มีความสูงชัน และมีความสูงกว่าระดับน้ำทะเลถึง 1,000 เมตร จากนั้นมีเวลาให้ท่านได้สัมผัสกับการขับรถสโนว์โมบิล(Snowmobile) ในบริเวณธารน้ำแข็งขนาดใหญ่บนกลาเซียร์ Myrdaljokul ซึ่งเป็นกลาเซียร์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไอซ์แลนด์ โดยมีเนื้อที่ถึง 8,300 ตารางกิโลเมตร
*** ใช้เวลาขับสโนโมบิล ประมาณหนึ่งชั่วโมง ขับคันละสองท่าน หากต้องการขับคนเดียวมีค่าใช้จ่ายเพิ่มท่านล่ะ 8,000 บาท มีชุดกันหนาว ถุงมือ หมวกนิรภัย และรองเท้าลุยหิมะเตรียมไว้บริการทุกท่าน ***
เที่ยง บริการอาหารมื้อกลางวัน ณ ภัตตาคาร
จากนั้นนำท่านออกเดินทางสู่ “ถ้ำน้ำแข็งคัทลา” (Katla Ice Caves) ซึ่งตั้งอยู่ใต้ธารน้ำแข็งไมดาลโจคูล นำท่านเปลี่ยนการเดินทางเป็นรถขับเคลื่อนสี่ล้อ (4WD Super Jeep) ชมวิวทิวทัศน์ที่แปกตาระหว่างทาง เดินทางถึงจุดจอดรถ ไกด์ท้องถิ่นจะเตรียมรองเท้าตะขอและหมวกกันน็อค ให้กับทุกท่าน เพื่อการเดินท่องเที่ยวอย่างปลอดภัย นำท่านเดินจากจุดจอดรถประมาณ 30 นาที จนถึงบริเวณปากถ้ำ ถ้ำน้ำแข็งคัทลา ตั้งอยู่บริเวณภูเขาไฟคัทล่า ที่ดับลงแล้ว นำท่านเข้าชมภายในถ้ำน้ำแข็งที่สวยงาม นำทางโดยไกด์ท้องถิ่นผู้ชำนาญเส้นทางเก็บภาพความงดงามอย่างจุใจ นำท่านชม “เรย์นิสดรันก้าร์” Reynisdrangar ซึ่งเป็นลักษณะของภูเขาเล็ก ๆ ที่ เกิดจากลาวาของภูเขาไฟ และก่อตัวขึ้นกลางแม่น้ำตามธรรมชาติ ชม “หาดทรายดำ” ที่เต็มไปด้วยหินสีดำและเม็ดทราย รวมทั้งแนวหินบะซอลต์ (เกิดจากลาวาภูเขาไฟที่แข็งตัวอย่างรวกเร็วเมื่อเจอน้ำกับทะเลที่เย็น) รูปทรงเหมือนแท่งออร์แกนในโบสถ์ และในบริเวณนี้ยังเต็มไปด้วยบรรดานกต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง นกแก้วทะเล หรือ พัฟฟิ่น (Puffin) นกทะเลท้องถิ่นที่น่ารักได้เวลาสมควรนำท่านเดินทางกลับสู่ที่พัก
ค่ำ บริการอาหารมื้อค่ำ ณ ภัตตาคาร / จากนั้นนำคณะท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก
พักที่: Dyrholaey Hotel Vik หรือที่พักระดับใกล้เคียง
เช้า บริการอาหารมื้อเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรมที่พัก
นำท่านชมความงามของ “น้ำตกสโกก้า” Skogafoss ซึ่งเป็นน้ำตกที่สวยงามอีกแห่งหนึ่งของไอซ์แลนด์มีความสูงประมาณ 62 เมตร ซึ่งไหลมาจากแม่น้ำสโกก้า ออกเดินทางผ่านเข้าสู่เขตอุทยานแห่งชาติสกาฟตาเฟล (Skaftafel) ผ่ามชมทัศนียภาพที่สวยงามของประเทศไอซ์แลนด์ ซึ่งเต็มไปด้วยความแปลกของแนวภูเขาไฟ และชั้นหินลาวาที่แข็งตัว แบบที่ท่านไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อน ผ่านชมน้ำตกระหว่างเส้นทาง ที่เกิดจากการละลายของธารน้ำแข็งบนยอดเขา เป็นเส้นทางที่สวยงามมากอีกแห่งหนึ่งของประเทศไอซ์แลนด์
เที่ยง บริการอาหารมื้อกลางวัน ณ ภัตตาคาร
นำท่านเดินทางสู่ลากูนโจคูซาลอน จุดไฮไลท์ สำคัญของประเทศไอซ์แลนด์ นำท่านลงเรือสะเทิ้นน้ำสะเทิ้นบก ล่องชมลากูนสีเขียวเทอเคอวย์ ลากูนแห่งนี้ จะเต็มไปด้วยก้อนน้ำแข็งหรือไอซ์เบิร์ก (iceberg) ขนาดต่างๆ มากมายลอยอยู่ในทะเลสาบ จะมีไกด์ท้องถิ่นนำบรรยายให้ความรู้แก่ทุกท่าน ชมความสวยงามของก้อนน้ำแข็งสีฟ้าที่ลอย อยู่รอบๆ ลำเรือ ได้เวลาสมควรนำท่านขึ้นฝั่งมีเวลาให้ท่านเก็บภาพความประทับใจอย่างเต็มที่ จากนั้นนำท่านเก็บภาพความสวยงามของก้อนน้ำ แข็งบริเวณชายหาดไดมอนด์ บีช (Diamond Beach) ที่มีก้อนน้ำแข็งอยู่บริเวณ ชายหาดประดุจก้อนเพชรเรียงรายอยู่มากมาย จากนั้นนำท่านนั่งรถโค้ชชมความงามของชายฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติก ผ่านชมเมือง Breiddalsvik ซึ่งเป็นเมืองชายทะเลทางฝั่งตะวันออกของประเทศไอซ์แลนด์ โดยระหว่างทางเต็มไปด้วยธรรมชาติอันงดงามไม่ว่าจะเป็นลาวาของภูเขาไฟ น้ำตกใหญ่น้อยนับร้อยสาย และสัตว์ ต่าง ๆ ที่อยู่ตามธรรมชาติสองข้างทาง เช่น กวางเรนเดียร์ หงส์ป่า , นกเป็ดน้ำ ฯลฯ และสัตว์เลี้ยงอีกหลายชนิดมากมาย เดินทางถึงเมือง Egilsstadir เมืองซึ่งตั้งอยู่ริมฝั่งของ ทะเลสาบโลกูริน (Logurinn) ซี่งเป็นทะเลสาบที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับที่สามของประเทศไอซ์แลนด์ โดยมีเนื้อที่ถึง 53 ตารางกิโลเมตร ท่านจะได้ชมเมืองเล็ก ๆ เงียบ ๆ ตามแบบชนบทของ ไอซ์แลนด์อย่างแท้จริง
ค่ำ บริการอาหารมื้อค่ำ ณ ภัตตาคาร
พักที่: Fosshotel Eastfjords / Icelandair Hotel Herad หรือที่พักระดับใกล้เคียง
เช้า บริการอาหารมื้อเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรมที่พัก
นำท่านชม “บ่อโคลนเดือดนามาฟแจล” (Namafjall) (แอ่งตะกอนที่อิ่มตัวไปด้วยน้ำ) ซึ่งมีไอน้ำร้อนจัดอยู่เบื้องล่าง เมื่อไอน้ำนั้นเคลื่อนที่จะทําให้โคลนที่อยู่ด้านบนพุ่งกระจายขึ้นมาคล้ายการระเบิดย้อยๆ ในบริเวณภูเขาไฟปกติบ่อโคลนเดือดมักมีกํามะถันอยู่มาก อิสระให้ท่านได้เก็บ ภาพปรากฏการณ์ทางธรรมชาติอีกแห่งหนึ่งของไอซ์แลนด์ จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เขตทะเลสาบเมวัท Myvatn Lake ซึ่งเป็นที่ตั้งของบ่อน้ำพุร้อนซึ่งมีผลพวงมาจากลาวาภูเขาไฟ และพื้นที่ที่มีความอุดมสมบูรณ์ทางธรณีวิทยา และได้รับการประกาศให้เป็นเขตอนุรักษ์ของไอซ์แลนด์ ในปี ค.ศ. 1974 เขตทะเลสาบ Myvatn เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมแห่งหนึ่งของประเทศ เขตทะเลสาบแห่งนี้ยังเป็นแหล่งชุกชุมของเป็ดน้ำที่สวยงามนานาพันธุ์ และถือเป็นเขตที่มีพันธุ์เป็ดน้ำมากที่สุดในยุโรป
เที่ยง บริการอาหารมื้อกลางวัน ณ ภัตตาคาร
นำท่านชมดิมมูโบร์กีร์ (Dimmuborgir) หรือที่แปลว่า ปราสาทดำ พื้นที่ซึ่งเกิดจากการ ระเบิดของภูเขาไฟครั้งใหญ่ในอดีตกาล ราว 2,000 ปีก่อน ธารลาวาที่ไหลปกคลุมพื้นที่เมื่อโดนอากาศและน้ำ ที่เย็นจัด จึงทำให้พื้นที่โดยรอบกลายเป็นดินภูเขาไฟ และหินภูเขาไฟรูปทรงประหลาดต่างๆ ชาวพื้นเมืองเชื่อว่า ดินแดนแห่งนี้เป็นสถานที่เชื่อมต่อระหว่างโลกมนุษย์และดินแดนใต้พิภพ ซึ่งเมื่อซาตานถูกขับไล่จากสวรรค์ลงสู่ ดินแดนใต้พิภพและผ่านดิมมูโบร์กีร์ทำ ใหพื้นที่แห่งนี้เกิดภัยธรรมชาติขึ้น จากนั้น นำท่านแวะเก็บภาพความสวยงามและยิ่งใหญ่ของน้ำตกเดททิ(Dettifoss) ที่ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติวัทนาโจคูล น้ำตกแห่งนี้เกิดจากการละลายตัวของธารน้ำแข็งและเป็นน้ำตกที่มีกระแสน้ำรุนแรงที่สุดในประเทศเป็นที่สองในยุโรป(รองมาจากน้ำตกไรน์) ทำจะตะลึงไปกับความแรงของกระแสน้ำและความสวยงามของหุบเหวที่ทอดยาวสุดสายตา ในบริเวณนี้จะมีน้ำตกอยู่หลายแห่งเนื่องจากการเคลื่อนตัวของผิวโลกทำให้เกิดการทรุดตัวของแผ่นดินนำท่านแวะเก็บภาพบริเวณน้ำตกโกด้าฟอส (Godafoss) น้ำตกรูปทรงโค้งเสี้ยวพระจันทร์ ประดุจจำลองน้ำตกไนแองการ่า มาตั้งไว้ที่นี่เลยทีเดียว เก็บภาพความสวยงามอย่างเต็มที่ จากนั้น นำท่านออกเดินทางสู่เมืองอคูเรริ
ค่ำ บริการอาหารมื้อค่ำ ณ ภัตตาคาร
พักที่: Icelandair Hotel Akureyri / ที่พักระดับใกล้เคียง
เช้า บริการอาหารมื้อเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรมที่พัก
นำท่านล่องเรือชมปลาวาฬ (Whale Watching) ซึ่งท่านจะได้สัมผัสกับประสบการณ์ใหม่ในการชมสัตว์ทางท้องทะเล ซึ่งท่านจะได้พบกับนกทะเลชนิดต่าง ๆ มากมาย รวมไปถึงปลาวาฬนานาพันธุ์ ไม่ว่าจะเป็นพันธุ์ Killer Whale (Orca) , Minke Whale, Humpback Whale นอกจากนั้น ท่านจะมีโอกาสได้พบกับความน่ารักของ ปลาโลมา (Doiphin) ซึ่งจะมาว่ายน้ำหยอกล้อท่านอยู่ข้างเรืออย่างมากมาย ถือเป็นความน่ารักและความงดงามทางธรรมชาติซึ่งมีเฉพาะในดินแดนแถบนี้เท่านั้น
เที่ยง บริการอาหารมื้อกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ พิพิธภัณฑ์พื้นบ้าน Glaumbaer Folk Museum ซึ่งเป็นพิธิภัณฑ์ที่จัดแสดงงานศิลปะหัตกรรมพื้นบ้านของชาวไอซ์แลนด์ รวมถึงเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ของประเทศไอซ์แลนด์อีกด้วย จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมือง สติกกิชฮอลเมอร์ (Stykkishólmur) เมืองที่มีความโดดเด่นทางด้านประวัติศาสตร์และธรรมชาติที่สามารถดึงดูดเพลิดเพลินไปกับความงามของธรรมชาติ อันแสนเงียบสงบ ลัดเลาะไปตามชายฝั่งตะวันตกของอ่าวแคบๆในเขตเมืองกรุนดาร์ฟจอร์ดูร์ ไม่พลาดไปชมความงดงามของภูเขาเคิร์กจูเฟล ภูเขาที่มีความสูงประมาณ 463 เมตร เป็นภูเขาที่มีทรงสวยงามและได้รับความนิยมมากในหมู่นักไต่เขา ใกล้ๆภูเขายังมีน้ำตกขนาดเล็กๆที่สวยงามมากแห่งหนึ่งอีก / นำท่านเดินทางสู่โรงแรมที่พัก
ค่ำ บริการอาหารมื้อค่ำ ณ ภัตตาคาร
พักที่: Foss Hotel Stykkisholmur ที่พักระดับใกล้เคียง
เช้า บริการอาหารมื้อเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรมที่พัก
นำท่านออกเดินทางสู่ ภูเขาคีร์กจูเฟล (Kirkjufell) เป็นภูเขาทางฝั่งตะวันตกของไอซ์แลนด์ (West Iceland) หนึ่งในสถานที่ถ่ายภาพทิวทัศน์ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของไอซ์แลนด์ ในมุมมองยอดเขารูปกรวยคว่ำ มีน้ำตก
และธารน้ำรายรอบ เป็นภาพสัญลักษณ์ของประเทศไอซ์แลนด์ก็ว่าได้ ภูเขาลูกนี้มีความสูงประมาณ 463 เมตร ไม่ว่าจะมาเที่ยวที่นี่ในช่วงไหนก็มีความงดงามตลอดทั้งปี โดยเฉพาะในหน้าหนาวที่จะมองเห็นภูเขา Kirkjufell ปกคลุมไปด้วยหิมะสีขาว
เที่ยง บริการอาหารมื้อกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย นําท่านชมความสวยงามของ นํ้าตกเฮินฟอซซ่า (Hraunfossar Waterfalls) ซึ่งเป็นนํ้าตกสาขาหนึ่งของนํ้าตกใหญ่ที่ก่อกําเนิดจากแหล่งลําธารและแม่นํ้าสายต่างๆเป็นระยะทางกว่า 900 เมตร ของทุ่งลาวาที่เกิดจากภูเขาไฟที่อยู่ภายใต้ธารนํ้าแข็ง แลงโจกุล Langjökull จากนั้นนำท่านเดินทางลอดอุโมงกลับสู่เมือง เรคยาวิค นำท่านชมนครเรคยาวิค เมืองหลวงของประเทศไอซ์แลนด์ ที่มีความสวยงามไม่แพ้เมืองหลวงอื่นๆในแถบสแกนดิเนเวีย ท่านจะได้ สัมผัสกับธรรมชาติอันแสนบริสุทธิ์ จากนั้นอิสระเลือกซื้อหาสินค้าท้องถิ่นเป็นของที่ระลึก
ค่ำ บริการอาหารมื้อค่ำ ณ ภัตตาคารไทย
พักที่: Radisson Blu Saga Hotel / Grand Hotel Reykjavik หรือที่พักระดับใกล้เคียง
เช้า บริการอาหารมื้อเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรมที่พัก
จากนั้นนำท่านชม “กรุงเรคยาวิค” Reykjavik เมืองหลวงของประเทศ ไอซ์แลนด์ ซึ่งเป็นเมืองที่ได้ชื่อว่าเป็นเมืองหลวงที่อยู่เหนือสุดของโลก และมีอากาศที่บริสุทธิ์ที่สุดในโลก นำท่านเที่ยวชมเมืองหลวงแสนสวยริมชายฝั่งทะเลแห่งนี้ โดยรอบ เรคยาวิค Reykjavik เป็นเมืองหลวงของประเทศไอซ์แลนด์ และเป็นเมืองหลวงที่ตั้งอยู่ใกล้กับขั้วโลกเหนือมากที่สุดโดยตั้งอยู่ไม่ไกลจากเส้นอาร์กติกเซอร์เคิลมากนัก ทำเลที่ตั้งอยู่ทางด้านตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศ ซึ่ง Ingolfur Arnarson ชาวนอร์ดิค เป็นผู้อพยพคนแรกที่มาตั้งรกรากที่เรคยาวิกในปี ค.ศ. 870 เมื่อเรคยาวิกกลายเป็นเมืองที่เป็นศูนย์กลางทางการค้าและธุรกิจการประมง จึงได้มีการก่อตั้งให้เป็นเมืองหลวง ปัจจุบันเขตเมืองมีประชากรประมาณ 120,000 คน นำท่านเก็บภาพประภาคารกรอตต้า (Grotta Lighthouse) ที่ตั้งอยู่ริมชายฝั่งเป็นจุดชมวิวท้องทะเลที่สวยงามของกรุงเรคยาวิค จากนั้นนำท่านชมโบสถ์ฮัลล์กรีมสคิร์คยา โบสถ์ประจำเมืองที่ใช้จัดงานพิธีทางศาสนาที่สำคัญของประเทศซึ่งมีรูปทรงสถาปัตยกรรมแปลกไม่เหมือนที่ใดในโลก จากนั้นนำท่านชมตึกอาคารรัฐสภา รูปทรงทันสมัยและนำท่านเก็บภาพอาคารHofdi ที่ใช้ประชุมผู้นำระหว่างประธานาธิบดีเรแกน กับประธานาธิบดีกอบอชอฟ ในสมัยสงครามเย็น นำท่านเดินเล่นชมเมืองเก่าเก็บภาพอาคารฮาร์ป้า (Harpa Concert Hall) ที่ได้รับรางวัลจากการประกวดทางสถาปัตยกรรม จากนั้นนำท่านเก็บภาพซัน โวยาเจอร์(Sun Voyager) สัญลักษณ์ของเสรีภาพ เป็นแลนด์มาร์กที่สำคัญของกรุงเรคยาวิค จากนั้น นำท่านขึ้นลิฟต์สู่ชั้นบนสุดของตึกพาร์ลาน เป็นตึกสไตล์โมเดิร์น ที่มีภัตตาคารอยู่ด้านบนให้ท่านชมวิวทิวทัศน์ของกรุงเรคยาวิคอย่างเต็มที่แบบ 360 องศา
เที่ยง บริการอาหารมื้อกลางวัน ณ ภัตตาคาร บริการท่านด้วยเมนูพิเศษ SEAFOOD PLATTER อิ่มอร่อยกับอาหารทะเลสดๆ อาทิ ลอบสเตอร์ กุ้ง หมีก แซลมอล และหอยแมลงภู่
บ่าย นำท่านเดินทางสู่ บ่อน้ำร้อน บลูลากูน Blue Lagoon ซึ่งเป็นบ่อน้ำร้อนซึ่งเต็มไปด้วยแร่ธาตุมากมาย อาทิ ซิลิกา (Sillica),พืชทะเล (Blue green algae),โคลนซิลิกา (Sillica Mud),ฟลูออรีน (Fluoringe),โซเดียม Sodium,โปตัสเซียมPotassium,แคลเซี่ยมCalcium,ซัลเฟต Salphate, คลอรีน (Chlorine), คาร์บอนไดออกไซด์ Carbon Dioxide เป็นต้น นอกจากนั้น ภายในบ่อน้ำร้อนบูล ลากูน ยังมีเกลือแร่ซึ่งจะช่วยให้ท่านผ่อนคลายและรักษาโรคที่เกี่ยวกับผิวหนังได้ และยังช่วยให้ผิวพรรณเปล่งปลั่งอีกด้วย ท่านจะได้สัมผัสกับความสบายตัวจากการลงแช่และอาบน้ำในบ่อน้ำร้อนบูลลากูน*** กรุณาเตรียมชุดว่ายน้ำติดตัวไปด้วย ***
จากนั้นนำท่านขึ้นลิฟต์สู่ชั้นบนสุดของตึกพาร์ลาน เป็นตึกสไตล์โมเดิร์น ที่มีภัตตาคารอยู่ด้านบนให้ท่านชมวิทิวทัศน์ของกรุงเรคยาวิคอย่างเต็มที่แบบ 360 องศา
ค่ำ บริการอาหารมื้อค่ำ ณ ภัตตาคาร ของตึกพาร์ลาน พร้อมชมวิวที่สวยงาม
พักที่: Radisson Blu Saga Hotel / Grand Hotel Reykjavik หรือที่พักระดับใกล้เคียง
เช้า บริการอาหารมื้อเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรมที่พัก
นำท่านสู่สนามบินเคฟลาวิก (Keflavik International Airport) กรุงเรคยาวิก
09.25 ออกเดินทางสู่กรุงเฮลซิงกิ โดยเที่ยวบิน AY992
15.50 เดินทางถึงสนามบินเฮลซิงกิ (เวลาที่ไอซ์แลนด์ ช้ากว่า เฮลซิงกิ 3 ชั่วโมง) จากนั้นนำท่านเดินทางเข้าสู่ตัวเมืองเฮลซิงกิ (กระเป๋าใบใหญ่จะเช็คถึงปลายทาง) มีเวลาให้ท่านเดินเล่นหรือเลือกซื้อสินค้าตามอัธยาศัยในย่านกลางเมือง Esplanadi หรือภายในห้างสต๊อคมานน์(Stockmann)
ค่ำ บริการอาหารมื้อค่ำ ณ ภัตตาคาร
20.30 นำท่านออกเดินทางสู่สนามบิน
00.45 เหิรฟ้ากลับสู่กรุงเทพฯ สุวรรณภูมิ โดยสายการบินฟินแอร์ Finn Air เที่ยวบินที่ AY141
16.25 เดินทางถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ / โดยสวัสดิภาพพร้อมความประทับใจ
*** บางโรงแรมมีพนักงานยกกระเป๋าไม่พอทำให้เกิดความล้าช้า ท่านสามารถนำสัมภาระขึ้นห้องพักได้ด้วยตัวเอง ***
***สายการบินฟินน์แอร์ จำกัดกระเป๋าที่ใช้โหลดใต้ท้องเครื่องได้ 1 ชิ้น น้ำหนักไม่เกิน 23 กิโลกรัม
และกระเป๋าถือขึ้นเครื่อง 1 ชิ้น น้ำหนักไม่เกิน 8 กิโลกรัม (ขนาดไม่เกิน 45 x 25 เซนติเมตร)
เงื่อนไขการสำรองที่นั่ง และการชำระเงิน
– ค่าห้องพักในทวีปยุโรป ถ้าคณะออกเดินทางได้ และท่านไม่ผ่านการพิจารณาวีซ่า ตามกฎท่านจะต้องโดนค่ามัดจำห้องใน 2 คืนแรกของการเดินทางหากท่านไม่ปรากฏตัวตามวันที่เข้าพัก ทางโรงแรมจะต้องยึดค่าห้อง 100% ในทันที ทางบริษัทจะแจ้งให้ท่านทราบ และมีเอกสารชี้แจงให้ท่านเข้าใจ
การันตีที่นั่งกับสายการบิน หรือ กรุ๊ปที่มีการการันตีค่ามัดจำที่พักโดยตรงหรือโดยการผ่านตัวแทนในประเทศ หรือต่างประเทศและไม่อาจขอคืนเงินได้ (ค่าใช้จ่ายตามความเป็นจริง)
*ข้าราชการและนักเรียน หนังสือรับรองจากต้นสังกัด หนังสือรับรองเป็นภาษาอังกฤษ
ทางสถานทูตจะรับพิจารณาเฉพาะท่านที่มีเอกสารพร้อมและมีความประสงค์ที่จะเดินทางไปท่องเที่ยวยังประเทศตามที่ระบุเท่านั้น การปฏิเสธวีซ่าอันเนื่องมาจากหลักฐานในการขอยื่นวีซ่าปลอมหรือผิดวัตถุประสงค์ในการยื่นขอวีซ่าท่องเที่ยว ทางบริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการคืนเงิน โดยจะหักค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริงและจะคืนให้ท่านหลังจากทัวร์ออกเดินทางภายใน 30 วัน โปรแกรมการเดินทางอาจเปลี่ยนแปลงได้ตามความเหมาะสม ทั้งนี้จะคำนึงถึงประโยชน์และความปลอดภัยของผู้เดินทางเป็นหลัก
Error: Contact form not found.
Error: Contact form not found.
Error: Contact form not found.
Error: Contact form not found.
Error: Contact form not found.
Error: Contact form not found.
Error: Contact form not found.
Error: Contact form not found.