20.00 น. คณะพบเจ้าหน้าที่และมัคคุเทศก์ได้ที่เคาน์เตอร์เช็คอิน M ประตูทางเข้าที่ 6 อาคารผู้โดยสาร เคาน์เตอร์สายการบินเตอร์กิช แอร์ไลน์ส (TK) ณ สนามบินสุวรรณภูมิ
22.55 น. ออกเดินทางสู่นครอิสตันบูล ประเทศเตอร์คิเย่ โดยเที่ยวบิน TK 65 (ใช้เวลาบินประมาณ 10.25 ชั่วโมง) เพลิดเพลินกับภาพยนตร์หลากหลายกับ จอทีวีส่วนตัวทุกที่นั่ง และสายการบินฯ มีบริการ อาหารค่ำและอาหารเช้า ระหว่างเที่ยวบินสู่นครอิสตันบูล ประเทศเตอร์คิเย่
05.45 น. เดินทางถึงสนามบินอิสตันบูล ประเทศเตอร์คิเย่ แวะเปลี่ยนเที่ยวบิน (กระเป๋าเชคทรู ไปยังสนามบินแอลเจียร์)
07.55 น. ออกเดินทางจากสนามบินอิสตันบูล สู่สนามบินแอลเจียร์ โดยเที่ยวบิน TK653 บริการอาหารเช้าบนเครื่องบิน (ใช้เวลาบินประมาณ 3.40 ชั่วโมง)
09.35 น. เดินทางถึงสนามบินแอลเจียร์ ประเทศแอลจีเรีย นำท่านผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร
นำท่านเดินทางสู่มหาวิหารนอร์ทเธอดาม (Basilique Nortre Dame d Frique) เป็นมหาวิหารคาทอลิกที่สำคัญมากในเมืองแอลเจียร์ สร้างขึ้นในปี 1846 – 1866 ในศิลปะแบบไบเซนไทล์ และเชื่อว่าเป็นมหาวิหารที่สร้างรับกับมหาวิหารนอร์ทเธอดาม เดอลาการ์ด ที่ตั้งอยู่ในเมืองมาร์กเซย์อีกด้วย
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย นำท่านเดินทางสู่เมืองทิปาชา (Tipaza) ระยะทาง 75 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.30 ชั่วโมง นำท่านแวะชมสุสานแห่งราชวงศ์มอริตาเนีย (Royal Mausoleum of Mauretania) สุสานแห่งนี้สร้างขึ้นโดยกษัตริย์จูบาที่ 2 ซึ่งเป็นชางเบอร์เบอร์ผู้ปกครองอาณาจักรมอริตาเนีย เพื่ออุทิศให้ราชินี คริโอพัตรา ซีลีนที่ 2 ต่อมาก็เป็นสถานที่ฝังพระศพของกษัตริย์จูบาที่ 2 และ พระราชวงศ์ เรียกได้ว่าเป็นสุสานหลวง อาณาจักรมอริตาเนียในอดีตนั้น มีพื้นที่ครอบคลุมถึงแอลจีเรีย, โมรอคโค และ มอริตาเนียในปัจจุบัน เรียกได้ว่าเป็นอาณาจักรที่ยิ่งใหญ่มาก จากนั้นนำท่านชมอุทยานประวัติศาสตร์ทิปาชา (Archaeological park) ซึ่งสร้างอยู่ริมทะเลเมดิเตอร์เรเนียน อดีตเคยเป็นศูนย์กลางการค้าของชาวฟีนีเชียน ชนเผ่าแรกที่มาตั้งรกรากถิ่นฐาน ณ ดินแดนนี้ ต่อมาได้ถูกโรมันรุกรานในช่วงศตวรรษที่ 2 และกลายเป็นที่พำนักของชาวคริสต์ในแอฟริกาเหนือก่อนที่จะถูกรุกรานโดยชาว วานเดล ซึ่งสามารถยึดเมืองได้ในช่วง ค.ศ.430 และได้ให้ชาวเมืองหันมานับถือลัทธิ Arianism สำหรับพวกที่ไม่เปลี่ยนศาสนาจึงได้หนีไปอยู่ที่สเปน เมืองนี้ได้ถูกยึดครองโดยชาวอาหรับอีกครั้งในสมัยศตวรรษที่ 7 เมืองโบราณแห่งนี้ผ่านการรุกรานมาอย่างยาวนาน นำท่านชมวิหารเก่า และ วิหารใหม่ รวมถึงโรงละครโรมันโบราณ และ สุสาน ในสมัยศตวรรษที่ 5 ซึ่งมีโรงศพหินอ่อน แกะสลัก วันเดือนปี จำนวน 14 แห่ง ด้วยความสำคัญของเมืองนี้ จึงได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในปี ค.ศ. 1982 ได้เวลานำท่านเดินทางกลับสู่เมืองแอลเจียร์
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารจีน
นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พักระดับ 4 ดาว Hyatt Regency Hotel Algiers **** หรือเทียบเท่า
เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
นำท่านเที่ยวชมเมืองแอลเจียร์ (Algiers) เป็นเมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดของประเทศแอลจีเรีย และเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 2 ในภูมิภาคมาเกร็บ นำท่านเดินทางสู่อนุสาวรีย์ Memorial du Martyr สร้างขึ้นในปี 1982 เพื่อเฉลิมฉลองการได้เอกราชครบ 20 ปีของแอลจีเรียจากฝรั่งเศส รูปทรงคล้ายใบปาล์มสามใบครอบเปลวเพลิงไว้ โดยแต่ละด้านจะมีรูปปั้นของทหารผู้เสียสละในการต่อสู่เพื่ออิสรภาพของประเทศแอลจีเรีย อนุสาวรีย์แห่งนี้ตั้งอยู่บนยอดเขาทำให้สามารถมองเห็นวิวเมืองแอลเจียร์ได้จากมุมสูง นับเป็นอีกจุดชมวิวที่สวยแห่งหนึ่งของเมือง บรรยากาศของจัตุรัสกลางเมืองเก่า Martyr’s Square ซึ่งรายล้อมไปด้วยอาคารสถาปัตกรรมที่มีกลิ่นอายของสถาปัตยกรรมฝรั่งเศส นำท่านเข้าชมพระราชวังเรส (Palais of Rais) หรือ Bastion 23 ซึ่งเป็นอนุสรณ์สถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ของแอลจีเรีย ภายในประกอบด้วยพระราชวัง 3 หลัง และบ้านอีก 6 หลัง ตกแต่งสวยงาม พระราชวังหลักตกแต่งด้วยกระเบื้องสีฟ้าขาว ส่วนอีกหลัง โทนสีน้ำตาลเหลือง ภายนอกดูเหมือนเป็นวังรูปแบบธรรมดา แต่ภายในเรียกได้ว่าตกแต่งได้อย่างสวยงามตระการตายิ่ง พระราชวังนี้สร้างขึ้นในปี 1576 ทางตอนล่างของเมืองคาชบาห์ (Lower Cashbah) ในปี 1909 พระราชวังแห่งนี้ได้รับการยกย่องให้เป็นมรดกทางวัฒนธรรมอันล้ำค่าในรูปแบบบ้านสไตล์มัวริช จากนั้นนำท่านเข้าชมพิพิธภัณฑ์บาร์โด (Bardo Museum) พิพิธภัณฑ์ที่สร้างในคฤหาสน์เก่า จัดแสดงโบราณวัตถุและเครื่องประดับ เครื่องแต่งกายฝีมือชาวพื้นเมืองแอลจีเรียจากทุกภูมิภาค นำท่านเข้าชมพิพิธภัณฑ์โบราณสถานแห่งชาติ (National Museum of Antiquities) ซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์ที่จัดเก็บภาพโมเสก และภาพโรมันโบราณ ที่ขุดค้บในแอลจีเรีย สะท้อนให้เห็นถึงยุครุ่งเรืองในสมัยจักรวรรดิโรมันเข้ามาปกครองดินแดนแห่งนี้
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตคารท้องถิ่น
บ่าย นำท่านชมเมืองคาชบาห์ (Casbah) ซึ่งเป็นเมืองที่ได้รับการยกย่องจากองค์การยูเนสโกให้เป็นมรดกโลกในปี 1991 เมืองนี้ได้รับการอนุรักษ์และสะท้อนให้เห็นถึงการสร้างเมืองศูนย์กลางมาเกร็บขึ้น โดยลักษณะโดดเด่นในการวางผังเมืองที่ทางตะวันตกจรดทะเลเมดิเตอร์เรเนียน และเข้ามาในโซนซับซาฮารา (Sub Sahara Africa) สันนิษฐานว่าโซนติดกับทะเลเมดิเตอร์เรเนียนนั้นเดิมมีชาวฟินิเซียนได้เข้ามาตั้งรกรากตั้งแต่ศตวรรษที่ 6 ก่อนคริสตกาล และมีการสร้างกำแพงล้อมรอบในช่วงที่ออตโตมันเข้ามาครองอำนาจในช่วงศตวรรษที่ 16 นับเป็นเมืองหลวงที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานยิ่ง จากนั้นนำท่านชม Ketchaoua Mosque เป็นมัสยิดที่สร้างขึ้นสมัยออตโตมันเข้ายึดครองดินแดนแถบนี้ ซึ่งมัสยิดแห่งนี้มีความพิเศษตรงที่ เป็นจุดศูนย์กลางที่นำไปสู่ประตูทั้งห้าของเมือง สมควรแก่เวลานำท่านแวะถ่ายรูปกับอาคารไปรษณีย์กลางแห่งแอลเจียร์ (La Grade Post d Alger) ซึ่งเป็นที่ทำการไปรษณีย์กลางของแอลเจียร์ เป็นอาคารสวยงามที่สร้างขึ้นในปี 1910 และตั้งอยู่ในแหล่งย่านคาเฟ่ และ ถนนช้อปปิ้งแห่งกรุงแอลเจียร์ นำท่านชมและเดินเล่นสัมผัสบรรยากาศ บนถนนช้อปปิ้งและย่านคาเฟ่กรุงแอลเจียร์
15.30 น. นำท่านเดินทางสู่สนามบินแอลเจียร์เพื่อเช็คอิน
18.00 น. ออกเดินทางสุ่สนามบินการ์ดาเอีย โดยเที่ยวบิน AH 6200 (ใช้เวลาบินประมาณ 1.30 ชั่วโมง)
20.00 น. เดินทางถึงสนามบินการ์ดาเอีย
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ในโรงแรม
นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พักระดับ 4 ดาว Belvedere Hotel / M Zab Hotel **** หรือเทียบเท่า (คืนที่ 1)
เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
นำท่านเดินทางสุ่หุบเขาเอ็มซาบ (M Zab Valley) เป็นหุบเขาโอเอซิสที่ลึกและแคบซึ่งตั้งอยู่ภายในซาฮาราประกอบด้วยเมืองที่มีกำแพงล้อมรอบ 5 เมือง ตั้งห่างจากแอลเจียร์ซึ่งเป็นเมืองหลวงของแอลจีเรียไปทางใต้ประมาณ 600 กม. เมืองทั้งห้ารวมกันเรียกว่า Pentapolis กระจายไปตามหุบเขาเป็นระยะทางประมาณ 10 กม. เมืองนี้สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 11 ชาวโมซาไบต์มาตั้งรกรากอยู่ในหุบเขา M’Zab และได้สร้างเมืองที่มีป้อมปราการห้าแห่งแต่ละแห่งมีป้อมปราการขนาดเล็กล้อมรอบด้วยกำแพงและด้วยมัสยิดซึ่งมีสุเหร่าทำหน้าที่เป็นหอสังเกตการณ์ เมืองทั้งห้าแห่ง ได้แก่ Ghardaia, Melika, Beni Isguen, Bou Noura และ El Atteuf ถูกสร้างขึ้นบนเนินเขาและล้อมรอบด้วยอาคารคล้ายกล่องสีพาสเทลรวมกันแน่นเป็นวงกลมศูนย์กลางรอบ ๆ มัสยิดกลางที่สร้างขึ้นบนยอดเขา ภูเขามัสยิดแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นป้อมปราการปราการสุดท้ายของการต่อต้านในกรณีที่มีการปิดล้อมและประกอบด้วยคลังแสงและยุ้งฉาง รอบๆ อาคารนี้มีบ้านที่สร้างเป็นวงกลมศูนย์กลางไปจนถึงเชิงเทิน บ้านเหล่านี้ได้รับการออกแบบเพื่อการอยู่อาศัยร่วมกันภายในโครงสร้างทางสังคมที่เท่าเทียมกันอย่างน่าทึ่งซึ่งเคารพความเป็นส่วนตัวของครอบครัว อาคารต่างๆแน่นขนัดมีตรอกแคบ ๆ และทางเดินที่คดเคี้ยวไปมา โดยหุบเขา M’ Zab ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในปี 1982 นำท่านเที่ยวชมหมู่บ้าน El-Ateuf เป็นนิคมที่เก่าแก่ที่สุดในภูมิภาค Beni Isguen เป็นเมืองที่น่าพิศวงที่สุดในบรรดาเมือง M’zab ถือว่าศักดิ์สิทธิ์มาก
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
บ่าย นำท่านเที่ยวชมหมู่บ้านการ์ดาเอีย (Ghardaia) ซึ่งเป็นหมู่บ้านหลักในหุบเขาเอ็มซาบ และมีมัสยิดกลาง (The Great Mosque) ซึ่งเป็นจุดศูนย์กลางของหมู่บ้านและเป็นจุดศูนย์กลางของกิจกรรมต่างๆของผู้คนในหมู่บ้านและหุบเขาแห่งนี้ด้วย จากนั้นนำท่านเที่ยวชมหมู่บ้าน Beni Isguen ซึ่งเป็นหมู่บ้านที่สวยงามและอาคารสีขาวทรงแปลกตา และมีอาคารสังเกตการณ์ที่สูงที่สุดในหมู่บ้าน นำท่านสัมผัสวิถีการดำเนินชีวิตของชาวพื้นเมือง และมีเวลาให้ท่านได้เลือกซื้อของฝากและพรม ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นสินค้าพื้นเมืองหลักของหมู่บ้านนี้
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พักระดับ 4 ดาว Belvedere Hotel / M Zab Hotel **** หรือเทียบเท่า (คืนที่ 2)
เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
06.00 น. นำท่านเดินทางสู่สนามบินเพื่อเชคอิน
08.15 น. ออกเดินทางสู่เมืองแอลเจียร์โดยเที่ยวบิน AH6201 (ใช้เวลาบิน 1.30 ชั่วโมง)
09.45 น. เดินทางถึงสนามบินแอลเจียร์
นำท่านเดินทางสู่เมืองบุยรา (Bouira) (ระยะทาง 90 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.30 ชั่วโมง) เมืองทางตอนเหนือกลางของแอลจีเรีย เมืองบุยราตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของเขตภูเขา Great Kabylie ใกล้กับต้นน้ำของ Isser และ Soummam wadis แนวเทือกเขาแอตลาส เป็นเมืองที่มีทัศนียภาพทิวเขาสวยงามเมื่อเทียบกับเมืองตอนกลางในเขตทะเลทราบซาฮารา เป็นเมืองผ่านที่จะนำท่านสู่เมืองเบนี ฮัมหมัด
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
บ่าย นำท่านเดินทางสู่เมืองเบนี ฮัมหมัด (Beni Hammad) (ระยะทาง 165 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง) นำท่านชมป้อมปราการเบนี ฮัมหมัด หรือ อัลคาราเบนี ฮัมหมัด (Al Qala of Beni Hammad) ในอดีตเป็นป้อมปราการล้อมรอบเมืองหลวงแห่งแรกของราชวงศ์ฮัมมาดิด สร้างขึ้นในสมัยศตวรรษที่ 11 ตั้งอยู่ในบริเวณเทือกเขาฮอดนา ในระดับความสูง 1,418 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล เมืองนี้มีแนวกำแพงยาว 7 กิโลเมตร (4 ไมล์) ภายในกำแพงมีอาคารพักอาศัยสี่หลัง และมัสยิดที่ใหญ่ที่สุดที่สร้างขึ้นในแอลจีเรียรองจากมันซูราห์ มีการออกแบบคล้ายกับมัสยิดใหญ่แห่ง Kairouanโดยมีหอคอยสุเหร่าสูง 20 เมตร และในปี 1980 ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก ได้เวลานำท่านเดินทางสู่เมืองเซติฟ (Setif) (ระยะทาง 110 กม. ใช้เวลาเดินทาง 2.30 ชั่วโมง)
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำในโรงแรม
นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก Novotel Hotel Setif **** หรือเทียบเท่า
เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
นำท่านเข้าชมพิพิธภัณฑ์เซติฟ (Setif Museum) พิพิธภัณฑ์ที่จัดเก็บและจัดแสดงโบราณวัตถุล้ำค่าที่ได้จากการขุดค้นพบในเมืองโบราณเจมีลา (Djemila) ไม่ว่าจะเป็นงานโมเสค หรือ รูปปั้นต่างๆ ข้าวของเครื่องใช้ในยุคโบราณ และอีกมากมาย ได้เวลานำท่านเดินทางสู่เมืองเจมีลา (Djemila) (ระยะทาง 53 กม. ใช้เวลาเดินทาง 1 ชั่วโมง) เป็นเมืองโบราณที่ตั้งอยู่บนที่สูง 900 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล โดดเด่นด้วยลักษณะการออกแบบและการวางผังเมืองของโรมันในสภาพแวดล้อมแบบภูเขาสูง เมืองนี้ได้ชื่อว่าเป็นเมืองโรมันโบราณที่สมบูรณ์ที่สุดในแอลจีเรีย เดิมเมืองนี้คือ “เมืองซีคูล” (Cuicul) สร้างขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 1 สมัยจักรพรรดิเนอร์วา เดิมบริเวณนี้ใช้เป็นที่พักค้างแรมของกองทหาร แต่เป็นพื้นที่ที่มีความอุดมสมบูรณ์จึงเริ่มมีการเพาะปลูก และมีคนมาอาศัยมากขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 2 จนกลายเป็นเมือง และรุ่งเรืองสุงสุดในช่วงศตวรรษที่ 4 มีการสร้างอาคารแบบโรมัน ทั้งโบสถ์ วิหาร ประตูชัย และ แอมฟิเธียร์เตอร์ เมืองนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นเมืองมรดกโลกในปี 1980 นำท่านเข้าชมความยิ่งใหญ่ของเมืองโรมันโบราณแห่งแอลจีเรีย
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
บ่าย นำท่านเดินทางสู่เมืองทิมกาด (Timgad) ระยะทาง 170 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง นำท่านชมเมืองโบราณทิมกาด อาณาจักรโบราณหนึ่งในอาณานิคมของโรมัน ตั้งอยู่ในเทือกเขา Aurès ณ ประเทศแอลจีเรีย เป็นเมืองเก่าแก่ที่เคยรุ่งเรืองมากในสมัย2,000 ปีที่แล้ว โดยเมืองมีพื้นที่กว้างขวางสำหรับผู้อยู่อาศัยกว่า 15,000 คน และเมืองนี้ยังเป็นหนึ่งในต้นแบบการวางผังเมืองแบบตารางอีกด้วย ซึ่งได้รับการจดทะเบียนเป็นมรดกโลกในปี 1980 เมืองโบราณทิมกาดยังมีซากปรักหักพังที่แสดงถึงความยิ่งใหญ่ของอาณาจักรสมัยก่อนไว้มากมาย ซึ่งเมืองทิมกาดก่อตั้งโดยจักพรรดิทราจัน (จักรพรรดิไตรยานุส) ผู้ได้ชื่อว่าเป็นจักรพรรดิที่ดีและเก่งกาจทั้งด้านการปกครองและด้านการทหารของโรมัน โดยเจตนาแรกต้องการสร้างเป็นป้อมปราการเพื่อป้องกันชนเผ่าเบอร์เบอร์ พลเมืองส่วนใหญ่ก็คือทหารที่ได้รับรางวัลจากการผ่านศึกนั่นเอง และผังเมืองนี้เป็นรูปทรงจัตุรัสมีความยาว 355 เมตรในทุกด้าน แต่ต่อมาประชากรได้เพิ่มจำนวนมากขึ้น จึงได้แผ่ขยายเมืองเพิ่มเติมไป 4 เท่า แต่ยังคงรูปทรงจัตุรัสไว้ ได้เวลานำท่านเดินทางสู่เมืองบัตนา (Batna) (ระยะทาง 45 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 50 นาที)
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก Hotel Messaoudi Batna **** หรือเทียบเท่า
เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่เมืองอิลมิลลา (Ain M lila) (ระยะทาง 70 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง) หมู่บ้านเล็กๆที่อยู่ระหว่างการเดินทางจากเมืองบัตนา เพื่อมุ่งหน้าสู่เมืองกูเอลมา นำท่านผ่อนคลายอิริยาบถ กับการเดินเล่นกับภาพวิธีชิวิตของชาวเมืองอิลมิลลา ณ จัตุรัสใจกลางเมือง ได้เวลานำท่านเดินทางต่อสู่เมืองกูเอลลา (Guelma) (ระยะทาง 135 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2.30 ชั่วโมง)
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
บ่าย นำท่านเที่ยวชมเมืองกูเอลมา (Guelma) อีกหนึ่งเมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงในเรื่องของน้ำพุร้อนและสปาที่ตั้งอยู่ในภาคตะวันออกของประเทศแอลจีเรีย นอกจากนี้ยังเป็นเมืองแห่งการเกษตรกรรมที่ถือว่าเป็นหัวใจหลักของภูมิภาค ตัวเมืองตั้งอยู่บนระดับความสูง 290 เมตร ถูกล้อมรอบไปด้วยภูเขาอันกว้างใหญ่ ยังถือว่าเป็นเมืองเศรษฐกิจที่สำคัญเมืองหนึ่ง เนื่องจากเป็นที่ตั้งของเขตอุตสาหกรรมต่างๆไม่ว่าจะเป็น CYCMA ,โรงกลั่นน้ำตาล,เซรามิก และอื่นๆอีกเป็นจำนวนมาก นำท่านชมน้ำพุร้อนฮัมมัม เชลลาลา (Hammam Chellala) น้ำพุร้อนขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ห่างจากตัวเมืองกูเอลมา ไปประมาณ 15 กิโลเมตร เป็นน้ำพุร้อนที่มีอุณหภูมิสูงกว่า 97 องศาเซลเซียส โดยน้ำพุร้อนแห่งนี้ได้ถือกำเนิดขึ้นมานานนับพันปี น้ำพุร้อนมีลักษณะเป็นเนินที่เกิดจากการสะสมของหินปูน มีอัตราการไหลของน้ำพุร้อน คือ 1,650 ลิตร ต่อ วินาที จนก่อเกิดเป็นน้ำตกอันงดงามที่ไหลผ่านหินปูนที่มีรูปร่างแปลกตาด้วยสีสันและรูปทรงที่มีความสวยงามมากแห่งหนึ่ง จากนั้นนำท่านชม โรงละครโรมันกูเอลมา (Theatre romain de Guelma) โรงละครโรมันโบราณที่มีความสำคัญทางด้านประวัติศาสตร์ของเมืองกูเอลมา ถูกสร้างขึ้นในปีค.ศ. 201 แต่หลังจากนั้นได้มีการรื้อถอนทั้งหมด และมีการสร้างขึ้นมาใหม่ในช่วงระหว่างปี 1902 -1918 ได้เวลานำท่านเดินทางสู่เมืองอันนาบา (Annaba) (ระยะทาง 70 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.30 ชั่วโมง)
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก Sheraton Annaba Hotel**** หรือเทียบเท่า
เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
นำท่านเที่ยวชมเมืองอันนาบา (Annaba) เมืองใหญ่อันดับสามของแอลจีเรีย เป็นเมืองริมทะเลเมดิเตอร์เรเนียน และมีอาคารสถาปัตยกรรมโบราณแบบยุโรป เนื่องจากเป็นเมืองที่ได้รับความนิยมในยุคที่ฝรั่งเศสเข้ามายึดครอง นำท่านชมเมืองโบราณฮิปโป เรจิอุส (Hippo Regius Ruins) เมืองโบราณที่สร้างขึ้นโดยชาวฟีนีเชียน ต่อมาในปี ค.ศ 46 ได้ตกเป็นอาณานิคมของจักรวรรดิโรมัน และอยู่ภายใต้การปกครองของโรมันกว่า 400 ปี เป็นเมืองศูนย์กลางทางคริสต์ศาสนาในแอฟริกาเหนือ และเรียกได้ว่าเป็นยุครุ่งเรืองของศาสนาคริสต์ในแถบแอฟริกา หลังจากปี 430 เมืองนี้ได้ถูกพวกเวนดาลยึดครองและได้ทำลายเมืองเสียหายหนักมาก แม้ในช่วงศตวรรษที่ 7 อาหรับได้เข้ามายึดครองในดินแดนแถบนี้ เห็นว่าไม่สมควรบูรณะเมืองนี้ จึงได้ย้ายเมืองและสร้างขึ้นมาใหม่ นั่นก็คือเมืองอันนาบาในปัจจุบันนั่นเอง ได้เวลานำท่านชมโบสถ์เซนต์ออกุสทิน (Basilique St. Augustin) โบสถ์ที่ตั้งชื่อตามนักบุญผู้เผยแพร่คริสต์ศาสนาในช่วงที่ศาสนาคริสต์เรืองอำนาจในสมัยศตวรรษที่ 4 ลักษณะโบสถ์คล้ายกับวิหาร Sacre Coeur แห่งยอดเขมมงมาร์ต ในกรุงปารีส นำท่านเดินทางสู่เมืองสกิกดา (Skikda) (ระยะทาง 114 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง) เมืองนี้ได้ชื่อว่าเป็นเมืองท่าที่สำคัญทางตอนเหนือของกรุงกงส์ต็องตีน ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
บ่าย นำท่านเที่ยวชมโบราณสถาน Rusicade ยุคโรมัน และ ซากเรือ ตลอดจน โรมันเธียร์เตอร์ที่ได้ชื่อว่าใหญ่ที่สุดในแอลจีเรีย จากนั้นนำท่านเข้าชมพิพิธภัณฑ์ Chateau Bengana Museum ที่ซึ่งจัดเก็บและจัดแสดงโบราณวัตถุที่ขุดพบในเมืองสกิกดา และบริเวณใกล้เคียง สมควรแก่เวลานำท่านเดินทางสู่เมืองทิดดิส (Tiddis) (ระยะทาง 76 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.30 ชั่วโมง) นำท่านชมวิลลาซึ่งประดับตกแต่งด้วยโมเสก (Villa of Mosaic) ซึ่งยังคงสะท้อนให้เห็นถึงความรุ่งเรืองและมั่งคั่งของเศรษฐีโรมันในอดีต จากนั้นนำท่านเดินทางสู่กรุงกงส์ต็องตีน (Constantine) (ระยะทาง 30 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 45 นาที) เมืองที่เก่าแก่ที่สุดเมืองหนึ่งในทวีปแอฟริกา มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 3 ของประเทศ รองจากกรุงแอลเจียร์และเมืองออราน ตั้งอยู่ทางทิศเหนือ-ตะวันออกของประเทศ สร้างขึ้นโดยชาวอาหรับ เมื่อประมาณ 2,500 ปีมาแล้ว มีลักษณะเป็นเมืองป้อมปราการบนโขดหินสูงกว่า 240 เมตร เหนือหุบเขาลำน้ำเบื้องล่าง มีกำแพงและประตูเมืองสร้างในสมัยกลาง รวมทั้งซากเมืองโรมันในบริเวณใกล้เคียง กงส์ตองตินเคยเป็นเมืองหลวงของราชวงศ์ นูมิเดียเมื่อประมาณ 2 ปีก่อนคริสต์ศักราช ต่อมาจักรพรรดิคอนสแตนติน มหาราชจักรพรรดิของโรมันได้บูรณะขึ้นใหม่ในปีคริสต์ศักราช 313 ต่อมาฝรั่งเศสยึดครองไว้ในปีคริสต์ศักราช 1837 นำท่านชมสะพานแห่งเมืองกงส์ต็องตีน (Bridges of Constantine) ได้รับการขนานนามว่าเป็น “เมืองแห่งสะพาน” (City of Bridges) เนื่องจาก มีสะพานอันงดงามมากมายที่เชื่อมระหว่างภูเขาและหุบเหว กับเมือง ซึ่งถูกสร้างไว้หลายแห่ง นำท่านชมสะพานแขวน ซิดี เอ็มซิด (Sidi M’Cid Bridge) ซึ่งเป็นสะพานแขวนที่สูงที่สุดในโลก มีความสูง 175 เมตร ยาว 164 เมตร ข้ามแม่น้ำ Rhummel ในเมืองกงส์ต็องติน เปิดใช้งานในเดือนเมษายน ปีค.ศ. 1912 จนถึงปีค.ศ. 1929 สะพานนี้ถูกออกแบบโดยวิศวกรชาวฝรั่งเศส Ferdinand Arnodin เพื่อเชื่อมโยง Casbah ไปยังเนินเขา Sidi M’Cid สะพานดังกล่าวได้รับการบูรณะในปีค.ศ. 2000
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก Novotel Constantine Hotel **** หรือเทียบเท่า
เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
นำท่านเข้าพิพิธภัณฑ์แห่งชาติเซอร์ตาร์ (National Museum of Cirta) ที่เก็บรวบรวมโบราณวัตถุที่มีค่ากว่า 7,000 ชิ้น ทั้งภาพเขียน และหลักฐานทางประวัติศาสตร์ย้อนหลังไปถึงยุคก่อนประวัติศาสตร์, สมัยโรมัน, ยุคพูนิค, ยุคอิสลาม และยุคอาณานิคมฝรั่งเศส พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ เปิดตัวขึ้นครั้งแรกในปี ค.ศ. 1931 ภายใต้ชื่อ “Gustave Mercier Museum” (ซึ่งตั้งชื่อตามเลขาธิการทั่วไปของสมาคมโบราณคดี) จนวันที่ 5 กรกฎาคม 1975 ได้เปลี่ยนชื่อเป็น Cirta ซึ่งเป็นชื่อโบราณของเมืองกงส์ต็องติน และในปี 1986 ได้รับการยกระดับเป็นพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ และเปลี่ยนชื่อเป็นพิพิธภัณฑ์แห่งชาติ เซอร์ตาร์ จากนั้นนำท่านเข้าชมพระราชวังอาเหมด เบย์ (The Museum & Palace of Ahmed Bey) ผู้ปกครองออตโตมันคนสุดท้ายของกงส์ต็องตินจาก ค.ศ. 1826 ถึง ค.ศ. 1848 เป็นหนึ่งในอาคารยุคออตโตมันที่ดีที่สุดในแอลจีเรีย เป็นอาคารขนาดใหญ่ และสร้างยังไม่เสร็จสมบูรณ์ก่อนถูกยึดครองโดยฝรั่งเศสในช่วงยุคล่าอาณานิคม และใช้เป็นโรงพยาบาลสำหรับกองทหารฝรั่งเศส ได้เวลานำท่านชม มัสยิดเอเมียร์ อับเดลคาเดอร์ (Emir Abdelkader Mosque) ซึ่งเป็นหนึ่งในมัสยิดที่ใหญ่ที่สุดในโลก เริ่มสร้างในปี ค.ศ. 1968 และเสร็จสมบูรณ์ในปี ค.ศ. 1994 เพื่อเป็นสถานที่สำหรับประกอบพิธีทางศาสนา
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
บ่าย นำท่านชมสะพานทางเดิน เมลล่า สลิมาเนห์ (Footbridge of Mellah Slimane) เดินข้ามช่องแคบที่ดูน่าหวาดเสียวและตื่นเต้น ซึ่งท่านจะได้เห็นทิวทัศน์ของโตรกผาและบ้านที่สร้างอยู่ในหุบเขา ในเวลาเดียวกันท่านจะสามารถมองเห็นสะพาน Bab El Kantara อันเก่าแก่ และสะพาน Sidi Rached Viaduct อันสง่างามจากจุดชมวิวบนสะพาน
14.00 น. นำท่านเดินทางสู่สนามบินกงส์ต็องตีน เพื่อเช็คอิน
16.55 น. ออกเดินทางสู่กรุงอิสตันบูล โดยเที่ยวบินที่ TK1412 (ใช้เวลาบินประมาณ 3.10 ชั่วโมง) สายการบินบริการอาหาร เครื่องดื่ม และพักผ่อนบนเครื่องบิน
22.05 น. เดินทางมาถึงนครอิสตันบูล แวะเปลี่ยนเครื่อง
01.50 น. ออกเดินทางสู่ประเทศไทย โดยเที่ยวบินที่ TK68 (ใช้เวลาบินประมาณ 9 ชั่วโมง) สายการบินมีบริการอาหารค่ำและอาหารเช้า บนเครื่องบิน
14.55 น. เดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ (BON VOYAGE)
โปรแกรมท่องเที่ยวสเปน (ตามที่ระบุไว้ในรายการ) อัตรานี้รวมถึง
อัตรานี้ไม่รวมถึง
**ราคาอาจมีการปรับขึ้น – ลง ตามราคาน้ำมันที่ปรับขึ้นลง แต่จะปรับตามความเป็นจริงที่สายการบินประกาศปรับ และที่มีเอกสารยืนยันเท่านั้น (คิด ณ วันที่ 9 พฤษภาคม 2565) **
ข้อแนะนำและแจ้งเพื่อทราบ
การชำระเงิน
งวดที่ 1 : สำรองที่นั่งจ่าย 50,000 บาท/ท่าน ภายใน 3 วันหลังมีการยืนยันกรุ๊ปเดินทางแน่นอน
งวดที่ 2 : ชำระส่วนที่เหลือ 30 วัน ล่วงหน้าก่อนออกเดินทาง
กรณียกเลิก
ยกเลิกก่อนการเดินทาง 45 วัน ไม่เก็บค่าใช้จ่าย (หากไม่ได้มีการยื่นวีซ่าล่วงหน้า) (สงกรานต์-ปีใหม่ 60 วัน)
ยกเลิกก่อนการเดินทาง 30-45 วัน หักค่ามัดจำ 35,000 บาท + ค่าวีซ่า (ถ้ามี) (สงกรานต์-ปีใหม่ 44-59 วัน)
ยกเลิกก่อนการเดินทาง 10-30 วัน หักค่ามัดจำ 35,000 บาท + ค่าใช้จ่ายอื่น (ถ้ามี) (สงกรานต์-ปีใหม่ 20-43 วัน)
ยกเลิกก่อนการเดินทาง 0-9 วัน หักค่าใช้จ่าย 75-100% ของค่าทัวร์ (สงกรานต์-ปีใหม่ 0-19วัน)
***ผู้เดินทางที่ไม่สามารถเข้า-ออกเมืองได้ เนื่องจากการยื่นเอกสารปลอม หักค่าใช้จ่าย 100%
***หากมีการยกเลิกการจองทัวร์ หลังได้ทำการยื่นวีซ่าเรียบร้อยแล้ว บริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการนำเล่มพาสปอร์ตไปยกเลิกวีซ่าในทุกกรณี ไม่ว่าค่าใช้จ่ายในการยื่นวีซ่าจะรวมหรือแยกจากรายการทัวร์ก็ตาม***
กรณีเดินทางโดยลูกค้าจัดการตั๋วเครื่องบินเอง (Land Only)
*ในกรณีลูกค้าดำเนินการเรื่องตั๋วเครื่องบินเองและมาเที่ยวร่วมกับคณะ (Join Tour) ลูกค้าต้องดำเนินการมาพบคณะทัวร์ด้วยตัวเอง และต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการมาพบคณะใหญ่ด้วยตัวเอง รวมถึงหากกรณีเที่ยวบินของคณะใหญ่เกิดความล่าช้าหรือยกเลิกเที่ยวบินอันด้วยสาเหตุใดๆก็ตาม
หมายเหตุ :
ตั๋วเครื่องบิน
โรงแรมและห้อง
กระเป๋าเล็กถือติดตัวขึ้นเครื่องบิน
สัมภาระและค่าพนักงานยกสัมภาระ
การชดเชยค่ากระเป๋าในกรณีเกิดการสูญหาย
Error: Contact form not found.
Error: Contact form not found.
Error: Contact form not found.
Error: Contact form not found.
Error: Contact form not found.
Error: Contact form not found.