09.30 น. สมาชิกทุกท่านพร้อมกัน ณ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ประตู 5 เคาน์เตอร์ L สายการบิน เวียดนาม แอร์ไลน์ (VN) โดยมีเจ้าหน้าที่คอยจัดเตรียมเอกสารการเดินทางสำหรับทุกท่านและนำท่านโหลดสัมภาระ
12.20 น. ออกเดินทางสู่ท่าอากาศยานนานาชาติโหน่ยบ่าย ประเทศเวียดนาม โดย สายการบิน เวียดนาม แอร์ไลน์ (VN) เที่ยวบินที่ VN610
14.20 น. เดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาติโหน่ยบ่าย ของกรุงฮานอย ซึ่งเป็นสนามบินหลักของประเทศเวียดนามตอนเหนือ หลังผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมือง (เวลาท้องถิ่นประเทศเวียดนามเหมือนกับเวลาท้องถิ่นประเทศไทย) จากนั้นเดินทางเข้าสู่ “เมืองซาปา” เมืองเล็กๆ กลางหุบเขาในจังหวัดลาวไก ในอดีตเป็นเมืองตากอากาศยอดนิยมของชาวยุโรป เนื่องจากเคยตกอยู่ในการยึดครองของประเทศฝรั่งเศส สถาปัตยกรรมของบ้านเรือนและตึกต่างๆ รวมถึงการวางผังเมืองจึงมีลักษณะเป็นแบบฝรั่งเศสที่ถูกรายล้อมไปด้วยหุบเขาน้อยใหญ่ และธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ จากนั้นนำท่านชม โบสถ์ซาปา สิ่งปลูกสร้าง ที่สร้างขึ้นจากสถาปัตยกรรมแบบยุโรปในสมัยที่ฝรั่งเศสปกครองเวียดนาม ซึ่งเป็นหนึ่งในแลนด์มาร์กของเมืองซาปาที่ต้องมาเช็คอินกับโบสถ์คริสต์แห่งนี้ ซึ่งโบสถ์ทำด้วยหิน สันนิษฐานว่าโบสถ์แห่งนี้สร้างโดยชาวฝรั่งเศส และยังเป็นสถานที่ประกอบพิธีมิสซาของชาวฝรั่งเศสในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์
เย็น รับประทานอาหารเย็น ณ ห้องอาหารของโรงแรม (1)
ที่พัก โรงแรม Azure Sapa Hotel, Sapa Green, Sapa Logde ระดับ 3 ดาว หรือเทียบเท่า
เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (2)
นำท่าน นั่งรถไฟสู่ สถานีฟานสิปัน ท่านสามารถถ่ายภาพวิวทิวทัศน์ความสวยงามของซาปาได้ระหว่างทางขึ้น เมื่อถึงสถานีฟานสิปัน นำท่าน ขึ้นกระเช้าไฟฟ้าฟานซิปัน กระเช้าลอยฟ้าติดกระจกสามารถมองเห็นวิวเมืองซาปาและความสวยงามของธรรมชาติได้ 360 องศา ชมความงามของป่าไม้ แม่น้ำ ลำธารสายน้อยใหญ่ วิวของนาขั้นบันไดที่สวยงามเป็นที่ขึ้นชื่อของเมืองซาปาสลับไปกับหมู่บ้านของชาวเขา รวมถึงภูเขาและม่านหมอกที่เรียงตัวซ้อนกันเป็นฉากหลังที่สวยงาม ขณะที่กำลังเพลิดเพลินกับวิวทิวทัศน์ที่สวยงามกระเช้าจะเคลื่อนเข้าสู่ ยอดเขาฟานซิปัน ที่ได้รับฉายาว่า หลังคาแห่งอินโดจีน โดยอยู่สูงจากระดับน้ำทะเลถึง 3.143 กิโลเมตร นำท่านเดินต่อไปอีกเล็กน้อยเพื่อพิชิตยอดเขาฟานซิปัน ถ่ายภาพเป็นที่ระลึกกับสัญลักษณ์สแตนเรส 3 เหลี่ยมที่แสดงว่าท่านได้มายืนอยู่บน จุดสูงสุดของยอดเขาฟานซิปัน พร้อมสัมผัสกับเมฆหมอก และวิวทิวทัศน์ที่สวยงามบนยอดเขา นำท่านชมทัศนียภาพด้านบนพร้อมถ่ายภาพวิวทิวทัศน์ และชมแนวเทือกเขาในเขตชายแดนยูนนานของประเทศจีน ระหว่างที่ท่านอยู่ด้านนนั้นหากสภาพอากาศไม่มีเมฆปกคลุมมาก ท่านสามารถมองเห็นทิวทัศน์ของยอดเขาฮัมรองได้อีกด้วย
กลางวัน บริการอาหารกลางวันบุฟเฟต์ ณ ภัตตาคารพื้นเมือง อาหารบุฟเฟต์ (3)
จากนั้นนำท่านชม หมู่บ้านกั๊ต กั๊ต (Cat Cat Village) เป็นหมู่บ้านเล็กๆ ในเมืองซาปา ซึ่งอยู่ในระดับความสูงกว่าน้ำทะเล 1,650 เมตร และอยู่ห่างจากตัวเมืองประมาณ 3 กิโลเมตร คำว่า กั๊ตกั๊ต มีต้นกำเนิดมาจากชื่อที่ใช้เรียกรถ 4 Wheel ของชาวฝรั่งเศสที่ได้ขับเข้ามายังพื้นที่แห่งนี้เพื่อค้นหาแหล่งพลังงานทางธรรมชาติ ก่อนที่ชาวม้งดำจะอพยพมาจากลุ่มแม่น้ำแยงซีเกียง ประเทศจีน เพื่อมาตั้งรกรากทำมาหากินจนเกิดเป็นหมู่บ้าน และกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมในเวลาต่อมา ปัจจุบันกั๊ตกั๊ต เป็นหมู่บ้านเก่าแก่ของชาวเผ่าม้งดำที่นิยมแต่งกายโทนสีน้ำเงินเข้มหรือดำ เป็นหมู่บ้านที่สามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ของนาขั้นบันไดที่สวยงาม รอให้นักท่องเที่ยวเข้ามาเยี่ยมชม
นำท่านเช็คอินคาเฟ่สุดชิค MOANA CAFÉ รวมจุดถ่ายรูปสุดสวยจากหลากหลายสถานที่ไว้ให้ท่านผ่อนคลายกับบรรยากาศสุดฟิน และทางร้านยังมีจำหน่ายเครื่องดื่มพร้อมให้ท่านดื่มด่ำไปกับความเย็นจากสายหมอกอีกด้วย
จากนั้นอิสระให้ท่านเดินเที่ยวชม ซาปาไนท์มาร์เก็ต เป็นตลาดที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองซาปา สินค้าที่มาวางขายส่วนใหญ่จะเป็นสินค้าที่ผลิตขึ้นมาจากชาวเขาท้องถิ่นที่อาศัยอยู่ที่ซาปา ส่วนใหญ่จะเป็นผ้าปัก สร้อย กำไล และเครื่องประดับของคนพื้นเมือง ผัก ผลไม้ และอาหารพื้นเมืองมากมาย นอกจากนั้นยังมีร้านอาหารสไตล์ฝรั่งเศสเก๋ๆ ตกแต่งร้านสวยงาม ให้ท่านได้เลือกนั่งได้ตามใจชอบ
เย็น รับประทานอาหารเย็น ณ ภัตตาคารพื้นเมือง พิเศษ เมนูชาบูหม้อไฟปลาแซลม่อน พร้อมไวน์แดง ดาดัท (4)
ที่พัก โรงแรม Azure Sapa Hotel, Sapa Green, Sapa Logde ระดับ 3 ดาว หรือเทียบเท่า
เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (5)
หลังอาหารเช้านำท่านเดินทางสู่ เมืองฮานอย ใช้เวลาในการเดินทางจากเมือง ซาปา สู่เมืองฮานอย ใช้เวลาโดยประมาณ 5-6 ชั่วโมง กรุงฮานอย ตั้งอยู่ทางภาคเหนือ ของประเทศเวียดนาม คำว่า “ฮานอย” หมายถึงตอนต้นของแม่น้ำ ตั้งอยู่ตอนต้นของลุ่มแม่น้ำแดง ในสมัยนั้นกษัตริย์ราชวงศ์ลี้สถาปนาขึ้นเป็นเมืองหลวง โดยใช้ชื่อว่า ทังล็อง แปลว่า มังกรเหิน ต่อมากษัตริย์ในราชวงศ์เหงียนได้ย้ายเมือหลวงไปอยู่เมืองเว้ เมื่อตกเป็นส่วนหนึ่งของอินโดจีน และฝรั่งเศส ฮานอยจึงกลับมาเป็นเมืองหลวงอย่างเป็นทางการอีกครั้งหลังจากได้รับเอกราชในปี พ.ศ. 2489 ดินแดนเวียดนามแยกออกเป็นสองประเทศ โดยฮานอยเป็นเมืองหลวงของเวียดนามเหนือ เมื่อรวมประเทศใน พ.ศ.2519 จึงเป็นเมืองหลวงหนึ่งเดียวของเวียดนามในปัจจุบัน
ระหว่างทางนำท่านแวะ ร้านเยื่อไผ่ นำเลือกซื้อสินค้า ร้านเยื่อไม้ไผ่ จำหน่ายสินค้าต่างๆ ที่ผลิตขึ้นมาจากเยื่อไม้ไผ่ เช่น พวกผ้าเช็ดต่างๆ ผ้าเช็ดพื้น ผ้าดูดฝุ่น ผ้าพันคอ ชุดคลุมไหล่ ชุดสเลค และอื่นๆ อีกมากมาย รวมไปถึง สินค้าต่างชนิดต่างๆ ทั้งของกินของใช้ เสื้อผ้าพื้นเมือง ไปจนถึงกาแฟที่มีชื่อเสียง
กลางวัน บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง (6)
นำท่านเดินทางไปยัง ทะเลสาบคืนดาบ ตั้งอยู่ใจกลางเมืองฮานอย ตามตำนานเล่าขานกันมาว่า ในสมัยที่เวียดนามทำสงครามกับประเทศจีน กษัตริย์แห่งเวียดนามทำการสู้รบเป็นเวลานาน แต่ไม่สามารถรบชนะฝ่ายจีนได้ จนเกิดความท้อแท้ วันหนึ่งได้ล่องเรือเข้ามา ณ ทะเลสาบแห่งนี้ ได้เจอกับเต่าตัวหนึ่งซึ่งที่ปากนั้นได้คาบดาบวิเศษอยู่และได้นำดาบนั้นมาให้กับกษัตริย์เวียดนามเพื่อใช้ในการทำสงคราม เมื่อกลับไปสู้รบกับประเทศจีนอีกครั้ง จนมีชัยชนะกลับมาทำให้บ้านเมืองสงบสุข และเมื่อเสร็จสิ้นสงครามแล้วพระองค์จึงได้นำดาบกลับมาคืน ณ ทะเลสาบคืนดาบแห่งนี้ จากนั้นนำท่านแวะถ่ายภาพกับ สะพานแสงอาทิตย์ สะพานสีแดงสดท่ามกลางทะเลสาบคืนดาบ เชื่อมระหว่างริมฝั่งกับเกาะเนินหยก สะพานแห่งนี้ถือเป็นเอกลักษณ์อีกแห่งหนึ่งของกรุงฮานอย หากยืนอยู่บนสะพานท่านสามารถมองเห็น ศาลเจ้าเนินหยก ตั้งอยู่บนเกาะ ซึ่งเป็นเกาะเล็กๆ ในทะเลสาบคืนดาบ ถูกสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 18 โดยสถาปัตยกรรมและศิลปะการตกแต่งได้รับอิทธิพลมาจากจีน สร้างขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่ เฉิน ฮัง โด๋ว ผู้นำการต่อต้านราชวงศ์หยวนของจีนในศตวรรษที่ 13 ภายในเป็นวิหารชั้นเดียว มีแท่นบูชาเทพเจ้า รวมถึงฆ้องและระฆังโบราณ หากมองออกไปจากเกาะเนินหยกจะเห็นเจดีย์โบราณโผล่ขึ้นพ้นน้ำมีชื่อเรียกว่าท้องถิ่นว่า ทาพรัว ซึ่งหมายถึง หอคอยเต่า ซึ่งในปัจจุบันในช่วงเปลี่ยนฤดูกาลยังสามารถเห็นเต่าขนาดใหญ่อยู่ในทะเลสาบแห่งนี้
นำท่านช้อปปิ้ง ถนนสาย 36 เก่า มีชื่อเรียกพื้นเมืองว่า 36 เฝอเฟืองในอดีตเป็นถนนที่มีชื่อเสียงใน เรื่องของงานหัตถกรรมมายาวนานกว่า 600 ปี ในปัจจุบันถนนแห่งนี้มีสินค้ามากมาย เป็นแหล่งขายของที่ระลึกและสินค้าพื้นเมืองที่ใหญ่ที่สุดใจกลางกรุงฮานอย ท่านสามารถเลือกซื้อสินค้าได้อย่างจุใจ เช่น เสื้อผ้า เครื่องเขิน งานฝีมือที่ทำจากไม้ เรือสำเภาไม้จำลอง ของที่ระลึกจากเวียดนามที่ทำขึ้นมาจากฝีมือคนเวียดนามอย่างแท้จริง เป็นต้น
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองฮาลอง (Ha Long) ดินแดนแห่งมังกรหลับไหล ใช้เวลาเดินทางโดยรถโค้ชประมาณ 4 ชม. เมืองฮาลองมีสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังคือ อ่าวฮาลอง ที่ได้รับสมญานามว่า กุ้ยหลินแห่งเมืองเวียดนาม เพราะมีเกาะหินปูนน้อยใหญ่จำนวนกว่า 1,969 เกาะโผล่พ้นขึ้นมาจากผิวน้ำทะเล บนยอดของแต่ละเกาะมีต้นไม้ขึ้นอยู่อย่างหนาแน่น ด้วยความความสมบูรณ์ทางธรรมชาติและความสวยงามของอ่าวฮาลอง ทำให้องค์กรยูเนสโกประกาศเป็นมรดกโลกทางธรรมชาติ ในปี 2537 อิสระช้อปปิ้งสินค้าพื้นเมืองที่ ฮาลองไนท์มาร์เก็ต สินค้าส่วนใหญ่จะเป็นของฝากและของที่ระลึกทำจากไม้ งานหัตถกรรมพื้นเมือง เสื้อผ้า กระเป๋า และอีกมากมาย
เย็น รับประทานอาหารเย็น ณ ภัตตาคารพื้นเมือง (7)
ที่พัก โรงแรม Sea Star Halong, Vincen Halong ระดับ 3 ดาว หรือเทียบเท่า
เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (8)
นำท่านออกเดินทางสู่ท่าเรือ อ่าวฮาลอง ชมความงดงามตามธรรมชาติที่สรรค์สร้างด้วยความงดงามของอ่าวฮาลองเบย์ หากเล่าตามนิทานปรัมปราของชาวเวียดนาม ได้เล่าไว้ว่าในอดีตนานมาแล้วระหว่างที่ชาวเวียดนามกำลังต่อสู้กับกองทัพชาวจีนผู้รุกราน เทพเจ้าได้ส่งกองทัพมังกรลงมา ช่วยปกป้องแผ่นดินเวียดนาม มังกรเหล่านี้ได้ดำดิ่งลงสู่ท้องทะเลบริเวณที่เป็นอ่าวฮาลองในปัจจุบัน ทำให้มีอัญมณีและหยกพุ่งกระเด็นออกมา อัญมณีเหล่านี้จึงกลายเป็นเกาะแก่งน้อยใหญ่กระจายอยู่ทั่วอ่าวจึงเป็นเกราะป้องกันจากผู้รุกราน ทำให้ชาวเวียดนามปกป้องแผ่นดินของพวกเขาได้สำเร็จแลก่อตั้งประเทศ ซึ่งต่อมาก็คือเวียดนามในปัจจุบัน นำท่าน ล่องเรือชมอ่าวฮาลอง ที่มีพื้นที่กว้างใหญ่กว่า 1,500 ตารางกิโลเมตร อยู่ทางตอนเหนือของเวียดนาม และเป็นส่วนหนึ่งในอ่าวตังเกี๋ย มีชายฝั่งยาวเป็นระยะทางกว่า 120 กิโลเมตร ท่านจะพบกับวิวทิวทัศน์ หันมองไปทางไหนก็สวยงาม เห็นผืนน้ำสีเขียวสวยและหมู่เกาะหินปูนน้อยใหญ่โผล่ขึ้นมาจากผิวน้ำทะเลที่มีลักษณะแตกต่างกันออกไป ถือเป็นสถานที่เที่ยวชมธรรมชาติของเวียดนามอีกแห่งหนึ่งที่สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวมากมายจากทั่วทุกมุมโลกให้มาเยือนสถานที่แห่งนี้ ระหว่างล่องเรือเที่ยวชม ถ้ำนางฟ้า พาท่านชมหินหงอกหินย้อยแห่งอ่าวฮาลองที่มีอายุนับล้านปี มีโครงสร้างสลับซับซ้อนกันหลายชั้นพร้อมประดับไฟไว้อย่างสวยงาม ภายในถ้ำจะเห็นได้ว่าหินหงอกหินย้อยต่างๆนั้นจะมีลักษณะรูปทรงแตกต่างกันออกไป ตามแต่ท่านจะจิตนาการ ขึ้นอยู่ว่าแต่ละท่านจะตีความออกมาว่าเป็นรูปทรงเหมือนสิ่งใดในถ้ำเราจะเห็นหินรูปนางฟ้าที่ถูกสร้างขึ้นมาจากทางธรรมชาติที่ติดอยู่ภายในผนังถ้ำ นับว่าเป็นสิ่งมหัศจรรย์อย่างหนึ่งและมีตำนานเล่าขานกันว่ามีเหล่านางฟ้าเข้ามาอาบน้ำในถ้ำแห่งนี้และเกิดหลงไหลชายหนุ่มผู้ที่เป็นมนุษย์เลยคิดที่จะไม่อยากกลับสวรรค์ จนกระทั่งเวลาผ่านล่วงเลยไปกลุ่มนางฟ้าทั้งหลายเลยกลายเป็นหินติดอยู่ที่ผนังถ้ำอย่างน่าอัศจรรย์
กลางวัน บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารบนเรือ เมนูซีฟู๊ด พร้อมบริการไวน์แดง ดาลัท (9)
หลังจากรับประทานอาหารนำท่านเดินทางสู่ เมืองนิงห์บิงห์ อยู่ทางตอนใต้ของกรุงฮานอยลงมาประมาณ 90 กิโลเมตร พื้นที่แห่งนี้โอบล้อมด้วยภูเขามากกมายกว่า 90 ลูก เมืองนิงห์บิงห์เคยเป็นเมืองหลวงมาก่อน แต่ในภายหลังได้ย้ายเมืองหลวงไปเป็นเมืองฮานอยแทน นำท่านเดินทางสู่ ตามก๊ก หรือ ฮาลองบก หนึ่งในภูมิทัศน์ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของจังหวัดนิงห์บิงห์ อยู่ห่างจากตัวเมืองประมาณ 9 กิโลเมตร ตามก๊กมีลักษณะเป็นภูเขาหินปูนขนาดใหญ่อยู่รายล้อม คล้ายกับกุ้ยหลินเมืองจีน มีแม่น้ำงอด็องไหลผ่านและกัดเซาะภูเขาหินปูจนเกิดเป็นถ้ำหินปูนทั้งหมดสามถ้ำ จึงเป็นที่มาของชื่อ ตามก๊ก ซึ่งคำว่าตามแปลว่าสาม และก๊กแปลว่าถ้ำ ซึ่งถ้ำแห่งนี้จะมีน้ำไหลลอดถ้ำไปตามทางที่ถูกกัดเซาะ เมื่อมองจากด้านบนจะเห็นทัศนียภาพทางธรรมชาติที่สวยงาม
เย็น รับประทานอาหารเย็น ณ ภัตตาคารพื้นเมือง (10)
ที่พัก โรงแรม Yen Nhi Hotel ระดับ 3 ดาว หรือเทียบเท่า
เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (11)
นำท่านเพลิดเพลินกับการ ล่องเรือแจว ชมธรรมชาติของภูเขาหินปูนตระหง่านรายล้อมอยู่มากมาย ตื่นตากับการพายเรือที่เป็นภูมิปัญญาท้องถิ่นมีลักษณะพิเศษคือการพายโดยใช้เท้าถีบ ล่องเรือไปตามแม่น้ำทีตร่างอนน์ ชมวิถีชีวิตริมน้ำของชาวท้องถิ่น ผ่านเข้าสู่เขตธรรมชาติวิวสองข้างทางเป็นทุ่งนาที่มีสีสันแตกต่างกันออกไปตามฤดูกาล จากนั้นเป็นเส้นทางสู่การล่องเรือลอดถ้ำ สามารถใช้ไฟฉายส่องดูหินงอกหินย้อยที่สวยงามขณะที่พายเรือลอดถ้ำได้ จากนั้นนำท่านเดินทางกลับสู่ เมืองฮานอย
กลางวัน บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (12)
ได้เวลาอันสมควรนำท่านออกเดินทางสู่ ท่าอากาศยานนานาชาติโหน่ยบ่าย เพื่อเดินทางกลับประเทศไทย
15.40 น. เดินทางสู่ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ โดย สายการบินเวียดนาม แอร์ไลน์ (VN) เที่ยวบินที่ VN619
17.55 น. เดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพ พร้อมความประทับใจ
อัตราค่าบริการรวม
อัตราค่าบริการไม่รวม
หมายเหตุ : เนื่องจากเป็นการจองทัวร์ล่วงหน้า ณ วันเดินทางจริง อาจจะมีเหตุการณ์ที่ทำให้ไฟล์ทบินล่าช้า หรือเปลี่ยนแปลงเวลาบิน หากท่านใดมีไฟล์ทบินภายในประเทศหรือต่างประเทศก่อนหรือหลังจากการเดินทาง โปรดสำรองเวลาในการจองตั๋วเครื่องบินไว้อย่างต่ำ 4-5 ชั่วโมง ทั้งนี้เพื่อประโยชน์ของตัวท่านเอง ทางบริษัทจะไม่รับผิดชอบค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นในส่วนของตั๋วเครื่องบินที่ไม่เกี่ยวข้องกับโปรแกรมทัวร์
เงื่อนไขการจอง และ การชำระเงิน
โปรดตรวจสอบ Passport : จะต้องมีอายุคงเหลือ ณ วันเดินทางมากกว่า 6 เดือนขึ้นไป และเหลือหน้ากระดาษอย่างต่ำ 2 หน้าหากไม่มั่นใจโปรดสอบถามเจ้าหน้าที่
เงื่อนไขยกเลิกการจอง