04.00 น. : คณะพร้อมกัน ณ สนามบินดอนเมือง อาคารผู้โดยสารขาออกในประเทศ ชั้น 3 อาคาร 2 ประตู 14 เคาน์เตอร์สายการบินนกแอร์ (DD) โดยมีเจ้าหน้าที่ของบริษัทฯคอยต้อนรับและอำนวยความสะดวกในการเช็คเอกสารและสัมภาระก่อนการเดินทาง
05.50 น. : ออกเดินทางสู่ หาดใหญ่ จังหวัดสงขลา โดยสายการบิน นกแอร์ เที่ยวบินที่ DD500
07.15 น. : ถึง สนามบินหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา รับสัมภาระเรียบร้อยแล้ว
***เที่ยวบินอาจมีการเปลี่ยนแปลงทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสายการบินเป็นผู้กำหนด***
นำท่านเดินทางสู่ จังหวัดปัตตานี (ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 1.30 ชม.) ให้ท่านได้อิสระพักผ่อนบนรถ
☞ จากนั้นนำท่านชม มัสยิดกลาง ปัตตานี สถานที่ท่องเที่ยวประจำเมืองปัตตานีที่ออกแบบด้วยสถาปัตยกรรมที่สวยงามมีความโดดเด่น ศาสนสถานศูนย์รวมจิตใจของผู้นับถือศาสนาอิสลามในภาคใต้ที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่ง รูปทรงภายนอกของมัสยิดมีต้นแบบมาจากทัชมาฮาล เป็นสถานที่เมื่อมาถึงปัตตานี ต้องมาชมศิลปและความสวยงามของตัวอาคาร มัสยิดแห่งนี้ยังได้ชื่อว่าเป็นมัสยิดที่สวยงามที่สุดอีกแห่งในประเทศไทยอีกด้วย
☞ สักการะขอพร ศาลเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว หรือ ศาลเจ้าเล่งจูเกียง ศาลเจ้าศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองปัตตานีมาแต่สมัยโบราณ ชาวบ้านให้ความเคารพนับถือ เดินทางมาสักการบูชาเพื่อให้ประสบความสำเร็จขอโชค ขอลาภ การค้าขาย หรือแม้แต่ใครเจ็บป่วย ได้รับความเดือดร้อน ประการใด หากได้มาขอพร บนบาน กับเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว ก็จะหายเจ็บหายป่วยพ้นจากความเดือดร้อน
☞ อิสระเช็คอินและถ่ายรูปที่ร้าน คาเฟ่โรงปี๊ป สไตล์โรงเตี๊ยม โรงปี๊บ คาเฟ่สุดเก๋แห่งปัตตานี ตกแต่งบรรยากาศจีนประยุกต์ ตั้งแต่ทางเข้า ฝาผนัง โต๊ะเก้าอี้ ไปจนถึงตัวอินทีเรียร์ดีไซน์ ทำไมถึงเรียกโรงปี๊บ เพราะเมื่อก่อนในอดีตเดิมเป็น โรงงานผลิตปี๊บ ของเก่าเก็บ ของสะสม ของโบราณเยอะมาก สำหรับใครที่ชอบของสะสมเก่า ๆ ที่นี่มีให้ดูเพียบ คาเฟ่แห่งนี้มีทั้ง เมนูทานเล่น อาหารจานหลัก เครื่องดื่ม บริการนักท่องเที่ยวทุกท่าน (ไม่รวมค่าอาหารและเครื่องดื่มทุกชนิด)
กลางวัน : รับประทานอาหารกลางวัน
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เบตง อำเภอปลายด้ามขวาน ตั้งอยู่ใต้สุดของประเทศไทย เต็มไปด้วยแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจ ทั้งธรรมชาติและวัฒนธรรม (ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 2.30 ชม.)
☞ แวะถ่ายรูป สะพานแตปูซู สะพานแขวนแบบพื้นไม้ มีความกว้าง 1.8 เมตร ยาวกว่า 100 เมตร ข้ามแม่น้ำปัตตานี สร้างมาตั้งแต่สมัยอดีตกำนันตำบลอัยเยอร์เวง นายมูเซ็ง แตปูซู
เย็น : รับประทานอาหารเย็น
เช้า : อิสระอาหารเช้าตามอัธยาศัย
☞ สู่ วัดพระโพธิสัตว์กวนอิม สถานที่ศักสิทธิ์และแหล่งศรัทธาของชาวเบตง เป็นที่ประดิษฐานขององค์เทพ อาทิ เจ้าแม่กวนอิม ท่านแป๊ะกง ท่านกวงกง เจ้าแม่จิวหวังเหย่ ยี่หวังต้าตี้ หวาโถ่วเซียนซื่อ ขงจื๊อ มีจุดเด่นคือเจดีย์ 7 ชั้นอันโดดเด่น สร้างขึ้นประมาณปี พ.ศ. 2509 โดยผู้มีจิตศรัทธาได้ร่วมกันบริจาคเงิน มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวมาเลเซียที่เลื่อมใสศรัทธาเดินทางมาสักการะขอพรด้านการมีบุตรและโชคลาภ.
☞ เช็คอิน ถ่ายรูปคู่ป้ายใต้สุดแดนสยาม เป็นที่ระลึกตั้งอยู่บริเวณชายแดนปลายสุดถนนทางหลวงหมายเลข 410 ห่างจากตัวเมืองประมาณ 7 กิโลเมตร เป็นแนวเขตแดนระหว่างอำเภอเบตง กับรัฐเปรัคประเทศมาเลเซีย มีเอกลักษณ์ลายเส้นแผนที่ประเทศไทยสีทองโดดเด่นสลักบนป้ายหินอ่อน รายล้อมไปด้วยธรรมชาติและไม้ดอกไม้ประดับอันงดงาม
ได้เวลาอันสมควร นำท่านสู่ ร้านรังนกและร้านสมุนไพร ท่านสามารถเลือกซื้อสินค้าเป็นของฝากตามอัธยาศัย
กลางวัน : รับประทานอาหารกลางวัน
☞ สู่ สวนหมื่นบุปผา หรือ สวนไม้ดอกเมืองหนาวเบตง เป็นสวนดอกไม้เมืองหนาวแห่งเดียวในภาคใต้ เนื่องจากเบตงมีสภาพอากาศที่เหมาะสม ด้วยสภาพภูมิประเทศที่อยู่สูงจากระดับทะเลปานกลางราว 800 เมตร มีอากาศเย็นสบายตลอดปี ระบบน้ำเพียงพอ จึงมีความเหมาะสมกับการปลูกไม้ดอกเมืองหนาวนานาชนิด ท่ามกลางภูเขาในโครงการตามพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี มีดอกไม้นานาพันธุ์บานสะพรั่ง เชิญชมความสวยงามของดอกไม้ที่ปลูกเรียงรายเป็นทิวแถวและสัมผัสกับสภาพภูมิอากาศที่มีอุณหภูมิต่ำกว่าพื้นที่อื่นของภาคใต้
☞ เดินทางสู่ บ่อน้ำร้อนเบตง บ่อน้ำร้อนธรรมชาติขนาดใหญ่ มีขนาดพื้นที่ประมาณ 3 ไร่ โดยจะมีน้ำร้อนผุดขึ้นมาจากใต้ดิน ประกอบด้วยแร่ธาตุต่างๆ มากมาย อุณหภูมิของน้ำอยู่ที่ประมาณ 80 องศาเซลเซียส ซึ่งตรงจุดที่มีน้ำเดือดนี้ สามารถต้มไข่ไก่ได้จนสุกภายใน 10 นาที ซึ่งแต่ละโซนออกแบบอย่างได้มาตรฐาน ถูกสุขลักษณะ ทั้งบ่อน้ำร้อนบ่อใหญ่ บ่อแช่น้ำร้อนใหม่ และอาคารธาราบำบัด โดยเชื่อกันว่าน้ำแร่แห่งนี้ สามารถบรรเทารักษาโรคภัยต่างๆ ได้เป็นอย่างดี อาทิ โรคปวดเมื่อย โรคเหน็บชา โรคผิวหนัง เป็นต้น
☞ แวะถ่ายรูป ป้าย OK BATONG จุดเช็คอินที่คอยต้อนรับนักท่องเที่ยวที่มาเยือนเมืองในหมอก ดอกไม้งาม
☞ ชม อุโมงค์เบตงมงคลฤทธิ์ ตั้งอยู่บริเวณถนนอมรฤทธิ์ ตัดกับถนนภักดีดำรง ผ่านสวนสาธารณะออกสู่ถนน บริเวณหน้าสวนนก เป็นอุโมงค์รถยนต์ลอดภูเขาแห่งแรกของเมืองไทย ที่ขุดทอดโค้งให้รถวิ่งไปมา ความยาวตลอดอุโมงค์ ประมาณ 268 เมตร และทำเป็นทางเดินตลอดสองข้างทาง
ถ่ายรูปเป็นที่ระลึกบริเวณ ตู้ไปรษณีย์แห่งอำเภอเบตงที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทยและใหญ่ที่สุดในโลก ตู้เดิมตั้งอยู่ที่บริเวณสี่แยกหอนาฬิกาใจกลางเมืองเบตง สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2467 ตั้งแต่ก่อนสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง จุดประสงค์ที่สร้างไว้ในครั้งแรกก็เพื่อใช้เป็นที่กระจายข่าวสารบ้านเมืองให้ชาวเมืองเบตง ใกล้กันเป็น หอนาฬิกาคู่บ้านคู่เมืองอำเภอเบตง ซึ่งเป็นสิ่งก่อสร้างเก่าแก่อยู่เคียงคู่กับเมืองเบตงมาช้านาน เปรียบเหมือนสัญลักษณ์ที่ตั้งอยู่จุดศูนย์กลางของเมือง สร้างด้วยหินอ่อนขาวนวลอันเลื่องชื่อจากยะลาที่ได้รับการยอมรับในเรื่องของความแข็งแรง สวยงามและคงทน อิสระให้ท่านเก็บภาพที่ระลึกตามอัธยาศัย
สตรีทอาร์ตเบตง (STREET ART BETONG) แลนด์มาร์คกลางเมืองเบตง ที่เล่าขานตำนานเบตงผ่านภาพวาดรอบเมือง เพื่อสร้างความประทับใจให้ชาวเบตงและนักท่องเที่ยวที่มาเยือน.
เย็น : อิสระอาหารเย็นตามอัธยาศัย
04.00 น. : ☞ สู่ จุดชมวิวทะเลหมอกอัยเยอร์เวง เป็นจุดชมวิวทะเลหมอกยอดฮิตของเบตง อยู่ในพื้นที่ของเขาไมโครเวฟ มีความสูงจากระดับน้ำทะเล 2,038 เมตร เป็นทะเลหมอกที่ใหญ่และสวยงาม ในช่วงเวลาเช้าจุดชมวิวแห่งนี้จะกลายเป็นสวรรค์บนดินเปิดให้นักท่องเที่ยวเต็มอิ่มกับทะเลหมอก สัมผัสอากาศอันบริสุทธิ์และทัศนียภาพที่สวยงามของยอดเขาไมโครเวฟ (ขึ้นอยู่กับสภาพภูมิอากาศ) อีกหนึ่งไฮไลท์สำหรับการชมทะเลหมอกอัยเยอร์เวง ก็คือ สกายวอล์ค ทะเลหมอกอัยเยอร์เวง ระเบียงทางเดินที่ยื่นออกไปจากฐานมีความยาวรวม 63 เมตร ส่วนปลายเป็นระเบียงชมวิวพื้นกระจกใสที่สามารถมองทะลุลงไปได้ถึงพื้นเบื้องล่าง สามารถชมวิวทิวทัศน์ได้รอบทิศทาง และวิวพระอาทิตย์ขึ้นและทิวทัศน์ของทะเลหมอกอัยเยอร์เวงอันสวยงามสุดอลังการ (ราคาทัวร์ไม่รวมค่ารถขึ้นจุดชมวิวและค่าถุงผ้าสวมรองเท้าเดินบนสกายวอร์ค)
เช้า : รับประทานอาหารเช้า (SET BOX)
☞ แวะ จุดชมวิวสะพานข้ามอ่างเก็บน้ำเขื่อนบางลาง หรือสะพานโต๊ะกูแช อีกหนึ่งสถานที่พักผ่อนและชมวิวทิวทัศน์ภูเขาที่โอบล้อมเขื่อนบางลาง ให้ท่านได้ชมวิว สูดอากาศสดชื่น ถ่ายรูปตามอัธยาศัย (ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 1.30 ชม.) นำท่านเดินทางสู่ เมืองปัตตานี (ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 2 ชม.) อิสระพักผ่อนบนรถชมวิวสองข้างทาง
☞ สู่ วัดช้างให้ วัดเก่าแก่กว่า 300 ปี สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของชาวจังหวัดปัตตานีและจังหวัดใกล้เคียง วัดต้นตำรับของหลวงปู่ทวด กราบสักการะหลวงปู่ทวด สถูปหรือมณฑปบรรจุอัฐิหลวงพ่อทวด วัดช้างให้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวขึ้นชื่อและเป็นอีกหนึ่งสัญลักษณ์ของจังหวัด ที่มีผู้คนไปกราบไหว้บนบานใครเจ็บไข้ได้ป่วยหรือวัตถุสิ่งของถูกขโมยหรือสูญหายก็พากันไปบนบาน ณ ที่สถูปแห่งนี้
กลางวัน : รับประทานอาหารกลางวัน นำท่านเดินทางสู่ หาดใหญ่ (สงขลา) ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 1.30 ชม. ให้ท่านได้อิสระพักผ่อนบนรถ
☞ (หากมีเวลา) นำท่านเดินทางสู่ ตลาดกิมหยง ตลาดขายของฝากและของที่ระลึกขนาดใหญ่ในอำเภอหาดใหญ่ ตั้งอยู่บนอาคารสองชั้น ริมถนนละม้ายสงเคราะห์ ชั้นบนเป็นร้านขายสินค้า ชั้นล่างเป็นตลาดขายของแห้ง เดิมอาคารแห่งนี้เคยเป็นโรงภาพยนตร์ ชื่อ โรงภาพยนตร์เฉลิมไทย ชื่อตลาดกิมหยง มาจากชื่อเต็มว่า “ตลาดชีกิมหยง” เป็นชื่อของคหบดีชาวจีนชื่อ ชีกิมหยง และภรรยาชื่อละม้าย เจ้าของที่ดินแต่เดิม ให้ท่าน อิสระช้อปปิ้งสินค้าของฝากนานาชนิด เช่น ขนม ของทานเล่น ผลไม้อบแห้ง เสื้อผ้า รองเท้า เครื่องสำอาง เครื่องใช้ไฟฟ้าและสินค้าอื่นๆอีกมากมายตามอัธยาศัย จนถึงเวลานัดหมาย
เย็น : อิสระอาหารเย็นตามอัธยาศัย สมควรแก่เวลานำท่านเดินทางสู่สนามบินหาดใหญ่
20.10 น. : ออกเดินทางสู่ กรุงเทพฯ โดยสายการบิน นกแอร์ เที่ยวบินที่ DD507
21.35 น. : เดินทางถึง สนามบินดอนเมือง โดยสวัสดิภาพพร้อมความประทับใจ
หมายเหตุ
**เมื่อท่านออกเดินทางไปกับคณะแล้ว ท่านงดการใช้บริการรายการใดรายการหนึ่งหรือไม่เดินทางพร้อมคณะถือว่าท่านสละสิทธิ์ไม่อาจเรียกร้องค่าบริการและเงินมัดจำคืนไม่ว่ากรณีใดทั้งสิ้น **