23.30 น. : พร้อมกันที่ สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารขาออก ชั้น 4 ประตู 3 แถว F เคาน์เตอร์สายการบินแอร์เอเชียเอ็กซ์ โดยมีเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกแก่ทุกท่าน
02.35 น. : ออกเดินทางสู่ กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ โดย เที่ยวบินที่ XJ 700 (ไม่มีบริการอาหารบนเครื่อง)
10.05 น. : เดินทางถึง สนามบินอินชอน ประเทศเกาหลีใต้ ผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองเป็นที่เรียบร้อยแล้ว (เวลาท้องถิ่นที่เกาหลีใต้ เร็วกว่าประเทศไทย 2 ชั่วโมง กรุณาปรับเวลาของท่านเพื่อความสะดวกในการนัดหมาย) หลังผ่านขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมือง และตรวจรับสัมภาระเรียบร้อยแล้ว ยินดีต้อนรับทุกท่านสู่ สาธารณรัฐเกาหลีใต้
กลางวัน : บริการอาหารกลางวัน เมนู บูลโกกิ
จากนั้นสัมผัสธรรมชาติในบรรยากาศสุดโรแมนติกที่ เกาะนามิ เกาะขนาดเล็กกลางแม่น้ำ ซึ่งถูกขนานนามให้เป็น “เกาะแห่งความรัก” อีกหนึ่งจุดหมายในฝันของนักท่องเที่ยว ในช่วงฤดูหนาวจะถูกปกคลุมไปด้วยหิมะสีขาวโพลน ทำให้ที่นี่กลายเป็นดินแดนหน้าหนาวที่มีทั้งความงดงามและความโรแมนติก โดยซีรีย์เรื่อง “เพลงรักในสายลมหนาว” ก็ใช้โลเคชั่นบนเกาะบนนามิในการถ่ายทำเป็นหลัก
บริเวณ Metasequoia Lane เป็นแนวต้นไม้สูงสองข้างทางที่ทอดยาวไปเป็นทางเดินท่ามกลางหิมะหนานุ่ม สิ่งแรกที่หลายๆ คนมักทำเมื่อไปถึงเกาะนามิคือ การไปโพสท่าถ่ายรูปคู่กับ รูปปั้นพระ-นางจากเรื่อง เพลงรักในสายลมหนาว บริเวณ Gongsaengwon Garden ยังดึงดูดนักท่องเที่ยวด้วยรูปปั้นสุดโรแมนติกของ เบยองจุน และ ชเวจีอู นักแสดงนำจากเรื่องเพลงรักในสายลมหนาว ที่ไม่ว่าใครก็ต้องการที่จะมาถ่ายรูปด้วย ถ้าใครไม่ได้ถ่ายมารูปตรงนี้จะถือว่ามาไม่ถึงเกาะนามิ
สนุกกับการเล่นสกีบน ลานสกีขนาดใหญ่ เมื่อย่างเข้าสู่ฤดูหนาวภูเขาของประเทศเกาหลีที่จะถูกปกคลุมเต็มไปด้วยหิมะ ด้านในจะมีลานสกีทางลาดที่เหมาะสมกับนักสกีทุกเวล ทั้งระดับเริ่มต้นสำหรับมือใหม่หัดเล่นสกี เนินระดับกลาง และเนินสำหรับคนที่เล่นสกีจนชำนาญแล้ว เนินลาดส่วนใหญ่จะช่วยให้นักสกีที่มีประสบการณ์น้อยได้สนุกสนานไปกับการเล่นสกีด้วยความปลอดภัย ส่วนทางลาด Deer Slope จะมีความลาดชันน้อย เหมาะอย่างยิ่งสำหรับนักเล่นสกีที่อยู่ระหว่างระดับเริ่มต้น ส่วนทางลาดแบบ S Dragon Slope จะเพิ่มความสนุกสนานเป็นอย่างมากสำหรับนักสกีระดับกลาง ควรเตรียมอุปกรณ์ก่อนเล่นสกีให้พร้อม อาทิ เสื้อแจ๊คเก็ตกันนํ้า กางเกงรัดรูป ผ้าพันคอ แว่นกันแดด และถุงมือสกี ก่อนลงสนามจริงต้องรับฟังข้อแนะนำต่างๆ และฝึกวิธีการเล่นจากเจ้าหน้าที่ท้องถิ่น เพื่อความปลอดภัยของผู้เล่นทุกคน สำหรับคนที่เล่นจนโปรสามารถนั่งกระเช้าขึ้นไปได้บนเขาได้เลย (อัตราค่าบริการไม่รวม: ค่าเล่นสกี ชุดสกี อุปกรณ์ในการเล่นสกี สกีลิฟท์ สโนว์สเลด ประมาณ 60,000 วอน)
หมายเหตุ: การเปิดให้บริการของลานสกีและปริมาณของหิมะ ขึ้นอยู่กับความเอื้ออำนวยของสภาพอากาศในแต่ละปี หากมีปริมาณหิมะไม่เพียงพอ ลานสกีอาจจะยังไม่เปิดให้บริการ หากไม่สามารถเดินทางไปยังสถานที่ตามที่ระบุในโปรแกรมทัวร์ได้ บริษัทฯขอสงวนสิทธิ์ปรับรายการท่องเที่ยวทดแทนเป็น ONE MOUNT (SNOW PARK*)
เย็น : บริการอาหารเย็น เมนู ทัคคาลบิ
เช้า : บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
จากนั้น นำท่านไปเก็บสตรอว์เบอร์รี่สดๆ จาก ไร่สตรอว์เบอร์รี่ ใกล้กรุงโซล หนึ่งในผลไม้ยอดฮิตประจำฤดูกาล ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ที่หลายคนชื่นชอบ ซึ่งสตรอว์เบอร์รี่ของเกาหลีนั้นขึ้นชื่อสุดๆ ในเรื่องความอร่อย ผลของมันจะมีขนาดใหญ่กว่าสตรอว์เบอร์รี่ทั่วไปในเมืองไทย มีเนื้อที่นุ่มมากๆ และรสชาติหวานละมุนสุดๆ เรียกได้ว่าเคี้ยวไปฟินไปกันเลยทีเดียว ทางจะสวนมีเจ้าหน้าที่มาคอยสาธิตวิธีการเก็บผลสตรอว์เบอร์รี่ที่ถูกต้อง จากนั้นจะปล่อยให้ทุกคนได้เก็บเจ้าผลไม้แสนหวานนี้ด้วยตัวเอง
นำท่านผจญภัยใน สวนสนุกเอเวอร์แลนด์ สวนสนุกที่ใหญ่ที่สุดในประเทศเกาหลี ตั้งอยู่ในหุบเขาที่มีทัศนียภาพงดงาม จัดได้ว่าเป็น 1 ใน 4 สวนสนุกยอดนิยมของโลก มีงานเทศกาลต่างๆ ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนตลอดทั้งปี เช่น Tulip Festival, Rose Festival, Summer Splash, Halloween Festival และ Romantic Illumination ที่จะเปิดไฟสว่างไสวในตอนกลางคืน เอเวอร์แลนด์เป็นสวนสนุกขนาดใหญ่แบ่งออกเป็นโซนถึง 5 โซน
กลางวัน : บริการอาหารกลางวัน เมนู บาร์บีคิวปิ้งย่างสไตล์เกาหลี
นำท่านเลือกซื้อเครื่องสำอาง คอสเมติคเอาท์เลท ศูนย์รวมเครื่องสำอางเกาหลีหลากหลายแบรนด์ หรือจะเป็นแบรนด์ JSM ของทางตัวร้านเองก็มีให้เลือกมากมาย อาทิ แสตมป์เซลล์ โบท็อกซ์ ครีมน้ำแตก ครีมหอยทาก และสินค้าอื่นๆ มีให้เลือกมากมาย และนำชม ศูนย์สมุนไพรโสม ราชาแห่งมวลสมุนไพร ช่วยกระตุ้นการทำงานของเซลล์เม็ดเลือดขาว ชาวเกาหลีนำมาใช้รักษา และดูแลสุขภาพเป็นเวลานานกว่า 2,000 ปี
ช้อปปิ้งมันส์ๆ กันต่อที่ ถนนฮงแด แหล่งรวมวัยรุ่นจากทั่วทุกสารทิศ เพราะอยู่ใกล้มหาวิทยาลัยฮงอิก เรียกได้ว่าเป็นย่านที่คึกคักตั้งแต่กลางวันไปจนถึงกลางคืน ถ้าพูดถึงเรื่องอาหารการกิน คาเฟ่ หรือร้านอาหารก็เลือกหาได้ไม่ยาก ที่นี่มีร้านอาหารที่ขายอาหารทำเองมากมายในราคาที่ไม่แพงจนเกินไป และยังมีตัวเลือกอาหารหลากหลายประเภท ยามค่ำคืนของโซลจะพบกลุ่มนักดนตรี และนักเต้นเบรคแดนซ์มาโชว์ฝีมือวาดลวดลายอยู่เต็มถนน คลับและบาร์บนถนนสายนี้จะเปิดในตอนดึก และบางที่ก็เปิดตลอด 24 ชั่วโมง โดยเฉพาะในช่วงสุดสัปดาห์
ค่ำ : บริการอาหารเย็น เมนู บิบิมบับ
เช้า : บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
จากนั้น นำชม RED PINE ผลิตภัณฑ์ที่สกัดจากน้ำมันสนเข็มแดง มีสรรพคุณช่วยล้างพิษระบบเลือดให้สะอาด เพิ่มภูมิต้านทานร่างกายให้แข็งแรง และช่วยรักษาสมดุลในร่างกาย นำชม ศูนย์สมุนไพรฮ็อกเกนามู เป็นสมุนไพรที่ช่วยบำรุงตับ ล้างตับ ทำให้ตับแข็งแรง สามารถรับประทานได้ทุกเพศทุกวัย แม้ว่าไม่ได้เป็นโรคอะไรเลย ทุกส่วนของฮ็อกเก็ตนามู กิ่ง ก้าน ใบ เป็นสมุนไพรได้หมด แต่ส่วนที่ดีที่สุดคือเมล็ดแก่ช่วยถอนพิษสุราได้อย่างยอดเยี่ยม
นำท่านชมขั้นตอนการทำสาหร่ายเกาหลี พิพิธภัณฑ์สาหร่าย ต้นกำเนิดของการผลิตสาหร่าย พร้อมทั้งลิ้มลองรสชาติสาหร่ายของเกาหลีแบบดั้งเดิม ซึ่งสามารถเลือกซื้อเป็นของฝากได้ และ เรียนรู้การทำคิมบับ ข้าวห่อสาหร่ายเกาหลี เมนูเบสิคสุดๆ เป็น Street Food ที่นิยมมากของเกาหลี พิเศษ !! ใส่ชุดประจำชาติเกาหลี “ฮันบก” และเก็บภาพเป็นที่ระลึก
เที่ยง : บริการอาหารกลางวัน เมนู ไก่ตุ๋นโสม
จากนั้น เยือนอดีตพระราชวังหลวงที่เก่าแก่ และใหญ่ที่สุดในกรุงโซล พระราชวังเคียงบกกุง มรดกทางวัฒนธรรมอันทรงคุณค่าของประวัติศาสตร์เกาหลี มีสถาปัตยกรรมที่งดงามสอดคล้องกับธรรมชาติอย่างลงตัว ฉากหลังมีปราการธรรมชาติเป็นภูเขาพูกักซาน ส่งให้พระราชวังแห่งนี้ดูยิ่งใหญ่ขึ้นไปอีก เพียงแค่ได้ไปเยือนก็รู้สึกเหมือนได้ย้อนเวลาไปอยู่ในสมัยราชวงศ์โชซอน เดิมภายในพระราชวังมีพระตำหนักถึง 200 ตำหนัก แต่ถูกทำลายลงในช่วงที่ประเทศญี่ปุ่นเข้ามารุกรานหลงเหลืออยู่เพียงแค่ 10 ตำหนักเท่านั้น บรรดาคู่รักชาวเกาหลีมักจะใส่ชุดฮันบกมาถ่ายรูปคู่กับฉากหลังที่สวยงามอย่าง มุมมหาชนที่ใครมาเยือนก็ต้องได้เก็บภาพความประทับใจกับ “พระที่นั่งคึนจองวอน” อดีตที่ประทับของพระมหากษัตริย์เพื่อใช้ว่าราชการ ด้านหน้าจะเป็นลานกว้างไว้ใช้จัดพิธีสำคัญของทางราชสำนัก นอกจากนี้ยังมีศาลากลางน้ำ ศาลาคยองฮวีรู ห้องจัดเลี้ยงหลวง และเป็นศาลาที่ใหญ่ที่สุดของประเทศเกาหลีใต้ ถือเป็นจุดไฮไลท์ที่นักท่องเที่ยวมาถ่ายรูปเยอะพอๆ กับพระตำหนักหลวงเลยก็ว่าได้ ปิดท้ายด้วย ศาลาฮยางวอนจอง อีกหนึ่งไฮไลท์ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นศาลาที่งดงามมากที่สุดแห่งหนึ่ง มีรูปทรงหกเหลี่ยมตกแต่งด้วยลวดลายและสถาปัตยกรรมเกาหลีแบบดั้งเดิม ตั้งอยู่บนเกาะกลางทะเลสาบที่เชื่อมต่อกับ สะพานไม้ชวีฮยางกโย สะพานไม้ที่ยาวที่สุดในสมัยราชวงศ์โชซอน และเป็นจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีที่งดงามจนหาที่เปรียบไม่ได้
ช้อปปิ้งสินค้าปลอดภาษี ดิวตี้ฟรี พบกับแบรนด์เนมชั้นนำระดับโลก และสถานที่สำหรับการช้อปปิ้งที่มีการบริการแบบครบวงจร แหล่งรวมสินค้าแบรนด์หรูทั้งน้ำหอม เสื้อผ้า เครื่องสำอาง กระเป๋า นาฬิกา มีหลากหลายแบรนด์ดังให้เลือกซื้อมากมาย
เอาใจขาช้อปทั้งหลายพาตะลุย ย่านเมียงดง แหล่งช้อปปิ้งอันดับต้นๆ ที่ทุกคนรู้จักกันเป็นอย่างดี สวรรค์ของสาวนักช้อป สามารถเลือกซื้อเลือกหาสินค้านานาประเภทได้ตามใจชอบ อาทิ เสื้อผ้า รองเท้า เครื่องสำอาง และอื่นๆ อีกมากมาย รวมเอาไว้แทบทุกแบรนด์ที่มีอยู่ในเกาหลี ราคาของสินค้าจะเท่ากัน ต่างกันที่ของแถมว่าร้านไหนให้เยอะกว่ากันเท่านั้น
นอกจากการมาช้อปปิ้งแล้ว เสน่ห์อีกอย่างของที่นี่คือ STREET FOOD สองข้างทางเต็มไปด้วยรถเข็นที่ขายของกินจำพวก เครันปัง เค้กไข่สไตล์เกาหลีแสนอร่อย ล็อบสเตอร์ย่างชีส กุ้งตัวใหญ่สดรสหวาน ย่างบนเตาร้อนๆ โรยหน้าด้วยชีสแบบเข้มข้น หอยเชลล์อบชีส หอยไซส์ใหญ่ย่างเนยโรยทับด้วยชีส ครัวซองค์ปลา ขนมอบเนื้อนุ่มคล้ายแพนเค้กรูปปลามีหลากหลายไส้ให้เลือก ต็อกบกกิ แป้งราดซอสสีแดงรสจัด โอเด้ง แผ่นแป้งพับเสียบไม้รสชาติคล้ายลูกชิ้นปลา โฮต็อก ขนมแป้งแพนเค้กหนานุ่มสอดไส้น้ำตาลหรือน้ำผึ้ง ออมุก ลูกชิ้นปลาบดเสียบไม้ ทวิกิม เมนูผัก และอาหารทะเลชุบแป้งทอด มันหวาน หรือของทอดต่างๆ ล้วนมีให้ลองชิมได้รสชาติแบบคนเกาหลีแท้ๆ
ค่ำ : อิสระอาหารเย็นตามอัธยาศัย เพื่อความสะดวกในการช้อปปิ้ง
เช้า : บริการอาหารเช้า เมนู อูด้ง
จากนั้น แวะซื้อของฝาก ซุปเปอร์มาเก็ตละลายเงินวอน มีขนมเกาหลีหลากหลายชนิดให้เลือกซื้อ ไม่ว่าจะเป็นมาม่าเผ็ดเกาหลี สาหร่าย นมกล้วย เยลลี่ยาคูลท์ ขนมธัญพีช บิสกิต เวเฟอร์เอ็กซ์ไฟว์ เรียลบราวนี่ และ เปเปโร่ เป็นต้น
ได้เวลาสมควร นำท่านเดินทางสู่สนามบินอินชอน
11.20 น. : ออกเดินทางสู่ สนามบินสุวรรณภูมิ โดย เที่ยวบินที่ XJ 701 (ไม่มีบริการอาหารบนเครื่อง)
15.10 น. : เดินทางถึงกรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ พร้อมความประทับใจมิรู้ลืม
เงื่อนไขประกันการเดินทาง ค่าประกันอุบัติเหตุและค่ารักษาพยาบาล คุ้มครองเฉพาะกรณีที่ได้รับอุบัติเหตุระหว่างการเดินทาง ไม่คุ้มครองถึงการสูญเสียทรัพย์สินส่วนตัว และไม่คุ้มครองโรคประจำตัวของผู้เดินทาง
เงื่อนไขการสำรองที่นั่งและการยกเลิกทัวร์
การจองทัวร์ :
กรณีลงทะเบียน K-ETA ไม่ผ่าน : (การคืนเงิน)
กรณีลงทะเบียน K-ETA ไม่ผ่าน ถูกปฏิเสธการเข้าประเทศเกาหลี ทางบริษัทฯขอหักค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นตามจริง เช่น ค่ามัดจำตั๋วกับทางสายการบิน และค่าบริการลงทะเบียน K-ETA
กรณียกเลิก : (จอยกรุ๊ป)
กรณียกเลิก : (ตัดกรุ๊ป)
กรณีเจ็บป่วย :