01.00 น. พร้อมกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารขาออก ประตูที่ 4-5 เคาน์เตอร์ G สายการบิน SpiceJet เจ้าหน้าที่ให้การต้อนรับพร้อมอำนวยความสะดวกในการเช็คอินเอกสารและสัมภาระ
กระเป๋าเล็กถือติดตัวขึ้นเครื่องบิน
03.45 น. โดยสายการบิน SpiceJet(ใช้เวลาเดินทาง 4 ชั่วโมง 5 นาที) เหินฟ้าสู่ เดลลี ประเทศอินเดีย
06.20 น. เดินทางถึง สนามบิน Indira Gandhi International(เดลลี) นำท่านผ่านพิธีตรวจคนเข้าเมือง แล้วนำท่านขึ้น Shuttle Bus เดินทางสู่ สนามบินภายใน
07.30 น. นำท่านเช็คอินเพื่อเดินทางสู่ ศรีนาคาร์ รับประทานอาหารเช้า(1)set box
09.25 น. โดยสายการบิน Indigo เที่ยวบิน 6E576 เหินฟ้าสู่ ศรีนาคาร์
11.00 น. เดินทางถึง สนามบิน Sheikh UL-Alam International(ศรีนาคาร์) นำท่านเดินทางสู่ โซนามาร์ค (ระยะทาง 80 กิโลเมตร ใช้เวลาในการเดินทาง 2 ชั่วโมง) ซึ่งจะพบทิวทัศน์(2740 ม.) ที่น่าตื่นเต้นกับเส้นทางที่ไต่ความสูงไล่ขึ้นไปถึงระดับ2,740 ม. จากระดับน้ำทะเล มีเทือกเขาหิมาลัยเป็นฉากหลัง ที่เรียกขานตามท้องถิ่นว่า ทาจิวาส ภูเขาซึ่งปกคลุมไปด้วยหิมะตลอดปี มีแม่น้ำสินธุ
12.00 น. รับประทานอาหารกลางวัน(2) แล้วเดินทางสู่ คาร์กิล KARGIL(ระยะทาง 120 กิโลเมตร ใช้เวลาในการเดินทาง 3 ชั่วโมง) ซึ่งจะพบทิวทัศน์ที่น่าตื่นเต้นกับเส้นทางที่ไต่ความสูงไล่ขึ้นไปถึงระดับ2,690 ม. จากระดับน้ำทะเล มีเทือกเขาหิมาลัยเป็นฉากหลัง ที่เรียกขานตามท้องถิ่นว่า ทาจิวาส ภูเขาซึ่งปกคลุมไปด้วยหิมะตลอดปี มีแม่น้ำสินธุ ลดเลี้ยว เป็นสถานที่เริ่มต้นมุ่งหน้าสู่ ลาดัคห์ หรือรู้จักกันดีในชื่อว่า “ประตูสู่ลาดัคห์” ผ่าน Zojila Pass เป็นทางที่จะเดินทางสู่ เลห์ อีกเส้นทางที่มีความสวยงามมาก อยู่ระหว่างเมือง Baltal (ห่างจากโซนามาร์ค 15 กิโลเมตร) และ เมือง Dras(ห่างจากโซนามาร์ค 60 กิโลเมตร) (สถานที่ต้องห้ามที่หนาวที่สุดอันดับสองของโลก) เราหยุดตรวจหนังสือเดินทาง และเดินทางต่อจนถึงที่ Kargil(2710 ม.) นำท่านชม Kargil War Memorial อนุสรณ์สถานสงครามคาร์กิล สร้างขึ้นเพื่อระลึกถึงทหารอินเดีย ที่ปราบกบฎหัวรุนแรงแบ่งแยกประเทศ
19.00 น. รับประทานอาหารค่ำ(3)ที่ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเข้าที่พัก Zojila Residency Hotel หรือเทียบเท่า
07.00 น. รับประทานอาหารเช้า(4)ที่ ห้องอาหารของโรงแรม
08.00 น. นำท่านเดินทางสู่ มุลเบค Mulbekh(ระยะทาง 36 กิโลเมตร ใช้เวลาในการเดินทาง 40 นาที) เป็นเมืองเล็กๆ หมู่บ้านชาวพุทธแห่งแรก นำท่านชม mulbekh monastery พระพุธรูปแกะสลักที่หน้าผาเล็กๆ ซึ่งเป็นรูปปั้นของพระพุทธเจ้า Matreya ซึ่งเชื่อกันว่ามีอยู่ตามธรรมชาติ เราข้ามผ่านสูงสุด (Fotula 4166 mtrs.) แล้วเดินทางสู่ ลามายุรุ Lamayuru(Moonland) (ระยะทาง 66 กิโลเมตร ใช้เวลาในการเดินทาง 1.30 ชั่วโมง) ผ่านหุบเขาด้านล่างของ ladakh (shamam) นำท่านชม lamayuru monastery ตั้งอยู่บนหุบเขาสูง มองเห็นหมู่บ้านลามายุรุได้ นับเป็นวัดที่ใหญ่และเก่าแก่ที่สุดในลาดัก เป็นวัดในพระพุทธศาสนานิกายหมวกแดง ชม Moon Land อันเกิดจากกระแสคลื่นลมพัดพา การพังทลายที่ไม่สม่ำเสมอกันของหน้าดิน ที่เกิดจากการกัดกร่อนของหิมะละลาย ทำให้ภูเขาเป็นรูปร่างขรุขระ เป็นหลุมบ้าง คล้ายกับผิวของดวงจันทร์
12.00 น. รับประทานอาหารกลางวัน(5)ที่ ภัตตาคาร
บ่าย ออกเดินทางสู่ อัลชิ Alchi (ระยะทาง 55 กิโลเมตร ใช้เวลาในการเดินทาง 1 ชั่วโมง) เมืองเส้นทางการค้า เส้นทางสายไหม ประกอบด้วยการตั้งถิ่นฐานสี่แห่งในหมู่บ้าน Alchi ในภูมิภาค Ladakh ตอนล่าง โดยมีอนุสรณ์สถานในยุคต่างๆ ในสี่หมู่บ้านนี้ ชม Alchi Temple ได้รับการกล่าวขานว่าเป็นวัดที่เก่าแก่และมีชื่อเสียงที่สุด ชม Likir Gompa เป็นวัดใน Ladakh ตั้งอยู่ที่ระดับความสูง 3700 เมตร บนเนินเขาเล็กๆ ในหุบเขาในหมู่บ้าน Likir เดินทางสู่ หมู่บ้านบาสโก ตั้งอยู่บนความสูงจากระดับน้ำทะเล 3,292 เมตร ในอดีตเคยเป็นศูนย์กลางวัฒนธรรมและการเมืองมักถูกเรียกว่าเป็นบันทึกแห่งลาดัก สร้างในศตวรรษที่ 15 เป็น 1 ใน 100 แห่งของมรดกโลกที่เสี่ยงต่อการพังทลาย ระหว่างทางชมทิวทัศน์ Nimu ของแม่น้ำ Zanskar ไหลไปตาม Indus และจุดบรรจบกัน ชม Magnetic Hill เป็นเนินแรงโน้มถ่วง พื้นที่โดยรอบสร้างภาพลวงตาของเนินเขาอย่างอัศจรรย์ จนกระทั่งเดินทางถึง เลห์(3500 ม.) เมืองหลวงของลาดักห์
19.00 น. รับประทานอาหารค่ำ(6)ที่ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเข้าที่พัก The Neture’Land Hotel หรือเทียบเท่า
06.00 น. รับประทานอาหารเช้า(7)ที่ ห้องอาหารของโรงแรม
07.00 น. ออกเดินทางสู่เส้นทางเดินรถ(มอเตอร์ไซด์) ที่สูงที่สุดในโลก วิวภูเขาที่ปกคลุมด้วยหิมะสวยงามที่น่าประทับใจอีกวันหนึ่ง จนถึงคาร์ดุงลาพาส Khardung La Pass สูงจากระดับน้ำทะเล 18380ฟุต หรือ 5560เมตร เป็นจุดที่รถสามารถขึ้นสู่หิมาลัยสูงที่สุดในโลก IT IS THE WORLD’S HIGHEST MOTORABLE PASS อยู่ห่างจากเลห์ 39กม. ให้ท่านได้แวะถ่ายรูป เข้าห้องน้ำแล้วเดินทางต่อ จากนี้ไปก็จะลงเขาไปเรื่อยๆ ผ่านวิวที่สุดยอดอีกวันหนึ่งไม่แพ้ที่ใดๆที่ผ่านมาแล้ว
12.00 น. รับประทานอาหารกลางวัน(8)ที่ ภัตตาคาร
บ่าย ออกเดินทางสู่หมู่บ้านฮุนดร้า Hundra ที่มีส่วนหนึ่งของหมู่บ้านเป็นทะเลทรายแซนดูน Sandune ทะเลทรายที่ลมพัดพามาให้เกิดมีขึ้นตามธรรมชาติสวยงามมากให้ท่านได้ขี่อูฐ 2 หนอก มรดกของเส้นทางสายไหม ชมทะเลทราย และวิวทิวทัศน์ของหุบเขานูบรา(ค่าขึ้อูฐไม่รวมอยู่ในค่าทัวร์ ประมาณ 300-500 รูปี)
16.00 น. ชม DESKIT TEMPLE และ DESKIT GOMPA ก่อตั้งโดย Lama Sherab Zangpo แห่ง Stod ลูกศิษย์ของท่านซงกาปา หรือซงเจินกังโป องค์ผู้ก่อตั้งนิการเกลุปะ หรือนิกายหมวกเหลืองในราวปี 1420 AD หรือกว่า 600ปีมาแล้ว ในรัชสมัยของ King Dragspa ซึ่งเป็นวัดประจำหมู่บ้านแห่งนี้ เป็นวัดที่เก่าแก่ที่สุดและใหญ่ที่สุดของหุบเขาแห่งชมพระศรีอริยะเมตไตย ที่ชาวพุทธท้องถิ่น ๆเรียกว่า Kewa or ChampaBuddha ความหมายเดียวกันคือองค์พระศรีอริยะเมตไตยที่จะมาตรัสรู้องค์ต่อไปในอนาคตสร้างเนินเขาอีกฝั่งหนึ่งของวัดดิสกิตโดดเด่นเป็นสง่าท่ามกลางหุบเขานูบรา
19.00 น. รับประทานอาหารค่ำ(9)ที่ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเข้าพัก Hunder Eco Villa หรือเทียบเท่า
06.00 น. รับประทานอาหารเช้า(10)ที่ ห้องอาหารของโรงแรม
07.00 น. นำท่านเดินทางกลับ เลห์(ระยะทาง159 กิโลเมตร ใช้เวลาในการเดินทาง 5 ชั่วโมง)
12.00น. รับประทานอาหารกลางวัน(11)ที่ ภัตตาคาร
บ่าย ชม วัดเฮมิส เป็นวัดทิเบตนิกายหมวกแดง อายุ 450 ปี Hemis Monastery เป็นวัดที่ใหญ่และรวยที่สุดในลาดัค มีวัตถุโบราณที่เก็บรักษาไว้ได้ถึงแม้ลาดัคจะผ่านสงครามมามากเพราะวัดเฮมิสอยู่ในหุบเขาลึกลับในทำเลที่ยากจะหาเจอในอดีต จึงสามารถรักษาวัตถุโบราณและวัดก็ไม่ได้ถูกทำลาย ยังคงความสวยงามเช่นปัจจุบัน ที่มีงานฉลองเต้นรำหน้ากากที่ใหญ่สุดเป็นประจำทุกปี
จากนั้นชม ThiksayMon.. วัดทิคเซย์ เป็นวัดของนิกายหมวดเหลืองอายุ 600-700 ปี มีหลายสาขาในลาดัค สักการะองค์พระศรีอริยะเมตไตร เพื่อความสิริมงคล
ถ้ามีเวลานำท่านชม Stok Palace หรือ Stok Gompa เป็นวัดในพุทธศาสนาใน Stok, ก่อตั้งขึ้นโดย Lama Lhawang Lotus ในศตวรรษที่ 14 และมีห้องสมุดที่มีชื่อเสียงรวมถึง Kangyur ทั้งหมด 108 เล่ม มีการจัดเทศกาลหน้ากากเต้นรำเป็นประจำทุกปี
19.00 น. รับประทานอาหารค่ำ(12)ที่ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเข้าพัก The Neture’s Land Hotel หรือเทียบเท่า
06.00 น. รับประทานอาหารเช้า(13)ที่ ห้องอาหารของโรงแรม
07.00 น. นำท่านเดินทางสู่ PANGONGLAKE(ระยะทาง 154 กิโลเมตร ใช้เวลาในการเดินทาง 4 ชั่วโมง) ระหว่างทาง แวะถ่ายรูปด้านนอก วัดเชมเร CHEMREY MONASTERY สร้างขึ้นโดยพระลามะ AGSANGRASCHEN ในค.ศ.1664 เป็นวัดทิเบตสาย Drugpa หรือว่า Gompa สัญลักษณ์ของนิกายนี้คือหมวกแดง สิ่งที่โดดเด่นของวัดเป็นองค์พระ ปัทมสัมภวะ และคัมภีร์โบราณต่างๆ ที่เก็บไว้เส้นทางผ่าน CHANG LA PASS แวะให้ท่านได้ถ่ายรูปและเข้าห้องน้ำ ณ จุดสูงสุดของวันนี้ ซางลาพาสซึ่งสูง 5360 เมตร จากระดับน้ำทะเล และเดินทางผ่านเขาสลับซับซ้อน จะพบกับค่ายทหารของอินเดียเป็นระยะ เนื่องจากเส้นทางนี้ใกล้กับประเทศจีน
12.00 น. รับประทานอาหารกลางวัน(14)ที่ ภัตตาคาร
บ่าย ชม ทะเลสาบปางกอง PANGONG LAKE ทะเลสาบสีฟ้าคราม ที่มีมุมให้ท่านถ่ายรูปไม่มีวันเบื่อ จนได้เวลาเดินทางกลับสู่ เลห์ เพื่อให้ท่านช้อปปิ้งเลือกซื้อสินค้าของฝาก ของที่ระลึก ที่ถนนเมนบาร์ซาร์ จำหน่ายสินค้ามากมาย อาทิ ร้านขาย, วัตถุโบราณ, พระพุทธรูป, รูปเคารพของเทพต่างๆ, ผ้าทังก้า, หน้ากาก และผักผลไม้นานาชนิดที่ นำมาขายโดยชาวบ้านเมืองเลห์
19.00 น. รับประทานอาหารค่ำ(15)ที่ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเข้าพัก The Neture’s Land Hotel หรือเทียบเท่า
07.00 น. รับประทานอาหารเช้า(16)ที่ โรงแรม
นำท่านชม Santi Stupa ศานติสถูป สร้างขึ้นบนเนินเขาเลห์ที่เห็นวิวทิวทัศน์เมืองเลห์ได้ชัดเจน ในปี ค.ศ.1991 โดยพระสงฆ์ชาวญี่ปุ่นชื่อเกียวเมียว นากามุระ (Gyomyo Nakamura) ผ่านชม พระราชวังเลห์ หรือที่รู้จักในชื่อวังลาเชน ปัลการ์ เป็นอดีตพระราชวังที่มองเห็นเมืองเลห์ในลาดักห์ ประเทศอินเดีย สร้างขึ้นประมาณปี ค.ศ. 1600 โดย Sennge Namgyal พระราชวังถูกทิ้งร้างเมื่อกองกำลัง Dogra เข้าควบคุม Ladakh ในช่วงกลางศตวรรษที่ 19 และบังคับให้พระราชวงศ์ย้ายไปที่ Stok Palace แล้วออกเดินทางสู่ สนามบินเลห์
12.00 น. รับประทานอาหารกลางวัน(17)set box
12.20 น. โดยสายการบิน Spice Jet เที่ยวบิน SG124 เหินฟ้าสู่ เดลลี
13.40 น. เดินทางถึง สนามบินเดลลี นำท่านขึ้นรถ Shuttle Bus เดินทางสู่ อาคารระหว่างประเทศ เพื่อเปลี่ยนเครื่องเดินทางสู่ สนามบินสุวรรณภูมิ อาหารค่ำอิสระ
21.10 น. โดยสายการบิน Spice Jet เที่ยวบิน SG740 เหินฟ้าสู่ สนามบินสุวรรณภูมิ
02.45 น. เดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพ………
อัตราค่าบริการรวม
อัตราค่าบริการไม่รวม
E visa อินเดีย (อายุ 30 วัน เข้า-ออกได้ 1 ครั้ง) และ ลงทะเบียน Air Suvidha ราคา 1,200 บาท
E visa อินเดีย (อายุ 365วัน เข้า-ออกได้ก็ได้) และ ลงทะเบียน Air Suvidha ราคา 2,500 บาท
(ราคานี้ อัปเดทเดทเมื่อวันที่ 29/4/65 ถ้าจะทำโปรดสอบถามราคาค่าวีซ่าอีกครั้งนะคะ)
หมายเหตุ :
สำรองที่นั่ง
* ชำระเงินมัดจำ ท่านละ 20,000 บาท หลังจากจองภายใน 2 วันพร้อมแจ้งชื่อเป็นภาษาอังกฤษตามหนังสือเดินทาง ส่วนที่เหลือชำระทั้งหมดก่อนเดินทาง 20 วัน
*** ในกรณีที่ท่านโอนเงินจากต่างจังหวัด อัตราดังกล่าวเป็นอัตราสุทธิ ไม่รวมค่าธรรมเนียมและค่าบริการของธนาคาร ค่ะ***
เงื่อนไขการให้บริการ (ที่ท่านควรทราบก่อนสำรองที่นั่ง)
* กรณียกเลิกก่อนการเดินทาง 30 วันขึ้นไป **เฉพาะช่วงที่ไม่ใช่เทศกาลหรือวันหยุดยาว** คืนเงินทั้งหมด(ยกเว้นตั๋วเครื่องบินที่ออกมาแล้ว)
**(ยกเว้น กรุ๊ปที่มีการการันตีค่ามัดจำกับสายการบินหรือกรุ๊ปที่มีการการันตีค่ามัดจำที่พัก โดยตรงหรือโดยการผ่านตัวแทนในประเทศหรือต่างประเทศและไม่อาจขอคืนเงินได้)**
* กรณียกเลิกก่อนการเดินทาง 30 วัน **เฉพาะช่วงเทศกาลหรือวันหยุดยาว** เก็บค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริงทั้งหมด
* กรณียกเลิกก่อนการเดินทาง 15 วัน เก็บค่าใช้จ่าย 50% ของราคาทัวร์
* กรณียกเลิกก่อนการเดินทาง 7 วัน เก็บค่าใช้จ่าย 100% ของราคาทัวร์
เงื่อนไขการให้บริการต่างๆ
กรุณาอ่านหมายเหตุให้ละเอียดทั้ง 7 ข้อ
*** ในกรณีที่ลูกค้าต้องออกตั๋วโดยสารภายในประเทศ กรุณาติดต่อเจ้าหน้าที่ของบริษัทฯ ก่อนทุกครั้ง มิฉะนั้นทางบริษัทฯ จะไม่ขอรับผิดชอบค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น ***
ข้อมูลเพิ่มเติมเรื่องโรงแรมที่พัก
เนื่องจากการวางแปลนห้องพักของแต่ละโรงแรมแตกต่างกัน จึงอาจทำให้ห้องพักแบบห้องเดี่ยว (Single) และห้องคู่(Twin/Double) และห้องพักแบบ 3 ท่าน/3 เตียง (Triple Room) ห้องพักอาจจะไม่ติดกัน
ข้อความซึ่งถือเป็นสาระสำหรับท่านผู้มีเกียรติซึ่งร่วมเดินทาง
ทางบริษัทฯ เป็นตัวแทนในการจัดนำสัมมนา และการเดินทางที่มีความชำนาญ โดยจัดหาโรงแรมที่พัก อาหาร ยานพาหนะและสถานที่ท่องเที่ยวพร้อมทั้งการสัมมนา ดูงาน เพื่อความสะดวกสบาย และเกิดประโยชน์สูงสุดในการเดินทาง ทั้งนี้ทางบริษัทฯ ไม่สามารถรับผิดชอบในอุบัติเหตุหรือความเสียหายที่เกิดจากโรงแรมที่พัก ยานพาหนะ, อันเนื่องจากอุบัติเหตุรวมถึงภัยธรรมชาติ, โจรกรรม, วินาศกรรม, อัคคีภัย, การผละงาน, การจลาจล, สงครามการเมือง, การผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราระหว่างประเทศ, การนัดหยุดงาน, ความล่าช้าของเที่ยวบิน, สายการเดินเรือ, รถไฟ, พาหนะท้องถิ่น,ตลอดจนการถูกปฏิเสธออกวีซ่าจากกงสุล และ / หรือ ส่วนงานที่เกี่ยวข้องกับสถานเอกอัครราชทูต รวมถึงผู้มีอำนาจทำการแทนประจำประเทศไทย (โดยไม่จำต้องแสดงเหตุผล เนื่องจากเป็นสิทธิพิเศษทางการทูต) ซึ่งอยู่เหนือการควบคุมของบริษัทฯ หมายรวมถึงในระหว่างการเดินทางท่องเที่ยวทั้งใน หรือ ต่างประเทศ แต่ทางบริษัทฯ มีความคุ้มครอง และประกันอุบัติเหตุ ตามเงื่อนไขที่บริษัทฯ ที่รับประกันในกรณีที่ผู้ร่วมเดินทางถูกปฏิเสธโดยเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองของประเทศไทย และ/หรือ ต่างประเทศ มิให้เดินทางออก หรือ เข้าประเทศ เนื่องมาจากความประพฤติ พฤติกรรมของผู้เดินทาง ไม่ปฏิบัติตามกฎระเบียบด้านการความคุมโรคติดต่อเฉพาะพื้นที่มีการปลอมแปลงเอกสารเพื่อการเดินทาง รวมถึงมีสิ่งผิดกฎหมาย บริษัทฯ จะไม่คืนค่าใช้จ่ายใดๆ รายละเอียดด้านการเดินทาง อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ตามความจำเป็น หรือเพื่อความเหมาะสมทั้งปวง โดยมิต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้การขอสงวนสิทธิดังกล่าว บริษัท จะยึดถือและคำนึงถึงผลประโยชน์ตลอดจนความปลอดภัยของท่านผู้มีเกียรติซึ่งร่วมเดินทางเป็นสำคัญ
REMARK
Error: Contact form not found.
Error: Contact form not found.
Error: Contact form not found.
Error: Contact form not found.