กัสโต้ เวิล์ด ทัวร์

บริการคุณภาพ ทุกเส้นทางท่องเที่ยว

เลขที่ 11/03295

ทัวร์อินเดีย 5 มหาบูชาสถาน อินเดีย

รหัส 035-2670
วันที่เดินทาง
ก.พ.66 - มี.ค.66
ช่วงเวลา
5 วัน 3 คืน
ราคาเริ่มต้น
40,900 บาท
แผนการเดินทาง
วันที่ 1
กรุงเทพมหานคร - สนามบินมุมไบ

16.00 น.   พร้อมกันที่ สนามบินสุวรรณภูมิ ผู้โดยสารขาออก ชั้น4 เคาน์เตอร์ H สายการบินไทย เจ้าหน้าที่ของบริษัทฯ คอยให้การต้อนรับ และอำนวยความสะดวกในการเช็คอิน

18.55 น.   เดินทางออกจากกรุงเทพ สู่เมืองมุมไบ โดยสายการบิน THAI AIRWAYS (TG) เที่ยวบินที่ TG317 (สายการบินบริการอาหารบนเครื่อง)

21.55 น.   เดินทางถึงสนามบินฉัตราปตี ศิวาจี (Chhatrapati Shivaji Airport) เมืองมุมไบ ประเทศอินเดียหลังผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมือง และศุลกากรแล้ว รถโค้ชปรับอากาศรอรับท่านที่สนามบิน นำท่านเช็คอินและได้พักผ่อนเติมพลังก่อนเดินทางแสวงบุญในวันรุ่งขึ้น

(เวลาท้องถิ่นของเมืองมุมไบ ประเทศอินเดีย ช้ากว่าประเทศไทย 1.30 ชั่วโมง)

ที่พัก Radisson Blu Hotel Mumbai Airport หรือเทียบเท่าระดับ 5 ดาว

วันที่ 2
มุมไบ - วัดสิทธิวินายัก - วัดพระแม่ลักษมีหน้าทอง - ปูเน่

07.00 น.   รับประทานอาหารเช้าภายในโรงแรมที่พัก

นำท่านเข้าสักการระองค์สิทธิวินายัก ณ วัดสิทธิวินายัก (Siddhivinayak Temple) ได้ชื่อว่าเป็นวัดที่มีชื่อเสียงที่สุดในเมืองมุมไบ ที่มีเหล่าเซเลบ และดาราบอลลีวูดมาสักการะกันอยู่ตลอด ลักษณะเด่นขององค์นี้ คือ เป็นองค์ปฐมและเป็นองค์ประธานแห่งพระพิฆเนศทุกๆพระองค์ในโลกลักษณมีพระฉวี (ผิว) สีแดงสด ซึ่งเป็นสีของไฟและพลังอำนาจ อีกทั้งยังมีงวงที่ตวัดไปทางเบื้องขวาของพระองค์ อันหมายถึงความยิ่งใหญ่ถึงที่สุด ขอพรเพื่อความสำเร็จสมหวังทุกประการ

นําท่านสักการะ วัดพระแม่ลักษมีหน้าทอง (Shree Mahalakshmi Temple) เป็นนวัดที่มีชื่อเสียงที่สุดของอินเดีย สร้างขึ้นในปีค.ศ. 1831 โดยพ่อค้าชาวฮินดู ตั้งอยู่ในย่านที่ที่ดินมีราคาสูงที่สุดในมุมไบ ภายในประดิษฐานเทวรูปทองคํา พระแม่ลักษมี (Mahalakshmi) ผู้ที่มากราบไหว้ บูชาแห่งนี้จะประสบแต่ความร่ำรวย ความสําเร็จ โชคลาภมากมาย , พระแม่กาลี (Mahakali) คือ ผู้ปกป้องเราจากสิ่งไม่ดี , พระแม่สุรัสวตี (Mahasaraswathi) คือผู้บันดาลความ เฉลี่ยวฉลาด ปัญญาเป็นเลิศ การงานสําเร็จ ซึ้งวัดแห่งนี้เป็นที่นิยมของชาวอินเดียและชาวไทยเดินทางมากราบไว้สักการะมากมาย และบริเวณหน้าวัดยังมีร้านค้าให้บูชาเครื่องราง และรูปบูชาองค์เทพต่างๆ สีสันสวยงามแปลกตา ขอพรเพื่อโชคลาภ เงินทองและความรัก

เที่ยง   รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารจีน

บ่าย   ได้เวลาพอสมควรเดินทางกลับสู่ เมืองปูเน่ (Pune) ระยะทางประมาณ 120 กม. (ใช้ระยะเวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง) เป็นเมืองที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 8 ของประเทศอินเดีย ที่ตั้งอยู่บริเวณที่ราบสูงเดคคานริมฝั่งแม่น้ำมุธะ (Mutha River) ในอดีตเมืองปูเน่ยังเคยเป็นศูนย์กลางอำนาจของอาณาจักรมาราธา (Maratha Empire) ภายใต้การปกครองของผู้ปกครองแคว้น พระเจ้าชาตปตี ชาห์วาจิ (Chatrapati Shavaji) ในปีคริสต์ศักราช 847 ต่อมาในช่วงศตวรรษที่ 18 เมืองปูเน่มาถึงจุดรุ่งเรืองที่สุดเมื่อได้รับการสถาปนาให้เป็นเมืองหลวงด้านการปกครองอินเดียอนุทวีปโดยมีการแต่งตั้งตำแหน่งที่เทียบเท่ากับประธานาธิบดีแห่งอาณาจักรมาราธา เมืองปูเน่ในยุคปัจจุบันถือได้ว่าเป็นเมืองหลวงทางด้านวัฒนธรรมของแคว้นมหารัชตะ โดยที่เมืองปูเน่นั้นมีชื่อเสียงด้านอุตสาหกรรมการผลิตรถยนต์ สถาบันการวิจัยและค้นคว้าของภาครัฐและเอกชน เทคโนโลยีสารสนเทศ หรือแม้กระทั่งด้านการศึกษา การจัดการและการอบรม

ค่ำ   รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรมที่พัก

พัก Radisson Blu Hotel Pune Kharadi หรือเทียบเท่าระดับ 5 ดาว (2 คืน)

วันที่ 3
วัดดั๊กดูเศรษฐ์ - ช้อปปิ้งถนนลักษมี - เขาปารวตี

07.00 น.   รับประทานอาหารเช้าภายในโรงแรมที่พัก

นำท่านสักการะ องค์พระพิฆเนศที่ขึ้นชื่อว่าร่ำรวยมากที่สุดในโลก ดั๊กดูเศรษฐ์ (Dagdusheth) และมีความงดงามมากที่สุดองค์หนึง เป็นพระนามของพระพิฆเนศที่ประดิษฐาน ณ เทวสถานดั๊กดูเศรษฐ์  ในเมืองปูเน่ประเทศอินเดีย ที่มีคนเข้ากราบสักการะมากมาย เชื่อว่าผู้ที่ได้มากราบไหว้พระพิฆเนศที่นี่ จะทำให้ความปรารถนาของตนสมหวังประสบความสำเร็จ ร่ำรวยเงินทอง มีโชคมีลาภ เจริญก้าวหน้า งวงพระองค์เป็นเกรียวดูดทรัพย์ ซึ่งผู้คนมากมายที่สมหวังดั่งปรารถนาก็นำเงินทองมาถวายให้เทวสถานแห่งนี้มากมาย ที่ขึ้นชื่อว่าร่ำรวยที่สุดเพราะฐานที่ประดิษฐานองค์พระพิฆเนศ และเครื่องทรงต่างๆ ล้วนเป็นทองคำและเพชรพลอยที่ประมาณมูลค่าไม่ได้ ขอพรเพื่อความมั่งคั่ง ร่ำรวย พิเศษนำท่านทำพิธีอารตีไฟ เวลา 9.00 น.

เที่ยง   รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารจีน

บ่าย   ได้เวลาอันสมควรนำท่านเลือกซื้อสินค้าพื้นเมือง ณ ถนนลักษมี (Lakshmi Road) ที่เป็นถนนยอดนิยมของเมืองปูเน่ ซึ่งถือได้ว่าเป็นสวรรค์สำหรับนักช้อปปิ้ง เพราะรวบรวมสินค้าท้องถิ่นของอินเดียไว้เป็นจำนวนมาก เช่น เสื้อผ้า เครื่องประดับ

นำท่านเข้าชมและสักการะองค์เทพต่างๆ ณ วัดเขาพระแม่ปารวตี (Parvati Hills Temple Pune) วัดที่เก่าแก่ที่สุดในเมืองปูเน่ สร้างขึ้นในต้นศตวรรษที่ 17 แบบศิลปะมาราธาโบราณ ตั้งอยู่บนเนินเขาทางตอนใต้ของเมืองปูเน่ มีความสูง 260 ฟุตจากพื้นดิน สามารถเดินขึ้นไปยังยอดเขาโดยบันไดจำนวน 108 ขั้น ซึ่งถือเป็นเลขศักดิ์สิทธิ์ของชาวฮินดู ด้านบนเขาประกอบไปด้วยวัดขององค์เทพต่างๆ เช่น วัดพระศิวะ วัดพระวิษณุ วัดพระขันธกุมาร เทพเจ้าแห่งสงคราม (Murugan) รวมไปถึงพิพิธภัณฑ์เปชวาร์ (Peshwa Museum) ที่รวบรวมอาวุธ และข้าวของเครื่องใช้ของ บาลาจิ บาจิ ราว (Balaji Baji Rao) จักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่แห่งอาณาจักรมาราธา นอกจากนั้นบาลาจิ บาจิ ราวยังได้มาใช้ชีวิตในช่วงบั้นปลายบนยอดเขาแห่งนี้อีกด้วย

ตามตำนานของยอดเขาแห่งนี้มีเรื่องราวอยู่ว่า พระนางกาชิไบ (Kashibai) พระมารดาของจักรพรรดิองค์ที่ 3 ของอาณาจักรมาราธา (Nanasaheb Peshwa) เกิดอาการเจ็บป่วยบริเวณเท้าขวา ต่อมาได้มีคนแนะนำให้นางไปขอพรที่วัดเก่าที่อยู่บนยอดเขาทางตอนใต้ของเมืองปูเน่ เพราะวัดแห่งนั้นมีพลังแห่งการรักษา พระนางก็ได้เดินทางไปยังวัดนั้นตามคำแนะนำ และได้ขอพรว่า ถ้าอาการเจ็บป่วยของนางหาย นางจะสร้างวัดพระแม่ปารวตีบนยอดเขาแห่งนี้  จากนั้นไม่นานอาการเจ็บป่วยของนางก็หายเป็นปกติ สร้างความแปลกใจให้กับองค์พระจักรพรรดิและประชาชนเป็นอย่างมาก และจากนั้นองค์จักพรรดิก็ได้ดำริให้สร้างวัดพระแม่ปารวตีขึ้น ตามคำขอพรของพระมารดา

นอกจากพลังศักดิ์สิทธิ์ด้านการรักษาแล้ว ยอดเขาปารวตียังเป็นจุดท่องเที่ยวยอดนิยมของนักท่องเที่ยว และชางเมืองปูเน่ เนื่องจากสามารถชมวิวของเมืองจากมุมสูงที่สวยงาม และยังเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกอีกด้วย ได้เวลาพอสมควรนำท่านเดินทางกลับสู่โรงแรมที่พัก ขอพรเพื่อสุขภาพที่ดี และการรักษาโรคภัยไข้เจ็บ

ค่ำ   รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรมที่พัก

ที่พัก Radisson Blu Hotel Pune Kharadi หรือเทียบเท่าระดับ 5 ดาว

วันที่ 4
ปูเน่ - มุมไบ - วัดพระแม่มุมบาเทวี - ประตูอินเดีย - ช้อปปิ้งโคลาบา - สนามบินมุมไบ

07.00 น.   รับประทานอาหารเช้าภายในโรงแรมที่พัก

นำท่านเดินทางกลับสู่เมืองมุมไบ (Mumbai) ระยะทาง 145 กม. (ใช้ระยะเวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง)

เที่ยง   อิสระรับประทานอาหารกลางวัน ใน บริเวณจุดพักรถของทางด่วนปูเน่-มุมไบ

บ่าย   ถึงตัวเมืองมุมไบ นำท่านเข้าสักการะพระแม่มุมบาเทวี (Shree Mumbadevi Temple) พระแม่ผู้ปกปักรักษาเมืองมุมไบ และชาวเมืองมุมไบ สร้างขึ้นในราวปีค.ศ. 1675 ในเขตบอรี่บันเดอร์ เพื่อเป็นสถานที่สักการะบูชา ขอพรของชาวประมงและชนชาวพื้นเมืองโบราณในบริเวณนี้ โดยชาวประมงและชาวเมืองเชื่อว่า พระแม่เป็นเทพเจ้าผู้คุ้มครองปกปักรักษาเมืองมุมไบและชาวเมืองทุกคน ตามตำนานเล่าว่า มีอสูรตนหนึ่งชื่อ มุมบาราคา (Mumbaraka) ก่อความวุ่นวายและทำร้ายประชาชนในบริเวณพื้นที่แห่งนี้ พระพรหมได้ทราบเรื่อง จึงได้ส่งเทวีองค์หนึ่ง ผู้มี 8 พระกร ทรงราชสีห์เป็นพาหนะ (บางตำนานกล่าวว่า มุมบาเทวีเป็นอีกอวตารของพระแม่ปารวตี) ลงมาปราบอสูรตนนี้ และเอาชนะอสูรได้สำเร็จ อสูรมุมบาราคา จึงได้ขอร้องกับพระแม่ว่า ให้นำชื่อของตนไปตั้งเป็นพระนามของพระแม่ และให้คำสัญญาว่าจะอุทิศตนสร้างวัดที่งดงามให้กับพระแม่ และสถาปณาพระนามว่า มุมบาเทวี (Mumba Devi) ให้ชาวเมืองได้กราบไหว้บูชาและปกป้องรักษาชาวเมืองตลอดไป ปัจจุบันบริเวณรอบๆวัด รายล้อมไปด้วยร้านค้าเสื้อผ้า เครื่องประดับมากมาย วัดพระแม่มุมบาเทวี เป็นหนึ่งในวัดที่ชาวเมืองมุมไบนิยมมาสักการะขอพรมากที่สุดอีกหนึ่งวัด ขอพรเพื่อรับการปกป้องคุ้มครองจากอันตรายทั้งปวง

จากนั้นนำท่านถ่ายภาพกับประตูสู่อินเดีย (Gateway of India) เป็นอนุสาวรีย์ซุ้มประตูโค้งแบบประตูชัย ที่ตั้งอยู่ในนครมุมไบ ประตูสู่อินเดียสร้างขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองการเสด็จฯ เยือนนครมุมไบของพระเจ้าจอร์จที่ 5 และ พระนางมาเรียแห่งเท็ค เมื่อปีค.ศ. 1911 ณ บริเวณอะพอลโลบันเดอร์ สถาปัตยกรรมที่ใช้คือแบบอินเดีย-ซาราเซน (Indo-Saracenic) และอนุสาวรีย์สร้างด้วยหินบะซอลต์ ความสูง 26 เมตร (85 ฟุต) สร้างเสร็จในปีค.ศ. 1924 ปัจจุบันใช้เป็นสัญลักษณ์สำหรับพิธีต้อนรับรัฐมนตรีใหม่ของนครมุมไบ และเช่นกันยังเป็นทางเข้าประเทศอินเดียหากเดินทางมาทางมหาสมุทรอินเดีย ประตูสู่อินเดียตั้งอยู่หน้าน้าที่อะพอลโลบันเดอร์ ในทางทิศใต้ของนครมุมไบ มองออกไปคือทะเลอาหรับบางครั้งเรียกว่าเป็นทัชมาฮาลแห่งมุมไบ ปัจจุบันเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของเมือง

จากนั้นนำท่านเลือกซื้อสินค้าของฝาก ณ แหล่งช้อปปิ้งสำคัญของเมืองมุมไบ ย่านโคลาบา (Colaba Causeway) เพียบพร้อมไปด้วยสินค้าหลากหลายชนิด เช่น เครื่องประดับ เพชรพลอย เสื้อผ้า และเครื่องหนัง โดยแต่ละส่วนจะมีชื่อเรียกที่แตกต่างกันออกไป รวมไปถึงร้านอาหาร คาเฟ่ที่ขึ้นชื่อของเมืองมุมไบ ที่รวมกันไว้ ณ ย่านนี้

อิสระรับประทานอาหารค่ำ เพื่อไม่เป็นการรบกวนเวลาส่วนตัวของท่าน

ได้เวลาพอสมควรนำท่านเดินทางสู่สนามบินฉัตราปตี ศิวาจี (Chhatrapati Shivaji Airport) เมืองมุมไบ

23.35 น.   ออกเดินทางสู่กรุงเทพมหานครโดยสายการบิน THAI AIRWAYS เที่ยวบินที่ TG318

วันที่ 5
สนามบินสุวรรณภูมิ

05.35 น.   ถึงสนามบินสุวรรณภูมิ ประเทศไทย โดยสวัสดิภาพ

เงื่อนไข

อัตราค่าบริการรวม

  • ค่าตั๋วเครื่องบินไป-กลับตามรายการที่ระบุ รวมถึงค่าภาษีสนามบิน และค่าภาษีน้ำมัน
  • ค่ารถโค้ช ปรับอากาศ พร้อมคนขับรถที่ได้รับการอนุญาตถูกต้องตามกฎหมาย
  • ค่าโรงแรมที่พักตามที่ระบุ หรือเทียบเท่า (พัก 2 ท่าน/ห้อง) เท่านั้น
  • ค่าธรรมเนียมเข้าชมสถานที่ต่างๆ ตามรายการที่ระบุ
  • ค่าอาหาร ตามรายการที่ระบุ
  • ค่าประกันอุบัติเหตุและค่ารักษาพยาบาลในการเดินทาง
  • ค่าบริการน้ำดื่มท่านละ 1 ขวดต่อวัน
  • ค่าธรรมเนียมวีซ่าอินเดีย ยื่นแบบออนไลน์เท่านั้น (ไม่ต้องโชว์ตัว)
  • ค่าทิปไกด์และคนขับรถ

อัตราค่าบริการนี้ไม่รวม

  • ค่าตรวจ RT PCR ขาออกจากประเทศไทย (ถ้ามี)
  • ค่าตรวจ RT PCR ขาเข้าประเทศไทย (ถ้ามี)
  • ค่าโรงแรมกักตัวตอนมาถึงประเทศไทย (Test&Go / ASQ / ถ้ามี)
  • ค่าใช้จ่ายส่วนตัวของผู้เดินทาง อาทิ ค่าทำหนังสือเดินทาง ค่าโทรศัพท์ ค่าอาหาร เครื่องดื่ม ค่าซักรีด ค่ามินิบาร์ในห้องและค่าพาหนะต่างๆ ที่มิได้ระบุในรายการ
  • ค่าทิปพนักงานยกกระเป๋า ณ โรงแรมที่พัก ค่าธรรมเนียมในกรณีที่กระเป๋าสัมภาระที่มีน้ำหนักเกินกว่าที่สายการบินนั้นๆกำหนดหรือสัมภาระใหญ่เกินขนาดมาตรฐาน (สายการบินไทย อนุญาตให้ผู้โดยสารโหลดสัมภาระได้ท่านละ 20 กก./ท่าน)
  • ค่าภาษีน้ำมัน ที่สายการบินเรียกเก็บเพิ่ม ภายหลังจากทางบริษัทฯได้ออกตั๋วเครื่องบินไปแล้ว
  • ภาษีมูลค่าเพิ่ม 7 % และภาษีหัก ณ ที่จ่าย 3 %
  • ค่าทิปไกด์และคนขับรถแล้วแต่ความพึงพอใจของท่าน

เงื่อนไขการจอง และ การชำระเงิน :

  • มัดจำท่านละ 20,000 บาท ภายใน 3 วันหลังจากทำการจอง กรณีลูกค้าทำการจองก่อนวันเดินทางภายใน 20 วัน ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการเก็บค่าทัวร์เต็มจำนวน
  • ส่วนที่เหลือ ชำระก่อนวันเดินทางอย่างน้อย 30 วัน
  • หากไม่ชำระมัดจำตามที่กำหนด ขออนุญาตตัดที่นั่งให้ลูกค้าท่านอื่นที่รออยู่
  • หากชำระไม่ครบตามจำนวน บริษัทฯถือว่าท่านยกเลิกการเดินทางโดยอัตโนมัติโดยไม่มีเงื่อนไข
  • เมื่อท่านชำระเงินไม่ว่าจะทั้งหมดหรือบางส่วน ทางบริษัทฯถือว่าท่านได้ยอมรับเงื่อนไขและข้อตกลงต่างๆที่ได้ระบุไว้ทั้งหมดนี้แล้ว
  • หากชำระเงินในแต่ละส่วนแล้ว โปรดส่งสำเนาการโอนเงิน พร้อมระบุชื่อพนักงานขายมาทางแฟกซ์
  • ส่งรายชื่อสำรองที่นั่ง ผู้เดินทางต้องส่งสำเนาหนังสือเดินทาง (Passport) โดยเซ็นต์ชื่อพร้อมยืนยันว่าต้องการเดินทางท่องเที่ยวทริปใด, วันที่ใด, ไปกับใครบ้าง, เบอร์โทร // [หากไม่ส่งสำเนาหนังสือเดินทาง (Passport) มาให้ ทางบริษัทฯขอสงวนสิทธิ์ไม่รับผิดชอบค่าเสียหายอันเกิดจากความผิดพลาดจากการสะกดชื่อ-นามสกุล และอื่นๆ เพื่อใช้ในการจองตั๋วเครื่องบินทั้งสิ้น

เงื่อนไขยกเลิกการจอง :

เนื่องจากเป็นราคาตั๋วเครื่องบินโปรโมชั่น เมื่อจองทัวร์ชำระเงินค่าจองค่าทัวร์แล้ว ไม่สามารถยกเลิก เลื่อน ขอคืนเงิน ได้ทุกกรณี และกรณีที่กองตรวจคนเข้าเมืองทั้งกรุงเทพฯ และในต่างประเทศ ปฏิเสธมิให้เดินทางออก หรือ เข้าประเทศที่ระบุไว้ ในรายการเดินทาง บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ที่จะไม่คืนค่าทัวร์ไม่ว่ากรณีใดๆ ทั้งสิ้น รวมถึง เมื่อท่านออกเดินทางไปกับคณะแล้ว ถ้าท่านงดการใช้บริการรายการใดรายการหนึ่ง หรือไม่เดินทาง พร้อมคณะถือว่าท่านสละสิทธิ์ ไม่อาจเรียกร้องค่าบริการและเงินมัดจาคืน ไม่ว่ากรณีใดๆ ทั้งสิ้น

Share on social networks
โปรแกรมทัวร์ที่น่าสนใจ