17.30 : สมาชิกทุกท่านพร้อมกัน ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศชั้น 4 เคาน์เตอร์ Q สายการบินกาต้าร์ แอร์เวย์ QATAR AIRWAYS
20.25 : เหิรฟ้าสู่กรุงโดฮา…โดยสายการบินกาต้าร์ แอร์เวย์ Qatar Airways เที่ยวบินที่ QR833
23.20 : ถึงสนามบินกรุงโดฮา นำท่านเปลี่ยนเครื่องสู่เมืองมิลาน
01.20 : เหิรฟ้าสู่เมืองมิลาน…โดยสายการบินกาต้าร์ แอร์เวย์ Qatar Airways เที่ยวบินที่ QR123
06.35 : เดินทางถึงสนามบินนานาชาติมิลาน ประเทศอิตาลี หลังผ่านการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากรแล้ว จากนั้นนำท่าน ออกเดินทางสู่ Sirmeone เมืองอันเก่าแก่ที่มีอายุกว่า 2,000 ปี มีลักษณะภูมิประเทศเป็นแหลมที่ยื่นออกไป ในทะเลสาบการ์ด้า ทะเลสาบแสนสวยที่เสมือนเป็นพรมแดนระหว่างแค้วนลอมบาเดียกับแคว้นเวเนโต มีความยาวกว่า 55กิโลเมตร ตัวเมืองเก่านี้จึงถูกขนาบข้างด้วยทะเลสาบ ให้ทุกท่านได้ชมเมืองที่แสนสวยงาม เต็มไปด้วยร้านค้าและร้านกาแฟร้านขนมปังท้องถิ่นมากมาย เก็บภาพป้อมปราการประจำเมือง ที่เป็นจุดสัญลักษณ์ตั้งแต่สมัยยุคโรมัน จากนั้นนำท่านล่องเรือชมความงามของทะเลสาบเกรดา บรรยากาศของทะเลสาบที่ตัดกับแนวหน้าผาของทิวเขาเซาท์เทิร์นแอล์ปสวยงามเกินคำบรรยาย
เที่ยง : บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารพื้นเมือง
บ่าย : ออกเดินทางสู่ Great Dolomite Road บนเส้นทางสายนี้ คุณจะทึ่งในความยิ่งใหญ่ของขุนเขาอีกครั้งระยะทางไม่ไกลมากแต่เราจะค่อย ๆ ซึมซับบรรยากาศที่หาไม่ได้ที่ไหนอีกแล้วในโลกนี้ เทือกเขาโดโลไมท์ (Dolomite) ได้รับการประกาศให้เป็นมรดกโลกโดยองค์กร UNESCO เมื่อปี 2009 ลักษณะภูมิประเทศเป็นหน้าผาสูง สลับกับหุบเหวลึก นำท่านเดินทางเข้าสู่เมืองโบลซาโน(Bolzanoโบลซาโน) เมืองหลวงที่สวยงามของแค้วนเซาท์ทีโรล มีเวลาให้ทุกท่านเดินเล่นชมเมืองเก่าที่สวยงามตามอัธยาศัย
ค่ำ : บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารพื้นเมือง
พักที่ : Parkhotel Laurin / Four Points Sheraton Hotel / หรือระดับใกล้เคียง
เช้า : บริการเช้า ณ โรงแรมที่พัก
นำท่านเดินทางสู่เมืองโอร์ทิเซยเมืองน่ารักที่ตั้งอยู่ท่ามกลางเทือกเขาเซาท์เทิร์แอล์ป เดินสู่สถานีกระเช้า นำท่านโดยสารกระเช้าชมวิวที่งดงาม ผ่อนคลายกับธรรมชาติที่สมบูรณ์ขึ้นสู่ จุดชมวิว แอล์ป เดอ ซูสซิ (Alpe di Siusi) เป็นอีกหนึ่งจุดชมวิวที่สามารถเห็นความยิ่งใหญ่อลังการของกลุ่มเขาใน Dolomite ได้อย่างชัดเจนมีเวลาให้ท่านเก็บภาพความงดงามของธรรมชาติอย่างจุใจ
เที่ยง : บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่บริเวณหมู่บ้านวัล ดิ ฟุนส์ ชมความมหัศจรรย์ของธรรมชาติ และสถาปัตยกรรมของหมู่บ้าน ที่ผสมผสานได้อย่างลงตัว ฉากหลังเป็นภูเขาอันยิ่งใหญ่เบื้องหน้าของเราเป็นหมู่บ้าน Villnöß (Val di Funes) แสนสงบ และน่ารัก มีเวลาให้ท่านเก็บภาพความสวยงามของธรรมชาติ บริเวณที่ตั้งโบสถ์ Santa Magdalena และโบสถ์เซนต์จอห์น (Kirche St. Johann in Ranui) อันเป็นเอกลักษณ์ ของอุทยานโดโลไมท์ แสงแดดสีทองที่ส่องแสงกระทบริมหน้าผา ฉากเบื้องหน้าเป็นโบสถ์และหมู่บ้านอันแสนสงบปล่อยกายปล่อยใจไปกับช่วงเวลาแสนพิเศษนี้ได้เวลาสมควรออกเดินทางชมความงามแห่งเขตโดไมท์กันต่อ ในเส้นทางสวยๆ ผ่านชมเมืองเล็กๆ เพราะเราเชื่อว่า ความสวยงามระหว่างทางนั้นน่าจดจำไม่น้อย เดินทางถึงจุดจอดรถทะเลสาบ เบรียซ(Braies) ที่ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติ Fanes Sennes Braies ตามตำนานกล่าวว่าที่นี่เป็นที่อยู่อาศัยของยักษ์ ที่คอยคุ้มครองเหมืองทองคำใต้พิภพ นำท่านเดินสู่จุดชมวิวทะเลสาบเก็บภาพความงดงามอย่างจุใจ ได้เวลาสมควรนำท่านเดินทางสู่เมืองกอร์ตีนา ดัมเปซโซ (Cortina d’Ampezzo)
ค่ำ : บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
พักที่ : Boutique Hotel Villa Blu Cortina d’Ampezzo / หรือระดับใกล้เคียง
เช้า : บริการอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก
นำท่านเดินชมหมู่บ้านกอร์ตีนา ดัมเปซโซ (Cortina d’Ampezzo) เมืองสกีรีสอร์ทแสนสวย ที่ตั้งในหุบเขา มีชื่อเสียงโด่งดังมายาวนาน อิสระทุกท่านเก็บภาพความงดงามของเมืองตามอัธยาศัย จากนั้นนำท่านนั่งกระเช้าขึ้นสู่จุดชมวิวริฟูจิโอ ฟาโรเรีย(Rifugio Faloria) ที่ระดับความสูง 2,150 เมตร ท่านจะได้สัมผัสกับวิวอันงดงามของตัวเมืองและทิวเขาที่โอบล้อมตัวเมืองอยู่แสนสวยงาม อิสระทุกท่านเก็บภาพตามอัธยาศัย(ทางบริษัทฯขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงจุดขึ้นชมวิวทั้งนี้เนื่องจากการปิดซ่อมหรือปรับปรุงกระเช้า)
เที่ยง : บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
นำท่านออกเดินทางสู่บริเวณทะเลสาบมิซูริน่า(Misurina) ณ หม่บ้านเบลลูโน่ ทะเลสาบที่มีความยาวถึง 2.6 กิโลเมตร มีความลึกกว่า 5 เมตร สัมผัสอากาศดี ๆ สูดดมหายใจลึก ๆ ให้ทุกท่านได้ชมความสวยงามของทะเลสาบอันกว้างใหญ่ที่ใส เป็นเงาสะท้อนเห็นวิวเขาลดหลั่นไปมา อันมีฉากหน้าเป็นโรงแรมสีเหลืองตัดกันกับฟ้าครามสวยจับใจ ได้เวลาสมควรนำท่านเดินทางสู่เมืองเวนิส
ค่ำ : บริการอาหารมื้อค่ำ ณ ภัตตาคารพื้นเมืองเมนูพิเศษสปาเก็ตตี้ กุ้งมังกร
(Lobster Spaghetti) พร้อมเครื่องดื่มรสเลิศ
พักที่ : NH Venezia Laguna Palace Hotel / เทียบเท่าระดับใกล้เคียง
เช้า : บริการอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ท่าเรือ ลงเรือส่วนตัวของคณะเรา สู่เกาะบูราโน(Burano Island) เกาะแสนสวยที่ตั้งของบ้านเรือนสีลูกกวาด มีความเก่าแก่ไม่แพ้เกาะเวนิส ซึ่งปัจุบันมีประชากรอยู่อาศัยกว่าสามพันคน และส่วนใหญ่บ้านเรือนผู้คนจะปรับปรุงมาเป็นร้านค้าร้านกาแฟที่สวยงาม มีเวลาให้ท่านเก็บภาพอย่างจุใจ
ได้เวลาสมควร นำคณะเดินทางเข้าสู่ “เกาะเวนิส” เกาะอันแสนโรแมนติกซึ่งเป็นจุดหมายปลายทางของคู่รักจากทั่วโลก เมืองเวนิสได้รับฉายาว่า ราชินีแห่งทะเลอาเดรียตริก (Queen of the Adriatic), เมืองแห่งสายน้ำ (City of Water), เมืองแห่งสะพาน (City of Bridges), และ เมืองแห่งแสงสว่าง (The City of Light) เรือนำท่านเดินทางเข้าสู่“เกาะซานมาร์โค ” ศูนย์กลางของเมืองเวนิส
เที่ยง : บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
นำคณะเดินทางเข้าสู่บริเวณ “จตุรัสซานมาโค” ระหว่างการเดินทางชม อนุสาวรีย์ของพระเจ้าวิคเตอร์เอมานูเอลที่ 2 ถ่ายภาพคู่กับ“ สะพานถอนหายใจ ” สะพานแห่งสัญลักษณ์ที่เชื่อมต่อกับพระราชวังดอร์จ ชมความสวยงามของจตุรัสด้านหน้าพระราชวังดอร์จ อันเป็นที่ประทับของเจ้าเมืองเวนิสในยุคที่ยังเป็นรัฐอิสระอีกทั้งยังเป็นศูนย์กลางของการปกครองแคว้นในยุคสมัยนั้น ชมรอบบริเวณ“โบสถ์เซนต์มาร์ค” ซึ่งเป็นโบสถ์แบบไบเซ็นไทน์ที่ “ใหญ่ที่สุด” ในยุโรปตะวันตก อิสระเลือกช้อปปิ้งสินค้าแบรนด์เนมชื่อดังนานาชนิด อาทิ Gucci ,Louis Vuitton ,Prada ,Bally ,Chanel หรือ“ เครื่องแก้วมูราโน่ ” สินค้าพื้นเมืองอันเลื่องชื่อ อิสระให้ท่านเดินเที่ยวชมงานก่อสร้างที่แสดงให้เห็นถึงความเป็นอัจฉริยะด้านสถาปัตยกรรมที่“สะพานเรียลอัลโต้” ให้คณะได้สัมผัส วิวสองฝั่งคลองแห่งเวนิส อันสุดแสนโรแมนติกโดยการ “นั่งเรือกอนโดร่า” Gondora ที่มีชื่อเสียงระดับโลก (เรือนั่งได้ 5-6 ท่านต่อ 1 ลำ หากท่านต้องการนั่งแบบส่วนตัวกรุณาติดต่อหัวหน้าทัวร์) (รวมในค่าทัวร์แล้ว) ได้เวลาสมควรนำท่านเดินทางกลับสู่ฝั่งเมืองเวนิส
ออกเดินทางสู่เมืองฟลอเรนซ์(Florence)
ค่ำ : บริการอาหารมื้อค่ำ ณ ภัตตาคาร / นำคณะเดินทางเข้าสู่ที่พัก
พักที่ : Grand Hotel Mediterraneo / หรือระดับใกล้เคียง
เช้า : บริการอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก
นำท่านเดินทางสู่เมืองเกรฟ อิน เคียนติ (Greve in Chianti) นำท่านเดินชมบริเวณปราสาทวาร์ราซาโน (Castle of Verrazzano) ตัวปราสาทตั้งอยู่ใจกลางของพื้นที่ Chianti Classico เริ่มต้นปราสาทเป็นของชาวอิทรุสกัน ซึ่งเป็นเคยที่ตั้งถิ่นฐานของชาวโรมัน ไร่องุ่นที่ตั้งอยู่ใน Verrazzano มีการระบุไว้ในเอกสารที่มีอายุย้อนหลังไปถึงปี ค.ศ. 1100 ตัวปราสาทได้ผลัดมือเขาครอบครองโดยหลายตระกูล ค.ศ.1958 ครอบครัว Cappellini เข้าครอบครองปราสาท และบูรณะวิลล่าและสร้างใหม่ โดยดูแลไร่องุ่นตามแบบโบราณ ไม่ใช้สารเคมี(Organic Wine) ทำให้มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก
*** นำท่านเข้าสวนองุ่น และชมโรงงานบ่มไวน์ ที่เต็มไปด้วยถังไม้โอ๊ก หลายสิบถังที่วางเรียงราย ให้ท่าน ได้ชิมรสชาติอันกลมกล่อมของไวน์เชียนติ อย่างจุใจ ***
เที่ยง : บริการอาหารมื้อกลางวันมื้อพิเศษ ณ ภัตตาคาร ภายใน ไร่ไวน์ Castello of Verrazzano
Menu Starter and Bruschetta: Ham, Wild boar salami, Head cheese, Crostino with lard from the Greve Valley,
Main Course: Pasta with tomato sauce and herbs, Roast loin of pork with salad from the garden and white beans
Dessert: Cantuccini (Almond cookies), Tasting of Grappa, Coffee
ไวน์ชนิดต่างๆ ที่ท่านจะได้ชิม
Verrazzano Ser Chiaro” IGT / Fettunta Chianti Classico DOCG / Chianti Classico Riserva DOCG
Supertuscan” IGT or Chianti Classico Gran Selezione DOGC
*** หากไวน์บางชนิดหมดหรือ ไม่ได้ตามคุณภาพอาจมีการปรับเปลี่ยนได้ ณ ภัตตาคาร ***
ได้เวลาสมควรท่านท่านชม“เมืองฟลอเรนซ์” เป็นเมืองต้นแบบของศิลปะแบบเรอเนสซองส์ ซึ่งเป็นเมืองที่มีความเจริญสูงสุดในช่วงศตวรรษที่ 13-16 โดยตระกูลเมดิซี่ นำคณะเดินเที่ยวชมเขตเมืองเก่า นำท่านชม “จัตุรัสเพียซซ่าซินยอเรตตา” ชมสถาปัตยกรรมอันโดดเด่นของเมืองที่ “มหาวิหารซานตา มาเรีย เดลฟิออเร” เป็นวิหารที่มียอดโดมขนาดใหญ่สัญลักษณ์แห่งเมืองฟลอเรนซ์ ใช้หินอ่อนหลากสีจากหลายเมืองในอิตาลีในการก่อสร้าง จากนั้นนำท่านชม “โบสถ์ซันตาโคเช่” โบสถ์ขนาดใหญ่ซึ่งใช้เป็นสถานที่ฝังศพของศิลปินชื่อก้องโลก“ไมเคิลแองเจลโล และกาลิเลโอ” และศิลปินชื่อดังของเมือง ชมจัตุรัสเดลลาซิญญอเรีย (Piazza Della Signoria) ที่มีความสวยงามและมีเอกลักษณ์โดดเด่นอย่างมาก เนื่องจากเป็นที่ตั้งของรูปปั้นเดวิด อันเป็นผลงานที่มีชื่อเสียงของ ไมเคิล แองเจโล่
ค่ำ : บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารจีน
พักที่ : Grand Hotel Mediterraneo / หรือระดับใกล้เคียง
เช้า : บริการอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก
จากนั้นนำท่านออกเดินทางสู่เส้นทางโรแมนติก แห่งทอสคานี แคว้นทอสคานี เสมือนเป็นอู่ข้าวอู่น้ำของประเทศอิตาลี มีความอุดมสมบูรณ์ สามารถปลูกพืชพันธุ์ได้หลากหลาย และมีฟาร์มปศุสัตว์ ที่มีคุณภาพอยู่มากมายหลาย นำท่านเดินทางเข้าสู่หมู่บ้านมอนเตริคจิโอนิ (Monteriggioni) (60 กม.) เป็นเมืองหน้าด่าน อันเก่าแก่ตั้งแต่ยุคกลางของเมืองเซียน่า แคว้นทอสคานี มีกำแพงล้อมรอบตัวเมือง ตั้งอยู่บนเนินธรรมชาติที่สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1214 ในอดีตเมืองนี้ เป็นแนวหน้าในสงครามกับเมืองฟลอเรนซ์ กำแพงรอบตัวเมืองมีหอคอย 14 แห่งตั้งอยู่บนฐานสี่เหลี่ยมจัตุรัส มีประตูทางทิศเหนือ Porta Fiorentina เปิดสู่ฟลอเรนซ์ และทางทิศใต้อีก Porta Romana หันหน้าไปกรุงโรม ถนนสายหลักภายในกำแพงเชื่อมต่อทั้งสองประตูเข้าด้วยกันเป็นเส้นตรง กลางเมืองมีจัตุรัส Piazza Roma บ้านเรือนส่วนใหญ่สไตล์เรเนสซองส์ (เคยเป็นเจ้าของขุนนางท้องถิ่นพ่อค้าที่ร่ำรวยและผู้ดี) เก็บภาพความสวยงาม นำท่านเดินทางสู่เมืองเซียน่า(ระยะทาง 40 ก.ม.) ตลอดทั้งใจกลางเมืองเก่าของเซียน่าได้รับเลือกโดยองค์การยูเนสโกให้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกเมื่อปี ค.ศ.1995
เที่ยง : บริการอาหารมื้อกลางวัน ณ ภัตตาคารเมนูพิเศษ ฟิออเรนติน่า สเต๊ก
(Fiorentina Beef Steak) เมนูสุดพิเศษที่มีชื่อเสียงที่สุดของแคว้นทัสคานี ซึ่งโดยปกติเชฟจะย่างเนื้อทั้งก้อนแล้วมา บรรจงแล่ให้ลูกค้าที่โต๊ะอาหารขณะที่ยังร้อนอยู่
(ท่านใดไม่ทานเนื้อวัวกรุณาแจ้งเจ้าหน้าที่ฝ่ายขาย ทางบริษัทจะเปลี่ยนเมนูอื่นแทน)
เชิญท่านเยี่ยม จตุรัสเปียซซ่า เดล คัมโป Piazza del Campo ซึ่งได้รับยกย่องว่าเป็นมรดกโลก และเคยเป็นบ้านของาลิโอนักแข่งม้าที่มีชื่อกระฉ่อนที่สุดในโลก ชมจตุรัสเปียซซ่า เดล คัมโป ที่ได้ชื่อว่าสวยแปลกตาเพราะมีรูปทรงเป็นรูปพัด ลาดเอียงแบบขั้นบันได ตั้งอยู่ ด้านหน้าศาลาว่าการเมืองเซียน่า เดินเล่นชมเมือง บ้านเรือนต่างๆ ถึงแม้ดูเก่าแก่ แต่ยังคงถูกใช้งานเป็นที่อยู่อาศัยและร้านค้า มีศาลากลางจังหวัดสไตล์โกธิค น้ำพุเกีย โบสถ์พระแม่นิรมล ที่นี่มีเทศกาลพาลิโอแสดงในชุดพื้นเมืองทุกปีมีชื่อเสียงมาก จากนั้นนำท่าน ออกเดินทางสู่เมืองซานจีมิญญาโน(San Gimignano) เป็นหมู่บ้านเล็กๆ ที่มีกำแพงล้อมรอบอยู่ระหว่างเมืองฟลอเรนซ์และเมือง Siena มีชื่อเสียงด้านสถาปัตยกรรมยุคกลางที่น่าทึ่ง และหอคอยที่สูงขึ้นจากสิ่งปลูกสร้างอื่นๆ เป็นสัญลักษณ์ที่สำคัญ ทำให้เห็นทัศนียภาพสวยงามอันน่าประทับใจของเมือง
จากเส้นทางโดยรอบ โดยเริ่มต้นจากขุนนางประจำเมืองได้สร้างหอคอยขึ้นราว 72 แห่งเพื่อเป็นสัญลักษณ์แห่งความมั่งคั่งและอำนาจของพวกเขา แม้ว่าปัจจุบันจะเหลืออยู่เพียง 14 หอคอยเท่านั่น เมืองซานจีมิญญาโน ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก จากองค์การ UNESCO ตั้งแต่ปี ค.ศ.1990 เมืองท่านเข้ามาในเมืองซานจีมิญญาโน เสมือนท่านได้ย้อนเวลากลับไปในยุคกลางอย่างแท้จริง / นำท่านเดินรทางสู่เมืองลา สเปเซีย
ค่ำ : บริการอาหารมื้อค่ำ ณ ภัตตาคาร
พักที่ : NH Hotel La Spezia / หรือระดับใกล้เคียง
เช้า : บริการอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก
นำท่านนั่งรถไฟสู่ ชิงเกว่ แตร์เร (Cinque Terre) หมู่บ้านเล็กๆ ทั้งห้า ที่ตั้งอยู่บนชายฝั่งริเวียร่า ของอิตาลี CINQUE TERRE มีความหมายว่า “ห้าดินแดน” (FIVE LANDS) ประกอบด้วย หมู่บ้านห้าแห่ง ได้แก่ MONTEROSSO AL MARE, , CORNIGLIA, MANAROLA และ RIOMAGGIORE โดยทั้งห้าหมู่บ้านนี้มีหุบเขาล้อมรอบ ประกอบกันเป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติฯ และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโก้อีกด้วย แวะชมความงามของหมู่บ้านริโอแมกจิโอเร (RIOMAGGIORE) เป็นหมู่บ้านเล็กๆ ที่มีเสน่ห์ และมีบรรยากาศเหมือนเมืองตุ๊กตา บ้านเรือนที่ตั้งลดหลั่นกันบนหน้าผาที่ปกคลุมด้วยต้นไม้เขียวขจีตัดกับน้ำทะเลเมดิเตอร์เรเนียนสีเทอร์ควอยซ์ ทำให้ กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตแห่งหนึ่งอย่างไม่ต้องสงสัย อิสระให้ท่านชมความงดงาม และถ่ายภาพตามอัธยาศัย นำท่านออกเดินทางโดยรถโค้ชปรับอากาศ สู่เมืองเซนต์ มาการิตา
เที่ยง : บริการอาหารมื้อกลางวัน ณ ภัตตาคารพื้นเมือง
นำท่านลงเรือ(เรือส่วนตัวเฉพาะคณะเราเท่านั้น)สู่เมืองพอร์โตฟิโน (นั่งเรือประมาณ 20 นาที) เดินทางถึงเมืองพอร์โตฟิโน(Portofino) นำท่านเดินเล่นเที่ยวชมเมืองโดยรอบ พอร์โตฟิโนเป็นเมืองท่า แห่งชายทะเลเมดิเตอร์เรเนียนที่มีชื่อเสียงในระดับโลก ซึ่งตั้งอยู่ในเขตจังหวัดของเจนัว ที่ถูกล้อมรอบด้วยท่าเรือเล็กๆ จนได้รับการขนานนามว่าเป็น “สวรรค์แห่งเมืองท่า” สำหรับนักท่องเที่ยวก็ว่าได้ เมืองเล็กๆ ที่แสนน่ารัก ภายในตัวเมืองประกอบไปด้วยด้วยบ้านเรือนหลากสีสัน ซึ่งตั้งเบียดเสียดกันไปตามเชิงเขาเขียวชอุ่ม โอบล้อมอ่าวที่มี เรือยอร์ชส่วนตัว จอดเต็มไปหมด เก็บภาพโบสถ์เซนต์ มาร์ติน (St.Martin) ซึ่งสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 12 โดยตัวโบสถ์นั้นมีขนาดที่ไม่ใหญ่โต แต่ก็มีความสวยงามมากพอสมควร ได้เวลาสมควรนำท่านออกเดินทางกลับได้เวลาอันสมควรนำท่านเดินทางสู่เมืองเจนัว
ค่ำ : บริการอาหารมื้อค่ำ ณ ภัตตาคาร / นำคณะเดินทางเข้าสู่ที่พัก
พักที่ : NH Milano Touring Hotel / Meliá Milano Hotel / หรือระดับใกล้เคียง
เช้า : บริการอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก
นำท่านออกเดินทางสู่เมืองมิลาน (Milan) เมืองสำคัญในภาคเหนือของประเทศอิตาลี ตั้งอยู่บริเวณที่ราบแห่งแคว้นลอมบาร์ดี นำคณะเดินทางสู่บริเวณ “ปราสาทสฟอร์เซสโก้” ปราสาทสวยงามหลังนี้ได้เคยเป็นป้อมปราการของพวกตระกูลวิสคอนติ ต่อมาเป็นที่พำนักของผู้นำเผด็จการในช่วงศตวรรษที่ 15 คือ ตระกูลสฟอร์ซา มีเวลาให้ท่านได้ถ่ายภาพกับมุมสวยๆ ของน้ำพุที่โพยพุ่งบริเวณด้านหน้าปราสาทสฟอร์เซสโก้ นำท่านเก็บภาพ “มหาวิหารแห่งมิลาน หรือดูโอโม” สัญลักษณ์ที่โดดเด่นที่สุดของเมือง อันมีขนาดใหญ่โตมโหฬาร สร้างขึ้นด้วยหินอ่อนสีขาวในศิลปะแบบโกธิค ใช้เวลาสร้างนานกว่า 500 ปี ปัจจุบันเป็น “โบสถ์แคธอลิกที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลก” ลานด้านหน้าเป็นที่ตั้งของพระราชานุสาวรีย์พระเจ้าวิคเตอร์เอ็มมานูเอลที่ 2 ทรงม้า รายล้อมด้วยอาคารที่เก่าแก่คลาสสิคและช้อปปิ้งมอลล์ที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของโลก
เที่ยง : บริการอาหารมื้อกลางวัน ณ ภัตตาคาร
มีเวลาให้ท่านได้เลือกหาซื้อสินค้าชื่อดังมากมายที่ “แกลเลอเรีย วิคเตอร์เอ็มมานูเอลที่ 2” ที่ใช้เวลาก่อสร้างถึง 12 ปีเป็นอาคารหลังคากระจกโครงเหล็กพื้นโมเสกลวดลายงดงามมาก ภายในประกอบด้วยร้านค้าสินค้าแบรนด์เนมชื่อดัง เช่น Prada, Louis Viton, Gucci, Bally, Amani, Moschino , Versace ฯลฯ ให้ท่านได้ช้อปปิ้งตามอัธยาศัย บนถนนมองท์ นโปลียอง และถนนวิคเตอร์เอมมานูเอล หรือนั่งจิบกาแฟชมบรรยากาศ
ค่ำ : บริการอาหารมื้อค่ำ ณ ภัตตาคารไทย / นำคณะเดินทางเข้าสู่ที่พัก
พักที่ : NH Milano Touring Hotel / Meliá Milano Hotel / หรือระดับใกล้เคียง
เช้า : บริการอาหารเช้า ที่ห้องอาหารของโรงแรม
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เซอร์ราวาเล เอ้าท์เล็ท (Serravalle Designer Outlet) เลือกซื้อสินค้าแบรนด์เนมมากมายในราคาพิเศษ เช่น Armani, Bally, Bulgari, Burberry, Calvin Klein, Camper, Diesel, Hugo Boss, L’Occitane , Lacoste, Loewe, Michael Kors, Polo Ralph Lauren, Quiksilver, Ray-Ban, Samsonite, Spazio Dolce & Gabbana, Swarovski, Swatch, TAG Heuer, Timberland, Tommy Hilfiger, Versace, etc. ได้เวลาสมควรนำท่านออกเดินทางสู่สนามบินนานาชาติมิลาน ***อิสระอาหารกลางวันภายในเอาท์เล็ทเพื่อความสะดวกในการช้อปปิ้ง***
16.15 : เหิรฟ้ากลับสู่กรุงโดฮา โดยสายการบินกาตาร์ แอร์เวย์ เที่ยวบินที่ QR128
23.05 : ถึงสนามบินกรุงโดฮา รอเปลี่ยนเครื่องภายในสนามบิน
02.10 : เหิรฟ้ากลับสู่สนามบินสุวรรณภูมิ โดยสายการบินกาตาร์ แอร์เวย์ เที่ยวบินที่ QR836
13.10 : เดินทางถึงกรุงเทพฯ…โดยสวัสดิภาพพร้อมความประทับใจ
อัตราค่าบริการนี้รวม
อัตราค่าบริการนี้ไม่รวม
*** หมายเหตุ โปรแกรมการเดินทางอาจเปลี่ยนแปลงได้ตามความเหมะสม เนื่องจากสภาพ ลม ฟ้า อากาศ, การล่าช้าอันเนื่องมาจากสายการบิน และสถานการณ์ในต่างประเทศที่ทางคณะเดินทางในขณะนั้น เพื่อความปลอดภัยในการเดินทาง โดยบริษัทฯ ได้มอบหมายให้ หัวหน้าทัวร์ผู้นำทัวร์ มีอำนาจตัดสินใจ ณ ขณะนั้นทั้งนี้การตัดสินใจ จะคำนึงถึงผลประโยชน์ของหมู่คณะเป็นสำคัญ เมื่อท่านทำการจองและชำระเงินมัดจำแล้ว บริษัทฯ ถือว่าท่านได้ยอมรับเงื่อนไขของทางบริษัทฯ แล้ว
การจองและชำระเงิน
เงื่อนไขการยกเลิก
เอกสารที่ใช้ประกอบในการยื่นวีซ่า VISA (ทุกท่านต้องมาโชว์ตัวและสแกนนิ้วในวันยื่นวีซ่า)
*** กรณีข้าราชการ: หนังสือรับรองจากต้นสังกัด (ตัวจริง) เป็นภาษาอังกฤษ ระบุตำแหน่ง เงินเดือน และวันเริ่มงานพร้อมสลิปเงินเดือน ย้อนหลัง 3 เดือน อายุย้อน หลังไม่เกิน 1 เดือน (นับจากเดือนที่จะเดินทาง)
*** กรณีนักเรียนและนักศึกษา: หนังสือรับรองการเป็นนักเรียนหรือนักศึกษา (ตัวจริง) เป็นภาษาอังกฤษจากสถาบันที่ศึกษาอยู่ อายุย้อนหลังไม่เกิน 1 เดือน (นับจากเดือนที่จะเดินทาง)
*** กรณีที่สถานทูตมีการเรียกสัมภาษณ์ กรุณาเตรียมเอกสารตัวจริงทั้งหมด ไปในวันนัดสัมภาษณ์ด้วย
*** สถานทูตอาจมีการขอเอกสารอย่างอื่นเพิ่มเติม ตามดุลพินิจของสถานทูต อย่างกะทันหัน จึงขอความกรุณาเตรียมเอกสารเพิ่มเติมให้ครบถ้วน ตามที่สถานทูตขอ เพื่อความสะดวกในการพิจารณาอนุมัติ 88ออกวีซ่าสำหรับสถานทูต
หมายเหตุ
กรณีวีซ่าที่ท่านยื่นไม่ผ่านการพิจารณา และคณะสามารถออกเดินทางได้ ท่านจะต้องเสียค่าใช้จ่ายจริงที่เกิดขึ้นดังต่อไปนี้
*************************************************************************
Error: Contact form not found.
Error: Contact form not found.
Error: Contact form not found.
Error: Contact form not found.
Error: Contact form not found.
Error: Contact form not found.
Error: Contact form not found.