ทัวร์อิตาลี พิพิธภัณฑ์รถเฟอรารี่ ล่องเรือเวนิส ทะเลสาบการ์ตา

22:00 น.         พร้อมกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารขาออก ชั้น 4 เคาน์เตอร์สายการบินเอมิเรตส์ (EK) เจ้าหน้าที่จากบริษัทฯ จะคอยต้อนรับและอำนวยความสะดวกให้ท่านก่อนขึ้นเครื่อง

01:35 น.          เดินทางสู่ กรุงมิลาน ประเทศอิตาลี โดย สายการบินเอมิเรตส์ (EK) เที่ยวบินที่ EK385/EK205 แวะเปลี่ยนเครื่องที่สนามบินดูไบ : 0445-0945

14:20 น.         (เวลาท้องถิ่น) เดินทางถึง กรุงมิลาน (MILAN) ประเทศอิตาลี หลังผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากรเรียบร้อยแล้ว…

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองโมเดนา (MODENA) (180 กม.) เมืองเก่าแก่แห่งนี้ อยู่ทางตอนเหนือของอิตาลี เมืองที่มีชื่อเสียงทางด้านการท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมมากแห่งหนึ่งของแคว้นเอมีเลีย-โรมัญญา (Emilia-Romagna) เป็นหนึ่งใน 20 แคว้นและเป็นหนึ่งในภูมิภาคที่มีความสำคัญทางด้านประวัติศาสตร์ของประเทศอิตาลีมากแห่งหนึ่งอีกด้วย …เป็นเมืองแห่งรถเฟอรารี่ (FERRARI) ซึ่งเป็นเมืองบ้านเกิดของ Enzo Ferrari และเป็นที่ตั้งของโรงงานผลิตสุดยอดรถยนต์ระดับโลก อย่าง Ferrari, Lamborghini, De Tomaso, Pagani, และ Maserati ที่ได้รับการขนานนามว่าเป็น เมืองหลวงแห่งยานยนต์

นำท่าน เข้าชมพิพิธภัณฑ์รถเฟอรารี่ ENZO FERRARI MUSEUM (MEF) ในเมืองโมเดนาของอิตาลีซึ่ง MEF ที่นี่ถือเป็นพิพิธภัณฑ์เฟอรารี่ แห่งที่สองในโลก ซึ่งเปิดอย่างเป็นทางการเมื่อวันพุธที่ 18 กุมภาพันธ์ 2014 ซึ่งตรงกับวันเกิดของ Enzo Ferrari ผู้ก่อตั้งแบรนด์ Ferrari โดยแห่งแรกคือ Ferrari Museum ตั้งอยู่ติดกับโรงงาน Ferrari ในเมืองมาราเนลโล ของอิตาลี …พิพิธภัณฑ์ MEF แห่งนี้เป็นที่จัดแสดงยนต์กรรมที่มีความสำคัญที่สุดในประวัติศาสตร์ของ Ferrari ส่วนใหญ่เป็นรถสปอร์ตที่ Enzo Ferrari ออกแบบและผลิตขึ้นมาตลอดช่วงเวลาที่เขามีชีวิตอยู่ พร้อมกับมีวีดีโอบอกเล่าเรื่องราวความเป็นมาของแบรนด์ม้าลำพองอย่างละเอียด ทุกแง่มุม พิพิธภัณฑ์ในเมืองโมเดน่าถูกออกแบบให้สามารถหมุนเวียนการจัดแสดงได้โดยเน้นที่ตัวผู้ก่อตั้งอย่าง Enzo Ferrari แต่ที่มาราเนลโลเน้นที่แบรนด์ Ferrari ในปัจจุบันและอนาคต รวมถึงยานยนต์ที่ประสบความ สำเร็จในอดีตทั้งบนถนนจริงและสนามแข่ง อิสระท่านเดินชมตามอัธยาศัย…

นำท่านเดินทางสู่ เมืองโบโลญญ่า (Bologna) (45 กม.) เมืองประวัติศาสตร์ที่มีชื่อเสียงทางด้านท่องเที่ยวและเป็นเมืองหลวงของแคว้น เอมีเลีย-โรมัญญา (Emilia-Romagna) เป็น 1ใน 20 แคว้นของประเทศอิตาลี โดยตัวเมืองนั้นตั่งอยู่ในหุบเขาโป ทางตอนเหนือของประเทศอิตาลโดยตั้งอยู่ระหว่างแม่น้ำโป กับ เทือกเขาแอเพนไนน์ยังเป็นหนึ่งในเมืองยุคกลางที่ได้รับการเก็บรักษาไว้ดีที่สุดแห่งหนึ่งในยุโรป…

ค่ำ                รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรม

ที่พัก Bologna หรือเทียบเท่า

เช้า               รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

นำท่าน ชมเมืองโบโลญญ่า …..เปียสซ่า มัจโจเล่ (Piazza Maggiore) จัตุรัสขนาดใหญ่ ที่ตั้งอยู่ในใจกลางของส่วนเมืองเก่าที่ล้อมรอบด้วยโบสถ์ซาน เปโตรนิโอ (Basilica of San Petronio) ซิตี้ฮอลล์ (City Hall ) ลานน้ำพุเทพเนปจูน (Fontana del Nettuno) และ อาคารปาลาซโซ เดล โพเดสตา (Palazzo del Podesta)…

นำท่าน ถ่ายรูปด้านนอกกับ 2 หอคอย อสิเนลี่ (Tower of the Asinelli) มีความสูงประมาณ 97.20 เมตร (330 ฟุต) และ หอคอยการิเซนดา (Tower of the Garisenda) มีความสูง ประมาณ 47 เมตร (162 ฟุต)นิยมเรียกกันว่า อาคารหอคอยคู่ (Two Towers) เป็นสัญลักษณ์หลักของเมืองนี้ ถูกสร้างขึ้นในช่วงระหว่างปี 1109 -1119….อิสระให้ท่านเดินเลือกซื้อของฝากหรือของที่ระลึกตามอัธยาศัย…..

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองปาโดวา (PADOVA) (120 กม.) เมืองท่องเที่ยวของแคว้นเวเนโต (Veneto region) ซึ่งเป็น 1 ใน 20 แคว้นที่ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของประเทศ อิตาลีและยังเป็นแคว้นหนึ่งที่มีนักท่องเที่ยวมามากที่สุดแห่งหนึ่งอีกด้วย นอกจากนี้แล้ว เมืองปาโดวายัง ถือว่าเป็นเมืองที่เก่าแก่ที่สุดในภาคเหนือของอิตาลี และยังมีชื่อเสียงไม่น้อยไปกว่าเมืองท่องเที่ยวอื่นๆ  ของประเทศ เนื่องจากภายในตัวเมืองนั้น มากมายไปด้วยสิ่งก่อสร้างที่ถือว่าเป็นศูนย์กลางประวัติศาสตร์ที่มีความสำคัญมากแห่งหนึ่งของประเทศ…

นำท่าน ชมภายนอกปาลัซโซ เดลลา ราโจเน (PALAZZO DELLA RAGIONE) อาคารยุคกลางที่มีชื่อเสียง ถูกสร้างขึ้นในรูปทรงสี่เหลี่ยมที่มียาว 81.5 เมตร กว้าง 27 เมตร และมีสูง 24เมตร โดดเด่นไปด้วยหลังคาขนาดใหญ่ มีระเบียงที่เปิดกว้าง ภายในตกแต่งไปด้วยจิตรกรรมฝาผนังที่งดงาม…

ชมภายนอกปราโต เดลลา วัลเล (Prato della Valle) หนึ่งในสัญลักษณ์ที่มีชื่อเสียงและมีความงดงามมากแห่งหนึ่งของเมือง ถูกล้อมรอบด้วยคลองเล็กๆ และสวนกว้างใหญ่ ที่มีรูปปั้นของบุคคลที่มีกว่า 78 รูปปั้น ตั้งเรียงรายไปรอบๆคลองน้ำ โดยรูปปั้นเหล่านี้ถูกสร้างขึ้นโดย Andrea Memmo ในช่วงปลายศตวรรษที่ 18…

เที่ยง             อิสระอาหารกลางวันตามอัธยาศัย

บ่าย              จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองเวนิส (VENICE) (155 กม.) หนึ่งในเมืองที่สวยที่สุดในอิตาลี เป็นเมืองที่รู้จักกันในด้านของความเจริญรุ่งเรืองทางประวัติศาสตร์ และศิลปะที่ได้รับหลายฉายาว่า ราชินีแห่งทะเลอาเดรียตริก (Queen of the Adriatic) เมืองแห่งสายน้ำ (City of Water) เมืองแห่งสะพาน (City of Bridges) และเมืองแห่งแสงสว่าง (The City of Light) อีกทั้งยังเป็นเมืองที่โรแมนติกเมืองหนึ่งในยุโรปที่ไม่เหมือนเมืองใดในโลกไม่มีการอนุญาตให้รื้อสิ่งก่อสร้างเก่า ไม่มีรถยนต์มีแต่เรือที่จำกัดไม่ให้เสียงดัง ดังนั้นทั่วโลกจึงหลงใหลมนต์เสน่ห์อันสุนทรีย์ของเวนิชตลอดมา

ค่ำ                รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรม

ที่พัก Mestre หรือเทียบเท่า

เช้า               รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

จากนั้นนำท่าน ล่องเรือสู่เกาะเวนิส ….นำท่าน ชมจัตุรัสซานมาร์โค จัตุรัสที่สวยงามที่สุดในอิตาลี ผ่านชมมหาวิหาซานมาร์โคพระราชวังดอจสิ่งก่อสร้างที่เก่าแก่มากว่า 800 ปีมาแล้วเมื่อสมัยเวนิสยังเป็นสาธารณะรัฐอิสระซึ่งเคยร่ำรวย และมีอำนาจมหาศาล และเคยส่งให้มาร์โคโปโลเดินทางไปเมืองจีน …อิสระเดินเล่นชมเมืองเวนิสชมเสน่ห์ของอาคารบ้านเรือนที่เป็นเอกลักษณ์ของเมืองเวนิสตามซอกซอยต่างๆ

นำท่าน ล่องเรือกอนโดล่า (ใช้เวลาประมาณ 30 นาที *.*.*. รายการนี้ไม่รวมอยู่ในค่าทัวร์ *.*.*. ในกรณีน้ำไม่ขึ้นสูงเกินไปและฝนไม่ตก ท่านสามารถแจ้งหัวหน้าทัวร์ ซึ่งเรือต่อลำสามารถนั่งได้ 5-6 ท่าน)

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองเวโรนา (VERONA) (121 กม.) อยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของอิตาลี เป็นเมืองที่ใหญ่และสำคัญเป็นอันดับสองในแคว้นเวเนโต ได้รับสมญานามว่า LITTLE ROMAN เพราะยังคงสภาพสิ่งก่อสร้างจากสมัย โรมันไว้อย่างสมบูรณ์ เป็นเมื  องที่มากไปด้วยกลิ่นอายแห่ง ศิลปะและวัฒนธรรม เป็นเมืองขนาดกระทัดรัด อบอุ่น ล้อมรอบด้วยสายน้ำ ในปีค.ศ. 2000 องค์การ การศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่ง สหประชาชาติก็ประกาศให้เวโรนาเป็นเมืองมรดกโลกทางวัฒนธรรม …

ค่ำ                รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรม

ที่พัก VERONA หรือเทียบเท่า

เช้า               รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

ชมเมืองเวโรนา …ถ่ายภาพด้านนอก VERONA ARENA โรงละครกลางแจ้งแบบโรมัน ลักษณะเหมือนโคลอสเซียมที่โรมแต่ขนาดเล็กกว่า เป็นเมืองแห่งความรัก ที่มีเรื่องราวความรักระหว่างหนุ่มสาวของสองตระกูลผู้ยิ่งใหญ่ มองตากิว(โรมีโอ) และ คาปูเล็ต (จูเลียต) ยิ่งเมื่อ วิลเลี่ยมเชคสเปียร์ เอาเรื่องราวของโรมิโอกับจูเลียต มาเขียนเป็นบทละครเวที ชื่อเสียงของ โรมีโอ จูเลียต และ เวโรนา ก็โด่งดังมากขึ้นและดึงดูดให้นักท่องเที่ยว…

เช้าชมบ้านของจูเลียต (Casa di Giulietta) คือบ้านเลขที่ 27 ถนน Via Cappello Casa di Giulietta ซึ่งแท้จริงแล้วบ้านหลังนี้ เคยเป็นของตระกูล Cappello เป็นความบังเอิญที่ชื่อตระกูลคล้ายคลึงกับตระกูล Capulet ของจูเลียต แต่ด้วยความที่กระแสของละครดัง คนก็เลยอินจัดเมืองนี้ก็เลยถูกพัฒนาให้เป็นที่ท่องเที่ยว อย่างไรก็ตามบ้านหลังนี้สร้างขึ้นตั้งแต่ศตวรรษที่13 และได้ทำการปรับปรุงใหม่ในศตวรรษที่ 20 โดยเพิ่มระเบียงซึ่งเป็นที่ที่โรมิโอสารภาพรักกับจูเลียตในบทประพันธ์อีกทั้งยังเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้หญิง สาวจากทั่วโลกพากันมาที่นี่ ยืนริมระเบียงแห่งนี้ และดื่มด่ำกับบรรยากาศที่เขียนขึ้นเมื่อหลายร้อยปีก่อนเพื่อจินตนาการถึงโรมิโอของพวกเธอ

จากนั้นนำท่าน เดินเล่นบริเวณจัตุรัสใจกลางเมือง (PIAZZA DELL ERBE) เป็น Market Square ที่สวยงามเป็นที่ชุมนุมของชาวบ้านมาตั้งแต่ยุคโรมัน ตึกที่รายล้อมสี Pastel หวานๆ มีร้านรวงเล็กๆ ลักษณะเหมือนตลาด

เที่ยง             รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

บ่าย              จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองซีร์มิโอเน่ (SIRMIONE) (45 กม.) เมืองเก่าแก่อายุนับ 2000 ปีด้วยลักษณะภูมิประเทศที่เป็นแหลมยื่นเข้าไปในทะเลสาบการ์ดา (LAKE GARDA) ที่สวยงาม ….

นำท่าน ชมทะเลสาบการ์ดา ความสวยงามของวิวทิวทัศน์ของทะเลสาบน้ำจืดที่เกิดจากน้ำแข็งละลายจากเทือกเขาแอลป์ ล้อมรอบด้วยทะเลสาบทั้งสองด้าน เมืองเล็กๆแต่ก็มีเสน่ห์ดึงดูดใจนักท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี

นำท่าน ถ่ายภาพด้านหน้าปราสาทเก่าแก่ของเมือง (THE SCALLGER OF SIRMIONE) สร้างในปี 1277 เมืองนี้เคยอยู่ในการปกครองของตระกูล Scaliger…

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองเบอร์กาโม (BERGAMO) (100 กม.) เบอร์กาโมเป็นเมืองที่ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของประเทศอิตาลี เป็นเมืองที่มีความสำคัญ ทางประวัติศาสตร์ของแคว้นลอมบาร์ดีย์ (Lombardy) หนึ่งใน 20 แคว้นของประเทศอิตาลี…

ที่พัก BERGAMO หรือเทียบเท่า

เช้า               รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

นำท่าน ชมย่านเมืองเก่า Citta Alta ซึ่งพื้นที่ส่วนใหญ่ของเมืองนั้นล้อมรอบด้วยกำแพงเมืองแบบเวนิส ที่สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 17 ชมย่านจัตุรัสเก่า เปียสซ่า เว็คเคียร์ (Piazza Vecchia ,Old square) ซึ่งเป็นย่านใจกลางเมืองเก่าที่แวดล้อมไปด้วยเหล่าอาคารที่แสดงออกถึงการผสมผสานระหว่างสถาปัตยกรรมของยุคกลางและเรเนสซองส์…

นำท่านเดินทางสู่ เมืองมิลาน (MILAN) ระหว่างทางให้ท่านได้ช้อปปิ้ง SERRAVALLE OUTLET (60 กม.) ช้อปปิ้งสินค้าแบรนด์เนมราคาถูก หนึ่งใน OUTLET ที่ดีที่สุดในประเทศอิตาลีและของยุโรป…

นำท่านเดินทางสู่ เมืองมิลาน (MILAN) เมืองศูนย์กลางทางเศรษฐกิจที่สำคัญของอิตาลี เมืองที่ขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองหลวงแห่งแฟชั่น

จากนั้นนำท่าน ชมโบสถ์ดูโอโม่แห่งมิลาน โบสถ์ใหญ่อันดับ 3 ของยุโรป เป็นศิลปะแบบกอธิคที่หรูหรา และใช้เวลาในการสร้างนานเกือบ 500 ปี โดยเริ่มสร้างตั้งแต่ ปี ค.ศ.1386 และที่น่าทึ่งของโบสถ์ ก็คือการตกแต่งประดับประดาที่เน้นความหรูหราอย่างเต็มที่โดยเฉพาะรูปปั้นรอบตัวอาคาร มีจำนวนกว่า 3,000 ชิ้น ขวามือของโบสถ์มีอาคารทรงกากบาทหลังหนึ่ง และหลังคามุงด้วยกระเบื้องโปร่งใส เรียกกันว่า“อาเขต” สร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์แก่กษัตริย์วิคเตอร์เอมมานูเอลที่ 2 ปฐมกษัตริย์ของอิตาลีในการรวมชาติ

นำท่าน ช้อปปิ้งภายในอาคารแกลเลอเรีย วิคตอริโอ เอมานูเอล 2 ช้อปปิ้งอาเขตที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของโลก มีชื่อเรียกเล่นๆว่าเป็นห้องนั่งเล่นของเมืองมิลาน เพราะนอกจากจะมีสินค้าแบรนด์เนมราคาแพงขายแล้ว ยังมีร้านกาแฟที่เรียกกันว่า ไซด์ วอล์ค คาเฟ่ สามารถนั่งจิบ คาปูชิโน นั่งดูหนุ่มสาว แต่งกายด้วยเสื้อผ้าทันสมัย ดังนั้นหากท่านไม่คิดจะช้อปปิ้งหรือนั่งกินกาแฟก็ควรที่จะต้องไปเดินเล่นชมความงดงามของอาคารหลังนี้ให้ได้ หรือหากท่านยังติดใจในเรื่องช้อปปิ้ง ก็สามารถไปช้อปปิ้งต่อได้ยังถนนเวีย มอนเต้ นโปเลโอเน่ ซึ่งถือเป็นย่านช้อปปิ้งที่ขึ้นชื่อที่สุดของเมืองนี้ ตั้งอยู่ระหว่างโบสถ์ดูโอโม่กับลานกว้างแห่งหนึ่ง …อิสระให้ท่านช้อปปิ้งตามอัธยาศัย

18:00 น.          นำท่านเดินทางสู่ สนามบิน เพื่อเดินทางกลับสู่ ประเทศไทย

22:20 น.          ออกเดินทางกลับสู่ ประเทศไทย โดย สายการบินเอมิเรตส์ เที่ยวบินที่ EK92/EK372

แวะเปลี่ยนเครื่องที่เมืองดูไบ : 0625-0940

19:15 น.          (เวลาท้องถิ่น) เดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพ