23.30 น. : นัดคณะพร้อมกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ ชั้น 4 ประตูหมายเลข 8 เคาน์เตอร์ P สายการบิน Qatar Airways เจ้าหน้าที่พร้อมคอยต้อนรับและอำนวยความสะดวกด้านเอกสารและสัมภาระ
02.30 น. : ออกเดินทางจากสนามบินสุวรรณภูมิ โดยสายการบิน Qatar Airways เที่ยวบินที่ QR837
05.45 น. : เดินทางถึงสนามบินกรุงโดฮา ประเทศกาต้าร์ เพื่อให้ท่านแวะเปลี่ยนเครื่อง
08.45 น. : นำท่านออกเดินทางจากสนามบินกรุงโดฮา ประเทศกาต้าร์ โดยสายการบิน Qatar Airways เที่ยวบินที่ QR131
13.55 น. : เดินทางถึงกรุงโรม ประเทศอิตาลี หลังผ่านขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมืองและตรวจรับสัมภาระเรียบร้อยแล้ว นำท่านเดินทางสู่เมืองฟลอเรนซ์ Florence นครที่รุ่งเรืองสุดในช่วงยุคทองของศิลปะอิตาลี (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3.30 ชั่วโมง)
ค่ำ : รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารพื้นเมือง
เช้า : รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
เดินทางสู่เมืองฟลอเรนซ์ นำท่านเข้าชมหอศิลป์อุฟฟิซี (Uffizi Gallery) พิพิธภัณฑ์ศิลปะที่มีชื่อเสียงมากที่สุดแห่งหนึ่งของอิตาลี ที่มีผู้สนใจเข้าชมเป็นจำนวนมากทุกวัน เพราะที่นี่เป็นที่รวมงานศิลปะตระกูลช่างฟลอเรนทีนและเรอแนสซองส์ที่มากที่สุดในโลก โดยเป็นของสะสมของตระกูลเมดิซี ภายในแบ่งเป็นห้องต่างๆ ตามยุคสมัยและห้องศิลปิน และภาพวาดที่เข้าชมกันมากคือ The Birth of Venus (กำเนิดวีนัส) และ Primavera (ฤดูใบไม้ผลิ) ผลงานของซานโดร บอตติเชลลี (Sandro Botticelli) นอกจากนี้ยังมีผลงานของศิลปินในยุคเรอนาสซองส์ให้ได้เลือกชมอีกถึง 45 ห้อง จากนั้นนำท่านชมเขตเมืองเก่าฟลอเรนซ์ ที่ได้รับเลือกโดยองค์การยูเนสโก้ให้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกเมื่อปี ค.ศ.1982 เดินชมความสวยงามบริเวณ จัตุรัสดูโอโม่ ที่ตั้งของมหาวิหารแห่งเมืองฟลอเร้นซ์ ที่สวยงามและยิ่งใหญ่ ชมจัตุรัสซิกนอเรีย, สะพานเก่าเวคคิโอ ที่ทอดข้ามแม่น้ำอาร์โน ซึ่งอดีตเป็นแหล่งขายทองคำที่เก่าแก่ของฟลอเร้นซ์และยังคงอนุรักษ์บรรยากาศแบบดั่งเดิมไว้ได้อย่างดี ชมทัศนียภาพของตัวเมืองที่มีแม่น้ำอาร์โนไหลผ่านนครที่ยังคงรักษาสถาปัตยกรรมโบราณไว้อย่างน่าชื่นชม
กลางวัน : รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารจีน
บ่าย : นำท่านเดินทางสู่เมืองปิซ่า Pisa (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.30 ชั่วโมง) อีกหนึ่งเมืองท่องเที่ยวชื่อดังของประเทศอิตาลี และเป็นเมืองหลักสำคัญในเขตแคว้นทัสคานี และได้รับเลือกโดยองค์การยูเนสโกให้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกเมื่อปี ค.ศ.1987 นำท่านชมเมืองปิซ่า อดีตเมืองท่าเรือชายฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียน และเป็นที่ตั้งของหอเอนปิซ่า ชมจัตุรัสกัมโป เดย์ มิราโกลี หรือ จัตุรัสดูโอโม่ คือบริเวณที่ล้อมรอบด้วยกำแพงใจกลางเมืองปิซ่าและเป็นที่ตั้งของมหาวิหารเก่าแก่ที่มีขนาดใหญ่ที่สุด นำท่านชม 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก หอเอนปิซ่า ให้เวลาท่านเดินเล่นถ่ายรูปกับหอเอนปิซ่า ที่สร้างขึ้นเพื่อเป็นหอระฆังแห่งวิหารประจำเมือง แต่เพียงการเริ่มต้นของการสร้างถึงบริเวณชั้น 3 ก็เกิดการทรุดตัวและต้องหยุดการก่อสร้างจนถัดมาอีกร่วม 100 ปี ถึงได้สร้างต่อจนเสร็จสมบูรณ์และยังเป็นสถานที่กาลิเลโอ เคยมาพิสูจน์เรื่องแรงโน้มถ่วงของโลกและการตกของวัตถุด้วย
ค่ำ : รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารพื้นเมือง ให้ท่านชิมเพนเน่พาสต้าสไตล์อิตาเลี่ยน
เช้า : รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่ เมือง ลา สเปเซีย La Spezia เมืองในเขตลิกูเรีย ตอนเหนือของประเทศอิตาลี อยู่ระหว่างเมืองเจนัวและปิซ่า บริเวณอ่าวลิกูเรีย หนึ่งในอ่าวที่มีความสำคัญทางด้านการค้าและการทหาร นำท่านเปลี่ยนการเดินทางต่อโดยรถไฟสู่เมืองซิงเควเทอร์เร่ Cinque Terre หมู่บ้านเล็กๆ ที่ตั้งอยู่บริเวณริมชายฝั่งริเวียร่าของอิตาลี ที่มีความหมายว่าดินแดนทั้งห้า The Five Land หรือดินแดนแห่งความงดงาม ตั้งอยู่บนหน้าผาสูงชันเหนือทะเลเมดิเตอร์เรเนียนบริเวณชายฝั่งแคว้นลิกูเรีย ประกอบไปด้วย 5 หมู่บ้าน ที่ซ่อนตัวเองอยู่ห่างไกลจากสายตาของคนภายนอก แผ่นดินที่ยากจะเข้าถึงได้โดยง่าย อิสระให้ท่านเดินเล่นและถ่ายรูปตามอัธยาศัย
กลางวัน : รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารพื้นเมืองกับเมนูสปาเก็ตตี้สไตล์อิตาเลี่ยน
บ่าย : นำท่านเดินชมหมู่บ้านอีกแห่งหนึ่ง มอนเตรอสโซ่ Monterosso Al Mare หมู่บ้านที่ใหญ่และขึ้นชื่อที่สุด เนื่องจากเป็นเพียงหมู่บ้านเดียวที่มีชายหาดให้นักท่องเที่ยวลงไปนั่งเล่นพักผ่อนได้จริง และคึกคักมากในช่วงฤดูร้อน มอนเตรอสโซแบ่งหมู่บ้านออกเป็น 2 ด้าน หากนับจากสถานีรถไฟ ด้านทิศเหนือเป็นส่วนของบ้านตากอากาศ มีร้านค้าเสียเป็นส่วนใหญ่ ส่วนทิศใต้เป็นที่ตั้งของหมู่บ้าน จะไปทางด้านทิศใต้นั้นต้องเดินลอดอุโมงค์ที่เจาะผ่านช่องเขาเข้าไปตัวชุมชนที่นี่เป็นชุมชนที่ใหญ่ที่สุด และเป็นชุมชนแรกที่ก่อตั้งขึ้นในบรรดา 5 หมู่บ้าน เดินชมภายนอกวิหารนักบุญจอห์นเดอะแบ็พทิสต์ Chiesa di San Giovanni Battista สร้างขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 13-14 เป็นโบสถ์เล็กๆ มีลักษณะสถาปัตยกรรมแบบบาร็อค ทำจากหินอ่อนสลับสีขาวดำเป็นลายขวางพาดตัววิหารทั้งด้านนอกและด้านใน มีเวลาให้ท่านถ่ายภาพตามอัธยาศัย
จากนั้นเดินทางสู่เมืองราพัลโล่ Rapallo เมืองริมทะเลอิตาเลี่ยนริเวียร่า ที่ได้รับความนิยมจากชาวยุโรป (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.30 ชั่วโมง) ผ่านชมความงดงามของโบสถ์เซ้นต์มาร์ติน โบสถ์ขนาดใหญ่ของเมือง ผ่านชมปราสาทและป้อมปราการของเมืองที่ในอดีตเคยใช้เป็นแนวกำแพงป้องกันข้าศึก ปัจจุบันเป็นพิพิธภัณฑ์และเป็นจุดชมวิวของเมือง ผ่านชมโบสถ์ซานต์จอร์โจแม็กจอเร่ คริสตจักรในนิกายเบเนดิก โบสถ์ที่สร้างจากหินอ่อนสีขาวในสไตล์คลาสสิคเรอแนสซองส์
ค่ำ : รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารพื้นเมือง
เช้า : รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่ เมืองซานตามาร์เกอริต้า Santa Margherita Ligure ดินแดนสวรรค์ของนักท่องเที่ยว อยู่บนชายฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนี่ยน ตั้งอยู่ไม่ไกลจากเมืองเจนัว นำท่านโดยสารรถมินิบัส เพื่อนำท่านเดินทางต่อสู่ เมืองพอร์โตฟิโน่ Portofino ฉายาราชินีแห่งเมดิเตอร์เรเนี่ยน หรือ Pearl of the World อดีตเป็นหมู่บ้านชาวประมงเล็กๆ ปัจจุบันได้กลายเป็นเมืองตากอากาศที่มีชื่อเสียงที่สุดของอิตาลี ด้วยความสวยงามของภูมิประเทศ ชายหาดที่สวยงาม และอากาศที่เย็นสบายตลอดปี บ้านเรือนสร้างขึ้นตามเนินเขาริมชายฝั่งด้วยสีสันอันสวยงาม บางช่วงเป็นท่าเทียบเรือยอร์ชที่ดูหรูหรา เป็นเมืองที่เหมาะกับการพักผ่อนตากอากาศ ซึ่งชาวเมืองและนักท่องเที่ยวมาท่องเที่ยวอย่างมากมายในแต่ละปี
นำท่านแวะชมความงดงามของโบสถ์เซนต์มาร์ติน (St. Martin) ซึ่งสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 12 โบสถ์หลักของเมืองพอร์โตฟิโน โดยตัวโบสถ์นั้นมีขนาดที่ไม่ใหญ่โตแต่มีความสวยงามเป็นอย่างมาก และแวะถ่ายรูปความยิ่งใหญ่ของปราสาทและป้อมปราการ Castello Brown ซึ่งสร้างมาตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 16 ในอดีตเคยใช้เป็นป้อมปราการป้องกันข้าศึก แต่ปัจจุบันเป็นพิพิธภัณฑ์ และยังป็นจุดชมวิวที่สวยงามอีกแห่งของเมือง
กลางวัน : รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารพื้นเมือง
บ่าย : อิสระให้ท่านเดินชมเมืองต่อตามอัธยาศัย ดื่มด่ำกับบรรยากาศสบายๆ ฟังเสียงคลื่น ชมท่าเรือยอร์ช สัมผัสวิถีชิวิตริมทะเล จนได้เวลาสมควรนำท่านเดินทางกลับสู่ เมืองซานตามาร์เกอริต้า Santa Margherita Ligure เป็นอีกเมืองหนึ่งที่มีความสวยงามและมีเอกลักษณ์ด้วยอาคารบ้านเรือนแบบอาร์ตนูโวที่ตกแต่งด้วยสีสันฉูดฉาด แดง เหลือง ชมพู ดูมีชีวิตชีวา และวิลล่าต่างๆ ที่สร้างอยู่บนเนินเขาที่รายล้อมเมืองนี้ และมีชายหาดสวยงามพร้อมท่าจอดเรือยอร์ชของเหล่าบรรดาเศรษฐีจากทั่วทุกมุมโลก ให้ท่านถ่ายรูปกับรูปปั้นกษัตริย์วิตโตรีโอ เอมมานูเอล ที่ 2 (Vittorio Emanuele II d’Italia) ผู้รวมชาติอิตาลี และรูปปั้นคริสโตเฟอร์ โคลัมบัส นักสำรวจผู้ค้นพบทวีปอเมริกา จากนั้นอิสระให้ท่านเดินเล่นชมเมืองตามอัธยาศัย จนได้เวลาสมควรเดินทางกลับสู่เมืองราพัลโล่
ค่ำ : รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารพื้นเมือง
เช้า : รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่เมืองมิลาน หรือมิลาโน Milan (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2.30 ชั่วโมง) เมืองหลักของแคว้นลอมบาร์เดียและเป็นเมืองสำคัญทางภาคเหนือของประเทศอิตาลี มีชื่อเสียงในด้านแฟชั่นและศิลปะ ซึ่งมิลานถูกจัดให้เป็นเมืองแฟชั่นในลักษณะเดียวกับนิวยอร์ค ปารีส ลอนดอน และโรม นอกจากนี้ยังเป็นที่รู้จักในด้านอุตสาหกรรมผ้าไหม และแหล่งผลิตรถยนต์ อัลฟา โรมีโอ รวมไปถึงสโมสรฟุตบอลอินเตอร์มิลานและสโมสรฟุตบอลเอซีมิลาน นำท่านแวะชมมหาวิหารเซ้นต์แอมโบรจิโอ หรือ Basilica of Sant’Ambrogio หนึ่งในโบสถ์ที่เก่าที่สุดในเมืองมิลาน ถูกสร้างขึ้นเพื่ออุทิศให้กับนักบุญแอมบรอสแห่งมิลาน ตัวอาคารแสดงถึงประวัติศาสตร์อันยาวนานและศิลปะอันศักดิ์สิทธิ์ทางศาสนา เป็นตัวอย่างของงานสถาปัตยกรรมแบบโรมันในยุคลอมบาร์ด โดยจะเห็นได้จากหอระฆัง 2 หลังที่เก่าแก่ที่สุด และต่อมาได้มีการบูรณะอาคารอย่างหนักปัจจุบันประกอบไปด้วยอาคาร 3 ชั้น ด้านข้างประกอบไปด้วยงานศิลปะสะท้อนถึงประวัติศาสตร์ หลังคาตกแต่งด้วยงานปูนปั้นและแท่นบูชาทองคำ ให้ท่านถ่ายรูปเป็นที่ระลึก
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ปราสาทฟอร์ซ่า Sforza Castle ป้อมปราการแห่งมิลานที่ถือว่าใหญ่ที่สุดในยุโรป สร้างขึ้นตั้งแต่ศตวรรษที่ 15 โดยฟรานเซสโก้ สฟอร์ซา ดยุคแห่งมิลานต่อมาได้มีการบูรณะเพิ่มเติมในช่วงศตวรรษที่ 16-17 ปัจจุบันเป็นพิพิธภัณฑ์และแกลเลอรี่เก็บงานศิลปะ นำท่านเดินชมภายนอกของป้อมปราการ
กลางวัน : รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารจีน
บ่าย : นำท่านชมจัตุรัสสกาล่าและรูปปั้นดาวินชี และให้ท่านถ่ายรูปและชมความยิ่งใหญ่ภายนอกของมหาวิหารแห่งเมืองมิลานหรือมิลานดูโอโม มหาวิหารหินอ่อนแบบกอธิคที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ในยุโรป สร้างในปี ค.ศ.1386 ด้วยศิลปะแบบนีโอโกธิคผสมผสานกันเป็นสถาปัตยกรรมแบบตะวันตกสมัยฟื้นฟูศิลปวิทยาการ ใช้เวลาสร้างนานถึง 500 ปี มีความวิจิตรงดงามและประดับประดาไปด้วยรูปปั้นนับกว่า 3,000 รูป มีหลังคายอดเรียวแหลมจำนวน 135 ยอด บนสุดมีรูปปั้นทองขนาด 4 เมตรของพระแม่มาดอนน่าเป็นสง่าอยู่ มีลานกว้างด้านหน้าดูโอโมที่มีอนุสาวรีย์พระเจ้าวิกเตอร์เอมมานูเอลที่ 2 ทรงม้าคือสถานที่จัดงานสำคัญต่างๆ ในบริเวณเดียวกันยังเป็นที่ตั้งของ แกลเลอรี่ วิคเตอร์ เอ็มมานูเอล ที่นับว่าเป็นช้อปปิ้งอาเขตที่สวยที่สุดในอิตาลีมากว่า 100 ปี พร้อมถ่ายรูปกับอนุสาวรีย์ของ ลิโอนาร์โด ดาร์วินชี จิตรกรเอกที่โด่งดังจากภาพโมนาลิซ่า
ค่ำ : รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารพื้นเมือง
เช้า : รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
นำท่านสู่เมืองเวนิสเมสเตร้ Venice Mestre เมืองท่องเที่ยวยอดนิยมที่นักท่องเที่ยวเดินทางมาเยือนเป็นจำนวนมากมายในแต่ละปี จากนั้นเดินทางสู่ท่าเรือทรอนเชตโต้ เพื่อข้ามสู่เกาะเวนิส (ให้ท่านพักค้างบนเกาะเวนิส)
กลางวัน : รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารพื้นเมือง
บ่าย : นำท่านชมเกาะเวนิส อดีตเมืองที่เคยร่ำรวยที่สุดแห่งหนึ่งในยุคกลาง เกาะเวนิสประกอบไปด้วยเกาะน้อยใหญ่กว่า 118 เกาะ และมีสะพานเชื่อมถึงกันกว่า 400 แห่งที่ศูนย์กลางอยู่ที่ จัตุรัสเซนต์มาร์ค หรือ ซานมาร์โค ชุมชนที่ใหญ่ที่สุดบนเกาะต่างๆ ของเมืองเวนิสที่มีคลองต่างๆ มากมายนับร้อยแห่ง นับเป็นบรรยากาศที่ไม่มีที่ใดเหมือนและเป็นเอกลักษณ์เฉพาะเมือง ชมสะพานสะอื้นที่เชื่อมระหว่างคุกหลวงและพระราชวังดอร์ดจ ชมวิหารเซนต์มาร์คที่งดงามด้วยการประดับด้วยโมเสคหลายล้านชิ้น จากนั้นนำท่านนั่งเรือกอนโดล่า Gondola ride ให้ท่านดื่มด่ำไปกับบรรยากาศของเมืองเวนิสแบบใกล้ชิด เข้าไปตามคลองต่างๆ ที่เป็นที่ตั้งของอาคารที่มีสถาปัตยกรรมหลากหลายและที่พักมากมายพร้อมกับฟังเพลงพื้นเมืองจากพนักงานพายเรือ
จากนั้นมีเวลาให้ท่านเดินชมตัวเมืองจนถึงสะพานริอัลโตที่ทอดข้ามแกรนด์คาเนล อีกหนึ่งสัญลักษณ์ของเวนิส นำท่านแวะถ่ายรูปกับพระราชวังดอจส์ Doge’s Palace พระราชวังดอจส์ เป็นที่ทำการของรัฐบาลเวนิสและที่พำนักของผู้ดำรงตำแหน่งเจ้าเมืองในอดีต ตัวอาคารกะทัดรัดในแบบโกธิค เป็นสิ่งก่อสร้างที่เก่าแก่มากว่า 800 ปีมาแล้ว เมื่อสมัยเวนิสยังเป็นสาธารณรัฐอิสระ ซึ่งเคยร่ำรวยและมีอำนาจมหาศาลและเคยส่งให้มาร์โคโปโลเดินทางไปเมืองจีน และสะพาน Bridge of Sighs หรือที่รู้จักกันดีในนามของสะพานถอนหายใจ เป็นสะพานซุ้มโค้งสูงขึ้นที่อยู่เหนือแม่น้ำที่เป็นเส้นทางเชื่อมระหว่างเรือนจำและพระราชวัง สะพานอันงดงามที่แสนโรแมนติกแห่งนี้เป็นสะพานที่เต็มไปด้วยตำนานมากมายของท้องถิ่นเวนิส อิสระให้ท่านชมและเลือกซื้อสินค้าขึ้นชื่อ อาทิ เครื่องแก้วเวนีเซีย หรือ หน้ากากเทศกาลคาร์นิวัล ท่านอาจใช้เวลานั่งจิบกาแฟตามร้านกาแฟ ที่ตั้งอยู่รอบจัตุรัสเซนต์มาร์ค เพื่อดื่มด่ำกับบรรยากาศที่แสนโรแมนติก
ค่ำ : รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารพื้นเมืองกับเมนูลาซานย่าสไตล์อิตาเลี่ยน
เช้า : รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
นำท่านล่องเรือกลับสู่ฝั่งเมสเตร้ จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมืองปราโต้ Prato เมืองสำคัญอีกเมืองหนึ่งในแคว้นทัสคานี ตั้งอยู่บนระดับความสูง 768 เมตรจากระดับน้ำทะเล และเป็นเมืองใหญ่เป็นอันดับ 3 รองจากกรุงโรมและฟลอเร้นซ์ (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง)
กลางวัน : รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารพื้นเมืองกับเมนูพิซซ่ามาเกอริต้าสไตล์อิตเลี่ยน
บ่าย : นำท่านเดินทางสู่ เมืองเซียน่าหรือซีน่า Siena (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.30 ชั่วโมง) เมืองใหญ่อันดับ 2 ของแคว้นทัศคานี อีกหนึ่งเมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงและได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวมากเป็นอันดับต้นๆ ของประเทศอิตาลี และเมืองเซียน่ายังได้รับการประกาศเป็นเมืองมรดกโลกจากองค์การยูเนสโก้อีกด้วย นำท่านสู่ จัตุรัส เดล คัมโป Piazza del Campo เป็นจัตุรัสใจกลางเมืองที่บ่งบอกประวัติศาสตร์ของเมืองเซียน่าได้เป็นอย่างดี และได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งในจัตุรัสที่สมบูรณ์ที่สุดแห่งหนึ่งในยุโรป ซึ่งเป็นที่ตั้งของสถานที่สำคัญๆ จำนวนมาก นำท่านแวะชมภายนอกมหาวิหารเมืองเซียน่า Duomo di Siena มหาวิหารประจำเมืองเซียน่า ที่ถูกสร้างขึ้นในปี 1200 ด้วยสไตล์กอธิคและเรแนสซองส์ ที่ประดับประดาตกแต่งอย่างวิจิตรอลังการและสวยงามมาก โดยเฉพาะด้านในของตัววิหารที่บอกเล่าเรื่องราวต่างๆ เกี่ยวกับเมืองเซียน่าไว้ได้อย่างสวยงามและเป็นโบสถ์ 1 ใน 5 โบสถ์ที่สวยที่สุดในประเทศอิตาลีอีกด้วย
จากนั้นชมเมืองเก่าเซียน่า Siena Old Town ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโก้ในปี ค.ศ.1995 ชมความเป็นเมืองเก่าสมัยฟื้นฟูศิลปวิทยาการหรือยุคเรอเเนสซองส์ เต็มไปด้วยอาคารต่างๆ โบสถ์และพิพิธภัณฑ์ และสัมผัสบรรยากาศของประวัติศาสตร์และร้านค้ามากมาย จากนั้นนำท่านถ่ายรูปด้านนอกกับ ปาลาซโซ พับบลิโค Palazzo Pubblico เป็นพระราชวังที่สร้างขึ้นในปี ค.ศ.1297 เพื่อใช้เป็นที่ทำงานของรัฐบาลเมืองเซียน่า โดยด้านข้างมีหอระฆังมานเจีย หรือ ทอร์เร เดล มานเกีย (Torre del Mangia) หอระฆังที่เก่าแก่ที่ถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ.1338 ซึ่งสมัยนั้นถือว่าเป็นสิ่งก่อสร้างที่สูงที่สุดในอิตาลี จากนั้นอิสระให้ท่านเดินถ่ายรูปหรือเลือกซื้อสินค้าพื้นเมืองของที่ระลึกตามอัธยาศัย
ค่ำ : รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารพื้นเมือง
เช้า : รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่นครวาติกัน (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง) รัฐอิสระและศูนย์กลางของศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิก ที่ตั้งของมหาวิหารเซ้นปีเตอร์ นำท่านเข้าชมของพิพิธภัณฑ์นครวาติกัน Vatican Museum เป็นพิพิธภัณฑ์ทางด้านศาสนาและศิลปะขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ในรัฐวาติกัน แห่งกรุงโรม ซึ่งเป็นสถานที่ที่เก็บรวบรวมผลงานทางศิลปะของศาสนจักรคาทอลิกที่มีอายุหลายร้อยปีไว้ให้ชม โดยเฉพาะไฮไลท์ของผลงานชิ้นเอกของศิลปินระดับโลกหลายท่าน เช่น Michelangelo และ Raphael และภายในยังได้รับการตกแต่งอย่างสวยงาม พิพิธภัณฑ์วาติกันแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นในสมเด็จพระสันตะปาปาจูเลิยสที่ 2 ในช่วงต้นศตวรรษที่ 16 มีโบสถ์ซิสเตียเป็นห้องสุดท้ายที่โดดเด่นสะดุดตา บริเวณเพดานของพิพิธภัณฑ์ได้รับการตกแต่งอย่างสวยงามโดดเด่นด้วยฝีมือของ Michelangelo และมีห้องพักที่ได้รับการตกแต่งโดย Raphael ซึ่งพิพิธภัณฑ์แห่งนี้มีหอศิลป์และห้องโถงรวมกันมากกว่า 54 ห้อง จนนับได้ว่าเป็นพิพิธภัณฑ์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกแห่งหนึ่งเลยทีเดียว
สำหรับห้องที่เป็นไฮไลต์อย่างห้อง Sistine Chapel นั้นเป็นห้องที่มีภาพวาดที่โด่งดังอย่าง The creation of Adam นอกจากห้องที่เป็นไฮไลต์นี้แล้วยังมีห้องอื่นๆ ที่น่าสนใจ เช่น ห้องอียิปต์ เป็นต้น หรือจะเป็นภาพวาดน้ำมันที่สวยงาม หรือจะเป็นผนังที่ได้รับการตกแต่งด้วยภาพผนังที่เป็นภาพแกะสลักนูนที่สวยงาม นอกจากนี้แล้วยังมีอีกหนึ่งไฮไลต์ที่เรียกได้ว่าเป็นมุมมหาชนที่ไม่ว่าใครมาเยือนยังพิพิธภัณฑ์แห่งนี้จะพลาดไม่ได้อย่างเด็ดขาด นั้นก็คือในส่วนของบริเวณบันไดวนที่สวยงามก่อนที่จะออกจากพิพิธภัณฑ์ โดยบันไดจะวนม้วนเป็นวงกลม โดยหากขึ้นไปบนสุดแล้วเมื่อมองลงมาก็จะเห็นบันไดม้วนวนลงไปครบทุกชั้นไล่ระดับอย่างสวยงาม
กลางวัน : รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารจีน
บ่าย : นำท่านชมกรุงโรม นครหลวงแห่งสาธารณรัฐอิตาลี อดีตแห่งจักรวรรดิโรมัน อาณาจักรที่ยิ่งใหญ่มาเมื่อกว่า 2,000 ปี ชื่นชมกับสถาปัตยกรรมและประวัติศาสตร์แห่งความยิ่งใหญ่ โรมเป็นมหานครที่มีสีสันเฉพาะตัว ชมและถ่ายรูปภายนอกของสนามกีฬาโคลอสเซี่ยม สิ่งก่อสร้างที่เป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก ซึ่งเป็นสนามกีฬายักษ์ที่จุคนได้กว่า 50,000 คน ให้ท่านได้เก็บภาพเป็นที่ระลึก รวมถึงผ่านชมประตูชัยแห่งคอนสแตนติน Arch of Constantine โดยสร้างขึ้นเพื่อระลึกถึงชัยชนะของกรุงคอสสแตนติน เป็นซุ้มประตูที่ใหญ่ที่สุดของโรมันมีความสูงถึง 21 เมตร, อนุเสาวรีย์วิกเตอร์เอ็มมานูเอ็ล หรือ Altare Della Patria อนุเสาวรีย์ที่สร้างขึ้นเพื่อเป็นเกียรติของวิกเตอร์เอ็มมานูเอ็ล พระราชาองค์แรกของอิตาลีที่มีอำนาจแบบเบ็ดเสร็จครบวงจร และที่นี่ยังเป็นอนุสรณ์ทหารที่กล้าหาญเมื่อครั้งสงครามโลกครั้งที่ 1 อีกด้วย
จากนั้นนำท่านสู่บริเวณ น้ำพุเทรวี่ Trevi Fountain หนึ่งในสัญลักษณ์ที่สำคัญของกรุงโรม สถานที่นักท่องเที่ยวมาโยนเหรียญเสี่ยงทายตามเรื่องราวจากภาพยนตร์เรื่อง Three Coins in The Fountain และ Spanish Step หรือบันไดสเปน แหล่งผู้คนและวัยรุ่นมานั่งเล่นและเลือกซื้อสินค้าแบรนด์เนมต่างๆ และให้เวลาท่านเลือกซื้อสินค้าแบรนด์เนมต่างๆ อาทิ Rimowa, Michael Kors, Gucci, Tag Heuer, Armani, Bally, Gabs, Bvlgari, Mido, Longchamp, Rado, Ferragamo เป็นต้น *เพื่อความสะดวกในการเลือกซื้อสินค้า อิสระให้ท่านรับประทานอาหารค่ำตามอัธยาศัย*
เช้า : รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม อิสระให้ท่านพักผ่อนหรือเดินเล่นชมเมืองตามอัธยาศัย จนได้เวลาอันสมควรนำท่านเช็คเอ๊าท์ที่พัก แล้วเดินทางสู่สนามบินลีโอนาร์โดดาวินชี กรุงโรม เผื่อเวลาให้ท่านสำหรับการทำคืนภาษี
16.35 น. : นำท่านออกเดินทางจากกรุงโรม โดยสายการบิน Qatar Airways เที่ยวบินที่ QR132
22.55 น. : เดินทางถึงสนามบินกรุงโดฮา ประเทศกาต้าร์ เพื่อแวะเปลี่ยนเครื่อง
02.20 น. : นำท่านออกเดินทางจากสนามบินนครโดฮา ประเทศกาต้าร์ โดยสายการบิน Qatar Airways เที่ยวบินที่ QR836
13.10 น. : เดินทางถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพ..
การยกเลิก
Error: Contact form not found.
Error: Contact form not found.
Error: Contact form not found.
Error: Contact form not found.
Error: Contact form not found.