06.00 : คณะพร้อมกันที่ สนามบินสุวรรณภูมิ ชั้น 4 ประตู 9 บริเวณเคาน์เตอร์ T สายการบิน OMAN AIR โดยมีเจ้าหน้าที่ของทางบริษัทฯ คอยต้อนรับท่านเพื่ออำนวยความสะดวกด้านเอกสาร ออกบัตรที่นั่งและโหลดสัมภาระในการเดินทาง
09.10 : ออกเดินทางจากกรุงเทพฯ โดย สายการบินโอมานแอร์ เที่ยวบินที่ WY818 สู่ สนามบินมัสกัต (มีบริการอาหาร และเครื่องดื่มบนเครื่อง)
12.15 : เดินทางถึง สนามบินนานาชาติมัสกัต เพื่อรอเปลี่ยนเที่ยวบิน ให้ท่านพักผ่อนและเดินช้อปปิ้งในสนามบินที่มีร้านค้าปลอดภาษีมากมาย (เวลาท้องถิ่นในมัสกัต ช้ากว่าประเทศไทย 3 ชม.)
14.20 : ออกเดินทางสู่ สนามบินนานาชาติฮีทโธรว์ กรุงลอนดอน เที่ยวบินที่ WY101 (มีบริการอาหาร และเครื่องดื่มบนเครื่อง)
19.10 : เดินทางถึง สนามบินนานาชาติฮีทโธรว์ กรุงลอนดอน (เวลาท้องถิ่นในอังกฤษ ช้ากว่าประเทศไทย 7 ชม.) นำท่านผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร พร้อมรับกระเป๋าสัมภาระเรียบร้อย
เช้า : รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (มื้อ1)
เช้าอันสดใสนำท่านเดินทางมุ่งหน้าสู่เขตทุ่งหญ้า ซอลส์เบอรี่ อยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของสหราชอาณาจักร (114 กม.) นำท่านเข้าชม สโตนเฮ้นจ์ (STONE HENGE) 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก Seven Wonders of The World เสาหินโบราณสมัยก่อนประวัติศาสตร์ลือกันว่ามนุษย์ต่างดาวเป็นผู้สร้างขึ้น นับเป็นสิ่งอัศจรรย์เหลือเชื่อว่าหินก้อนมหึมาเหล่านั้นถูกนำมาเรียงกันได้อย่างไรโดยสมัยก่อนไม่มีเครื่องทุ่นแรง มีจำนวนแท่งหินทั้งหมด 112 ก้อน ตั้งเรียงเป็นวงกลมซ้อนกัน 3 วง และวางเรียงในลักษณะที่ต่างกัน ทั้งวางนอน วางพาดกัน และวางตั้งขึ้น นักวิทยาศาสตร์ได้คำนวณอายุของหินกลุ่มนี้พบว่าน่าจะถูกสร้างขึ้นมาเมื่อประมาณ 3,000–2,000 ปีก่อนคริสตกาลอายุกว่า 5,000ปี
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมือง บาธ (BATH) (55 กม.) ตั้งอยู่บริเวณหุบเขาริมแม่น้ำเอวอน (Avon) จุดเด่นของบาธ คือ เป็นเมืองแห่งน้ำแร่และน้ำพุร้อน ผู้คนจากแผ่นดินใหญ่ของทวีปยุโรปนิยมข้ามน้ำข้ามทะเลไปพักผ่อนแช่น้ำพุร้อนที่เมืองนี้มานาน ตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 1 หรือราว 2,000 ปีแล้ว รวมถึงราชวงศ์ของอังกฤษเองก็ใช้เมืองบาธเป็นเมืองพักผ่อนของราชวงศ์ ต่อเนื่องหลายร้อยปี นำท่านชม ROYAL CRESCENT ทาวน์เฮาส์รูปทรงพระจันทร์เสี้ยว รูปแบบสถาปัตยกรรมจอร์เจียน (Georgian) ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในอังกฤษ ความยาวประมาณ 152.5 เมตร ออกแบบโดย John Wood และสร้างขึ้นในช่วงปี 176-1774
นำท่านถ่ายรูปคู่กับ ABBEY CHURCH OF SAINT PETER AND SAINT PAUL หรือที่รู้จักกันในนามว่า “Bath Abbey” เป็นโบสถ์ของชาวอังกฤษ นิกายแองกลิกันและเป็นโบสถ์ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานหลายร้อยปี สร้างขึ้นในสมัยศตวรรษที่ 7 ต่อมาได้มีการปรับปรุงในศตวรรษที่ 10 และปรับปรุงใหม่อีกครั้งหนึ่งในศตวรรษที่ 16 โดย Sir George Gilbert Scott ซึ่งโบสถ์ของที่นี่ ถือว่าเป็นสถาปัตยกรรมโกธิกแนวตั้งฉากที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศอังกฤษ อิสระให้ท่านเดินเล่นที่ BATH STREET อาคารเก่าแก่ในยุคกลาง ซึ่งได้รับการจดทะเบียนเป็นมรดกโลกในปี 1987 เพลิดเพลินกับร้านค้าท้องถิ่น ร้านอาหาร และร้านขายสินค้าที่ระลึกต่างๆ บรรยากาศที่สวยงามน่าประทับใจ
เที่ยง : บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (มื้อ2) เมนูพิเศษ ลอบสเตอร์
บ่าย : พาท่านเดินทางสู่ช่องแคบบริสตอลสู่ ประเทศเวลส์ (WALES) เครือจักรภพอังกฤษ จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมือง คาร์ดิฟฟ์ (CARDIFF) (85 กม.) เป็นเมืองหลวงที่มีอายุน้อยที่สุดในยุโรป และได้รับการพัฒนาชื่อเสียงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้ การพัฒนาที่หลากหลายด้านทำให้คาร์ดิฟฟ์ได้รับความนิยมระดับโลกเกี่ยวกับศูนย์ความบันเทิงและการกีฬา นำท่านชมภายนอกของ สนามมิลลิเนียมMILLENNIUM STADIUM ซึ่งเป็นสนามกีฬาแห่งชาติของประเทศเวลส์ และ เป็นสนามเหย้าของรักบี้ยูเนียนและทีมฟุตบอลของทีมชาติเวลส์ด้วย เป็นสถานที่จัดการแข่งขันเอฟเอคัพ รอบชิงชนะเลิศ ถึง 6 ครั้ง อีกทั้งยังใช้ในการจัดงานขนาดใหญ่อีกมากมายทั้งคอนเสิร์ต และกิจกรรมระดับโลกต่างๆมากมาย นำท่านชมภายนอกของ ปราสาทคาร์ดิฟ CARDIFF CASTLE ปราสาทคาร์ดิฟฟ์แห่งนี้ตั้งอยู่บนพื้นที่ที่เคยเป็นป้อมปราการของโรมัน โดยปราสาทคาร์ดิฟฟ์มีมาตั้งแต่สมัยโรมันเข้ามาครอบครองดินแดนอังกฤษ ชาวโรมันได้สร้างกำแพงและป้อมปราการเอาไว้สำหรับป้องกันศัตรู ภายหลังเรื่อยมาก็มีตระกูลขุนนางและผู้มั่งคั่งอีกหลายตระกูลที่เข้าครอบครองปราสาทนี้ ซึ่งก็มีการปรับปรุงและก่อสร้างเพิ่มเติมอีกหลายครั้ง จนถึงช่วงที่คาร์ดิฟฟ์รุ่งเรืองสูงสุด ราวศตวรรษที่ 19 หลังจากนั้นตระกูลบุท (Bute) ได้ยกปราสาทคาร์ดิฟฟ์ให้เป็นสมบัติของเมืองคาร์ดิฟฟ์ ตั้งแต่ ค.ศ.1947 ปราสาทคาร์ดิฟฟ์ จึงกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวและพิพิธภัณฑ์เรียนรู้ที่
สำคัญแห่งหนึ่งของแคว้นเวลส์
ค่ำ : บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร (มื้อ3)
เช้า : รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (มื้อ4)
นำท่านเดินทางสู่ หมู่บ้านไบบิวรี่ BIBURY(ระยะทาง130ก.ม.) ที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นหมู่บ้านที่สวยที่สุดในอังกฤษ MOST BEAUTIFUL VILLAGE IN ENGLAND
นำท่านเดินเล่นและถ่ายภาพกับหมู่บ้านที่มีลักษณะเป็นกระท่อม ประกอบกับแม่น้ำไหลผ่าน เป็นหมู่บ้านที่ไม่ว่าจะเดินหลงไปทางไหนก็ได้รูปถ่ายสวยๆแน่นอน นำท่านเดินทางต่อไปที่ BOURTON ON THE WATER (ระยะทาง20 ก.ม.) ซึ่งเป็นอีกหมู่บ้านที่มีความสวยงามมากที่สุดในอังกฤษ ด้วยลักษณะของตัวอาคารที่มีความโดดเด่นเฉพาะ ตัวอาคารปลูกสร้างด้วยหินคอตส์โวลด์ หินสีน้ำผึ้งเป็นเอกลักษณ์ในภูมิภาคนี้ ภายในหมู่บ้านจะมีแม่น้ำวินรัชไหลผ่านกลางเมือง และยังมีเจ้าเป็ดน้อยหัวเขียวเวียนว่ายอยู่เต็มแม่น้ำ บรรยากาศสุดแสนโรแมนติก
เที่ยง : บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (มื้อ5)
บ่าย : นำท่านเดินทางสู่ เมืองสแตรทฟอร์ดอัพออนเอวอน STRATFORD UPON AVON (ระยะทาง40ก.ม.) เมืองนี้เป็นอีกหนึ่งเมืองยอดนิยมในการมาเยือนของนักท่องเที่ยว เพราะว่าเป็นบ้านเกิดของกวีเอกของโลก วิลเลี่ยม เชกสเปียร์ (William Shakespeare) ผู้ซึ่งประพันธ์นิยายหลายเรื่อง หนึ่งในนั้นที่คนไทยเรารู้จักดีคือ “โรมีโอและจูเลียต” ประมาณการว่ามีนักท่องเที่ยวมาเยือนปีละกว่า 5 ล้านคนเลยทีเดียว ชมบ้านเรือนสไตล์ TIMBER FRAME HOUSES บนถนนคนเดินของเมือง (HENLEY STREET) นำท่านเดินทางสู่ เมืองเชสเตอร์ Chester (ระยะทาง184ก.ม.) เมืองเก่าแก่ที่อยู่ใกล้กับพรมแดนประเทศเวลส์ สถาปัตยกรรมสไตล์ทิวดอร์ ที่ตกแต่งบ้านเรือนเป็นโทนสีขาวดำได้อย่างสวยงามตลอดพื้นที่ในย่านใจกลางเมืองที่เต็มไปด้วยร้านค้า ร้านอาหาร คาเฟ่และสภาปัตยกรรมสวยๆมากมาย ชม มหาวิหารเมืองเชสเตอร์ Chester Cathedral โบสถ์โบราณขนาดใหญ่ยักษ์ที่ภายในตกแต่งได้อย่างสวยงามอลังการมากๆกับนาฬิกา Eastgate Clock ที่เป็นนาฬิกาที่ว่ากันว่าสวยที่สุดเป็นอันดับสองของอังกฤษรองจากหอนาฬิกา Big Ben
ค่ำ : บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร (มื้อ6)
เช้า : รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (มื้อ7)
นำท่านเดินทางสู่ เมืองแมนเชสเตอร์ (Manchester) (ระยะทาง60ก.ม.) เมืองที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 รองจากลอนดอน เป็นเมืองที่มีรถไฟสายแรกของโลกและของอังกฤษเกิดขึ้นที่นี่ นำท่านเก็บภาพความประทับใจสวยๆ ด้านนอกกับ สนามกีฬาโอลด์แทรฟฟอร์ด (OLD TRAFFORD) สนามเหย้าของสโมสรฟุตบอล แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด MANCHESTER UNITED ที่เริ่มก่อสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1909 มีจำนวนที่นั่งทั้งสิ้น 74,140 ที่นั่ง ใช้เป็นสนามทำการแข่งขันในนัดสำคัญๆมาแล้วมากมาย และเป็นหนึ่งในสนามที่มีมนต์ขลังที่สุดแห่งหนึ่งในเกาะอังกฤษ
ได้เวลาสมควร นำท่านเดินทางสู่เมือง ลิเวอร์พูล Liverpool ในอดีตเป็นเมืองท่าสำคัญทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศอังกฤษ มีอาณาเขตติดต่อกับทะเลไอริชและเป็นประตูสำคัญของประเทศสู่ทวีปอเมริกาและแอฟริกา เมืองที่รุ่งเรืองที่สุดในอดีตของประเทศอังกฤษ ถิ่นกำเนิดวงดนตรี 4 เต่าทอง THE BEATLES อาคารสถาปัตยกรรมที่สวยงามตระการตา และเป็นถิ่นกำเนิดของสโมสรฟุตบอลชั้นนำของโลกอย่างทีมลิเวอร์พูล นำท่านชมความสวยงามของเมืองลิเวอร์พูล เริ่มจาก ย่านท่าเรืออัลเบิร์ต (ALBERT DOCK) ที่เป็นเขตมรดกโลก ถ่ายรูปกับ THE THREE GRACES หรือ ตึกอลังการสามหลัง ที่ประกอบไปด้วยตึก บริษัทเดินเรือ CUNARD ตึกการท่าแห่งลิเวอร์พูล PORT OF LIVERPOOL และตึก ROYAL LIVER ที่เป็นสัญลักษณ์แห่งเมือง ถ่ายรูปคู่กับ THE BEATLES รูปประติมากรรมสำริดนี้มีน้ำหนัก 1.2 ตัน สร้างโดยศิลปินชื่อ Andy Edwards โดยสมาชิกสี่เต่าทองอยู่ในอิริยาบทสบายๆ และแสดงท่าทางกำลังเดินเล่นไปตามถนนที่ Pier Head ในลิเวอร์พูล
เที่ยง : บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (มื้อ8)
บ่าย : จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ สนามแอนฟิลด์ ANFIELD STADIUM ของสโมสรลิเวอร์พูล เจ้าของคำขวัญ YOU WILL NEVER WALK ALONE และยังเป็นหนึ่งในสนามที่เก่าแก่ที่สุดของวงการลูกหนังโลกด้วย เตรียมตัวเข้าชมการแข่งขันฟุตบอล ศึกวันแดงเดือด ที่สนามแอนฟิลด์
ค่ำ : บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร (มื้อ9)
เช้า : รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (มื้อ10)
นำท่านเดินทางสู่ บิสเตอร์ วิลเลจ (Bicester outlet) (ระยะทาง230ก.ม.)สวรรค์ของนักช้อปปิ้ง เป็นเอาท์เลทที่รวมสินค้าแบรนด์เนม ราคาถูกมากกว่าร้อยแบรนด์ เป็นเอาท์เล็ทขนาดใหญ่ยอดนิยมของบรรดานักท่องเที่ยวจากทั่วโลกเพื่อตะลุยชอปปิ้ง มีสินค้าแฟชั่นมากมายให้เลือก ซึ่งเต็มไปด้วยร้านค้าแบรนด์ดังระดับโลก ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้าตามแฟชั่น เช่น Gucci, Burberry, Prada, Longchamp, Mulberry, Stella McCartney, DVF, Coach, Saint Laurent, Dior ฯลฯ อีกทั้งยังมีร้านอาหารและเครื่องดื่ม คาเฟ่ มากมายให้ลองเลือกชิมอีกด้วย
เที่ยง : เพื่อไม่เป็นการรบกวนเวลาช้อปปิ้ง อิสระรับประทานอาหารตามอัธยาศัย ที่บิสเตอร์เอาท์เลต
บ่าย : ได้เวลาอันสมควร นำท่านเดินทางสู่ มหานครลอนดอน LONDON (ระยะทาง100ก.ม.) มหานครอันยิ่งใหญ่ที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์อันยาวนาน เป็นเมืองหลวงแห่งเครือจักรภพ และศูนย์รวมอำนาจการปกครองของสหราชอาณาจักรในปัจจุบัน นำท่านชมภายนอกของ พระราชวังเคนซิงตัน (Kensington Palace) แห่งลอนดอน แรกเริ่มที่เดียววังเคนซิงตันเป็นเพียงวิลล่าขนาดเล็กที่ถูกเรียกว่า “Nottingham House” สร้างสำหรับเป็นบ้านของดยุคแห่งนอตติงแฮม จนกระทั้งคริสต์ศตวรรษที่ 17 พระราชวังเคนซิงตันได้ถูกปรับปรุงเปลี่ยนแปลงให้เป็นที่ประทับของราชวงศ์อังกฤษ โดยมีสมาชิกคนสำคัญของราชวงศ์อังกฤษหลายพระองค์เคยประทับ ณ พระราชวังแห่งนี้ อาทิ สมเด็จพระราชินีวิกตอเรีย เจ้าหญิงมาร์กาเร็ต และเจ้าหญิงไดอาน่าก็เคยประทับที่พระราชวังแห่งนี้เช่นกัน ปัจจุบันพระราชวังเคนซิงตันเป็นที่ประทับอย่างเป็นทางการของดยุคและดัชเชสแห่งเคมบริดจ์ ซึ่งก็คือเจ้าชายวิลเลี่ยมและเจ้าหญิงเคทนั้นเอง ทั้งยังเป็นบ้านของพระโอรส พระธิดาองค์น้อยของทั้งคู่อีกด้วย
จานนั้นนำท่านถ่ายรูปกับ The Albert Memorial อนุสรณ์สถานของเจ้าชายอัลเบิรต์ ตั้งอยู่ใจกลางสวนเคนซิงตัน ที่ตกแต่งไว้อย่างวิจิตรตระการตา พระองค์เป็นพระสวามีของพระนางวิกตอเรียมหาราช ในยุครุ่งเรืองของประเทศอังกฤษมีเวลาให้ท่านเลือกชมสินค้าที่ระลึกของประเทศอังกฤษ
ค่ำ : บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร เมนูเป็ดร้านดังเป็ดโฟร์ซีซั่น(มื้อ11)
เช้า : รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (มื้อ12)
นำท่านชมความสวยงามของมหานครลอนดอน หนึ่งในเมืองหลวงที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของโลก นำท่านชมสถานที่ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของกรุงลอนดอนอาทิเช่น สะพานหอคอยแห่งกรุงลอนดอน (London Tower Bridge) เป็นสะพานที่ขึ้นชื่อว่าเป็นสัญลักษณ์ของกรุงลอนดอน โดยมีลักษณะเป็นสะพานยกและสะพานแขวนอยู่รวมกัน ใกล้ๆกันเป็นที่ตั้งของ Tower of London อีกสัญลักษณ์หนึ่งของลอนดอน ปัจจุบันเป็นพิพิธภัณฑ์ ซึ่งเป็นกลุ่มอาคารและหอคอยหลัง ถ่ายรูปกับ ตึกเดอะชาร์ด The Shard อาคารกระจกทรง พีรามิด สูง 95 ชั้นที่สูงที่สุดในประเทศอังกฤษ ด้วยความสูง 310 เมตร และยังเป็นตึกที่เปรียบเสมือนสัญลักษณ์สมัยใหม่ในลอนดอน นำท่านชม ลอนดอนอาย (London Eye) ซึ่งเป็นชิงช้าสวรรค์ที่สูงที่สุดในทวีปยุโรป มีความสูง 135 เมตร (443 ฟุต) และกลายมาเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมและเป็นจุดดึงดูดนัก ท่องเที่ยวได้อย่างมาก มีผู้มาเยือนมากกว่า 3 ล้านคนต่อปี จากนั้นชม หอนาฬิกาบิ๊กเบน (Big ben clock tower) ที่เป็นหนึ่งในนาฬิกาที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลก สัญลักษณ์สำคัญของทั้งกรุงลอนดอนและสหราชอาณาจักร รวมถึงปรากฎอยู่ในงานศิลปะ หนังสือ ภาพยนตร์ และโทรทัศน์มากมาย ซึ่งในปัจจุบันใช้เป็นรัฐสภาอังกฤษ ตั้งอยู่ทิศตะวันออกเฉียงเหนือของพระราชวัง หอนาฬิกาบิ๊กเบนเป็นส่วนหนึ่งของ พระราชวังเวสต์มินสเตอร์ ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกขององค์การยูเนสโก
นำท่านเก็บภาพความประทับใจที่ พระราชวังเวสต์มินสเตอร์ Palace of Westminster เป็นสถานที่ประชุมของรัฐสภาแห่งสหราชอาณาจักร และเป็นพระราชวังที่เก่าแก่ที่สุดในลอนดอนซึ่งเป็นมรดกโลก และเป็นหนึ่งในอาคารที่เป็นที่รู้จักมากที่สุดในโลกอีกด้วย ในปัจจุบันใช้ในงานสำคัญๆ เช่น การตั้งศพของบุคคลสำคัญก่อนที่จะนำไปฝัง และหออัญมณี (Jewel Tower) ถ่ายรูปหน้า วิหารเวสต์มินสเตอร์ แอบบีย์ (Westminster Abbey) เป็นมหาวิหารที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศอังกฤษ เป็นสถานที่ที่ใช้ในการทำพระราชพิธีบรมราชาภิเษกและที่ฝัง พระบรมศพของพระมหากษัตริย์อังกฤษและพระบรมวงศานุวงศ์
เที่ยง : เพื่อไม่เป็นการรบกวนเวลาช้อปปิ้ง อิสระรับประทานอาหารตามอัธยาศัย (ที่ถนนออกซ์ฟอร์ด)
บ่าย : อิสระช้อปปิ้งที่ ถนนออกซ์ฟอร์ด (Oxford Street) ที่มีห้างสรรพสินค้าใหญ่มากมายอย่าง Mark & Spencer, Primark, Selfridges, Next, Zara ฯลฯ สินค้าทุกอย่างที่ท่านต้องการอยู่บนถนนเส้นนี้แล้ว นอกจากนั้นยังเต็มไปด้วยร้านอาหารมากมายหลายสัญชาติ ร้านของของที่ระลึก ร้านกาแฟ ฯลฯ
16.00 : นำท่านเดินทางสู่ ท่าอากาศยานนานาชาติลอนดอนฮีทโธรว์ เมืองลอนดอน ประเทศอังกฤษ เจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวกด้านเอกสาร ออกบัตรที่นั่งและโหลดสัมภาระในการเดินทาง
20.05 : ออกเดินทางสู่กรุงเทพฯ โดยสายการบินโอมานแอร์ เที่ยวบินที่ WY102 (บริการอาหารเครื่องดื่มบนเครื่อง)
07.15 : เดินทางถึง สนามบินนานาชาติมัสกัต เพื่อรอเปลี่ยนเที่ยวบิน ให้ท่านพักผ่อนและเดินช้อปปิ้งในสนามบินที่มีร้านค้าปลอดภาษีมากมาย (เวลาท้องถิ่นในมัสกัตช้ากว่าประเทศไทย 3 ชม.)
09.00 : ออกเดินทางสู่ สนามบินสุวรรณภูมิ โดย สายการบินโอมานแอร์ เที่ยวบินที่ WY 815
17.45 : เดินทางถึงกรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ พร้อมความประทับใจไม่รู้ลืม
เงื่อนไขการให้บริการ