21.30 น. | คณะพร้อมกัน ณ สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศประตู 3 เคาน์เตอร์ D สายการบินไทย โดยมีเจ้าหน้าที่ คอยต้อนรับและอำนวยความสะดวก |
00.35 น. | ออกเดินทางสู่สวิสเซอร์แลนด์ โดยสายการบินไทย เที่ยวบิน TG 970 |
06.35 น. | เดินทางถึงสนามบินซูริค (เวลาท้องถิ่นช้ากว่าประเทศไทย 6 ชั่วโมง) หลังผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร จากนั้นนำท่านเดินทางเข้าสู่เมืองชาฟฟ์เฮาเซิน (Schaffhausen) ชมน้ำตกไรน์ (RhineFall) น้ำตกที่ใหญ่ที่สุดในยุโรปสวยงามและตื่นตาตื่นใจ เกิดจาก แม่น้ำไรน์ทั้งสายไหลผ่านหน้าผากว้าง 150 เมตร จึงเป็นน้ำาตกขนาดใหญ่ที่สุดในยุโรป นำท่านเดินทางสู่เมืองซูริค (Zurich) เมืองที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ นำท่านถ่ายรูปกับโบสถ์ฟรอมุนสเตอร์ (Fraumunster abbey) สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 853 โดยกษัตริย์เยอรมันหลุยส์ ใช้เป็นสำนักแม่ชีที่มีกลุ่มหญิงสาวชนชั้นสูงจากทางตอนใต้ของเยอรมันอาศัยอยู่ นำท่านสู่จัตุรัสปาราเดพลาทซ์ (Paradeplatz) เป็นจัตุรัสเก่าแก่ที่มีมาตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 17 ปัจจุบันเป็นชุมทางรถรางที่สำคัญของเมืองและยังเป็นศูนย์กลางการค้าของย่านธุรกิจ ธนาคาร สถาบันการเงินที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ |
กลางวัน | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารจีน |
นำท่านเดินทางสู่กรุงเบิร์น (Bern) ซึ่งได้รับการยกย่องจากองค์การยูเนสโกให้เป็นเมืองมรดกโลกในปี ค.ศ. 1863 นอกจากนี้เบิร์นยังถูกจัดอันดับอยู่ใน 1 ใน 10 ของเมืองที่มีคุณภาพชีวิตที่ดีที่สุดของโลกในปี ค.ศ.2010 นำท่านชมบ่อหมีสีน้ำตาล (Bear Park) สัตว์ที่เป็นสัญลักษณ์ของกรุงเบิร์น นำท่าน ชมมาร์กาสเซ ย่านเมืองเก่า ปัจจุบันเต็มไปด้วยร้านดอกไม้และบูติค เป็นย่านที่ปลอดรถยนต์ จึงเหมาะกับการเดินเที่ยวชมอาคารเก่า อายุ 200-300 ปี นำท่านลัดเลาะชม ถนนจุงเคอร์นกาสเซ ถนนที่มีระดับสูงสุดของเมืองนี้ ถนนกรัมกาสเซ ซึ่งเต็มไปด้วยร้านภาพวาดและร้านขายของเก่าในอาคารโบราณ ชมนาฬิกาไซ้ท์ คล็อคเค่นทรัม อายุ 800 ปี ที่มี “โชว์” ให้ดูทุกๆชั่วโมงในการตีบอกเวลาแต่ละครั้ง นำท่านแวะถ่ายรูปกับโบสถ์ Munster สิ่งก่อสร้างทางศาสนาที่ใหญ่ที่สุดในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1421 ประตูจะมีภาพที่บรรยายถึงการตัดสินครั้งสุดท้ายของพระเจ้า | |
ค่ำ | อิสระอาหารค่ำตามอัธยาศัย |
เช้า | รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม |
นำท่านเดินทางสู่ เมืองเจนีวา นำชมเมืองที่เป็นศูนย์กลางการประชุมนานาชาติ เมืองที่ตั้งองค์การสากลระดับโลก อาทิ องค์การการค้าโลก, กาชาดสากล, แรงงานสากล ฯลฯ ถ่ายรูปกับ น้ำพุเจทโด ที่ฉีดสายน้ำพุ่งสูงขึ้นไปในอากาศถึง 390 ฟุต (เปิดเฉพาะวันอากาศดี) และถ่ายรูปกับ นาฬิกาดอกไม้ สัญลักษณ์ที่สำคัญของเมืองเจนีวา | |
กลางวัน | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารพื้นเมือง |
บ่าย | นำท่านเดินทางสู่เมืองโลซานน์ (Lausanne) ซึ่งตั้งอยู่ตอนเหนือของทะเลสาบเจนีวา เมืองโลซานน์นับได้ว่าเป็นเมืองที่มีเสน่ห์โดยธรรมชาติมากที่สุดเมืองหนึ่งของสวิตเซอร์แลนด์ มีประวัติศาสตร์อันยาวนานมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 4 ในสมัยที่ชาวโรมันมาตั้งหลักแหล่งอยู่บริเวณริมฝั่งทะเลสาบที่นี่ เมืองโลซานน์มีความสวยงามโดยธรรมชาติ ทิวทัศน์ที่สวยงาม และอากาศที่ปราศจากมลพิษ จึงดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกให้มาพักผ่อนตากอากาศที่นี่ เมืองนี้ยังเป็นเมืองที่มีความสำคัญสำหรับชาวไทยเนื่องจากเป็นเมืองที่เคยเป็นที่ประทับของสมเด็จย่า จากนั้นนำท่านชม สวนสาธารณะที่มีรูปปั้นลิง 3 ตัว ปิดหู ปิดปาก ปิดตา อันเป็นสถานที่ทรงโปรดของในหลวงเมื่อทรงพระเยาว์ และถ่ายรูปกับ ศาลาไทย ที่รัฐบาลไทยส่งไปตั้งในสวนสาธารณะของเมืองโลซานน์ |
จากนั้นนำท่านเดินทางโดยรถโค้ชปรับอากาศสู่เมืองมองเทรอซ์ (Montreux) เมืองตากอากาศที่ตั้งอยู่ริมทะเลสาบเจนีวา ได้ชื่อว่าริเวียร่าของสวิส ชมความสวยงามของทิวทัศน์ บ้านเรือน ริมทะเลสาบ | |
เย็น | รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารจีน |
เช้า | รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม |
นำท่านออกเดินทางสู่เมือง ชตัดด์ (GSTAAD) ด้วยรถไฟ Golden Pass Express ระหว่างทางให้ท่านเห็นธรรมชาติอันงดงามสองข้างทางของสวิส โดยเมืองชตัดด์นั้นเป็นเมืองสกีรีสอร์ทราคาแพงอันดับต้นๆของยุโรป เมืองตากอากาศไฮโซแห่งนี้มีบ้านตากอากาศของคนดัง อาทิ จูลี่ แอนดรูส์ (เดอะซาวด์ออฟมิวสิค), อลิซาเบ็ต เทย์เลอร์ และเคยต้อนรับคนดังพร้อมทั้งเหล่าเซเล็บของโลกอาทิ ไมเคิล แจ็กสัน, เจ้าฟ้าชายชาลส์ เจ้าหญิงไดอาน่า, ปารีส ฮิลตัน ท่านอาจจะได้พบกับคนดังๆได้ที่นี่
นำท่านขึ้นกระเช้ายักษ์ ขึ้นสู่เขากลาเซียร์ 3000 (Glacier 3000) |
|
กลางวัน | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร |
นำท่านเดินข้าม” The Peak Walk by Tissot” สะพานแขวนที่มีความยาว 107 เมตร ข้ามหน้าผาที่ระดับความสูง 3,000 เมตร ท่านจะได้ชมทัศนียภาพที่สวยงามของเทือกเขาแอลป์ อันสวยงามแบบกว้างไกลสุดสายตา นำท่านเดินทางสู่สถานีรถไฟเมืองแทซ (Teasch) | |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง |
เช้า | รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม |
เดินทางสู่เมืองเซอร์แมท (Zermatt) เมืองแห่งสกีรีสอร์ท ยอดนิยมที่ได้รับความนิยมสูง เนื่องจากเป็นเมืองที่ปลอดมลพิษทางอากาศเพราะยานพาหนะในเมืองไม่ใช้น้ำมันเชื้อเพลิง แต่ใช้แบตเตอรี่เท่านั้น จากนั้นนำท่านเดินทางโดยกระเช้าไฟฟ้าเพื่อสัมผัสกับความงดงามของยอดเขาไคลน์แมทเทอร์ฮอร์น (Klien Matterhorn) ที่สูงถึง 4,478 เมตร และได้ชื่อว่าเป็นยอดเขาที่มีรูปทรงสวยที่สุดของเทือกเขาแอลป์ ชื่นชมกับทิวทัศน์ที่สวยงาม ณ จุดสูงที่สุดบริเวณไคลน์แมทเทอร์ฮอร์น | |
กลางวัน | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง |
นำท่านเดินทางต่อสู่เมืองอินเทอร์ลาเกน (Interlaken) เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ระหว่าง ทะเลสาบทูน (Lake Thun) และทะเลสาบเบรียนซ์ (Lake Brienz) อิสระให้ท่านได้สัมผัสบรรยากาศและธรรมชาติแบบสวิตเซอร์แลนด์ในเมืองเล็กๆ | |
เย็น | รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารจีน |
เช้า | รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม |
ออกเดินทางสู่ เมืองกรินเดอวาลด์ (Grindelwald) เมืองตากอากาศที่สวยงาม เพื่อขึ้นกระเช้าEiger Express กระเช้าลอยฟ้าตัวใหม่ สู่สถานี Eigergletscher โดยกระเช้าตัวนี้นอกจากจะให้ท่านได้เห็นวิวความสวยงามของจุงเฟราโดยรอบแล้วยังจะช่วยให้ท่านลดเวลาลงกว่า 40 นาที เมื่อเทียบกับการขึ้นสู่ยอดเขาแบบเดิม หลังจากนั้นนำท่านเดินทางต่อด้วยรถไฟเพื่อขึ้นสู่ สถานีรถไฟจุงเฟรายอร์ค (Jungfraujoch) สถานีรถไฟที่อยู่สูงที่สุดในยุโรป (Top of Europe) ระหว่างเส้นทางขึ้นสู่ยอดเขาท่านจะได้ผ่านชมธารน้ำแข็งที่มีขนาดใหญ่ โดยเมื่อปี คศ.2001 องค์การยูเนสโกประกาศให้ยอดเขาจุงเฟรา เป็นพื้นที่มรดกโลกทางธรรมชาติแห่งแรกของยุโรป มีความสูงกว่าระดับน้ำทะเลถึง 11,333 ฟุตหรือ 3,454 เมตร หลังจากนั้นนำท่านเข้าชมถ้ำน้ำแข็ง (Ice Palace) ที่แกะสลักให้สวยงาม อยู่ใต้ธารน้ำแข็งลึกถึง 30 เมตร อิสระให้ท่านได้สนุกสนานกับการถ่ายรูป เล่นหิมะบนยอดเขาและเพลิดเพลินกับกิจกรรมบนยอดเขา และที่ไม่ควรพลาดกับการส่งโปสการ์ดโดยที่ทำการไปรษณีย์ที่สูงที่สุดในยุโรป | |
กลางวัน | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารบนยอดเขา |
นำท่านถ่ายรูปกับทะเลสาบเบรียนซ์(Brienz Lake) วิวสวยอีกแห่งของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ชมความสวยงามระหว่างทางกันบ้าง หมู่บ้าน และ เมืองน่ารัก หลายที่ตั้งอยู่ติดกับริมทะเลสาบ จากนั้นตามรอยซีรี่ย์ดัง Crash Landing On You จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ทะเลสาบเบลาเซ (Blausee Lake) ทะเลสาบนี้น้ำเทอร์ควอยส์ เป็นทะเลสาบของเอกชน ที่อยู่ในเขต Bernese Oberland อยู่ระหว่างเมือง Frutigen และ Kandersteg เป็นที่ๆใช้ไว้สำหรับเพาะพันธุ์ปลาเทราซ์ ด้วยความสวยงามของทะเลสาบโดยมีจุดเด่นของสีน้ำทะเลสาบมีสีน้ำเขียวมรกตและมีความใสจนมองเห็นพื้นดินด้านล่างและสามารถมองเห็นปลาเทราซ์แหวกว่ายในทะเลสาบอีกด้วยจนได้ขึ้นชื่อว่า Blausee Blue Trout โดยยังเปิดให้นักท่องเที่ยวสามารถตกปลาเทราซ์ได้อีกด้วย
สมควรแก่เวลา นำท่านกลับสู่เมืองอินเทอร์ลาเกน (Interlaken) |
|
เย็น | รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง (ชีสฟองดูว์) |
เช้า | รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม |
นำท่านเดินทางสู่เมืองลูเซิร์น (Lucerne) เมืองท่องเที่ยวยอดนิยมอันดับหนึ่งของสวิตเซอร์แลนด์ ที่ถูกห้อมล้อมไปด้วยทะเลสาบและขุนเขา จากนั้นพาท่านชมสิงโตหินแกะสลัก (Dying Lion of Lucerne) ที่แกะสลักบนผาหินธรรมชาติ เพื่อเป็นอนุสรณ์รำลึกถึงการสละชีพอย่างกล้าหาญของทหารสวิสที่เกิดจากการปฏิวัติในฝรั่งเศสเมื่อปี ค.ศ.1792 ชมสะพานไม้ชาเปล (Chapel Bridge) ซึ่งมีความยาวถึง 204 เมตร ทอดข้ามผ่านแม่น้ำรอยส์ (Reuss River) อันงดงามซึ่งเป็นเหมือนสัญลักษณ์ของเมืองลูเซิร์น เป็นสะพานไม้ที่มีหลังคาที่เก่าแก่ที่สุดในยุโรป สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ.1333 โดยใต้หลังคาคลุมสะพานมีภาพวาดประวัติศาสตร์ของชาวสวิส ตลอดแนวสะพาน จากนั้นให้ท่านได้อิสระเลือกซื้อสินค้าของสวิส เช่น ช็อคโก แลต, เครื่องหนัง, มีดพับ, นาฬิกายี่ห้อดัง อาทิเช่น Rolex, Omega, Tag Heuer เป็นต้น | |
กลางวัน | อิสระอาหารกลางวันตามอัธยาศัย |
นำท่านล่องเรือทะเลสาบลูเซิร์น (Lake Lucerne Cruise) ทะเลสาบสี่พันธรัฐที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับที่4 ของประเทศมีความงดงามของทัศนียภาพอยู่ท่ามกลางหุบเขาที่โอบล้อมด้วยยอดเขาริกิ (MountRigi) และยอดเขาพิลาตุส (Mount Pilatus) ทำให้วิวทิวทัศน์ดูงดงามยิ่งขึ้นทะเลสาบลูเซิร์น ได้ชื่อว่าสวยสุดในสวิตเซอร์แลนด์ทัศนียภาพบริเวณรอบๆทะเลสาบลูเซิร์น เป็นอาคารบ้านเรือนแบบสมัยใหม่ มีถนนเลียบไปตามเนินเขาตลอดระยะทาง ริมทะเลสาบจัดเป็นสวนสาธารณะ มีดอกไม้นานาพรรณออกดอกบานสะพรั่ง | |
จากนั้นเดินทางต่อสู่เมืองซุก (Zug) เมืองเล็กๆ ริมทะเลสาบที่สวยงามราวกับเทพนิยายตั้งอยู่ทางภาคกลางตอนบนของประเทศ โดยนอกจากความสวยงามของทัศนียภาพแล้ว เมืองนี้ยังมีอัตราการเก็บภาษีที่ค่อนข้างต่ำจึงถือเป็นที่ตากอากาศที่นิยมของเหล่าเศรษฐี คนดังสำคัญระดับโลกมากมายมาเยือน ท่านอาจจะเห็นซูเปอร์คาร์จอดเรียงรายอยู่ 2 ข้างทาง จนเป็นเรื่องธรรมดาไปเลย นำท่านชมเมืองชมหอนาฬิกาเมืองซุก (Clock Tower) แลนด์มาร์กที่สำคัญแห่งหนึ่งของเมือง ด้วยความสูงของหอถึง 52 เมตรและความโดดเด่น ของหลังคาซึ่งเป็นสีน้ำเงินขาวโดนเด่นตัดกับสีหลังคาสีน้ำตาลของบ้านเมืองสวยงามอย่างยิ่ง มีเวลาให้ท่านเดินขึ้นบันไดสู่จุดชมวิวด้านบนของหอนาฬิกา ที่ท่านจะสามารถเห็นวิวที่สวยงามโดยรอบของเมืองซุก
นำท่านเข้าชมโบสถ์เซนท์ออสวอร์ล (St Oswald’s church) โบสถ์ศักดิ์สิทธิ์ที่สำคัญของเมือง ตัวโบสถ์สร้างขึ้นตั้งแต่ ค.ศ. 1478 ใช้เวลาการก่อสร้างนานถึง 6 ปี ถือเป็นหนึ่งในสถาปัตยกรรมที่สำคัญที่สุดในช่วงโกธิคตอนปลายแห่งหนึ่งในสวิตเซอร์แลนด์ นอกจากนี้ ชาวสวิสยังมีความเชื่ออีกว่า ถ้าใครมีเรื่องทุกข์ร้อนใดๆ หรือเจ็บป่วย ถ้าได้มาขอพรกับโบสถ์แห่งนี้ จะช่วยบรรเทาให้ดีขึ้นอย่างรวดเร็ว (กรณีถ้ามีพิธีภายในโบสถ์ อาจไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าชม) นำท่านเข้าชมร้านทำทองที่เก่าแก่ที่สุดในยุโรป (The Oldest house of goldsmiths in Europe) ของครอบครัว Lohri เปิดทำการตั้งแต่สมัยศัตวรรตที่ 16 ภายในตัวอาคารมีการตกแต่งในรูปแบบสถาปัตยกรรมสมัยจักวรรดินโปเลียน มีซุ้มประตูและเสาโรมัน มีรูปปั้นและจิตรกรรมฝาผนัง ด้วยการวาดลายหินอ่อนด้วยมือ ในปี 1971 ได้เปิดร้านนี้เป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปะล้ำค่าและเครื่องประดับหายาก และบางชิ้นมีเพียงชิ้นเดียวในโลก มีเวลาให้ท่านเดินชื่นชมอาคาร งานศิลปะล้ำค่าและเครื่องประดับหายากแล้ว ในส่วนของ Lohri Store ยังมีนาฬิกาชั้นนำระดับโลกให้ท่านเลือกซื้อเลือกชม |
|
เย็น | รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารจีน |
เช้า | รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม |
นำท่านเดินทางสู่สนามบินซูริค เพื่อทำคืนภาษี (Tax Refund) และมีเวลาช้อปปิ้งสินค้าปลอดภาษี (Duty Free) ภายในสนามบิน | |
13.15 น. | ออกเดินทางสู่กรุงเทพ โดยเที่ยวบินที่ TG 971 |
06.10 น. | ถึงสนามบินสุวรรณภูมิโดยสวัสดิภาพ |
ค่าประกันอุบัติเหตุคุ้มครองในระหว่างการเดินทางวงเงินไม่เกินท่านละ 1,000,000 บาท
ค่ารักษาพยาบาลในกรณีเกิดอุบัติเหตุวงเงินไม่เกินท่านละ 500,000 บาท (ตามเงื่อนไขกรมธรรม์)
** ลูกค้าท่านใดสนใจ…ซื้อประกันการเดินทางสำหรับครอบคลุมเรื่องสุขภาพสามารถสอบถามข้อมูล เพิ่มเติมกับทางบริษัทได้ **
– เบี้ยประกันเริ่มต้น 341 บาท [ระยะเวลา 4-6 วัน]
– เบี้ยประกันเริ่มต้น 395 บาท [ระยะเวลา 7-10 วัน]
**ความครอบคลุมผู้เอาประกันที่มีอายุตั้งแต่แรกเกิด ถึง 85 ปี **
[รักษาพยาบาล 2 ล้าน, เสียชีวิตหรือเสียอวัยวะจากอุบัติเหตุ 1.5 ล้านบาท]