20.00 น. พร้อมกัน ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศขาออกชั้น 4 สายการบิน Turkish airline โดยมีเจ้าหน้าที่บริษัทฯคอยต้อนรับและอำนวยความสะดวกด้านเอกสาร ติดแท็กกระเป๋า
23.00 น. นำท่านเดินทางออกสู่ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ โดยสายการบิน Turkish Airlines เที่ยวบินที่ TK069
05.15 น. เดินทางถึง ท่าอากาศยานอิสตันบูล ประเทศตุรกี แวะพักเปลี่ยนเครื่อง
08.10 น. นำท่านเดินทางออกสู่ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ โดยสายการบิน Turkish Airlines เที่ยวบินที่ TK1907
10.00 น. เดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาติซูริค ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ นำท่านผ่านพิธีตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร นำท่าน
ผ่านขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมืองและพิธีการทางศุลกากร (เวลาท้องถิ่นช้ากว่าประเทศไทย 6 ชั่วโมง ช่วงฤดูร้อน) จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ กรุงเบิร์น (Bern) (ระยะทาง 126 ก.ม. / 2 ชม. 30 นาที) นครหลวงอันงามสง่าของประเทศ และเป็นเมืองมรดกโลกอันล้ำคําที่ได้รับการอนุรักษ์มาสู่ ปัจจุบัน เบิร์น ถูกสร้างขึ้นในยุคกลางของยุโรป องค์การยูเนสโก้ ประกาศให้ส่วนหนึ่งของเบิร์นเป็นเมืองมรดก
เที่ยง รับประทานอาหารเที่ยง (มื้อที่1)
บ่าย พาทุกท่านเยี่ยมชม บ่อหมีสีน้ำตาล (Bear Pit) เมื่อมาถึงเมืองนี้ ก็ต้องแวะเข้า มาชม เจ้าหมี ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของกรุงเบิร์น ที่ว่าสัญลักษณ์ของกรุงเบิร์นก็เพราะว่า มีประวัติความเป็นมาเก่าแก่ ตั้งแต่สมัยผู้ครองเบิร์นในยุคนั้นได้ออกล่าสัตว์ สัตว์ตัวแรกที่ล่าได้ คือ หมี จากนั้นนำท่านชม นาฬิกา ไซ้ท์ กล็อคเค่น (ZYTGLOGGE) หอนาฬิกายุคกลางที่มีชื่อเสียงที่สุดของย่านเมืองเก่าเบิร์น ถูกสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 13 อายุ 800 ปีที่มีโชว์ให้ดูทุกๆชั่วโมงที่นาฬิกาตีบอกเวลา ปัจจุบันเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของกรุงเบิร์น จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองเจนีวา (Geneva) (ระยะทาง160ก.ม. /2ชม. 30นาที) เมืองที่ได้ชื่อว่าเป็นศูนย์กลางทางการเงิน การทูต เป็นเมืองที่มี ตั้งอยู่มากที่สุดในโลก แวะถ่ายภาพกับแลนด์มาร์คของเมืองนี้ เริ่มต้นที่ นาฬิกาดอกไม้ จุดถ่ายรูปสำคัญตั้งอยู่ด้านหนึ่งของสวน Jardin Anglais ที่ติดกับถนน มองข้ามไปจะเห็น ร้านสินค้าแบรนด์เนมมากมาย ดอกไม้จะถูกจัดเรียงให้มีสีสัน ต่างกันไปตามฤดูกาล น้ำพุจรวดเจ็ทโด (Jet d-Eau) ที่มีน้ำพุพุ่งสูงถึง 400 ฟุตเหนือทะเลสาบเจนีวานอกจากเต็มไปด้วยพื้นที่สีเขียวแล้ว ยังมีพื้นที่เขตเมืองเก่าที่มีตรอกซอกซอยที่มีความน่าสนใจทางประวัติศาสตร์ ที่ทำการองค์การสหประชาชาติประจำกรุงเจนีวา (Palais des Nations) หนึ่งในอาคารที่สำคัญที่สุดของกรุงเจนีวา อาคารสีขาวหลังใหญ่นี้ได้ใช้เวลาสร้างนานถึง 8 ปี และนำท่านชม เก้าอี้สามขา (The broken chair) ที่ถูกสร้างขึ้นในปี 1997 ตั้งอยู่ที่จัตุรัส Place des Nations ด้วย ตัวเก้าอี้ตั้งประชันหน้าประตูทางเข้าสำนักงานสหประชาชาติ สร้างขึ้นโดย Daniel Berset ซึ่ง Paul Vermeulenอดีตประธานสมาคม Handicap international ที่ให้สร้างขึ้นหลังจากการประชุมนานาชาติที่ประเทศแคนาดา ความหมายเพื่อเป็นการต่อต้านสงครามและเก้าอี้สามขาก็เปรียบเสมือน ผู้เคราะห์ร้ายจากสงครามนั่นเอง
เย็น รับประทานอาหารเย็น (มื้อที่2)
ที่พัก : Ibis Annemasse-Geneva 3* หรือระดับใกล้เคียงกัน
ชื่อโรงแรมที่ท่านพัก ทางบริษัทจะทำการแจ้งพร้อมใบนัดหมาย 5 วันก่อนเดินทาง
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม (มื้อที่3)
นำท่านเดินทางสู่ Aubonne Outlet (ระยะทาง42ก.ม. / 1 ชั่วโมง ) เอาท์เลตขนาดใหญ่ในสวิตเซอร์แลนด์ มีสินค้าแบรนด์เนมมากมายเช่นADIDAS, DIESEL, MANGO, LACOSTE, LIVI’S, NIKE, GEOX, PUMA, GUESS และสินค้าแบรนด์ดังต่างๆอีกมากมาย อิสระให้ท่านได้ช้อปปิ้งตามอัธยาศัย
เที่ยง อิสระอาหารเที่ยงตามอัธยาศัย
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองโลซานน์ (Lausanne) (ระยะทาง 22 ก.ม. / 30 นาที) เมืองเล็ก ๆ ที่ตั้งอยู่ติดกับทะเลสาบเจนีวาทางด้านเหนือ มีวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม มีภูเขาโอบล้อม พร้อมทั้งทะเลสาบกว้างใหญ่ ผู้คนส่วนใหญ่ในเมืองจะพูดภาษาฝรั่งเศส เพราะเมืองโลซานอยู่ใกล้กับชายแดนประเทศฝรั่งเศส สภาพบ้านเรือนของโลซานน์เต็มไปด้วยตึกและอาคารรูปทรงคลาสสิกในช่วงสมัยศตวรรษที่ 12-14 มีบรรยากาศเงียบสงบไม่วุ่นวาย มีระบบรถไฟฟ้าใต้ดินให้บริการอย่างทั่วถึง เมืองนี้ยังเป็นแหล่งผลิตไวน์ที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของสวิตเซอร์แลนด์ด้วย จากนั้นนำท่านไปชม ให้ท่านชมบรรยากาศของเมืองย่านเมืองเก่าสมัยโบราณ จากนั้นอิสระให้ท่านพักผ่อนตามอัธยาศัยที่ สวนเดอน็องตู (Le Denantou) เป็น สวนสาธารณะขนาดใหญ่ โดยบริเวณหัวมุมของสวน จะมีบันไดเล็ก และเดินเลยขึ้นไปอีกนิดหน่อยสวนสาธารณะที่มี รูปปั้นลิง 3 ตัว ปิดหู ปิดปาก ปิดตา (Three monkey monuments) อันเป็นสถานที่ทรงโปรดของในหลวงเมื่อทรงพระเยาว์ และ ถ่ายรูปกับ ศาลาไทย (Le Pavillon Thaïlandais) ที่รัฐบาลไทยส่งไปตั้งในสวนสาธารณะของเมืองโลซานน์ ถ่ายภาพด้านนอกที่ Olympic museum พิพิธภัณฑ์ที่บอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับโอลิมปิค ตั้งอยู่ใกล้กับทะเลสาบเจนีวา รอบๆพิพิธภัณฑ์ยังมีสิ่งบอกเล่าเรื่องราวมากมาย เช่น ลู่วิ่ง หรือรันเวย์รั้วไม้อีกด้วย
บ่าย นำท่านเดินทางสู่ เมืองเวเว่ย์ (Vevey) (ระยะทาง 26 ก.ม./ 30นาที) เมืองที่แสนโรแมนติกน่ารักตั้งอยู่ในรัฐโวของสวิตเซอร์แลนด์ นักท่องเที่ยวต่างก็ขนานนามเวเว่ย์และมงเทรอซ์ให้เป็นไข่มุกแห่งริเวียร่าสวิส Pearls of the Swiss Riviera เพราะมีอากาศดีอบอุ่นเกือบทุกฤดูกาล และเมืองนี้ยังยังเป็นที่ตั้งของ สำนักงานใหญ่ของบริษัทใหญ่ด้านอาหารของโลกอย่าง เนสท์เล่ Nestleด้วย แวะถ่ายรูปกับจุดไฮไลท์ของเมือง รูปปั้น “ชาลี แชปปลิ้น” (Chaplin Statue) ชาวอังกฤษที่มีผลงานสร้างชื่อเสียงในอเมริกาที่มีความหลงใหลและท่านเลือกเวเว่ย์เป็นสถานที่พักกายใจในบั้นปลายของชีวิต ถ่ายรูป ส้อมยักษ์ The Fork ส้อมยักษ์นี้เป็นผลงานของศิลปินสวิส Jean-Pierre Zaugg สร้างขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองพิพิธภัณฑ์ Alimentarium ครั้งแรกที่ส้อมยักษ์ได้ปักลงในทะเลสาบคือปี 1995 แต่อยู่ได้เพียงปีเดียว ส้อมยักษ์ถูกย้ายไปอยู่ในสวนเมือง Lucerne มากกว่าสิบปี ก่อนที่ชาวเมือง Vevey จะยื่นเรื่องเพื่อทวงคืนส้อมนี้สำเร็จ ในที่สุดส้อมยักษ์จึงได้กลับมาปักกลางทะเลสาบอีกครั้งในปี 2008 และกลายเป็นสัญลักษณ์ของเมือง เป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญเคียงคู่กับรูปปั้น Charlie Chaplin จากนั้นนำทุกท่านเดินทางสู่ เมืองทาซ (Tasch) (ระยะทาง 148 ก.ม. / ใช้เวลา 2 ชม.)
เย็น รับประทานอาหารเย็น (มื้อที่4)
ที่พัก : Hotel Elite Tasch 3* หรือระดับใกล้เคียงกัน
ชื่อโรงแรมที่ท่านพัก ทางบริษัทจะทำการแจ้งพร้อมใบนัดหมาย 5 วันก่อนเดินทาง
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม (มื้อที่5)
นำท่านเดินทางสู่ หมู่บ้านเซอร์แมท Zermatt ด้วย Shuttle Train ราคาทัวร์รวมค่าโดยสารแล้ว มีเวลาให้ท่านเดินเที่ยวชมหมู่บ้านเซอร์แมทที่น่ารักๆ และมีบรรยากาศสบายๆล้อมด้วยเขาสูงสวยงาม เป็นเมืองที่ปลอดมลพิษทางอากาศเพราะยานพาหนะในเมืองไม่ใช้น้ำมันเชื้อเพลิง แต่ใช้แบตเตอรี่เท่านั้น และยังมีฉากหลังของตัวเมืองเป็น ยอดเขาแมทเทอร์ฮอร์น Matterhorn ที่ได้ชื่อว่าเป็นยอดเขาที่มีรูปทรงสวยที่สุดในสวิส เซอร์แมทเป็นเมืองที่มีประชากรน้อยมาก และอาชีพหลักของคนพื้นเมือง คือพนักงานโรงแรมและร้านอาหาร ซึ่งรายได้หลักของเมืองนี้มาจากการท่องเที่ยวในช่วงฤดูร้อนและฤดูหนาว ในวันที่อากาศเอื้ออำนวย จากเมืองด้านล่างนี้ถ้าสภาพอากาศดีและสดใด จะสามารถมองเห็น ยอดเขาแมทเทอร์ฮอร์น ที่ความสูง 3,833 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ซึ่งความสูงของยอดเขาแมทเทอร์ฮอร์น สูงเด่นเป็นสง่าท่ามกลางเทือกเขาแอลป์ ด้วยความสูง 4,447 เมตรจากระดับน้ำทะเล และมีรูปทรงที่เป็นเอกลักษ์ เฉพาะตัวของแมทเทอร์ฮอร์น แบบสามเหลี่ยมคล้ายปิรามิดที่จุดสูงสุดบนยอด และมีความโดดเด่นไปอีกเมื่อเอกลักษณ์เฉพาะตัวนี้ได้เป็นโลโก้ของช็อคโกแล็ตดังทับเบอร์โรน และผู้ผลิตภาพยนตร์รายใหญ่พาราเม้าท์พิคเจอร์สซึ่งมีความงดงามราวภาพวาดบวกกับทะเลสาบแสนงามในยามฤดูร้อน ซึ่งสะท้อนความงามบนยอดเขาที่มีหิมะปกคลุมตลอด ให้เวลาท่านอิสระเลือกเดินชมบรรยากาศความสวยงามของหมู่บ้านเซอร์แมทตามอัธยาศัย
เที่ยง รับประทานอาหารเที่ยง (มื้อที่6)
บ่าย นำท่านเดินทางลงจาก หมู่บ้านเซอร์แมท Zermatt ด้วย Shuttle Train และนำทุกท่านเดินทางสู่เมือง เมืองมองเทรอซ์ (Montreux) (ระยะทาง 139 ก.ม. / 2 ชม.) เป็นเมืองเล็กๆน่ารักริมทะเลสาบเจนีวา ที่ล้อมรอบด้วยไร่ไวน์และมีแบล็คกราวด์เป็นเทือกเขาแอลป์ ชมบรรยากาศถ่ายภาพด้านนอกกับ ปราสาทซิลยอง Chillon castle ปราสาทสไตล์กอทิกแห่งมองเทรอซ์ เป็นปราสาทแห่งตระกูลซาวอย อายุเก่าแก่กว่า 1000 ปี เป็นปราสาทแห่งความภูมิใจของชาวสวิต แม้ไม่ใหญ่โตโอฬารเท่าปราสาทอื่นๆ ของยุโรป แต่โบรชัวร์แผ่นพับการท่องเที่ยวของสวิสมักมีปราสาทซิลยองเป็นโลโก้ประจำ นำท่านชื่นชมบรรยากาศ ชมวิวสวยๆของเมืองมองเทรอซ์ จากนั้นนำทุกท่านเดินทางสู่เมือง เมืองอินเตอร์ลาเคน Interlaken (ระยะทาง 111 ก.ม. / 2 ชม. 30 นาที) เมืองตากอากาศเล็กๆที่สวยเหมือนในฝัน เป็นเมืองแห่งสองทะเลสาบ ตั้งอยู่ระหว่างทะเลสาบ ทูน Thun และทะเลสาบเบรียนซ์ Bienz ล้อมรอบด้วยภูเขามีทิวทัศน์บริสุทธิ์และสวยงามมาก
เย็น รับประทานอาหารเย็น (มื้อที่7)
ที่พัก : Hotel Central Continental 3* หรือระดับใกล้เคียงกัน
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม (มื้อที่8)
จากนั้นนำท่านเที่ยวชม หมู่บ้านเลาเทอร์บรุนเนิน Lauterbrunnen (ระยะทาง 19 ก.ม. / 30 นาที) เป็นหมู่บ้านที่อยู่ท่ามกลางหุบเขาสูงชันและยังมี น้ำตกชเตาบ์บาค Staubbach ไหลลงมาจากหน้าผา ทำให้ทัศนียภาพของหมู่บ้านแห่งนี้สวยอลังการมากขึ้น แม้จะเป็นหนึ่งในหมู่บ้านวิวสวยที่มีนักท่องเที่ยวแวะเวียนมาต่อเนื่อง แต่เลาเทอร์บรุนเนินยังคงเป็นหมู่บ้านที่เงียบสงบ ไม่วุ่นวาย แถมยังเป็นทางผ่านไปยังจุดท่องเที่ยวต่าง ๆ ในเทือกเขาแอลป์อีกด้วย อิสระให้ท่านเก็บภาพความประทับใจและเดินเล่นในหมู่บ้าน
จนถึงเวลาอันสมควรพาท่านเดินทางสู่ สถานีไอเกอร์เกลตเชอร์ (Eigergletcher station) ซึ่งเป็นจุดเชื่อมต่อกับรถไฟจุงเฟราที่จะนำผู้โดยสารสู่ ยอดเขาจุงเฟรา (JUNGFRAUJOCH) จุดที่สูงที่สุดของยุโรป บนเทือกเขาแอลป์ ล้อมรอบด้วยภูเขาไอเกอร์ เมินช์ และจุงเฟรา นอกจากนี้ที่นี่ยังเป็นบริเวณแรกในเทือกเขาแอลป์ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกอีกด้วย ตั๋วกระเช้าลอยฟ้าและรถไฟ (รวมในค่าทัวร์แล้ว) นำท่านเที่ยวชม ปราสาทน้ำแข็ง Ice palace สร้างขึ้นจากกองน้ำแข็งที่ก่อตัวอยู่ใต้ระเบียงชมวิวลงไป 20 เมตร เป็นจุดถ่ายรูปสวยๆที่นี่ซึ่งเกิดจากไกด์ภูเขา 2 คนได้เริ่มสลักน้ำแข็งเข้าไปเป็นโถงกว้างขนาด 1,000 ตารางเมตร โดยใช้เพียงสิ่วเจาะน้ำแข็งและเลื่อยในปี 1930 โดยทำทางเดินเหมือนโพรงถ้ำเข้าไป เพื่อชมรูปสลักน้ำแข็งต่างๆ อุณหภูมิภายในถ้ำจะคงที่อยู่ที่ -3 องศา Alpine Sensation Adventure Tunnel อัลไพน์ เซนเซชัน หนึ่งในสถานที่เที่ยวของจุงเฟรา อุโมงค์ความยาว 250 เมตร แสดงเรื่องราวของการรถไฟจุงเฟราและการพัฒนาของการท่องเที่ยวในเขตเทือกเขาแอลป์ มีจอภาพยนตร์ 360 องศาที่สฟิงซ์ฮอลล์ โดยภาพยนตร์จะนำพาผู้ชมเข้าสู่โลกอัลไพน์ที่ล้อมรอบจุงเฟรา Sphinx Observatory สฟิงซ์ฮอลล์ ขึ้นลิฟต์ที่เร็วที่สุดในสวิตเซอร์แลนด์ไปเพียง 25 วินาทีก็จะถึงห้องชมวิวที่จะมองเห็นธารน้ำแข็งได้ในทุกสภาพอากาศ ซึ่งในวันฟ้าใสจะสามารถเปิดออกไปยังลานชมวิวกลางแจ้งที่อยู่สูงจากระดับน้ำทะเล 3,571 เมตร พร้อมวิวธารน้ำแข็งอเล็ตช์ มองเลยไปถึงฝรั่งเศส เยอรมนีและอิตาลีได้อีกด้วย
เที่ยง รับประทานอาหารเที่ยง (มื้อที่9)
นำท่านเดินทางสู่ เมืองอินเตอร์ลาเคน Interlaken (ระยะทาง 19 ก.ม. / 30 นาที) เมืองตากอากาศเล็กๆที่สวยเหมือนในฝัน เป็นเมืองแห่งสองทะเลสาบ ตั้งอยู่ระหว่างทะเลสาบ ทูน Thun และทะเลสาบเบรียนซ์ Bienz ล้อมรอบด้วยภูเขามีทิวทัศน์บริสุทธิ์และสวยงามมาก สวนเฮอเฮ่อมัท Hohematte พื้นที่เปิดโล่งสีเขียวของเมือง เป็นสนามหญ้าสีเขียวกว้างใหญ่อยู่หน้าโรงแรม The VICTORIA-JUNGFRAU Grand Hotel & Spa มีวิวอันสวยงามซึ่งสามารถมองเห็น 3 ยอดเขาได้ทั้งยอดเขาไอเกอร์ (Eiger), เมินช์ (Mönch) และยอดเขายุงเฟรา(Jungfraujoch) อิสระให้ท่านเดินเล่นและไปถ่ายภาพกับ ย่านเมืองเก่า Old Town หรือเรียกว่า Unterseen ตั้งอยู่เลียบกับแม่น้ำอาเร่ บริเวณเชิงเขา Harder เมืองเก่าแห่งนี้ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี1471 อาคารหลายๆ แห่งยังคงถูกอนุรักษณ์เอาไว้อย่างดี แวะให้ท่านถ่ายภาพกับ ทะเลสาบทูน Lake Thun เป็นทะเลสาบบริเวณเทือกเขาแอลป์ ในอดีตทะเลสาบแห่งนี้เป็นทะเลสาบผืนเดียวกับทะเลสาบเบรียนซ์ เคยมีชื่อว่า ทะเลสาบเว็นเดิล (Wendelsee) แต่ในคริสต์ศตวรรษที่ 10 ทะเลสาบเวนเดิลก็แยกออกเป็นสองทะเลสาบ คือทะเลสาบทูน กับทะเลสาบเบรียนซ์ โดยมีแม่น้ำอาเรเป็นแม่น้ำที่คอยเชื่อมทะเลสาบทั้งสองแทน โดยที่แม่น้ำอาเรจะไหลจากทะเลสาบเบรียนซ์ มาสู่ทะเลสาบทูน เนื่องจากผิวน้ำของทะเลสาบบรีเอินซ์นั้นอยู่สูงกว่าของทะเลสาบทูน
เย็น รับประทานอาหารเย็น (มื้อที่10)
ที่พัก : Hotel Central Continental 3* หรือระดับใกล้เคียงกัน
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม (มื้อที่11)
พาทุกท่านเดินทางสู่เมือง Isaltwald (ระยะทาง 10 ก.ม. / ใช้เวลา 30 นาที) เป็นชุมชนขนาดเล็กที่มีการใช้ชีวิตกันอยู่อย่างเป็นธรรมชาติมาก ซึ่งเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการหลีกหนีจากความเป็นอยู่ในเมืองอย่างแท้จริง เพราะที่นี่มีร้านอาหารเพียงไม่กี่ร้าน ส่วนร้านมินิมาร์ทแทบจะหาไม่ได้เลย สิ่งที่ถือว่าเป็นรางวัลของที่นี่คือทิวทัศน์ความงามตามธรรมชาติที่มี ทะเลสาบ Brienz อยู่เบื้องหลัง ที่นี่ก็เป็นอีกสถานที่หนึ่งที่คนนิยมมาเดินท่องเที่ยว และถ่ายกับสะพานชื่อดังที่เป็นที่ถ่ายทำซีรี่ย์ชื่อดัง Crash landing on you หรือสหายผูกองนั้นเอง จนสะพานนี้ได้รับชื่อใหม่ว่า Crash landing on you bridge ในฉากที่พระเอกนั่งเล่นเปียโนซึ่งเป็นภาพจำของแฟนๆซี่รี่ย์เรื่องนี้ทุกท่าน นำท่านเดินทางสู่ เมืองลูเซิร์น (ระยะทาง 60 กม. ใช้เวลา 1 ชม.) ในเมืองลูเซิร์นส่วนใหญ่รวมตัวกันในเขตเมืองเก่าและบริเวรณทะเลสาบ เริ่มจากสัญลักษณ์ของเมืองคือ สะพานไม้ซาเปล Chapel bridge สะพานไม้อายุเกือบ 700 ปีนี้เป็นสะพานมีหลังคาคลุมที่ทอดข้ามแม่น้ำรอยส์จากสถานีรถไฟไปสู่ฝั่งเมืองเก่า มีจุดเด่นคือภาพเขียนบนคานไม้ อนุสาวรีย์สิงโตหิน The Lion Monument ที่แกะสลักอยู่บนหน้าผา บริเวณหัวของสิงโตจะมีโล่ซึ่งมีกากบาทสัญลักษณ์ของสวิตเซอร์แลนด์อยู่โดยสร้างขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแด่ความกล้าหาญ ซื่อสัตย์และจงรักภักดีของทหารสวิสที่เสียชีวิตไปในการต่อสู้ป้องกันพระราชวัง ระหว่างการปฏิวัติใหญ่ของฝรั่งเศส
เที่ยง รับประทานอาหารเที่ยง (มื้อที่12)
บ่าย นำท่านเดินทางสู่ เมืองซุก ZUG (ระยะทาง 34 ก.ม. / 45 นาที) เป็นเมื่องที่ร่ำรวยที่สุดในประเทศ และเป็นเมืองที่ติดอันดับหนึ่งในสิบของโลกที่สะอาดที่สุด เป็นเมืองเก่าที่คงความสวยงามของพื้นหินแบบยุโรปในยุคกลาง สิ่งที่จะทำให้ท่านประทับใจคือรู้สึกได้ถึงอากาศที่สดชื่นและสะอาดเพราะเมืองนี้ตั้งอยู่บนทะเลสาบ ชมและถ่ายภาพกับ หอนาฬิกา Zytturm ซึ่งเป็นผลงานชิ้นเอกอีกชิ้นหนึ่งที่ตั้งอยู่ในเมืองซุกเป็นหอคอยสูง 52 เมตรที่มีหลังคาที่มีลวดลายโดดเด่นเป็นสีฟ้าขาว และนาฬิกาที่ตั้งอยู่เป็นนาฬิกาดาราศาสตร์ ที่สามารถบอกข้างขึ้นข้างแรมของพระจันทร์ บอกวันในสัปดาห์ได้ด้วย อิสระชอปปิ้งที่ Lohri AG Store ทีมีนาฬิกาชั้นนำระดับโลกให้ท่านเลือกซื้อเลือกชมอาทิ เช่น Patek Philippe, Franck Muller Cartier , Piaget, Parmigiani Fleurier, Panerai, IWC , Omega, Jaeger-LeCoultre, Blancpain, Tag Heuer ฯลฯ Interlaken จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองซุริค Zurich (ระยะทาง 34 กม. ใช้เวลา 45 นาที)
เย็น รับประทานอาหารเย็น (มื้อที่13)
ที่พัก Holiday Inn Express Zurich Airport 3* หรือระดับใกล้เคียงกัน
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม (มื้อที่14)
นำท่านเดินทางสู่ เมืองซาฟฟ์เฮาเซิน Schaffhausen (ระยะทาง 48 ก.ม. / 1 ช.ม.) เมืองที่ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของประเทศ ซึ่งตั้งอยู่ในวงล้อมของประเทศเยอรมนีทั้ง 3 ทิศทางโดยมี แม่น้ำไรน์ Rhein ไหลผ่านเมือง ให้ท่านชมความงามของ น้ำตกไรน์ เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ที่สุดของทวีปยุโรป ตั้งอยู่บนแม่น้ำไรน์บริเวณพรมแดนระหว่างรัฐชาฟเฮาเซินกับรัฐซูริค น้ำตกแห่งนี้มีความกว้าง 150 เมตรและสูง 23 เมตร ให้ท่านอิสระถ่ายภาพเก็บความประทับใจกับความสวยงามของน้ำตกไรน์ นำท่านเดินทางสู่ เมืองซุริค Zurich (ระยะทาง 51 กม. ใช้เวลา 1 ชม.) นำท่านเก็บภาพความประทับใจกับสถานที่ต่างๆ สะพาน Münsterbrücke หรือเป็นที่รู้จักกันในนาม Helmhausbrücke เป็นสะพานข้ามถนนและเดินเท้าที่เปิดขึ้นในปี 2381 ตั้งอยู่เหนือแม่น้ำ Limmat ในใจกลางเมืองซูริก สะพาน สามารถเดินข้ามไปมาได้ ระหว่างสองฝั่งของโบสถ์สำคัญของซูริค ฟากนึงมี โบสถ์ Fraumünster ที่เลื่องชื่อเรื่องความงดงามของกระจกสี ซึ่งโบสถ์นับเป็นไอไลท์ของเมืองชูริคเลยก็ว่าได้ เป็นโบสถ์นิกายโปรแตสแตนท์ที่มีจุดเด่นอยู่ที่เป็นหอคอยตึกคู่แฝด และสถาปัตยกรรมแบบโรมัน และอีกฝากเป็น โบสถ์ Grossmünster จึงนำเสนอออกมาในรูปแบบประตูแกะสลักในศิลปะยุคกลาง อิฐหินถูกใช้ในการก่อสร้างตัวโบสถ์ ยังมีการตกแต่งด้วยหน้าต่างกระจกที่มีสีสันทันสมัยโดยจิตรกรชาวสวิส Augusto Giacometti นอกจากนี้ยังมีประตูทองสัมฤทธิ์หรูหราที่ตั้งอยู่ทางฝั่งทิศเหนือและทิศใต้ โบสถ์เซนต์ปีเตอร์ St. Peter’s Church ตกแต่งด้วยสถาปัตยกรรมสไตล์โกธิค ไฮไลท์ที่สำคัญคือมีหอนาฬิกาขนาดใหญ่โดยหน้าปัดของหอนาฬิกามีเส้นผ่านศูนย์กลาง 8.7 เมตร ขึ้นชื่อว่าเป็นหอนาฬิกาที่ใหญ่ที่สุดในทวีปยุโรป จากนั้น อิสระให้ท่านชอปปิ้งตามอัธยาศัยที่ ถนนบานโฮฟซตราสเซอ Bahnhofstrasse ถนนนี้ความยาวประมาณ 1.4 กิโลเมตร ที่รู้จักในระดับนานาชาติว่าเป็นถนนช้อปปิ้ง มีร้านค้าให้ได้เลือกซื้อของกันมากมาย ได้รับการขนานนามว่าเป็นถนนที่แพงที่สุดในโลก ไม่ว่าจะเป็น Gucci, Armani, Prada, Chanel, Dior, Burberry, เป็นต้น ร้านเครื่องประดับ ร้านนาฬิกาและโรงแรมระดับหรูเป็นจำนวนมาก
เที่ยง รับประทานอาหารเที่ยง (มื้อที่15)
นำท่านเดินทางสู่ ท่าอากาศยานนานาชาติซูริค เพื่อเดินทางกลับสู่ประเทศไทย
18.45 น. เดินทางกลับประเทศไทย โดย สายการบิน TURKISH AIRLINE เที่ยวบินที่ TK1910
22.45 น. เดินทางถึง ท่าอากาศยานอิสตันบูล ประเทศตุรกี แวะพักเปลี่ยนเครื่อง
01.45 น. เดินทางกลับ กรุงเทพฯ ประเทศไทยโดย สายการบิน TURKISH AIRLINE เที่ยวบินที่ TK068
15.25 น. เดินทางถึง ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพ
เงื่อนไขการให้บริการ
► การเดินทางครั้งนี้จะต้องมีจำนวน 10 ท่านขึ้นไป กรณีไม่ถึงจำนวนดังกล่าว
– จะส่งจอยน์ทัวร์กับบริษัทที่มีโปรแกรมใกล้เคียงกัน
– หรือเลื่อน หรือยกเลิกการออกเดินทาง โดยทางบริษัทจะทำการแจ้งให้ท่านทราบล่วงหน้าก่อนการเดินทาง 15 วัน
– หรือขอสงวนสิทธิ์ในการปรับราคาค่าบริการเพิ่ม (ในกรณีที่ผู้เดินทางไม่ถึง15ท่านและท่านยังประสงค์เดินทางต่อ) โดยทางบริษัทจะทำการแจ้งให้ท่านทราบก่อนล่วงหน้า
► ในกรณีที่ลูกค้าต้องออกตั๋วโดยสารภายในประเทศ กรุณาติดต่อเจ้าหน้าที่ของบริษัทฯ ก่อนทุกครั้ง มิฉะนั้นทางบริษัทจะไม่รับผิดชอบใดๆ ทั้งสิ้น
► การจองทัวร์และชำระค่าบริการ
– กรุณาชำระค่ามัดจำ ท่านละ 25,000 บาท + ค่าบริการทำวีซ่า 5,500 บาท (30,500)
กรุณาส่งสำเนาหน้าพาสปอร์ตและแบบฟอร์มกรอกข้อมูลยื่นวีซ่าพร้อมเอกสารชำระมัดจำค่าทัวร์
– ค่าทัวร์ส่วนที่เหลือชำระ 20-25 วันก่อนออกเดินทาง กรณีบริษัทฯต้องออกตั๋วหรือวีซ่าออกใกล้วันเดินทางท่านจำเป็นต้องชำระค่าทัวร์ส่วนที่เหลือตามที่บริษัทกำหนดแจ้งเท่านั้น
**สำคัญ**สำเนาหน้าพาสปอร์ตผู้เดินทาง (จะต้องมีอายุเหลือมากกว่า 6 เดือนก่อนหมดอายุนับจากวันเดินทางไป-กลับและจำนวนหน้าหนังสือเดินทางต้องเหลือว่างสำหรับติดวีซ่าไม่ต่ำกว่า 3หน้า) **กรุณาตรวจสอบก่อนส่งให้บริษัทมิฉะนั้นทางบริษัทจะไม่รับผิดชอบกรณีพาสปอร์ตหมดอายุ ** กรุณาส่งพร้อมพร้อมหลักฐานการโอนเงินมัดจำ
เงื่อนไขการยกเลิกและคืนค่าทัวร์
หมายเหตุ : กรุณาอ่านศึกษารายละเอียดทั้งหมดก่อนทำการจอง เพื่อความถูกต้องและความเข้าใจตรงกันระหว่างท่านลูกค้าและบริษัท ฯ และเมื่อท่านตกลงชาระเงินมัดจาหรือค่าทัวร์ทั้งหมดกับทางบริษัทฯ แล้ว ทางบริษัทฯ จะถือว่าท่านได้ยอมรับเงื่อนไขข้อตกลงต่างๆ ทั้งหมด
Error: Contact form not found.
Error: Contact form not found.
Error: Contact form not found.
Error: Contact form not found.