05.00 น. พร้อมกันที่ สนามบินดอนเมือง อาคารผู้โดยสารภายในประเทศ เคาน์เตอร์สายการบินนกแอร์
ประตู 13 โดยมีเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกแก่ทุกท่าน
07.00 น. ออกเดินทางสู่ จังหวัดสกลนคร โดยเที่ยวบินDD360 (ใช้ระยะเวลาเดินทาง โดยประมาณ 1 ชั่วโมง 10 นาที) *บนเที่ยวบินไม่มีบริการ อาหารทั้งขาไปและกลับ*
08.10 น. เดินทางถึง จ.สกลนคร นำท่านเปลี่ยนการเดินทางเป็นรถตู้ปรับอากาศ
จากนั้น นำท่านเดินทางต่อไปยัง พระธาตุเชิงชุม เป็นปูชนียสถานสำคัญคู่บ้านคู่เมืองสกลนครมาแต่โบราณ ยอดฉัตรเหนือองค์พระธาตุทำด้วยทองคำบริสุทธิ์ ภายในมีรอยพระพุทธบาท 4 พระองค์ นับเป็นดินแดนอันศักดิ์สิทธิ์ ดังคำกล่าวที่ว่า “จะมีครั้งไหนที่ได้อานิสงส์มากไปกว่าการได้มาบูชา พระธาตุที่สร้างครอบรอยพระบาทแห่งพระพุทธเจ้าถึง 4 พระองค์” เชื่อกันว่าอานิสงส์ในการนมัสการพระธาตุเชิงชุมจะก่อให้เกิดความเป็นสิริมงคลสูงสุดแก่ตนเองและครอบครัวให้มีความเจริญรุ่งเรือง
ให้ท่านได้ชม พญานาคสีทองบริเวณบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ วัดพระธาตุเชิงชุมวรวิหาร บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ วัดพระธาตุเชิงชุมวรวิหาร เดิมเป็นเพียงบ่อน้ำก่อกำแพงบ่อด้วยศิลาแลง เชื่อว่าเชื่อมต่อกันกับสระพังทอง ซึ่งถือเป็นสระน้ำโบราณอีกแห่งหนึ่งของจังหวัดสกลนคร ในอดีต ชาวบ้านได้ใช้น้ำจากบ่อน้ำแห่งเพื่อบริโภค และเพื่อประกอบพิธีกรรมความเชื่อต่าง ๆ รวมถึงพระราชพิธีในราชสำนัก เพราะ มีน้ำตามธรรมชาติผุดขึ้นมาตลอดทั้งปีไม่เคยแห้ง ปัจจุบันมีการบูรณะและสร้างเป็นรูปปั้นพญานาคพ่นน้ำบริเวณรอบบ่อน้ำลอด เพื่อเป็นรูปแทนพระยาสุวรรณนาค พญานาคตามความเชื่อของชาวสกลนคร ว่าเป็นนาคผู้ทรงคุณธรรม ทรงศีลและอิทธิฤทธิ์ มีเกล็ดเป็นทองคำ ทำหน้าที่คอยปกป้องและรักษารอยพระพุทธบาทของพระพุทธเจ้าทั้ง 4 พระองค์ ที่พระธาตุเชิงชุม
นำท่านแวะชม วัดถ้ำผาแด่น ตั้งอยู่บนเทือกเขาภูพาน ตำบลดงมะไฟ อำเภอเมือง จังหวัดสกลนคร ห่างจากตัวจังหวัด 17 กม. เป็นอีกหนึ่งในสถานที่ห้ามพลาดของสกลนคร โดดเด่นด้วยรูปปั้นองค์พญานาคปรกขนาดใหญ่ ภาพแกะสลักบนหน้าผาหินมีเอกลักษณ์วิจิตรงดงาม พญาเต่าภูผาแด่นงดงามอลังการ ตัววัดตั้งอยู่บนภูเขาสูงท่ามกลางธรรมชาติร่มรื่น มีการจัดสวนด้วยดอกไม้สีสันสดใส ต้นไม้ต่างๆ และน้ำตกจำลอง มีร้านกาแฟไว้ให้นั่งพักสัมผัสธรรมชาติที่ร่มรื่น สามารถชมทิวทัศน์มองเห็นวิวภูเขาเขียวขจีได้แบบพาโนรามาอีกด้วย
เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ร้านอาหาร หลังจากนั้นนำท่านเดินทางไปยัง จ.บึงกาฬ
นำท่านแวะขอพรศาลปู่อือลือนาคราช ตำนานปู่อือลือที่ข้องเกี่ยวกับบึงโขงหลงนั้น เชื่อว่า เกิดจากการล่มเมืองของพญานาค ซึ่งเกิดจากความรักที่ไม่สมหวังระหว่างพญานาคกับมนุษย์ ทำให้เมืองที่เจริญรุ่งเรืองล่มสลาย บริเวณแห่งนี้เดิมเป็นที่ตั้งเมือง ชื่อรัตพานคร พญานาคผู้ถูกสาบแห่งบึงโขงหลง
นำท่านล่องเรือบึงโขงหลง ไหว้ขอพรปู่อือลือ วังปู่เจ้าอือลือนาคราช ณ เกาะดอนโพธิ์
จากนั้น นำพาทุกท่านชมพระอาทิตย์ตก ณ หินสามวาฬ ณ ป่าสงวนแห่งชาติป่าดงดิบกะลา ป่าภูสิงห์ ที่นี่โดดเด่นด้วยภูเขาหินทราย หน้าผา ถ้ำ กลุ่มหินรูปทรงต่างๆ และผืนป่าที่อุดมสมบูรณ์ (เปลี่ยนยานพาหนะเป็นรถของอาสาป่าไม้ ภูสิงห์) ชม หินสามวาฬ ชมพระอาทิตย์ตกที่หิน หินสามวาฬโดยมีลักษณะเป็นภูเขาหินทรงมนทอดตัวยาวเรียงกัน 3 ก้อน มองจากทางอากาศจะเห็นคล้ายเป็นวาฬพ่อ แม่ ลูก ว่ายน้ำด้วยกัน ซึ่งน้ำในที่นี่ก็คือผืนป่าที่เขียวขจีนั่นเอง และเมื่อมองจากบนหินสามวาฬออกไป จะพบกับทัศนียภาพของป่าภูวัว ห้วยบังบาตร แก่งสะดอก หาดทรายแม่น้ำโขง และขุนเขาของเมืองปากกระดิ่ง สปป.ลาว หากมาในยามเช้าก็อาจได้เห็นทะเลหมอกลอยละล่องเหนือผืนป่าอีกด้วย หากอากาศดีเราจะได้สัมผัสทะเลหมอกอย่างสวยงาม จากนั้น อิสระให้ท่านถ่ายภาพแห่งความประทับใจ ชมพระอาทิตย์ตก ตามอัธยาศัย
ค่ำ บริการอาหารเย็น ณ ร้านอาหาร
ที่พัก โรงแรมคิงส์พาเลส อ.เซกา หรือเทียบเท่าระดับเดียวกันมาตรฐาน จ.บึงกาฬ
05.00 น. บริการอาหารเช้าแบบ SET BOX เพื่อความสะดวกในการเดินทางเนื่องจากขึ้นถ้ำนาคารอบเช้า
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ ถ้ำนาคาหรือ ถ้ำพญานาค ตั้งอยู่ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติภูลังกา อ.บึงโขงหลง จ.บึงกาฬ เหตุที่ถ้ำแห่งนี้ได้ขึ้นชื่อว่า ถ้ำนาคา เนื่องจากมีหินและผนังถ้ำดูคล้ายพญนาค ที่มีรูปทรงคล้ายพญานาคหรืองูขนาดใหญ่นอนขดตัว โดยมีส่วนสำคัญ ๆ ทั้งส่วนหัว ลำตัว และเกล็ดพญานาค (ตามจินตนาการและความเชื่อของชาวบ้าน)ตามตำนานเรื่องเล่าเชื่อมโยงกับความเชื่อของถ้ำแห่งนี้ว่า ถ้ำนาคาคือพญานาคหรืองูยักษ์ที่ถูกสาปให้กลายเป็นหิน
เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ร้านอาหาร
จากนั้น นำท่านเดินทางเข้าสู่ จังหวัดนครพนม เป็นจังหวัดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน นับเป็นเมืองชายแดนที่มีความอุดมสมบูรณ์ ความสวยงามของทิวทัศน์ และมีความหลากหลายของวัฒนธรรมและชาติพันธุ์ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง
เย็น อิสระอาหารเย็น นำท่านเดินถนนคนเดินนครพนมตามอัธยาศัย พร้อมสักการะพญาศรีสัตตนาคราช แลนด์มาร์คแห่งใหม่ของจังหวัดนครพนม ประดิษฐานอยู่ริมฝั่งแม่น้ำโขง สร้างขึ้นเพื่อเป็น
การอนุรักษ์ประเพณีวัฒนธรรมและความเชื่อเกี่ยวกับพญานาคของชาวไทยและชาวลาวที่อาศัยอยู่ริมแม่น้ำโขง ที่มีความศักดิ์สิทธิ์ในฐานะเป็นผู้ดูแลปกปักษ์รักษาแถบลุ่มน้ำโขง รักษาพุทธศาสนาและองค์พระธาตุพนม
ที่พัก เข้าสู่ที่พัก โรงแรมสิริรีเจ้นท์ จ.นครพนม หรือเทียบเท่าระดับเดียวกัน
เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
จากนั้น นำท่านสู่ พระธาตุพนม (Phra That Phanom) พระธาตุประจำวันอาทิตย์ ณ วัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร อำเภอธาตุพนม จากการขุดค้นทางโบราณคดีพบว่า พระธาตุพนมสร้างขึ้นระหว่าง พ.ศ. 1200-1400 ตามตำนานกล่าวว่า ผู้สร้างคือ พระมหากัสสปะ พระอรหันต์ 500 องค์ และท้าวพระยาเมืองต่างๆ โดยภายในองค์พระธาตุบรรจุพระอุรังคธาตุของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และของมีค่าอีกมากมาย ต่อมา พ.ศ.2485 ได้รับการยกฐานะให้เป็นพระอารามหลวงชั้นเอกชนิดวรมหาวิหาร เปลี่ยนชื่อเป็น “วัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร”ถือเป็นสถานที่อันศักดิ์สิทธิ์ “เชื่อกันว่าผู้ที่ได้นมัสการพระธาตุครบ 7 ครั้ง จะถือว่าเป็น “ลูกพระธาตุ” เป็นสิริมงคลแก่ชีวิตและจะมีความเจริญรุ่งเรือง หรือแม้แต่การได้มากราบพระธาตุพนม 1 ครั้ง ก็ถือ เป็นมงคลแก่ชีวิตแล้ว”
ขั้นตอนสำคัญของพิธีกรรม คือ ขั้นเตรียมห่มพระธาตุ โดยผ้าที่นำมาห่มพระธาตุพนมจะใช้สีเหลือง
ก่อนที่จะแห่ผ้า พระสงฆ์จะนำกล่าวคำบูชาถวายและเดินนำหน้าขบวนแห่เป็นการถวายเครื่องสักการะบูชาแด่พระพุทธเจ้า
จากนั้น นำท่านสักการะ พระธาตุมรุกขนคร ลักษณะคล้ายพระธาตุพนม พระธาตุมรุกขนครเป็น พระธาตุบริวารของพระธาตุพนมองค์ที่อายุน้อยที่สุด แต่วัดมรุกขนคร มีอายุเกือบสามร้อยปีมาแล้ว สร้างโดยพระบรมราชา ท่านเจ้าเมืองมรุกขนคร เคยเป็นวัดประจำเมืองที่มีความเจริญมาก จนถึงปี พ.ศ. ๒๓๑๐ ตัวเมืองถูกน้ำกัดเซาะตลิ่งพัง เกิดโรคระบาด ผู้คนล้มตายเป็นจำนวนมาก จึงได้ย้ายไปตั้งเมืองใหม่ที่บ้านหนองจันทน์ ตำบลท่าค้อ อำเภอเมือง ด้านบนขึ้นไปบรรจุพระสารีริกธาตุอันศักดิ์สิทธิ์ ที่ได้จากการค้นพบซากปรักหักพังของพระธาตุในอดีต พร้อมทั้งแก้ว แหวนเงินทอง ซึ่งมีบันไดขึ้นไปแต่มีประตูปิดกั้นเอาไว้ และยังมีศาสนสถานและสิ่งศักดิ์สิทธิ์สำคัญอีก เช่น อุโบสถวัดมรุกขนคร เป็นอุโบสถสวยงามโดดเด่นด้วยตราสัญลักษณ์ ครองสิริราชสมบัติ ๕๐ ปี ของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภายในอุโบสถเปิดให้เข้า สักการะองค์พระประธาน ศาลเจ้าปู่ขอม พญานาค ๓ ตน และพระโพธิสัตว์กวนอิม
จากนั้นแวะ พระธาตุน้อยศรีบุญเรือง ประดิษฐานอยู่ จังหวัดนครพนม สร้างขึ้นเพื่อจะขอแบ่งพระอุรังคธาคุ ที่พระมหากัสสปะเถระเป็นผู้อัญเชิญมาจากชมพูทวีปเพื่อมาประดิษฐานที่ภูกำพร้า แต่ว่าไม่สามารถจะแบ่งพระอุรังคาตุให้ได้ พระมหากัสสปะเถระจึงได้ เหาะกลับไปอัญเชิญพระอังคารของพระพุทธเจ้าแบ่งมาให้แทน สร้างขึ้นในสมัยพระยานันทเสนซึ่งเป็นกษัตริย์ครองเมืองศรีโคตรบูรณ์ เดิมตั้งดินแดนที่ใต้ปากเซบั้งไฟ ประเทศลาว ต่อมาหลังจากพระยานันทเสนทิวงคตได้เกิดโรคระบาดจึงได้ย้ายเมืองมาตั้งเหนือพระธาตุพนมในดงไม้รวก จึงขนานนาฃมเมืองขึ้นว่า มรุกขนคร แล้วได้มีการสร้างพระธาตุน้อยเกิดขึ้นเพื่อบรรจุพระอังคารของพระพุทธเจ้า ให้เป็นพระธาตุบริวารขององค์พระธาตุ
เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ร้านอาหาร
สมควรแก่เวลา พาท่านเข้าสู่ท่าอากาศยานนครพนม เช็คอิน โหลดสัมภาระ
16.45 น. ออกเดินทางกลับสู่ สนามบินดอนเมือง กรุงเทพฯ เที่ยวบินที่ DD387
17.55 น. เดินทางถึงกรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพพร้อมความประทับใจมิรู้ลืม
เงื่อนไขประกันการเดินทาง ค่าประกันอุบัติเหตุและค่ารักษาพยาบาล คุ้มครองเฉพาะกรณีที่ได้รับอุบัติเหตุระหว่างการเดินทาง ไม่คุ้มครองถึงการสูญเสียทรัพย์สินส่วนตัวและไม่คุ้มครองโรคประจำตัวของผู้เดินทาง
**หากท่านพึงพอใจในการให้บริการของมัคคุเทศก์ สามารถให้เพิ่มได้ตามสินน้ำใจและความพึงพอใจของทุกท่าน
เงื่อนไขการสำรองที่นั่งและการยกเลิกทัวร์
เอกสารที่ใช้ประกอบการเดินทาง
การจองทัวร์ :
กรณียกเลิก :
เงื่อนไขการยกเลิกทัวร์เป็นไปตามมาตรา 28 ของพระราชบัญญัติธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ พ.ศ.2551
กรณีจองทัวร์วันหยุดเทศกาล,วันหยุดนักขัตฤกษ์,วันหยุดยาวต่อเนื่อง และได้มีการแจ้งยกเลิกทัวร์ ทางบริษัทฯขอสงวนสิทธิ์เก็บค่าทัวร์ทั้งหมด โดยไม่มีเงื่อนไขใด ๆ ทั้งสิ้น |
กรณีเจ็บป่วย :
เงื่อนไขอื่น ๆ :
รายละเอียดเพิ่มเติม
** ก่อนตัดสินใจจองทัวร์ควรอ่านเงื่อนไขการเดินทางอย่างถ่องแท้แล้วจึงมัดจำเพื่อประโยชน์ของท่านเอง***
Error: Contact form not found.
Error: Contact form not found.
Error: Contact form not found.
Error: Contact form not found.
Error: Contact form not found.
Error: Contact form not found.
Error: Contact form not found.
Error: Contact form not found.