08.30 น. : คณะพร้อมกันที่ สนามบินเชียงใหม่ อาคารผู้โดยสารขาออกภายในประเทศ บริเวณเคาน์เตอร์เช็คอินสายการบิน นกแอร์ (Nok Air) เจ้าหน้าที่ของบริษัทฯคอยให้การต้อนรับ และอำนวยความสะดวกในการเช็คอินรับบัตรโดยสาร **หมายเหตุ** เคาน์เตอร์เช็คอินจะปิดบริการก่อนเวลาเครื่องออกอย่างน้อย 60 นาที และผู้โดยสารพร้อม ณ ประตูขึ้นเครื่องก่อนเวลาเครื่องออก 30 นาที เนื่องจากตั๋วเครื่องบินของคณะเป็นตั๋วกรุ๊ประบบ Random ไม่สามารถล็อกที่นั่งได้ ที่นั่งอาจจะไม่ได้นั่งติดกันและไม่สามารถเลือกช่วงที่นั่งบนเครื่องบินได้ในคณะ ซึ่งเป็นไปตามเงื่อนไขสายการบินหากท่านต้องการระบุที่นั่งมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมโปรดสอบถามพนักงานขาย
10.50 น. : ออกเดินทางบินลัดฟ้าสู่ อุดรธานี โดย นกแอร์ (Nok Air) เที่ยวบินที่ DD702 ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 15 นาที ไม่มีบริการอาหารและเครื่องดื่ม
12.05 น. : เดินทางถึง สนามบินอุดรธานี ให้ท่านรับสัมภาระให้เรียบร้อย ไกด์นำเที่ยวรอท่านอยู่ด้านนอกที่จุดนัดพบ จากนั้นนำท่านออกเดินทางสู่ด่านพรมแดนไทย-ลาว จังหวัดหนองคาย นำท่านเดินทางสู่ นครหลวงเวียงจันทน์
กลางวัน : บริการอาหารกลางวัน
บ่าย : จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ วังเวียง เมืองในลุ่มน้ำซองที่เงียบสงบโอบล้อมไปด้วยขุนเขากับสายหมอกยามเช้าที่สวยที่สุด ดังคำล่ำลือที่นักท่องเที่ยวขนานนามว่า กุ้ยหลินเมืองลาว จากนั้นนำท่านชม บลูลากูน (Blue Lagoon) สระน้ำสีฟ้าใสที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติเกิดจากภูเขาหินปูน ซ่อนตัวอยู่ในขุนเขาและธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ของเมืองวังเวียง
จากนั้นนำท่าน ล่องเรือแม่น้ำซอง ชมธรรมชาติและเก็บภาพบรรยากาศ ทัศนียภาพอันงดงามที่รายล้อมเมืองนั้นเป็นที่ราบที่ถูกขนาบด้วยภูเขาหินปูนน้อยใหญ่ ที่รู้จักในฉายา “กุ้ยหลินเมืองลาว” สร้างความประทับใจแก่ผู้มาเยือน
เย็น : บริการอาหารเย็น
เช้า : บริการอาหารเช้า
นำท่านเดินทางสู่สถานีรถไฟความเร็วสูง เส้นทางรถไฟลาว-จีน มีทั้งหมด 32 สถานีทั้งสถานีรับส่งผู้โดยสารและสถานีขนส่งสินค้า ในส่วนของประเทศลาวได้เปิดรับส่งผู้โดยสารแล้ว 6 สถานี ได้แก่ บ่อเต็น, เมืองไซ, หลวงพระบาง, วังเวียง, โพนฮง และนครหลวงเวียงจันทน์
08.25 น. : นำท่านสัมผัสบรรยากาศนั่งรถไฟความเร็วสูง ออกเดินทางสู่ หลวงพระบาง ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง ตั๋วรถไฟของคณะเป็นระบบสุ่ม (Random) ที่นั่งอาจจะไม่ได้นั่งติดกันและไม่สามารถเลือกช่วงที่นั่งบนรถไฟได้
09.23 น. เดินทางถึง เมืองหลวงพระบาง สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว นำเดินทางผ่านหมู่บ้านชนบทชมวิถีชีวิตของชาวบ้านสู่ น้ำตกตาดกวางสี ห่างจากหลวงพระบาง 30กิโลเมตร ไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ โดยผ่านหมู่บ้านชนบทริมถนน 2 ข้างทาง เป็นหนึ่งในน้ำตกที่สวยที่สุดในเขตหลวงพระบาง มีแม่น้ำใสสีมรกตตลอดปี ชมความงามของน้ำตกที่ตกลดหลั่นเป็นชั้นๆอย่างสวยงามแต่ละชั้นเกิดจากการผสมของหินปูนสูงราว 70 เมตร มี 2 ชั้น สภาพป่าร่มรื่น มีสะพานและเส้นทางเดินชมรอบๆ น้ำตก ให้เวลาอิสระดื่มด่ำกับธรรมชาติ
กลางวัน : บริการอาหารกลางวัน
บ่าย : สถานที่ที่เราจะไปเยี่ยมชมอีกที่ซึ่งมีความสำคัญและเรื่องราวยาวนานเช่นเดียวกันคือ วัดวิชุนราช ที่สร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าวิชุนราช (พ.ศ. 2046) นับเป็นอีกหนึ่งพระธาตุที่ชาวหลวงพระบางให้ความนับถือ ซึ่งเป็นพระธาตุที่มีรูปทรงคล้ายกับลูกแตงโมผ่าครึ่ง ชาวหลวงพระบาง จึงเรียกชื่อ พระธาตุหมากโม นี้มาจนถึงปัจจุบัน จากนั้นนำท่านสู่ วัดเชียงทอง ซึ่งเป็นวัดที่สำคัญและมีความงดงามที่สุดแห่งหนึ่งจนได้รับการยกย่องจากนักโบราณคดีว่าเป็นดั่งอัญมณีแห่งสถาปัตยกรรมลาว วัดเชียงทองถูกสร้างขึ้นในรัชสมัยพระเจ้าไชยเชษฐาธิราช ผนังภายในปิดทองฉลุบนพื้นรักสีดำ เล่าเรื่องพุทธประวัติพระสุธน-มโนราห์ ทศชาติชาดกและภาพนิทานเพื่อนบ้าน พระประธานมีชื่อว่า “พระองค์หลวง”นอกจากวัดเชียงทองจะมีพระอุโบสถที่โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมแบบล้านช้างแล้ว การตกแต่งลวดลายตามผนังภายในมีการตบแต่งด้วยการนำกระจกสีมาตัดต่อกันเป็นรูปต้นโพธิ์ขนาดใหญ่ ด้านข้างก็ติดเป็นรูปสัตว์ในวรรคดี ยามบ่ายที่แสงแดดส่องสะท้อนลงมาดูสวยงาม
จากนั้นนำท่านขึ้นสู่ เขาพูสี นมัสการ พระธาตุพูสี เจดีย์ธาตุคู่บ้านคู่เมืองของชาวหลวงพระบาง ตลอดทางขึ้นท่านจะได้รับความกลิ่นหอมจากดอกจำปาลาว (ดอกลีลาวดี) ซึ่งเป็นดอกไม้ประจำชาติลาว สามารถมองเห็นวิวหลวงพระบางได้โดยรอบ และยังเป็นจุดชมวิวพระอาทิตย์ตกดินอันสวยงามซึ่งเป็นบรรยากาศที่พลาดไม่ได้เมื่อได้มาเยือนหลวงพระบาง
เย็น : บริการอาหารเย็น
หลังอาหารค่ำอิสระเดินเที่ยวชม ตลาดมืด (NIGHT MARKET) บนถนนศรีสว่างวงศ์ ตั้งแต่หน้าพระราชวังจนสุดถนน ให้ท่านได้เลือกชมเลือกซื้อสินค้าในบรรยากาศแบบหลวงพระบางยามราตรี มีทั้งเสื้อยืดสกรีนเป็นภาษาลาว, ผ้าคลุมไหล่, กระเป๋าถือ, เครื่องประดับ, โลหะเกะสลัก, ภาพเขียน ฯลฯ จุดเด่นคือ สินค้าแทบทุกชิ้นเป็นสินค้าแฮนด์เมดของชาวบ้านแท้ๆ วางจำหน่ายในราคาที่ต่อรองกันได้
05.30 น. : ตื่นเช้าทำธุระส่วนตัว จัดแจงเครื่องแต่งกายเพื่อรอ ตักบาตรข้าวเหนียว พร้อมกับประชาชนชาวหลวงพระบาง ซึ่งพระสงฆ์และสามเณรจากวัดต่างๆ ทั่วเมืองหลวงพระบางจะออกมาบิณฑบาตเป็นแถวนับร้อยรูป ซึ่งเป็นภาพอันน่าประทับใจและสื่อถึงความศรัทธาเลื่อมใสในพระพุทธศาสนาของชาวเมืองหลวงพระบาง (ค่าทำบุญตักบาตร ไม่รวมในรายการ)
จากนั้นอิสระให้ท่านเดินชม ตลาดเช้าของชาวหลวงพระบาง ซึ่งเป็น ตลาดสดให้ท่านเลือกซื้ออาหารพื้นเมืองและชมของป่าซึ่งของป่าบางชนิดก็แปลกตาและเป็นที่สนใจของเหล่านักท่องเที่ยวผู้มาเยือน
เช้า : บริการอาหารเช้า
นำท่านชม พระราชวังหลวงพระบาง (พิพิธภัณฑ์) ลักษณะอาคารเก่าที่ออกแบบโดยสถาปนิกชาวฝรั่งเศส สถาปัตยกรรมฝรั่งเศสผสมผสานวัฒนธรรมลาว ด้านนอกอาคารเป็นที่ตั้งของอนุสาวรีย์เจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวงศ์ พระราชวังแห่งนี้อดีตนั้นเป็นที่ประทับของเจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวงศ์ ต่อมาเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงการปกครองในปี พ.ศ. 2518 พระราชวังหลวงพระบาง ได้ถูกปรับเปลี่ยนให้เป็นพิพิธภัณฑ์ ภายในเป็นที่ประดิษฐานของ “พระบาง” พระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองหลวงพระบาง จากนั้นนำท่านชม วัดใหม่สุวรรณภูมาราม หรือที่ชาวหลวงพระบางเรียกกันสั้นๆ ว่า “วัดใหม่” เคยเป็นที่ประทับของสมเด็จพระสังฆราชบุญทัน ซึ่งเป็นสมเด็จพระสังฆราชองค์สุดท้ายของลาวและยังเคยเป็นที่ประดิษฐานพระบาง พระพุทธรูปคู่เมืองหลวงพระบางในรัชสมัยของเจ้ามหาชีวิตสักรินฤทธิ์ จนกระทั่งถึงปี พ.ศ. 2437 จึงได้อัญเชิญพระบางไปประดิษฐานในหอพระบางภายในพระราชวังจวบจนกระทั่งปัจจุบัน เมื่อมาเยือนวัดแห่งนี้สิ่งที่เราจะสังเกตเห็นถึงความแตกต่างจากวัดอื่นๆ คือ ตัวอุโบสถ (สิม) ลักษณะจะเป็นอาคารทรงโรง หลังคามีขนาดใหญ่ มีชายคาปกคลุมทั้งสี่ด้านสองระดับต่อเนื่องกัน ผนังด้านหน้าพระอุโบสถตกแต่งด้วยภาพลงรักปิดทองดูเหลืองอร่ามงามตายาวตลอดผนัง เล่าเรื่องพระเวสสันดรชาดก โดยฝีมือช่างหลวงประจำรัชกาลเจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวงศ์
กลางวัน : บริการอาหารกลางวัน
บ่าย : นำท่านเดินทางสู่ บ้านช่างไห ชมวิถีชีวิตของชาวบ้านที่อยู่ริมแม่น้ำโขง มีอาชีพในการหมักสาโท และต้มเหล้าขาว จำหน่ายและยังเป็นแหล่งรวมสินค้าพื้นเมืองจำพวก ผ้าทอลวดลายสวยงามมากมาย เครื่องเงิน วางจำหน่ายอย่างเป็นระเบียบ ชมความร่วมมือของชาวบ้านที่ได้จัดแต่งลานบ้าน อย่างสวยงามเพื่อรอรับนักท่องเที่ยว จากนั้นเดินทางสู่ท่าเรือบ้านช่างไห เพื่อล่องเรือเดินทางชมวิวทิวทัศน์สองฝั่งแม่น้ำโขงสู่ ถ้ำติ่ง ซึ่งเป็นถ้ำอยู่บนหน้าผาริมแม่น้ำโขงมีอยู่ 2 ถ้ำ คือ ถ้ำล่างและถ้ำบน ถ้ำติ่งลุ่ม หรือ ถ้ำล่างสูง 60 เมตร จากพื้นน้ำมีลักษณะเป็นโพรงน้ำตื้นๆ มีหินงอกหินย้อย มีพระพุทธรูปไม้จำนวนนับ 2,500 องค์ ส่วนใหญ่จะเป็นพระยืน มีทั้งปางประทานพร และปางห้ามญาติ ถ้ำติ่งบน จะไปทางแยกซ้ายเดินขึ้นบันไดไป 218 ขั้น ปากถ้ำไม่ลึกมากมีพระพุทธรูปอยู่ในถ้ำแต่ไม่มากเท่าถ้ำล่าง สมัยโบราณเป็นที่สักการะบวงสรวงดวงวิญญาณ ผีฟ้า ผีแถน เทวดาผาติ่ง ต่อมาพระเจ้าโพธิสารทรงเลื่อมใสพระพุทธศาสนาเป็นผู้นำพระพุทธรูปเข้ามา และจึงทรงใช้ถ้ำติ่งเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ทางพุทธศาสน
เย็น : บริการอาหารเย็น สมควรแก่เวลานำท่านเดินทางสู่สถานีรถไฟความเร็วสูงหลวงพระบาง
18.20 น. : นำท่านสัมผัสบรรยากาศนั่งรถไฟความเร็วสูง ออกเดินทางสู่ เวียงจันทน์ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง ตั๋วรถไฟของคณะเป็นระบบสุ่ม (Random) ที่นั่งอาจจะไม่ได้นั่งติดกันและไม่สามารถเลือกช่วงที่นั่งบนรถไฟได้
20.13 น. : เดินทางถึง นครหลวงเวียงจันทน์ จากนั้นนำท่านเข้าสู่ที่พัก
เช้า : บริการอาหารเช้า
นำท่านชม ประตูซัย ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของนครเวียงจันทน์บนถนนล้านช้างจะไปสิ้นสุดที่บริเวณประตูชัย สร้างเสร็จในปี พ.ศ.2512เป็นอนุสรณ์สถานเพื่อระลึกถึงประชาชนชาวลาวที่สละชีวิตในสงครามก่อนหน้าการปฏิวัติพรรคคอมมิวนิสต์ประตูชัยมีชื่อเรียกอีกอย่างว่า รัยเวย์แนวตั้งเพราะการก่อสร้างนี้ใช้ปูนซีเมนส์จากประเทศอเมริกาที่ซื้อมาเพื่อสร้างสนามบินใหม่ในเวียงจันทน์ในระหว่างสงครามอินโดจีนแต่พ่ายเสียก่อนจึงได้นำมาสร้างประตูชัยแทนเป็นสถาปัตยกรรมที่ผสมผสานศิลปะล้านช้างกับฝรั่งเศสเข้าด้วยกันอย่างงดงามและกลมกลืนอย่างยิ่ง
จากนั้นนำท่านชม พระธาตุหลวง ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของประตูชัย เป็นสัญลักษณ์ประจำชาติลาวมีความหมายต่อจิตใจของประชาชนชาวลาวอย่างใหญ่หลวงแทนถึงความเป็นเอกราชและอำนาจอธิปไตยของลาวสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 16 เป็นเจดีย์ที่มีลักษณะโดดเด่นที่สุดในอาณาจักรล้านช้างเป็นการผสมผสานระหว่างสถาปัตยกรรมในพระพุทธศาสนากับสถาปัตยกรรมของอาณาจักรมีลักษณะคล้ายป้อมปราการมีการก่อสร้างระเบียงสูงใหญ่ขึ้นโอบล้อมองค์พระธาตุไว้พร้อมกับทำช่องหน้าต่างเล็กๆเอาไว้โดยตลอด ประตูทางเข้าเป็นบานประตูไม้ใหญ่ลงรักสีแดงรอบๆองค์พระธาตุยังมีเจดีย์บริวารล้อมอยู่โดยรอบ จากนั้นนำท่านชม หอพระแก้ว สร้างขึ้น เมื่อปี พ.ศ.2108 โดยพระเชษฐาธิราชกษัตริย์แห่งอาณาจักรล้านช้าง เป็นวัดหลวงประจำราชวงศ์และใช้เป็นที่ประดิษฐานพระแก้วมรกต จากนั้นได้อัญเชิญมาที่ประเทศไทย ปัจจุบันพระแก้วมรกต ที่ประดิษฐานอยู่ในวัดพระแก้ว ประเทศไทย
จากนั้นนำท่านสู่ด่านชายแดนลาว-ไทย ให้ท่านได้อิสระช้อปปิ้งสินค้านานาชนิดให้เลือกซื้อเป็นของฝาก
อิสระอาหารเที่ยง ให้ท่านได้ช้อปปิ้งตามอัธยาศัย สมควรแก่เวลาจากนั้นนำท่านเดินทางสู่สนามบินอุดรธานี
18.55 น. : ออกเดินทางบินลัดฟ้ากลับสู่ เชียงใหม่ โดยสายการบิน นกแอร์ (Nok Air) เที่ยวบินที่ DD707 ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 5 นาที ไม่มีบริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง
20.00 น. : เดินทางถึง สนามบินเชียงใหม่ โดยสวัสดิภาพ พร้อมด้วยความประทับใจ
เงื่อนไขการให้บริการ