กัสโต้ เวิล์ด ทัวร์

บริการคุณภาพ ทุกเส้นทางท่องเที่ยว

เลขที่ 11/03295

ทัวร์ยุโรป SPRING BEGIN! ITALY SWISS FRANCE

ทัวร์ยุโรป
รหัส 003-2410
วันที่เดินทาง
พ.ค.66 - มิ.ย.66
ช่วงเวลา
8 วัน 5 คืน
ราคาเริ่มต้น
58,900 บาท
แผนการเดินทาง
วันที่ 1
กรุงเทพฯ – ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ – ท่าอากาศยานนานาชาติอาบูดาบี

17.00 น. : พร้อมกัน ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศขาออกชั้น 4 เคาน์เตอร์ สายการบิน ETIHAD AIRWAYS  โดยมีเจ้าหน้าที่บริษัทฯคอยต้อนรับและอำนวยความสะดวกด้านเอกสาร ติดแท็กกระเป๋าก่อนขึ้นเครื่อง

19.55 น. : นำท่านเดินทางสู่ เมืองมิลาน ประเทศอิตาลี โดย สายการบิน ETIHAD AIRWAYS  เที่ยวบินที่ EY407

23.25 น. : เดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาติอาบูดาบี ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์  แวะพักเปลี่ยนเครื่อง

วันที่ 2
ท่าอากาศยานมิลาโนมัลเปนซา ประเทศอิตาลี – เมืองมิลาน - พระราชวังมิลาน - มหาวิหารแห่งมิลาน - โรงละครลาสกาล่าซานตามารีอาเดลเลกราซีเอ - ห้าง Galleria Vittorio Emanuele II - เมือง Lomazzo

02.40 น. : นำท่านเดินทางสู่ ท่าอากาศยานมิลาโนมัลเปนซา ประเทศอิตาลี เที่ยวบินที่ EY081

07.05 น. : เดินทางถึง ท่าอากาศยานมิลาโนมัลเปนซา ประเทศอิตาลี นำท่านผ่านขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมืองและพิธีการทาง ศุลกากร (เวลาท้องถิ่นช้ากว่าประเทศไทย 5 ชั่วโมง) ตรวจรับสัมภาระเรียบร้อยแล้วนำท่านขึ้นรถโค้ชปรับอากาศ จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองมิลาน (ระยะทาง 50 กม. / 1 ชม.) หรือที่คนอิตาเลียนเรียกว่า มิลาโน่ (Milano) เป็นเมืองหลวงทางแฟชั่นของโลกแข่งกับปารีสในประเทศฝรั่งเศสเป็นศูนย์กลางทางธุรกิจของอิตาลี นอกจากนั้นยังมีภาพวาดเฟรสโก้ที่มีชื่อเสียงโด่งดัง และโรงละครโอเปร่าอันลือชื่อ เป็นต้น  จากนั้นพาทุกท่านแวะถ่ายภาพด้านหน้ากับ พระราชวังมิลาน (Royal Palace of Milan)  เป็นที่ตั้งของรัฐบาลในเมืองมิลานเป็นเวลาหลายศตวรรษ ปัจจุบันทำหน้าที่เป็นศูนย์วัฒนธรรมและเป็นที่ตั้งของนิทรรศการศิลปะระดับนานาชาติ ครอบคลุมพื้นที่กว่า 7,000 ตารางเมตร และเป็นที่จัดแสดงงานศิลปะสมัยใหม่และร่วมสมัย และคอลเล็กชันที่มีชื่อเสียงโดยร่วมมือกับพิพิธภัณฑ์และสถาบันทางวัฒนธรรมที่มีชื่อเสียงจากทั่วโลกเป็นประจำ

จากนั้นนำท่านไปถ่ายภาพด้านนอก  มหาวิหารแห่งมิลาน (Duomo di Milano) มหาวิหารนี้สร้างด้วยสถาปัตยกรรมแบบโกธิคที่ถือว่ามีความใหญ่โตเป็นอันดับสามของโลก เริ่มสร้างในปี 1386 แต่กว่าจะเสร็จต้องใช้เวลากว่า 400 ปี ด้านนอกมีหลังคายอดเรียวแหลมที่ทำจากหินอ่อนจำนวน 135 ยอด และมีรูปปั้นหินอ่อนจากสมัยต่างๆ กว่า 2,245 ชิ้น ยอดที่สูงที่สุดมีรูปปั้นทองขนาด 4 เมตร ของพระแม่มาดอนน่าเป็นสง่าอยู่ โรงละครลาสกาล่า (La Scala Theatre) เป็นโรงละครคู่เมืองมิลานมากว่า 230 ปี เป็นสถานที่แสดงโชว์ชื่อดัง ซานตามารีอาเดลเลกราซีเอ (Santa Maria delle Grazie) เป็นโบสถ์และคอนแวนต์ของคณะดอมินิกัน ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโกในปี ค.ศ. 1980 โบสถ์แห่งนี้มีชื่อเสียงเพราะเป็นที่ตั้งของจิตรกรรมฝาผนัง “พระกระยาหารมื้อสุดท้าย” ที่เขียนโดยเลโอนาร์โด ดาวินชีภายในหอฉันของคอนแวนต์

อิสระช้อปปิ้ง ที่ ห้าง Galleria Vittorio Emanuele II มีลักษณะเป็นทางเดินและอาคาร 4 ชั้น คลุมด้วยหลังคาทรงโค้ง ตั้งอยู่ในใจกลางเมืองมิลาน ประเทศอิตาลี ศูนย์การค้าแห่งนี้ตั้งชื่อตามพระเจ้าวิตโตรีโอ เอมานูเอเลที่ 2 แห่งอิตาลี กษัตริย์พระองค์แรกของราชอาณาจักรอิตาลี โดยได้รับการออกแบบในปี พ.ศ. 2404 และสร้างโดยจูเซปเป เมนโกนี ในช่วงปี พ.ศ. 2408 ถึงปี พ.ศ. 2420 ร้านขายเสื้อผ้าชั้นสูง (haute couture) ร้านเครื่องเพชรพลอย ร้านขายหนังสือและภาพเขียน รวมไปถึงร้านอาหาร ร้านกาแฟ และบาร์ ร้านบางร้านยังเป็นหนึ่งในบรรดาร้านค้า และร้านอาหารที่เก่าแก่ที่สุดของเมืองมิลาน

เที่ยง : อิสระอาหารเที่ยงและเย็นเพื่อไม่เป็นการรบกวนเวลาของท่าน

เดินทางสู่ เมือง Lomazzo (ระยะทาง 35 กม. / 1 ชม.)   เป็นเมืองและชุมชนในจังหวัดโคโม่ในภูมิภาคลอมบาร์เดียของตั้งอยู่กึ่งกลางระหว่าง Comoและ Milan ศูนย์กลางประวัติศาสตร์อันเก่าแก่ของเมืองก่อตั้งขึ้นบนยอดเขาที่ตั้งอยู่ในหุบเขาทางฝั่งขวาของลูรา

วันที่ 3
เมืองโคโม่ – ทะเลสาบโคโม่ – มหาวิหารโคโม่ – เมืองแองเกิลเบิร์ก ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ – สะพานแขวน – ถ้ำน้ำแข็ง - เมืองลูเซิร์น – สิงโตหินแกะสลัก – ชมสะพานไม้ชาเปล - Schwanenplat

เช้า : รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม  (มื้อที่1)

นำท่านเดินทางสู่ เมืองโคโม่ (Como) (ระยะทาง 16 กม. / 30 นาที) เป็นเมืองในแคว้นลอมบาร์เดีย ประเทศอิตาลี ตั้งอยู่บริเวณพรมแดนกับประเทศสวิตเซอร์แลนด์ โคโม่เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ในเทือกเขาแอลป์ ทิศเหนือของเมืองอยู่ติดกับทะเลสาบโคโม่ ถือเป็นเมืองท่องเที่ยวยอดนิยมแห่งหนึ่ง เป็นแหล่งรวมชิ้นงานศิลปะชื่อดัง, มีโบสถ์, พิพิธภัณฑ์, สวน, โรงละคร, วังเก่าอยู่มากมาย  พาทุกท่านไปเก็บภาพความประทับใจกับ ทะเลสาบโคโม่ (Lake Como) ขึ้นชื่อว่าเป็นทะเลสาบที่สวยที่สุดในโลก ตั้งอยู่ใน แคว้นลอมบาร์เดีย (Lombardy) ไม่ไกลจากเมืองมิลาน (Milan) เท่าไรนัก ด้วยความยาวโดยรอบถึง 160 กิโลเมตร บวกกับพื้นที่รอบๆ ทะเลสาบถึง 146 ตารางกิโลเมตร จึงทำให้ทะเลสาบแห่งนี้กลายเป็นทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 3 ของประเทศอิตาลี และยังเป็นทะเลสาบที่ลึกที่สุดเป็นอันดับ 5 ในยุโรปด้วยความลึกกว่า 400 เมตร รูปร่างลักษณะเฉพาะของทะเลสาบโคโม่ทำให้นึกถึง Y ที่กลับด้านที่โด่งดังไปทั่วโลก เป็นผลมาจากการละลายของธารน้ำแข็งรวมกับการกัดเซาะของแม่น้ำ Adda โบราณ ทำให้เกิดทางแยกเป็นตัว Y และยังเป็นทะเลสาบมีทิวทัศน์ที่งดงามที่สุดแห่งหนึ่งในโลก และ มหาวิหารโคโม่ (Cattedrale di S.Maria Assunta) เป็นมหาวิหารโรมันคาธอลิกหลักใจกลางเมืองโคโม่ ใช้เวลาการสร้างยาวนานเกือบ 400 ปี สร้างเพื่ออุทิศให้กับพระแม่มารี

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองแองเกิลเบิร์ก (Engelberg) ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ( ระยะทาง 203 ก.ม. / 3 ชม.)  เป็นเมืองเล็กๆตั้งอยู่บนเขาสูงอยู่ในรัฐออบวัลเดิน ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ล้อมด้วยเทือกเขาแอลป์ จุดสูงสุดในพรมแดนของเมืองเป็นยอดเขาทิตลิส ซึ่งยอดเขาทิตลิสมีความสูงประมาณ 3,020 เมตร เหนือระดับน้ำทะเลปานกลาง กลาง เป็นที่ตั้งของสถานีกระเช้าโรแตร์เพื่อเดินทางขึ้นสู่ ยอดเขาทิตลิส (Titlis) ท่านจะได้สัมผัสกับกระเช้าทรงกลมที่เรียกว่า โรแตร์ เคเบิ้ลคาร์ ที่จะหมุนรอบๆ ที่ท่านสามารถดูวิวได้ 360องศาในขณะที่เคลื่อนที่ขึ้นไปเรื่อยๆ ท่านจะได้ขึ้นชมทัศนียภาพที่งดงามของเทือกเขาแอลป์

เที่ยง : รับประทานอาหารกลางวัน (อาหารอาหารชุดสไตล์เอเชีย) บนยอดเขาทิตลิส (มื้อที่2)

จากนั้นพาท่านชม สะพานแขวน (TITLIS CLIFF WALK) สร้างขึ้นฉลองครบรอบ 100 ปีการท่องเที่ยวบนยอดเขาทิตลิส สะพานมีความยาว 100 เมตร ความสูง3,000 เมตร และ ชม ถ้ำน้ำแข็ง (Glacier cave) ที่สวยงามและเดินเล่นถ่ายรูปหรือเล่นหิมะบนยอดเขา ให้ท่านได้อิสระเก็บภาพความประทับใจตามอัธยาศัย

นำท่านเดินทางสู่ เมืองลูเซิร์น (Lucerne) เมืองท่องเที่ยวยอดนิยมอันดับหนึ่งของสวิตเซอร์แลนด์ ที่ถูกห้อมล้อมไปด้วยทะเลสาบและขุนเขา (ระยะทาง 35 ก.ม. / 45 นาที)  จากนั้น นำท่านชม สิงโตหินแกะสลัก (Dying Lion of Lucerne) ที่แกะสลักบนผาหินธรรมชาติ เพื่อเป็นอนุสรณ์รำลึกถึงการสละชีพอย่างกล้าหาญของทหารสวิตที่เกิดจากการปฏิวัติในฝรั่งเศสเมื่อปี ค.ศ.1792 ชม สะพานไม้ชาเปล (Chapel Bridge) ซึ่งมีความยาวถึง 204 เมตร ทอดข้ามผ่าน แม่น้ำรอยส์ (Reuss  River) ซึ่งเป็นเหมือนสัญลักษณ์ของเมืองลูเซิร์นเป็นสะพานไม้ที่มีหลังคาที่เก่าแก่ที่สุดในยุโรป สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ.1333 โดยใต้หลังคาคลุมสะพานมีภาพวาดประวัติศาสตร์ของชาวสวิlตลอดแนวสะพาน อิสระเดินเล่นที่ Schwanenplatz  ที่นี่เป็นแหล่งช้อปปิ้งหลักสำหรับนักท่องเที่ยวที่มาเยือนลูเซิร์น ตั้งอยู่ริมฝั่งขวาของทะเลสาบลูเซิร์น มีร้านค้ามากมายที่นี่ ร้านกาแฟ ร้านอาหาร มีโรงงานนาฬิกาโรเล็กซ์ในบริเวณนี้ด้วย ร้านค้ารอบๆขายงานฝีมือสวิสท้องถิ่น ร้านค้าบางร้านขายของที่ระลึก ช็อคโกแลต เครื่องประดับ ฯลฯ

เย็น : รับประทานอาหารเย็น (มื้อที่3)

วันที่ 4
เมืองซุก - Lohri AG Store – เมืองกอลมาร์ - la Petite Venise – เมืองดีจอง

เช้า : รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม (มื้อที่4)

นำท่านเที่ยวชม เมืองซุก (ZUG) (ระยะทาง 12 กม. / 30 นาที ) เป็นเมื่องที่ร่ำรวยที่สุดในประเทศ และซุกเป็นเมืองที่ติดอันดับหนึ่งในสิบของโลกเมืองที่สะอาดที่สุด เป็นเมืองเก่าที่คงความสวยงามของพื้นหินแบบยุโรปในยุคกลางจะหลงรักเมืองนี้ สิ่งที่จะทำให้ท่านประทับใจคือรู้สึกได้ถึงอากาศที่สดชื่นและสะอาดอาจเป็นเพราะเมืองนี้ตั้งอยู่บนทะเลสาบ อิสระชอปปิ้งที่ Lohri AG Store ทีมีนาฬิกาชั้นนำระดับโลกให้ท่านเลือกซื้อเลือกชมอาทิ เช่น Patek Philippe, Franck Muller Cartier , Piaget, Parmigiani Fleurier, Panerai, IWC , Omega, Jaeger-LeCoultre, Blancpain, Tag Heuer ฯลฯ Interlaken

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองกอลมาร์ (Colmar) ประเทศฝรั่งเศส (ระยะทาง 174 ก.ม. / 2.30 ชม.)  อยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของฝรั่งเศส ใกล้กับประเทศเยอรมนี จึงทำให้สถาปัตยกรรมคล้ายกับของเยอรมนี ได้ชื่อว่าเป็น “capitale des vins d’Alsace” (เมืองหลวงแห่งไวน์แห่งอาลซัส) อีกด้วย

เที่ยง : รับประทานอาหารเที่ยง (มื้อที่5)

จากนั้นทำท่านเดินทางชม เมืองกอลมาร์ที่ได้รับการอนุรักษ์ให้เป็นเมืองที่ยังคงลักษณะสถาปัตยกรรมและบรรยากาศของเมืองโบราณไว้ ทั้งพิพิธภัณฑ์ ศาสนสถาน ห้องสมุด น้ำพุ รูปปั้น ร้านค้าต่างๆ ปัจจุบันได้รับการขนานนามว่าเป็น “Little Venice” (la Petite Venise) ติดอันดับเมืองโรแมนติกเป็นอันดับต้นๆ ของฝรั่งเศส เวนิสน้อย เป็นชื่อที่มอบให้กับเส้นทางในเมืองกอลมาร์ ชื่อนี้น่าจะมาจากแนวบ้านทั้งสองฝั่งแม่น้ำซึ่งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของเมือง เขตนี้เริ่มต้นหลัง Koïfhus ผ่านย่านคนขายปลา และไปยังสะพาน Turenne และ Saint-Pierre  เดิมทีเป็นที่อยู่อาศัยของชุมชนผู้ผลิตไวน์ ชาวสวนในตลาด และคนพายเรือในชนบท Krutenau ทอดยาวไปรอบ ๆ ถนน Turenne ที่ใช้ในปี 1674

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองดีจอง (Dijon) (ระยะทาง 252 ก.ม. / 3.30 ชม.) เป็นเมืองที่มีชื่อเสียงในเรื่องของไวน์ชั้นเลิศ และยังเป็นเมืองหลวงของแคว้นเบอร์กันดี (Burgundy region เป็นเมืองหลวงที่มีความสำคัญด้านประวัติศาสตร์ของแคว้นเบอร์กันดีและฝรั่งเศสเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะประวัติศาสตร์อันเก่าแก่ในเรื่องของการผลิตไวน์ นอกจากวัฒนธรรมเกี่ยวกับไวน์และการปลูกองุ่นแล้ว เมืองดีจองยังเป็นอีกเมืองที่มีความเกี่ยวพันกับคริสต์ศาสนาเป็นอย่างมาก เนื่องจากการมีโบสถ์คริสตจักรจำนวนมากตั้งอยู่ภายในเมือง

เย็น : รับประทานอาหารเย็น (มื้อที่6)

วันที่ 5
เมืองดีจอง - โบสถ์แซ็ง-เบนีญ – วังดยุกแห่งเบอร์กันดี – พิพิธภัณฑ์ศิลปะประจำเมือง – โบสถ์เซนต์มิเชล - ย่านเซรีสเอาท์เล็ท ลาวัลเล่ - เมืองปารีส

เช้า : รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม (มื้อที่7)

พาท่านไปถ่ายภาพความประทับใจกับแลนด์มาร์ค เมืองดีจอง (Dijon) เที่ยวชมโบสถ์ที่มีความสวยงามอีกแห่ง คือ โบสถ์แซ็ง-เบนีญ (Cathédrale St. Bénigne) โบสถ์ตริสต์นิกายโรมันคาทอลิกที่สร้างขึ้นในแบบโกธิค โดยที่ใต้ถุนโบสถ์ถูกใช้เป็นที่ฝังศพ วังดยุกแห่งเบอร์กันดี (The Ducal Palace) วังของขุนนางชั้นสูงที่มีรูปแบบอาคารที่สวยงาม และถือว่าเป็นจุดหมายปลายทางที่สำคัญของนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเยือนเมืองดีจอง โดยวังแห่งนี้ได้สร้างขึ้นในแบบสไตล์คลาสสิก ถูกสร้างขึ้นในช่วงศตวรรษ 17 ถึง ศตวรรษ18 ถือว่าเป็นพิพิธภัณฑ์ที่มีศิลปะในการก่อสร้างที่ยอดเยี่ยม และถือว่าเป็นสมบัติล้ำค่าที่มีความสำคัญของประเทศอีกแห่งก็ว่าได้  ชมด้านนอก พิพิธภัณฑ์ศิลปะประจำเมือง (The Musée des Beaux-Arts ) ซึ่งอยู่ในบริเวณเดียวกันกับวังดยุคแห่งเบอร์กันดี ภายในจะมีการจัดแสดงนิทรรศการของศิลปะยุคกลาง และชั้นบนจะมีภาพวาดจัดแสดงจำนวนมาก ซึ่งผลงานส่วนใหญ่จะเป็นผลงานภาพวาดของจิตรกรเฟลมิช และศิลปินที่มีเสียงในท้องถิ่น โบสถ์เซนต์มิเชล (St. Michel church) ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของวังดยุคแห่งเบอร์กันดี เป็นโบสถ์ทคริสต์ที่มีความงดงามมากแห่งหนึ่ง โดยตัวโบสถ์ถูกสร้างขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 15 ถึงศตวรรษ 17

เที่ยง : รับประทานอาหารเที่ยง (มื้อที่8)

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ ย่านเซรีส (Serris) (ระยะทาง 331 ก.ม. / 4.30 ชม.) เป็นย่านชานเมืองของปารีส ตั้งอยู่นอกบริเวณของดิสนีย์แลนด์ปารีส ดังนั้นจึงเป็นสถานที่พักผ่อนยอดนิยมและยังมี ศูนย์การค้าที่ใหญ่โต และสวนสาธารณะอันกว้างขวาง อิสระให้ท่านได้ช้อปปิ้งตามอัธยาศัยที่ เอาท์เล็ท ลาวัลเล่ (La Vallée Village Outlet) เป็นเอาท์เล็ทจำหน่ายสินค้าแบรนด์เนมชื่อดังต่างๆ โดยจำหน่ายในราคาถูกกว่าราคาปกติอย่างน้อย 30 เปอร์เซ็นต์ และมีบางช่วงโปรโมชั่นพิเศษตามฤดูกาลต่างๆที่อาจลดราคาไปถึง 70 เปอร์เซ็นต์ด้วยกัน ทำให้เป็นสถานที่ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากจากนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบการช้อปปิ้งสินค้าแบรนด์เนม โดยปัจจุบัน เอาท์เล็ทลาวัลเล่มีสินค้าแบรนด์เนมจำหน่ายอยู่หลาย 10 แบรนด์ VERSACE หนึ่งในแบรนด์ที่ได้รับความนิยมในไทย และยังมี GUCCI, LACOSTLE, ERIC BOMPARD หรือ BACCARAT ก็มีเช่นกัน

อิสระเย็นเพื่อไม่เป็นการรบกวนเวลาของท่าน จากนั้นพาท่านเดินทางสู่ เมืองปารีส (Paris) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชม.)

วันที่ 6
เมืองปารีส - นั่งรถกระเช้าไฟฟ้า Funicular Montmartre – มหาวิหารซาเคร - เกอร์ บาซิลิก้า-หอไอเฟล – พิพิธภัณฑ์ลูฟร์ - ห้างปลอดภาษี Benlux Louvre duty free - ห้าง La Samaritaine - ห้างแกลเลอรี่ ลาฟาแยตต์

เช้า : รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม (มื้อที่9)

จากนั้นทุกท่านไปเปิดประสบการณ์ นั่งรถกระเช้าไฟฟ้า Funicular Montmartre เปิดให้บริการเมื่อช่วงฤดูร้อนปี 1990  ได้มีการสร้างและปรับปรุงใหม่อย่างสม่ำเสมอจนถึงปัจจุบัน ปัจจุบันกระเช้าไฟฟ้าเป็นรถไฟฟ้าและขนส่งผู้โดยสารได้กว่า 2 ล้านคนต่อปี การเดินทางใช้เวลา 90 วินาทีและเป็นไปโดยอัตโนมัติ จากนั้นพาทุกท่านไปที่ มหาวิหารซาเคร-เกอร์ บาซิลิก้า (The Basilica of the Sacred Heart of Paris)  สถานที่ที่ถูกขนานนามว่าเป็น “หัวใจอันศักดิ์สิทธิ์ของปารีส” จุดท่องเที่ยวยอดฮิต ตั้งอยู่บนยอดเนินเขามงต์มาตร์ (La butte Montmartre) สูงจากระดับน้ำทะเล 129 เมตร เขาแห่งเดียวในกรุงปารีส จุดชมวิวแสนสวย ท่านจะได้เห็นวิวมุมสูงที่สุดอันดับสองรองจากหอไอเฟล แต่มีความโดดเด่นสำคัญคือคุณจะได้เห็นหอไอเฟลตั้งอยู่กลางเมืองถ้ามองจากจุดนี้ เป็นวิวแสนโรแมนติกจับใจทั้งกลางวันและกลางคืน มหาวิหาร Sacré-Coeur เป็นวิหารในคริสตจักรโรมันคาทอลิก ถูกออกแบบโดย โปล อาบาดี (Paul Abadie) สถาปนิกที่ถูกคัดเลือกจากสถาปนิกทั้งหมด 77 รายเริ่มก่อสร้างปี ค.ศ. 1875 และเสร็จสิ้นลงในปี ค.ศ.1914 ใช้ระยะเวลาก่อสร้างเกือบ 40 ปี

ถ่ายภาพด้านหน้ากับ หอไอเฟล (Eiffel Tower) เป็นหนึ่งในแลนด์มาร์คสำคัญของประเทศฝรั่งเศส ตัวอาคารก่อสร้างโดยโครงเหล็กทั้งหมด มีความสูงประมาณ 300 เมตร (เทียบกับตึกประมาณ 75 ชั้น) สร้างเป็นรูปแบบหอคอย โดยถูกตั้งตามชื่อของสถาปนิกที่คนออกแบบชื่อว่า “กุสตาฟ ไอเฟล” ซึ่งเป็นทั้งวิศวกรและสถาปนิกชื่อดังของฝรั่งเศสในยุคนั้น ซึ่งเชี่ยวชาญด้านการก่อสร้างงานเหล็กโดยเฉพาะ หอไอเฟลสร้างขึ้นมาเพื่อใช้เป็นผลงานในการเฉลิมฉลองวันครบรอบ 100 ปี แห่งการปฏิวัติประเทศฝรั่งเศส และเพื่อแสดงถึงความร่ำรวย ยิ่งใหญ่

เที่ยง : รับประทานอาหารเที่ยง (มื้อที่10)

จากนั้นพาท่านไป เยี่ยมชมด้านนอกของ พิพิธภัณฑ์ลูฟร์ (Louvre Museum) เป็นพิพิธภัณฑ์ที่มีชื่อเสียงโด่งดังที่สุดของเมืองปารีส จากผลงานที่จัดแสดงไปจนถึงความเก่าแก่และยิ่งใหญ่ของสถานที่ทำให้เป็นพิพิธภัณฑ์ที่มีความสำคัญระดับโลก ก่อตั้งขึ้นโดยพระเจ้าฟิลิปที่ 2 ก่อนที่จะถูกขยายให้เป็นพระราชวังหลวง ในปัจจุบันพิพิธภัณฑ์ลู ฟร์ (Louvre Museum) เป็นสถานที่เก็บรักษาผลงานศิลปพที่ทรงคุณค่าไว้มากกว่า 400,000 ชิ้น แต่นำมาจัดแสดงให้ชมเพียง 40,000 ชิ้นเท่านั้น ซึ้งแน่นอนว่าผลงานศิลปะเหล่านี้ถูกเล่าต่อกันมาว่าเป็นสมบัติจากการที่ฝรั่งเศสนำมาจากประเทศที่ตนชนะสงคราม

พาทุกท่านไป อิสระช้อปปิ้งที่  ห้างปลอดภาษี Benlux Louvre duty free เป็นห้างชื่อดังใจกลางกรุงปารีส ซึ่งคุณจะได้พบกับสินค้าแบรนด์ชั้นนำต่างๆจากทั่วโลก ในราคาที่ไม่แพงและบรรยากาศที่หรูหราตระการตา ที่ดีเด่นต่อนักท่องเที่ยวไทย เพราะมีพนักงานและข้อความภาษาไทยในห้างนี้ด้วย ห้าง La Samaritaine เป็นห้างสรรพสินค้า ขนาดใหญ่ ในกรุงปารีส เริ่มต้นจากร้านเสื้อผ้าเล็กๆ และขยายไปสู่สิ่งที่กลายเป็นชุดของอาคารห้างสรรพสินค้าที่มีแผนกต่างๆ ทั้งหมด 90 แผนก เป็นสมาชิกสมาคมห้างสรรพสินค้านานาชาติตั้งแต่ปี 2528 ถึง 2535 ห้างแกลเลอรี่ ลาฟาแยตต์ (Galleries Lafayette) เป็นห้างหรูที่มีชื่อเสียงมากที่สุดแห่งหนึ่งของปารีส ภายในอาคารที่มีสถาปัตยกรรมที่สวยงาม เปิดให้บริการครั้งแรกในปี ค.ศ.1912 เดิมทีก่อนที่จะมาเป็นห้างสรรพสินค้าแฟชั่นชั้นนำของโลกอย่างทุกวันนี้แต่ก่อนเป็นแค่ร้านขายเสื้อผ้าเล็กๆ ที่หัวมุมถนน Lafayette แต่ภายหลังไม่นานได้มีการขยับขยายพื้นที่เพื่อให้เพียงพอต่อจำนวนพนักงานและลูกค้าที่มาจับจ่ายใช้สอย มีบันทึกว่าเป็นปีที่มียอดขายสูงสุด ซึ่งในปัจจุบันมีสาขาแบ่งอยู่ตามเมืองใหญ่ๆทั้งในประเทศและนอกประเทศ รวมแล้วทั้งหมด 61 แห่ง

เย็น : รับประทานอาหารเย็น (มื้อที่11)

วันที่ 7
เมืองปารีส - ท่าอากาศยานนานาชาติปารีส-ชาร์ล เดอ โกล – ท่าอากาศยานอาบูดาบี

เช้า : รับประทานอาหารเช้า (SET BOX ) (มื้อที่12) จากนั้นนำท่านเดินทางสู่จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ ท่าอากาศยานนานาชาติปารีส-ชาร์ล เดอ โกล ประเทศฝรั่งเศส เพื่อเดินทางกลับสู่กรุงเทพฯ

10.30 น. : เดินทางกลับประเทศไทย โดยสายการบิน ETIHAD AIRWAYS เที่ยวบินที่ EY032

19.20 น. : เดินทางถึง ท่าอากาศยานอาบูดาบี กรุงอาบูดาบี สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ แวะเปลี่ยนเครื่อง

21.40 น. : เดินทางกลับกรุงเทพฯ โดยสายการบิน ETIHAD AIRWAYS เที่ยวบินที่ EY402

วันที่ 8
ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ-กรุงเทพฯ

07:20 น. : เดินทางถึง ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพ

เงื่อนไข

(บริษัท ดำเนินการให้ กรณียกเลิกทั้งหมด หรืออย่างใดอย่างหนึ่ง ไม่สามารถรีฟันด์เป็นเงินหรือการบริการอื่นๆได้)

  1. ค่าตั๋วโดยสารเครื่องบินไป-กลับ ชั้นประหยัดพร้อมค่าภาษีสนามบินทุกแห่งตามรายการทัวร์ข้างต้น
  2. ค่าที่พักห้องละ 2-3 ท่าน ตามโรงแรมที่ระบุไว้ในรายการหรือ ระดับใกล้เคียงกัน
  3. กรณีพัก 3 ท่านถ้าวันที่เข้าพักห้องโรงแรม ไม่มีห้อง TRP (3ท่าน) อาจจำเป็นต้องแยกพัก 2 ห้อง (มีค่าใช้จ่ายพักเดี่ยวเพิ่ม) หรือเป็นการเพิ่มเตียงเสริม หรือ SOFA BED และกรณีห้องพักในเมืองที่ระบุไว้ในโปรแกรมมีเทศกาลวันหยุด มีงานแฟร์ต่างๆ บริษัทขอจัดที่พักในเมืองใกล้เคียงแทน โรงแรมที่พักส่วนใหญ่ในยุโรปไม่มีเครื่องปรับอากาศที่สามารถปรับควบคุมความเย็นได้ภายในห้องพัก เนื่องจากสภาพภูมิอากาศหนาวเย็นเกือบทั้งปี
  4. ตั๋วกรุ๊ปไม่สามารถ Upgrade ที่นั่งเป็น Business Class ได้ และต้องเดินทางไป-กลับพร้อมตั๋วกรุ๊ปเท่านั้นไม่สามารถเลื่อนวันได้ ใน กรณีที่ท่านต้องการแยกวันเดินทางกลับหรือไปก่อน โปรดติดต่อเจ้าหน้าที่เพื่อสอบถามราคาอีกครั้ง และการจัดที่นั่งของผู้เดินทาง เป็นการจัดการภายในของสายการบิน ทางบริษัทไม่สามารถเข้าไปเพื่อแทรกแซงได้
  5. ค่าอาหาร ค่าเข้าชม และ ค่ายานพาหนะทุกชนิด ตามที่ระบุไว้ในรายการทัวร์ข้างต้น
  6. เจ้าหน้าที่บริษัท ฯ คอยอำนวยความสะดวกตลอดการเดินทาง
  7. ค่าน้ำหนักกระเป๋า สัมภาระโหลดใต้ท้องเครื่อง 30 กิโลกรัม ถือขึ้นเครื่องได้ 7 กิโลกรัม และค่าประกันวินาศภัยเครื่องบินตามเงื่อนไขของแต่ละสายการบินที่มีการเรียกเก็บ และกรณีน้ำหนักสัมภาระเกินท่านต้องเสียค่าปรับตามที่สายการบินเรียกเก็บ
  8. การประกันการเดินทาง บริษัทฯได้จัดทำแผนประกันภัยการเดินทางสำหรับผู้เดินทางไปต่างประเทศ กับ FWD INSURANCE แบบแผนประกันภัยเดินต่างประเทศ แผน 3 โดยแผนประกันจะครอบคลุมการรักษากรณีลูกค้าติดเชื้อโควิด-19 หรืออุบัติเหตุต่างๆ ซึ่งเกิดขึ้นภายในวันเดินทาง และลูกค้าต้องทำการรักษาในโรงพยาบาลที่ประกันครอบคลุมการรักษาเท่านั้น (เข้ารับรักษาในรูปแบบอื่นๆประกันจะไม่ครอบคลุม) ซึ่งสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมจากเจ้าหน้าทีได้ กรณีลูกค้าต้องการซื้อประกันเพิ่มวงเงินคุ้มครอง เพิ่มความคุ้มครอง สามารถแจ้ง บริษัทฯ ซึ่งความคุ้มครองและข้อยกเว้น เป็นไปตามเงื่อนไขกรมธรรม์ประกันภัย  ประกันภัยเดินทางอันนีโดยทั้งนี้การทำประกันนี้จากบริษัท  มากกว่าข้อบังคับ ตาม พรบ ธุรกิจนำเที่ยว ที่บังคับให้บริษัทนำเที่ยว ทำประกันเฉพาะอุบัติเหตุในการเดินทางเท่านั้น แต่ทั้งนี้ ท่านสามารถศึกษาเงือนไขความคุ้มครองและข้อยกเว้นแผนเติมจากเว็บไซด์ FWD INSURANCE ได้กรณีท่านต้องการซื้อความคุ้มครองเพิ่มเติมสามารถแจ้งความประสงค์มาที่บริษัทฯ
  9. ค่ารถปรับอากาศนำเที่ยวตามระบุไว้ในรายการ พร้อมคนขับรถ (กฎหมายไม่อนุญาตให้คนขับรถเกิน 12 ช.ม./วัน)
  10. ค่า Vat 7% และ ค่าภาษีหัก ณ ที่จ่าย 3%
  1. ค่าทำหนังสือเดินทางไทย และเอกสารต่างด้าวต่างๆ  จากท่าน
  2. ค่าบริการและยื่นวีซ่าเชงเก้น (ประเทศฝรั่งเศส) 5,500 บาท
  3. ค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่นอกเหนือจากรายการระบุ อาทิเช่น ค่าอาหาร เครื่องดื่ม ค่าซักรีด ค่าโทรศัพท์ เป็นต้น
  4. ค่าภาษีทุกรายการคิดจากยอดบริการ, ค่าภาษีเดินทาง (ถ้ามีการเรียกเก็บ)
  5. ค่าภาษีน้ำมันที่สายการบินเรียกเก็บเพิ่มภายหลังจากทางบริษัทฯได้ออกตั๋วเครื่องบิน และได้ทำการขายโปรแกรมไปแล้ว
  6. ค่าพนักงานยกกระเป๋าที่โรงแรม
  7. ค่าทิปคนขับรถท่านละ 60 EUR /ท่าน สำหรับหัวหน้าทัวร์แล้วแต่ความประทับใจ

กรณีวีซ่าไม่ได้รับการอนุมัติจากสถานทูต(วีซ่าไม่ผ่าน) และท่านได้ชำระค่าทัวร์มาแล้ว ทางบริษัทขอเก็บเฉพาะค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริง เช่นค่าวีซ่าและค่าบริการยื่นวีซ่า/ค่ามัดจำตั๋วเครื่องบิน

หมายเหตุ : กรุณาอ่านศึกษารายละเอียดทั้งหมดก่อนทำการจอง เพื่อความถูกต้องและความเข้าใจตรงกันระหว่างท่านลูกค้าและบริษัท ฯ และเมื่อท่านตกลงชาระเงินมัดจาหรือค่าทัวร์ทั้งหมดกับทางบริษัทฯ แล้ว ทางบริษัทฯ จะถือว่าท่านได้ยอมรับเงื่อนไขข้อตกลงต่างๆ ทั้งหมด

  1. บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ที่จะเลื่อนการเดินทางหรือปรับราคาค่าบริการขึ้นในกรณีที่มีผู้ร่วมคณะไม่ถึง 20ท่าน
  2. ขอสงวนสิทธิ์การเก็บค่าน้ามันและภาษีสนามบินทุกแห่งเพิ่ม หากสายการบินมีการปรับขึ้นก่อนวันเดินทาง
  3. บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนเที่ยวบิน โดยมิต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้าอันเนื่องจากสาเหตุต่างๆ
  4. บริษัทฯ จะไม่รับผิดชอบใดๆ ทั้งสิ้น หากเกิดกรณีความล่าช้าจากสายการบิน, การยกเลิกบิน, การประท้วง, การนัดหยุดงาน, การก่อการจลาจล, ภัยธรรมชาติ, การนาสิ่งของผิดกฎหมาย ซึ่งอยู่นอกเหนือความรับผิดชอบของบริษัทฯ
  5. บริษัทฯ จะไม่รับผิดชอบใดๆ ทั้งสิ้น หากเกิดสิ่งของสูญหาย อันเนื่องเกิดจากความประมาทของท่าน, เกิดจากการโจรกรรม และ อุบัติเหตุจากความประมาทของนักท่องเที่ยวเอง
  6. เมื่อท่านตกลงชาระเงินมัดจาหรือค่าทัวร์ทั้งหมดกับทางบริษัทฯ แล้ว ทางบริษัทฯ จะถือว่าท่านได้ยอมรับเงื่อนไขข้อตกลงต่างๆ ทั้งหมด
  7. รายการนี้เป็นเพียงข้อเสนอที่ต้องได้รับการยืนยันจากบริษัทฯอีกครั้งหนึ่ง หลังจากได้สำรองโรงแรมที่พักในต่างประเทศเรียบร้อยแล้ว โดยโรงแรมจัดในระดับใกล้เคียงกัน ซึ่งอาจจะปรับเปลี่ยนตามที่ระบุในโปรแกรม
  8. การจัดการเรื่องห้องพัก เป็นสิทธิของโรงแรมในการจัดห้องให้กับกรุ๊ปที่เข้าพัก โดยมีห้องพักสำหรับผู้สูบบุหรี่/ปลอดบุหรี่ได้ โดยอาจจะขอเปลี่ยนห้องได้ตามความประสงค์ของผู้ที่พัก ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความพร้อมให้บริการของโรงแรม และไม่สามารถรับประกันได้
  9. กรณีผู้เดินทางต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ อาทิเช่น ใช้วิวแชร์ กรุณาแจ้งบริษัทฯ อย่างน้อย14วันก่อนการเดินทาง มิฉะนั้น บริษัทฯไม่สามารถจัดการได้ล่วงหน้าได้
  10. มัคคุเทศก์ พนักงานและตัวแทนของผู้จัด ไม่มีสิทธิในการให้คำสัญญาใด ๆ ทั้งสิ้นแทนผู้จัด นอกจากมีเอกสารลงนามโดยผู้มีอำนาจของผู้จัดกำกับเท่านั้น
  11. ผู้จัดจะไม่รับผิดชอบและไม่สามารถคืนค่าใช้จ่ายต่างๆ ได้เนื่องจากเป็นการเหมาจ่ายกับตัวแทนต่างๆ ในกรณีที่ผู้เดินทางไม่ผ่านการพิจารณาในการตรวจคนเข้าเมือง-ออกเมือง ไม่ว่าจะเป็นกองตรวจคนเข้าเมืองหรือกรมแรงงานของทุกประเทศในรายการท่องเที่ยว อันเนื่องมาจากการกระทำที่ส่อไปในทางผิดกฎหมาย การหลบหนี เข้าออกเมือง เอกสารเดินทางไม่ถูกต้อง หรือ การถูกปฏิเสธในกรณีอื่น ๆ
  12. การประกันการเดินทาง บริษัทฯได้จัดทำแผนประกันภัยการเดินทางสำหรับผู้เดินทางไปต่างประเทศ กับ FWD INSURANCE แบบแผนประกันภัยเดินต่างประเทศ แผน 3 โดยแผนประกันจะครอบคลุมการรักษากรณีลูกค้าติดเชื้อโควิด-19 หรืออุบัติเหตุต่างๆ ซึ่งเกิดขึ้นภายในวันเดินทาง และลูกค้าต้องทำการรักษาในโรงพยาบาลที่ประกันครอบคลุมการรักษาเท่านั้น (เข้ารับรักษาในรูปแบบอื่นๆประกันจะไม่ครอบคลุม) ซึ่งสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมจากเจ้าหน้าทีได้ กรณีลูกค้าต้องการซื้อประกันเพิ่มวงเงินคุ้มครอง เพิ่มความคุ้มครอง สามารถแจ้ง บริษัทฯ ซึ่งความคุ้มครองและข้อยกเว้น เป็นไปตามเงื่อนไขกรมธรรม์ประกันภัย ประกันภัยเดินทางอันนีโดยทั้งนี้การทำประกันนี้จากบริษัท  มากกว่าข้อบังคับ ตาม พรบ ธุรกิจนำเที่ยว ที่บังคับให้บริษัทนำเที่ยว ทำประกันเฉพาะอุบัติเหตุในการเดินทางเท่านั้น แต่ทั้งนี้ ท่านสามารถศึกษาเงือนไขความคุ้มครองและข้อยกเว้นแผนเติมจากเว็บไซด์ FWD INSURANCE ได้กรณีท่านต้องการซื้อความคุ้มครองเพิ่มเติมสามารถแจ้งความประสงค์มาที่บริษัทฯ
  13. มัคคุเทศก์ พนักงานและตัวแทนของผู้จัด ไม่มีสิทธิในการให้คำสัญญาใด ๆ ทั้งสิ้นแทนผู้จัด นอกจากมีเอกสารลงนามโดยผู้มีอำนาจของผู้จัดกำกับเท่านั้น
  14. ผู้จัดจะไม่รับผิดชอบและไม่สามารถคืนค่าใช้จ่ายต่างๆ ได้เนื่องจากเป็นการเหมาจ่ายกับตัวแทนต่างๆ ในกรณีที่ผู้เดินทางไม่ผ่านการพิจารณาในการตรวจคนเข้าเมือง-ออกเมืองไม่ว่าจะเป็นกองตรวจคนเข้าเมืองหรือกรมแรงงานของทุกประเทศในรายการท่องเที่ยว อันเนื่องมาจากการกระทำที่ส่อไปในทางผิดกฎหมาย การหลบหนี เข้าออกเมือง เอกสารเดินทางไม่ถูกต้อง หรือ การถูกปฏิเสธในกรณีอื่น ๆ
Share on social networks
โปรแกรมทัวร์ที่น่าสนใจ