17.00 : คณะพร้อมกันที่ สนามบินสุวรรณภูมิ ชั้น 4 ประตู 9 บริเวณเคาเตอร์ T สายการบิน Oman Air โดยมีเจ้าหน้าที่ของทางบริษัท คอยต้อนรับท่านเพื่ออำนวยความสะดวกด้านเอกสาร ออกบัตรที่นั่งและโหลดสัมภาระในการเดินทาง
20.05 : ออกเดินทางจาก กรุงเทพฯ โดยสายการบิน Oman Air เที่ยวบินที่ WY816 สู่สนามบินนานาชาติมัสกัต (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง)
23.25 : เดินทางถึง สนามบินนานาชาติมัสกัต เพื่อรอเปลี่ยนเที่ยวบิน ให้ท่านพักผ่อนและเดินช้อปปิ้งในสนามบินที่มีร้านค้าปลอดภาษีมากมาย (เวลาท้องถิ่นในมัสกัตช้ากว่าประเทศไทย 3 ชม.)
02.40 : ออกเดินทางสู่ กรุงแฟรงเฟิร์ต ประเทศเยอรมัน โดยสายการบิน Oman Air เที่ยวบิน WY115 (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง)
07.05 : ถึง ท่าอากาศยานแฟรงก์เฟิร์ต ประเทศเยอรมนี (เวลาที่เยอรมันช้ากว่าประเทศไทย 6 ชั่วโมง) หลังจากผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมือง ผ่านพิธีศุลกากร และรับกระเป๋าสัมภาระเรียบร้อยแล้ว
นำท่านเดินทางเข้าสู่ตัว เมืองแฟรงก์เฟิร์ต Frankfurt ศูนย์กลางทางเศรษฐกิจและพาณิชย์ที่สำคัญของเยอรมนี รวมทั้งเป็นศูนย์กลางการธนาคารการเงินและการค้าหุ้นที่สำคัญของประเทศ นำท่านเที่ยวชมเมืองแฟรงก์เฟิร์ต ชม จัตุรัสโรเมอร์ Romerberg จัตุรัสกลางใจเมือง Frankfurt ที่มีความสวยงาม เป็นจัตุรัสที่คงความงามของสถาปัตยกรรมยุคศตวรรษที่ 14-15 Römer เป็นชื่อเรียกรวมๆ ของอาคารหลายหลัง มีอาคารที่เป็นศูนย์กลางที่ถูกห้อมล้อมด้วยอาคารต่างๆ ที่นี่เป็นย่านการค้า ร้านค้า ร้านอาหาร และคาเฟ่ ชม ศาลาว่าการเมือง Frankfurt city hall ชม จัตุรัสมีน้ำพุแห่งความยุติธรรม เนื่องจากรูปปั้นกลางน้ำพุนั้นคือประติมากรรมเทพธิดาที่มือข้างซ้ายถือตราชั่งและมือข้างขวาถือดาบ สิ่งก่อสร้างรอบด้านจัตุรัสมีสีสันสดใสราวกับหลุดออกมาจากโลกแห่งความฝัน
เที่ยง : บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (มื้อ1)
บ่าย : ได้เวลาสมควร นำท่านเดินทางสู่ เมืองไฮเดลเบิร์ก (Heidelberg) ถือเป็นหนึ่งในเมืองที่สวยที่สุดในประเทศเยอรมนี ความกลมกลืนของปราสาทเมืองเก่าและแม่น้ำท่ามกลางภูเขาเป็นแรงบันดาลใจให้กับกวีและจิตกรแห่งความรักและยังคงดึงดูดผู้เยี่ยมชมนับล้านจากทั่วทุกมุมโลก เป็นสถานที่ที่มากกว่าคำว่าโรแมนติก นำท่านเข้าชม ปราสาทไฮเดลเบิร์ก (Heidelberg Castle) ตัวปราสาทก่อสร้างด้วยอิฐแดง ตั้งอยู่บนเนินเขา เป็นปราสาทที่มีความงดงามอย่างยิ่ง แต่ด้วยความที่ปราสาทมีการก่อสร้างมาเป็นเวลานาน ผ่านการปกครองจากกษัตริย์หลากหลายพระองค์ จึงมีการก่อสร้าง ต่อเติมตามความชอบของแต่ละพระองค์ ทำให้ปราสาทแห่งนี้มีหลากหลายสไตล์ประกอบกันที่แรกเริ่มเป็นแบบโกธิก และ กลายเป็นแบบเรเนซองซ์ ในปัจจุบัน
นำท่านเดินทางสู่ เมืองวูร์ซเบิร์ก WURZBURG เมืองแรกในการเริ่มต้นเส้นทางสายโรแมนติคอย่างเป็นทางการ เป็นเมืองที่ตั้งอยู่บนเนินเขา ริมฝั่งแม่น้ำเมน MAIN เป็นอีกแหล่งของการเพาะปลูกองุ่นเพื่อผลิตไวน์ของเยอรมันและเป็นเมืองที่ได้รับการยกย่องให้เป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโก ซึ่งบรรดาสถาปัตยกรรมในเมืองนี้ล้วนเป็นสไตล์บาร็อค จึงได้รับสมญานามว่าเป็น Baroque City นำท่านชมความงดงามของเมืองมรดกโลกเมืองนี้ โดยเริ่มจาก ศาลาว่าการเมือง (City Hall) และแวะถ่ายรูปกับ มหาวิหารแห่งเมืองวูร์ซเบิร์ก (Wurzburg Cathedral) สร้างขึ้นเมื่อ ค.ศ. 788 และในการก่อสร้างระหว่างปี 1040 – 1225 ได้รับอิทธิพลจากศิลปะแบบโรมาเนสก์จึงทำให้ภายนอกมหาวิหารสร้างแบบโรมาเนสก์ จากนั้นนำท่านแวะถ่ายรูปกับ พระราชวังวูร์ซเบิร์ก (Wurzburg Residence) สร้างขึ้นในสมัยศตวรรษที่ 10 ซึ่งอดีตคือพระราชวังเก่า เป็นการสร้างแบบสถาปัตยกรรมบาโรก นำท่านชม ป้อมมาเรียนแบร์ก (Marienberg Fortress) ถูกสร้างมาตั้งแต่ช่วงก่อนคริสตกาลโดยชาวเคลท์เพื่อใช้เป็นที่หลบภัย กระทั่งคริสต์ศตวรรษที่ 13 ก็ได้สร้างเพิ่มเติมบนพื้นที่เดิมของโบสถ์มาเรียนเคียเชอร์ ชมสะพานอัลเทอไมน์บรอค (Altemainbruecke) สะพานเก่าข้ามแม่น้ำไมน์ จุดเด่นที่สุดคือรูปปั้นของนักบุญทั้งหลายที่ตั้งเรียงรายอยู่ทั้งสองข้างสะพาน ซึ่งสะพานหินแห่งนี้ตามประวัติคือสร้างในปี 1473-1543 และได้มีการบูรณะหลายครั้งเนื่องจากถูกทำลายจากสงครามโลกครั้งที่ 2
ค่ำ : บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร (มื้อ2)
เช้า : รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (มื้อ3)
นำท่านเดินทางสู่ เมืองโรเธนเบิร์ก (Rothenburg) เป็นเมืองเก่าแก่ของจักรวรรดิฟรังค์ ในเขตบาวาเรีย ปัจจุบันเมืองโรเธนบวร์กได้กลายมาเป็นจุดหมายปลายทางที่สำคัญของนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก จนได้ชื่อว่าเป็นเมืองยุคกลางที่มีความสมบูรณ์มากที่สุดของเยอรมนี มีกำแพงเมืองล้อมรอบอย่างสมบูรณ์พร้อมด้วยประตูเมือง และหอคอยทั้ง 8 ภายในเมืองเต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมสไตล์โกธิค และสไตล์เรอเนสซองส์ พร้อมบ้านเรือนรูปแบบเยอรมันขนานแท้ที่บ่งบอกถึงความรุ่งเรืองและบรรยากาศราวกับว่าวันเวลาได้หยุดนิ่งมาตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 17
ให้ท่านเดินเล่นชมเมือง นำท่านถ่ายภาพกับ ศาลาว่าการเมือง (Rathaus) ที่ตั้งตระหง่านเป็นสัญลักษณ์ที่สำคัญของเมือง เป็นอาคาร 2 หลังสร้างติดกัน อาคารด้านหน้าเป็นสไตล์เรอเนสซองส์ ส่วนอาคารสีขาวด้านหลังเป็นสไตล์โกธิค เป็นอาคารที่สร้างขึ้นตั้งแต่ยุคเริ่มต้นของเมือง หอนาฬิกาที่สร้างขึ้นในปี 1446 นำท่านผ่านชม โบสถ์เซนต์ จอร์จ ซึ่งสร้างในสไตล์กอธิค บริเวณโดยรอบมีอาคารสมัยยุคกลางสไตล์บาร๊อคหลายหลัง ซึ่งปัจจุบันเปลี่ยนมาเป็นโรงแรมและร้านอาหาร รวมถึงเป็นที่ตั้งของ อ่างน้ำพุเซนต์จอร์จ (St.George’s Fountain) ที่สร้างในสไตล์เรอเนสซองส์ที่สวยงาม เป็นอ่างน้ำพุที่ใหญ่ที่สุดของเมือง ลึก 8 เมตร แต่เดิมมีไว้ให้ประชาชนใช้น้ำ และกักตุนน้ำไว้ยามเกิดเพลิงไหม้ ชมความงดงามของอาคารบ้านเรือนหลากสีสัน และพลาดไม่ได้กับการถ่ายภาพบริเวณจัตุรัส Plönlein ซึ่งมีความหมายในภาษาเยอรมันว่า “จัตุรัสเล็ก” เป็นจุดท่องเที่ยวยอดนิยมที่สุดของเมืองด้วยความลงตัวของทัศนียภาพและสถาปัตยกรรมยุคกลางอันโดดเด่น มีหอคอยโดดเด่นชื่อว่า Siebers Tower ที่สร้างขึ้นตั้งแต่ปีค.ศ. 1385 และ ประตูเมืองโบราณ (Kobolzeller Gate) เป็นจุดสังเกตสำคัญ ถือเป็นจุดที่นักท่องเที่ยวแวะชมและถ่ายภาพมากที่สุด
เที่ยง : บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (มื้อ4)
บ่าย : เดินทางสู่ เมืองนูเรมเบิร์ก (Nuremberg) เมืองที่ได้รับสมญานามว่าเมืองแห่งเทพนิยายของเยอรมัน หากใครเป็นคนที่ชื่นชอบความสวยงามของธรรมชาติ ขุนเขาสลับซับซ้อน ปราสาทราชวังแบบในการ์ตูนทางเดินโรยกรวด ปูหินแบบยุคกลาง โบสถ์สวยเก่าแก่ หิมะที่ปกคลุมขาวโพลนไปทั่วทั้งเมือง ต้องที่นี่เลยเพราะนูเรมเบิร์กนั้น เป็นเสมือนดังเมืองแห่งเทพนิยายที่ได้รับการรักษาเอาไว้ได้อย่างสมบูรณ์ จากนั้นนำท่าน เดินชมเมืองโบราณที่มีอายุกว่า 900 ปี ผ่านชม เม้าท์ฮาล์ โรงเก็บส่วยภาษีอากรในอดีตที่ถือเป็นอาคารประวัติศาสตร์อีกแห่งหนึ่งของเมืองนูเรมเบิร์ก จากนั้นนำท่านชมบริเวณ จัตุรัสกลางใจเมือง (Hauptmarkt) ซึ่งมีตลาดนัดขนาดใหญ่ประจำเมือง อันถือเป็นตลาดนัดคริสต์มาสที่ใหญ่ที่สุดในประเทศเยอรมนี ด้านตะวันออกของตลาดมี โบสถ์พระแม่มาเรีย (Frauenkirche) จุดเด่นคือ มีนาฬิกาตุ๊กตาไขลานที่หน้าจั่วของโบสถ์พระแม่มาเรีย ตัวนาฬิกาและตุ๊กตาประดับนี้ถูกสร้างเพิ่มเติมภายหลังในปี ค.ศ. 1509 เพื่อเป็นการรำลึกถึงพระราชกฤษฎีกาทองคำปี 1356 ที่ตราขึ้นตามพระราชบัญชาของจักรพรรดิคาร์ลที่ 4 แห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ นำท่านถ่ายรูปกับ ปราสาทเนิร์นแบร์ค (Nürnberger Burg) เป็นหมู่อาคารป้อมปราการในสมัยกลางตั้งบนสันเขาหินทรายในเมืองนูเรม ประเทศเยอรมนี ปราสาทแห่งนี้ได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งในปราการที่ยากจะเอาชนะที่สุดของทวีปในโรปในสมัยกลาง สะท้อนความสำคัญของเมืองนี้ในฐานะเมืองที่ขึ้นต่อจักรพรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์โดยตรงอาคารหลังแรกเริ่มก่อสร้างขึ้นราว ค.ศ. 1000 ได้เวลาสมควร นำท่านเดินทางสู่เมือง อิงโกลชตัดท์ (INGOLSTADT) เมืองซึ่งตั้งอยู่ที่แม่น้ำดานูบแม่น้ำที่สวยงามในใจกลางของบาวาเรีย ทั้งยังเป็นเมืองที่ผลิตรถยนต์ชื่อดัง Audi อีกด้วย
อิสระชอปปิ้งที่ Ingolstadt Village Outlet สวรรค์ของนักช้อปปิ้งเป็นเอ้าท์เลทที่รวมสินค้าแบรนด์เนม ราคาถูกมากกว่าร้อยแบรนด์ เป็นเอาท์เล็ทขนาดใหญ่ยอดนิยมของบรรดานักท่องเที่ยวจากทั่วโลกเพื่อตะลุยช้อปปิ้ง มีสินค้าแฟชั่นมากมายให้เลือก ซึ่งเต็มไปด้วยร้านค้าแบรนด์ดังระดับโลก ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้าตามแฟชั่น เช่น Gucci, Burberry, Prada, Long champ, Mulberry, Stella McCartney, DVF, Coach, Saint Laurent, Dior ฯลฯ อีกทั้งยังมีร้านอาหารและเครื่องดื่ม คาเฟ่ มากมายให้ลองเลือกชิมอีกด้วย
ค่ำ : เพื่อไม่รบกวนเวลาช้อปปิ้ง อิสระรับประทานอาหารค่ำ ที่เอาท์เลท
เช้า : รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (มื้อ5)
นำท่านขึ้นสู่ ปราสาทนอยชวานสไตน์ ซึ่งเป็นปราสาทตั้งอยู่ในเทือกเขาแอลป์ สร้างในสมัยพระเจ้าลุดวิกที่ 2 แห่งบาวาเรีย ในช่วง ค.ศ. 1845-86 เป็นปราสาทที่งดงามมากที่สุดอีกแห่งหนึ่งของโลก ตัวปราสาทตั้งอยู่บนบนหินผาขนาดใหญ่ยักษ์ สูงกว่า 200 เมตร เหนือเกาะแก่งของแม่น้ำพอลลัท เข้าชมปราสาทนอยชวานสไตน์ เป็นปราสาทหลังใหญ่สีขาว ตั้งอยู่กลางป่าเขาลำเนาไพร ที่ซึ่งมีสีสันแปลกแปลง แตกต่างไปในแต่ละฤดูกาลได้ ปราสาทหลังนี้เพิ่งได้รับขนานนามว่า นอยชวานสไตน์ ก็เพียงภายหลังจากที่ กษัตริย์ลุดวิกที่ 2 ได้เสด็จสวรรคตแล้วในปี 1886 เที่ยวชมห้องต่างๆ อาทิ ห้องทรงงาน, ห้องบรรทม, ห้องฮอลล์ที่ใช้ในการแสดงโอเปร่าและคอนเสิร์ต แม้กระทั่งราชาการ์ตูนอย่างวอล์ทดิสนีย์ยังได้จำลองแบบปราสาทแห่งนีไปเป็นปราสาทในเทพนิยาย อันเปรียบเสมือนสัญลักษณ์ของดิสนีย์แลนด์
เที่ย : บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร เมนูพิเศษขาหมูเยอรมัน (มื้อ6)
บ่าย : นำท่านเดินทางสู่ เมืองฟุสเซ่น (FUSSEN) เมืองปลายทางสุดท้ายของถนนสายโรแมนติค ตั้งอยู่ที่แคว้นบาวาเรียทางตอนใต้ของเยอรมันติดกับชายแดนออสเตรีย เป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของเยอรมนีเก่าแก่นับพันปีที่ได้รับ ฉายาว่า Village of the king’s castles เพราะเป็นที่ตั้งของปราสาทนอยชวานสไตน์ (Neuschwanstein) และโฮเฮนชวานเกา (Hohenschwangau) ปราสาทสีขาว และสีเหลืองที่โด่งดังคู่กันเป็นเวลาช้านาน ล้อมรอบไปด้วยทะเลสาบน้อยใหญ่ที่มีความงดงามทางด้านทัศนียภาพ เป็นเมืองที่มีความน่ารัก และมีสิ่งที่น่าสังเกตอีกอย่างคือ ตัวตึกหรืออาคารบ้านช่องของทั้งเมืองจะตกแต่งไปด้วยสีสันที่สวยงาม
ค่ำ : บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร (มื้อ7)
เช้า : รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (มื้อ8)
นำท่านเดินทางสู่ เมืองการ์มิช–พาร์เท่นเคียร์เช่น (Garmisch-Partenkirchen) เป็นเมืองทางตอนใต้สุดของประเทศเพื่อพิชิต ยอดเขาซุกสปิตเซ่ ซึ่งเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในประเทศเยอรมัน นำท่านเดินทางสู่ ทะเลสาบไอบ์เซ (EIBSEE) เพื่อนำท่านนั่งกระเช้าลอยฟ้าขึ้นสู่ ยอดเขาซุกสปิตเซ่ (ZUGSPITZE) ยอดเขาที่สูงที่สุดในประเทศเยอรมนีบนความสูง 2,964 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล จากบนยอดเขาท่านจะมองเห็นวิวทิวทัศน์รอบตัวซึ่งประกอบไปด้วยยอดเขากว่า400 ยอดในเขตแดนออสเตรีย อิตาลี สวิตเซอร์แลนด์ และเยอรมนี เบื้องล่างจากยอดเขาลงไป 400 เมตร คือ ซุกสปิตซ์ปลาต ซึ่งเป็นธารน้ำแข็งเพียงสายเดียวในเยอรมนี ในช่วงเวลาที่หิมะตกหนามีสภาพเหมาะสมสำหรับการเล่นสกีคือในช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงมิถุนายน ท่านจะได้พบกับประสบการณ์ประทับใจมากมายที่นี่ อิสระให้ท่านชมวิวแบบพาโนรามาที่งดงามจนลืมหายใจ และด้วยทิวทัศน์อันงดงามมีเสน่ห์เฉพาะตัวของเทือกเขาแอลป์ ทำให้บริเวณนี้เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวที่สามารถมาเยือนได้ตลอดทั้งปี ให้ท่านได้เพลิดเพลินกับการเล่นหิมะและถ่ายภาพสวยๆ ไว้เป็นที่ระลึกบนลานซุกสปิตเซ่ตามอัธยาศัย
เที่ย : รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร บนยอดเขา ซุกสปิตเซ่ (มื้อ9)
บ่าย : นำท่านเดินทางสู่ เมืองเอททัล (Ettal) นำท่านเข้าชม สำนักสงฆ์แห่งเมืองเอททัล (Kloster Ettal) เป็นวัดเบ็นเนดิคตินที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในบริเวณเชิงเทือกเขาแอลป์ หนึ่งในไฮไลต์ที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาดชมเมื่อมีโอกาสมาเยือนดินแดนในแถบบาวาเรีย และยังเป็น 1 ในโลเคชั่นถ่ายทำละครเรื่อง ลิขิตรัก ที่นำแสดงโดย ณเดช คูคิมิยะ และ ญาญ่า อุรัสยา ในฉากของวังเจ้าหญิงอลิซ แห่งรัฐฮรีซอส
ได้เวลาสมควร นำท่านเดินทางสู่เมืองมิวนิค
ค่ำ : บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร (มื้อ10)
เช้า : รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (มื้อ11)
นำท่านถ่ายรูปกับ พระราชวังนิมเฟนเบิร์ก (Nymphenburg Palace) พระราชวังบารอคแห่งนี้เดิมเป็นที่ประทับฤดูร้อนของพระเจ้าลุดวิกที่ 1 ได้รับการกล่าวขานถึงการตกแต่งภายในอันงดงาม และยังมีสวนที่สวยงาม ตัวสวนได้รับการออกแบบอย่างสวยงามสไตล์ฝรั่งเศส ภายในพระราชวังมีห้องที่ควรเยี่ยมชมคือ Gallery of Beauties ของพระเจ้าลุดวิกที่ 1 แสดงภาพวาดสตรีสาวสวย 38 นางในวงสังคมมิวนิค รวมถึงภาพวาดนางโลล่า มอนเทซ นักเต้นรำชาวไอริชผู้มีความสัมพันธ์กับพระเจ้าลุดวิกที่ 1 และเป็นสาเหตุให้พระองค์ต้องสละบัลลังก์ นอกจากนี้ยังเป็นที่ประสูติของกษัตริย์ลุดวิกที่ 2 ในปี 1845 ได้เวลาสมควร นำท่านเดินทางสู่ เขตเมืองเก่าของมิวนิค ชมอาคารบ้านเรือนที่เก่าแก่สวยงามจากยุคสมัยอันรุ่งเรืองของราชวงศ์ WITTELSBACH บริเวณ จัตุรัสมาเรียนพลาตซ์ (MARIENPLATZ) ซึ่งถือเป็นหัวใจของเขตเมืองเก่า และเป็นที่ที่ดีที่สุดสำหรับการเริ่มชมเมือง ในยุคกลางที่นี่เคยเป็นตลาดแต่ปัจจุบันเป็นศูนย์กลางการจัดงานสำคัญทางวัฒนธรรมต่างๆ ซึ่งมีสิ่งที่น่าชมมากมาย อาทิ Mariensaule รูปปั้นพระแม่มารีทองคำบนเสาสูง ศาลาว่าการเมืองใหม่ (Neuse Rathaus) ที่มีจุดเด่นอยู่ที่หอนาฬิกาที่เรียกว่า Glockenspiel มีระฆังและตุ๊กตาซึ่งจะออกมาเต้นระบำ ให้ชมกันในเวลา 11 โมงเช้าในหน้าหนาว และเพิ่มรอบ 5 โมงเย็นอีกหนึ่งรอบในหน้าร้อนและมี โบสถ์แม่พระที่งดงาม (Frauenkirche) ที่มีโดมเป็นรูปทรงหัวหอมคู่เป็นสัญลักษณ์
เที่ยง : อิสระรับประทานอาหารกลางวัน ตามอัธยาศัย
จากนั้นนำท่านช้อปปิ้งบริเวณรอบๆ จัตุรัสมาเรียนพลาตซ์ (MARIENPLATZ) ซึ่งมีร้านค้า ร้านอาหาร ร้านไอศกรีมมากมาย มีโต๊ะเก้าอี้ตั้งวางเรียงรายอยู่ด้านนอกสำหรับนักท่องเที่ยวได้นั่งจิบเบียร์ หรือทานอาหารพร้อมชมความสวยงามของท้องที่นี้ไปด้วยโดยเฉพาะวันที่ อากาศดี หรือแม้แต่แดดจ้าคนเยอรมันก็มักนิยมออกมานั่งตากแดดเป็นประจำ อีกทั้งบริเวณย่านนี้ยังมีร้านจำหน่าย สินค้าแบรนด์เนมชื่อดังเรียงรายอยูมากมายไม่ว่าจะเป็น Louis Vuitton, Hugo Boss, Chanel, Giorgio Armani เป็นต้น อิสระให้ท่านช้อปปิ้งตามอัธยาศัย
17.00 : นำท่านเดินทางสู่ ท่าอากาศยานนานาชาติมิวนิค เจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวกด้านเอกสาร ออกบัตรที่นั่งและโหลดสัมภาระในการเดินทาง พร้อมอำนวยความสะดวกด้านการขอคืนภาษี
21.45 : ออกเดินทางสู่กรุงเทพ โดยสายการบิน โอมานแอร์ เที่ยวบิน WY124 (บริการอาหารเครื่องดื่มบนเครื่อง)
07.05 : เดินทางถึง สนามบินนานาชาติมัสกัต เพื่อรอเปลี่ยนเที่ยวบิน ให้ท่านพักผ่อนและเดินช้อปปิ้งในสนามบินที่มีร้านค้าปลอดภาษีมากมาย (เวลาท้องถิ่นในมัสกัตช้ากว่าประเทศไทย 3 ชม.)
09.00 : ออกเดินทางสู่ สนามบินสุวรรณภูมิ โดย สายการบินโอมานแอร์ เที่ยวบินที่ WY 815
17.45 : เดินทางถึงกรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ พร้อมความประทับใจไม่รู้ลืม
**ชำระ ณ วันยื่นวีซ่าเท่านั้น ไม่จ่ายรวมในค่าทัวร์***
** กรณีที่ลูกค้าไม่สะดวกยื่นวีซ่าในวันที่บริษัทได้ทำคิวจองไว้แล้วนั้น ลูกค้าอาจจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมเป็นคิวพรีเมียม(นอกเวลาทำการ) อีกท่านละ 2,200 บาท**
เงื่อนไขการให้บริการ