09.30 น. นัดคณะพร้อมกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ ชั้น 4 ประตูหมายเลข 8 เคาน์เตอร์ Q สายการบิน EVA Air เจ้าหน้าที่พร้อมคอยต้อนรับและอำนวยความสะดวกด้านเอกสารและสัมภาระ
**กรณีท่านที่เดินทางมาจากต่างประเทศหรือต่างจังหวัดกรุณาตรวจสอบเวลาการเดินทางแต่ละกำหนดการเดินทางอีกครั้งก่อนทำการจองตั๋วโดยสารส่วนตัวของท่าน เนื่องจากรายการทัวร์เป็นรายการซีรี่และได้มีการดำเนินการไว้ล่วงหน้าหลายเดือน เมื่อเปลี่ยนฤดูกาล เวลาการเดินทางอาจมีการปรับเปลี่ยนตามฤดูกาลเล็กน้อย**
12.30 น. ออกเดินทางจากสนามบินสุวรรณภูมิ นำท่านบินตรงสู่นครอัมสเตอร์ดัม โดยสายการบิน EVA Air เที่ยวบินที่ BR-75
19.35 น. เดินทางถึงสนามบินสคิปโพล อัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์ นำท่านผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร
นำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก NH Naarden Amsterdam หรือระดับเทียบเท่า
เช้า รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม
นำท่านเดินทางข้ามพรมแดนเข้าสู่เขตประเทศเบลเยี่ยม เดินทางสู่ เมืองบรูจจ์ Brugge ฉายาเวนิสแห่งเบลเยี่ยม หรือ Venice of the North เมืองใหญ่ที่สุดและเป็นเมืองหลวงของจังหวัดฟลานเดอร์สตะวันตก ที่ได้รับการประกาศกับยูเนสโกขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกในปี ค.ศ.2000 (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3.30 ชั่วโมง)
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ.ภัตตาคารจีน
บ่าย นำท่านชมเมืองบรูจจ์ ที่ยังคงความเป็นเอกลักษณ์และสถาปัตยกรรมการก่อสร้างอาคารของชาวเบลเยี่ยมตั้งแต่ศตวรรษที่ 16 รายล้อมด้วยคูคลองน้อยใหญ่ ซึ่งได้รับการอนุรักษ์มาจนถึงปัจจุบันและคงความสวยงามไม่แพ้เมืองหลวงอย่างบรัสเซลส์ เข้าชมโบสถ์พระโลหิตศักดิ์สิทธิ์ Basilica of the Holy Blood โบสถ์โรมันคาทอลิก สร้างขึ้นในสมัยศตวรรษที่ 12 ตั้งอยู่ใจกลางเมืองบรูจจ์ เป็นที่เก็บพระโลหิตศักดิ์สิทธิ์ของพระเยซู ซึ่งเป็น 1 ในสถานที่ที่ได้รับการประกาศเป็นมรดกโลกจากยูเนสโก และถ่ายรูปกับอาคารศาลาว่าการเมือง อาคารเก่าแก่ที่สุดของเมืองบรูจจ์ที่มีอายุกว่า 600 ปี จากนั้นนำท่านสู่บริเวณแกรนด์เพลซ หรืออาคารเบลฟรี ที่นับว่าเป็นฮอล์ลที่ก่อสร้างด้วยอิฐและนับว่ามีขนาดใหญ่ที่สุดของเบลเยี่ยม และยังมีตลาดที่เก่าแก่ Markt Square มาจากศตวรรษที่ 15 ที่ยังคงอนุรักษ์บ้านเรือนในยุคกลางไว้ได้เป็นอย่างดี ให้ท่านถ่ายรูปกับหอระฆังสูงตระหง่าน ปัจจุบันบริเวณนี้ใช้เป็นที่นัดพบของชาวเมืองในท้องถิ่น รวมถึงรูปปั้นของJan Breydel และ Pieter de Coninck วีรบุรุษแห่งเสรีภาพในช่วงการต่อสู้กับฝรั่งเศสเมื่อต้นศตวรรษที่ 14
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมืองเกนท์ Ghent เมืองที่ใหญ่ที่สุดและมั่งคั่งที่สุดในยุโรปเหนือ (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง) เมืองเกนท์ได้ชื่อว่าเป็นนครที่สวยงามเป็นรองกรุงปารีสเพียงแห่งเดียวเท่านั้น ผ่านชม ปราสาทท่านเคานท์ ป้อมปราสาทในยุคกลาง ที่ถูกสร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ.1180 เพื่อแสดงถึงความรุ่งเรืองในยุคสมัยของ Philip of Alsace และถึงแม้ว่าเบลเยี่ยมจะผ่านการรบและสงครามมามากมายแต่ปราสาทท่านเคานท์ยังคงความงดงามผ่านกาลเวลา และเป็นแห่ลงท่องเที่ยวที่น่าสนใจของเมืองเกนท์ นำท่านชม หอระฆังประจำเมือง ที่สูงตระหง่านถึง 91 เมตร เป็นจุดเด่นของเส้นขอบฟ้า ที่ด้านล่างนั้นเป็น หอประชุมสงฆ์ ที่มีมาตั้งแต่ทศวรรษที่ 15 และได้รับเกียรติเป็นมรดกโลกจากยูเนสโก้ นำท่านชมมหาวิหารเมืองเกนท์ Saint Bavo Cathedral โบสถ์สไตล์กอธิคที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่ง ภายในมีการเก็บรักษาแท่นบูชาเกนท์ผลงานชิ้นเอกของพี่น้องตระกูลฟาน เอค สร้างไว้ตั้งแต่ปี1432 เป็น 1 ในผลงานที่ฮิตเลอร์ต้องการมากที่สุด
นำท่านเดินทางสู่ กรุงบรัสเซลส์ (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง) เมืองหลวงของประเทศเบลเยี่ยม และยังเป็นที่ตั้งขององค์กรระหว่างประเทศที่สำคัญหลายแห่ง หน่วยงานสำคัญของสหภาพยุโรป 2 หน่วย
งาน คือ คณะกรรมาธิการยุโรป (European Commission) และคณะมนตรีแห่งสหภาพยุโรป (Council of the European Union) ที่มีสำนักงานใหญ่ในกรุงบรัสเซลส์ นอกจากนี้บรัสเซลส์ยังเป็นที่ตั้งของนาโต (NATO) ทำให้หลายประเทศมีสถานทูตในบรัสเซลส์ถึง 3 แห่ง คือ สถานทูตปกติของแต่ละประเทศ สถานทูตประจำสหภาพยุโรป และสถานทูตประจำนาโต
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารพื้นเมือง
จากนั้นนำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก Gresham Belson หรือระดับเทียบเท่า
เช้า รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม
นำท่านชมเมืองพร้อมถ่ายรูป อะโตเมี่ยม ประติมากรรมอันงดงามสัญลักษณ์ของงานแสดงสินค้าเอ็กซ์โป ซึ่งจัดขึ้น ณ ประเทศเบลเยี่ยม ถือเป็นผลงานชิ้นสำคัญและปัจจุบันถือเป็นสัญลักษณ์อีกอย่างหนึ่งของกรุงบรัสเซลส์ จากนั้นนำท่านชม ความสวยงามของจัตุรัสแกรนด์เพลซ ที่เป็นแลนด์มาร์คของบรัสเซลส์ สถานที่ตั้งของอดีตพระราชวังหลวง ศาลาว่าการเมืองเก่า ที่มีสร้างด้วยศิลปะหลายยุคสมัยทั้งสไตล์โกธิค บารอคและรอคโคโค นำท่านถ่ายรูปคู่กับ หนูน้อยมาเนเคนพีส หรือหนูน้อยยืนฉี่ สัญลักษณ์ที่สำคัญยิ่งของบรัสเซลส์และเลือกซื้อของฝากและช็อคโกแล็ตรูปหนูน้อยมาเนเคสพิสแสนอร่อย ซึ่งประเทศเบลเยี่ยมยังเป็นประเทศที่มีชื่อเสียงด้านความอร่อยของช็อคโกแล็ตอีกด้วย และมีเวลาให้ท่านเลือกซื้อของฝากจากจัตุรัสแกรนด์เพลสและเดินเล่นถ่ายรูปกับอาคารที่มีสถาปัตยกรรมสวยๆ
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ มาสเมเคอเลิน เมืองในระดับเทศบาลของประเทศเบลเยี่ยมตั้งอยู่ริมแม่น้ำเมิซ (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.30 ชั่วโมง) นำท่านเข้าสู่แหล่งช้อปปิ้งเอ๊าท์เล็ตที่มีชื่อเสียง มาสเมเคอเลิน Maasmechelen Village จัดเป็นแหล่งช้อปปิ้งชั้นนำในเขตประเทศแถบเบเนลักซ์ ประกอบไปด้วยอาคารร้านค้าสวยงามด้วยสถาปัตยกรรมแบบเดียวกับหมู่บ้านมาสเมเคอเลิน และยังได้รับการอนุญาตเป็นพิเศษให้เปิดทำการค้าในวันอาทิตย์ มีเวลาให้ท่านเลือกซื้อสินค้าแบรนด์เนมชั้นนำกว่า 100 ร้านค้าที่ต่างนำมาจัดโปรโมชั่น ได้แก่ Armani, Boss, Coach, Prada, Polo Ralph Lauren, Salvatore Ferragamo, Swarovski, Max Mara, Beverly Hills, Karl Lagerfeld, The North Face, Puma, Samsonite, Levi’s, ASICS, Lacoste, Bally, L’Occitane, Clarins, DKNY, Fossil, Furla, Kipling, Calvin Klein, Superdry, Converse, Hackett, Guess, Geox, Timberland, Tommy Hilfiger, DIESEL, Nike, New Balance, Michael Kors เป็นต้น รวมทั้งยังมีร้านอาหารให้เลือกหลากหลาย อาทิ อาหารสไตล์อิตาเลียน Giuliano หรือจะเป็นอาหารแบบเบาๆ ที่ร้าน Le Pain Quotidien, Chez Lulu หรือร้านนั่งสบายๆ Le Petit Belge หรือ Ellis หรือของหวานที่ร้าน Leonidas เป็นต้น *เพื่อความสะดวกในการเลือกซื้อสินค้าอิสระรับประทานอาหารกลางวันตามอัธยาศัยภายในเอ๊าท์เล็ต*
สมควรแก่เวลานำท่านเดินทางข้ามพรมแดนสู่ประเทศเยอรมันี โดยนำท่านเดินทางเข้าสู่เมืองอาเค่น Aachen ตั้งอยู่ทางตะวันตกสุดของเยอรมันีซึ่งมีพรมแดนติดกับเบลเยี่ยมและเนเธอร์แลนด์ (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง)
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารพื้นเมือง
จากนั้นนำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก Leonardo Hotel Aachen หรือระดับเทียบเท่า
เช้า รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม
นำท่านเดินทางสู่ เมืองบอนน์ Bonne เมืองริมฝั่งแม่น้ำไรน์ ห่างจากโคโลญจ์เพียง 24 กิโลเมตร เมืองก่าแก่ที่สุดและจัดเป็นเมืองที่อยู่ในภูมิภาคขนาดใหญ่อีกแห่งหนึ่งของเยอรมันี เป็นเมืองที่ได้ชื่อว่าเป็นเมืองแห่งมหาวิทยาลัยและบ้านเกิดของลุดวิคบีโธเฟ่น (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง) มีเวลาให้ท่านเดินเล่นถ่ายรูปกับสถานที่สำคัญๆ ในตัวเมืองบอนน์ ไม่ว่าจะเป็นอาคารพิพิธภัณฑ์บีโธเฟ่น เป็นอาคารเก่าที่ดัดแปลงมาจากบ้านเกิดของบีโธเฟ่น และเดินเลยมาชมโบสถ์บอนน์ Bonn Minster หนึ่งในคริสตจักรเก่าแก่ที่สุดของเยอรมนี เป็นอาคารแบบโกธิคและตกแต่งแบบบาร็อคโดดเด่นสุดในตัวเมือง และให้ท่านเดินเล่นในจัตุรัสเมืองเก่า Munsterplatz ที่เป็นที่ตั้งของอนุเสาวรีย์บีโธเฟ่น ผู้มีชื่อเสียงดังก้องโลกทางด้านดนตรี และยังเป็นสถานที่ในการจัดงานดนตรีของเมืองอีกด้วย และชมอาคารอันสง่างามของ ศาลาว่าการ Altes Rathaus ที่ปัจจุบันยังคงเป็นสถานที่ทำงานของคณะนายกเทศมนตรีของเมืองบอนน์ รวมถึงอาคารของพระราชวังโป๊ปสดอร์ฟ มีความเก่าแก่ยาวนานด้วยสถาปัตยกรรมแบบบาร็อค เคยเป็นสถานที่พักผ่อนของอาร์คบิชอปแห่งเมืองโคโลญจ์ ปัจจุบันเป็นส่วนหนึ่งของมหาวิทาลัยบอนนด์ จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองโคโลญจ์ ประเทศเยอรมัน (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.15 ชั่วโมง)
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ.ภัตตาคารจีน
บ่าย นำท่านชม เมืองโคโลญจ์ เมืองใหญ่อันดับ 4 ของประเทศ รองจากเมืองเบอร์ลิน ฮัมบวร์คและมิวนิค เป็นหนึ่งในเมืองที่เก่าแก่ที่สุดของประเทศเยอรมัน ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำไรน์ จัดเป็นเมืองเก่าแก่ที่ตั้งมาตั้งแต่สมัยโรมัน ชื่อเมืองนี้มาจาก “โคโลเนีย” ซึ่งตั้งอยู่ทางตอนใต้ของรัฐ Nordrhein-Westfalen เยอรมันเหนือใกล้กับเมืองบอนน์ เมืองหลวงเก่าของเยอรมันตะวันตกในสมัยอดีตก่อนการรวมตัวกันกับเยอรมันตะวันออก ชาวไทยเราจะรู้จักเมืองนี้ตามชื่อของน้ำหอม โอ เดอร์ โคโลญจน์ (Eau de Cologne 4711) และยังเป็นแหล่งผลิตน้ำหอมดังกล่าวมาตั้งแต่เกือบ 300 ปี เลข 4711 คือเลขที่ของบ้านผู้ผลิตนั่นเอง นำท่านเข้าชมมหาวิหารโคโลญจ์ Cologne Cathedral เป็นมหาวิหารสไตล์โกธิคดั้งเดิมที่อยู่ในรายชื่อของสถานที่แห่งมรดกโลก เป็นศาสนสถานของคริสต์ศาสนาโรมันคาทอลิก นับเป็นวิหารที่ใหญ่และสูงที่สุดในโลกในสมัยนั้น ลักษณะสถาปัตยกรรมแบบโกธิค เป็นหอคอยแฝดสูง 157 เมตร กว้าง 86 เมตร ยาว 144 เมตร สร้างเพื่ออุทิศให้นักบุญปีเตอร์และพระแม่มารี เริ่มก่อสร้างมาตั้งแต่ปี ค.ศ.1248 แต่มีปัญหาให้ต้องหยุดพักการก่อสร้างไปบ้าง จึงต้องใช้เวลากว่า 600 ปีจึงสร้างเสร็จสมบูรณ์ และสร้างเสร็จในปี ค.ศ.1880 และครั้งหนึ่งสมเด็จพระปิยมหาราช รัชกาลที่ 5 ของประเทศไทย ได้เคยเสด็จมาเยือนเมื่อคราวเสด็จประพาสเยอรมันครั้งแรกในปี ค.ศ.1897 ในระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 เครื่องบินพันธมิตรได้ถล่มวิหารแห่งนี้รวม 14 ครั้ง แต่ทุกครั้งเหมือนมีมนตร์ขลัง ลูกระเบิดพลาดจากมหาวิหารไปทุกคราวไป คงความเสียหายแก่มหาวิหารเพียงเล็กน้อย จากนั้นเดินเที่ยวชมเมืองโคโลญจ์พร้อมช้อปปิ้งสินค้าพื้นเมือง, ของที่ระลึก, น้ำหอมโคโลญจ์ 4711 ตลอดจนสินค้าแบรนด์เนมชื่อดังนานาชนิดบนถนน Walking Street รอบมหาวิหาร สมควรแก่เวลานำท่านเดินทางกลับเข้าอัมสเตอร์ดัม เขตประเทศเนเธอร์แลนด์ (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง)
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารพื้นเมือง
จากนั้นนำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก NH Naarden หรือระดับเทียบเท่า
เช้า รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม
นำท่านเดินทางสู่ หมู่บ้านกีธูร์น Giethoorn Village (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.30 ชั่วโมง) นำชมเมืองที่ประกอบไปด้วยหมู่บ้านเล็กๆ ที่มีความน่ารักมากมาย มีผู้คนอาศัยอยู่ราว 2,600 คน ส่วนใหญ่เป็นชาวไร่ที่มีฐานะดี บ้านแต่ละหลังมีการออกแบบและตกแต่งให้เป็นกระท่อมสไตล์ตะวันตกที่แสนน่ารักอบอุ่น มีคลองขนาดเล็กที่มีความยาวกว่า 7.5 กิโลเมตร แทรกตัวไปทั่วหมู่บ้าน มีสะพานไม้ทรงสวยมากกว่า 170 สะพาน ไว้เชื่อมระหว่างบ้านเรือนเข้าหากัน ชาวบ้านที่นี้ใช้เรือเป็นพาหนะในการเดินทางสัญจรเท่านั้น ไม่เว้นแม้แต่บุรุษไปรษณีย์ก็ต้องพายเรือส่งไปรษณีย์เช่นกัน จึงกลายเป็นเอกลักษณ์ที่แสนมีเสน่ห์ของหมู่บ้านกีธูร์น จนทำให้ได้รับการขนานนามว่าเป็นเวนิสแห่งเนเธอร์แลนด์ (The Venice of the Netherlands) ในปี ค.ศ.1958 ภาพยนตร์ตลกชื่อดังของ Bert Haanstra อย่าง Fanfare ได้ใช้หมู่บ้านกีธูร์นเป็นฉากหลักในการถ่ายทำ และมีผลทำให้หมู่บ้านไร้ถนนแห่งนี้ กลายเป็นที่รู้จักในวงกว้าง จนมีนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกพลัดกันมาเยี่ยมชมความสวยงามสุดโรแมนติกของหมู่บ้านกีธูร์น ให้ท่านชมทัศนียภาพของหมู่บ้านและ นำท่านล่องเรือในลำคลองน้ำใสท่ามกลางอากาศแสนบริสุทธิ์ ชมบ้านเรือนทรงน่ารักที่เรียงรายอยู่ริมฝั่ง เพลิดเพลินไปกับดอกไม้หลากสีสันต่างๆ (ในช่วงฤดูใบไม้ผลิและฤดูร้อน) และให้ท่านเลือกซื้อสินค้าที่ระลึกเป็นของฝาก
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ.ภัตตาคารพื้นเมือง
บ่าย นำท่านเดินทางสู่ หมู่บ้านวัฒนธรรมฮอลแลนด์ ซานส์สคันส์ Zaanse Schans (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.45 ชั่วโมง) หมู่บ้านอนุรักษ์กังหันลมเก่าแก่ ที่ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของประเทศ โดยหมู่บ้านแห่งนี้ถือว่าเป็นสถานที่ที่เก็บรวบรวมประวัติศาสตร์ของกังหันลมเอาไว้เป็นอย่างดี ซึ่งจะได้พบกับความสวยงามอย่างลงตัวของหมู่บ้านที่สร้างขึ้นสไตล์บ้านไม้แบบฮอลแลนด์ สัมผัสบรรยากาศแบบชนบทที่สวยงาม ซึ่งประกอบไปด้วยแม่น้ำ ทุ่งหญ้าและการปศุสัตว์ ให้ท่านได้ถ่ายภาพเป็นที่ระลึกกับกังหันลม จัดเป็นหนึ่งสัญลักษณ์สำคัญของประเทศเนเธอร์แลนด์ ซึ่งกังหันของประเทศนี้ได้มีการใช้ประโยชน์เป็นอย่างยิ่งโดยเฉพาะในด้านการผันน้ำ วิดน้ำระบายน้ำเพื่อเอาดินในทะเลมาใช้ให้เกิดประโยชน์ในด้านต่างๆ พร้อมชมการทำรองเท้าไม้ ที่ถือเป็นของและ สินค้าที่ระลึกที่สำคัญของเนเธอร์แลนด์ และการทำชีสแบบเนเธอร์แลนด์ที่มีชื่อเสียงโด่งดังของฟาร์ม Catharina Hoeve Cheese Farm ให้ท่านได้ชมวิธีสาธิตการทำการตัดชีส รวมถึงอุปกรณ์การใช้งาน และลองชิมสโตรปวาฟเฟิล ขนมชื่อดังของเนเธอร์แลนด์และพร้อมให้ท่านเลือกซื้อเป็นของฝาก จากนั้นนำท่านเดินทางกลับเข้าสู่เมืองอัมสเตอร์ดัม Amsterdam (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาที) เมืองหลวงของประเทศเนเธอร์แลนด์ ถือเป็นหนึ่งในเมืองท่องเที่ยวยอดนิยมของคนทั่วโลก และยังเป็นเมืองที่ติดอันดับโลกที่มีบรรยากาศสวยงามน่าอยู่อาศัยแห่งหนึ่งในยุโรป
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารจีน
จากนั้นนำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก NH Naarden หรือระดับเทียบเท่า
เช้า รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม
นำท่านชมย่านเมืองเก่าถ่ายรูปด้านนอกกับพระราชวังหลวง Royal Palace หรือภาษาดัชท์ Konniklijk Paleis สร้างขึ้นในปี ค.ศ.1648-1654 เพื่อใช้เป็นศาลาว่าการเมือง จนมาในปี ค.ศ.1808 ในสมัยของกษัตริย์ Lodewijk Napoleon จึงได้เปลี่ยนมาใช้เป็นที่พักอาศัยของราชวงศ์ปัจจุบันพระราชวังแห่งนี้ ได้ถูกใช้เป็นที่รับรองพระราชอาคันตุกะของพระราชินี รวมถึงการผ่านชมบ้านเก่าของแอนน์ แฟรงค์ สถานที่จริงที่แอนน์ แฟรงค์และครอบครัวของเธอใช้หลบซ่อนความโหดร้านของนาซีที่กวาดล้างชาวยิวในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 จากนั้นนำท่านชมย่านจัตุรัสดัมส์สแควร์ Dam Square ลานกว้างที่มีสถานที่สำคัญๆ ตั้งอยู่มากมาย ถ่ายรูปกับโบสถ์ใหม่ที่สร้างขึ้นในตอนปลายศตวรรษที่ 14 ผ่านการบูรณะซ่อมแซมปรับปรุงใหม่หลายครั้งจนมีความสวยงาม และถ่ายรูปกับอนุสรณ์สถานแห่งชาติ National Monument ซึ่งเป็นรูปทรงกรวยขาว สูงประมาณ 70 ฟุต สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1956 เพื่อเป็นอนุสรณ์แก่ผู้เสียชีวิตในสงครามโลกครั้งที่ 2 และให้ท่านถ่ายรูปกับโรงงานเบียร์ไฮเนเก้น Heineken Experience ต้นกำเนิดของเบียร์ไฮเนเก้น โดยก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ.1864 ปัจจุบันไฮเนเก้นเป็นบริษัทผลิตเบียร์รายใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 3 ของโลก และเป็นเบียร์ที่มีคุณภาพรวมถึงรสชาติดีที่สุด รับรองด้วยถ้วยรางวัลมากมาย ต่อมาโรงงานได้ปิดตัวลงและปัจจุบันได้ถูกดัดแปลงมาเป็นพิพิธภัณฑ์ให้กับนักท่องเที่ยวเข้าชม โดยภายในมีการจัดแสดงประวัติ การก่อตั้งโรงเบียร์แห่งนี้และจำหน่ายของที่ระลึกเกี่ยวกับเบียร์ไฮเนเก้น
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ.ภัตตาคารจีน
บ่าย นำท่านเดินทางสู่พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติของอัมสเตอร์ดัมเพื่อให้ท่านถ่ายรูปเป็นที่ระลึกกับตัวอักษร I am Amsterdam เป็นสถานที่รวบรวมงานศิลปะ ของจิตรกรชาวดัตช์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก จากนั้นเข้าชม โรงงานเจียระไนเพชร ชมกรรมวิธีการเจียรนัยเพชร หนึ่งในสินค้าออกที่สำคัญของเนเธอร์แลนด์ที่จะทำให้เข้าใจถึงวิธีการในการเลือกซื้ออัญมณีล้ำค่านี้ ท่านมีโอกาสเข้าชมโชว์รูมที่จะนำเพชรน้ำดีขนาดต่างๆ มาให้ท่านได้ชม จากนั้นนำท่านสู่ท่าเรือ นำท่าน ล่องเรือหลังคากระจก เพื่อชมบรรยากาศของเมืองเก่าอั มสเตอร์ดัมที่สร้างอยู่ริม 2 ฝั่งคลองที่สร้างขึ้นตั้งแต่ยุคศตวรรษที่ 16-18 ซึ่งคลองนี้ขุดขึ้นมาเพื่อควบคุมระดับน้ำของแม่น้ำแอมสเทลที่มักจะเอ่อล้นเข้าท่วมในเมืองจนเป็นหนึ่งในตำนานของชื่อเมืองและปัจจุบันชาวเมืองยังใช้สัญจรไปมาพร้อมกับสถาปัตยกรรมรูปปูนปั้นต่างๆ บ่งบอกถึงความมีฐานะศักดินาและบ้านบางหลังมีอายุเก่าแก่กว่าร้อยปี
17.30 น. สมควรแก่เวลานัดหมาย นำท่านเตรียมตัวเดินทางสู่สนามบินสคิปโพล
21.40 น. นำท่านออกเดินทางจากกรุงอัมสเตอร์ดัม โดยสายการบิน EVA Air เที่ยวบินที่ BR-76
13.40 น. เดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพ..
การยกเลิก
ข้อมูลเพิ่มเติมเรื่องโรงแรมที่พัก
หมายเหตุ
Error: Contact form not found.
Error: Contact form not found.
Error: Contact form not found.
Error: Contact form not found.