21.00 น. : คณะพร้อมกัน ณ อาคารผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศชั้น4 สนามบินสุวรรณภูมิเคาน์เตอร์สายการบินเอมิเรตส์แอร์ไลน์(EK) พบเจ้าหน้าที่ของบริษัทฯ คอยให้การต้อนรับและอำนวยความสะดวก
01.35 น. : ออกเดินทางสู่สนามบินเมืองซูริค ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ โดยสายการบิน เอมิเรตส์แอร์ไลน์ (EK) เที่ยวบินที่ EK385 (01.15-04.45) / EK87 (08.40-13.20) ใช้ระยะเวลาในการเดินทาง
ประมาณ 16.45 ชั่วโมง (รวมเวลาแวะเปลี่ยนเครื่องที่สนามบินเมืองดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์) บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง
13.20 น. : เดินทางถึง สนามบินเมืองซูริค ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ (เวลาท้องถิ่นช้ากว่าประเทศไทย 6 ชั่วโมง) หลังผ่านพิธีตรวจคนเข้าเมืองแล้ว นำท่านเดินทางสู่ เมืองซูริค (Zurich) เมืองที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ (Switzerland) และยังเป็นเมืองศูนย์กลางทางเศรษฐกิจที่สำคัญของประเทศและของทวีปยุโรป ซูริคขึ้นชื่อเรื่องมนต์เสน่ห์ของเมืองยุโรปโบราณที่มีงานสถาปัตยกรรมแบบเก่ากระจัดกระจายอยู่รายล้อมเมือง ในขณะเดียวกันก็เป็นเมืองที่มีความเจริญทางเทคโนโลยีสมัยใหม่และถูกยกให้เป็นหนึ่งในอันดับต้นๆ ของเมืองที่มีคุณภาพชีวิตดีที่สุดในโลก
นำท่านถ่ายรูปกับ จัตุรัสปาราเดพลาทซ์ (Paradeplatz) จัตุรัสเก่าแก่ที่มีมาตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 17 ในอดีตเคยเป็นศูนย์กลางของการค้าสัตว์ที่สำคัญของเมืองซูริค ปัจจุบันจัตุรัสนี้ได้กลายเป็นชุมทางรถรางที่สำคัญของเมืองและยังเป็นศูนย์กลางการค้าของย่านธุรกิจ ธนาคาร สถาบันการเงินที่ใหญ่ที่สุดในประเทศสวิตเซอร์แลนด์
นำชมย่านเมืองเก่า ลินเดนฮอฟห์ (Lindenhof) ประกอบไปด้วยโบสถ์ในสมัยกลาง สถานที่โดดเด่นเห็นจะเป็นมหาวิหารคู่บ้านคู่เมือง กรอส มุนเตอร์ (Grossmunste Church) ซึ่งถือเป็น
เอกลักษณ์ของเมืองซูริค ตั้งอยู่บริเวณริมฝั่งแม่น้ำลิมมัต (Limmat River) ปัจจุบันกลายเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวของซูริค ถัดไปไม่ไกลคือโบสถ์อีกแห่งหนึ่ง มีชื่อว่า Peterskirche หรือ St.Peter’s Church โดยด้านบนสุดของโบสถ์เซนต์ปีเตอร์นั้นเป็นที่ตั้งของหน้าปัดนาฬิกาที่ติดอันดับหน้าปัดนาฬิกาที่ใหญ่ที่สุดในโลก อีกด้วย โดยหน้าปัดนาฬิกาของโบสถ์มีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 8.7 เมตร และ โบสถ์ฟรอมุนสเตอร์ (Fraumunster abbey) ที่มีหน้าต่างกระจกสีอันสดใสสวยงาม
จากนั้นนำท่านช้อปปิ้ง บาห์นฮอฟสตราสเซอ (Bahnhofstrasse) ถนนการค้าทีได้ชื่อว่าแพงและหรูหราที่สุดในโลก เพราะว่าทั้งสองฝั่งถนนเป็นร้าน Brandname ระดับโลกดังๆ ตั้งอยู่มากมาย อาทิเช่น ร้านเสื้อผ้า เครื่องประดับ กระเป๋า นาฬิกายี่ห้อดังอย่าง Bucherer , Rolex และยี่ห้ออื่นๆอีกมากมาย ถนนเส้นนี้มีร้านขายนาฬิกาเป็นจำนวนมาก ประมาณว่าแทบจะเป็นแหล่งรวมนาฬิกาชั้นนำของโลก ที่สมกับคำเล่าลือว่า “จะหานาฬิกาดีๆ ต้องมาที่สวิตเซอร์แลนด์”
จากนั้นนำท่านเดินทางต่อสู่ เมืองฟลิมส์ (Flims) เมืองในแคว้น Graubünden มีทะเลสาบเคามา (Caumasee) ทะเลสาบที่คนในประเทศนิยมมาเที่ยวพักผ่อนกัน ทำกิจกรรม ปั่นจักรยาน เดินป่า ว่ายน้ำกันที่นี่ บรรยากาศของทะเลสาบจะถูกล้อมรอบด้วยป่าไม้ ที่เป็นธรรมชาติ เดินทางถึง เมืองฟลิมส์
เย็น : รับประทานอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร
เช้า : รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม
ออกเดินทางสู่ เมืองคูร์ (CHUR) เมืองเล็กริมฝั่งแม่น้ำไรน์ทางตะวันออกของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ นำท่านเดินทางสู่สถานี เพื่อนั่งรถไฟสายโรแมนติกเบอร์นิน่าเอกซ์เพรส (Bernina Express) สู่เมืองดิอาโวเลซซ่า รถไฟท่องเที่ยวด่วนพิเศษ Bernina Express เป็นรถไฟสายเก่าแก่ที่สุดของสวิตเซอร์แลนด์ มีเอกลักษณ์เป็นรถไฟสีแดงสด บนทางขนาดกว้าง 1 เมตร เป็นรถไฟ แบบตู้โดยสารชมวิวแบบพาโนราม่า ผ่านเขตใจกลางเทือกเขาแอลป์ ที่มีหิมะปกคลุมตลอดทั้งปี ผ่านหุบเหว ลำธาร โตรกผา อุโมงค์ 55 แห่ง และสะพาน196 แห่ง โดยเฉพาะสะพานโค้งวงกลมที่ Brusio มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก เส้นทางนี้รับประกันความสวยแบบห้ามกระพริบตา
เดินทางถึง เมืองดิอาโวเลซซ่า (Diavolezza) เมืองเล็กริมฝั่งแม่น้ำไรน์ทางตะวันออกของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ออกเดินทางถึง สถานีดิอาโวเลซซ่า (Diavolezza) นำท่านเดินทางสู่สถานีกระเช้าสู่ยอดเขา Mt.Diavolezza ยอดเขานี้เสมือนเป็นไข่มุกเม็ดงามแห่งที่ราบสูงแองเกอดินแคว้น Graubünden โดยกระเช้าจะนำท่านขึ้นสู่ยอดเขาหิมะสูง 3,000เมตรภายใน 30 นาที
ให้ท่านชมวิวความสวยงามของยอดเขาแอล์ปฝั่งตะวันออก ที่มียอดเขาที่สวยงามอยู่รวมกันมากมาย เช่น ยอดเขาพิซเบอร์นิน่า, Corvatsch, Lagalb จากจุดนี้ท่านจะได้เห็นธารน้ำแข็ง Pers and Morteratsch Glaciers ที่สวยงามอย่างชัดเจน มีเวลาให้ท่านเดินเด่นชมบรรยากาศและเก็บภาพความสวยงามในลานหิมะอย่างจุใจหรือเลือกซื้อสินค้าที่ระลึกในตัวอาคารร้านค้าตามอัธยาศัย
(ในกรณีที่ยอดเขา Mt.Diavolezza ปิดเนื่องมาจากสภาพอากาศไม่เอื้ออำนวย หรือปิดเพื่อปรับปรุงซ่อมแซมกระเช้าบริษัทฯ ขอสงวนสิทธ์ในการเปลี่ยนแปลงโปรแกรมตามความเหมาะสม)
กลางวัน : รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารบนยอดเขาวิวระดับแสนล้าน
นำท่านเดินทางสู่ เมืองเซนต์มอริทซ์ (St.Moritz) เมืองตากอากาศที่แพงที่สุดในสวิตเซอร์แลนด์ ศูนย์กลางกีฬาสกีที่มีชื่อเสียงระดับโลก และเคยได้รับเลือกให้เป็นสถานที่แข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดู หนาวถึง 2 ครั้ง ตั้งอยู่บนยอดที่สุงที่สุดของเทือกเขาแอลป์ ชมความงดงามของทะเลสาบ
เย็น : รับประทานอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร
เช้า : รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม
นำท่านเดินทางสู่ เมืองอินส์บรูกค์(Innsbruck) ประเทศออสเตรีย ที่มีเทือกเขาแอลป์โอบรอบเมืองอย่างยิ่งใหญ่อลังการ เหมือนฉากในละครชีวิตจริง เป็นเมืองที่ฟ้ากว้างมาก
พาชมใจกลางเมืองเก่า ที่ตั้งของบ้านหลังคาทอง(Goldenes Dachl) ไฮไลท์ของเขตเมืองเก่าอินส์บรูกค์ ที่นักท่องเที่ยวเกือบทุกคนอยากเห็นด้วยตาว่างดงามสมคำร่ำลือ หลังคาทอง ตึกนี้สร้างขึ้นตามพระราชประสงค์ของจักรพรรดิมาซิมิเลี่ยนที่1 เสร็จในช่วงปี ค.ศ.1500 ในสมัยนั้นพระองค์และ
ราชินีจะไปประทับที่ระเบียง เวลามีงานเฉลิมฉลองด้านล่างบริเวณจัตุรัส และพิพิธภัณฑ์ดีๆ ในเมืองหลายแห่ง เมืองนี้ยังเป็นต้นกำเนิดของเครื่องประดับคริสตัลชื่อดังอย่าง Swarovski
เย็น : รับประทานอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร
เช้า : รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม
นำท่านเดินทางสู่ เมืองเบิรช์เทสการ์เด้น (Berchtesgaden) เมืองนี้เป็นที่ตั้งของภูเขาวัทซ์มันน์ (Watzmann) ซึ่งสูงเป็นอันดับ 3 ในเยอรมนีด้วยความสูง 2,713 เมตร ถือเป็นหนึ่งในสถานที่ปีนเขายอดนิยม นอกจากนี้ยังเป็นที่ตั้งของเคอนิชส์เซ ซึ่งเป็นทะเลสาบธารน้ำแข็งซึ่งมีความลึก
จากนั้นนำท่าน เข้าชมเหมืองเกลือเก่าเมืองแบร์กเทสการ์เดน (Berchtesgaden Salt Mine)
เหมืองเกลือเก่าเมืองแบร์กเทสการ์เดน (Berchtesgaden Salt Mine) เป็นเหมืองเกลือที่ถูกสร้างตั้งแต่ ค.ศ. 1517 ซึ่งในสมัยอดีต เหมืองเกลือ เป็นสถานที่ต้องห้ามของบุคคลทั่วไป เนื่องจากเกลือมีค่าจนได้ชื่อว่าเป็นทองคำขาว นั่งรถรางลอดอุโมงค์ยาว 700 เมตร ไปยังถ้ำเกลืออันระยิบระยับ และ
ทะเลสาบใต้ภูเขาที่งดงามด้วยแสงเสียง บรรยากาศราวกับอยู่ในเหมืองจริงเมื่อ 500 ปีก่อน ภายใต้
อุณหภูมิ 12 องศาเซลเซียส ชื่นชมในความเก่าแก่ของเหมืองเกลือโบราณ ซึ่งปัจจุบันยังคงได้รับการบำรุงรักษาเอาไว้เหมือนดังเช่นในอดีตทุกประการ จนดระทั่งได้เวลาอันสมควร
กลางวัน : รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
นำท่านผ่านชม หมู่บ้านรัมเซา (Ramsau Village) หมู่บ้านเล็ก ๆ ที่มีประวัติยาวนาน ตั้งอยู่ภายใต้การโอบล้อมของภูเขาใหญ่น้อยของบาวาเรียอัลไพน์ ไฮไลท์ของที่คือทัศนียภาพอันสวยงามของโบสถ์ Parish Church of St.Sebastian โบสถ์สีขาวที่มีฉากหลังเป็นภูเขาหินปูน ตัดกับท้องฟ้าสีคราม เคียงข้างด้วยลำธารสายเล็ก ๆ ที่สะท้อนแสงแดดอ่อน ๆ ในยามเช้า เป็นภาพที่มีองค์ประกอบลงตัว นำเดินทางสู่ เมืองซาลส์บวร์ก (Salzburg) ประเทศออสเตรีย เมืองอันเป็นบ้านเกิดของนักดนตรีเอก “วูล์ฟกัง อมาดิอุส โมสาร์ท” ที่มีชื่อเสียงก้องโลก เมืองซาลส์บวร์ก มีความหมายว่า “ปราสาทเกลือ” เขตเมืองเก่าศิลปะบารอคที่ตั้งอยู่บนฝั่งแม่น้ำซัลซาค เมืองซาลส์บวร์กเคยเป็นที่ประทับถาวรของอาร์คบิชอป และ เป็นศูนย์กลางทางศาสนาคริสต์นิกายคาทอลิกที่สำคัญของบรรดาประเทศที่ใช้ภาษาเยอรมัน
เย็น : รับประทานอาหารเย็น ณ ภัตตาคารอาหารไทย
เช้า : รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม
นำท่านชม สวนมิราเบล (Mirabell Garden) สวนภายในพระราชวังเดิมที่เต็มไปด้วยดอกไม้นานาพันธุ์สีสันสวยงาม รูปปั้นและน้ำพุสไตล์บารอค สถานที่แห่งนี้ยังเคยใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์อมตะชื่อก้องโลก The Sound of Music จากนั้นนำชม บ้านเกิดโมสาร์ท กวีเอกของโลกชาวออสเตรียน ปัจจุบันนี้เป็นพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงประวัติของโมสาร์ทและครอบครัว อิสระเดินเที่ยวชม
ย่านเมืองเก่า เลือกซื้อสินค้าบนถนน Getreidegasse ของเมืองที่มีความสวยงามรวมทั้งมีร้านค้าสินค้าแฟชั่นมากมาย
กลางวัน : รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
นำท่านเดินทางสู่ เมืองเวียนนา(Vienna) เมืองหลวงของประเทศออสเตรีย มนต์เสน่ห์ของเวียนนาที่ดึงดูดให้หลายๆ คนอยากมาเยือนบรรยากาศสุดคลาสสิคของตึกอาคารโทนสีขาวนวนงดงามแบบดั้งเดิม รูปปั้นบุคคลสำคัญ รถม้า โรงละครโอเปร่า เป็นเมืองที่น่าหลงใหล
เย็น : รับประทานอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
นำท่านผ่านชม ศาลาว่าการเมืองเวียนนา (Rathaus) ตึกศาลากลางแห่งนี้ออกแบบโดย ฟรีดริช ชมิดท์ (Friedrich Schmidt) ปัจจุบันตึกนี้ใช้เป็นที่ทำการหลักของเวียนนา และลานด้านหน้าใช้เป็นที่จัดงานสำคัญของเมือง นำท่านถ่ายภาพคู่ พระราชวังโฮฟบวร์ก(Hofburg Palace) เดิมเป็น
พระราชวังฤดูหนาวของราชวงศ์โฮฟบวร์ก ตั้งอยู่ใจกลางกรุงเวียนนา นำท่านแวะถ่ายรูปคู่ โบสถ์เซนต์สเตฟาน (St.Stephen Cathedral) เป็นโบสถ์เก่าแก่สร้างในศิลปะโกธิกตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 13 ถือเป็นโบสถ์คู่บ้านคู่เมืองของประเทศออสเตรีย
กลางวัน : รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารไทย
นำท่านช้อปปิ้ง พาร์นด็อฟเอาท์เลท (Designer Outlet Parndorf) เอาท์เลทแห่งแรกของออสเตรีย ที่ตั้งอยู่ระหว่างเมืองหลวงของ 2 ประเทศ คือออสเตรียและสโลวัค ให้ท่านได้ช้อปปิ้งสินค้าแบรนด์เนมมากมาย อาทิ Prada, Gucci, Hugo Boss,Polo Ralph Lauren, Calvin Klein มากมาย
เย็น : รับประทานอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร เมนูขึ้นชื่อจัดเต็ม Ribs ซี่โครงหมูยาว 1 เมตร / ท่าน
เช้า : รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม
ให้ท่าน อิสระถนนสายช้อปปิ้งกลางกรุงเวียนนา เป็นถนนคนเดินและช้อปปิ้งสายสำคัญแห่งกรุงเวียนนา มีห้างสรรพสินค้า ร้านค้าต่างๆ เรียงรายตลอดสองข้างถนน ที่ถูกใจขาช้อปเพราะมีสินค้าให้เลือกมากมาย อาทิ เสื้อผ้าแบรนด์เนมยอดนิยม สินค้าแบรนด์เนมแบบนาฬิกา ROLEX , LOUIS VUITTON และอีกมากมาย อีกทั้งเครื่องแก้วคริสตัลเจียระไน ของสะสมหรือของที่ระลึกต่างๆ
กลางวัน : รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารไทย
หลังจากนั้นเชิญ อิสระให้ท่านช้อปปิ้งชมร้านค้า หรือนั่งทานกาแฟหอมกรุ่นและขนมเค้กต้นตำหรับ
ได้เวลาพอสมควร นำท่านเดินทางสู่ สนามบินกรุงเวียนนา เพื่อตรวจเช็คเอกสารการเดินทางและสัมภาระเตรียมตัวเดินทางกลับ
22.40 น. : ออกเดินทางจากเมืองเวียนนา กลับกรุงเทพฯ โดยสายการบินเอมิเรตส์แอร์ไลน์ (EK) เที่ยวบินที่ EK126 (22.40-06.15 (+1)) / EK372 (09.30-18.55) ใช้ระยะเวลาในการเดินทางประมาณ 16.45 ชั่วโมง (รวมเวลาแวะเปลี่ยนเครื่องที่สนามบินเมืองดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์) บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง
18.55 น. : เดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพ