กัสโต้ เวิล์ด ทัวร์

บริการคุณภาพ ทุกเส้นทางท่องเที่ยว

เลขที่ 11/03295

ทัวร์ยุโรป BEST SPRING IN EUROPE FRANCE SWITZERLAND ITALY

ทัวร์ยุโรป
รหัส 003-2506
วันที่เดินทาง
เม.ย.66
ช่วงเวลา
8 วัน 6 คืน
ราคาเริ่มต้น
72,900 บาท
แผนการเดินทาง
วันที่ 1
ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ – ท่าอากาศยานนานาชาติมัสกัต แวะเปลี่ยนเครื่อง – ท่าอากาศยานนานาชาติปารีสชาร์ล - เดอ โกล –เมืองปารีส

06.00 น. : พร้อมกัน ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศขาออกชั้น 4 เคาน์เตอร์ สายการบิน OMAN AIR โดยมีเจ้าหน้าที่บริษัทฯคอยต้อนรับและอำนวยความสะดวกด้านเอกสาร ติดแท็กกระเป๋าก่อนขึ้นเครื่อง

09.15 น. : นำท่านเดินทางสู่ เมืองปารีส ประเทศฝรั่งเศส โดยสายการบิน OMAN AIR  เที่ยวบินที่ WY818

12.35 น. : เดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาติมัสกัต ประเทศโอมาน แวะพักเปลี่ยนเครื่อง

14.45 น. : นำท่านเดินทางสู่ ท่าอากาศยานนานาชาติปารีส-ชาร์ล เดอ โกล ประเทศฝรั่งเศส เที่ยวบินที่ WY131

19.25 น. : เดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาติปารีส-ชาร์ล เดอ โกล ประเทศฝรั่งเศส นำท่านผ่านขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมืองและพิธีการทางศุลกากร (เวลาท้องถิ่นช้ากว่าประเทศไทย 5 ชั่วโมง) และตรวจรับสัมภาระเรียบร้อยแล้วนำ  ท่านขึ้นรถโค้ชปรับอากาศเดินทางสู่ที่พักในเมืองปารีส (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาที)

วันที่ 2
เมืองปารีส - จัตุรัสคองคอร์ด – พิพิธภัณฑ์ลูฟร์ - ห้างปลอดภาษี Benlux Louvre –ห้างแกลเลอรี่ ลาฟาแยตต์ – ถนนฌ็องเซลิเซ่ – หอไอเฟล - ล่องเรือแม่น้ำแซน โดย บาโต มูช – พระราชวังแวร์ซาย - ช้อปปิ้ง Grain de Cuir

เช้า : รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม  (มื้อที่1)

นำท่านเดินทางเช็คอินแลนด์มาร์คสำคัญใน เมืองปารีส (Paris) ไปเก็บภาพความประทับใจกับสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ เริ่มต้นที่ แวะถ่ายภาพกับ จัตุรัสคองคอร์ด (Place de la Concorde) เป็นสถานที่แห่งความทรงจำทางประวัติศาสตร์ในกรุงปารีส เป็นสัญลักษณ์ของสงครามกลางเมืองและการปฏิวัติการปกครองของฝรั่งเศส จัตุรัสคองคอร์ดถูกสร้างขึ้นในสมัยของพระเจ้าหลุยส์ที่ 15 โดยสถาปนิกชื่อ Jacques Ange Gabriel และสร้างเสร็จสิ้นในปี ค.ศ.1755 เพื่อประดิษฐานพระบรมรูปทรงม้าแต่ถูกทำลายโดยพระเจ้าหลุยส์ที่ 16 จากนั้นพาท่านไป เยี่ยมชมด้านนอกของ พิพิธภัณฑ์ลูฟร์ (Louvre Museum) เป็นพิพิธภัณฑ์ที่มีชื่อเสียงโด่งดังที่สุดของเมืองปารีส จากผลงานที่จัดแสดงไปจนถึงความเก่าแก่และยิ่งใหญ่ของสถานที่ทำให้เป็นพิพิธภัณฑ์ที่มีความสำคัญระดับโลก ก่อตั้งขึ้นโดยพระเจ้าฟิลิปที่ 2 ก่อนที่จะถูกขยายให้เป็นพระราชวังหลวง ในปัจจุบันพิพิธภัณฑ์ลู ฟร์ (Louvre Museum) เป็นสถานที่เก็บรักษาผลงานศิลปพที่ทรงคุณค่าไว้มากกว่า 400,000 ชิ้น แต่นำมาจัดแสดงให้ชมเพียง 40,000 ชิ้นเท่านั้น ซึ้งแน่นอนว่าผลงานศิลปะเหล่านี้ถูกเล่าต่อกันมาว่าเป็นสมบัติจากการที่ฝรั่งเศสนำมาจากประเทศที่ตนชนะสงครามพาทุกท่านไป

อิสระช้อปปิ้งที่  ห้างปลอดภาษี Benlux Louvre duty free เป็นห้างชื่อดังใจกลางกรุงปารีส ซึ่งคุณจะได้พบกับสินค้าแบรนด์ชั้นนำต่างๆจากทั่วโลก ในราคาที่ไม่แพงและบรรยากาศที่หรูหราตระการตา ที่ดีเด่นต่อนักท่องเที่ยวไทย เพราะมีพนักงานและข้อความภาษาไทยในห้างนี้ด้วย และ ห้างแกลเลอรี่ ลาฟาแยตต์ (Galleries Lafayette) เป็นห้างหรูที่มีชื่อเสียงมากที่สุดแห่งหนึ่งของปารีส ภายในอาคารที่มีสถาปัตยกรรมที่สวยงาม เปิดให้บริการครั้งแรกในปี ค.ศ.1912 เดิมทีก่อนที่จะมาเป็นห้างสรรพสินค้าแฟชั่นชั้นนำของโลกอย่างทุกวันนี้แต่ก่อนเป็นแค่ร้านขายเสื้อผ้าเล็กๆ ที่หัวมุมถนน Lafayette แต่ภายหลังไม่นานได้มีการขยับขยายพื้นที่เพื่อให้เพียงพอต่อจำนวนพนักงานและลูกค้าที่มาจับจ่ายใช้สอย มีบันทึกว่าเป็นปีที่มียอดขายสูงสุด ซึ่งในปัจจุบันมีสาขาแบ่งอยู่ตามเมืองใหญ่ๆทั้งในประเทศและนอกประเทศ รวมแล้วทั้งหมด 61 แห่ง จากนั้นไปที่ถนนที่มีชื่อเสียงที่โด่งดังที่สุดในฝรั่งเศส ถนนฌ็องเซลิเซ่ (Champs Elysees) เป็นหนึ่งในถนนที่มีชื่อเสียงโด่งดังในฝรั่งเศส ย่านศูนย์การค้าระดับพรีเมียม แหล่งรวมสินค้าแบรนด์ดังระดับโลกทุกแบรนด์ ถือว่าเป็นย่านธุรกิจที่สำคัญของกรุงปารีส และยังถูกจัดอันดับให้เป็นถนนที่สวยที่สุดในโลก ตึกส่วนใหญ่บนถนนฌ็องเซลิเซ่เป็นสถาปัตยกรรมที่มีการผสมผสานศิลปะ Art Deco กับการตกแต่งสไตล์ Art Nouveau เข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว

ถ่ายภาพด้านหน้ากับ หอไอเฟล (Eiffel Tower) เป็นหนึ่งในแลนด์มาร์คสำคัญของประเทศฝรั่งเศส ตัวอาคารก่อสร้างโดยโครงเหล็กทั้งหมด มีความสูงประมาณ 300 เมตร (เทียบกับตึกประมาณ 75 ชั้น) สร้างเป็นรูปแบบหอคอย โดยถูกตั้งตามชื่อของสถาปนิกที่คนออกแบบชื่อว่า “กุสตาฟ ไอเฟล” ซึ่งเป็นทั้งวิศวกรและสถาปนิกชื่อดังของฝรั่งเศสในยุคนั้น ซึ่งเชี่ยวชาญด้านการก่อสร้างงานเหล็กโดยเฉพาะ หอไอเฟลสร้างขึ้นมาเพื่อใช้เป็นผลงานในการเฉลิมฉลองวันครบรอบ 100 ปี แห่งการปฏิวัติประเทศฝรั่งเศส และเพื่อแสดงถึงความร่ำรวย ยิ่งใหญ่

เที่ยง : รับประทานอาหารเที่ยง (มื้อที่2)

จากนั้นนำท่าน ล่องเรือแม่น้ำแซน โดย บาโต มูช (Bateaux-Mouches) (ใช้ระยะเวลาประมาณ 1 ชม.) มีการบรรยายเกี่ยวกับประวัติเมืองปารีสตลอดทั้งสายการเดินทางระหว่างสองข้างทางที่เต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น มหาวิหารน็อทร์-ดาม, หอไอเฟล พิพิธภัณฑ์ลูฟร์ เป็นต้น และพาทุกท่านไป สถานที่ท่องเที่ยวที่โด่งดังมากของฝรั่งเศส พาทุกท่านเข้าชมความสวยงามของ พระราชวังแวร์ซาย (Versailles Palace) หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของประเทศฝรั่งเศส นับเป็นพระราชวังที่มีความยิ่งใหญ่และงดงามอลังการมาก จนติด 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก อีกทั้งยังได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกทางวัฒนธรรม พระราชวังสร้างในรูปแบบสถาปัตยกรรมสไตล์คริสต์ศตวรรษที่ 17 และ 18 ภายในประกอบด้วยห้องถึง 700 ห้อง รูปภาพทรงคุณค่า 6,123 ภาพ และงานแกะสลักจากศิลปินชั้นเอก 15,034 ชิ้น ควรามกว้างขวางวัดได้จากขนาดพื้นที่ของพระราชวัง ทั้งหมด 800 เฮกการ์ (5,000 ไร่) โดยแบ่งออกเป็นส่วนใหญ่ๆ ด้วยกัน ได้แก่ The Palace หรือด้านในของพระราชวัง มีห้องมากมายถึง 700 ห้อง ไม่ว่าจะเป็น ห้องบรรทม, ห้องเสวย, ห้องสำราญ และห้องพำนักอื่นๆ แต่ไม่มีห้องน้ำแม้แต่เพียงห้องเดียว , ห้องกระจก หรือ The Hall of Mirrors เป็นห้องที่ใหญ่ที่สุดในพระราชวัง และมีชื่อเสียงโด่งดังมากที่สุด ถูกก่อสร้างด้วยกระจกบานยักษ์ใหญ่เจียรไนสุดวิบวับทั้งหมด 17 บาน เมื่อเปิดออกมาจะพบเห็นมุมที่สวยที่สุดของสวนแวร์ซาย The Gardens สวนที่ตกแต่งให้มีลวดลายเหมือนเขาวงกต ประดับประดาด้วยต้นไม้ สวนดอกไม้แบบเรขาคณิต มีประติมากรรมและหินอ่อนโดยได้รับแรงบันดาลใจจากเทพนิยายกรีกโรมัน, The Estate of Trianon พระตำหนักเล็กๆ ของพระนางพระนางมารี อองตัวเนต และสวนดอกไม้ส่วนตัว ท่ามกลางหมู่บ้านชนบทที่เงียบสงบ ซึ่งพระนางทรงโปรดที่จะมาพักผ่อนและใช้ชีวิตเรียบง่ายแบบคนธรรมดา (ค่าทัวร์รวมค่าเข้าชมพระราชวังแวร์ซายแล้ว) อิสระช้อปปิ้งที่ Grain de Cuir ร้านกระเป๋าแบรนด์เนมชั้นนำ ราคาดี อาธิเช่น Hermes, Louis Vuitton, Chanel, Prada, Celine, Dior หรือแบรนด์ที่คนไทยนิยมใช้นั้นก็คือ Longchamp นั้นเอง

เย็น : รับประทานอาหารเย็น (มื้อที่3)

วันที่ 3
เมืองดิจอง – เมืองเบิร์น – หอนาฬิกาดาราศาสตร์ – มหาวิหารเบิร์น – บ่อหมีสีน้ำตาล – เมือง Leissingen

เช้า : รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม  (มื้อที่4)

นำท่านเดินทางสู่ เมืองดิจอง หรือ ดีฌง (Dijon)  (ระยะทาง 312  กม. / 4.30 ชม.) หนึ่งในเมืองท่องเที่ยวที่สวยงาม และน่าค้นหาเมืองหนึ่งในประเทศฝรั่งเศส เป็นเมืองหลวงของจังหวัดโคต-ดอร์ในแคว้นบูร์กอญในประเทศฝรั่งเศส ถือเป็นเมืองสำคัญแห่งแคว้นเบอร์กันดี เป็นแหล่งไวน์และมัสตาร์ดชั้นดีอีกแห่งของฝรั่งเศส มีแหล่งท่องเที่ยวและทัศนียภาพสวยงามต่างๆ ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกให้เข้าไปสัมผัสความงามที่เป็นเอกลักษณ์ของเมืองดิจอง

เที่ยง : รับประทานอาหารเที่ยง (มื้อที่5)

นำทุกท่านเดินทางสู่ เมืองเบิร์น (Bern) (ระยะทาง 253  กม. / 3.30 ชม.) เป็นเมืองหลวง และตั้งอยู่ใจกลางของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ มีความโดดเด่นอย่างน่าประทับใจของเมืองเก่าสร้างขึ้นตั้งแต่ยุคกลางซึ่งถูกอนุรักษ์ไว้จากอดีตจนถึงปัจจุบัน และเป็นตัวอย่างผังเมืองของสมัยกลางที่ดีมากที่สุดในทวีปยุโรป จนได้รับการยกย่องให้เป็นมรดกทางวัฒนธรรมของโลกโดยยูเนสโกตั้งแต่ปี 1983 นำท่านเดินทางสู่แลนด์มาร์คสำคัญในเมืองเบิร์น เริ่มต้นที่

ชมด้านหน้าและถ่ายภาพกับ หอนาฬิกาดาราศาสตร์ (Zytglogge Clock Tower) หรือ หอระฆังซิทกล็อด เป็นหอนาฬิกายักษ์ใหญ่เก่าแก่ที่สร้างมาตั้งแต่ปีค.ศ.1530 พูดง่ายๆ ก็คือเกือบๆ 500 ปีแล้ว เป็นสถานที่เช็คอินของนักท่องเที่ยวที่มาเยือนเมืองเบิร์น (Bern) ซึ่งหอนาฬิกาดาราศาสตร์ ภายในมีการติดตั้งตุ๊กตา คน สิงโต หมี ให้ออกมาหมุนและมีไก่ออกมาขัน นอกจากนี้ยังมีตัวตลกออกมาเต้นรำไปรอบๆ เป็นจุดไฮไลท์ให้นักท่องเที่ยวได้ชมกันทุกๆ ชั่วโมงอีกด้วย จากนั้นนำท่านถ่ายภาพด้านหน้า มหาวิหารเบิร์น (Berner Munster) มหาวิหารแห่งนี้ เป็นโบสถ์สไตล์โกธิก ที่สร้างขึ้นเมื่อ ค.ศ.1421 โบสถ์นี้สามารถเข้าไปชมวิวบนหอคอยชั้นบนได้ โดยสามารถขึ้นบันได 300 กว่าขั้น ซึ่งหอคอยบนยอดโบสถ์มีความสูงกว่า 100 เมตร ซึ่งนับว่าเป็นโบสถ์ที่มีความสูงที่สุดในสวิสเซอร์แลนด์ ซึ่งสามารถเห็นวิวความสวยงามของกรุงเบิร์นได้ดี ไม่ว่าจะเป็นตัวเมืองกรุงเบิร์น หอนาฬิกา Zytglogge สะพานข้ามแม่น้ำอาเร่อ และวิวทิวทัศน์ธรรมชาติที่สวยงาม นอกจากนี้มหาวิหารแห่งนี้ยังได้รับขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมที่สำคัญของชาติอีกด้วย แวะชม บ่อหมีสีน้ำตาล (Bern pits) ในเมืองเบิร์น เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นหลุมหมีหรือเป็นกรงที่อยู่อาศัยของหมี ต้นกำเนิดมาจากหมีสีน้ำตาล 4-5ตัว อาศัยอยู่ภายในริมบ่อฝั่งแม่น้ำอาเรอ ในอดีตสร้างบ่อหมีให้อยู่คู่เมืองเบิร์นมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 15 ย้ายที่ตั้งไปหลายแห่ง จนครั้งสุดท้ายย้ายมาตั้งที่ตรงนี้ในปัจจุบันเมื่อปี 1996

เย็น : รับประทานอาหารเย็น (มื้อที่6) จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมือง Leissingen (ระยะทาง 47  กม. / 1 ชม.) เข้าที่พักให้ท่านได้พักผ่อนตามอัธยาศัย

วันที่ 4
หมู่บ้านเลาเทอร์บรุนเนิน – น้ำตกชเตาบ์บาค - สถานีไอเกอร์เกลตเชอร์ - ยอดเขาจุงเฟรา – ปราสาทน้ำแข็ง - อัลไพน์ เซนเซชัน – สฟิงซ์ฮอลล์ – เมืองอินเตอร์ลาเคน – สวนเฮอเฮ่อมัท – Unterseen - ทะเลสาบทูน

เช้า : รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม  (มื้อที่7)

พาทุกท่านเที่ยวชม หมู่บ้านเลาเทอร์บรุนเนิน (Lauterbrunnen) (ระยะทาง 18 ก.ม. / 30 นาที) เป็นหมู่บ้านที่อยู่ท่ามกลางหุบเขาสูงชันและยังมี น้ำตกชเตาบ์บาค (Staubbach) ไหลลงมาจากหน้าผา ทำให้ทัศนียภาพของหมู่บ้านแห่งนี้สวยอลังการมากขึ้น แม้จะเป็นหนึ่งในหมู่บ้านวิวสวยที่มีนักท่องเที่ยวแวะเวียนมาต่อเนื่อง แต่เลาเทอร์บรุนเนินยังคงเป็นหมู่บ้านที่เงียบสงบ ไม่วุ่นวาย อิสระให้ท่านเก็บภาพความประทับใจและเดินเล่นในหมู่บ้าน จนถึงเวลาอันสมควรพาท่านเดินทางสู่ สถานีไอเกอร์เกลตเชอร์ (Eigergletcher station) ซึ่งเป็นจุดเชื่อมต่อกับรถไฟจุงเฟราที่จะนำทุกท่านเดินทางสู่ ยอดเขาจุงเฟรา (JUNGFRAUJOCH) TOP OF EUROPE บนเทือกเขาแอลป์ ล้อมรอบด้วยภูเขาไอเกอร์ เมินช์ นอกจากนี้ที่นี่ยังเป็นบริเวณแรกในเทือกเขาแอลป์ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกอีกด้วย ชม ปราสาทน้ำแข็ง เป็นจุดถ่ายรูปสวยๆที่นี่ซึ่งเกิดจากไกด์ภูเขา 2 คนได้เริ่มสลักน้ำแข็งใช้เพียงสิ่วเจาะน้ำแข็งและเลื่อยในปี 1930 โดยทำทางเดินเหมือนโพรงถ้ำเข้าไป เพื่อชมรูปสลักน้ำแข็งต่างๆ อุณหภูมิภายในถ้ำจะคงที่อยู่ที่ -3 องศา อัลไพน์ เซนเซชัน (Alpine Sensation Adventure Tunnel)  หนึ่งในสถานที่เที่ยวของจุงเฟรา อุโมงค์ความยาว 250 เมตร แสดงเรื่องราวของการรถไฟจุงเฟราและการพัฒนาของการท่องเที่ยวในเขตเทือกเขาแอลป์ มีจอภาพยนตร์ 360 องศาที่สฟิงซ์ฮอลล์ โดยภาพยนตร์จะนำพาผู้ชมเข้าสู่โลกอัลไพน์ที่ล้อมรอบจุงเฟรา และ สฟิงซ์ฮอลล์ (Sphinx Observatory) ขึ้นลิฟต์ที่เร็วที่สุดในสวิตเซอร์แลนด์ไปเพียง 25 วินาทีก็จะถึงห้องชมวิวที่จะมองเห็นธารน้ำแข็ง และ วิวกลางแจ้งที่อยู่สูงจากระดับน้ำทะเล 3,571 เมตร พร้อมวิวธารน้ำแข็งอเล็ตช์ มองเลยไปถึงฝรั่งเศส เยอรมนีและอิตาลีได้อีกด้วย

เที่ยง : รับประทานอาหารเที่ยง (มื้อที่8) พร้อมชมวิวธรรมชาติเต็มอิ่มแบบพาโนรามา

นำท่านเดินทางสู่ เมืองอินเตอร์ลาเคน (Interlaken) (ระยะทาง 19 ก.ม. / 30 นาที) เมืองตากอากาศเล็กๆที่สวยเหมือนในฝัน เป็นเมืองแห่งสองทะเลสาบ ตั้งอยู่ระหว่างทะเลสาบ ทูน Thun และทะเลสาบเบรียนซ์ Bienz ล้อมรอบด้วยภูเขามีทิวทัศน์บริสุทธิ์และสวยงามมาก แวะถ่ายภาพสถานที่สวยๆ เริ่มต้นที่ สวนเฮอเฮ่อมัท (Hohematte) พื้นที่เปิดโล่งสีเขียวของเมือง เป็นสนามหญ้าสีเขียวกว้างใหญ่อยู่หน้าโรงแรม The VICTORIA-JUNGFRAU Grand Hotel & Spa มีวิวอันสวยงามซึ่งสามารถมองเห็น 3 ยอดเขาได้ทั้งยอดเขาไอเกอร์, เมินช์ และยอดเขายุงเฟรา เที่ยวชม ย่านเมืองเก่า Unterseen ตั้งอยู่เลียบกับแม่น้ำอาเร่ บริเวณเชิงเขา Harder เมืองเก่าแห่งนี้ยังคงถูกอนุรักษณ์เอาไว้อย่างดี และ ทะเลสาบทูน Lake Thun เป็นทะเลสาบบริเวณเทือกเขาแอลป์

เย็น : รับประทานอาหารเย็น (มื้อที่9)

วันที่ 5
เมืองโคโม่ – ทะเลสาบโคโม่ – เมืองเวโรนา – บ้านของจูเลียต – ประตูบอชารี - จัตุรัส Piazza delle Erbe - ย่านเมสเตร

เช้า : รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม  (มื้อที่10)

นำท่านเดินทางสู่ เมืองโคโม่ (Como) (ระยะทาง 218 กม. / 3.30 ชม.) เป็นเมืองในแคว้นลอมบาร์เดีย ประเทศอิตาลี ตั้งอยู่บริเวณพรมแดนกับประเทศสวิตเซอร์แลนด์ โคโม่เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ในเทือกเขาแอลป์ ทิศเหนือของเมืองอยู่ติดกับทะเลสาบโคโม่ ถือเป็นเมืองท่องเที่ยวยอดนิยมแห่งหนึ่ง เป็นแหล่งรวมชิ้นงานศิลปะชื่อดัง, มีโบสถ์, พิพิธภัณฑ์, สวน, โรงละคร, วังเก่าอยู่มากมาย พาทุกท่านไปเก็บภาพความประทับใจกับ ทะเลสาบโคโม่ (Lake Como) ขึ้นชื่อว่าเป็นทะเลสาบที่สวยที่สุดในโลก ด้วยความยาวโดยรอบ บวกกับพื้นที่รอบๆ ทะเลสาบถึง 146 ตารางกิโลเมตร จึงทำให้ทะเลสาบแห่งนี้กลายเป็นทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 3 ของประเทศอิตาลี

เที่ยง : รับประทานอาหารเที่ยง (มื้อที่11)

นำท่านเดินทางสู่ เมืองเวโรนา (Verona) (ระยะทาง 198 กม. / 2.30 ชม.) เมืองเล็กๆ ในแคว้นเวเนโต ประเทศอิตาลี ได้รับการยกย่องให้เป็นเมืองมรดกโลกทางวัฒนธรรมโดยองค์การ UNESCO มีสมญานามว่า “Little Roman” โดยยังคงสภาพสถาปัตยกรรมจากสมัยโรมันไว้อย่างสมบูรณ์

พาท่านถ่ายภาพด้านนอก บ้านของจูเลียต (Juliet’s House) ถือจุดเช็คอินที่สำคัญมากเมื่อมาถึงเมืองนี้ เพราะเป็นสถานที่สมมติให้เป็นบ้านของ จูเลียต นางเอกของโศกนาฏกรรมความรักจากบทประพันธ์ของ วิลเลียม เชกสเปียร์ (William Shakespeare) ปี ค.ศ. 1595 จุดเด่นของบริเ วณบ้าน คือ กำแพงที่เต็มไปด้วยข้อความและคำอธิษฐานเกี่ยวกับความรัก ทั้งเขียน แปะ เพ้นท์ รวมถึงกุญแจคล้องประตู หรือตามผนังมีชื่อคู่รักหนุ่มสาวเต็มไปหมดจนแทบไม่มีที่ว่าง ข้อความทั้งหมดนั้นมาจากนักท่องเที่ยวบ้าง จากคนในอิตาลีบ้าง เพราะเชื่อว่าจะทำให้ความรักมั่นคงยืนยาวเหมือนโรมิโอกับจูเลียต และ ประตูบอชารี (Porta Borsari) เป็นประตูโรมันโบราณในเวโรนาทางตอนเหนือของอิตาลี ถูกสร้างขึ้นในศตวรรษที่ เป็นอาคารสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่ เป็นด่านทหารในภาคใต้ของเมืองทำหน้าที่เป็นค่ายทหารของกองทัพเวโรนา อาคารมีสองหน้าและนอกชาน มีถนน Postumieva สามารถเดินผ่านสองโค้งได้

จากนั้นพาท่าน อิสระเดินเล่นที่ จัตุรัส (Piazza delle Erbe) ทางด้านเหนือของจัตุรัสเป็นที่ตั้งของศาลาว่าการเมือง กลางจัตุ  รัสเป็นที่ตั้งของรูปปั้นเทพเจ้ากรีก และเสาหินอ่อนประดับสิงโต สัญลักษณ์ของแคว้น ด้านใต้ของจัตุรัสเป็นที่ตั้งของบ้านพ่อค้า และอาคารต่าง ๆ ที่สร้างมาตั้งแต่สมัยยุคกลาง สมควรแก่เวลานัดหมายพาทุกท่านเดินทางมุ่งหน้าสู่ ย่านเมสเตร (Mestre) ในเมืองเวนิส (ระยะทาง 117 กม. / 1.30 ชม.) ย่านนี้มีความสวยงามเเละน่าสนใจเป็นย่างมาก โดยนับว่าเป็นย่านที่มีนักท่องเที่ยวให้ความสนใจมาเที่ยวชมอย่างมาก เพราะมีร้านค้าเเละร้านอาหารมากมายหลายต่อหลายร้านที่มีความน่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง เเละเต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวที่มีความเก่าเเก่เเละสวยงามน่ามาเที่ยวชมเป็นอย่างมาก

เย็น : รับประทานอาหารเย็น (มื้อที่12)

วันที่ 6
ย่านเมสเตร – ท่าเรือตรอนเคตโต้ – เกาะเวนิส – มหาวิหารซานมาร์โก้ – สะพานรีอัลโต – มหาวิหารเซนต์มาร์ก - พระราชวังดอจ์ด - เมืองมิลาน

เช้า : รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม  (มื้อที่13)

นำท่านเดินทางสู่ ท่าเรือตรอนเคตโต้ (Tronchetto) (ระยะทาง 10 กม. / 30 นาที) เพื่อข้ามไปเกาะเวนิส ประเทศอิตาลี พาทุกท่าน นั่งเรือจากท่าเรือตรอนเคตโต้สู่ เกาะเวนิส (Venice Island) ดินแดนแสนโรแมนติก เมืองเวนิสได้รับฉายาว่า ราชินีแห่งทะเลเอเดรียติก (Queen of the Adriatic) เมืองแห่งสายน้ำ เมืองแห่งสะพานและเมืองแห่งแสงสว่าง นำท่านชมความสวยงามของ มหาวิหารซานมาร์โก้ (San Marco) โบสถ์สำคัญแห่งเมืองเวนิสที่เริ่มสร้างขึ้นครั้งแรกตั้งแต่ ค.ศ.823 ผสมผสานศิลปะของหลายยุคขึ้นไว้ด้วยกัน ตั้งแต่ไบเซนไทน์ โรมาเนสก์ โกธิค จนถึงเรอเนสซองซ์ หลังคาของมหาวิหารซานมาร์โกสร้างแบบโดมสุเหร่าของศาสนาอิสลาม โดมกลางมีขนาดใหญ่ที่สุด ประดับโมเสกสีทองอร่ามตั้งแต่หลังคาจรดพื้น จึงได้รับสมญานามว่า “Church of Gold” มาตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 11 เลยทีเดียว สะพานรีอัลโต (Ponte di Rialto) เป็นหนึ่งในสะพานข้ามแกรนด์คาแนล ที่นักท่องเที่ยวนิยมแวะมาถ่ายรูปมากที่สุด เพราะสะพานแห่งนี้มีความเก่าแก่ที่สุด สร้างขึ้นครั้งแรกด้วยไม้ในปี ค.ศ.1181 เลยทีเดียว ต่อมาได้มีการรื้อ และสร้างใหม่ด้วยหินอย่างที่เห็นในปัจจุบัน นอกจากสะพานรีอัลโตจะเชื่อมระหว่างเกาะ San macro กับเกาะ San polo ของเวนิส จากนั้นพาท่าน ชมด้านหน้าของ มหาวิหารเซนต์มาร์ก (St Mark’s Basilica) เป็นมหาวิหารที่ได้รับสมญานามว่า Chiesa d’oro หรือโบสถ์ทองตั้งแต่ในศตวรรษที่ 11 เป็นตัวอย่างอันสำคัญของสถาปัตยกรรมแบบไบ  แซนไทน์ซึ่งตั้งอยู่บนจัตุรัสซันมาร์โกกลางเมืองเวนิส โบสถ์แห่งนี้เป็นโบสถ์โรมันคาทอลิกระดับมหาวิหารประจะเขตอัครบิดรเวนิสในประเทศอิตาลี และ พระราชวังดอจ์ด (Doge’s Palace) เป็นพระราชวังขนาดใหญ่และโอ่อ่าสวยงาม สำหรับเป็นที่พักของดยุคผู้ปกครองเมืองเวนิสในอดีต ตั้งอยู่ที่แลนด์มาร์คสำคัญของเมืองอย่างจัตุรัสซันมาร์โก และมีภายในติดกับมหาวิหาร St Mark’s Basilica ซึ่งเป็นโบสถ์หลักของ

เที่ยง : รับประทานอาหารเที่ยง (มื้อที่14)

จากนั้นนำท่านเดินทางกลับสู่ ท่าเรือตรอนเคตโต้ โดยเรือ และ เดินทางสู่ เมืองมิลาน (ระยะทาง 267 กม. / 4 ชม.) หรือที่         คนอิตาเลียนเรียกว่า มิลาโน่ (Milano) เป็นเมืองหลวงทางแฟชั่นของโลกแข่งกับปารีสในประเทศฝรั่งเศส เป็นศูนย์กลาง      ทางธุรกิจของอิตาลี นอกจากนั้นยังมีภาพวาดเฟรสโก้ที่มีชื่อเสียงโด่งดัง และโรงละครโอเปร่าอันลือชื่อ

เย็น : รับประทานอาหารเย็น (มื้อที่15)

วันที่ 7
เมืองมิลาน – พระราชวังมิลาน – มหาวิหารแห่งมิลาน – โรงละครลาสกาล่า – ซานตามารีอาเดลเลกราซีเอ – ห้างกัลเลรีอาวิตโตรีโยเอมานูเอเลเซคอนโด - ท่าอากาศยานมิลาโนมัลเปนซา

เช้า : รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม  (มื้อที่16)

พาทุกท่านเดินทางสู่ เมืองมิลาน (ระยะทาง 36 กม. / 45 นาที) ถ่ายภาพด้านหน้า พระราชวังมิลาน (Royal Palace of Milan)  เป็นที่ตั้งของรัฐบาลในเมืองมิลาน ของอิตาลี เป็นเวลาหลายศตวรรษ ปัจจุบันทำหน้าที่เป็นศูนย์วัฒนธรรมและเป็นที่ตั้งของนิทรรศการศิลปะระดับนานาชาติ ครอบคลุมพื้นที่กว่า 7,000 ตารางเมตร และเป็นที่จัดแสดงงานศิลปะสมัยใหม่และร่วมสมัย และคอลเล็กชันที่มีชื่อเสียงโดยร่วมมือกับพิพิธภัณฑ์และสถาบันทางวัฒนธรรมที่มีชื่อเสียงจากทั่วโลกเป็นประจำ มหาวิหารแห่งมิลาน Duomo di Milano มหาวิหารนี้สร้างด้วยสถาปัตยกรรมแบบโกธิคที่ถือว่ามีความใหญ่โตเป็นอันดับสามของโลก เริ่มสร้างในปี 1386 แต่กว่าจะเสร็จต้องใช้เวลากว่า 400 ปี ด้านนอกมีหลังคายอดเรียวแหลมที่ทำจากหินอ่อนจำนวน 135 ยอด และมีรูปปั้นหินอ่อนจากสมัยต่างๆ กว่า 2,245 ชิ้น ยอดที่สูงที่สุดมีรูปปั้นทองขนาด 4 เมตร ของพระแม่มาดอนน่าเป็นสง่าอยู่ โรงละครลาสกาล่า (La Scala Theatre) เป็นโรงละครคู่เมืองมิลานมากว่า 230 ปี เป็นสถานที่แสดงโชว์ชื่อดัง ซานตามารีอาเดลเลกราซีเอ (Santa Maria delle Grazie) เป็นโบสถ์และคอนแวนต์ของคณะดอมินิกัน ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโกในปี ค.ศ. 1980 โบสถ์แห่งนี้มีชื่อเสียงเพราะเป็นที่ตั้งของจิตรกรรมฝาผนัง “พระกระยาหารมื้อสุดท้าย” ที่เขียนโดยเลโอนาร์โด ดาวินชีภายในหอฉันของคอนแวนต์

อิสระช้อปปิ้ง ที่ ห้าง Galleria Vittorio Emanuele II มีลักษณะเป็นทางเดินและอาคาร 4 ชั้น คลุมด้วยหลังคาทรงโค้ง ตั้งอยู่ในใจกลางเมืองมิลาน ประเทศอิตาลี ศูนย์การค้าแห่งนี้ตั้งชื่อตามพระเจ้าวิตโตรีโอ เอมานูเอเลที่ 2 แห่งอิตาลี กษัตริย์พระองค์แรกของราชอาณาจักรอิตาลี โดยได้รับการออกแบบในปี พ.ศ. 2404 และสร้างโดยจูเซปเป เมนโกนี ในช่วงปี พ.ศ. 2408 ถึงปี พ.ศ. 2420 ร้านขายเสื้อผ้าชั้นสูง (haute couture) ร้านเครื่องเพชรพลอย ร้านขายหนังสือและภาพเขียน รวมไปถึงร้านอาหาร ร้านกาแฟ และบาร์ ร้านบางร้านยังเป็นหนึ่งในบรรดาร้านค้า และร้านอาหารที่เก่าแก่ที่สุดของเมืองมิลาน

เที่ยง : อิสระอาหารเที่ยงและเย็นเพื่อไม่เป็นการรบกวนเวลาของท่าน ถึงเวลาอันสมควรเวลานัดหมาย พาทุกท่านเดินทางสู่ ท่าอากาศยานมิลาโนมัลเปนซา เมืองมิลาน (ระยะทาง 49 กม. / 1 ชม.) เพื่อเดินทางกลับสู่ กรุงเทพฯ

21.30 น. : เดินทางกลับประเทศไทย โดยสายการบิน OMAN AIR  เที่ยวบินที่ WY144

วันที่ 8
ท่าอากาศยานนานาชาติมัสกัต แวะเปลี่ยนเครื่อง - ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ

07.00 น. : เดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาติมัสกัต ประเทศโอมาน แวะเปลี่ยนเครื่อง

09.05 น. : เดินทางกลับกรุงเทพฯ โดยสายการบิน OMAN AIR  เที่ยวบินที่ WY815

17.45 น. : เดินทางถึง ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพ

เงื่อนไข

ค่าทำหนังสือเดินทางไทย และเอกสารต่างด้าวต่างๆ  จากท่าน

  1. ค่าบริการและยื่นวีซ่าเชงเก้น (ประเทศฝรั่งเศส) 5,500 บาท
  2. ค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่นอกเหนือจากรายการระบุ อาทิเช่น ค่าอาหาร เครื่องดื่ม ค่าซักรีด ค่าโทรศัพท์ เป็นต้น
  3. ค่าภาษีทุกรายการคิดจากยอดบริการ, ค่าภาษีเดินทาง (ถ้ามีการเรียกเก็บ)
  4. ค่าภาษีน้ำมันที่สายการบินเรียกเก็บเพิ่มภายหลังจากทางบริษัทฯได้ออกตั๋วเครื่องบิน และได้ทำการขายโปรแกรมไปแล้ว
  5. ค่าพนักงานยกกระเป๋าที่โรงแรม
  6. ค่าทิปคนขับรถท่านละ 60 EUR /ท่าน สำหรับหัวหน้าทัวร์แล้วแต่ความประทับใจ

กรณีวีซ่าไม่ได้รับการอนุมัติจากสถานทูต(วีซ่าไม่ผ่าน) และท่านได้ชำระค่าทัวร์มาแล้ว ทางบริษัทขอเก็บเฉพาะค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริง เช่นค่าวีซ่าและค่าบริการยื่นวีซ่า/ค่ามัดจำตั๋วเครื่องบิน

(บริษัท ดำเนินการให้ กรณียกเลิกทั้งหมด หรืออย่างใดอย่างหนึ่ง ไม่สามารถรีฟันด์เป็นเงินหรือการบริการอื่นๆได้)

  1. ค่าตั๋วโดยสารเครื่องบินไป-กลับ ชั้นประหยัดพร้อมค่าภาษีสนามบินทุกแห่งตามรายการทัวร์ข้างต้น
  2. ค่าที่พักห้องละ 2-3 ท่าน ตามโรงแรมที่ระบุไว้ในรายการหรือ ระดับใกล้เคียงกัน
  3. กรณีพัก 3 ท่านถ้าวันที่เข้าพักห้องโรงแรม ไม่มีห้อง TRP (3ท่าน) อาจจำเป็นต้องแยกพัก 2 ห้อง (มีค่าใช้จ่ายพักเดี่ยวเพิ่ม) หรือเป็นการเพิ่มเตียงเสริม หรือ SOFA BED และกรณีห้องพักในเมืองที่ระบุไว้ในโปรแกรมมีเทศกาลวันหยุด มีงานแฟร์ต่างๆ บริษัทขอจัดที่พักในเมืองใกล้เคียงแทน โรงแรมที่พักส่วนใหญ่ในยุโรปไม่มีเครื่องปรับอากาศที่สามารถปรับควบคุมความเย็นได้ภายในห้องพัก เนื่องจากสภาพภูมิอากาศหนาวเย็นเกือบทั้งปี
  4. ตั๋วกรุ๊ปไม่สามารถ Upgrade ที่นั่งเป็น Business Class ได้ และต้องเดินทางไป-กลับพร้อมตั๋วกรุ๊ปเท่านั้นไม่สามารถเลื่อนวันได้ ใน กรณีที่ท่านต้องการแยกวันเดินทางกลับหรือไปก่อน โปรดติดต่อเจ้าหน้าที่เพื่อสอบถามราคาอีกครั้ง และการจัดที่นั่งของผู้เดินทาง เป็นการจัดการภายในของสายการบิน ทางบริษัทไม่สามารถเข้าไปเพื่อแทรกแซงได้
  5. ค่าอาหาร ค่าเข้าชม และ ค่ายานพาหนะทุกชนิด ตามที่ระบุไว้ในรายการทัวร์ข้างต้น
  6. เจ้าหน้าที่บริษัท ฯ คอยอำนวยความสะดวกตลอดการเดินทาง
  7. ค่าน้ำหนักกระเป๋า สัมภาระโหลดใต้ท้องเครื่อง 30 กิโลกรัม ถือขึ้นเครื่องได้ 7 กิโลกรัม และค่าประกันวินาศภัยเครื่องบินตามเงื่อนไขของแต่ละสายการบินที่มีการเรียกเก็บ และกรณีน้ำหนักสัมภาระเกินท่านต้องเสียค่าปรับตามที่สายการบินเรียกเก็บ
  8. การประกันการเดินทาง บริษัทฯได้จัดทำแผนประกันภัยการเดินทางสำหรับผู้เดินทางไปต่างประเทศ กับ FWD INSURANCE แบบแผนประกันภัยเดินต่างประเทศ แผน 3 โดยแผนประกันจะครอบคลุมการรักษากรณีลูกค้าติดเชื้อโควิด-19 หรืออุบัติเหตุต่างๆ ซึ่งเกิดขึ้นภายในวันเดินทาง และลูกค้าต้องทำการรักษาในโรงพยาบาลที่ประกันครอบคลุมการรักษาเท่านั้น (เข้ารับรักษาในรูปแบบอื่นๆประกันจะไม่ครอบคลุม) ซึ่งสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมจากเจ้าหน้าทีได้ กรณีลูกค้าต้องการซื้อประกันเพิ่มวงเงินคุ้มครอง เพิ่มความคุ้มครอง สามารถแจ้ง บริษัทฯ ซึ่งความคุ้มครองและข้อยกเว้น เป็นไปตามเงื่อนไขกรมธรรม์ประกันภัย  ประกันภัยเดินทางอันนีโดยทั้งนี้การทำประกันนี้จากบริษัท  มากกว่าข้อบังคับ ตาม พรบ ธุรกิจนำเที่ยว ที่บังคับให้บริษัทนำเที่ยว ทำประกันเฉพาะอุบัติเหตุในการเดินทางเท่านั้น แต่ทั้งนี้ ท่านสามารถศึกษาเงือนไขความคุ้มครองและข้อยกเว้นแผนเติมจากเว็บไซด์ FWD INSURANCE ได้กรณีท่านต้องการซื้อความคุ้มครองเพิ่มเติมสามารถแจ้งความประสงค์มาที่บริษัทฯ
  9. ค่ารถปรับอากาศนำเที่ยวตามระบุไว้ในรายการ พร้อมคนขับรถ (กฎหมายไม่อนุญาตให้คนขับรถเกิน 12 ช.ม./วัน)
  10. ค่า Vat 7% และ ค่าภาษีหัก ณ ที่จ่าย 3%

หมายเหตุ : กรุณาอ่านศึกษารายละเอียดทั้งหมดก่อนทำการจอง เพื่อความถูกต้องและความเข้าใจตรงกันระหว่างท่านลูกค้าและบริษัท ฯ และเมื่อท่านตกลงชาระเงินมัดจาหรือค่าทัวร์ทั้งหมดกับทางบริษัทฯ แล้ว ทางบริษัทฯ จะถือว่าท่านได้ยอมรับเงื่อนไขข้อตกลงต่างๆ ทั้งหมด

  1. บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ที่จะเลื่อนการเดินทางหรือปรับราคาค่าบริการขึ้นในกรณีที่มีผู้ร่วมคณะไม่ถึง 20ท่าน
  2. ขอสงวนสิทธิ์การเก็บค่าน้ามันและภาษีสนามบินทุกแห่งเพิ่ม หากสายการบินมีการปรับขึ้นก่อนวันเดินทาง
  3. บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนเที่ยวบิน โดยมิต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้าอันเนื่องจากสาเหตุต่างๆ
  4. บริษัทฯ จะไม่รับผิดชอบใดๆ ทั้งสิ้น หากเกิดกรณีความล่าช้าจากสายการบิน, การยกเลิกบิน, การประท้วง, การนัดหยุดงาน, การก่อการจลาจล, ภัยธรรมชาติ, การนาสิ่งของผิดกฎหมาย ซึ่งอยู่นอกเหนือความรับผิดชอบของบริษัทฯ
  5. บริษัทฯ จะไม่รับผิดชอบใดๆ ทั้งสิ้น หากเกิดสิ่งของสูญหาย อันเนื่องเกิดจากความประมาทของท่าน, เกิดจากการโจรกรรม และ อุบัติเหตุจากความประมาทของนักท่องเที่ยวเอง
  6. เมื่อท่านตกลงชาระเงินมัดจาหรือค่าทัวร์ทั้งหมดกับทางบริษัทฯ แล้ว ทางบริษัทฯ จะถือว่าท่านได้ยอมรับเงื่อนไขข้อตกลงต่างๆ ทั้งหมด
  7. รายการนี้เป็นเพียงข้อเสนอที่ต้องได้รับการยืนยันจากบริษัทฯอีกครั้งหนึ่ง หลังจากได้สำรองโรงแรมที่พักในต่างประเทศเรียบร้อยแล้ว โดยโรงแรมจัดในระดับใกล้เคียงกัน ซึ่งอาจจะปรับเปลี่ยนตามที่ระบุในโปรแกรม
  8. การจัดการเรื่องห้องพัก เป็นสิทธิของโรงแรมในการจัดห้องให้กับกรุ๊ปที่เข้าพัก โดยมีห้องพักสำหรับผู้สูบบุหรี่/ปลอดบุหรี่ได้ โดยอาจจะขอเปลี่ยนห้องได้ตามความประสงค์ของผู้ที่พัก ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความพร้อมให้บริการของโรงแรม และไม่สามารถรับประกันได้
  9. กรณีผู้เดินทางต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ อาทิเช่น ใช้วิวแชร์ กรุณาแจ้งบริษัทฯ อย่างน้อย14วันก่อนการเดินทาง มิฉะนั้น บริษัทฯไม่สามารถจัดการได้ล่วงหน้าได้
  10. มัคคุเทศก์ พนักงานและตัวแทนของผู้จัด ไม่มีสิทธิในการให้คำสัญญาใด ๆ ทั้งสิ้นแทนผู้จัด นอกจากมีเอกสารลงนามโดยผู้มีอำนาจของผู้จัดกำกับเท่านั้น
  11. ผู้จัดจะไม่รับผิดชอบและไม่สามารถคืนค่าใช้จ่ายต่างๆ ได้เนื่องจากเป็นการเหมาจ่ายกับตัวแทนต่างๆ ในกรณีที่ผู้เดินทางไม่ผ่านการพิจารณาในการตรวจคนเข้าเมือง-ออกเมือง ไม่ว่าจะเป็นกองตรวจคนเข้าเมืองหรือกรมแรงงานของทุกประเทศในรายการท่องเที่ยว อันเนื่องมาจากการกระทำที่ส่อไปในทางผิดกฎหมาย การหลบหนี เข้าออกเมือง เอกสารเดินทางไม่ถูกต้อง หรือ การถูกปฏิเสธในกรณีอื่น ๆ
  12. การประกันการเดินทาง บริษัทฯได้จัดทำแผนประกันภัยการเดินทางสำหรับผู้เดินทางไปต่างประเทศ กับ FWD INSURANCE แบบแผนประกันภัยเดินต่างประเทศ แผน 3 โดยแผนประกันจะครอบคลุมการรักษากรณีลูกค้าติดเชื้อโควิด-19 หรืออุบัติเหตุต่างๆ ซึ่งเกิดขึ้นภายในวันเดินทาง และลูกค้าต้องทำการรักษาในโรงพยาบาลที่ประกันครอบคลุมการรักษาเท่านั้น (เข้ารับรักษาในรูปแบบอื่นๆประกันจะไม่ครอบคลุม) ซึ่งสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมจากเจ้าหน้าทีได้ กรณีลูกค้าต้องการซื้อประกันเพิ่มวงเงินคุ้มครอง เพิ่มความคุ้มครอง สามารถแจ้ง บริษัทฯ ซึ่งความคุ้มครองและข้อยกเว้น เป็นไปตามเงื่อนไขกรมธรรม์ประกันภัย ประกันภัยเดินทางอันนีโดยทั้งนี้การทำประกันนี้จากบริษัท  มากกว่าข้อบังคับ ตาม พรบ ธุรกิจนำเที่ยว ที่บังคับให้บริษัทนำเที่ยว ทำประกันเฉพาะอุบัติเหตุในการเดินทางเท่านั้น แต่ทั้งนี้ ท่านสามารถศึกษาเงือนไขความคุ้มครองและข้อยกเว้นแผนเติมจากเว็บไซด์ FWD INSURANCE ได้กรณีท่านต้องการซื้อความคุ้มครองเพิ่มเติมสามารถแจ้งความประสงค์มาที่บริษัทฯ
  13. มัคคุเทศก์ พนักงานและตัวแทนของผู้จัด ไม่มีสิทธิในการให้คำสัญญาใด ๆ ทั้งสิ้นแทนผู้จัด นอกจากมีเอกสารลงนามโดยผู้มีอำนาจของผู้จัดกำกับเท่านั้น
  14. ผู้จัดจะไม่รับผิดชอบและไม่สามารถคืนค่าใช้จ่ายต่างๆ ได้เนื่องจากเป็นการเหมาจ่ายกับตัวแทนต่างๆ ในกรณีที่ผู้เดินทางไม่ผ่านการพิจารณาในการตรวจคนเข้าเมือง-ออกเมืองไม่ว่าจะเป็นกองตรวจคนเข้าเมืองหรือกรมแรงงานของทุกประเทศในรายการท่องเที่ยว อันเนื่องมาจากการกระทำที่ส่อไปในทางผิดกฎหมาย การหลบหนี เข้าออกเมือง เอกสารเดินทางไม่ถูกต้อง หรือ การถูกปฏิเสธในกรณีอื่น ๆ
Share on social networks
โปรแกรมทัวร์ที่น่าสนใจ
  • พ.ค.65 - ก.ย.65
  • 7 วัน 4 คืน
เริ่มต้น 59,999 บาท
  • ม.ค.66 - เม.ย.66
  • 8 วัน 5 คืน
เริ่มต้น 95,999 บาท
  • เม.ย.65 - ต.ค.65
  • 2 วัน 1 คืน
เริ่มต้น 1,900 บาท