17.00 น. คณะพร้อมกัน ณ สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศ ชั้น 4 ประตู 6 เคาน์เตอร์ M สายการบิน OMAN AIR (WY) โดยมีเจ้าหน้าที่บริษัทฯคอยต้อนรับและอำนวยความสะดวกด้านเอกสารการเดินทาง
20.45 น. ออกเดินทางสู่ ท่าอากาศยานนานาชาติมัสกัต ประเทศโอมาน โดยสายการบิน OMAN AIR เที่ยวบินที่ WY816 (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง) (ใช้เวลาบินประมาณ 6 ชั่วโมง 20 นาที) (เวลาท้องถิ่นประเทศโอมานช้ากว่าประเทศไทย 3 ชั่วโมง)
23.25 น. เดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาติมัสกัต ประเทศโอมาน (เวลาท้องถิ่น) นำท่านแวะพักเปลี่ยนเครื่องเพื่อเดินทางสู่แฟรงก์เฟิร์ต ประเทศเยอรมนี (รอแวะเปลี่ยนเครื่องประมาณ 3 ชั่วโมง 20 นาที)
02.45 น. ออกเดินทางสู่ ท่าอากาศยานนานาชาติแฟรงก์เฟิร์ต ประเทศเยอรมนี โดยสายการบิน OMAN AIR เที่ยวบินที่ WY115 (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง) (ใช้เวลาบินประมาณ 7 ชั่วโมง 20 นาที)
07.05 น. ถึง ท่าอากาศยานนานาชาติแฟรงก์เฟิร์ต ประเทศเยอรมนี นำท่านผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมือง,ศุลกากรและรับสัมภาระเรียบร้อย (เวลาท้องถิ่นประเทศเยอรมันช้ากว่าประเทศไทย 6 ชั่วโมง)
นำท่านเดินทางเข้าสู่ เมืองแฟรงก์เฟิร์ต (Frankfurt) เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดของรัฐเฮ็สเซินและใหญ่เป็นอันดับ 5 ของประเทศเยอรมนี อิสระให้ท่านเดินเล่น จัตุรัสโรเมอร์ (Romerberg) ซึ่งเป็นจัตุรัสที่มีชื่อเสียงเก่าแก่ที่สุดในเมือง อีกทั้งด้านข้างยังมี ศาลาว่าการเมือง (The Romer) หรือ Frankfurt City Hall และ มหาวิหารแฟรงก์เฟิร์ต (Frankfurt Cathedral) มีอีกชื่อนึงว่า “มหาวิหารเซนต์บาร์โธโลมิว” มหาวิหารแห่งนี้นับว่าเป็นแลนด์มาร์กสำคัญของเมือง มีรูปแบบสถาปัตยกรรมโกธิก ที่มีความสูง 95 เมตร มหาวิหารนี้เป็นดั่งศูนย์รวมใจของคนในชาติเยอรมนี และเป็นโบสถ์ที่ใหญ่ที่สุดในเมือง
เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย จากนั้นเดินทางสู่ เมืองโคโลญ (Cologne) เมืองใหญ่เป็นอันดับสี่ของประเทศเยอรมนี และเป็นหนึ่งในเมืองที่เก่าแก่ที่สุด ตั้งอยู่ริมสองฝั่งแม่น้ำไรน์ สถาปัตยกรรมมีการผสมกันระหว่างสิ่งก่อสร้างสมัยใหม่และเก่าอย่างลงตัว นำท่านชมความงดงามตระการตาบริเวณภายนอกของ มหาวิหารโคโลญ (Cologne Cathedral) อายุกว่า 900 ปี ได้รับการขึ้นทะเบียนมรดกโลกจากองค์การยูเนสโก (UNESCO) โดดเด่นด้วยหอคอยคู่ และสถาปัตยกรรมโกธิกที่จัดเป็นแลนด์มาร์กของเมืองโคโลญ คู่กันกับสะพานโฮเอินซอลเลิร์น (Hohenzollern Bridge) สะพานข้ามทางรถไฟที่ทอดข้ามแม่น้ำไรน์ จากนั้นนำท่านเดินเล่นย่านเมืองเก่ารอบมหาวิหาร ชมอาคารต่างๆที่ถูกการบูรณะให้เหมือนเก่าและยังคงถูกรักษาให้มีสถาปัตยกรรมแบบดั้งเดิมไม่ว่าจะเป็นศาลากลางเมือง หรือโบสถ์ต่างๆ
เย็น บริการอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร ***เมนูขาหมูเยอรมัน***
ที่พัก Mercure Hotel Koeln West หรือเทียบเท่า
เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่ อัมสเตอร์ดัม (Amsterdam) เมืองหลวงของประเทศเนเธอร์แลนด์ ตั้งอยู่ริมแม่น้ำ Amstel ซึ่งที่มาของชื่อเมือง มาจากการรวมชื่อของแม่น้ำเข้ากับคำว่า “Dam” ที่แปลว่าเขื่อนจนกลายมาเป็น Amsterdam ทำให้ถูกขนานนามว่า เวนิสแห่งทะเลเหนือ
เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
นำท่าน ล่องเรือกระจก ชมความสวยงามรอบเมืองอัมสเตอร์ดัม เพลิดเพลินไปกับสถานที่สำคัญต่างๆ ร้านค้าสองข้างทาง และวิถีชีวิตของผู้คน จากนั้นรับชมการสาธิตการเจียระไนเพชร (Coster Diamonds) อุตสาหกรรมการเจียระไนเพชรของเนเธอร์แลนด์ได้รับการยกย่องว่าดีที่สุดแห่งหนึ่งของโลก จากนั้นเที่ยวชมรอบเมืองอัมสเตอร์ดัม ถ่ายภาพความสวยงามด้านนอกกับ พระราชวังหลวงอัมสเตอร์ดัม (Royal Palace) อาคารที่หรูหราและโอ่อ่าที่สุดของเนเธอร์แลนด์จัตุรัสดัมสแควร์ (Dam Square) เป็นสัญลักษณ์ของอัมสเตอร์ดัมที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายของประวัติศาสตร์ เป็นย่านที่รายล้อมไปด้วยอาคารเก่าแก่ ศูนย์รวมห้างสรรพสินค้า ร้านอาหาร และคาเฟ่ อิสระช้อปปิ้งย่านคาลเวอร์สตรัส (Kalverstraat) เป็นถนนช้อปปิ้งที่พลุกพล่าน สินค้าแฟชั่นแนวไฮสตรีททั้งรองเท้าและกระเป๋า เปิดประสบการณ์กับย่านโคมแดง (Red Light District) แหล่งท่องเที่ยวยามราตรี แสงสียามค่ำคืนและบรรยากาศของสาวงามตู้กระจกที่ให้บริการแบบถูกกฎหมายตลอดเส้นทาง
เย็น อิสระให้ท่านได้มีเวลาเพลิดเพลินไปกับเมืองอัมสเตอร์ดัม
ที่พัก NH Amsterdam Schiphol Airport หรือเทียบเท่า
เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
เดินทางไปยังหมู่บ้านกังหันลม ซานส์ สคานส์ (Zaanse Schans) ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของอัมสเตอร์ดัม ปัจจุบันเป็นพิพิธภัณฑ์เปิดให้เข้าชมวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชาวดัชต์ ที่ใช้กังหันลมกว่าร้อยแห่งในงานอุตสาหกรรมมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 17-18 โดยทำหน้าที่ผลิตน้ำมันจากดอกมัสตาร์ด กระดาษงานไม้ นอกจากนี้ภายในหมู่บ้านแห่งนี้ยังมีพิพิธภัณฑ์ที่น่าสนใจ อาทิเช่น พิพิธภัณฑ์เบเกอรี่ชีสฟาร์ม นาฬิกา ร้านขายเครื่องกาแฟและชา โรงอบน้ำมัน (Oil Mill) และโรงงานทำรองเท้าไม้ที่อยู่คู่กับชาวดัชต์มาแต่โบราณ
เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย เดินทางสู่ หมู่บ้านชาวประมงโวเลนดัม (Volendam) เป็นเมืองประมงทางทะเลที่มีความโดดเด่นในเรื่องของท่าเรือและหมู่บ้านชาวประมงอันแสนคึกคัก รวมไปถึงลักษณะการแต่งกายในแบบดั้งเดิมของชาวดัตช์ ซึ่งปัจจุบันยังคงได้รับการอนุรักษ์เอาไว้เป็นอย่างดี จากนั้นนำท่านเดินทางไปยังเมือง จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมืองอูเทรคต์ (Utrecht) เมืองแห่งการศึกษา มีมหาวิทยาลัยเก่าแก่ และมีนักศึกษาปั่นจักรยานไปมาอย่างคึกคัก สมกับเป็นหนึ่งในเมืองจักรยานที่มีชื่อเสียงระดับโลก ใจกลางเมืองโบราณของอูเทรคต์มีอาคารและสิ่งปลูกสร้างมากมายซึ่งมีอายุย้อนไปถึงยุคกลาง เป็นศูนย์กลางทางศาสนาของเนเธอร์แลนด์ตั้งแต่ศตวรรษที่ 8 มหาวิหารเซนต์มาร์ติน (St. Martin’s Cathedral) เป็นโบสถ์แบบกอทิก ด้านในมีความสวยงาม ผนังประดับด้วยหน้าต่างกระจกสี คลองโบราณเอาเดอแครคว์ (Oudergracht) ซึ่งในช่วงปลายปีตามสะพานและท่าเรือของเมืองจะตกแต่งด้วยแสงไฟระยิบระยับสว่างไสวไปทั่ว
สมควรแก่เวลานำท่านเข้าสู่เมืองรอตเทอร์ดาม (Rotterdam) เมืองท่าหลักและใหญ่เป็นอันดับสองของประเทศเนเธอร์แลนด์ ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำมาส (Maas River) รอตเทอร์ดามนับเป็นเมืองท่าใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก มีความหลากหลายทางวัฒนธรรม นำท่านถ่ายรูปกับ ตลาดในร่มแห่งแรกของเนเธอร์แลนด์ (Markthal) ประตูทางเข้าเป็นแบบซุ้มโค้งมีรูปลักษณ์โดดเด่นสะดุดตา ผนังด้านบนถูกตกแต่งด้วยผลงานศิลปะที่ใหญ่ที่สุดในโลกในชื่อ Horn of Plenty บ้านลูกบาศก์ (Cube Houses) สีเหลืองสะดุดตาจนกลายเป็นจุดที่ผู้คนหลั่งไหลมาถ่ายรูป อาคารทำเนียบขาว (Witte Huis) เป็นหนึ่งในอาคารไม่กี่แห่งในใจกลางเมืองรอตเตอร์ดัมที่รอดชีวิตจากการทิ้งระเบิดในปี 1940 ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง ปัจุบันอาคารทำเนียบขาวใช้เป็นพื้นที่สำนักงานและร้านกาแฟ
เย็น บริการอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร
ที่พัก NH Atlanta Rotterdam หรือเทียบเท่า
เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
เดินทางเข้าสู่เมืองบรูกส์(Bruges) (ระยะทาง 176 กม. ประมาณ 2.30 ชม.) เมืองมรดกโลกริมทะเลสาบแห่งเบลเยี่ยม เมืองขนาดเล็กที่เต็มไปด้วยความสวยงาม เรียบง่าย ท่ามกลางบรรยากาศสบายๆ จากภูมิทัศน์ที่แวดล้อมไปด้วยแม่น้ำลำคลอง และวิถีชีวิตที่ไม่เร่งรีบของชาวเมือง แต่ก็ยังคงไว้ซึ่งคุณค่าทางสถาปัตยกรรม ประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม เที่ยวชมจัตุรัสกลางเมืองบรูกส์ (Markt Square) ใจกลางเมืองที่แวดล้อมไปด้วยสถาปัตยกรรมสำคัญอย่างศาลาว่าการเมืองบรูกส์ (Brugels Town Hall) อาคารสไตล์กอธิค (Gothic) ที่ยังคงเป็นที่ตั้งหน่วยงานต่างๆ ของเมืองอยู่จนถึงปัจจุบัน หอระฆังประจำเมือง (Belfry of Bruges) ยังทำหน้าที่ส่งเสียงเพลงอันไพเราะจากระฆังจำนวน 48 ใบที่ติดตั้งอยู่ภายในหอ
เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร ***เมนูเลื่องชื่อ หอยแมลงภู่อบไวน์ขาว***
บ่าย จากนั้นเดินทางเข้าสู่กรุงบรัสเซลส์ (Brussels) (ระยะทาง 130 กม. ประมาณ 2 ชม.) เมืองหลวงของประเทศเบลเยี่ยม นำ ท่านถ่ายรูปคู่ อะตอมเมียม (Atomium) ประติมากรรม รูปอะตอมมหึมา สัญลักษณ์จากการรวมตัวครั้งแรกของกลุ่มประเทศยุโรปเมื่อปี ค.ศ. 1959 ถ่ายรูปด้านนอกกับพระราชวังหลวงแห่งบรัสเซลส์ (Royal Palace of Brussels) เป็นสถานที่ที่กษัตริย์เบลเยี่ยมใช้เป็นที่ประทับทรงงานและปฏิบัติพระราชกรณียกิจต่างๆ ถ่ายรูปคู่รูปปั้นเด็กชายกำลังฉี่ (Manneken Pis) ประติมากรรมที่ถูกใช้เป็นสัญลักษณ์ในการแสดงความเข้มแข็ง และสามัคคีของชาวบรัสเซลส์ มาตั้งแต่การรอดพ้นจากความเสียหายอย่างน่าอัศจรรย์ ในเหตุการณ์ปฎิวัติฝรั่งเศส บริเวณจัตุรัสกรองด์ ปลาส (Grand-Place) จัดเป็นหนึ่งในจตุรัสที่สวยงามที่สุดในยุโรป เป็นสถานที่ซึ่งเป็นจุดรวมของอาคารและสถาปัตยกรรมที่สวยงามและเก่าเเก่เเบบบาร็อก โกธิก เเละนีโอโกธิก ศาลาว่าการกรุงบรัสเซลส์ (Brussels Town Hall) เป็นสถาปัตยกรรมเก่าเเก่ เเละเป็นอาคารที่ถือว่างดงามมาก มีจุดเด่นอยู่ที่ยอดแหลมของหอแขวนระฆัง อิสระให้ท่านช้อปปิ้งตามอัธยาศัยที่ ถนน Avenue Louise เป็นถนนที่มีชื่อเสียง เรียงรายไปด้วยร้านเสื้อผ้าแฟชั่นระดับไฮเอนด์
เย็น บริการอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร
ที่พัก Gresham Belson Hotel Brussels หรือเทียบเท่า
เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
ออกเดินทางเข้าสู่ มหานครปารีส (Paris) (ระยะทาง 315 กม.ประมาณ 4.30 ชม.) เมืองหลวงของฝรั่งเศส สถานที่ในฝันแห่งหนึ่งของนักท่องเที่ยวทั่วโลก ตั้งอยู่บริเวณแม่น้ำแซน บริเวณตอนเหนือของประเทศ หนึ่งในศูนย์กลางทางเศรษฐกิจและวัฒนธรรมที่ล้ำสมัยแห่งหนึ่งของโลก เมืองแห่งศิลปะ วัฒนธรรม แฟชั่น การศึกษา อบอวลไปด้วยความโรแมนติก เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ และความสวยงามของมหานครแห่งนี้
เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย เข้าชมพระราชวังแวร์ซาย (Versailles Palace) ชมความหรูหราอลังการของพระราชวังที่สร้างแรงบันดาลใจให้เกิดงานศิลปะมากมาย ซึ่งทั่วโลกยกย่องว่าพระรางวังแวร์ซาย เป็นที่รวบรวมเอกลักษณ์แห่งศิลปกรรมของฝรั่งเศส และที่ประทับต่างๆของราชวงศ์บูร์บงตั้งแต่สมัยพระเจ้าหลุยส์ที่ 14
เย็น บริการอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร ***เมนูเอสคาโก้ เสิร์ฟพร้อมไวน์ท่านละ 1 แก้ว หรือ Soft Drink***
ที่พัก Novotel Paris Est หรือเทียบเท่า
เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
เดินทางเข้าสู่ ย่านมงมาร์ต (Montmartre ) ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของมหานครปารีส เนื่องจากเป็นพื้นที่บนเนินสูง จึงทำให้สามารถมองเห็นวิวของปารีสได้เเบบพาโนรามา ย่านนี้ถูกขนานนามว่าเต็มไปด้วยจิตวิญญาณของศิลปิน ชมมหาวิหารซาเครเกอร์ (Bassilica of Sacre Coeur) (ด้านนอก) ตัวโบสถ์นั้นถูกสร้างขึ้นในสไตล์ไบเซนไทน์ (Byzantine-style) ตัววิหารซาแครเกอร์ก่อจากหินปูนทราเวอร์ทีน เป็นหินที่โดดเด่นเรื่องการทนต่อสภาวะอากาศส่งผลให้ตัววิหารเองยังคงความงดงามมาได้จนทุกวันนี้
เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย ได้เวลาอันสมควรนำท่านล่องเรือ บาโต มูช (Bateaux-Mouches) เรือชมวิวแม่น้ำแซนน์ ที่ไหลผ่านใจกลางกรุงปารีส ชมความงามของสถาปัตยกรรมอันโอ่อ่าสองฝั่งแม่น้ำ เช่น พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ เกาะกลางแม่น้ำอีลเดอลาซิติ มหาวิหารนอเทรอดาม รูปปั้นเทพีเสรีภาพ หอไอเฟล หนึ่งในความประทับใจที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเยือนปารีส
ผ่านชมลานประวัติศาสตร์ จัตุรัสคองคอร์ด (Place de la Concord) ในสมัยปฏิวัติฝรั่งเศส ถนนสายโรแมนติก ชองป์ เอลิเซ่ (Champs Elysees) ซึ่งได้รับการขนานนามว่าเป็นถนนที่สวยที่สุดในโลกที่เต็มไปด้วยร้านค้าแบรนด์เนมจากดีไซเนอร์ชื่อก้องโลกและยังคงรักษารูปแบบสถาปัตยกรรมของตึกในสมัยโบราณ ประตูชัย สัญลักษณ์แห่งชัยชนะของนโปเลียน ถ่ายรูปที่ระลึกกับ หอไอเฟล แลนด์มาร์คแห่งปารีส หอคอยโครงสร้างเหล็กที่มีความสูงสง่า ที่เป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวทั่วโลก เมื่อมาเยือนประเทศฝรั่งเศสก็ต้องมาชมความงาม พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ หรือพระราชวังลูฟวร์ในอดีต เป็นพิพิธภัณฑ์ที่มีชื่อเสียงและโด่งดังที่สุดของปารีส เป็นที่รวบรวมงานศิลปะที่มีค่าที่มีของโลกจำนวนมหาศาล และ มหาวิหารน็อทร์ดามแห่งปารีส มหาวิหารสูงตระหง่านสมัยศตวรรษที่ 13 ที่มีเสาค้ำยันลอยและรูปสลักการ์กอยล์
เย็น บริการอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร
ที่พัก Novotel Paris Est หรือเทียบเท่า
เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
อิสระให้ท่านช้อปปิ้ง ห้างแกลเลอรี่ ลาฟาแยตต์ (Galeries Lafayette) ห้างหรูที่มีชื่อเสียงมากที่สุดแห่งหนึ่งของปารีส ภายในอาคารเต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมที่สวยงาม อีกทั้งยังยิ่งใหญ่อลังการ สมกับเป็นห้างสรรพสินค้าที่มีอายุมากกว่า 100 ปี เต็มไปด้วยสินค้าแฟชั่นแบรนด์เนม เครื่องสำอางมากมาย อาทิ Chanel , Christian Dior, Prada, Balenciaga ฯลฯ รวมไปถึงมีภัตตาคารซึ่งให้บริการอาหารฝรั่งเศสซึ่งเป็นรสชาติเฉพาะของเมืองปารีสอีกมากมาย หรืออิสระถ่ายรูปกับสถาปัตยกรรมอันโดดเด่น เช่น โอเปร่ากานิเยร์ และบริเวณใจกลางเมือง หรือห้างลา ซามาริแตน (La Samaritaine) ห้างสรรพสินค้าคอนเซ็ปต์สโตร์ที่กลับมามีชีวิตอีกครั้งนับตั้งแต่เปิดทำการเมื่อปี 1870
เที่ยง อิสระอาหารกลางวัน เพื่อไม่เป็นการเสียเวลาในการช้อปปิ้ง
บ่าย อิสระให้ท่านช้อปปิ้งที่ ลาวัลเลย์ วิลเลจ เอาท์เลท (La Vallee Village) เป็นเอาท์เลทจำหน่ายสินค้าแบรด์เนมชื่อดังต่างๆ เช่น Fendi , Gucci, Celine, Dolce & Gabbana, Versace
17.00 ได้เวลาอันสมควรนำท่านเดินทางไปยัง ท่าอากาศยานนานาชาติปารีส-ชาร์ล เดอ โกล
21.10 น. ออกเดินทางสู่ ท่าอากาศยานนานาชาติมัสกัต ประเทศโอมาน โดย สายการบิน OMAN AIR (WY) เที่ยวบินที่ WY132 (ใช้เวลาบินประมาณ 7 ชั่วโมง)
07.10 น. เดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาติมัสกัต ประเทศโอมาน นำท่านแวะพักเปลี่ยนเครื่อง เพื่อเดินทางสู่ประเทศไทย (รอแวะเปลี่ยนเครื่องประมาณ 1 ชั่วโมง 50 นาที)
09.00 น. ออกเดินทางสู่ ประเทศไทย โดย สายการบิน OMAN AIR (WY) เที่ยวบินที่ WY815 (ใช้เวลาบินประมาณ 5 ชั่วโมง 45 นาที)
17.45 น. เดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพและความประทับใจ
อัตราค่าบริการนี้รวม
อัตราค่าบริการนี้ ไม่ รวม
หมายเหตุ : รายการทัวร์ท่องเที่ยว โรงแรม เมนูอาหาร สามารถเปลี่ยนแปลงตามความเหมาะสม โดยมิต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้าโดยมีตัวแทนบริษัท (มัคคุเทศก์,หัวหน้าทัวร์,คนขับรถของแต่ละสถานที่) เป็นผู้บริหารเวลาปรับเปลี่ยนตามความเหมาะสม *กรณีที่บางรายการไม่สามารถเป็นไปตามโปรแกรมที่กำหนดได้เนื่องจากสภาวะอากาศหรือสภาพการจราจรในแต่ละสถานที่นั้นๆ โดยทางตัวแทนบริษัทฯ จะจัดเป็นรายการหรือพาหนะอื่นแทนและจะคำนึงถึงความปลอดภัยและประโยชน์ของผู้เดินทางเป็นสำคัญ
เงื่อนไขการให้บริการ
การยกเลิก
หมายเหตุ
Error: Contact form not found.