กัสโต้ เวิล์ด ทัวร์

บริการคุณภาพ ทุกเส้นทางท่องเที่ยว

เลขที่ 11/03295

ทัวร์ยุโรป เนเธอร์แลนด์ เบลเยี่ยม

รหัส 007-3210
วันที่เดินทาง
มิ.ย.66
ช่วงเวลา
7 วัน 5 คืน
ราคาเริ่มต้น
69,990 บาท
แผนการเดินทาง
วันที่ 1
สนามบินสุวรรณภูมิ – สนามบินอัมสเตอร์ดัมสคิปโฮล

09.30 : นัดหมายพร้อมกันที่ สนามบินสุวรรณภูมิ ประเทศไทย โปรดสังเกตุป้าย เลทส์โกกรุ๊ป พบเจ้าหน้าที่คอยให้การต้อนรับพร้อมอำนวยความสะดวกเช็คอินให้แก่ท่าน

12.30 : ออกเดินทางสู่ สนามบินอัมสเตอร์ดัมสคิปโฮล ประเทศเนเธอร์แลนด์ โดยสายการบิน EVA AIRWAYS เที่ยวบิน BR075 (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง) ใช้เวลาในการเดินทาง ประมาณ 12 ชั่วโมง 30 นาที

19.30 : เดินทางถึง สนามบินอัมสเตอร์ดัมสคิปโฮล ประเทศเนเธอร์แลนด์ ผ่านการตรวจคนเข้าเมืองรับสัมภาระผ่านจุดคัดกรองตามระเบียบของสนามบิน นำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก พักผ่อนตามอัธยาศัย

วันที่ 2
หมู่บ้านกีธูร์น – ล่องเรือชมหมู่บ้านกีธูร์น – ล่องเรือหลังคากระจก – สถาบันเจียระไนเพชร – พิพิธภัณฑ์แวนโก๊ะ โรงงานผลิตเบียร์ไฮเนเก้น – พิพิธภัณฑ์แห่งชาติ เมืองอัมสเตอร์ดัม – จัตุรัสดัมสแควร์ – ย่านโคมแดง

เช้า : บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

นำท่านเดินทางสู่ หมู่บ้านกีธูร์น (Giethoorn) (ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 1.30 ชั่วโมง) หมู่บ้านในฝันที่ปราศจากถนน ของ ประเทศเนเธอร์แลนด์ (Netherlands) ใช้การโดยสารผ่านทางเรือบนคลองรอบหมู่บ้านเท่านั้น มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักกันดีในฐานะ “เวนิสแห่งเนเธอร์แลนด์ (Venice of Netherland) ” จากการที่เป็นหมู่บ้านปราศจากถนน แต่ต้องเดินทางผ่านคลองซึ่งมีความยาวราว 7.5 กิโลเมตร และมีสะพานเชื่อมเพื่อใช้เป็นทางเดินติดต่อกันภายในหมู่บ้านกว่า 180 สะพาน ซึ่งกว่าจะมาเป็นหมู่บ้านแสนสวยที่เราเห็นอยู่ทุกวันนี้ ที่นี่ถูกค้นพบโดยชาวเมดิเตอร์เรเนียนเมื่อปี 1230 ในขณะนั้นมีซากเขาแพะกองอยู่เต็มไปหมด จึงได้ตั้งชื่อว่า “เกย์เธนฮอร์น” ซึ่งหมายถึง เขาแพะ แต่เมื่อเวลาผ่านไปเรื่อยๆ ก็ออกเสียงเพี้ยนจนกลายมาเป็น ” กีธูร์น ” ในที่สุด ส่วนสาเหตุของแม่น้ำทั้งหมดซึ่งอยู่ที่นี่ก็เล่าต่อกันมาว่า เป็นเพราะในอดีตที่นี่เคยถูกใช้เป็นเหมืองขุดถ่านหินเลนมาก่อน และรูที่ถูกขุดนั้นก็กลายมาเป็นทางให้น้ำไหลเข้ามา และคนในสมัยก่อนก็ใช้สายน้ำเหล่านี้เป็นทางขนส่งถ่านหินเลนในที่สุด * ไม่รวมค่าบริการ ล่องเรือหมู่บ้านกีธูร์น (Giethoorn Boat) ใช้เวลาล่องเรือประมาณ 30 นาที) ราคาเรือต่อท่านประมาณ 5-6 ยูโร หรือประมาณ 200-250 บาท*

เที่ยง : บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารท้องถิ่น

นำท่าน ล่องเรือหลังคากระจก (Lover Boat  Cruise) เพื่อชมบ้านเรือน และ วิถีชีวิตความเป็นอยู่แบบชาวดัชต์ที่ ใช้เวลาล่องเรือประมาณ 1 ชั่วโมง

นำท่านเดินทางสู่ สถาบันเจียระไนเพชร (Diamonds and Jewelry Factory) อุตสาหกรรมจากวิทยากรผู้ชำนาญตลอดจนขั้นตอนการเจียระไนเพชรให้เป็นอัญมณีที่มีค่าที่สุด

นำท่านผ่านชม พิพิธภัณฑ์แวนโก๊ะ (Van Gogh Museum) เป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปะที่ทุ่มเทให้กับการทำงานของ Vincent Van Gogh พิพิธภัณฑ์มีคอลเล็กชันภาพวาดและภาพวาดของแวนโก๊ะที่ใหญ่ที่สุดในโลก ในปี 2017  หมายเหตุ: ไม่รวมบัตรค่าบัตรเข้าชม 19 Euro หรือ ประมาณ 760 บาท

นำท่านผ่านชม โรงงานผลิตเบียร์ไฮเนเก้น (Heineken Experience) ต้นกำเนิดของเบียร์ไฮเนเก้นอยู่ที่เมืองอัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์ ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1864 ปัจจุบันไฮเนเก้นเป็นบริษัทผลิตเบียร์รายใหญ่ที่สุดอันดับ 3 ของโลก หมายเหตุ: ไม่รวมบัตรค่าบัตรเข้าชมประมาณ 18 EUR

นำท่านถ่ายรูปเป็นที่ระลึกกับ พิพิธภัณฑ์แห่งชาติ เมืองอัมสเตอร์ดัม (Rijksmuseum) สถานที่ที่รวบรวมงานศิลปะของจิตรกรชาวดัตช์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าเยี่ยมชมมานานนับ 10 ปีแล้ว มีจัดแสดงผลงานของเหล่าจิตรกรมากมาย หมายเหตุ: ไม่รวมบัตรค่าบัตรเข้าชมประมาณ 20 EUR

นำท่านเดินทางสู่ สถาบันเจียระไนเพชร (Diamonds and Jewelry Factory) อุตสาหกรรมจากวิทยากรผู้ชำนาญตลอดจนขั้นตอนการเจียระไนเพชรให้เป็นอัญมณีที่มีค่าที่สุด

นำท่านเดินทางสู่ จัตุรัสดัมสแควร์ (Dam Square) หรือจัตุรัสดาม เป็นสัญลักษณ์ของอัมสเตอร์ดัมที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายของประวัติศาสตร์ และยังเป็นที่ตั้งของ พระราชวังหลวง (Royal Palace) โดยเป็นที่ตั้งของอนุสาวรีย์แห่งชาติเพื่อเป็นการระลึกถึงผู้ที่ตกเป็นเหยื่อของสงครามโลกครั้งที่ 2 และเป็นย่านที่รายล้อมไปด้วยอาคารเก่าแก่ เป็นศูนย์รวมห้างสรรพสินค้า ร้านอาหาร และคาเฟ่ ทั้งยังเป็นสถานที่รวมตัวอันมีชีวิตชีวาไม่ว่าในโอกาสงานเฉลิมฉลองหรือการประท้วงต่างๆ สิ่งที่ไม่ควรพลาดชมเมื่อไปดามสแควร์ คือ แท่นหินสีขาวซึ่งเป็นอนุสาวรีย์แห่งชาติที่สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1956 เพื่อระลึกถึงทหารผ่านศึกจากสงครามโลกครั้งที่ 2 นอกจากนี้ยังมีห้าง de Bijenkorf เป็นห้างที่ตั้งอยู่ตรงดัมสแควร์ เเละเป็นห้างใหญ่สุดในอัมสเตอร์ดัม ชื่นชอบการช็อปปิ้งสินค้าเเบรนด์เนมต้องมาที่นี่ ไม่ว่าจะเป็น Louis Vuitton, Balenciaga, Stella Mccartney เเละอีกหลากหลายเเบรนด์ก็มีให้ได้เลือกชม รวมถึงเครื่องสำอาง เสื้อผ้ารองเท้าหรือขนมของฝาก

นำท่านเดินทางสู่ ย่านโคมแดง (Red Light District) แหล่งท่องเที่ยวยามราตรี ที่ไม่ควรพลาดเมื่อได้มาถึงอัมสเตอร์ดัม เป็นแหล่งแสงสียามค่ำคืนและบรรยากาศของสาวงามในตู้กระจกที่ให้บริการอย่างถูกกฎหมาย เป็นแหล่งรวมบาร์ พิพิธภัณฑ์ และ เซ็กซ์ช้อป จำนวนมากมาย

ค่ำ : อิสระอาหารค่ำ ตามอัธยาศัยเพื่อสะดวกแก่การช้อปปิ้ง

วันที่ 3
หมู่บ้านกังหันลม ซานส์ สคันส์ – โรงงานชีส – เมืองฮาร์เลม – Grote Kerk – แลนด์มาร์ค วินด์มิลล์กังหันลม – พิพิธภัณฑ์เทย์เลอร์ - เมืองเดอะเฮก – พิธภัณฑ์เมาริช – บินเนนฮอฟ – วังสันติภาพ – เมืองรอตเทอร์ดาม – โบสถ์เซนต์ลอเรนซ์ – บ้านลูกบาศก์ - Euromast Tower

เช้า : บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

นำท่านเดินทางสู่ หมู่บ้านกังหันลม ซานส์ สคันส์ (Zaanse Schans) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาที) ปัจจุบันเป็นพิพิธภัณฑ์เปิดของประเทศเนเธอร์แลนด์ ท่านสามารถเข้าชมวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชาวดัชต์ ที่ใช้กังหันลมกว่าร้อยแห่ง ในงานอุตสาหกรรมมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 17-18 อิสระให้ท่านเดินชื่นชมบรรยากาศและถ่ายรูปตามอัธยาศัย

นำท่านชม โรงงานชีส (Cheese Factory) เมื่อเข้าไปยังภายในท่านจะได้เห็นขั้นตอนการทำชีสแบบต่างๆ รวมถึงมีชีสให้ท่านได้ลิ้มลอง ท่านยังสามารถเลือกซื้อชีสต่างๆได้

นำท่านเดินทางสู่ เมืองฮาร์เลม (Heerlem) (ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 40 นาที) ฮาร์เลม เป็นนครและเทศบาลในประเทศเนเธอร์แลนด์ ถูกยกระดับเป็นเมืองเมื่อปี ค.ศ. 1245 และสร้างกำแพงเมืองแล้วเสร็จในปี ค.ศ. 1270

นำท่านถ่ายรูปด้านนอกของโบสถ์ Grote Kerk or  St. Bavokerk ที่ตั้งอยู่ในจัตุรัส Grote Markt เป็นโบสถ์ชั้นนำในฮาร์เลมและเป็นหนึ่งในสถานที่สำคัญที่คนรู้จักมากที่สุดของเมือง สร้างขึ้นในทศวรรษที่ 1500 โบสถ์ Grote Kerk ได้ยืนหยัดในฐานะโครงสร้างอันโอ่อ่าในใจกลางฮาร์เลม ด้วยหน้าต่างกระจกสีที่สวยงาม และการออกแบบที่สวยงามพร้อมคานเพดานไม้ โบสถ์แห่งนี้จึงเป็นโครงสร้างทางศาสนาที่ยอดเยี่ยม

นำท่านถ่ายรูปกับ แลนด์มาร์ค วินด์มิลล์กังหันลม (Landmark Windmill) ฮาร์เลมเป็นที่ตั้งของกังหันลม Moeln De Adriaan ซึ่งเดิมสร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2321 โครงสร้างที่มีอยู่ในปัจจุบันนี้เป็นการบูรณะใหม่เนื่องจากของเดิมถูกไฟไหม้ในปี พ.ศ.2481

นำท่านผ่านชม พิพิธภัรฑ์เทย์เลอร์ (Teylers Museum) พิพิธภัณฑ์เทย์เลอร์ เป็นอาคารอันโอ่อ่าริมแม่น้ำ มีสถานที่ท่องเที่ยวสามแห่งในรูปแบบของงานศิลปะ ประวัติศาสตร์ ธรรมชาติ และคอลเล็กชัน วิทยาศาสตร์

 เที่ยง : บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารจีน

นำท่านเดินทางสู่ เมืองเดอะเฮก (The Hague) (ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง) เดอะเฮก หรือ กรุงเฮก เป็นที่ตั้งของรัฐบาลเนเธอร์แลนด์และศาลยุติธรรมระหว่างประเทศหรือศาลโลก

นำท่านผ่านชม พิพิธภัณฑ์เมาริช (Mauritshuis Museum) เป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปะที่ตั้งอยู่ในใจกลาง The Hague อาคารนี้สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1636 ในสไตล์ดัตช์คลาสสิก มีคอลเล็กชั่นงานศิลปะภายในพิพิธภัณฑ์มีมากมาย กว่า 800 ชิ้น

นำท่านชม บินเนนฮอฟ (Binnenhof) อาคารขนาดใหญ่ เป็นอาคารรัฐสภาเก่าแก่ที่สุดที่ยังคงใช้งานอยู่ สร้างขึ้นคั้งแรกในทศวรรษ 1200 ไม่ค่อยมีใครรู้จักประวัติศาสตร์ยุคแรกๆ ของอาคารนี้มากนัก แต่ในไม่ช้าก็กลายเป็นสถานที่สำคัญสำหรับการประชุมทางการเมืองตลอดช่วงทศวรรษ 1600

นำท่านถ่ายรูปด้านนอก วังสันติภาพ (Peace Palace) อาคารสำหรับบริหารงานกฎหมายและเป็นที่ตั้งของหน่วยงานต่างๆรวมถึงศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ อาคารนี้สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2456 และมีการออกแบบสไตล์นีโอเรเนซองส์ที่สวยงามและมีรายละเอียดสูง พร้อมด้วยหอระฆังขนาดใหญ่และส่วนหน้าที่โค้งอันวิจิตรงดงาม ภายในวังค่อนข้างหรูหราและมีรูปปั้นครึ่งตัวของผู้มีชื่อเสียงอย่างคานธีและเนลสัน แมนเดลา

นำท่านเดินทางสู่ เมืองรอตเทอร์ดาม (Rotterdam) (ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 30 นาที) รอตเทอร์ดาม เป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสองของประเทศเนเธอร์แลนด์ รอตเทอร์ดามเป็นที่ตั้งของท่าเรือที่ใหญ่ที่สุดของยุโรป จึงเป็นศูนย์กลางการขนส่งและเศรษฐกิจที่สำคัญแห่งหนึ่ง เป็นที่ตั้งของมหาวิทยาลัยที่มืชื่อเสียงหลายแห่ง เช่น มหาวิทยาลัยอีราสมุส ซึ่งมีชื่อเสียงทางด้านเศรษศาสตร์ และสถาบันสถาปัตยกรรมแห่งเนเธอร์แลนด์ เป็นมหานครริมน้ำ เมืองหลวงทางวัฒนธรรม มีมรดกทางการเดินสมุทร และมีสถาปัตยกรรมยุคใหม่ตั้งอยู่มากมาย รอตเทอร์ดามได้รับความเสียหายอย่างหนักจากสงครามโลกครั้งที่ 2 จึงได้มีการสร้างบูรณะสร้างอาคารใหม่รวมถึงตึกระฟ้าจำนวนมากมาย จน ในปี ค.ศ. 2007 ได้รับการส่งเสริมการท่องเที่ยวเป็น เมืองแห่งสถาปัตยกรรม จากการที่ตั้งอยู่บริเวณปากน้ำแม่น้ำไรน์ แม่น้ำเมิซ และแม่น้ำสเกลต์ รอตเทอร์ดามจึงเป็นจุดเริ่มต้นสู่การคมนาคมทางเรือสู่ภูมิภาคอื่นของยุโรปตะวันตก รวมถึงเขตอุตสาหกรรมในประเทศเยอรมัน มีโครงข่ายระบบ ราง ถนน คลองเชื่อมจนรอตเทอร์ดามได้รับฉายาว่า ประตูสู่ยุโรป

               นำท่านชม The Old Harbor ท่าเรือเก่าแก่ ท่าเรือเล็กๆของชาว Rotterdam ที่มีร้านต่างๆมากมายให้ท่านได้เดินชม

นำท่านถ่ายรูปด้านนอก โบสถ์เซนต์ลอเรนซ์ (Grote of Sint Laurenskerk or  The Church of Saint Laurence) เป็นสถาปัตยกรรมยุคกลางเพียงชิ้นเดียวที่ยังหลงเหลืออยู่ในเร็อตเตอร์ดัม โบสถ์แห่งนี้สร้างขึ้นในปี 1449 และถูกเพิ่มเข้ามาในช่วงหลาปีที่ผ่านมา โบสถ์แห่งนี้เป็นหนึ่งในอาคารที่สร้างด้วยหินทั้งหมดแห่งแรกในเมืองรอตเตอร์ดัม และเคยเป็นสถานที่สำหรับจัดงานสำคัญๆมากมาย โบสถ์แห่งนี้ตั้งอยู่ในใจกลางเมืองเก่า ใหล้กับพิพิธภัณฑ์การเดินเรือและสะพาน Eramus การตกแกต่งภายในของโบสถ์ค่อนข้างสวยงามด้วยซุ้มประตูโค้งมากมาย เพดานโค้งสูงและหินสีสรรต่างๆทางศาสนาอันวิจิตรบรรจง

นำท่านชม บ้านลูกบาศก์ (The Cube House) บล็อกที่อยู่อาศัยที่แปลกประหลาดนี้ออกแบบโดย Piet Blom และลูกบาศก์ที่ประกอบขึ้นจะเอียงทำมุม 45 องศา ลูกบาศก์ไม่เหมือนบ้านแบบอื่นที่จะได้เห็นง่ายๆและเป็นแนวคิดที่น่าสนใจ เมื่อมองระยะไกลโครงสร้างนี้ดูเหมือนเกมส์คอมพิวเตอร์ 2 มิติแบบเก่าและหนึ่งในลูกบาศก์เปิดให้ประชาชนทั่วไปสามารถเข้าชมได้เราจะได้เห็นว่าภายในเป็นอย่างไร

ผ่านชม Euromast Tower  เป็นสถานีสังเกตุการณ์ที่สร้างขึ้นในปี 1960 เพื่อให้มองเห็นทัศนียภาพรอบด้านของ Rotterdam City หอคอยสูง 606 ฟุตและมีเสาอากาศเป็นอาคารที่สูงที่สุดในรอตเตอร์ดัม หอคอยนี้ประกอบด้วยร้านอาหาร ห้องประชุมทางธุรกิจ ห้องชุดในโรงแรม และจุดชมวิว

ค่ำ : บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารท้องถิ่น

วันที่ 4
เมืองแอนต์เวิร์ป – อาสนวิหารพรแม่มารีอา – จัตุรัสกลางเมือง Grote Markt – รูเบนส์เฮ้าส์ – เมืองบรัสเซลส์ – อะโตเมียม จัตุรัสกร็องปลัส – เจ้าหนูน้อยมันเนอเกินปิส

เช้า : บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

นำท่านเดินทางสู่ เมืองแอนต์เวิร์ป (Antwerp) (ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 1.30 ชั่วโมง) เป็นเมืองในประเทศเบลเยี่ยม แอนต์เวิร์ป เพี้ยนมาจากคำว่า อันต์แวร์เปิน (Antwerpen) ที่มาจากคำว่า Hand Werpen ซึ่งแปลว่า โยนมือลงแม่น้ำ ที่มาจากนิทานปรัมปราพื้นบ้านที่เล่าถึงยักษ์ตนหนึ่งชื่อ ดรูโอน อันติโก (Druon Antigoon) โดยอาศัยอยู่ใกล้แม่น้ำสเกลท์ คอยเก็บส่วยหรือค่าผ่านทางจากนักเดินเรือที่ใช้เส้นทางสัญจรผ่านแม่น้ำสเกลท์ หากนักเดินเรือคนใดไม่ยอมจ่ายค่าผ่านทางก็จะถูกจับตัดมือและโยนมือทิ้งแม่น้ำ ต่อมา ซิลวิอุส บราโบ (Silvius Brabo) ทหารโรมันที่ไม่พอใจกับการกระทำของดรุโอน อันติโกน จึงวางแผนฆ่ายักษ์ทิ้งลงในแม่น้ำ เหมือนกับที่เคยทำกับคนอื่น ในปัจจุบันสัญลักษณ์ต่างๆที่เกี่ยวกับนิทานปรัมปราเรื่องนี้ยังปรากฎให้เห็นอยู่ทั้งช็อกโกแลตรูปมือ หรือ ประติมากรรม

นำท่านถ่ายรูปเป็นที่ระลึกกับ อาสนวิหารพระแม่มารีอา (Cathedral of Our Lady) มหาวิหารที่สูงที่สุด in the Low Countries เป็นที่ชื่นชมทั้งจากภายในภายนอก ใช้เวลาสร้าง 169 ปีก่อนจะแล้วเสร็จในปี 1521 ยอดแหลมสามารถมองเห็นได้จากหลายพื้นที่ของเมือง

นำท่านสู่ จัตุรัสกลางเมือง Grote Markt มีมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 16 และเป็นตัวอย่างที่สวยงามของสถาปัตยกรรมในยุคนั้น เป็นที่ตั้งของศาลากลางจังหวัด เป็นศูนย์กลาง และสร้างขึ้นในสไตล์เรเนสซองและโกธิกรูปปั้นที่ใจกลางจัตุรัสเป็น Brabo นักฆ่ายักษ์ในตำนานและมีมาตั้งแต่ปี 1887 ณ ถนน Hofstraat

นำท่านผ่านชม รูเบนส์เฮ้าส์ (Rubenshuis) บ้านเก่าของจิตรกร Pieter Paul Rubens บ้านนี้สร้างขึ้นโดยรูเบนส์เองเพื่อใช้เป็นที่อาศัยและเป็นสตูดิโอ สำหรับให้เขาทำงาน ตัวอาคารอยู่ในสภาพทรุดโทรมก่อนที่จะมีการปรับปรุงซ่อมแซม ซึ่งเริ่มในปี 2480 ขณะนี้อาคารได้กลับมาสมบูรณ์แล้ว แสดงถึงความรุ่งโรจน์ในอดีต นอกจากเครื่องเรือนในสมัยที่จิตรกรอาศัยอยู่ที่นี่ บ้านยังจัดแสดงผลงานศิลปะของเขาหลายชิ้น

เที่ยง : บริการอาหารกลางวัน ณ  ภัตตาคารอาหารจีน

นำท่านเดินทางสู่ เมืองบรัสเซลส์ (Brussels) (ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง) แคว้นนครหลวงบรัสเซลส์ เป็นเมืองหลวงของประเทศเบลเยี่ยม บรัสเซลส์เป็นที่ตั้งขององค์กรระหว่างประเทศที่สำคัญหลายแห่ง หน่วยงานสำคัญของสหภาพยุโรป 2 หน่วยงาน คือ คณะกรรมาธิการยุโรป (European Commission) และคณะมนตรีแห่งสหภาพยุโรป (Council of the European Union) ที่มีสำนักงานใหญ่ในกรุงบรัสเซลส์ นอกจากนี้บรัสเซลส์ยังเป็นที่ตั้งของนาโต (NATO) อีกด้วย ทำให้หลายประเทศมีสถานฑูตในบรัสเซลส์ถึง 3 แห่ง

นำท่านถ่ายรูปด้านอกกับ อะโตเมียม (Atomium) ที่ตั้งอยู่ในสวนสาธารณะ Heysel Park ทางตะวันตกของเมือง เป็นแบบจำลองอะตอมที่น่าตะลึง ซึ่งมีความสูงถึง 100 เมตร ประกอบด้วยวัตถุทรงกลม 9 ลูก แต่ละลูกมีเส้นผ่านศูนย์กลางขนาด 18 เมตร หนักประมาณ 2,400 ตัน ใช้เวลาในการออกแบบประมาณ 18 เดือน ประติมากรรมนี้สร้างขึ้นในปี 1958

นำท่านเดินทางสู่ จัตุรัสกร็องปลัส (The Grand Place) จัตุรัสหลักแห่งกรุงบรัสเซลส์ ซึ่งรายล้อมด้วยเหล่าอาคารเก่าอันสวยงามและกลมกลืนกันทางสถาปัตยกรรม และถือว่าเป็นจัตุรัสที่สวยที่สุดในโลก จัตุรัสแห่งนี้มีความกว้าง 68 เมตร ยาว 110 เมตร ในปัจจุบัน  จัตุรัสแห่งนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมโดยองค์การยูเนสโก

นำท่านถ่ายรูปกับ เจ้าหนูน้อยมันเนอเกินปิส (Manneken Pis) แปลว่า เด็กชายกำลังปัสสาวะ  เป็นน้ำพุขนาดเล็กหล่อด้วยทองแดง เป็นรูปปั้นเด็กชายยืนเปลือยกายกำลังปัสสาวะใส่อ่าง มีความสูงประมาณ 61 เซนติเมตร ตั้งอยู่ใจกลางกรุงบรัสเซลส์ ออกแบบโดย เฌโรม ดูว์แกนัว ช่างหล่อชาวฝรั่งเศส ได้รับการติดตั้งราว ค.ศ. 1618 มีตำนานเล่าว่า รูปปั้นนี้เดิมสร้างขึ้นในคริสต์ศตวรรษที่ 14 ด้วยหินแกะสลัก ในขณะนั้นบรัสเซลส์อยู่ท่ามกลางสงครามและถูฏฝ่ายตรงข้ามนำระเบิดมาวางไว้ที่กำแพงเมือง เด็กชายคนหนึ่งชื่อ ยูลียันสเกอ (Julianske) มาพบสายชนวนระเบิดกำลังติดไฟ จึงปัสสาวะรดเพื่อดับชนวนและป้องกันเมืองไว้ ชาวเมืองจึงทำรูปแกะสลักนี้ไว้เพื่อระลึกถึงความกล้าหาญ ต่อมารูปสลักนี้ถูกขโมยสูญหายไปหลายครั้ง จึงถูกแทนที่รูปหล่อตัวปัจจุบัน

ค่ำ : อิสระอาหารค่ำ ตามอัธยาศัยเพื่อสะดวกแก่การช้อปปิ้ง

 

วันที่ 5
เมืองบรูจส์ – ศาลากลางเมืองบรูจส์ – บาซิลิกาออฟเดอะโฮลีบลัด หรือ โบสถ์ Blood Holy Blood – หอระฆังแห่งบรูจส์ – จัตุรัสใจกลางเมืองบรูจส์ – เมืองบัสเซลส์ – เมืองเกนต์ - ปราสาทเกรเวนสตีน - หอระฆังแห่งเกนต์ - อาสนวิหารเซนต์บาโว

เช้า : บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

จากนั้นนำท่านเดินทางไปยัง เมืองบรูจส์ เป็นเมืองมรดกโลกขององค์การยูเนสโก และยังได้รับฉายาว่า “เวนิสเหนือ” ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศเบลเยียม ห่างจากจากกรุงบรัสเซลส์ (Brussels) เพียง 1 ชั่วโมง เมืองบรูจส์มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์เพราะเคยเป็นเมืองท่าและมีความสำคัญในทางศิลปะในยุคจิตรกรรมเนเธอร์แลนด์ตอนต้น ระหว่างคริสต์ศตวรรษที่ 15 ถึงต้นคริสต์ศตวรรษที่ 16

นำท่านถ่ายรูปคู่  ศาลากลางเมืองบรูจส์ เป็นศาลากลางขนาดใหญ่จากศตวรรษที่ 13 สร้างด้วยสถาปัตยกรรมแบบโกธิค ต่อด้วย บาซิลิกาออฟเดอะโฮลีบลัด หรือ โบสถ์ Blood Holy Blood มีชื่อเสียงมากในบรัสเซลส์ ตํานานเล่าขานว่าเลือดศักดิ์สิทธิ์ของพระเยซูถูกนํากลับมาจากเยรูซาเล็มและเก็บไว้ในโบสถ์แห่งนี้ในกรุงบรูซ โบสถ์แห่งนี้จึงเรียกว่าโบสถ์ศักดิ์สิทธิ์เลือด เมืองบรูจส์ก็เจริญรุ่งเรืองเช่นกัน

จากนั้นนำท่านถ่ายรูปคู่ หอระฆังแห่ง บรูจส์ ตั้งเด่นสง่าอยู่ที่จัตุรัสใจกลางเมืองบรูจส์ สร้างขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 12 ไม่เพียงแต่เป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ที่โดดเด่นที่สุดของเมืองเท่านั้นแต่ยังได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโก ในอดีตหอระฆังสร้างขึ้นเพื่อใช้เป็นหอสังเกตการณ์และเตือนภัย รวมไปถึงบอกเวลาและกิจกรรมทางสังคมในเมือง

และอิสระให้ทุกท่านชม จัตุรัสใจกลางเมืองบรูจส์ เป็นหนึ่งในสถานที่เที่ยวยอดนิยมของเมืองบรูจส์ ตั้งอยู่ห่างจากสถานีรถไฟเพียง 20 นาที ที่นี่จะพาเราไปสัมผัสบรรยากาศที่ครึกครื้นของผู้คนในย่านกลางเมือง เพราะรวบรวมสถานที่เที่ยวสำคัญไว้หลายแห่ง ไม่ว่าจะเป็นหอระฆัง (Belfry of Bruges) เจ้าของความสูงกว่า 83 เมตรที่ตั้งเด่นเป็นพระเอกของงาน ด้านข้างของจัตุรัสยังสามารถมองเห็นศาลประจำจังหวัดที่สร้างด้วยสไตล์นีโอโกธิคอันโดดเด่น ใจกลางจัตุรัสยังมีรูปปั้นของ Jan Breydel และ Pieter de Coninck นั่นยังไม่รวมถึงบ้านหน้าจั่วหลากสีสัน ถ้าใครที่มาที่นี่ในวันเสด็จขึ้นสู่สวรรค์ (Ascension Day) จะพบกับขบวนแห่ทางศาสนาพร้อมการขับร้องเพลงผ่านใจกลางเมืองรวมไปถึงสถานที่แห่งนี้อีกด้วย

เที่ยง : อิสระอาหารกลางวัน ตามอัธยาศัยเพื่อสะดวกแก่การช้อปปิ้ง

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองเกนต์ (Ghent) ประเทศเบลเยี่ยม (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง 30 นาที) เมืองลูกผสมระหว่างยุคเก่ากับยุคใหม่ที่มีเอกลักษณ์ และมีทิวทัศน์ที่งดงามของสายน้ำที่ตัดกับสถาปัตยกรรมของเมืองได้อย่างลงตัว

นำท่านถ่ายภาพด้านหน้ากับแลนด์มาร์คสำคัญของเมือง ปราสาทเกรเวนสตีน The Gravensteen (Castle of the Counts)  เป็นที่อยู่อาศัยของเคานต์แห่งแฟลนเดอร์สจนถึงปี 1353 ต่อมาได้มีการปรับเปลี่ยนวัตถุประสงค์ใหม่ให้เป็นศาล เรือนจำ โรงกษาปณ์ และแม้กระทั่งในฐานะโรงงานฝ้าย ได้รับการบูรณะในช่วงปี พ.ศ. 2436-2446 และปัจจุบันเป็นพิพิธภัณฑ์และสถานที่สำคัญในเมือง ถ่ายภาพกับ หอระฆังแห่งเกนต์ (Het Belfort van Gent) เป็นหอระฆังสูง 95 เมตรใจกลางเมืองเกนต์ของเบลเยียม หอคอยนี้เป็นหอคอยกลางของแถวหอคอย Ghent ที่มีชื่อเสียง หอระฆังของ Ghent ร่วมกับ Cloth Hall และMammelokker เป็นส่วนหนึ่งของมรดกโลกของ UNESCO ตั้งแต่ปี 2542 ชม อาสนวิหารเซนต์บาโว St. Bavo’s Cathedral เป็นอาสนวิหารของโบสถ์คาทอลิกในเมืองเกนต์ประเทศเบลเยียม อาคารสไตล์โกธิก สูง 89 เมตรนี้เป็นที่นั่งของสังฆมณฑลเกนต์และตั้งชื่อตามนักบุญบาโวแห่งเกนต์ อีกทั้งมหาวิหารแห่งนี้ยังเป็นที่เก็บผลงานของศิลปินที่มีชื่อเสียงคนของประเทศอีกด้วย ถนน Graslei Notable Street เดินเล่นไปตามถนนจะมีร้านอาหาร คาเฟ่ บิสโตร ร้านของฝากให้ท่านได้เลือกซื้อตามอัธยาศ

นำท่านเดินทางสู่ เมืองบรัสเซลส์ (Brussel) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง) เมืองหลวงของ ประเทศเบลเยียม (Belgium) ตั้งอยู่ในทวีปยุโรปตะวันตกเฉียงเหนือ เบลเยี่ยมเป็นประเทศเก่าแก่ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 1,000 ปี เป็นประเทศเล็กๆแสนสวยงาม เหมือนอยู่ในยุโรปยุคกลาง ปลอดภัย บรรยากาศโรแมนติก จึงเป็นประเทศที่มีคู่บ่าวสาวนิยมมาฮันนีมูนกัน ด้วยตีกรามบ้านช่องและสถาปัตยกรรมสำคัญๆ เช่น มหาวิหาร หอระฆัง ซึ่งยังคงไว้ด้วยความงดงาม วิจิตรแบบศิลปะโกธิคอย่างครบถ้วน

ค่ำ : รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารท้องถิ่น

วันที่ 6
โรมอนด์ – Designer Outlet Roermond – สนามบินอัมสเตอร์ดัมสคิปโฮล

เช้า :บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

นำท่านเดินทางสู่ เมืองโรมอนด์ (Roermond) (ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 1.30 ชั่วโมง) เพื่อนำท่านเดินทางสู่ Designer Outlet Roermond เป็นเอาท์เล็ทจำหน่ายสินค้าแบรด์เนมชื่อดังต่างๆ โดยจำหน่ายในราคาถูกกว่าราคาปกติอย่างน้อย 30 เปอร์เซ็นต์ และมีบางช่วงโปรโมชั่นพิเศษตามฤดูกาลต่างๆที่อาจลดราคาไปถึง 70 เปอร์เซ็นต์หรือมากกว่า ทำให้เป็นสถานที่ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากจากนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบการช็อปปิ้งสินค้าแบรนด์เนม

เที่ยง : อิสระอาหารกลางวัน ตามอัธยาศัยเพื่อสะดวกแก่การช้อปปิ้ง

นำท่านเดินทางสู่ สนามบินอัมสเตอร์ดัมสคิปโฮล ประเทศเนเธอร์แลนด์

21.40  : นำท่านเดินทางสู่ สนามบินสุวรรณภูมิ ประเทศไทย โดยสายการบิน EVA AIRWAYS  เที่ยวบินที่ BR 076  (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง) ใช้เวลาเดินทางประมาณ 12 ชั่วโมง 30 นาที

วันที่ 7
สนามบินสุวรรณภูมิ

13.40 : เดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูมิ ประเทศไทย โดยสวัสดิภาพ พร้อมความประทับใจ

เงื่อนไข
Share on social networks
โปรแกรมทัวร์ที่น่าสนใจ