กัสโต้ เวิล์ด ทัวร์

บริการคุณภาพ ทุกเส้นทางท่องเที่ยว

เลขที่ 11/03295

ทัวร์ยุโรป เที่ยว.. เนเธอร์แลนด์ เบลเยียม ฝรั่งเศส

รหัส 003-3016
วันที่เดินทาง
พ.ค.66
ช่วงเวลา
8 วัน 5 คืน
ราคาเริ่มต้น
59,888 บาท
แผนการเดินทาง
วันที่ 1
าอากาศยานสุวรรณภูมิ

23.30 น. : พร้อมกัน ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศขาออกชั้น 4 เคาน์เตอร์ สายการบิน QATAR AIRWAYS (QR) โดยมีเจ้าหน้าที่บริษัทฯคอยต้อนรับและอำนวยความสะดวกด้านเอกสาร ติดแท็กกระเป๋าก่อนขึ้นเครื่อง

02.30 น. : นำท่านเดินทางสู่ เมืองอัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์ โดยสายการบิน QATAR AIRWAYS (QR) เที่ยวบินที่ QR837

05.45 น. : เดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาติฮามัด ประเทศกาตาร์ แวะพักเปลี่ยนเครื่อง

วันที่ 2
ท่าอากาศยานสคิปโฮลอัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์ – เมืองอัมสเตอร์ดัม - โบสถ์ New church – พระราชวังหลวง - อัมสเตอร์ดัม – จัตุรัสดัมสแควร์ - The Old Church – ย่านโคมแดง – ย่านคาลเวอร์สตรัส

08.10  น. : นำท่านเดินทางสู่ถึง ท่าอากาศยานสคิปโฮลอัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์ เที่ยวบินที่ QR273

13.55 น. : เดินทางถึง ท่าอากาศยานสคิปโฮลอัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์ นำท่านผ่านขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมืองและพิธีการทางศุลกากร (เวลาท้องถิ่นช้ากว่าประเทศไทย 5 ชั่วโมง) ตรวจรับสัมภาระเรียบร้อยแล้วนำท่านขึ้นรถโค้ชปรับอากาศ จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองอัมสเตอร์ดัม (Amsterdam) (ระยะทาง 15 กม. / 30 นาที) เป็นเมืองหลวงของประเทศเนเธอร์แลนด์ ศูนย์กลางทางการค้าและเศรษฐกิจและยังเป็นหนึ่งในเมืองท่องเที่ยวที่สำคัญ เริ่มต้นชมเมืองที่ โบสถ์ New church เป็นโบสถ์ ศตวรรษที่ 15 ในอัมสเตอร์ดัมที่ตั้งอยู่บน Dam Square ให้ถ่ายภาพความสวยงามด้านนอกกับ พระราชวังหลวงอัมสเตอร์ดัม (Royal Palace) อาคารที่หรูหราและโอ่อ่าที่สุดของเนเธอแลนด์ สร้างขึ้นในสมัยศตวรรษที่ 17 โดยพระเจ้าหลุยส์ ในอดีตอาคารนี้เคยมีบทบาทเป็นศาลาว่าการมาก่อน ปัจจุบันถูกใช้สำหรับกิจกรรมในพระราชสำนักและกิจกรรมระดับประเทศ จัตุรัสดัมสแควร์ (Dam Square) เป็นสัญลักษณ์ของอัมสเตอร์ดัม โดยเป็นที่ตั้งของอนุสาวรีย์แห่งชาติเพื่อเป็นการระลึกถึงผู้ที่ตกเป็นเหยื่อของสงครามโลกครั้งที่ 2 และเป็นย่านที่รายล้อมไปด้วยอาคารเก่าแก่ ศูนย์รวมห้างสรรพสินค้า ร้านอาหาร และคาเฟ่ The Old Church เป็นอาคารที่เก่าแก่ที่สุด ในอัมสเตอร์ดัม ย่านโคมแดง (Red Light Secrets) แหล่งท่องเที่ยวยามราตรีที่เต็มไปด้วยแสงสียามค่ำคืนและบรรยากาศของสาวงามตู้กระจกที่ให้บริการแบบถูกกฎหมายตลอดเส้นทาง และมีลำคลองกั้นตรงกลาง พร้อมร้านอาหารอีกมากมาย ที่ควรไปถ่ายรูปเก็บภาพบรรยากาศในช่วงเย็นเป็นต้นไป และ ย่านคาลเวอร์สตรัส (Kalverstraat) เป็นถนนช้อปปิ้งสินค้าแฟชั่นแนวไฮสตรีท ร้านบูติก ห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ น้ำหอม ของขวัญและของที่ระลึกพิเศษมากมายให้ทุกท่านได้ซื้อเป็นของฝากอีกด้วย

เย็น :  รับประทานอาหารเย็น (มื้อที่1)

วันที่ 3
โรงงานเพชร – ล่องเรือท่องเที่ยวรอบคลองในอัมสเตอร์ดัม – หมู่บ้านกังหันลมซานส์สคันส์ - World of wildmills - โรงงานทำรองเท้าไม้ – โรงงานทำชีส – หมู่บ้านกีโธร์น - เวนิสเนเธอร์แลนด์ - เมืองอัมสเตอร์ดัม

เช้า : รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม (มื้อที่2)

นำท่านเยี่ยมชม โรงงานเพชร Royal coaster diamond factory ในเมืองหลวงของประเทศเนเธอร์แลนด์มีโรงงานเพชรอยู่หลายโรงงานและหนึ่งในผู้ที่เก่าแก่ที่สุดก็คือที่นี้ สร้างตั้งแต่ปี ค.ศ. 1852 เพชรที่มีชื่อเสียงของที่นี้คือ”Kokhinur” ถูกดัดแปลงเป็นสมบัติของอังกฤษ นั้นก็คือมงกุฎและปัจจุบันเก็บไว้ในหอคอยลอนดอน จากนั้นพาทุกท่าน ล่องเรือท่องเที่ยวรอบคลองในอัมสเตอร์ดัม(Amsterdam Canal Cruise) เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยม ให้ท่านสัมผัสกับความสวยงามแห่งสายน้ำของเมืองอัมสเตอร์ดัมอย่างใกล้ชิด โดยเรือท่องเที่ยวเหล่านี้จะล่องไปบนผืนน้ำตามคลองเฮเรนกราทช์ (Herengracht), ไคเซอร์กราทช์ (Keizersgracht) และ พรินเซนกราทช์ (Prinsengracht) ซึ่งเป็นคลองที่มีชื่อเสียงของอัมสเตอร์ดัม และลอดผ่านใต้สะพานที่สวยงามหลายแห่งซึ่งทอดยาวผ่านเส้นทางน้ำรอบๆ เมือง จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ หมู่บ้านกังหันลมซานส์สคันส์ (Zaanse Schans) (ระยะทาง 20 กม. / 30 นาที)  แลนด์มาร์คแห่งเนเธอร์แลนด์ เป็นพื้นที่อุตสาหกรรมที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งในของประเทศ มีกังหันลมนับร้อยแห่งซึ่งชาวดัชท์ใช้กังหันลมมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 16 ปัจจุบันหมู่บ้านแห่งนี้ได้ถูกจัดตั้งเป็นพิพิธภัณฑ์ ร้านขายของที่ระลึก และศูนย์ฝึกอบรม ให้ท่านเยี่ยมชมสถานที่สำคัญในหมู่บ้าน

นำท่านเก็บภาพความประทับใจกับ World of wildmills กังหัน  ลมนับร้อยรอบๆหมู่บ้านกังหัมลม สามารถขึ้นไปชมวิวได้แบบพาโนรามา รับลมเย็นๆแบบโรแมนติกทุ่งหญ้าสีเขียวกว้างสุดลูกหูลูกตา โรงงานทำรองเท้าไม้ (Wooden shoe workshop) มีการจำลองโรงงานรองเท้าไม้ ที่เป็นสัญลักษณ์อีกอย่างหนึ่งที่เป็นที่รู้จักมาอย่างยาวนาน  สมัยก่อนรองเท้าเป็นสิ่งที่หายาก แพง เป็นของสำหรับคนมีฐานะชาวนาผู้ห่างไกลความเจริญจึงต้องสร้างรองเท้าขึ้นมาเอง โดยทำมาจากไม้ที่พิเศษที่สามารถกันน้ำได้เพราะพื้นที่ส่วนใหญ่ของเนเธอร์แลนด์เป็นที่ราบลุ่มริมฝั่งที่น้ำท่วมถึง ท่านสามารถซื้อรองเท้าไม้สีสันสดใสเป็นของฝากได้ โรงงานทำชีส (Catharina Hoeve Cheese) โรงงานมีการสาธิตการทำชีส  ฟังบรรยายทุกขั้นตอน นำท่านเดินชมแต่ละจุดพร้อมชิมชีสที่มีหลายชนิดรสชาติที่แตกต่างกันไปและสามารถซื้อเป็นของฝาก

เที่ยง : รับประทานอาหารเที่ยง (มื้อที่3)

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ หมู่บ้านกีโธร์น (Giethoorn) ประเทศเนเธอร์แลนด์  (ระยะทาง 135 กม. / 2 ชม.) โดยนำท่านนั่งเรือเที่ยวชมหมู่บ้านใช้ระยะเวลาประมาน 1 ชม. (รวมในค่าทัวร์) เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของประเทศเนเธอร์แลนด์ ได้รับการกล่าวขานว่าเป็น เวนิสเนเธอร์แลนด์ (Venice of the Netherlands) ที่นี่เป็นหมู่บ้านเล็กๆ ผู้คนใช้ชีวิตแบบเรียบง่าย ไม่มีเส้นทางการเดินรถ เน้นการสัญจรด้วยเรือเป็นส่วนใหญ่ เหมาะสำหรับการสัมผัสบรรยากาศการใช้ชีวิตของผู้คนในพื้นที่แบบไม่เร่งรีบท่ามกลางธรรมชาติที่เงียบสงบ เส้นทางการล่องเรือจะขับไปตามตัวหมู่บ้าน จากนั้นจะเลี้ยวไปยังพื้นที่อนุรักษ์ธรรมชาติซึ่งมีทะเลสาบขนาดใหญ่ มองเห็นเกาะตรงกลางที่มีบ้านประมาณสองถึงสามหลัง และอีกด้านของทะเลสาบยังเป็นพื้นที่แคมป์ปิ้ง มีจุดกางเต้นท์ รวมไปถึงบ้านพักเป็นหลังๆ เต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวที่มาแคมป์ปิ้งในช่วงหน้าร้อนเช่นกัน

นำท่านเดินทางสู่ เมืองอัมสเตอร์ดัม (Amsterdam) (ระยะทาง 120 กม. / 2 ชม.) เป็นเมืองหลวงของ ประเทศเนเธอร์แลนด์ ตั้งอยู่ริมแม่น้ำ Amstel ปัจจุบันอัมสเตอร์ดัมยังเป็นศูนย์กลางทางการค้าและเศรษฐกิจและยังเป็นหนึ่งในเมืองท่องเที่ยวที่สำคัญที่สุดในประเทศและมีชื่อเสียงโด่งดังระดับโลกด้วย

เย็น  : รับประทานอาหารเย็น (มื้อที่4)

วันที่ 4
เมืองเกนต์ ประเทศเบลเยียม – ปราสาทเกรเวนสตีน – หอระฆังแห่งเกนต์ – อาสนวิหารเซนต์บาโว - ถนน Graslei Notable street – เมืองบรัสเซลส์ – อะโตเมียม – รูปปั้นแมนิเกนพีส – พระราชวังหลวงแห่งบรัสเซลล์ - จัตุรัสกร็องปลัส – ถนน Avenue Louise

เช้า : รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม (มื้อที่5)

นำท่านเดินทางสู่ เมืองเกนต์ (Ghent) ประเทศเบลเยี่ยม (ระยะทาง 220 กม. / 3 ชม.) เมืองลูกผสมระหว่างยุคเก่ากับยุคใหม่ที่มีเอกลักษณ์ และความน่าสนใจทางประวัติศาสตร์และการวางผังเมืองที่รอบคอบ ทำให้ทุกอย่างอยู่ในระยะเดินทางได้อย่างสะดวกสบาย ทำให้นักท่องเที่ยวได้ชมทิวทัศน์ที่งดงามของสายน้ำที่ตัดกับสถาปัตยกรรมของเมืองได้อย่างลงตัว นำท่านถ่ายภาพด้านหน้ากับแลนด์มาร์คสำคัญของเมือง ปราสาทเกรเวนสตีน The Gravensteen (Castle of the Counts)  เป็นที่อยู่อาศัยของเคานต์แห่งแฟลนเดอร์สจนถึงปี 1353 ต่อมาได้มีการปรับเปลี่ยนวัตถุประสงค์ใหม่ให้เป็นศาล เรือนจำ โรงกษาปณ์ และแม้กระทั่งในฐานะโรงงานฝ้าย ได้รับการบูรณะในช่วงปี พ.ศ. 2436-2446 และปัจจุบันเป็นพิพิธภัณฑ์และสถานที่สำคัญในเมือง ถ่ายภาพกับ หอระฆังแห่งเกนต์ (Het Belfort van Gent) เป็นหอระฆังสูง 95 เมตรใจกลางเมืองเกนต์ของเบลเยียม หอคอยนี้เป็นหอคอยกลางของแถวหอคอย Ghent ที่มีชื่อเสียง หอระฆังของ Ghent ร่วมกับ Cloth Hall และMammelokker เป็นส่วนหนึ่งของมรดกโลกของ UNESCO ตั้งแต่ปี 2542 ชม อาสนวิหารเซนต์บาโว St. Bavo’s Cathedral เป็นอาสนวิหารของโบสถ์คาทอลิกในเมืองเกนต์ประเทศเบลเยียม อาคารสไตล์โกธิก สูง 89 เมตรนี้เป็นที่นั่งของสังฆมณฑลเกนต์และตั้งชื่อตามนักบุญบาโวแห่งเกนต์ อีกทั้งมหาวิหารแห่งนี้ยังเป็นที่เก็บผลงานของศิลปินที่มีชื่อเสียงคนของประเทศอีกด้วย ถนน Graslei Notable street  เดินเล่นไปตามถนนจะมีร้านอาหาร คาเฟ่ บิสโตร ร้านของฝากให้ท่านได้เลือกซื้อตามอัธยาศัย

เที่ยง : รับประทานอาหารเที่ยง (มื้อที่6)

ท่านเดินทางสู่ เมืองบรัสเซลส์ (Brussels) (ระยะทาง 56 กม. /  1 ชม.) เมืองหลวงประเทศเบลเยี่ยม เป็นเมืองที่มีความใหญ่โต เเละสวยงามเป็นอย่างมาก ที่สำคัญยังเป็นที่ตั้งขององค์กรระหว่างประเทศอย่างคณะมนตรีแห่งสหภาพยุโรป (EU) เเละสำนักงานใหญ่ของนาโต (NATO) อีกด้วย ถึงแม้จะเป็นเมืองหลวงขนาดเล็ก แต่ด้วยความสวยงามที่เป็นเอกลักษณ์ของเมืองหลวงแห่งนี้ ได้ดึงดูดเหล่านักท่องเที่ยวให้มาค้นหาอย่างไม่ขาดสาย นำท่านเที่ยวแลนด์มาร์คที่สำคัญของเมืองแห่งนี้ที่ อะโตเมียม(Atomium sculpture) ถือเป็นสถาปัตยกรรมล้ำยุคที่ตั้งอยู่กลางกรุงบรัสเซลล์ อะโตเมียม มีรูปทรงล้ำสมัย โดยได้รับเเรงบันดาลใจจากรูปทรงของอะตอมในเชิงวิทยาศาสตร์ สร้างขึ้นเพื่อใช้เป็นสถานที่จัดนิทรรศการ งานเอ็กซ์โป เมือปี 1958 โดยลูกบอล จำนวน 9 ลูก มีเส้นผ่านศูนย์กลาง 18 เมตร ใช้เวลาในการก่อสร้างเกือบ 2 ปี ซึ่งกลายเป็นเครื่องหมายที่สะท้อนการก้าวกระโดดของเบลเยี่ยมสู่เทคโนโลยียุคใหม่หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 รูปปั้นแมนิเกนพีส (Manneken Pis fountain) ตั้งอยู่บริเวณหัวมุมของถนนเลทุฟตัดกับถนนแซน รูปปั้นแมนิเกนพีส มีความสวยงามเเละมีความเก่าเเก่มาก คำว่า Manneken Pis มีความหมายว่า เด็กชายกำลังฉี่ เป็นประติมากรรมมีลักษณะเป็นน้ำพุขนาดเล็ก ตัวประติมากรรมหล่อด้วยทองเเดงเป็นรูปเด็กผู้ชายเปลือยกาย กำลังยืนฉี่ลงอ่าง

นำท่านเก็บภาพความประทับใจด้านนอก พระราชวังหลวงแห่งบรัสเซลล์ (Royal Palace of Brussels) ซึ่งตั้งอยู่ด้านหน้าสวนสาธารณะบรัสเซลล์ตรงข้ามกับอาคารรัฐสภา พระราชวังหลวงแห่งนี้ถือเป็นสัญลักษณ์สำคัญของระบบรัฐบาลของเบลเยียมที่มีการปกครองในระบอบราชาธิปไตยภายใต้รัฐธรรมนูญ พระราชวังแห่งนี้เป็นสถานที่ที่กษัตริย์เบลเยี่ยมใช้เป็นที่ประทับทรงงานและปฏิบัติพระราชกรณียกิจต่างๆ อีกด้วย จัตุรัสกร็องปลัส  (Grand Place) คือจัตุรัสกลางเมืองบรัสเซลส์ เป็นศูนย์กลางด้านประวัติศาสตร์ สถาปัตยกรรม วัฒนธรรม ประจำเมืองที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นจัตุรัสที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของทวีปยุโรป และได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโกในปี ค.ศ. 1998 โดยปัจจุบันสถาปัตยกรรมที่มีชื่อเสียงของจัตุรัสแห่งนี้ก็มีทั้งศาลาว่าการกรุงบรัสเซลส์ อาคารของพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ ประติมากรรมล้ำค่า ร้านอาหาร ร้านหนังสือ ร้านแผ่นเสียง บาร์ งานกราฟฟิตี้ ฯลฯ อิสระให้ท่านช้อปปิ้งตามอัธยาศัยที่ ถนน Avenue Louise เป็นถนนที่มีชื่อเสียงและมีราคาแพงที่สุดแห่งหนึ่งในบรัสเซลส์ เรียงรายไปด้วยร้านเสื้อผ้าแฟชั่นระดับไฮเอนด์และร้านบูติก สถานทูตและสำนักงานหลายแห่งด้วยกัน

เย็น : รับประทานอาหารเย็น (มื้อที่7)

วันที่ 5
เมืองปารีส – หอไอเฟล – ประตูชัยฝรั่งเศส – ถนนฌ็องเซลิเซ่ – จัตุรัสคองคอร์ด – พิพิธภัณฑ์ลูฟร์ - ห้างปลอดภาษี - Benlux Louvre duty free - ห้าง La Samaritaine - ห้างแกลเลอรี่ ลาฟาแยตต์

เช้า : รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม (มื้อที่8)

นำท่านเดินทางสู่ เมืองปารีส (Paris) (ระยะทาง 315 กม. / 4.30 ชม.) เป็นเมืองหลวงและเมืองใหญ่ที่สุดของประเทศฝรั่งเศส ตั้งอยู่บนแม่น้ำแซน ผู้คนเรียกปารีสว่า “เมืองแห่งความรัก” เพราะบรรยากาศโรแมนติก และได้ขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองแห่งศิลปะ รอบเมืองยังมีสถาปัตยกรรมโดดเด่น ไม่เหมือนที่ไหนในโลก ถ่ายรูปสวยๆได้หลายมุมเลยทีเดียว

เที่ยง : รับประทานอาหารเที่ยง (มื้อที่9)

นำท่านเช็คอินแลนด์มาร์คของเมืองปารีส เริ่มต้นที่ หอไอเฟล (Eiffel Tower) หอที่เป็นสัญญาลักษณ์ของประเทศฝรั่งเศส และเป็นแลนด์มาร์คสำคัญ และยังเป็นหนึ่งในสิ่งก่อสร้างที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลกอีกด้วย ตัวอาคารก่อสร้างโดยโครงเหล็กทั้งหมด หอไอเฟลสูง 324 เมตร (1,063 ฟุต) หรือสูงเท่ากับตึก 81 ชั้น ประตูชัยฝรั่งเศส (Arc de Triomphe) หรือเรียกเต็มๆว่า อาร์กเดอทรียงฟ์เดอเลตวล เป็นผลงานสถาปัตยกรรมที่ออกแบบโดย ฌ็อง ชาลแกร็ง มีอายุกว่า 200 ปี มีความสูง 49.5 เมตร มีความกว้าง 45 เมตรและมีความลึกถึง 22 เมตรถูกจัดอันดับเป็นประตูชัยที่ใหญ่อันดับ 2 ของโลก ถนนฌ็องเซลิเซ่ (Champs Elysees) เป็นหนึ่งในถนนที่มีชื่อเสียงโด่งดังในฝรั่งเศส ย่านศูนย์การค้าระดับพรีเมียม แหล่งรวมสินค้าแบรนด์ดังระดับโลกทุกแบรนด์ จัตุรัสคองคอร์ด (Place de la Concorde) เป็นสถานที่แห่งความทรงจำทางประวัติศาสตร์ใจกรุงปารีส เป็นสัญลักษณ์ของสงครามกลางเมืองและการปฏิวัติการปกครองของฝรั่งเศส เยี่ยมชมด้านนอก พิพิธภัณฑ์ลูฟร์ (Louvre Museum) เป็นพิพิธภัณฑ์ที่มีชื่อเสียงโด่งดังที่สุดของเมืองปารีส จากผลงานที่จัด  แสดงไปจนถึงความเก่าแก่และยิ่งใหญ่ของสถานที่ทำให้เป็นพิพิธภัณฑ์ที่มีความสำคัญระดับโลก

อิสระช้อปปิ้งกันที่ ห้างปลอดภาษี Benlux Louvre duty free เป็นห้างชื่อดังใจกลางกรุงปารีส ซึ่งคุณจะได้พบกับสินค้าแบรนด์ชั้นนำต่างๆจากทั่วโลก ห้าง La Samaritaine เปิดตัวอย่างเป็นทางการอีกครั้งเมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2021 ที่ผ่านมา และกลายเป็นห้างสรรพสินค้าคอนเซปต์สโตร์แห่งใหม่ที่เน้นย้ำถึงเสน่ห์ของชาวปารีส ไม่ว่าจะเป็นแฟชั่น อาหาร และงานศิลปะ รวมแล้วกว่า 600 แบรนด์ ห้างแกลเลอรี่ ลาฟาแยตต์ (Galleries Lafayette) เป็นห้างหรูที่มีชื่อเสียงมากที่สุดแห่งหนึ่งของปารีส ภายในอาคารที่มีสถาปัตยกรรมที่สวยงาม ในปัจจุบันมีสาขาแบ่งอยู่ตามเมืองใหญ่ๆทั้งในประเทศและนอกประเทศ รวมแล้วทั้งหมด 61 แห่ง

เย็น : รับประทานอาหารเย็น (มื้อที่10)

วันที่ 6
เมืองปารีส - นั่งรถกระเช้าไฟฟ้า Funicular Montmartre - มหาวิหารซาเคร-เกอร์ บาซิลิก้า - เอาท์เล็ท ลาวัลเล่

เช้า : รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม (มื้อที่11)

นำทุกท่านไปเปิดประสบการณ์ นั่งรถกระเช้าไฟฟ้า Funicular Montmartre (ระยะทาง 21 กม. / 1 ชม.) (ค่าขึ้นกระเช้า รวมในค่าทัวร์แล้ว) เปิดให้บริการเมื่อช่วงฤดูร้อนปี 1990  ได้มีการสร้างและปรับปรุงใหม่อย่างสม่ำเสมอจนถึงปัจจุบัน ปัจจุบันกระเช้าไฟฟ้าเป็นรถไฟฟ้าและขนส่งผู้โดยสารได้กว่า 2 ล้านคนต่อปี การเดินทางใช้เวลา 90 วินาทีและเป็นไปโดยอัตโนมัติ จากนั้นพาทุกท่านไปที่ มหาวิหารซาเคร-เกอร์ บาซิลิก้า (The Basilica of the Sacred Heart of Paris) สถานที่ที่ถูกขนานนามว่าเป็น “หัวใจอันศักดิ์สิทธิ์ของปารีส” จุดท่องเที่ยวยอดฮิต ตั้งอยู่บนยอดเนินเขามงต์มาตร์ (La butte Montmartre) สูงจากระดับน้ำทะเล 129 เมตร เขาแห่งเดียวในกรุงปารีส ถ้ามองจากจุดนี้ เป็นวิวแสนโรแมนติก ถูกออกแบบโดย โปล อาบาดี (Paul Abadie) สถาปนิกที่ถูกคัดเลือกจากสถาปนิกทั้งหมด 77  ใช้ระยะเวลาก่อสร้างเกือบ 40 ปี

เที่ยง : รับประทานอาหารเที่ยง (มื้อที่12)

จากนั้นนำท่านไป เอาท์เล็ท ลาวัลเล่ (La Vallée Village Outlet) (ระยะทาง 50 กม. / 1 ชม.) เป็นเอาท์เล็ทจำหน่ายสินค้าแบรนด์เนมชื่อดังต่างๆ โดยจำหน่ายในราคาถูกกว่าราคาปกติอย่างน้อย 30 เปอร์เซ็นต์ และมีบางช่วงโปรโมชั่นพิเศษตามฤดูกาลต่างๆ ทำให้เป็นสถานที่ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากจากนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบการช้อปปิ้งสินค้าแบรนด์เนม อิสระให้ท่านได้ช้อปปิ้งตามอัธยาศัย

เย็น : อิสระเย็นเพื่อไม่เป็นการรบกวนเวลาของท่าน

วันที่ 7
เมืองปารีส - ท่าอากาศยานนานาชาติปารีส-ชาร์ล เดอ โกล – ท่าอากาศยานนานาชาติฮามัด แวะพักเปลี่ยนเครื่อง

เช้า : รับประทานอาหารเช้า (SET BOX ) (มื้อที่13)

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ ท่าอากาศยานนานาชาติปารีส-ชาร์ล เดอ โกล ประเทศฝรั่งเศส เพื่อเดินทางกลับสู่กรุงเทพฯ

09.30 น. : เดินทางกลับประเทศไทย โดย สายการบิน QATAR AIRWAYS (QR)  เที่ยวบินที่ QR042

16.50 น. : เดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาติฮามัด ประเทศกาตาร์  แวะพักเปลี่ยนเครื่อง

19.25 น. : เดินทางกลับกรุงเทพฯ โดย สายการบิน QATAR AIRWAYS (QR)

วันที่ 8
ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ-กรุงเทพฯ

06.15 น. : เดินทางถึง ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพ

เงื่อนไข

(บริษัท ดำเนินการให้ กรณียกเลิกทั้งหมด หรืออย่างใดอย่างหนึ่ง ไม่สามารถรีฟันด์เป็นเงินหรือการบริการอื่นๆได้)

  1. ค่าตั๋วโดยสารเครื่องบินไป-กลับ ชั้นประหยัดพร้อมค่าภาษีสนามบินทุกแห่งตามรายการทัวร์ข้างต้น
  2. ค่าที่พักห้องละ 2-3 ท่าน ตามโรงแรมที่ระบุไว้ในรายการหรือ ระดับใกล้เคียงกัน
  3. กรณีพัก 3 ท่านถ้าวันที่เข้าพักห้องโรงแรม ไม่มีห้อง TRP (3ท่าน) อาจจำเป็นต้องแยกพัก 2 ห้อง (มีค่าใช้จ่ายพักเดี่ยวเพิ่ม) หรือเป็นการเพิ่มเตียงเสริม หรือ SOFA BED และกรณีห้องพักในเมืองที่ระบุไว้ในโปรแกรมมีเทศกาลวันหยุด มีงานแฟร์ต่างๆ บริษัทขอจัดที่พักในเมืองใกล้เคียงแทน โรงแรมที่พักส่วนใหญ่ในยุโรปไม่มีเครื่องปรับอากาศที่สามารถปรับควบคุมความเย็นได้ภายในห้องพัก เนื่องจากสภาพภูมิอากาศหนาวเย็นเกือบทั้งปี
  4. ตั๋วกรุ๊ปไม่สามารถ Upgrade ที่นั่งเป็น Business Class ได้ และต้องเดินทางไป-กลับพร้อมตั๋วกรุ๊ปเท่านั้นไม่สามารถเลื่อนวันได้ ใน กรณีที่ท่านต้องการแยกวันเดินทางกลับหรือไปก่อน โปรดติดต่อเจ้าหน้าที่เพื่อสอบถามราคาอีกครั้ง และการจัดที่นั่งของผู้เดินทาง เป็นการจัดการภายในของสายการบิน ทางบริษัทไม่สามารถเข้าไปเพื่อแทรกแซงได้
  5. ค่าอาหาร ค่าเข้าชม และ ค่ายานพาหนะทุกชนิด ตามที่ระบุไว้ในรายการทัวร์ข้างต้น
  6. เจ้าหน้าที่บริษัท ฯ คอยอำนวยความสะดวกตลอดการเดินทาง
  7. ค่าน้ำหนักกระเป๋า สัมภาระโหลดใต้ท้องเครื่อง 25 กิโลกรัม ถือขึ้นเครื่องได้ 7 กิโลกรัม และค่าประกันวินาศภัยเครื่องบินตามเงื่อนไขของแต่ละสายการบินที่มีการเรียกเก็บ และกรณีน้ำหนักสัมภาระเกินท่านต้องเสียค่าปรับตามที่สายการบินเรียกเก็บ
  8. การประกันการเดินทาง บริษัทฯได้จัดทำแผนประกันภัยการเดินทางสำหรับผู้เดินทางไปต่างประเทศ กับ FWD INSURANCE แบบแผนประกันภัยเดินต่างประเทศ แผน 3 โดยแผนประกันจะครอบคลุมการรักษากรณีลูกค้าติดเชื้อโควิด-19 หรืออุบัติเหตุต่างๆ ซึ่งเกิดขึ้นภายในวันเดินทาง และลูกค้าต้องทำการรักษาในโรงพยาบาลที่ประกันครอบคลุมการรักษาเท่านั้น (เข้ารับรักษาในรูปแบบอื่นๆประกันจะไม่ครอบคลุม) ซึ่งสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมจากเจ้าหน้าทีได้ กรณีลูกค้าต้องการซื้อประกันเพิ่มวงเงินคุ้มครอง เพิ่มความคุ้มครอง สามารถแจ้ง บริษัทฯ ซึ่งความคุ้มครองและข้อยกเว้น เป็นไปตามเงื่อนไขกรมธรรม์ประกันภัย  ประกันภัยเดินทางอันนีโดยทั้งนี้การทำประกันนี้จากบริษัท  มากกว่าข้อบังคับ ตาม พรบ ธุรกิจนำเที่ยว ที่บังคับให้บริษัทนำเที่ยว ทำประกันเฉพาะอุบัติเหตุในการเดินทางเท่านั้น แต่ทั้งนี้ ท่านสามารถศึกษาเงือนไขความคุ้มครองและข้อยกเว้นแผนเติมจากเว็บไซด์ FWD INSURANCE ได้กรณีท่านต้องการซื้อความคุ้มครองเพิ่มเติมสามารถแจ้งความประสงค์มาที่บริษัทฯ
  9. ค่ารถปรับอากาศนำเที่ยวตามระบุไว้ในรายการ พร้อมคนขับรถ (กฎหมายไม่อนุญาตให้คนขับรถเกิน 12 ช.ม./วัน)
  10. ค่า Vat 7% และ ค่าภาษีหัก ณ ที่จ่าย 3%

 

  1. ค่าทำหนังสือเดินทางไทย และเอกสารต่างด้าวต่างๆ  จากท่าน
  2. ค่าบริการและยื่นวีซ่าเชงเก้น 5,500 บาท
  3. ค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่นอกเหนือจากรายการระบุ อาทิเช่น ค่าอาหาร เครื่องดื่ม ค่าซักรีด ค่าโทรศัพท์ เป็นต้น
  4. ค่าภาษีทุกรายการคิดจากยอดบริการ, ค่าภาษีเดินทาง (ถ้ามีการเรียกเก็บ)
  5. ค่าภาษีน้ำมันที่สายการบินเรียกเก็บเพิ่มภายหลังจากทางบริษัทฯได้ออกตั๋วเครื่องบิน และได้ทำการขายโปรแกรมไปแล้ว
  6. ค่าพนักงานยกกระเป๋าที่โรงแรม
  7. ค่าทิปไกด์ คนขับรถ ท่านละ 60 EUR /ท่าน สำหรับหัวหน้าทัวร์แล้วแต่ความประทับใจ

กรณีวีซ่าไม่ได้รับการอนุมัติจากสถานทูต(วีซ่าไม่ผ่าน) และท่านได้ชำระค่าทัวร์มาแล้ว ทางบริษัทขอเก็บเฉพาะค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริง เช่นค่าวีซ่าและค่าบริการยื่นวีซ่า/ค่ามัดจำตั๋วเครื่องบิน

Share on social networks
โปรแกรมทัวร์ที่น่าสนใจ