16:30 น. : พร้อมกัน ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศขาออกชั้น 4 ประตู 4 เคาน์เตอรสายการบิน สายการบินเอทิฮัด แอร์เวย์ โดยมีเจ้าหน้าที่บริษัทฯคอยต้อนรับและอำนวยความสะดวกด้านเอกสาร ติดแท็กกระเป๋าก่อนขึ้นเครื่อง
19:55 น. : นำท่านเดินทางสู่ เมืองมิลาน ประเทศอิตาลี โดยสายการบินเอทิฮัด แอร์เวย์ เที่ยวบินที่ EY407
23:25 น. : เดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาติอาบูดาบี ประเทศ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ แวะพักเปลี่ยนเครื่อง
02:40 น. : นำท่านเดินทางสู่ถึง ท่าอากาศยานมิลาโนมัลเปนซา ประเทศอิตาลี เที่ยวบินที่ EY081
07:05 น. : เดินทางถึง ท่าอากาศยานมิลาโนมัลเปนซา ประเทศอิตาลี นำท่านผ่านขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมืองและพิธีการทางศุลกากร (เวลาท้องถิ่นช้ากว่าประเทศไทย 6 ชั่วโมง) นำท่านผ่านขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมืองและพิธีการ ทางศุลกากรและตรวจรับสัมภาระเรียบร้อยแล้วนำท่านขึ้นรถโค้ชปรับอากาศเดินทางสู่ นำท่านสู่จุดศูนย์กลางของ เมืองมิลาน หรือที่คนอิตาเลียนเรียกว่า มิลาโน่ (Milano) (ระยะทาง 50 กม. / 1 ชม.) เป็นเมืองหลวงทางแฟชั่นของโลกแข่งกับปารีสในประเทศฝรั่งเศส เป็นศูนย์กลางทางธุรกิจของอิตาลี นอกจากนั้นยังมีภาพวาดเฟรสโก้ที่มีชื่อเสียงโด่งดัง และโรงละครโอเปร่าอันลือชื่อ เป็นต้น นำท่านถ่ายภาพด้านหน้า มหาวิหารแห่งมิลาน (Duomo di Milano) มหาวิหารนี้สร้างด้วยสถาปัตยกรรมแบบโกธิคที่ถือว่ามีความใหญ่โตเป็นอันดับสามของโลก ใช้เวลาสร้างร่วมกว่า 400 ปี ด้านนอกมีหลังคายอดเรียวแหลมที่ทำจากหินอ่อนจำนวน 135 ยอด และมีรูปปั้นหินอ่อนจากสมัยต่างๆ กว่า 2,245 ชิ้น ยอดที่สูงที่สุดมีรูปปั้นทองขนาด 4 เมตร ของพระแม่มาดอนน่าเป็นสง่าอยู่
จากนั้นพาทุกท่านแวะถ่ายภาพกับ พระราชวังมิลาน (Royal Palace of Milan) เป็นที่ตั้งของรัฐบาลในเมืองมิลานเป็นเวลาหลายศตวรรษ ปัจจุบันทำหน้าที่เป็นศูนย์วัฒนธรรมและเป็นที่ตั้งของนิทรรศการศิลปะระดับนานาชาติ และเป็นที่จัดแสดงงานศิลปะสมัยใหม่และร่วมสมัย คอลเล็กชันที่มีชื่อเสียงโดยร่วมมือกับพิพิธภัณฑ์และสถาบันทางวัฒนธรรมที่มีชื่อเสียงจากทั่วโลกเป็นประจำ พาท่านไปชมและ ช้อปปิ้งที่ ห้าง Galleria Vittorio Emanuele II เป็นหนึ่งในศูนย์การค้าที่เก่าแก่ที่สุดในโลก คลุมด้วยหลังคาทรงโค้ง ตั้งอยู่ในใจกลางเมืองมิลาน ä อิสระอาหารเที่ยงและเย็นเพื่อไม่เป็นการรบกวนเวลาของท่าน
เดินทางสู่ เมือง Lomazzo (ระยะทาง 35 กม. / 1 ชม.) เป็นเมืองตั้งอยู่กึ่งกลางระหว่าง Comoและ Milan ศูนย์กลางประวัติศาสตร์อันเก่าแก่ของเมืองก่อตั้งขึ้นบนยอดเขาที่ตั้งอยู่ในหุบเขาทางฝั่งขวาของลูรา
ที่พัก: Just Hotel Lamazzo Fiera 4* หรือระดับใกล้เคียง (ชื่อโรงแรมที่ท่านพักทางบริษัทจะทำการแจ้งพร้อมใบนัดหมาย5-7วันก่อนวันเดินทาง)
เช้า : รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม (มื้อที่1)
นำท่านเดินทางสู่ เมืองโคโม่ (Como) (ระยะทาง 16 กม. / 30 นาที) เป็นเมืองในแคว้นลอมบาร์เดีย ประเทศอิตาลี ตั้งอยู่บริเวณพรมแดนกับประเทศสวิตเซอร์แลนด์ โคโม่เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ในเทือกเขาแอลป์ ทิศเหนือของเมืองอยู่ติดกับทะเลสาบโคโม่ ถือเป็นเมืองท่องเที่ยวยอดนิยมแห่งหนึ่ง เป็นแหล่งรวมชิ้นงานศิลปะชื่อดัง, มีโบสถ์, พิพิธภัณฑ์, สวน, โรงละคร, วังเก่าอยู่มากมาย พาทุกท่านไปเก็บภาพความประทับใจกับ ทะเลสาบโคโม่ (Lake Como) ขึ้นชื่อว่าเป็นทะเลสาบที่สวยที่สุดในโลก ตั้งอยู่ใน แคว้นลอมบาร์เดีย (Lombardy) ไม่ไกลจากเมืองมิลาน (Milan) เท่าไรนัก ด้วยความยาวโดยรอบถึง 160 กิโลเมตร บวกกับพื้นที่รอบๆ ทะเลสาบถึง 146 ตารางกิโลเมตร จึงทำให้ทะเลสาบแห่งนี้กลายเป็นทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 3 ของประเทศอิตาลี และยังเป็นทะเลสาบที่ลึกที่สุดเป็นอันดับ 5 ในยุโรปด้วยความลึกกว่า 400 เมตร รูปร่างลักษณะเฉพาะของทะเลสาบโคโม่ทำให้นึกถึง Y ที่กลับด้านที่โด่งดังไปทั่วโลก เป็นผลมาจากการละลายของธารน้ำแข็งรวมกับการกัดเซาะของแม่น้ำ Adda โบราณ ทำให้เกิดทางแยกเป็นตัว Y และยังเป็นทะเลสาบมีทิวทัศน์ที่งดงามที่สุดแห่งหนึ่งในโลก และ มหาวิหารโคโม่ (Cattedrale di S.Maria Assunta) เป็นมหาวิหารโรมันคาธอลิกหลักใจกลางเมืองโคโม่ ใช้เวลาการสร้างยาวนานเกือบ 400 ปี สร้างเพื่ออุทิศให้กับพระแม่มารี
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองแองเกิลเบิร์ก (Engelberg) ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ( ระยะทาง 203 ก.ม. / 3 ชม.) เป็นเมืองเล็กๆตั้งอยู่บนเขาสูงอยู่ในรัฐออบวัลเดิน ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ล้อมด้วยเทือกเขาแอลป์ จุดสูงสุดในพรมแดนของเมืองเป็นยอดเขาทิตลิส ซึ่งยอดเขาทิตลิสมีความสูงประมาณ 3,020 เมตร เหนือระดับน้ำทะเลปานกลาง กลาง เป็นที่ตั้งของสถานีกระเช้าโรแตร์เพื่อเดินทางขึ้นสู่ ยอดเขาทิตลิส (Titlis) ท่านจะได้สัมผัสกับกระเช้าทรงกลมที่เรียกว่า โรแตร์ เคเบิ้ลคาร์ ที่จะหมุนรอบๆ ที่ท่านสามารถดูวิวได้ 360องศาในขณะที่เคลื่อนที่ขึ้นไปเรื่อยๆ ท่านจะได้ขึ้นชมทัศนียภาพที่งดงามของเทือกเขาแอลป์
เที่ยง : รับประทานอาหารกลางวัน (อาหารอาหารชุดสไตล์เอเชีย) บนยอดเขาทิตลิส (มื้อที่2)
จากนั้นพาท่านชม สะพานแขวน (TITLIS CLIFF WALK) สร้างขึ้นฉลองครบรอบ 100 ปีการท่องเที่ยวบนยอดเขาทิตลิส สะพานมีความยาว 100 เมตร ความสูง3,000 เมตร และ ชม ถ้ำน้ำแข็ง (Glacier cave) ที่สวยงามและเดินเล่นถ่ายรูปหรือเล่นหิมะบนยอดเขา ให้ท่านได้อิสระเก็บภาพความประทับใจตามอัธยาศัย
นำท่านเดินทางสู่ เมืองลูเซิร์น (Lucerne) เมืองท่องเที่ยวยอดนิยมอันดับหนึ่งของสวิตเซอร์แลนด์ ที่ถูกห้อมล้อมไปด้วยทะเลสาบและขุนเขา (ระยะทาง 35 ก.ม. / 45 นาที)
จากนั้น นำท่านชม สิงโตหินแกะสลัก (Dying Lion of Lucerne) ที่แกะสลักบนผาหินธรรมชาติ เพื่อเป็นอนุสรณ์รำลึกถึงการสละชีพอย่างกล้าหาญของทหารสวิตที่เกิดจากการปฏิวัติในฝรั่งเศสเมื่อปี ค.ศ.1792 ชม สะพานไม้ชาเปล (Chapel Bridge) ซึ่งมีความยาวถึง 204 เมตร ทอดข้ามผ่าน แม่น้ำรอยส์ (Reuss River) ซึ่งเป็นเหมือนสัญลักษณ์ของเมืองลูเซิร์นเป็นสะพานไม้ที่มีหลังคาที่เก่าแก่ที่สุดในยุโรป สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ.1333 โดยใต้หลังคาคลุมสะพานมีภาพวาดประวัติศาสตร์ของชาวสวิlตลอดแนวสะพาน อิสระเดินเล่นที่ Schwanenplatz ที่นี่เป็นแหล่งช้อปปิ้งหลักสำหรับนักท่องเที่ยวที่มาเยือนลูเซิร์น ตั้งอยู่ริมฝั่งขวาของทะเลสาบลูเซิร์น มีร้านค้ามากมายที่นี่ ร้านกาแฟ ร้านอาหาร มีโรงงานนาฬิกาโรเล็กซ์ในบริเวณนี้ด้วย ร้านค้ารอบๆขายงานฝีมือสวิสท้องถิ่น ร้านค้าบางร้านขายของที่ระลึก ช็อคโกแลต เครื่องประดับ ฯลฯ
เย็น : รับประทานอาหารเย็น (มื้อที่3)
เช้า : รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม (มื้อที่4)
นำท่านเที่ยวชม เมืองซุก (ZUG) (ระยะทาง 12 กม. / 30 นาที ) เป็นเมื่องที่ร่ำรวยที่สุดในประเทศ และซุกเป็นเมืองที่ติดอันดับหนึ่งในสิบของโลกเมืองที่สะอาดที่สุด เป็นเมืองเก่าที่คงความสวยงามของพื้นหินแบบยุโรปในยุคกลางจะหลงรักเมืองนี้ สิ่งที่จะทำให้ท่านประทับใจคือรู้สึกได้ถึงอากาศที่สดชื่นและสะอาดอาจเป็นเพราะเมืองนี้ตั้งอยู่บนทะเลสาบ อิสระชอปปิ้งที่ Lohri AG Store ทีมีนาฬิกาชั้นนำระดับโลกให้ท่านเลือกซื้อเลือกชมอาทิ เช่น Patek Philippe, Franck Muller Cartier , Piaget, Parmigiani Fleurier, Panerai, IWC , Omega, Jaeger-LeCoultre, Blancpain, Tag Heuer ฯลฯ Interlaken จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองกอลมาร์ (Colmar) ประเทศฝรั่งเศส (ระยะทาง 174 ก.ม. / 2.30 ชม.)
เที่ยง : รับประทานอาหารเที่ยง (มื้อที่5)
จากนั้นทำท่านเดินทางชม เมืองกอลมาร์ที่ได้รับการอนุรักษ์ให้เป็นเมืองที่ยังคงลักษณะสถาปัตยกรรมและบรรยากาศของเมืองโบราณไว้ ทั้งพิพิธภัณฑ์ ศาสนสถาน ห้องสมุด น้ำพุ รูปปั้น ร้านค้าต่างๆ ปัจจุบันได้รับการขนานนามว่าเป็น “Little Venice” (la Petite Venise) ติดอันดับเมืองโรแมนติกเป็นอันดับต้นๆ ของฝรั่งเศส เวนิสน้อย เป็นชื่อที่มอบให้กับเส้นทางในเมืองกอลมาร์ ชื่อนี้น่าจะมาจากแนวบ้านทั้งสองฝั่งแม่น้ำซึ่งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของเมือง เขตนี้เริ่มต้นหลัง Koïfhus ผ่านย่านคนขายปลา และไปยังสะพาน Turenne และ Saint-Pierre เดิมทีเป็นที่อยู่อาศัยของชุมชนผู้ผลิตไวน์ ชาวสวนในตลาด และคนพายเรือในชนบท Krutenau ทอดยาวไปรอบ ๆ ถนน Turenne ที่ใช้ในปี 1674 จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองดีจอง (Dijon) (ระยะทาง 252 ก.ม. / 3.30 ชม.) เป็นเมืองที่มีชื่อเสียงในเรื่องของไวน์ชั้นเลิศ และยังเป็นเมืองหลวงของแคว้นเบอร์กันดี (Burgundy region เป็นเมืองหลวงที่มีความสำคัญด้านประวัติศาสตร์ของแคว้นเบอร์กันดีและฝรั่งเศสเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะประวัติศาสตร์อันเก่าแก่ในเรื่องของการผลิตไวน์ นอกจากวัฒนธรรมเกี่ยวกับไวน์และการปลูกองุ่นแล้ว เมืองดีจองยังเป็นอีกเมืองที่มีความเกี่ยวพันกับคริสต์ศาสนาเป็นอย่างมาก เนื่องจากการมีโบสถ์คริสตจักรจำนวนมากภายในเมือง
เย็น : รับประทานอาหารเย็น (มื้อที่6)
เช้า : รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม (มื้อที่7)
จากนั้นพาท่านเดินทางสู่ เมืองปารีส (Paris) (ระยะทาง 315 กม. / 4.30 ชม.) เป็นเมืองหลวงและเมืองใหญ่ที่สุดของประเทศฝรั่งเศส ตั้งอยู่บนแม่น้ำแซน ผู้คนเรียกปารีสว่า “เมืองแห่งความรัก” เพราะบรรยากาศโรแมนติก และได้ขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองแห่งศิลปะ รอบเมืองยังมีสถาปัตยกรรมโดดเด่น ไม่เหมือนที่ไหนในโลก ถ่ายรูปสวยๆได้หลายมุมเลยทีเดียว
เที่ยง : รับประทานอาหารเที่ยง (มื้อที่8)
พาทุกท่าน ล่องเรือแม่น้ำแซน โดย บาโต มูช (Bateaux-Mouches) (ประมาณ 1 ชม.) มีการบรรยายเกี่ยวกับประวัติเมืองปารีสตลอดทั้งสายการเดินทางระหว่างสองข้างทางที่เต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น มหาวิหารน็อทร์-ดาม, หอไอเฟล พิพิธภัณฑ์ลูฟร์ เป็นต้น จากนั้นนำท่านเยี่ยมชมด้านนอก พิพิธภัณฑ์ลูฟร์ (Louvre Museum) เป็นพิพิธภัณฑ์ที่มีชื่อเสียงโด่งดังที่สุดของเมืองปารีส จากผลงานที่จัด แสดงไปจนถึงความเก่าแก่และยิ่งใหญ่ของสถานที่ทำให้เป็นพิพิธภัณฑ์ที่มีความสำคัญระดับโลก อิสระช้อปปิ้งกันที่ ห้างปลอดภาษี Benlux Louvre duty free เป็นห้างชื่อดังใจกลางกรุงปารีส ซึ่งคุณจะได้พบกับสินค้าแบรนด์ชั้นนำต่างๆจากทั่วโลก ห้าง La Samaritaine เปิดตัวอย่างเป็นทางการอีกครั้งเมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2021 ที่ผ่านมา และกลายเป็นห้างสรรพสินค้าคอนเซปต์สโตร์แห่งใหม่ที่เน้นย้ำถึงเสน่ห์ของชาวปารีส ไม่ว่าจะเป็นแฟชั่น อาหาร และงานศิลปะ รวมแล้วกว่า 600 แบรนด์ ห้างแกลเลอรี่ ลาฟาแยตต์ (Galleries Lafayette) เป็นห้างหรูที่มีชื่อเสียงมากที่สุดแห่งหนึ่งของปารีส ภายในอาคารที่มีสถาปัตยกรรมที่สวยงาม ในปัจจุบันมีสาขาแบ่งอยู่ตามเมืองใหญ่ๆทั้งในประเทศและนอกประเทศ รวมแล้วทั้งหมด 61 แห่ง
เย็น : รับประทานอาหารเย็น (มื้อที่9)
เช้า : รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม (มื้อที่10)
ถ่ายภาพด้านหน้ากับ หอไอเฟล (Eiffel Tower) เป็นหนึ่งในแลนด์มาร์คสำคัญของประเทศฝรั่งเศส ตัวอาคารก่อสร้างโดยโครงเหล็กทั้งหมด มีความสูงประมาณ 300 เมตร (เทียบกับตึกประมาณ 75 ชั้น) สร้างเป็นรูปแบบหอคอย โดยถูกตั้งตามชื่อของสถาปนิกที่คนออกแบบชื่อว่า “กุสตาฟ ไอเฟล” ซึ่งเป็นทั้งวิศวกรและสถาปนิกชื่อดังของฝรั่งเศสในยุคนั้น ซึ่งเชี่ยวชาญด้านการก่อสร้างงานเหล็กโดยเฉพาะ หอไอเฟลสร้างขึ้นมาเพื่อใช้เป็นผลงานในการเฉลิมฉลองวันครบรอบ 100 ปี แห่งการปฏิวัติประเทศฝรั่งเศส และเพื่อแสดงถึงความร่ำรวย ยิ่งใหญ่ จากนั้นทุกท่านไปเปิดประสบการณ์ นั่งรถกระเช้าไฟฟ้า Funicular Montmartre เปิดให้บริการเมื่อช่วงฤดูร้อนปี 1990 ได้มีการสร้างและปรับปรุงใหม่อย่างสม่ำเสมอจนถึงปัจจุบัน ปัจจุบันกระเช้าไฟฟ้าเป็นรถไฟฟ้าและขนส่งผู้โดยสารได้กว่า 2 ล้านคนต่อปี การเดินทางใช้เวลา 90 วินาทีและเป็นไปโดยอัตโนมัติ จากนั้นพาทุกท่านไปที่ มหาวิหารซาเคร-เกอร์ บาซิลิก้า (The Basilica of the Sacred Heart of Paris) สถานที่ที่ถูกขนานนามว่าเป็น “หัวใจอันศักดิ์สิทธิ์ของปารีส” จุดท่องเที่ยวยอดฮิต ตั้งอยู่บนยอดเนินเขามงต์มาตร์ (La butte Montmartre) สูงจากระดับน้ำทะเล 129 เมตร เขาแห่งเดียวในกรุงปารีส ถ้ามองจากจุดนี้ เป็นวิวแสนโรแมนติก ถูกออกแบบโดย โปล อาบาดี (Paul Abadie) สถาปนิกที่ถูกคัดเลือกจากสถาปนิกทั้งหมด 77 ใช้ระยะเวลาก่อสร้างเกือบ 40 ปี
เที่ยง : รับประทานอาหารเที่ยง (มื้อที่11)
จากนั้นอิสระให้ท่านได้ช้อปปิ้งตามอัธยาศัยที่ เอาท์เล็ท ลาวัลเล่ (La Vallée Village Outlet) เป็นเอาท์เล็ทจำหน่ายสินค้าแบรนด์เนมชื่อดังต่างๆ โดยจำหน่ายในราคาถูกกว่าราคาปกติอย่างน้อย 30 เปอร์เซ็นต์ และมีบางช่วงโปรโมชั่นพิเศษตามฤดูกาลต่างๆ ทำให้เป็นสถานที่ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากจากนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบการช้อปปิ้งสินค้าแบรนด์เนม
เย็น : อิสระเย็นเพื่อไม่เป็นการรบกวนเวลาของท่าน
เช้า : รับประทานอาหารเช้า (SET BOX ) (มื้อที่12) จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ ท่าอากาศยานนานาชาติปารีส-ชาร์ล เดอ โกล ประเทศฝรั่งเศส เพื่อเดินทางกลับสู่กรุงเทพฯ
10.30 น. : เดินทางกลับประเทศไทย โดย สายการบิน ETIHAD AIRWAYS เที่ยวบินที่ EY032
19.20 น. : เดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาติอาบูดาบี สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ แวะพักเปลี่ยนเครื่อง
21.40 น. : เดินทางกลับกรุงเทพฯ โดยสายการบิน ETIHAD AIRWAYS เที่ยวบินที่ EY402
07.20 น. : เดินทางถึง ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพ
(บริษัท ดำเนินการให้ กรณียกเลิกทั้งหมด หรืออย่างใดอย่างหนึ่ง ไม่สามารถรีฟันด์เป็นเงินหรือการบริการอื่นๆได้)
กรณีวีซ่าไม่ได้รับการอนุมัติจากสถานทูต(วีซ่าไม่ผ่าน) และท่านได้ชำระค่าทัวร์มาแล้ว ทางบริษัทขอเก็บเฉพาะค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริง เช่นค่าวีซ่าและค่าบริการยื่นวีซ่า/ค่ามัดจำตั๋วเครื่องบิน
หมายเหตุ : กรุณาอ่านศึกษารายละเอียดทั้งหมดก่อนทำการจอง เพื่อความถูกต้องและความเข้าใจตรงกันระหว่างท่านลูกค้าและบริษัท ฯ และเมื่อท่านตกลงชาระเงินมัดจาหรือค่าทัวร์ทั้งหมดกับทางบริษัทฯ แล้ว ทางบริษัทฯ จะถือว่าท่านได้ยอมรับเงื่อนไขข้อตกลงต่างๆ ทั้งหมด