กัสโต้ เวิล์ด ทัวร์

บริการคุณภาพ ทุกเส้นทางท่องเที่ยว

เลขที่ 11/03295

ทัวร์ยุโรป เที่ยว… สแกนดิเนเวีย สวีเดน นอร์เวย์ เดนมาร์ก

รหัส 003-3191
วันที่เดินทาง
พ.ค.66
ช่วงเวลา
9 วัน 6 คืน
ราคาเริ่มต้น
69,900 บาท
แผนการเดินทาง
วันที่ 1
ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ -ท่าอากาศยานนานาชาติฮามัด แวะพักเปลี่ยนเครื่อง

17.30 น. : พร้อมกัน ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศขาออกชั้น 4 เคาน์เตอร์ สายการบิน QATAR AIRWAYS โดยมีเจ้าหน้าที่บริษัทฯคอยต้อนรับและอำนวยความสะดวกด้านเอกสาร ติดแท็กกระเป๋าก่อนขึ้นเครื่อง

20.25 น. : นำท่านเดินทางสู่ เมืองสตอกโฮล์ม ประเทศสวีเดน โดย สายการบิน QATAR AIRWAYS (QR) เที่ยวบินที่ QR833

23.40 น.  : เดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาติฮามัด ประเทศกาตาร์  แวะพักเปลี่ยนเครื่อง

วันที่ 2
ท่าอากาศยานสตอกโฮล์ม-อาร์ลันดา ประเทศสวีเดน – เมืองสต็อกโฮล์ม – พิพิธภัณฑ์วาซา – จุดชมวิวฟยัลกาทัน – อาคารรัฐสภาของเมืองสต็อกโฮล์ม - ย่านเมืองเก่า Gamla Stan – พระราชวังหลวงสต็อกโฮล์ม

01.50 น. : นำท่านเดินทางสู่ ท่าอากาศยานสตอกโฮล์ม-อาร์ลันดา โดยสายการบิน QATAR AIRWAYS (QR) เที่ยวบินที่ QR169

07.15 น. : เดินทางถึง ท่าอากาศยานสตอกโฮล์ม-อาร์ลันดา ประเทศสวีเดน นำท่านผ่านขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมืองและพิธีการทางศุลกากร (เวลาท้องถิ่นช้ากว่าประเทศไทย 6 ชั่วโมง) จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองสต็อกโฮล์ม (Stockholm) (ระยะทาง 42 ก.ม. / 1 ชม.) เป็นเมืองหลวงของประเทศสวีเวน ตั้งอยู่ริมชายฝั่งทะเล โอบล้อมด้วยทะเลบอลติก ทำให้เมืองสต็อกโฮล์มเป็นเมืองหลวงที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของโลกอีกด้วย นำท่านเยี่ยมชม พิพิธภัณฑ์วาซา (Vasa Museum) เป็นพิพิธภัณฑ์เรือรบโบราณที่มีชื่อเสียงโด่งดัง โดดเด่น และล้ำค่าเป็นอย่างมาก โดย วาซา คือเรือรบแห่งราชอาณาจักรสวีเดน เป็นเรือรบที่ยิ่งใหญ่สง่างาม ประดับประดาด้วยรูปแกะสลักสมัยโบราณนับร้อยชิ้นที่ทำมาจากไม้โอ๊กทั้งลำ ทำให้เรือลำนี้ทรงอานุภาพ น่าเกรงขาม และมูลค่าลงทุนแพงที่สุดในเวลานั้น (ค่าทัวร์ รวมค่าเข้าชม) จากนั้นนำท่านเดินทางถ่ายภาพอันสวยงามที่ จุดชมวิวฟยัลกาทัน (Fjallgatan) สามารถมองเห็นวิวเมือง ที่มีตึกเรียงกันพร้อมมีแม่น้ำคั่นกลางและเรือขนส่งวิ่งผ่านไปมาอย่างสวยงาม ให้ท่านอิสระเก็บภาพความประทับตามอัธยาศัย

เที่ยง : รับประทานอาหารเที่ยง (มื้อที่1)

นำท่านเดินทางชม อาคารรัฐสภาของเมืองสต็อกโฮล์ม (Parliament House) เป็นที่ตั้งของรัฐสภาในสวีเดนหรือที่รู้จักกันดีในชื่อ Riksdag อาคารรัฐสภาได้รับการออกแบบในสไตล์นีโอคลาสสิกพร้อมส่วนหน้าสไตล์ฟื้นฟูบาโรก ด้านในอาคาร ประกอบไปด้วย หอประชุม ห้องโถงทางเดินที่สง่า ห้องสมุด ฯลฯ ให้ท่านได้เดินชมความสวยงามภายใต้อาคารได้ตามอัธยาศัย จากนั้นนำท่านเช็คอินที่ ย่านเมืองเก่า Gamla Stan ย่านเมืองเก่าที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป เป็นอีกหนึ่งแลนมาร์กของสต็อกโฮล์ม ที่มีอาคาร บ้านเรือน สิ่งปลูกสร้างที่มีความสวยงาม ในรูปแบบงานสถาปัตยกรรมแบบสวีเดน ซึ่งปัจจุบันยังคงรักษาสภาพเก่าแก่ไว้เป็นอย่างดี นำท่านถ่ายภาพบริเวณด้านหน้า พระราชวังหลวงสต็อกโฮล์ม (Royal Palace) พระราชวังที่สวยสง่า พร้อมสถาปัตยกรรมบาโรกอันเก่าแก่ที่งดงามที่สุดแห่งหนึ่งในยุโรปเหนือ ตั้งอยู่ระแวกเดียวกันกับย่านเมืองเก่า ให้ท่านอิสระถ่ายภาพความประทับใจและเดินชมรอบ ๆเมืองได้ตามอัธยาศัย

เย็น : รับประทานอาหารเย็น (มื้อที่2)

วันที่ 3
เมืองโอเรโบร– ปราสาทโอเรโบร– เมืองคาร์ลสตัด – โบสถ์คาร์ลสตัด – อนุสรณ์สถานสันติภาพ

เช้า : รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม (มื้อที่3)

นำท่านเดินทางสู่ เมืองโอเรโบร(Orebro) (ระยะทาง 195 ก.ม. / 2.30 ชม.) เป็นเมืองด้านการท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงมากแห่งหนึ่งของประเทศสวีเดน  นำท่านถ่ายภาพบริเวณด้านนอก ปราสาทโอเรโบร(Orebro Castle) ปราสาทที่โดดเด่นเป็นสง่าตั้งอยู่ท่ามกลางเมืองและมีแม่น้ำล้อมรอบ ปราสาท เป็นป้อมปราการของปราสาทยุคกลางที่สวาร์ตาน โดยส่วนที่เป็นหอคอยนั้นถือว่าเป็นส่วนที่เก่าแก่ที่สุดของปราสาท และยังมีประวัติเรื่องราวมากมายที่ลึกลับอีกด้วย ให้ท่านเดินชมด้านนอกปราสาทตามอัธยาศัย

เที่ยง : รับประทานอาหารเที่ยง (มื้อที่4)

นำท่านเดินทางมุ่งหน้าสู่ เมืองคาร์ลสตัด (Karlstad) (ระยะทาง 110 ก.ม. / 1.30 ชม.) เป็นเมืองเล็ก ๆ ที่น่ารัก สัญลักษณ์ของเมืองคือ รอยยิ้ม เมืองนี้ขึ้นชื่อเรื่องกีฬาและกิจกรรมต่าง ๆ และยังมีธรรมชาติที่บริสุทธิ์อีกด้วย จากนั้นนำท่านเที่ยวชม โบสถ์คาร์ลสตัด (Karlstad Cathedral) โดยการออกแบบของคริสเตียน ฮอลเลอร์ สร้างด้วยหินธรรมชาติและอิฐฉาบปูน ใช้เวลาในการตกแต่งภายในประมาณหกสิบปี เป็นโบสถ์สไตล์บาโรกที่มีลักษณะแบบนีโอคลาสสิก นำท่านถ่ายภาพกับ อนุสรณ์สถานสันติภาพ (Peace monument) สร้างขึ้นเพื่อรำลึกถึงการสลายตัวของสหภาพอย่างสันติระหว่างสวีเดนและนอร์เวย์ในปี 1905 อนุสาวรีย์แห่งนี้ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เนื่องจากการออกแบบของอนุสรณ์ที่ผู้หญิงเหยียบหัวทหารชายนั้น จึงได้รับเลือกให้เป็นรูปปั้นที่อัปลักษณ์ที่สุดในสวีเดน

เย็น : รับประทานอาหารเย็น (มื้อที่5)

วันที่ 4
เมืองออสโล ประเทศนอร์เวย์ - สวนมนุษยชาติ Vigeland Sculpture Park - รูปปั้น Gustav Vigeland Statue

เช้า : รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม (มื้อที่6)

นำท่านเดินทางสู่ เมืองออสโล (Oslo) ประเทศนอร์เวย์ (ระยะทาง 220 ก.ม. / 3.30 ชม.) เป็นเมืองหลวงของประเทศนอร์เวย์ ศูนย์รวมความเจริญทางเศรษฐกิจ แหล่งประวัติศาสตร์ และศิลปะวัฒนธรรมที่สำคัญของประเทศ มีการออกแบบสถาปัตยกรรมสไตล์แบบเก่าและแบบใหม่อยู่ร่วมกันอย่างลงสวยงาม และเมืองนี้มีการดูแลเอาใจใส่ในสิ่งแวดล้อม และควบคุมเรื่องมลภาวะอย่างเคร่งครัดทำให้ออสโลถูกขนานนามให้เป็น “ปอดของยุโรป”

เที่ยง : รับประทานอาหารเที่ยง (มื้อที่7)

จากนั้นนำท่านเยี่ยมชม สวนมนุษยชาติ Vigeland Sculpture Park สวนประติมากรรมที่ใหญ่ที่สุดในโลก ที่มีมากกว่า 200 ชิ้น โดยประติมากรชาวนอร์เวย์ Gustav Vigeland สร้างคอลเลกชันที่มีชื่อว่า “The Weirdest Statues in the World” ประติมากรรมทำจากบรอนซ์และหินแกรนิต สวนนี้ประกอบด้วยร่างมนุษย์ที่เปลือยเปล่าในรูปแบบต่าง ๆ และสถานการณ์ทั้งหมด แสดงให้เห็นถึงชีวิตมนุษย์ที่มีความบริสุทธิ์ที่สุด โดยเฉพาะเสาหินสูงที่มีรูปปั้นร่างมนุษย์เปลือยกายทับถมกัน ทำให้เกิดความสวยงามและแปลกตาเป็นอย่างมาก จากนั้นให้ท่านอิสระถ่ายภาพคู่กับ รูปปั้น Gustav Vigeland Statue และเดินชมประติมากรรมต่าง ๆ ในสวนได้ตามอัธยาศัย

เย็น : รับประทานอาหารเย็น (มื้อที่8)

วันที่ 5
เมืองออสโล – โอเปร่าออสโล – ป้อมปราการอาเกิชฮึส – มหาวิหารออสโล – พระราชวังออสโล - ถนน Karl Johans gate - สถานี DFDS Oslo Terminal – เปิดประสบการ์ล่องเรือสำราญสู่ประเทศเดนมาร์ก

เช้า : รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม (มื้อที่9)

นำทุกท่านเดินทางไปเช็คอินเมืองออสโล เริ่มต้นที่ โอเปร่าออสโล (Oslo Opera House) สถาปัตยกรรมกลางเมืองออสโลแลนด์มาร์คสำคัญ เป็นศูนย์วัฒนธรรมที่ใหญ่ที่สุดในนอร์เวย์ เป็นที่ตั้งของคณะอุปรากรและบัลเล่ต์ระดับชาติ อาคารรูปทรงเลขาคณิตที่สร้างจากกระจกและหินอ่อนขนาดใหญ่สไตล์โมเดิร์น มีดีไซน์อันสะดุดตา ออกแบบให้ดูเหมือนธารน้ำแข็งยักษ์โผล่ขึ้นมาจากน้ำ และมีสะพานที่ลาดเอียงสีขาวโพลน

จากนั้นนำท่านเดินทางไปต่อกันที่ ป้อมปราการอาเกิชฮึส (Akershus Fortress) เป็นปราสาทและป้อมปราการที่ตั้งอยู่ในเมืองออสโล ปราสาทถูกสร้างขึ้นใหม่ในรูปแบบของสมัยฟื้นฟูศิลปวิทยา ล้อมรอบด้วยหอป้อมปราการ เป็นปราสาทเก่าแก่ที่มีอายุมากกว่า 700 ปี พื้นที่นี้ยังคงเป็นของทหารและได้รับการป้องกันโดยหน่วยยามของพระองค์ และเป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์สาธารณะอีกด้วย นำท่านสัมผัสกับความงดงามของศาสนสถานที่ มหาวิหารออสโล (Oslo Cathedral) ตั้งอยู่บนจัตุรัสสตอร์ตอร์เวต โดยวิหารเก่าเเก่เเห่งนี้เป็นส่วนผสมของงานสถาปัตยกรรมในเเต่ละยุคที่ลงตัว ด้วยสถาปัตยกรรมในเเบบบาโรก ก่อนที่จะมีการเสริมเติมเเต่งด้วยสถาปัตยกรรมในเเบบโกธิค เเละนีโอโกธิค ทำให้มหาวิหารแห่งนี้มีความสวยงามคู่กับเมืองออสโลมาเนิ่นนาน นำท่านถ่ายภาพด้านหน้า พระราชวังออสโล (Royal Palace) ตั้งอยู่ใจกลางเมือง สร้างขึ้นในช่วงครึ่งแรกของศตวรรษที่ 19 โดยเป็นที่พำนักของกษัตริย์ชาร์ลส์ที่ 3 และเป็นที่ประทับอย่างเป็นทางการของพระมหากษัตริย์นอร์เวย์องค์ปัจจุบัน

เที่ยง : รับประทานอาหารเที่ยง (มื้อที่10)

นำท่านเดินเล่นเดินช้อปบริเวณพระราชวังที่มีถนนสายหลักคือ ถนน Karl Johans gate เป็นถนนที่มีทั้งร้านค้าและร้านอาหารมากมาย ให้ท่านได้อิสระช้อปปิ้งตามอัธยาศัย จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ สถานี DFDS Oslo Terminal เปิดประสบการณ์ใหม่ให้ท่านได้สัมผัสการใช้ชีวิตบนเรือสำราญสุดอลังการ นอกจากความอลังการของเรือนั้นแล้วยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย เช่น ร้านปลอดภาษี สระว่ายน้ำบนดาดฟ้าเรือ อ่างแช่น้ำร้อน ห้องเล่นเกม บาร์ ไนต์คลับ ภัตตาคาร ฯลฯ ให้ท่านได้ผ่อนคลายและเพลิดเพลินสนุกสนานไปกับการล่องเรือในค่ำคืนนี้ (ค่าบริการสิ่งอำนวยความสะดวกบนเรือบางอย่าง ไม่รวมในค่าทัวร์)

เย็น : รับประทานอาหารเย็น (มื้อที่11)

วันที่ 6
สถานี DFDS Seaways Terminal ณ ประเทศเดนมาร์ก – เมืองโอเดนเซ่ - เมือง Svendborg – เมืองโคเปนเฮเกน

เช้า : รับประทานอาหารเช้า ณ บนเรือสำราญ (มื้อที่12)

นำทุกท่านลงสู่ สถานี DFDS Seaways Terminal ณ ประเทศเดนมาร์ก และจากนั้นนำท่านมุ่งหน้าสู่ เมืองโอเดนเซ่ (Odense) (ระยะทาง 165 ก.ม. / 2.30 ชม.)  เมืองแห่งประวัติศาสตร์ เพราะเป็นบ้านเกิดของนักเขียนชื่อดังอย่าง  ฮันส์ คริสเตียน แอนเดอร์เซน (Hans Christian Andersen) ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง The Little Mermaid , The Snow Queen (ที่ดัดแปลงมาสู่ภาพยนตร์ดังอย่าง Frozen) , The Little Match Girl (เด็กหญิงขายไม้ขีดไฟ) , The Ugly Duckling (ลูกเป็ดขี้เหร่) เป็นต้น

เที่ยง : รับประทานอาหารเที่ยง (มื้อที่13)

นำทุกท่านผ่านชม เมืองโอเดนเซ่ ไม่ว่าจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอันโด่งดังหรือแลนด์มาร์คของเมือง จากนั้นนำท่านแวะเที่ยวชม เมือง Svendborg  (ระยะทาง 50 ก.ม. / 1 ชม.)  เป็นเมืองบนเกาะของ Funen ระหว่างภาคใต้และภาคกลางของประเทศเดนมาร์ก เป็นเมืองที่ใหญ่อันดับสองของ Funen และยังเป็นเมืองที่ขึ้นชื่อเมืองแห่งพิพิธภัณฑ์อีกด้วย ให้ท่านอิสระเดินเล่นชมเมืองได้ตามอัธยาศัย นำท่านเดินทางมุ่งหน้าสู่ เมืองโคเปนเฮเกน (Copenhagen) (ระยะทาง 168 ก.ม. / 2.30 ชม.) เป็นเมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดของประเทศเดนมาร์ก ผู้คนส่วนใหญ่ต่างเรียกขานเมืองนี้ว่า เมืองแห่งเทพนิยาย เพราะมีสภาพแวดล้อมพร้อมบรรยากาศที่สวยงามและอากาศบริสุทธิ์ ถูกล้อมรอบไปด้วยธรรมชาติ ประวัติศาสตร์ ศิลปะ และวัฒนธรรม มีลักษณะของการผสมผสานวิถีชีวิตที่หลากหลายอีกด้วย

เย็น : รับประทานอาหารเย็น (มื้อที่14)

วันที่ 7
เมืองโคเปนเฮเกน – น้ำพุเกฟิออน – ป้อมคาสเทลเลท – รูปปั้นนางเงือก – พระราชวังอมาเลียนบอร์ก – พระราชวังคริสเตียนบอร์ก – หอสังเกตการณ์ราวด์ทาวเวอร์ - ถนนคนเดิน Strøget

เช้า : รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม  (มื้อที่15)

นำทุกท่านถ่ายภาพเช็คอิน น้ำพุเกฟิออน (Gefion Fountain) เป็นอนุสาวรีย์ที่เป็นตำนานในการสร้างประเทศเดนมาร์ก โดยมีตำนานเล่าขานกันว่าเทพเจ้าผู้ทรงอิทธิฤทธิ์ดลบันดาลให้พระนางเกฟิออนกอบกู้ชาติ โดยพระนางได้แปลงร่างของโอรสทั้ง 4 ให้กลายเป็นโคเพื่อไถพื้นดินขึ้นมาจากใต้น้ำ ทำให้เกิดเป็นประเทศเดนมาร์กในทุกวันนี้ แล้วชาวเดนนิชก็ได้สร้างอนุสาวรีย์ของพระนางและพระโอรสทั้งสี่พระองค์ไว้เพื่อเป็นเกียรติและเพื่อเป็นการระลึกถึง

จากนั้นนำท่านเที่ยวชมต่อกันที่ ป้อมคาสเทลเลท (Kastellet) เป็นป้อมรูปดาวที่สภาพค่อนข้างสมบูรณ์ที่ยังคงหลงเหลืออยู่ในยุโรปเหนือ ข้างในเป็นอาคารสีแดงๆ หลายตึกด้วยกัน รอบๆ ป้อมปราการล้อมรอบด้วยน้ำอย่างอุดมสมบูรณ์และมีทัศนียภาพที่สวยงามและถ่ายภาพกับ รูปปั้นนางเงือก (The little Mermaid) เป็นสัญลักษณ์ของเดนมาร์กที่ตั้งอยู่บนหินริมทางเดินน้ำ รูปปั้นที่มาจากเทพนิยายเรื่องเด่นของฮันส์ คริสเตียน แอนเดอร์เซน บริเวณท่าเรือหลักของเมืองโคเปนเฮเกน

เที่ยง : รับประทานอาหารเที่ยง (มื้อที่16)

นำท่านเช็คอินกันต่อเนื่องที่ พระราชวังอมาเลียนบอร์ก (Amalienborg) เป็นพระราชวังฤดูหนาวของราชวงศ์เดนมาร์ก ตั้งอยู่ริมน้ำทางเหนือของตัวเมืองโคเปนเฮเกน เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของประเทศ โดยเฉพาะการเปลี่ยนเวรทหารที่เลื่องชื่อ เป็นที่ตั้งของพระบรมรูปทรงม้าที่ได้ชื่อว่าสวยที่สุดแห่งหนึ่งในโลก ทั้งยังเป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์เกี่ยวกับราชวงศ์ที่จัดแสดงเรื่องราวและข้าวของสำคัญต่าง ๆ อีกด้วย จากนั้นนำท่านไปต่อกันที่ พระราชวังคริสเตียนบอร์ก (Christiansborg Palace) หนึ่งในพระราชวังที่สวยงามและยิ่งใหญ่ที่สุดในประเทศเดนมาร์ก ภายในพระราชวังหลังนี้ประกอบไปด้วยสถานที่สำคัญๆ หลายแห่ง อาทิรัฐสภา ศาลฎีกาและห้องทำงานของนายกรัฐมนตรี นอกจากนี้ หลายๆ ส่วนของพระราชวังยังใช้ในการจัดงานราชพิธีของราชวงศ์เดนมาร์กอีกด้วย หอสังเกตการณ์ราวด์ทาวเวอร์ (The Round Tower) เป็นหอสังเกตการณ์เก่าแก่ที่สุดในยุโรป สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 17 ปัจจุบันกลายเป็นศูนย์วัฒนธรรมและจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นทัศนียภาพอันสวยงามของเมืองโคเปนเฮเกนได้อย่างกว้างไกล จากนั้นให้ท่านช้อปปิ้ง ถนนคนเดิน Strøget แหล่งช้อปปิ้งปลอดรถยนต์ เป็นถนนคนเดินช้อปปิ้งที่ยาวที่สุดสายหนึ่งในยุโรปที่ 1.1 กม. ตั้งอยู่ที่ใจกลางเมืองเก่าของโคเปนเฮเกน เป็นถนนที่มีชื่อเสียงมาก

เย็น : อิสระอาหารเย็นเพื่อไม่เป็นการรบกวนเวลาของท่าน

วันที่ 8
ท่าอากาศยานโคเปนเฮเกน - ท่าอากาศยานนานาชาติฮามัด ประเทศกาตาร์ แวะพักเปลี่ยนเครื่อง

เช้า : รับประทานอาหารเช้า (SET BOX ) (มื้อที่17)  จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ ท่าอากาศยานโคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก เพื่อเดินทางกลับสู่กรุงเทพฯ

09.50 น. : เดินทางกลับประเทศไทย โดย สายการบิน QATAR AIRWAYS (QR)  เที่ยวบินที่ QR162

16.45 น.  : เดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาติฮามัด ประเทศกาตาร์  แวะพักเปลี่ยนเครื่อง

19.25 น. :  เดินทางกลับกรุงเทพฯ โดย สายการบิน QATAR AIRWAYS (QR)

วันที่ 9
ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ-กรุงเทพฯ

06.15 น. : เดินทางถึง ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ

เงื่อนไข

(บริษัท ดำเนินการให้ กรณียกเลิกทั้งหมด หรืออย่างใดอย่างหนึ่ง ไม่สามารถรีฟันด์เป็นเงินหรือการบริการอื่นๆได้)

  1. ค่าตั๋วโดยสารเครื่องบินไป-กลับ ชั้นประหยัดพร้อมค่าภาษีสนามบินทุกแห่งตามรายการทัวร์ข้างต้น
  2. ค่าที่พักห้องละ 2-3 ท่าน ตามโรงแรมที่ระบุไว้ในรายการหรือ ระดับใกล้เคียงกัน
  3. กรณีพัก 3 ท่านถ้าวันที่เข้าพักห้องโรงแรม ไม่มีห้อง TRP (3ท่าน) อาจจำเป็นต้องแยกพัก 2 ห้อง (มีค่าใช้จ่ายพักเดี่ยวเพิ่ม) หรือเป็นการเพิ่มเตียงเสริม หรือ SOFA BED และกรณีห้องพักในเมืองที่ระบุไว้ในโปรแกรมมีเทศกาลวันหยุด มีงานแฟร์ต่างๆ บริษัทขอจัดที่พักในเมืองใกล้เคียงแทน โรงแรมที่พักส่วนใหญ่ในยุโรปไม่มีเครื่องปรับอากาศที่สามารถปรับควบคุมความเย็นได้ภายในห้องพัก เนื่องจากสภาพภูมิอากาศหนาวเย็นเกือบทั้งปี
  4. ตั๋วกรุ๊ปไม่สามารถ Upgrade ที่นั่งเป็น Business Class ได้ และต้องเดินทางไป-กลับพร้อมตั๋วกรุ๊ปเท่านั้นไม่สามารถเลื่อนวันได้ ใน กรณีที่ท่านต้องการแยกวันเดินทางกลับหรือไปก่อน โปรดติดต่อเจ้าหน้าที่เพื่อสอบถามราคาอีกครั้ง และการจัดที่นั่งของผู้เดินทาง เป็นการจัดการภายในของสายการบิน ทางบริษัทไม่สามารถเข้าไปเพื่อแทรกแซงได้
  5. ค่าอาหาร ค่าเข้าชม และ ค่ายานพาหนะทุกชนิด ตามที่ระบุไว้ในรายการทัวร์ข้างต้น
  6. เจ้าหน้าที่บริษัท ฯ คอยอำนวยความสะดวกตลอดการเดินทาง
  7. ค่าน้ำหนักกระเป๋า สัมภาระโหลดใต้ท้องเครื่อง 25 กิโลกรัม ถือขึ้นเครื่องได้ 7 กิโลกรัม และค่าประกันวินาศภัยเครื่องบินตามเงื่อนไขของแต่ละสายการบินที่มีการเรียกเก็บ และกรณีน้ำหนักสัมภาระเกินท่านต้องเสียค่าปรับตามที่สายการบินเรียกเก็บ
  8. การประกันการเดินทาง บริษัทฯได้จัดทำแผนประกันภัยการเดินทางสำหรับผู้เดินทางไปต่างประเทศ กับ FWD INSURANCE แบบแผนประกันภัยเดินต่างประเทศ แผน 3 โดยแผนประกันจะครอบคลุมการรักษากรณีลูกค้าติดเชื้อโควิด-19 หรืออุบัติเหตุต่างๆ ซึ่งเกิดขึ้นภายในวันเดินทาง และลูกค้าต้องทำการรักษาในโรงพยาบาลที่ประกันครอบคลุมการรักษาเท่านั้น (เข้ารับรักษาในรูปแบบอื่นๆประกันจะไม่ครอบคลุม) ซึ่งสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมจากเจ้าหน้าทีได้ กรณีลูกค้าต้องการซื้อประกันเพิ่มวงเงินคุ้มครอง เพิ่มความคุ้มครอง สามารถแจ้ง บริษัทฯ ซึ่งความคุ้มครองและข้อยกเว้น เป็นไปตามเงื่อนไขกรมธรรม์ประกันภัย  ประกันภัยเดินทางอันนีโดยทั้งนี้การทำประกันนี้จากบริษัท  มากกว่าข้อบังคับ ตาม พรบ ธุรกิจนำเที่ยว ที่บังคับให้บริษัทนำเที่ยว ทำประกันเฉพาะอุบัติเหตุในการเดินทางเท่านั้น แต่ทั้งนี้ ท่านสามารถศึกษาเงือนไขความคุ้มครองและข้อยกเว้นแผนเติมจากเว็บไซด์ FWD INSURANCE ได้กรณีท่านต้องการซื้อความคุ้มครองเพิ่มเติมสามารถแจ้งความประสงค์มาที่บริษัทฯ
  9. ค่ารถปรับอากาศนำเที่ยวตามระบุไว้ในรายการ พร้อมคนขับรถ (กฎหมายไม่อนุญาตให้คนขับรถเกิน 12 ช.ม./วัน)
  10. ค่า Vat 7% และ ค่าภาษีหัก ณ ที่จ่าย 3%
  1. ค่าทำหนังสือเดินทางไทย และเอกสารต่างด้าวต่างๆ  จากท่าน
  2. ค่าบริการและยื่นวีซ่าเชงเก้น 5,500 บาท
  3. ค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่นอกเหนือจากรายการระบุ อาทิเช่น ค่าอาหาร เครื่องดื่ม ค่าซักรีด ค่าโทรศัพท์ เป็นต้น
  4. ค่าภาษีทุกรายการคิดจากยอดบริการ, ค่าภาษีเดินทาง (ถ้ามีการเรียกเก็บ)
  5. ค่าภาษีน้ำมันที่สายการบินเรียกเก็บเพิ่มภายหลังจากทางบริษัทฯได้ออกตั๋วเครื่องบิน และได้ทำการขายโปรแกรมไปแล้ว
  6. ค่าพนักงานยกกระเป๋าที่โรงแรม
  7. ค่าทิปไกด์ คนขับรถ ท่านละ 60 EUR /ท่าน สำหรับหัวหน้าทัวร์แล้วแต่ความประทับใจ

หมายเหตุ* โปรแกรมอาจมีการสลับวันหรือเปลี่ยนแปลงไปตามความเหมาะสมโดยไม่แจ้งให้ทราบล่วงหน้าขึ้นอยู่กับตามสถานการณ์ท้องถิ่น สถานที่ท่องเที่ยว เทศกาล หรือ สภาพอากาศท้องถิ่น ณ เวลานั้น ทั้งนี้การเปลี่ยนทางบริษัทจะคำนึงถึงประโยชน์และความปลอดภัยของทุกท่านเป็นหลักสำคัญ

Share on social networks
โปรแกรมทัวร์ที่น่าสนใจ