22.00 น. : พร้อมกันที่ สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารขาออกชั้น 4 เคาน์เตอร์ สายการบิน ไทย (TG) เจ้าหน้าที่ บริษัทฯ คอยให้การต้อนรับและอำนวยความสะดวก ตรวจเช็คสัมภาระและเอกสารเดินทาง
01.20 น. : ออกเดินทางสู่กรุงโคเปนเฮเกน โดย สายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG950
07.40 น. : (เวลาท้องถิ่น) เดินทางถึง กรุงโคเปนเฮเกน (COPENHAGEN) เมืองหลวงของประเทศเดนมาร์คและเมืองที่ใหญ่ที่สุดของประเทศเดนมาร์ค กรุงโคเปนเฮเกนเป็นที่ตั้งของศูนย์กลางการบริหารประเทศ รัฐสภา รัฐบาล และเป็นที่ตั้งพระราชวังหลวงในพระราชวงศ์เดนมาร์ค
นำท่าน ชมความงามของกรุงโคเปนเฮเกน ดินแดนแห่งสมญานาม นครแห่งเทพนิยาย และถ่ายรูปบริเวณ พระราชวังอามาเลียนบอร์ก (AMALIENBORG PALACE) อันเป็นที่ประทับของสมเด็จพระราชินีและราชวงศ์เดนมาร์ค ชมบริเวณพระราชวังคริสเตียนบอร์ก (CHRISTIANBORG PALACE) ซึ่งในปัจจุบันใช้เป็นที่ทำการรัฐสภา
ชมน้ำพุเกฟิออน (GEFION FOUNTAIN) ต้นตำนานของอาณาจักรเดนมาร์ค มีนิทานเล่ากันว่าราชินี เกฟิออนแปลงร่างลูกชาย 4 คนให้เป็นโคเพื่อไถพื้นดินขึ้นมาจากใต้น้ำ เกิดเป็นประเทศเดนมาร์คในทุกวันนี้ ชมรูปปั้นเงือกน้อย (LITTLE MERMAID) ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของกรุงโคเปนเฮเกน ตัวละครเอกในนิยายของฮันส์ คริสเตียน แอนเดอร์สัน นักแต่งนิทานชาวเดนมาร์คที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลก
เที่ยง : รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร อาหารจีน
บ่าย : อิสระให้ท่านเลือกซื้อช้อปปิ้งของที่ระลึกมากมายของเดนมาร์ค เช่น ขนมเดนิช หมอนและผ้าห่มขนเป็ดคุณภาพสูงของเดนมาร์ค สินค้าตกแต่งบ้านดีไซน์เก๋ไก๋อันเป็นเอกลักษณ์ของสแกนดิเนเวีย วิตามินบำรุงผิว วิตามินเอมิดีน (IMEDEEN) ณ บริเวณ ถนนสายช้อปปิ้ง STROGET ที่ยาวที่สุดในยุโรป
ค่ำ : รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร อาหารพื้นเมือง
ที่พัก FIRST HOTEL หรือเทียบเท่า
เช้า : รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เขตนอร์ทซีแลนด์ เพลิดเพลินกับพื้นที่เพาะปลูกอัน สมบูรณ์ ภาพวิถีชีวิตของชาวเดนมาร์ก พร้อมชมพระราชวังเฟรดเดอริคบอร์ก (Frederiksborg Castle) ที่งดงามของราชวงศ์เดนมาร์ค ที่สร้างขึ้นในปี ค.ศ.1560 โดยใช้เป็นที่ล่าสัตว์ของพระเจ้าเฟรดเดอริคที่ 2 ต่อมาได้รับการต่อเติมเป็นที่ประทับของราชวงศ์ในสมัยพระเจ้าคริสเตียนที่ 4 ภายหลังการซ่อมแซมจากไฟไหม้ ค.ศ.1859 ภายในเป็นที่ใช้แสดงภาพของราชวงศ์เดนมาร์กตั้งแต่ศตวรรษที่ 16 จนถึงปัจจุบัน นับเป็นพระราชวังแบบเรอเนซองค์ที่ใหญ่ที่สุดในยุโรปเหนือ
เที่ยง : รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย : นำท่านถ่ายรูปด้านหน้ากับ พระราชวังโครนบอร์ก ซึ่งมีสถาปัตยกรรมเด่นสง่า และโด่งดังจากบทละครเรื่อง แฮมเล็ตวรรณกรรมเอกของวิลเลียม – เชคสเปียร์
จากนั้นเดินทางกลับสู่ กรุงโคเปนเฮเกน เพื่อเดินทางสู่ท่าเรือสำราญขนาดใหญ่ DFDS ซึ่งสะดวกสบายด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกนานาชนิด เช่น ภัตตาคาร บาร์ ไนต์คลับ และเพลินกับการเลือกชมสินค้าปลอดภาษี เรือสำราญลำนี้จะล่องสู่ทะเลเหนือจรดมหาสมุทรแอตแลนติก ผ่าน OSLO FJORD ที่เป็นส่วนหนึ่งของฟยอร์ดนอร์เวย์ที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลก (พักห้อง Sea View) ที่
ค่ำ : รับประทานอาหารค่ำแบบสแกนดิเนเวียนบุฟเฟ่ต์ พร้อมเครื่องดื่มท่านละ 1 ดริงค์ (เบียร์ หรือ ไวน์ หรือซอฟท์ดริงค์) ณ ห้องอาหารบนเรือ ประทับใจกับอาหารทะเลสดจากมหาสมุทรแอตแลนติกและจากทะเล
เช้า : รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารบนเรือ
09.30 น. : เรือเข้าเทียบท่า กรุงออสโล (OSLO) เมืองหลวงของประเทศนอร์เวย์ ในปี 2006 ออสโลได้ชื่อว่าเป็นเมืองที่มีค่าครองชีพสูงที่สุดในโลกแทนที่โตเกียว (ข้อมูลจากนิตยสาร THE ECONOMIST) โดยออสโลตั้งอยู่ขอบด้านเหนือของอ่าวฟยอร์ดที่ชื่อ “ออสโลฟยอร์ด” ตัวเมืองประกอบด้วยเกาะ 40 เกาะ เกาะใหญ่ที่สุดชื่อ MALMOYA นอกจากนี้ ยังมีทะเลสาบกว่า 343 แห่งซึ่งเป็นแหล่งน้ำจืดสำคัญ
จากนั้น เข้าชมพิพิธภัณฑ์เรือไวกิ้ง (VIKING SHIP MUSEUM) อาคารชั้นเดียว ที่จัดแสดงเรือไวกิ้งไว้ 3 ลำ แต่ละลำมีอายุประมาณ 1,000 ปี โดยขุดได้จากรอบ ๆ ออสโลฟยอร์ด นอกจากนี้ ยังจัดแสดงเกี่ยวกับเครื่องมือเครื่องใช้ในชีวิตประจำวันที่มีอายุเก่าแก่กว่า 1,000 ปีด้วย
เที่ยง : รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย : จากนั้นนำท่านออกเดินทางต่อสู่ เมืองไกโล่ (GEILO) หนึ่งในเมืองสกีรีสอร์ทยอดนิยมในเขตภูมิภาคของฟยอร์ดนอร์เวย์
ระยะทางจากออสโล – ไกโล่ : 240 กิโลเมตร
ค่ำ : รับประทานอาหาร ณ ภัตตาคาร
ที่พัก GEILO HOTEL หรือเทียบเท่า
เช้า : รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
จากนั้นเดินทางสู่ เมืองกู้ดวานเก้น (GUDVANGEN) เพื่อลงเรือ นำท่านเปลี่ยนบรรยากาศด้วยการ ล่องเรือชมซอง ฟยอร์ด (SOGNE FJORD) ที่สวยงามที่สุดในนอร์เวย์ มีความถึง 204 กิโลเมตร จากทะเลเข้ามาในแผ่นดิน โดยเป็นความมหัศจรรย์ของธรรมชาติที่เกิดจากการกัดเซาะแผ่นดินของธารน้ำแข็งเมื่อหลายล้านปีก่อน ท่านจะได้เพลิดเพลินกับธรรมชาติอย่างไม่รู้เบื่อ ชายฝั่งนอร์เวย์มีความเว้าแหว่งมากกว่าที่อื่นในโลก และเป็นประเทศที่บัญญัติศัพท์คำว่า ฟยอร์ด ขึ้นมาอีกด้วย….
ระยะทางจากไกโล่ – กู้ดวานเก้น : 135 กิโลเมตร
เที่ยง : รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย : จากนั้นนำท่านออกจาก เมืองฟลอม (FLAM) ซึ่งตั้งอยู่ปลายสุดของฟยอร์ด เป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของนอร์เวย์ ตั้งอยู่ริมชายฝั่งของซองฟยอร์ด (SOGNE FJORD) …เดินทางสู่ สถานีรถไฟไมร์ดาล (MYRDAL) สถานีรถไฟที่อยู่สูงที่สุด โดยสูงจากระดับน้ำทะเลกว่า 1,000 เมตร เป็นสถานีรถไฟที่มีทัศนียภาพงดงามที่สุดในนอร์เวย์
นำท่าน นั่งรถไฟสายโรแมนติก ฟลอม – ไมร์ดาล โดยสถานีไมร์ดาลเป็นส่วนหนึ่งของเส้นทางรถไฟสายโรแมนติกฟลอมส์บานา โดยสถานีไมร์ดาลแห่งนี้อยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเลประมาณ 867 เมตร / เปลี่ยนขบวนรถไฟเป็นสาย ฟลอมส์บานา (FLAMSBANA) เส้นทางรถไฟสายโรแมนติกที่มีชื่อเสียงของนอร์เวย์ นั่งรถไฟสายโรแมนติก เลียบไปตามเส้นทางชมวิวแสนสวย ระหว่างทางท่านจะได้ชื่นชมกับธรรมชาติอันสวยงาม ลัดเลาะไปตามไหล่เขา รถไฟจะจอดให้ท่านชม น้ำตก KJOSFOSS ซึ่งน้ำที่ไหลได้มาจากการละลายของหิมะบนเทือกเขาสูง เดินทางสู่ เมืองวอส (VOSS) เมืองน่ารักริมทะเลสาบที่ซึ่งล้นเกล้ารัชกาลที่ 5 เคยเสด็จมาประทับเมื่อคราวเสด็จประพาสยุโรปในปี 1907
ออกเดินทางต่อโดยรถบัสไปสู่ เมืองเบอร์เก้น (BERGEN) เมืองหลวงแห่งศิลปวัฒนธรรมและเมืองหลวงเก่าแก่แห่งฟยอร์ดของประเทศนอร์เวย์ อีกทั้งยังเป็นเมืองมรดกโลก โดยได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโก้ด้วย เป็นเมืองใหญ่อันดันสองของประเทศและเป็นเมืองท่าสำคัญทางชายทะเลตะวันตกเฉียงใต้ของนอร์เวย์
ชมเมืองเบอร์เก้น ย่านเมืองเก่าชาวประมง ท่าเทียบเรือเดินสมุทร และเป็นศูนย์กลางการขุดเจาะน้ำมันของประเทศด้วย
ชม บริเวณท่าเรือเก่าบริกเกน (BRYGGEN) หรือย่านเมืองเก่าของเบอร์เก้น ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของเมืองนี้ ด้วยห้องแถวสูงประมาณ 2-3 ชั้นที่สร้างด้วยไม้ทาสีขาว แดง เหลือง เขียว จั่วหน้าสามเหลี่ยม มีเสน่ห์น่ารัก หน้าบ้านมักจะตกแต่งด้วยไม้แกะสลักเป็นรูปหัวกวาง ตัวแคปริคอน หรือม้ามังกร และรูปตุ๊กตาต่างๆ อาคารบริกเกนถึง 61 หลังได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นแหล่งมรดกโลกทางวัฒนธรรมจากองค์การยูเนสโก้ ….อิสระมีเวลาให้ท่านเลือกเดินเล่น ซื้อของฝาก ของที่ระลึกบริเวณตลาดริมท่าเรือ ซึ่งมีทั้งย่านตลาดปลา ตลาดนัดขายสินค้าพื้นเมือง ผลไม้ งานศิลปะ ฯลฯ
ระยะทางจากวอส – เบอร์เก้น : 120 กิโลเมตร
ค่ำ : รับประทานอาหาร ณ ภัตตาคาร
ที่พัก RADISSON BLU หรือเทียบเท่า
เช้า : รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
ออกเดินทางกลับสู่ กรุงออสโล (OSLO) โดยจะแวะรับประทานอาหารกลางวันที่เมืองกอล ซึ่งเป็นเมืองน่ารัก และเป็นเมืองสกีรีสอร์ทที่สำคัญอีกแห่งหนึ่ง
ระยะทางจากเบอร์เก้น – กอล : 275 กิโลเมตร
เที่ยง : รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย : นำท่าน ชมอุทยานฟรอกเนอร์ (FROGNER SCULPTURE PARK) ท่านจะตื่นตาตื่นใจในผลงานของปฏิมากรเอกชาวนอร์เวย์ชื่อกุสตาฟ วิกเกแลนด์ ที่ใช้เวลา 40 ปีในการแกะกลุ่มรูปสลักหินแกรนิต และทองแดงให้คนรุ่นหลังได้เห็นวัฎจักรในหนึ่งชีวิตของมนุษย์ ตรงใจกลางของอุทยานเป็นที่ตั้งของรูปแกะสลักชิ้นโบว์แดงของท่านชื่อ โมโนลิท (สูง 17 เมตร) แกะจากหินสลักแกรนิตเพียงแท่งเดียว
จากนั้น มีเวลาให้ท่านเดินเล่นเลือกซื้อของช้อปปิ้ง ณ บริเวณถนนคาร์ล โยฮันส์ เกท ให้ท่านเลือกซื้อของฝากของที่ระลึกตามอัธยาศัย
ค่ำ : รับประทานอาหาร ณ ภัตตาคาร
ที่พัก : RADISSON BLU หรือเทียบเท่า
เช้า : รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
09.00 น. : ออกเดินทางสู่ เมืองอัลตา โดยสายการบิน นอร์วีเจียนแอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ DY320
11.00 น. : (เวลาท้องถิ่น) เดินทางถึง เมืองอัลตา (ALTA) เมืองที่ใหญ่ที่สุดในฟินน์มาร์กและเป็นที่รู้จักกันในหมู่ชาวประมงว่ามี แหล่งแม่น้ำที่มีปลาแซลมอนที่ดีที่สุดในโลกแห่งหนึ่ง
เที่ยง : รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย : นำท่านเดินทางสู่ คาฟยอร์ด (KAFJORD) ลอดอุโมงค์ใต้ทะเลที่มีความยาวถึง 6,780 เมตร เพื่อเดินทางต่อสู่ เมืองฮอนนิ่งสแวก (HONNINGSVAG) ซึ่งเป็นดินแดนที่อยู่เหนือสุดของโลก ดินแดนทางภาคเหนือของประเทศนอร์เวย์ เป็นแคว้นกว้างใหญ่ซึ่งเป็นบริเวณแห่งทะเลน้ำแข็ง (ARCTIC CIRCLE) และเป็นดินแดนแห่ง พระอาทิตย์เที่ยงคืน
ที่พัก BEDBANK AT RICA HONNINGSVAG หรือเทียบเท่า
นำท่านเข้าสัมผัสบรรยากาศบาร์น้ำแข็งขั้วโลกเหนือที่ อาร์ติโก ไอซ์ บาร์ (ARTICO ICE BAR) ให้ท่านได้ชมบาร์ที่ทุกอย่างทำมาจากน้ำแข็ง ไม่ว่าจะเป็นโต๊ะ เก้าอี้ เคาน์เตอร์บาร์ แก้วน้ำ ถาด เป็นต้น โดยทางบาร์จะมีเสื้อกันหนาวเตรียมไว้ให้ทุกท่านสำหรับสวมใส่เมื่อเข้าไปด้านใน พร้อมทั้งเสิร์ฟเครื่องดื่มให้ท่านละ 1 ดริงค์ โดยเสิร์ฟมาในแก้วน้ำที่ทำจากน้ำแข็ง ให้ท่านได้ถ่ายภาพด้านในไอซ์บาร์ตามอัธยาศัย ซึ่งทางบาร์ได้มีการจำลองที่อยู่แบบอิ๊กลูไว้ด้านในให้ท่านได้บันทึกภาพอีกด้วย
ระยะทางจากอัลตา – ฮอนนิ่งสแวก : 208 กิโลเมตร
ค่ำ : รับประทานอาหารค่ำแบบพื้นเมือง ณ ห้องอาหารของโรงแรม
หลังอาหารค่ำเดินทางสู่ นอร์ธเคป (NORTH CAPE) หรือแหลมเหนือ เป็นแหลมที่อยู่ปลายเกาะมาเกโรยาในภาคเหนือของประเทศนอร์เวย์ ตัวแหลมมีความสูง 307 เมตรจากระดับน้ำทะเล เป็นหน้าผาที่สูงชัน พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงมาเยือนเมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม ค.ศ. 1907
นำท่าน เข้าชมพิพิธภัณฑ์ไทย ที่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ เสด็จมาทรงกระทำพิธีเปิดเมื่อกลางปี พ.ศ.2532 เพื่อเป็นที่ระลึกในการเสด็จประพาสของล้นเกล้าพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเมื่อปี พ.ศ.2450 นับเป็นพิพิธภัณฑ์ไทยที่อยู่เหนือสุดของโลก ชมพระบรมฉายาลักษณ์ของรัชกาลที่ 5 ขณะฉายพระรูปพร้อมข้าราชบริพาร ณ บริเวณหินสลักพระปรมาภิไธย จ.ป.ร. โดยในปี ค.ศ. 1907 หรือ ร.ศ. 126 ของเดือนกรกฎาคม พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวหรือรัชกาลที่ 5 ได้เสด็จประพาสประเทศนอร์เวย์และแหลมเหนือ หรือ นอร์ธเคป แห่งนี้ ซึ่งเป็นจุดชมพระอาทิตย์ในยามเที่ยงคืนที่กล่าวกันว่าสวยที่สุดในโลก
นำท่านเข้าชมนอร์ธเคป ฮอลล์ (NORTHCAPE HALL) เพื่อชม พระอาทิตย์เที่ยงคืน (MIDNIGHT SUN) ที่ส่องแสงสุขสว่างยามราตรี ท่านจะได้รับ ประกาศนียบัตร ในฐานะที่ท่านเป็นผู้ที่เคยเดินทางมาถึงขั้วโลกเหนือแห่งนี้ บนจุดเหนือสุดของโลกที่สามารถเดินทางได้ด้วยรถยนต์
เช้า : รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองลัคแซลฟ์ (LAKSELV) เมืองเล็กๆ ที่มีประชากรไม่ถึง 4,000 คน เป็นเมืองที่ผู้คนนิยมมาตกปลาแซลมอนในช่วงฤดูร้อน ระหว่างทางรถวิ่งผ่านเส้นทางอันงดงามให้ท่านได้ชมทิวทัศน์สวยงามตลอดสองข้างทาง
ระยะทางจากฮอนนิ่งสแวก – ลักแซลฟ์ : 169 กิโลเมตร
เที่ยง : รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย : เดินทางข้ามพรมแดนเข้าสู่เขตแดนประเทศฟินแลนด์ เพื่อเดินทางสู่ ทะเลสาบอินารี (INARI) ทะเลสาบที่สวยงามแห่งหนึ่งของฟินแลนด์ อยู่ในเขตอาร์คติกเซอร์เคิล ยาว 80 กิโลเมตร และกว้าง 40 กิโลเมตร เป็น แหล่งเพาะพันธุ์ปลาน้ำจืดที่อุดมสมบูรณ์ทางตอนเหนือของฟินแลนด์ ทะเลสาบตั้งอยู่ในส่วนหนึ่งของแลปแลนด์ (LAPPLAND) ซึ่งเป็นที่อยู่ของชาวแลปหรือชาวซามิ ชนพื้นเมืองดั้งเดิมของดินแดนแถบนี้ โดยมีสัตว์ประจำท้องถิ่นคือกวางเรนเดียร์ ที่ใช้ประโยชน์ได้หลากหลาย อาทิเช่น ใช้ลากรถเลื่อนโดยกวางเรนเดียร์ ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นพาหนะของซานตาคลอสในวันคริสต์มาสที่ออกไปแจกของขวัญกับเด็ก ๆ นอกจากนี้ บริเวณทะเลสาบอินารียังเคยใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์แอคชั่นของฮอลลีวู้ดเรื่อง FIREFOX ที่กำกับและนำแสดงโดยคลินท์ อีสท์วู้ดในปี 1982
ออกเดินทางต่อสู่ เมืองอิวาโล (IVALO) เป็นเมืองใหญ่ที่สุดในฟินน์มาร์ค เป็นที่รู้จักกันในหมู่ชาวประมงว่ามีแหล่งแม่น้ำที่มีปลาแซลมอนดีที่สุดในโลกแห่งหนึ่ง ดินแดนแห่งศูนย์กลางชาวแลปป์ (LAPLAND) ซึ่งผู้คนที่อาศัยอยู่ในแถบนี้มักเป็นชาวแลปป์หรือซามิ ซึ่งปัจจุบันเหลืออยู่ไม่มากนัก โดยชาวซามิเป็นชนพื้นเมืองที่อาศัยอยู่ในเขตแลปแลนด์หรือแซปมิ
ระยะทางจากลักแซลฟ์ – อินารี : 192 กิโลเมตร
ระยะทางจากอินารี – อิวาโล : 37 กิโลเมตร
ค่ำ : รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรม
ที่พัก IVALO หรือเทียบเท่า
หมายเหตุ กรุณาเตรียมกระเป๋า OVERNIGHT BAG สำหรับค้างคืน 2 คืน (บนรถไฟจากโรวาเนียมิ – เฮลซิงกิ 1 คืน และสำหรับบนเรือ SILJA LINE อีก 1 คืน) ในวันรุ่งขึ้น
เช้า : รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านออกเดินทางสู่ เมืองโรวาเนียมิ (ROVANIEMI) เมืองซึ่งตั้งอยู่บริเวณเส้นอาร์คติกเซอร์เคิล เป็นเมือง ศูนย์กลางธุรกิจ การปกครอง และการศึกษาของประเทศฟินแลนด์ทางตอนเหนือ ตั้งอยู่ระหว่างแม่น้ำ KEMIJOKI และแม่น้ำ OUNASJOKI ได้ชื่อว่าเป็นเมืองปากประตูสู่แผ่นดินชาว LAPLAND และยังถือว่าเป็นเมืองของซานตาคลอส ที่เด็ก ๆ รู้จักกันดีทั่วโลกอยู่ด้วย
ระยะทางจากอิวาโล – โรวาเนียมิ : 290 กิโลเมตร
เที่ยง : รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย : นำท่าน ชมลานสกีโอนาสวารา (OUNASVAARA) สถานที่แข่งสกีระดับนานาชาติประจำปีของเมืองโรวาเนียมิตั้งอยู่บนเนินเขาชื่อเดียวกันที่ความสูงประมาณ 204 เมตร เป็นศูนย์กลางกีฬาฤดูหนาวที่มีชื่อเสียงอีกแห่งหนึ่งของฟินแลนด์
จากนั้นมีเวลาให้ท่านเดินช้อปปิ้งซื้อหาของฝาก ของที่ระลึกบริเวณถนนช้อปปิ้งในเมืองโรวาเนียมิ ซึ่งมีของที่ระลึกแบบสแกนดิเนเวียให้ท่านเลือกมากมาย อาทิเช่น หนังกวางเรนเดียร์ และสินค้าที่ทำมาจากกวางเรนเดียร์ต่าง ๆ มีดพกแบบสแกนฯ ที่สามารถสลักชื่อลงไปได้ ฯลฯ
ชม หมู่บ้านซานตาคลอส (SANTA CLAUS VILLAGE) ที่ประกอบไปด้วยร้านของเล่นซานตาคลอส ที่ทำการไปรษณีย์ซานตา และที่แน่นอน “บ้านซานตาคลอส” ที่ท่านจะได้มีโอกาสพบซานตาคลอสได้ตลอดทุกวัน พิเศษ! นำท่านข้ามเส้นอาร์คติกเซอร์เคิล (ARCTIC CIRCLE) อันเป็นเส้นบ่งบอกว่าดินแดนที่อยู่เหนือจากเส้นอาร์คติกเซอร์เคิลนี้ จะไม่เห็นพระอาทิตย์ตลอดช่วงฤดูหนาว มีเวลาให้ท่านเลือกซื้อของที่ระลึกและถ่ายรูปคู่กับซานตาคลอสตัวจริง
18.00 น. : รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่สถานีรถไฟ เพื่อเดินทางสู่กรุงเฮลซิงกิโดยรถไฟตู้นอนทันสมัย สะดวกสบายตามมาตรฐานสแกนดิเนเวีย โดยภายในห้องพักมีสิ่งอำนวยความสะดวกสบายครบครัน รวมทั้งมีห้องน้ำสะอาดภายในห้องพัก (พักห้องละ 2 ท่าน)
21.00 น. : รถไฟออกเดินทางจากเมืองโรวาเนียมิลงใต้สู่กรุงเฮลซิงกิ เมืองหลวงของฟินแลนด์
21.00 น. : รถไฟเดินทางถึง กรุงเฮลซิงกิ (HELSINKI) เมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดของประเทศฟินแลนด์ ตั้งอยู่ ทางใต้ของประเทศ ริมชายฝั่งอ่าวฟินแลนด์ เฮลซิงกิอยู่ติดกับเมืองวันตาและเมืองเอสโป ซึ่งรวมตั้งเป็นเขตเมืองหลวงหรือมหานครเฮลซิงกิ เฮลซิงกิมีชื่อเดิมว่า “เฮลซิงฟอร์ส” และยังคงเป็นชื่อเมืองในภาษาสวีเดนในปัจจุบัน
09.30 น. : รับประทานอาหารเช้า ณ ภัตตาคาร
จากนั้น นำท่านชมประเทศที่มีเอกลักษณ์ของตนเอง กรุงเฮลซิงกิ เจ้าของนาม ธิดาสาวแห่งทะเลบอลติก นครลูกครึ่ง มีประชากรกว่าสี่แสนคน มีคาร์ล ลุดวิก เองเกล ชาวเยอรมันทำหน้าที่เป็นสถาปนิกใหญ่ในโครงการสร้างเมืองใหม่นี้ ชมศูนย์กลางของเมืองที่ จัตุรัสรัฐสภา (SENATE SQUARE) ซึ่งมีขนาดใหญ่รองรับคนได้หลายหมื่นคน สิ่งก่อสร้างสำคัญบริเวณจัตุรัสนี้คือ มหาวิหาร (CATHEDRAL) ซึ่งตั้งอยู่ทางทิศเหนือของจัตุรัส ทางทิศตะวันออกและตะวันตกเป็นทำเนียบรัฐบาลและอาคารหลักของมหาวิทยาลัยตามลำดับ และบริเวณจัตุรัสแห่งนี้ยังเคยใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์ชนะรางวัลออสการ์เรื่อง เรดส์ โดยใช้ฉากมโหฬารของเฮลซิงกิแทนกรุงเลนินกราดในสหภาพโซเวียต
ชมมหาวิหารอุสเปนสกี้ (USPENSKY CATHEDRAL) โบสถ์แบบรัสเซียออร์โธดอกซ์ และเป็นโบสถ์นิกายออร์โธดอกซ์ที่ใหญ่ที่สุดในยุโรปตะวันตก ตัววิหารอุสเปนสกี้ตั้งอยู่บนเนินไม่ไกลจากบริเวณท่าเรือ มีลานกว้างหน้าวิหาร เป็นจุดชมวิวและถ่ายรูปด้านล่างของอ่าวฟินแลนด์และตลาดริมท่าเรือที่สวยงามจุดหนึ่ง
ชม อนุสาวรีย์ฌอง ซีเบเลียส (SIBELIUS MONUMENT) นักประพันธ์ที่มีชื่อเสียงชาวฟินน์ ซึ่งตั้งอยู่ภายใน สวนซีเบเลียส (SIBELIUS PARK) ซึ่งสร้างขึ้นเพื่ออุทิศให้กับฌอง ซิเบเลียส ออกแบบโดย EILA HILTUNEN
ประติมากรชาวฟินน์ ประกอบไปด้วยท่อเหล็กประมาณ 600 ท่อเชื่อมประสานเข้าด้วยกัน อนุสาวรีย์ซีเบเลียสนี้มีน้ำหนักถึง 24 ตัน
เที่ยง : รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย : ชม โบสถ์ TEMPPELIAUKIO ซึ่งมีอีกชื่อหนึ่งว่า ROCK CHURCH เป็นโบสถ์ที่มีชื่อเสียงอีกแห่งหนึ่งของกรุงเฮลซิงกิ สร้างด้วยหินโดยเฉพาะภายในมีการตกแต่งที่สวยงาม มีสถาปัตยกรรมที่แปลกตาอยู่บริเวณหน้าผาที่มีกำแพงภายในเป็นหิน
นำท่านสู่บริเวณ ตลาดริมท่าเรือ (MARKET SQUARE) ที่มีทั้งส่วนของตลาดปลา,ตลาดผลไม้,ตลาดสินค้าจำหน่ายแก่นักท่องเที่ยว ท่านจะได้ชมภาพชีวิตการจับจ่ายซื้อของของชาวฟินนิช อีกทั้งยังสามารถเลือกชม เลือกซื้อหาเชอร์รี่สด สตรอเบอรี่สด ปลาแซลมอน ไข่ปลาคาร์เวีย ผลิตภัณฑ์ทำจากหนังกวางเรนเดียร์มากมาย ฯลฯ
จากนั้นเดินทางสู่ ท่าเรือ เพื่อเดินทางโดยเรือสำราญล่องทะเลบอลติกขนาดมหึมา ล่องผ่านฟยอร์ดอันแสนงามของฟินแลนด์ สู่ทะเลบอลติกจนถึงกรุงสต็อคโฮล์ม ประเทศสวีเดน เพลิดเพลินกับความสนุกสนานมากมายในเรือ เช่น ห้องเล่นเกมต่าง ๆ โรงภาพยนตร์ ภัตตาคาร บาร์ คาสิโน ไนต์คลับ ร้านค้าปลอดภาษีที่จำหน่ายสินค้าในราคาพิเศษสุด พิเศษ !!! ห้องพักแบบมีหน้าต่างทุกห้อง มองเห็นวิวทิวทัศน์ของทะเลบอลติกจากห้องพัก
ค่ำ : รับประทานอาหารค่ำแบบบุฟเฟ่ต์สแกนดิเนเวียนซีฟู้ด ณ ภัตตาคารบนเรือ อิ่มอร่อยกับอาหารทะเลนานาชนิด โดยเฉพาะปลาแซลมอนปรุงพิเศษ และไข่ปลาคาร์เวียร์เลิศรส พร้อมเครื่องดื่ม ไม่ว่าจะเป็นเบียร์ไวน์ หรือซอฟดริงค์ให้เลือกดื่มแบบ UNLIMITED เพลิดเพลินกับความหรูหราที่ไม่ธรรมดาในคืนพิเศษนี้ ค่ำคืนนี้ พักผ่อนในเรือสำราญ SILJA LINE
เช้า : รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารบนเรือ
09.30 น. : เรือเข้าเทียบท่า กรุงสต็อคโฮล์ม (STOCKHOLM) เมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดของประเทศสวีเดน ตั้งอยู่ริมชายฝั่งทะเลทิศตะวันออกของประเทศ เป็นที่ตั้งของรัฐบาลสวีเดน และเป็นที่ประทับของสมเด็จพระราชาธิบดีคาร์ลที่ 16 กุสตาฟ พระมหากษัตริย์องค์ปัจจุบันของสวีเดน
ชมกรุงสต็อคโฮล์ม นครหลวงที่งดงามที่สุดของประเทศสวีเดน และในกลุ่มสแกนดิเนเวีย ประกอบด้วยเกาะใหญ่น้อย 14 เกาะที่โอบล้อมด้วยทะเลบอลติก และทะเลสาบมาลาเร็น ทำให้สต็อกโฮล์มเป็นเมืองหลวงที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ผ่านชมโรงละครแห่งชาติ ทำเนียบรัฐบาล
ชม พิพิธภัณฑ์เรือวาซา (WASA SHIP MUSEUM) เรือรบโบราณที่จมระหว่างการออกทะเลเมื่อปี 1628 และจมอยู่ใต้ทะเลนานถึง 333 ปี ได้รับการบูรณะในปี ค.ศ. 1961 อย่างสมบูรณ์และจัดแสดงในพิพิธภัณฑ์วาซาที่มีชื่อเสียงของสแกนดิเนเวีย
เที่ยง : รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย : ชม ศาลาว่าการเมือง (CITY HALL) ซึ่งออกแบบก่อสร้างโดยรังนาร์ ออสเบิร์ก (RANGNAR OSTBERG) ตัวตึกก่อสร้างด้วยอิฐแดงกว่า 8 ล้านก้อนและตกแต่งผนังในห้องเต้นรำที่มีลวดลายฝังหินโมเสกกว่า 19 ล้านชิ้น ขัดผิวหน้าเรียบแล้วเคลือบด้วยทอง ใช้เวลาในการก่อสร้างนานถึง 12 ปี แล้วเสร็จในปี ค.ศ. 1911 และในเดือนธันวาคมของทุกปี ที่นี่จะใช้เป็นสถานที่จัดงานเลี้ยงให้ผู้ที่ได้รับรางวัลโนเบลที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลก โดยการมอบรางวัลโนเบลจัดขึ้นเป็นประจำทุกปีในวันที่ 10 ธันวาคม โดยผู้พระราชทานคือสมเด็จพระราชาธิบดีแห่งราชอาณาจักรสวีเดน สำหรับผู้ที่ได้รับรางวัลจะได้รับเหรียญรางวัลโนเบล ใบประกาศเกียรติคุณ เงินรางวัลประมาณ 10 ล้านโครนหรือประมาณ 70 ล้านบาท จากนั้น มีเวลาให้ท่านได้เลือกซื้อหาสินค้าของฝากที่ย่านถนนช้อปปิ้ง DROTTNINGGATAN ของกรุงสต็อคโฮล์มตามอัธยาศัย
ค่ำ : รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารไทย
ที่พัก CLARION หรือเทียบเท่า
เช้า : รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
08.00 น. : เดินทางสู่ เกาะลูฟเอิน เพื่อแวะถ่ายภาพของ พระราชวังดรอทท์นิ่งโฮล์ม (DROTTNINGHOLM SLOTTS) พระราชวังที่ประทับของสมาชิกราชวงศ์ที่ทรงแปรพระราชฐานมาจากกัมลา สตัน (GAMLA STAN) เพื่อให้เชื้อพระวงศ์ที่ทรงพระเยาว์ได้มีอุทยานสำหรับผ่อนคลายพระอิริยาบถ พระราชวังดรอทท์นิ่งโฮล์มมีฉายาว่า “แวร์ซายน์น้อย” ตั้งตระหง่านอยู่เหนืออุทยานน้ำพุ รูปปั้น แปลงดอกไม้ รั้วต้นไม้เตี้ย ๆ และต้นไม้สีเข้มที่ดูเผิน ๆ คล้ายหินตั้งสีเขียว
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่สนามบิน
14.30 น. : ออกเดินทางกลับสู่ ประเทศไทย โดยสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG961
05.50 น. : (เวลาท้องถิ่น) เดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิ ประเทศไทย โดยสวัสดิภาพ
อัตรานี้รวม
อัตรานี้ไม่รวม
***ร้านค้าในยุโรปส่วนใหญ่จะปิดทำการในวันอาทิตย์, ขอสงวนสิทธิ์การย้ายเมืองที่เข้าพัก เช่น กรณีที่เมืองนั้นมีการจัดงาน TRADE FAIR ฯลฯ ไปเข้าพักเมืองที่ใกล้เคียงแทน และโปรแกรมอาจมีการปรับเปลี่ยนตามความเหมาะสม***
หมายเหตุ กำหนดการเดินทางอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้เพื่อความเหมาะสม ทั้งนี้ทางบริษัทฯ จะยึดถือความปลอดภัย ตลอดจนผลประโยชน์ของคณะผู้เดินทางเป็นสำคัญ
ในกรณีที่ผู้โดยสาร มีไฟล์ทเดินทางภายในประเทศหรือระหว่างประเทศ ที่เกี่ยวข้องกับวันเดินทางที่ท่านได้ทำการจองไว้กับทางบริษัทฯ กรุณาแจ้งให้กับทางเจ้าหน้าที่ทราบ ก่อนการชำระเงินค่าตั๋วดังกล่าว ถ้าเกิดข้อผิดพลาด ทางบริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการรับผิดชอบทุกกรณี
**กรุณาอ่านเงื่อนไขและหมายเหตุให้ละเอียดทุกข้อ เพราะรายการทัวร์ที่ท่านได้รับถือเป็นสัญญา การเดินทางระหว่างบริษัทและลูกค้า**
เงื่อนไขการจอง
กรุณาจองก่อนล่วงหน้า พร้อมชำระเงินมัดจำ ท่านละ 70,000 บาท ภายใน 3 วันนับจากวันจอง มิฉะนั้นทางบริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ที่จะขอรับลูกค้ารายต่อไป
เงื่อนไขการชำระค่าทัวร์ส่วนที่เหลือ
ทางบริษัทขอเก็บค่าทัวร์ส่วนที่เหลือ 20 วันก่อนการเดินทาง หากท่านไม่ผ่านการอนุมัติวีซ่าหรือยกเลิกการเดินทางโดยเหตุจำเป็นทางบริษัทขอเก็บเฉพาะค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริง
เงื่อนไข
กรณียกเลิกการเดินทาง
เฉพาะค่าใช้จ่ายที่เกดขึ้นจริง เช่น ค่าวีซ่าและค่าบริการยื่นวีซ่า / ค่ามัดจำตั๋วเครื่องบิน หรือค่าตั๋วเครื่องบิน (กรณีออกตั๋วเครื่องบินแล้ว) / ค่าส่วนต่างกรณีที่กรุ๊ปออกเดินทางไม่ครบตามจำนวน (สอบถามเพิ่มเติมจากทางบริษัทฯอีกครั้งนึง)
กรณีผู้เดินทางที่เกิดอุบัติเหตุ,เจ็บป่วย,เสียชีวิต จะต้องมีใบรับรองแพทย์ตามที่ทางสายการบินให้ระบุข้อความตามเงื่อนไขสายการบิน
นั้น ๆ เพื่อจะได้ยืนยันกับสายการบินและตัวแทนบริษัทที่ต่างประเทศ (ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของสายการบินและบริษัทต่างประเทศ) ทั้งนี้ท่านจะต้องเสียค่าใช้จ่ายที่ไม่สามารถเรียกคืนได้คือ ค่าธรรมเนียมในการมัดจำตั๋ว หรือค่าตั๋วเครื่องบิน (กรณีออกตั๋วเครื่องบินแล้ว) และค่าธรรมเนียมวีซ่าและค่าบริการยื่นวีซ่ากรณีที่ท่านยื่นวีซ่าแล้ว
หมายเหตุ
– เมื่อท่านทำการซื้อโปรแกรมทัวร์ ทางบริษัทฯ จะถือว่าท่านรับทราบและยอมรับเงื่อนไขของหมายเหตุทุกข้อแล้ว ในกรณีที่ลูกค้าต้องออกตั๋วโดยสารภายในประเทศ ….กรุณาติดต่อเจ้าหน้าที่ของบริษัทฯ ก่อนทุกครั้ง มิฉะนั้นทางบริษัทฯจะไม่ขอรับผิดชอบค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น…โปรแกรมและรายละเอียดของการเดินทางอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาวะอากาศและเหตุสุดวิสัยต่าง ๆ ที่ไม่สามารถคาดการณ์ล่วงหน้าโดย ทางบริษัทฯ จะคำนึงถึงผลประโยชน์และความปลอดภัยของผู้ร่วมเดินทางเป็นสำคัญ….
– หลังจากที่มีการจองทัวร์และได้ชำระค่ามัดจำทัวร์หรือทั้งหมดแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการชำระผ่านตัวแทนของบริษัทหรือชำระโดยตรงกับทางบริษัท ทางบริษัทจะขอถือว่าท่านรับทราบและยอมรับในเงือนไขต่างๆของบริษัท ที่ได้ระบุไว้ทั้งหมด
– นั่งที่ Long Leg โดยปกติอยู่บริเวณทางออกประตูฉุกเฉิน และผู้ที่จะนั่งต้องมีคุณสมบัติตรงตามที่สายการบินกำหนด เช่น ต้องเป็นผู้ที่มีร่างกายแข็งแรง และช่วยเหลือผู้อื่นได้อย่างรวดเร็วในกรณีที่เครื่องบินมีปัญหา เช่น สามารถเปิดประตูฉุกเฉินได้ (น้ำหนักประมาณ 20 กิโลกรัม) ไม่ใช่ผู้ที่มีปัญหาทางด้านสุขภาพและร่างกายและอำนาจในการให้ที่นั่ง Long leg ขึ้นอยู่กับทางเจ้าหน้าที่เช็คอินสายการบิน ตอนเวลาที่เช็คอินเท่านั้น
และ/หรือ ผู้ร่วมเดินทางในคณะไม่สามารถผ่านการพิจารณาวีซ่าได้ครบ 30 ท่าน ซึ่งในกรณีนี้ทางบริษัทฯ ยินดีคืนเงินให้ทั้งหมดหักค่าธรรมเนียมวีซ่า หรือจัดหาคณะทัวร์อื่นให้ถ้าต้องการ
เข้าประเทศไม่ว่าในกรณีใดก็ตาม ทางบริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ไม่คืนเงินในทุกกรณี
สถานฑูต เรื่องวีซ่าของท่าน เนื่องจากการขอวีซ่าในแต่ละประเทศ จะถูกบันทึกไว้เป็นสถิติในนามของบริษัทฯ เมื่อท่านได้ชำระเงินมัดจำหรือทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นการชำระผ่านตัวแทนของ บริษัทฯ หรือชำระโดยตรงกับทางบริษัทฯ ทางบริษัทฯ จะขอถือว่าท่านรับทราบและยอมรับในเงื่อนไขต่างๆของเอกสารวีซ่า
ยืนยันการเดินทางหากท่านออกตั๋วโดยไม่ได้รับการยืนยันจากพนักงานแล้วทัวร์นั้นยกเลิก บริษัทฯไม่สามารถรับผิดชอบค่าใช้จ่ายนั้นได้
*ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ ในการเปลี่ยนแปลงราคา หากทางสายการบินมีการ ขึ้นราคาของภาษีน้ำมันและ/หรือภาษีประกันภัยการเดินทาง และค่าวีซ่า*
Error: Contact form not found.
Error: Contact form not found.
Error: Contact form not found.
Error: Contact form not found.
Error: Contact form not found.
Error: Contact form not found.