22.00 น. พร้อมกันที่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ชั้น 4 ประตู 2 ROW D เคาน์เตอร์สายการบินไทย THAI AIRWAYS (TG) โดยมีเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกด้านการเช็คอินให้แก่ทุกท่าน
01.05 น. ออกเดินทางสู่ เมืองซูริค ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ โดยเที่ยวบินที่ TG 970 (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง)
07.50 น. ถึงสนามบินซูริค ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ นำคณะผ่านพิธีตรวจคนเข้าเมืองเป็นที่เรียบร้อย พบการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากเจ้าหน้าที่ (**เวลาท้องถิ่นของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ช้ากว่าประเทศไทยประมาณ 6 ชั่วโมง กรุณาปรับนาฬิกาของท่านเพื่อสะดวกในการนัดหมาย)
เดินทางสู่ เมืองชไตน์ อัม ไรน์ (Stein am Rhein) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง) เมืองทางเหนือติดกับประเทศเยอรมันนี เมืองนี้มักไม่เป็นที่นิยมสำหรับนักท่องเที่ยว แต่นับได้ว่าเป็นเพชรเม็ดงามที่ไม่ควรพลาด ชมความงามของสถาปัตยกรรมของเมืองริมแม่น้ำไรน์ และการตกแต่งบ้านที่มีเอกลักษณ์ รวมไปถึงศิลปะชั้นสูงอย่างเฟสโก้ที่ยังคงความสมบูรณ์ไว้ได้อย่างสวยงาม
พาท่านเดินทางสู่ ชาฟฟ์เฮาเซิน (Schaffhausen) พาท่านชมความสวยงามของ น้ำตกไรน์ (Rhine Falls) เป็นน้ำตกที่กว้างที่สุดของยุโรป มีอายุเก่าแก่ประมาณ 14,000-17,000 ปี โดยมีความกว้างถึง 150 เมตร สูง 23 เมตร น้ำตกเป็นสีเขียวมรกตสวยงาม กระแสน้ำไหลเชี่ยวกราดตลอดทั้งปี โดยปริมาณกระแสน้ำไหลที่เคยวัดได้สูงสุดนั้นถึง 700 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที
กลางวัน บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
จากนั้นนำคณะเดินทางกลับเข้าสู่ เมืองลูเซิร์น (Luzern) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง) หนึ่งในเมืองที่งดงามที่สุดของประเทศ พาท่านถ่ายรูปกับ อนุสาวรีย์สิงโต (Lion Monument) ซึ่งสร้างขึ้นเพื่อเป็นการรำลึกถึงทหารหาญชาวสวิสผู้ซื่อสัตย์ต่อหน้าที่จนวินาทีสุดท้าย อนุสาวรีย์นี้คือสัญลักษณ์สำคัญของลูเซิร์นที่ไม่มีนักท่องเที่ยวคนไหนพลาดมาที่นี่
พาท่านชม สะพานไม้ชาเปล (Chapel Bridge) อันเป็นสัญลักษณ์ของเมือง และได้ชื่อว่าเป็นสะพานไม้ที่เก่าแก่ที่สุดในโลก ทอดยาวระหว่างแม่น้ำ Reuss โดยสร้างมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 14 จากนั้น ให้ท่านได้ชมความงามของสถาปัตยกรรมรอบๆตัวเมืองใน เขตเมืองเก่า (Oldtown) ด้วยตัวอาคารสไตล์ยุโรปผนวกกับร้านสมัยใหม่ ทำให้เป็นหนึ่งในความวิเศษของเขตนี้
ค่ำ บริการอาหาร ณ ภัตตาคารจีน
ที่พัก Ibis Styles Lucerne 3* หรือเทียบเท่าระดับเดียวกัน
(โรงแรมที่ระบุในรายการทัวร์เป็นเพียงโรงแรมที่นำเสนอเบื้องต้นเท่านั้น ซึ่งอาจมีการเปลี่ยนแปลงแต่โรงแรมที่เข้าพักจะเป็นโรงแรมระดับเทียบเท่ากัน โดยจะแจ้งพร้อมใบนัดหมาย 5-7 วันก่อนการเดินทางและขอสงวนสิทธิ์ในการปรับเปลี่ยนที่พักไปเมืองใกล้เคียงในกรณีมีงานเทรดแฟร์หรือเทศกาล)
เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
พาท่านเดินทางสู่ เมืองแองเกิลเบิร์ก (Engelberg) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชม.) พาท่านขึ้นสู่ ยอดเขาทิสลิส (Titlis) โดยกระเช้าหมุนแบบ 360 องศา ที่ความสูง 3,239 เมตร เข้าชมถ้ำน้ำแข็ง (Ice Grotto) ที่ไม่เคยละลายชมทิวทัศน์ของยอดเขาต่างๆ ที่ปกคลุมไปด้วยหิมะอันขาวโพลนสร้างความงดงามให้กับขุนเขาเป็นอันมาก
เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร บนยอดเขาทิสลิสพร้อมวิวแบบพาโนราม่า
จากนั้นเที่ยวชม กรุงเบิร์น (BERN) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง) เมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงสวยงาม จนได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโก้ UNESCO ปี 1983 อีกด้วย พาท่านถ่ายรูปเป็นที่ระลึกกับความตระการตาของ อาสนวิหารแห่งกรุงเบิร์น (Bern Minster) ที่คงความงามมาตั้งแต่ปีค.ศ. 1573
ต่อไปยัง บ่อหมี (Bärengraben) ริมแม่น้ำอาเร โดย คำว่า Bern ที่เป็นชื่อเมืองนั้นมาจากคำว่า “Baren” ในภาษาเยอรมันที่แปลว่า “หมี” หรือ “Bear” ในภาษาอังกฤษ ซึ่งเกิดมาจากในสมัยก่อนนั้น ผู้ครองเมืองเบิร์นได้ไปออกล่าสัตว์ และสัตว์ที่ได้กลับมานั้นก็คือหมีนั่นเอง จนทำให้เบิร์นนั้นกลายเป็นชื่อของเมือง และมีสัญลักษณ์ของเมืองเป็นรูปหมีไปด้วย
พาท่านชมเดินสู่ ย่านมาร์กาสเซ (Marktgasse) ซึ่งปัจจุบันเต็มไปด้วยร้านดอกไม้และร้านบูทีคเป็นเขตที่ปลอดมลพิษ ไม่ให้รถยนต์วิ่งผ่าน จึงเหมาะกับการเดินเที่ยว นำชมอาคารเก่า อายุ 200-300 ปี ชมถนนจุงเคอร์นกาสเซ ถนนที่มีระดับสูงสุดๆของเมืองนี้ เข้าสู่ถนนครัมกาสเซ เต็มไปด้วยร้าน ภาพวาดและร้านขายของเก่าในอาคารโบราณ ถ่ายรูปกับ นาฬิกาดาราสาสตร์ (Zytglogge) อายุกว่า 800 ปี ที่มีโชว์ให้ดูทุกๆชั่วโมง นาฬิกาตีบอกเวลา ถัดไปไม่ไกลจะพบกับ บ้านเลขที่ 49 ซึ่งเป็นบ้านที่อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ นักฟิสิกส์ชื่อดังของโลก เคยมาใช้ชีวิตอยู่ในช่วงสั้นๆ ระหว่างปีค.ศ. 1903-1905 ปัจจุบันบ้านหลังนี้ได้กลายเป็นพิพิธภัณฑ์ที่เก็บรวบรวมภาพถ่ายและผลงานบางส่วนของไอน์สไตน์
ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น เมนูสวิตชีสฟองดูต้นตำหรับ
ที่พัก Holiday Inn Bern Westside4* หรือเทียบเท่า
(โรงแรมที่ระบุในรายการทัวร์เป็นเพียงโรงแรมที่นำเสนอเบื้องต้นเท่านั้น ซึ่งอาจมีการเปลี่ยนแปลงแต่โรงแรมที่เข้าพักจะเป็นโรงแรมระดับเทียบเท่ากัน โดยจะแจ้งพร้อมใบนัดหมาย 5-7 วันก่อนการเดินทางและขอสงวนสิทธิ์ในการปรับเปลี่ยนที่พักไปเมืองใกล้เคียงในกรณีที่มีเทรดแฟร์หรือเทศกาล)
เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
จากนั้นนำท่านผ่านพรมแดนสวิสเซอร์แลนด์สู่ประเทศฝรั่งเศส ดินแดนซึ่งร่ำรวยไปด้วยความงามทางสถาปัตยกรรม แฟชั่น และอาหาร พาท่านสู่แค้วนอัสซาส เพื่อพาท่านชมเมือง กอลมาร์ (Colmar) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2.30 ชั่วโมง) หนึ่งในสถานที่ที่ผู้คนขนานนามว่าดินแดนแห่งเทพนิยาย ด้วยตัวบ้านเรือนนั้นยังคงรูปแบบงานก่อสร้างแบบที่เรียกว่า Half Timber ที่เป็นที่นิยมในยุคกลาง โดยจะใช้ไม้สร้างเป็นโครงบ้าน และนำปูนมาถมส่วนที่เหลือ เพื่อเป็นการประหยัดไม้ ทำให้ต้นทุนการสร้างถูกลง ให้ท่านได้เดินเล่นอย่างอิสระ
กลางวัน บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น เมนูสไตล์แคว้นอัลซาส
จากนั้นพาท่านสู่ เมืองบาเดน (Baden) เป็นเมืองในหุบเขา ตั้งอยู่ในรัฐบาเดิน-เวือร์ทเทิมแบร์ค ประเทศเยอรมนี ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของทิวเขาป่าดำ บริเวณพรมแดนใกล้กับประเทศฝรั่งเศส เมืองนี้มีชื่อเสียงในด้านสปา อดีตเป็นที่พักผ่อนอาบน้ำแร่แก้โรคไขข้อ ของเจ้านายชั้นสูง พ่อค้า และราชวงค์ต่างๆ ในยุโรป และในการเสด็จประพาสยุโรปครั้งที่สองของ รัชกาลที่ 5 พระองค์ได้ประทับที่เมือง บาเดน บาเดน เป็นเวลากว่าสามสัปดาห์ เพื่อรักษาพระวรกาย และท่องเที่ยวชมธรรมชาติ
ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
ที่พัก Leonardo Royal Hotel Baden-Baden 4* หรือเทียบเท่าระดับเดียวกัน
(โรงแรมที่ระบุในรายการทัวร์เป็นเพียงโรงแรมที่นำเสนอเบื้องต้นเท่านั้น ซึ่งอาจมีการเปลี่ยนแปลงแต่โรงแรมที่เข้าพักจะเป็นโรงแรมระดับเทียบเท่ากัน โดยจะแจ้งพร้อมใบนัดหมาย 5-7 วันก่อนการเดินทางและขอสงวนสิทธิ์ในการปรับเปลี่ยนที่พักไปเมืองใกล้เคียงในกรณีมีงานเทรดแฟร์หรือเทศกาล)
เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองไฮเดลเบิร์ก (Heidelberg) ชมย่านเมืองเก่า ซึ่งเมืองนี้ นอกจากเป็นเมืองประวัติศาสตร์สำหรับเยอรมนีแล้ว ยังเป็นเมืองประวัติศาสตร์สำหรับคนไทย คือเป็นในหลวง รัชกาลที่ 8 ทรงพระราชสมภพ ณ เมืองนี้
ถ่ายภาพเป็นที่ระลึกกับปราสาทไฮเดลเบิร์ก (Heidelberg Castle) ที่สร้างขึ้นอยู่บนเชิงเขาเหนือแม่น้ำเน็กคาร์ ซึ่งสามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ของเมืองได้โดยรอบ โดยตัวปราสาทสร้างด้วยหินทรายสีแดงซึ่งมีอายุกว่า 900 ปี
กลางวัน บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารไทย
จากนั้นมุ่งหน้าสู่ เมืองแฟรงก์เฟิร์ต (Frankfurt) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง) เมืองที่ใหญ่ที่สุดของรัฐเฮ็สเซิน อันเป็นที่ตั้งของธนาคารกลางยุโรป เป็นเมืองเมืองที่มีความมั่งคั่งมากที่สุดเมืองนึงของยุโรป พาท่านสู่ จัตุรัสโรเมอร์ (Romerberg) จัตุรัสใจกลางมือง ศูนย์รวมของร้านค้า ร้านอาหาร และคาเฟ่ต์มากมาย ตรงกลางมีน้ำพุแห่งความยุติธรรมและตรงสุดทางยังมี อาสนวิหารแฟรงก์เฟิร์ต (Frankfurt Cathedral) หรือที่มีอีกชื่อนึงว่ามหาวิหารเซนต์บาร์โธโลมิว สร้างขึ้นตั้งแต่ในสมัยศตวรรษที่ 13 และเป็นที่บรมราชาภิเษกจักรพรรดิในยุคอาณาจักรโรมันอันศักดิ์สิทธิ์
ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
ที่พัก Crowne Plaza Frankfurt Congress Hotel 4* หรือเทียบเท่าระดับเดียวกัน
(โรงแรมที่ระบุในรายการทัวร์เป็นเพียงโรงแรมที่นำเสนอเบื้องต้นเท่านั้น ซึ่งอาจมีการเปลี่ยนแปลงแต่โรงแรมที่เข้าพักจะเป็นโรงแรมระดับเทียบเท่ากัน โดยจะแจ้งพร้อมใบนัดหมาย 5-7 วันก่อนการเดินทางและขอสงวนสิทธิ์ในการปรับเปลี่ยนที่พักไปเมืองใกล้เคียงในกรณีมีงานเทรดแฟร์หรือเทศกาล)
เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
มุ่งหน้าสู่อีกหนึ่งเมืองใหญ่ของแคว้น ที่เมืองสทราซบูร์ (Strasbourg) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3ชั่วโมง) ตั้งอยู่บนฝั่งแม่น้ำอีล เมืองนี้มีสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ สถาปัตยกรรมมากมาย ไม่ว่าจะเป็น มหาวิหารมหาวิหารนอร์ทเทรอดามแห่งสตราสบูร์ก มหาวิหารนิกายโรมันคาทอลิกขนาดใหญ่ที่ได้ชื่อว่าสูงตระหง่านที่สุดในยุโรปตะวันตก
กลางวัน บริการอาหาร ณ ภัตตาคารอาหารท้องถิ่นพร้อมไวน์จากอัลซาสอันโด่งดัง โดยไวน์แคว้นอัลซาส ถือเป็นไวน์คุณภาพเยี่ยม ไม่แพ้ไวน์ของเบอร์โด และเบอร์กันดี
นำท่านนั่งรถไฟความเร็วสูง (TGV) 14.48 – 16.35 มุ่งหน้าสู่กรุงปารีส ซึ่งปกติจะใช้เวลาในการเดินทางด้วยรถกว่า 4 ชั่วโมง เหลือไม่ถึง 2 ชั่วโมงสู่ มหานครปารีส (Paris) เมื่องหลวงสุดโรแมนติกของประเทศฝรั่งเศส หนึ่งในจุดหมายปลายทางในฝันของใครหลายๆ คน ที่มีครบทั้ง สถาปัตยกรรม ศิลปะ อาหาร และแหล่งช้อปปิ้ง ที่มีให้ท่านได้เลือกสรรกันอย่างอัดแน่น
ชมจุดถ่ายรูปหอไอเฟลที่สวยที่สุด ณ จัตุรัสทรอกาเดโร (TROCADÉRO) แต่เดิมบริเวณนี้เคยใช้เป็นสถานที่จัดงานสำคัญๆ ของประเทศอยู่หลายครั้ง แต่โด่งดังด้วยเพราะทัศนียภาพที่ท่านจะสามารถเห็น หอไอเฟล (EIFFEL) ได้อย่างไม่มีอะไรมาบดบัง โดยหอส่งสัญญาแห่งนี้นั้น ถือเป็นสัญลักษณ์ของพาปารีสที่พลาดไม่ได้ด้วยประการทั้งปวง หอไอเฟลนั้น ตั้งตามชื่อของสถาปนิกผู้ออกแบบ กุสตาฟ ไอเฟล เพื่อใช้เป็นสัญลักษณ์ในงาน แสดงสินค้าโลก ในปี 1889 เมื่อมีภาพยนตร์เรื่องใดที่จะกล่าวถึงปารีส ก็จะจะต้องมีโครงสร้างเหล็กเจ้าของความสูง 324 เมตร ที่เคยเป็นอาคารที่สูงที่สุดในโลก แห่งนี้อยู่ด้วยเสมอ
พาท่านล่องเรือแม่น้ำแซน ชมบรรยากาศรอบเมืองปารีส เมืองที่ได้ชื่อว่าเป็น 1 ใน เมืองที่โรแมนติกที่สุดของโลกในอีกมุมหนึ่งโดยในระหว่างทางนั้นจะผ่านสถานที่สำคัญๆ มากมายไม่ว่าจะเป็น สะพาน Pont de l’alma สะพานอเล็กซานเดอร์ที่ 3 พิพิธภัณฑ์ออร์แซ และอีกมากมายถือเป็นอีก 1 กิจกรรมที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาปารีส
ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารไทย
ที่พัก MERCURE PARIS LA DEFENSE 4* หรือเทียบเท่าระดับเดียวกัน
(โรงแรมที่ระบุในรายการทัวร์เป็นเพียงโรงแรมที่นำเสนอเบื้องต้นเท่านั้น ซึ่งอาจมีการเปลี่ยนแปลงแต่โรงแรมที่เข้าพักจะเป็นโรงแรมระดับเทียบเท่ากัน โดยจะแจ้งพร้อมใบนัดหมาย 5-7 วันก่อนการเดินทางและขอสงวนสิทธิ์ในการปรับเปลี่ยนที่พักไปเมืองใกล้เคียงในกรณีมีงานเทรดแฟร์หรือเทศกาล)
เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
เข้าชม พิพิธภัณฑ์ลูฟร์ (LOUVRE MUSEUM) เป็นสถานที่จัดแสดงและเก็บรักษาผลงานทางศิลปะที่ทรงคุณค่าระดับโลกจำนวนมาก นับเป็นอีกหนึ่งสถานที่เที่ยวในปารีสที่ต้องไปเยือน แต่เดิมเคยเป็นพระราชวังเดิมของราชวงศ์ มีงานศิลป์ทรงคุณค่าที่จัดแสดง400,000 ชิ้น ผลงานชิ้นเอกนั้นได้แก่ รูปปั้นวีนัส รูปปั้นเทพไนกี้ และที่โด่งดังที่สุดคือ รูปโมนาลิซ่า ที่วาดโดย ลีโอนาโด้ ดาวิชชี่ จิตรกรเอกของโลกในยุกเรนองซองซ์
กลางวัน บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น พิเศษเมนูหอยเอสคาโก้
นำท่านสัมผัสกับบรรยากาศที่เต็มไปด้วยนักช้อปปิ้งจากทั่วทุกมุมโลก ในห้างสรรพสินค้าใหญ่ใจกลางกรุงปารีส ณ แกลเลอรี่ ลาฟาแยตต์ (GALERIES LAFAYETTE)
จากนั้นนำท่านถ่ายรูปกับ ประตูชัยอาร์กเดอทรียงฟ์ (ARC DE TRIOMPHE) วงเวียนที่เชื่อมถนน12 เส้นของปารีสไว้ โดยสร้างขึ้นเพื่อเป็นสดุดีทหารฝรั่งเศสที่ร่วมรบในสงครามต่างๆ โดยเฉพาะในสงครามนโปเลียน เนื่องจากเริ่มสร้างในรัชสมัยของพระองค์หลังได้รับชัยชนะในสงครามยุทธการที่เอาสเทอร์ลิทซ์ เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 1805 นอกเหนือจากนั้น ประตูชัยแห่งนี้ก็ยังเป็นที่ฝังศพทหารนิรนามในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 1
ทางทิศตะวันตกยังเป็นที่ตั้งของถนนสายที่โด่งดังที่สุดของโลกสายหนึ่ง นั่นคือ ถนนช็องเซลีเซ (CHAMPS-ÉLYSÉES) ถนนที่ได้ชื่อมาจากสวนสวรรค์ของเหล่าเทพปกรนัมกรีก ในอดีตเคยเป็นส่วนหนึ่งของการขยายพื้นที่สวยหย่อมของพระราชวังตุยเลอรี โดยเมื่อครั้งพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จประพาสยุโรป ทรงมีพระราชดำรัสให้นำรูปแบบถนนช็องเซลีเซ มาสร้างเป็นถนนพระราชดำเนินกลางในกรุงเทพมหานคร ว่ากันว่าอัตราค่าเช่าพื้นที่บนถนนแห่งนี้มีมูลค่าสูงที่สุดในยุโรป และเป็นที่ตั้งของสินค้าแบรนด์ระดับโลกมากมายทั้ง Louis Vuitton, Hermès, Omega, Lacoste, Swarovski, Longchamp ก็มีให้เลือกสรรอย่างครบถ้วน หรือหากท่านใดสนใจจิบกาแฟ ทานเบเกอรี่ชิลๆ ตลอดถนนเส้นนี้ก็มีร้านให้ท่านได้เลือกชิมอย่างอัดแน่น
ค่ำ อิสระอาหารเพื่อไม่เป็นการรบกวนเวลาของท่าน
ที่พัก MERCURE PARIS LA DEFENSE HOTEL 4* หรือเทียบเท่าระดับเดียวกัน
(โรงแรมที่ระบุในรายการทัวร์เป็นเพียงโรงแรมที่นำเสนอเบื้องต้นเท่านั้น ซึ่งอาจมีการเปลี่ยนแปลงแต่โรงแรมที่เข้าพักจะเป็นโรงแรมระดับเทียบเท่ากัน โดยจะแจ้งพร้อมใบนัดหมาย 5-7 วันก่อนการเดินทางและขอสงวนสิทธิ์ในการปรับเปลี่ยนที่พักไปเมืองใกล้เคียงในกรณีมีงานเทรดแฟร์หรือเทศกาล)
เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
สมควรแก่เวลา นำท่านเดินทางสู่ ท่าอากาศยานนานาชาติปารีส-ชาร์ล เดอ โกล (Paris Charles de Gaulle Airport) เพื่อให้ท่านได้มีเวลาทำการคืนภาษี (Vat Refund)
13.40 น. ออกเดินทางกลับสู่ กรุงเทพฯ ประเทศไทย โดยสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG 931 (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง)
05.55 น. เดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ พร้อมความประทับใจมิรู้ลืม
อัตราค่าบริการรวม
อัตราค่าบริการไม่รวม
**ทิปหัวหน้าทัวร์/ไกด์ท้องถิ่น/คนขับรถ ไม่บังคับ ขึ้นอยู่กับความพึงพอใจของท่าน**
เงื่อนไขการสำรองที่นั่งและการยกเลิกทัวร์
การจองทัวร์ :
กรณียกเลิก : (จอยกรุ๊ป)
กรณียกเลิก : (ตัดกรุ๊ป)
กรณีเจ็บป่วย :
กรณีวีซ่าที่ท่านยื่นไม่ผ่านการพิจารณาและคณะสามารถออกเดินทางได้ท่านจะต้องเสียค่าใช้จ่ายจริงที่เกิดขึ้นดังต่อไปนี้