กัสโต้ เวิล์ด ทัวร์

บริการคุณภาพ ทุกเส้นทางท่องเที่ยว

เลขที่ 11/03295

ทัวร์ยุโรป มหัศจรรย์…ฝรั่งเศส สวิต อิตาลี

ทัวร์ยุโรป
รหัส 008-2014
วันที่เดินทาง
พ.ย.65
ช่วงเวลา
9 วัน 6 คืน
ราคาเริ่มต้น
85,999 บาท
แผนการเดินทาง
วันที่ 1
สนามบินสุวรรณภูมิ • สนามบินดูไบ

17.00 น. : พร้อมกันที่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ชั้น 4 ประตู 9 ROW T เคาน์เตอร์ สายการบินเอมิเรตต์ Emirate Airline (EK) โดยมีเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกด้านการเช็คอินให้แก่ทุกท่าน

20.35 น. : ออกเดินทางสู่ เมืองดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยเที่ยวบินที่ EK 373  (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง)

วันที่ 2
สนามบินดูไบ • กรุงปารีส • จัตุรัสทรอกาเดโร • ล่องเรือแม่น้ำแซน • แกลเลอรี่ ลาฟาแยตต์ • พิพิธภัณฑ์ลูฟร์ • ประตูชัยอาร์กเดอทรียงฟ์ • ถนนช็องเซลีเซ

00.50 น. : เดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาติดูไบ (เพื่อรอเปลี่ยนเครื่อง)

03.20 น. : ออกเดินทางสู่ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส โดยเที่ยวบินที่ EK 71

08.00 น. : เดินทางถึงเดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาติปารีส ชาร์ล เดอ โกลด์ ประเทศฝรั่งเศส (เวลาท้องถิ่นช้ากว่าประเทศไทย 6 ชั่วโมง)

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ กรุงปารีส เมื่องหลวงสุดโรแมนติกของประเทศฝรั่งเศส หนึ่งในจุดหมายปลายทางในฝันของใครหลายๆ คนที่แม้กระทั่งชาวฝรั่งเศสที่อาศัยอยู่นอกเมืองหรือต่างจังหวัด หรือต่างแคว้นแดนไกล กล่าวว่าตราบใดที่มีลมหายใจ ก็ขอให้ได้เห็นมหานครปารีสสักครั้ง

ชมจุดถ่ายรูปหอไอเฟลที่สวยที่สุด ณ จัตุรัสทรอกาเดโร (TROCADÉRO) แต่เดิมบริเวณนี้เคยใช้เป็นสถานที่จัดงานสำคัญๆ ของประเทศอยู่หลายครั้ง แต่โด่งดังด้วยเพราะทัศนียภาพที่ท่านจะสามารถเห็น หอไอไฟล (EIFFEL) ได้อย่างไม่มีอะไรมาบดบัง โดยหอส่งสัญญาแห่งนี้นั้น ถือเป็นสัญลักษณ์ของพาปารีสที่พลาดไม่ได้ด้วยประการทั้งปวง หอไอเฟลนั้น ตั้งตามชื่อของสถาปนิกผู้ออกแบบ กุสตาฟ ไอเฟล เพื่อใช้เป็นสัญลักษณ์ในงาน แสดงสินค้าโลก ในปี 1889 เมื่อมีภาพยนตร์เรื่องใดที่จะกล่าวถึงปารีส ก็จะจะต้องมีโครงสร้างเหล็กเจ้าของความสูง 324 เมตร ที่เคยเป็นอาคารที่สูงที่สุดในโลก แห่งนี้อยู่ด้วยเสมอ

จากนั้นนำท่าน ล่องเรือแม่น้ำแซน ชมบรรยากาศรอบเมืองปารีส เมืองที่ได้ชื่อว่าเป็น 1 ใน เมืองที่โรแมนติกที่สุดของโลกในอีกมุมหนึ่งโดยในระหว่างทางนั้นจะผ่านสถานที่สำคัญๆ มากมายไม่ว่าจะเป็น สะพาน PONT DE L’ALMA สะพานอเล็กซานเดอร์ที่ 3 พิพิธภัณฑ์ออร์แซ พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ รวมไปถึงอาสนวิหารน็อทร์-ดามแห่งปารีส  ถือเป็นอีก 1 กิจกรรมที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาปารีส

เที่ยง : รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารท้องถิ่น พร้อมพิเศษ หอยเอสคาโก้ ต้นตำหรับฝรั่งเศส พร้อมไวน์แดง

นำท่านสัมผัสกับบรรยากาศที่เต็มไปด้วยนักช้อปปิ้งจากทั่วทุกมุมโลก ในห้างสรรพสินค้าใหญ่ใจกลางกรุงปารีส ณ แกลเลอรี่ ลาฟาแยตต์ (GALERIES LAFAYETTE) แวะถ่ายรูปด้านหน้า พิพิธภัณฑ์ลูฟร์ (LOUVRE MUSEUM) เป็นสถานที่จัดแสดงและเก็บรักษาผลงานทางศิลปะที่ทรงคุณค่าระดับโลกจำนวนมาก นับเป็นอีกหนึ่งสถานที่เที่ยวในปารีสที่ต้องไปเยือน

นำท่านถ่ายรูปกับ ประตูชัยอาร์กเดอทรียงฟ์ (ARC DE TRIOMPHE) วงเวียนที่เชื่อมถนน12 เส้นของปารีสไว้ โดยสร้างขึ้นเพื่อเป็นสดุดีทหารฝรั่งเศสที่ร่วมรบในสงครามต่างๆ โดยเฉพาะในสงครามนโปเลียน เนื่องจากเริ่มสร้างในรัชสมัยของพระองค์หลังได้รับชัยชนะในสงครามยุทธการที่เอาสเทอร์ลิทซ์ เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 1805 นอกเหนือจากนั้น ประตูชัยแห่งนี้ก็ยังเป็นที่ฝังศพทหารนิรนามในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 1 อีกด้วย

คือ ถนนช็องเซลีเซ (CHAMPS-ÉLYSÉES) ถนนที่ได้ชื่อมาจากสวนสวรรค์ของเหล่าเทพปกรนัมกรีก ในอดีตเคยเป็นส่วนหนึ่งของการขยายพื้นที่สวยหย่อมของพระราชวังตุยเลอรี โดยเมื่อครั้งพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จประพาสยุโรป ทรงมีพระราชดำรัสให้นำรูปแบบถนนช็องเซลีเซ มาสร้างเป็นถนนพระราชดำเนินกลางในกรุงเทพมหานคร ว่ากันว่าอัตราค่าเช่าพื้นที่บนถนนแห่งนี้มีมูลค่าสูงที่สุดในยุโรป และเป็นที่ตั้งของสินค้าแบรนด์ระดับโลกมากมายทั้ง Louis Vuitton, Hermès, Omega, Lacoste, Swarovski, Longchamp ก็มีให้เลือกสรรอย่างครบถ้วน หรือหากท่านใดสนใจจิบกาแฟ ทานเบเกอรี่ชิลๆ ตลอดถนนเส้นนี้ก็มีร้านให้ท่านได้เลือกชิมอย่างอัดแน่น

ค่ำ : อิสระอาหารเย็นตามอัธยาศัย เพื่อไม่เป็นการรบกวนเวลาของท่าน

วันที่ 3
พระราชวังแวร์ซายส์ • เมืองดิฌง

เช้า : รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม

จากนั้น นำท่านเดินทางเข้าชม พระราชวังแวร์ซายส์ (Château de Versailles) หนึ่งในพระราชวังที่มีคนพูดถึงมากที่สุด และยังเป็น1ใน7สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคปัจจุบันอีกด้วย แต่เดิมนั้นเป็นเพียงเมืองเล็กๆที่พระมหากษัตริย์ราชวงศ์บูร์บงโปรดมาล่าสัตว์เท่านั้นแต่เมื่อพระเจ้าหลุยส์ที่14 ครั้งทรงพระเยาว์ เสด็จตามพระราชบิดามาล่าสัตว์ ทรงโปรดพื้นที่บริเวณนี้มากเมื่อทรงขึ้นครองราชย์นจึงมีพระราชดำรัสให้สร้างพระราชวังแห่งใหม่แทนพระราชวังลูฟท์ที่กรุงปารีสโดยมีพระราชประสงค์ให้เป็นพระราชวังที่สวยงามที่สุดในโลก

เที่ยง : รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารจีน

นำท่านเดินทางสู่ เมืองดิฌง (DIJON) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3.30 ชม.) ผ่านชมทัศนียภาพอันงดงามที่เต็มไปด้วยขุนเขาทะเลสาบ และดอกไม้ป่า ที่สวยสดงดงาม ที่จะทำให้ท่านตื่นตาตื่นใจ ตลอดการเดินทางจนทำให้ท่านหลับตาไม่ลง เป็นแห่งเมืองชุมทางรถไฟ และศูนย์กลางการคมนาคมที่สำคัญแห่งหนึ่งของฝรั่งเศส และเป็นเมืองที่มีลักษณะคล้ายปารีสอย่างมาก เดินทางถึงเมืองดิฌง

ค่ำ : รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารท้องถิ่น

วันที่ 4
เมืองลูเซิร์น • อนุสาวรีย์สิงโต • สะพานไม้ชาเปล • เมืองอินเทอลาเก้น • ถนน Hoheweg

เช้า : รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม

จากนั้น นำท่านเดินทางกลับเข้าสู่ เมืองลูเซิร์น (Luzern) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมง) หนึ่งในเมืองที่งดงามที่สุดของประเทศ นำท่านถ่ายรูปกับ อนุสาวรีย์สิงโต (Lion Monument) ซึ่งสร้างขึ้นเพื่อเป็นการรำลึกถึงทหารหาญชาวสวิสผู้ซื่อสัตย์ต่อหน้าที่จนวินาทีสุดท้าย อนุสาวรีย์นี้คือสัญลักษณ์สำคัญของลูเซิร์นที่ไม่มีนักท่องเที่ยวคนไหนพลาดมาที่นี่

เที่ยง :  รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารจีน

นำท่านชม สะพานไม้ชาเปล (Chapel Bridge) อันเป็นสัญลักษณ์ของเมือง และได้ชื่อว่าเป็นสะพานไม้ที่เก่าแก่ที่สุดในโลก ทอดยาวระหว่างแม่น้ำ Reuss โดยสร้างมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 14 จากนั้น  ให้ท่านได้ชมความงามของสถาปัตยกรรมรอบๆตัวเมืองใน เขตเมืองเก่า (Oldtown) ด้วยตัวอาคารสไตล์ยุโรปผนวกกับร้านสมัยใหม่ ทำให้เป็นหนึ่งในความวิเศษของเขตนี้

จากนั้นเดินทางต่อไปยัง เมืองอินเทอลาเก้น (Interlaken) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.30 นาที) จุดศูนย์กลางของประเทศ ที่รายล้อมไปด้วย 4 ขุนเขา และ 2 ทะเลสาบ พาท่านเดินชม ความงามและเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของเมือง พาท่านเดินชม ถนน Hoheweg จุดที่ครึกครื่นที่สุดในเมืองอินเทอลาเก้น ท่านสามารถเลือกซื้อสินค้าคุณภาพสวิสได้อยากหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์ Omega, Swatch ช็อคโกแลตสวิสที่ขึ้นชื่อ หรือแม้แต่เสื้อผ้า เครื่องประดับก็ยังมีให้ท่านเลือกสรรได้ตลอดถนนเลยทีเดียว

ค่ำ : บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น พิเศษเมนูสวิส

วันที่ 5
เมืองกรินเดอวาลด์ • กระเช้า Eiger Express • อุโมงค์น้ำแข็ง • อุโมงค์โลกอัลไพน์ • Jungfrau Panorama view • เมืองเลาเทอร์บรุนเนน • น้ำตกชเตาบ์บาค • มิลาน

เช้า : บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

นำท่านสู่เมืองกรินเดอวาลด์ (Grindelwald) เมืองอันเป็นจุดเริ่มต้นในการพิชิตยอดเขาจุงฟราว Top Of Europe ด้วยทัศนียภาพที่เป็นหุบเขาที่มีบ้านสไตล์สวิสชาเลย์ตั้งอยู่โดยรอบ ทำให้มีความสวยงามจนเป็นเหมือนหน้าตาของสวิสเซอร์แลนด์ที่คุ้นเคย

ใหม่ล่าสุด!!! พาท่านสู่สถานีกรินเดอวาลด์ เพื่อพาท่านขึ้น กระเช้า Eiger Express ที่เปิดอย่างเป็นทางการเมื่อปี 2020 ที่ผ่านมา โดยจะทำให้ท่านประหยัดเวลาในการพิชิตเขาจุงฟราวเร็วขึ้นถึง 47 นาที เพื่อให้ท่านได้มีเวลาเพลิดเพลินบน Top Of Europe เมื่อถึงแล้ว พาท่านชม อุโมงค์น้ำแข็ง (Ice Palace) ที่มีอายุเก่าแก่ 1,000 ปี ธารน้ำแข็งลึกเขาไปกว่า 30 เมตร มีประติมากรรมน้ำแข็งอยู่อย่างมากมาย และคงอุณหภูมิอยู่ที่ -3 องศา ตลอดทั้งปี เก็บภาพความสวยงามและยิ่งใหญ่ของของธารน้ำแข็ง Aletsch ที่ยาวที่สุดในเทือกเขาแอลป์ ชม อุโมงโลกอัลไพน์ (ALPINE SENSATON) ที่จัดแสดงวิถีชีวิต วัฒนธรรมและธรรมชาติของชาวเมือง

นอกจากนั้นหากมีเวลาแนะนำให้ท่านชม พิพิธภัณฑ์ช็อคโกแลต LINDT และเลือกซื้อกลับเป็นไปเป็นของฝากจากร้านช็อคโกแลตที่สูงที่สุดในโลก และนำท่านขึ้นสู่ JUNGFRAU PANORAMA VIEW จุดสูงสุดของสถานี ที่ 3,571 เมตร ให้ท่านได้ถ่ายรูปเป็นที่ระลึก

เที่ยง : บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร บนยอดเขาจุงฟราว ให้ท่านเต็มอิ่มกับบรรยากาศของทิวทัศน์สุดอลังการ

นำท่านลงสู่อีก 1 เมืองชานเขาจุงฟราว เมืองเลาเทอร์บรุนเนน (Lauterbrunnen)  เมืองสวยอีกเมืองที่ต้องแวะชม ด้วยรถไฟไต่เขาแสนคลาสสิก ที่นี่เป็นที่ตั้งของ น้ำตกชเตาบ์บาค (Staubbach) ที่สูงกว่า 300 เมตร มุมสุดอลังการกับริ้วน้ำตกที่แทรกผ่านหน้าผาสูง โดยมีเบื้องล่างเป็นบ้านเรือนสลับทุ่งหญ้า ที่มองกี่ครั้งก็ไม่เบื่อ นำท่านเดินทางสู่ มิลาน (MILAN) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4.30 ชม.) เมืองสำคัญทางภาคเหนือของอิตาลี ตั้งอยู่บริเวณที่ราบลอมบาร์ดี ชื่อเมืองมิลานมาจากภาษาเซลต์คำว่า MID-LAN ซึ่งหมายถึงอยู่กลางที่ราบ มีชื่อเสียงในด้านแฟชั่นและศิลปะ

ค่ำ : บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารจีน

วันที่ 6
มหาวิหารมิลาน • กัลเลรีอาวิตโตรีโยเอมานูเอเลเซ คอนโด • เกาะเวนิส • จัตุรัสเซ็นท์ มาร์ค • มหาวิหารซันมาร์โก • พระราชวังดอร์จ • หอระฆังซันมาร์โก • สะพานถอนหายใจ • สะพานรีอาลโต้ • เวนิสเมสเตร้

เช้า : บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

พาท่านถ่ายรูปบริเวณด้านหน้า มหาวิหารมิลาน (DUOMO DI MILANA) หนึ่งในโบสถ์ศริสต์สถาปัตยกรรมกอธิคที่ใหญ่ที่สุดในโลก ภายใน วิหารเชื่อกันว่ามีการบรรจุหมุดตรึงไม้กางเขนของจริงที่ใช้ในการประหารชีวิตพระเยซู บริเวณด้านหน้าตกแต่งด้วยรูปสลักหินอ่อนที่วิจิตรเป็นอย่างยิ่ง

ให้ท่านได้เพลิดเพลินกับช้อปปิ้งมอลล์ที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของยุโรปที่ กัลเลรีอาวิตโตรีโยเอมานูเอเลเซ คอนโด (Galleria Vittorio Emanuele II) ที่อัดแน่นไปด้วย แบรนด์ชั้นนำระดับโลก ที่บางแบรนด์นั้นก็ยังถือ กำเนิด ณ เมืองแห่งนี้ อาทิ Prada, Versace, Armani, Dolce & Gabbana, Valentino รวมไปถึงแบรนด์เนมที่คุ้นหู อีกมากมายอย่าง Gucci, LOUIS VUITTON, Swarovski

จากนั้น นำท่านเดินทางสู่ เมืองเวนิสเมสเตร้ (VENICE MESTRE)

นำท่านเดินทางสู่ ท่าเรือตรอนเคตโต้ (TRONCHETTO) นำท่านล่องเรือผ่านชมบ้านเรือนของชาวเวนิส สู่เกาะเวนิสหรือเวเนเซีย(VENEZIA) ดินแดนแสนโรแมนติก เป็นเมืองที่ไม่เหมือนใคร โดยใช้เรือแทนรถ ใช้คลองแทนถนน มีสมญานามว่าเป็น “ราชินีแห่งทะเลเอเดรียติก” มีเกาะน้อยใหญ่กว่า 118 เกาะ และมีสะพานเชื่อมถึงกันกว่า 400 แห่ง ขึ้นฝั่งที่บริเวณ ซานมาร์โค ศูนย์กลางของเกาะเวนิส นำท่านเดินชมความงามของเกาะเวนิส จากนั้นนำท่านถ่ายรูปบริเวณ จัตุรัสเซ็นท์ มาร์ค (St.Mark’s Square) ที่จักรพรรดินโปเลียนยกย่องว่าเป็นห้องรับแขกที่สวยที่สุดของยุโรป และยังเป็นที่ตั้งของ มหาวิหารซันมาร์โก (San Marco Basillica) มหาวิหารประจำเขตอัครบิดรเวนิส สร้างขึ้นในแบบสถาปัตยกรรมไบแซนไทน์ซึ่งหาได้ยากในปัจจุบัน เนื่องจากถูกทำลายไปเกือบหมดสิ้นในครั้งที่ออกโตมันเข้ายึด ซึ่งภายในโบสถ์นั้นจะมีภาพโมเสกบอกเล่าเรื่องราวในครั้งนั้นอยู่ โดยเซ็นท์มาร์โกถือว่าเป็นนักบวชที่สำคัญในการเผยแพร่ศาสนาในสมัยศตวรรษที่ 5 สำหรับตัวมหาวิหารจะเชื่อมกับ พระราชวังดอร์จ(Doge’s Palace)  พระราชวังแบบเวนิส-โกธิคที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นที่ประทับของยุคแห่งเวนิสครั้งที่เมืองนี้ยังเป็น สาธารณะรัฐเวนิส ก่อนได้รับการปรับปรุงเป็นพิพิธภัณฑ์และเปิดอย่างเป็นทางการในปี 1923 และยังมี หอระฆังซันมาร์โก (St Mark’s Campanile) หอระฆังสูง 98.6 เมตร โดยอิงการสร้างจากรูปแบบเดิมในปี 1514 และพังทลายลงในปี 1902 ไม่ไกลกันจะเป็นที่ตั้งของ สะพานถอนหายใจ (Bridge of Sighs) สะพานซุ้มโค้งที่เชื่อมระหว่างพระราชวังดอร์ดและเรือนจำ นำท่านชมบริเวณ สะพานรีอาลโต้ (RIALTO BRIDGE) สะพานข้ามคลองหลักอันเก่าแก่ที่สุดของเวนิส รายล้อมไปด้วยร้านค้าต่างๆ ถ่ายภาพกับจุดชมวิวบนสะพาน ที่ท่านสามารถมองเห็น GRAND CANAL คลองที่ใหญ่ที่สุด ผ่ากลางเกาะเวนิส ชมวิถีชีวิตกลางสายน้ำของชาวท้องถิ่นที่ใช้คลองแทนถนน

จากนั้นนำท่านล่องเรือกลับขึ้นสู่ฝั่งเมสเตร้

เย็น : บริการอาหารเย็น ด้วยเมนู เมนูสปาเก็ตตี้เส้นหมึกดำเวนิส

วันที่ 7
เมืองปิซ่า • จัตุรัสเปียซซา เดล ดูโอโม • หอเอนเมืองปีซ่า • กรุงโรม

เช้า : บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

จากนั้น เดินทางสู่ เมืองปิซ่า (Pisa) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3.30 ชม.) แคว้นทัสคานี ประเทศอิตาลี อยู่ทางตะวันตกของเมืองฟลอเรนซ์ ประมาณ 100 กิโลเมตร และทางตะวันตกเฉียงเหนือของเมืองเซียนาปรมาณ 130 กิโลเมตร จตุรัสดูโอโมแห่งปิซาได้รับเลือกโดยองค์การยูเนสโกให้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก เมื่อปี ค.ศ. 1987

เที่ยง : บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารท้องถิ่น

นำท่าน เข้าชม จัตุรัสเปียซซา เดล ดูโอโม (PIAZZA DEL DUOMO) ศาสนสถานที่สำคัญที่สุดของเมือง ซึ่งจัตุรัสแห่งนี้จะประกอบไปด้วย หอศีลจุ่ม วิหาร และหอระฆัง ซึ่งที่นี่มีหอระฆังที่โด่งดังระดับโลก นั้นคือ หอระฆังเอน แห่งเมืองปิซ่านำท่านชมบริเวณรอบหอระฆังแห่งนี้พร้อมเก็บรูปเป็นที่ระลึกกับ หอเอนเมืองปีซ่า (LEANING TOWER OF PISA) หอระฆังทรงกระบอก 8 ชั้น  โดยเอกลักษณ์และสาเหตุที่ทำให้หอระฆังแห่งนี้ได้เป็นสิ่งมหัศจรรย์ของโลกนั้นคือการที่ตัวอาคารมีลักษณะเอียงไปทางเหนือประมาณ 3.97 องศา หอเอนแห่งปิซ่าแรกเริ่มสร้างในปี 1174 แต่เมื่อสร้างขึ้นไปเพียง 3 ชั้น ฐานอาคารก็เกิดการทรุดตัวลง เนื่องจากเนื้อดินในบริเวณนี้ไม่มีชั้นหินแทรก ประกอบกับตั้งอยู่ใกล้แม่น้ำอาร์โน ทำให้ดินมีความชื้นและเหลวกว่าปกติ จนทำให้ต้องยุติการก่อสร้างไปกว่า 94 ปี จนกระทั่งปี 1272 สถาปนิกนาม จีโอวานี ดี ซีโมเน่ (Giovanni di Simone) ได้มาสานต่อด้วยเทคนิคการสร้างให้เพดานไม่เท่ากันเพื่อรักษาอาหารให้สมดุล แต่ก็ต้องยุติการก่อสร้างในปี 1284 จากภัยสงคราม ก่อนชั้นที่ 7 ของอาคารจะเสร็จในปี 1319 และตัวหอระฆังถูกเติมจนเสร็จสิ้นเมื่อปี 1372 นับเป็นเวลาร่วม 199 ปี นับจากวันที่เริ่ม

นำท่านเดินทางสู่ศูนย์กลางการปกครองของอิตาลีที่ กรุงโรม (Rome) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ชม.)  เมืองหลวงของประเทศอิตาลี และเคยเป็นเมืองหลวงของอาณาจักรโรมันที่รุ่งเรืองถือเป็นรากฐานของสังคมและวัฒนธรรมของชาติยุโรป ไม่ว่าจะเป็น ปฏิทินตามหลักสุริยะคติ กฎหมาย การประชุมในสภาในรูปแบบสาธารณรัฐ เป็นต้น

เย็น : บริการอาหารเย็น ณ ภัตตาคารจีน

วันที่ 8
นครรัฐวาติกัน • มหาวิหารนักบุญปีเตอร์ • จัตุรัสนักบุญปีเตอร์ • โคลอสเซี่ยม • โรมันฟอรั่ม • น้ำพุเทรวี่ • บันไดสเปน • ดูไบ

เช้า : บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

เดินทางสู่ นครรัฐวาติกัน (STATE OF THE VATICAN CITY) นครแห่งคริสตจักรที่อยู่ในกรุงโรม ถือเป็นศูนย์กลางของคริสต์ศาสนิกชน นิกายโรมันคาทอลิก เป็นที่ประทับของพระสันตะปาปา และประกอบพิธีกรรมทางศาสนาที่สำคัญ

นำท่านเข้าชม มหาวิหารนักบุญปีเตอร์ ( ST. PETER’ BASILICA) ศาสนสถานของคริสต์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก และเป็นที่ฝังพระศพของพระสันตะปาปาพระองค์แรกที่ถูกลงโทษประหารชีวิตด้วยการตรึงไม้กางเขนในสมัยของจักรพรรดิเนโร เมื่อปี ค.ศ. 68 ถือเป็นศูนย์รวมทั้งทางกายและทางใจของวาติกัน โดยมหาวิหารแห่งนี้ได้สร้างทับวิหารหลังเดิมที่สร้างในสมัยศตวรรษที่ 4 ออกแบบโดยมีเกลันเจโลสุดยอดจิตกรร่วมสมัยกับดาวินชี่ภายในถูกตกแต่งอย่างวิจิตรด้วยหินอ่อน โดยมีประติมากรรมชื่อก้องโลกอย่าง ปีเอต้า (Pietà) เป็นรูปปั้นพระแม่นารีย์ทรงโอบอุ้มพระเยซูหลังจากสิ้นพระชนม์ ซึ่งทำจากหินอ่อนเพียงก้อนเดียวและใช้เวลาในการแกะสลัก 7 ปี บริเวณด้านหน้าคือ จัตุรัสนักบุญปีเตอร์ (St. Peter’s Square) ออกแบบโดย จาน ลอเรนโซ เบอร์นินี อีกหนึ่งประติมากรผู้ได้ฉายาว่า สามารถเสกหินอ่อนให้หายใจได้ จัตุรัสสามารถจุคนได้ประมาณ 60,000 คน ตรงกลางมีเสาโอบีสิสหินแกรนิตแดง สูง 25.5 เมตร จากอียิปต์ ซึ่งเป็นการแสดงถึงแสงยานุภาพของโรมันที่มีต่อประเทศในยุโรปและแถบเมดิเตอร์เรเนียนในขณะนั้น (ในกรณีมีพิธีด้านใน อาจจะไม่ได้รับการเข้าชม)

จากนั้นนำท่านแวะถ่ายบริเวณด้านนอก โคลอสเซี่ยม (COLOSSEUM) หรือชื่ออย่างเป็นทางการว่า ฟราเวียนแอมฟิเธียเตอร์ อีก 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคกลาง ต้นแบบของสนามกีฬาของโลก เป็นแหล่งบันเทิงที่ใหญ่ที่สุดในโรมัน สร้างขึ้นในสมัยของจักพรรดิเวสปาเซียนในปี ค.ศ. 70 ก่อนเปิดอย่างเป็นทางการในอีก 10 ปีต่อมาในสมัยพระเจ้าไททัส เป็นสนามกีฬาที่จะเป็นการประชันการต่อสู่ระหว่างเหล่านักรบกลาดิเอเตอร์ด้วยกันเอง และกับสัตว์ดุร้าย เช่น สิงโต ช้าง แรด เป็นต้น โดยบ้างก็กล่าวกันว่าการต่อสู้ในโคลอสเซี่ยมทำให้สัตว์บางชนิดแทบจะศูนย์พันธุ์เลยทีเดียว การสร้างอาคารแบบอัฒจันทร์กลม 3 ชั้นขนาดใหญ่แห่งนี้ยังถือว่าเป็นการผลิตซีเมนต์แห่งแรกๆ ของโลกอีกด้วย พาท่านถ่ายรูปด้านหน้า กับ โรมันฟอรั่ม (ROMAN’S FORUM) อดีตศูนย์กลางทางสังคม เศรษฐกิจ และวัฒนธรรมของอาณาจักรโรมัน โดยบริเวณนี้นั้นเป็นที่ตั้งของประตูชัย 2 แห่ง ที่เป็นต้นแบบของฝรั่งเศส นั่นคือ ประตูชัยคอนสแตนติน สร้างขึ้นในครั้งที่พระเจ้าคอนสแตนตินได้ชัยชนะเหนือพระเจ้าแมกเซนเทียส และประตูชัยไททัสที่สร้างขึ้นหลังจากได้รับชัยชนะเหนือเมืองเยลูซาเล็มในปีค.ศ. 81

เที่ยง : บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาท้องถิ่นด้วย เมนู พิซซ่าสูตรอิตาลีแท้ !!

นำท่านชมความงามของ น้ำพุเทรวี่ (TREVI  FOUNTAIN) ที่มักกล่าวกันว่าเป็นน้ำพุที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งใน โลก นำท่านเดินชมและถ่ายรูปบริเวณ บันไดสเปน (SPANISH  STEPS) บันไดที่กว้างที่สุดในยุโรป เชื่อมระหว่างจัตุรัสสปังนา กับโบสถ์ทรีนิตี้ นอกจากนั้นยังมีสินค้าแบรนด์เนมหลากหลายให้ท่านได้เลือกสรรค์อย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็น Gucci, Louis Vuitton, Prada, Longchamp, Chanel, DIOR, Balenciaga เป็นต้น แต่หากสนใจชิมกาแฟเอสเปรสโซ่ต้นตำหรับ ก็มีร้านกาแฟมากมายให้ท่านได้ลิ้มลอง

เย็น : อิสระอาหารเย็น เพื่อความสะดวกและไม่เป็นการรบกวนเวลาช้อปปิ้งของท่าน

ได้เวลาอันสมควร นำท่านเดินทางสู่ ท่าอากาศยานเลโอนาร์โด ดา วินชี-ฟีอูมีชีโน (Aeroporto Leonardo da Vinci di Fiumicino) เพื่อให้ท่านได้มีเวลาทำการคืนภาษี (Tax Refund)

20.50 น. : ออกเดินทางกลับสู่ กรุงเทพฯ ประเทศไทย โดยสายการบิน เที่ยวบินที่ EK96 **บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง **

วันที่ 9
ดูไบ • สนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิ

05.30 น. : เดินทางถึง สนามบินนานาชาติดูไบ ให้ท่านผ่อนคลายอริยบทระหว่างรอเวลาเปลี่ยนเครื่อง

09.30 น. : เดินทางสู่ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ  โดยสายการบินเอมิเรตต์ เที่ยวบินที่ EK 372

18.40 น. : เดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ พร้อมความประทับใจมิรู้ลืม

เงื่อนไข
  • ตั๋วเครื่องบินชั้นประหยัด Economy Class ไป -กลับพร้อมกรุ๊ป เส้นทาง
  • ที่พักโรงแรมตามรายการ พักห้องละ 2-3 ท่าน (กรณีที่โรงแรมไม่มีห้องพักสำหรับ 3 ท่าน ลูกค้าจะต้องเพิ่มเงินเป็นห้องพักห้องเดี่ยว)
  • อาหารตามรายการระบุ(สงวนสิทธิในการสลับมื้อหรือเปลี่ยนแปลงเมนูอาหารตามสถานการณ์)
  • ค่าเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยวตามรายการระบุ
  • ค่าระวางน้ำหนักกระเป๋าไม่เกิน 23 กก.ต่อ 1 ใบ(โหลดได้ท่านละ 1 ใบ) กระเป๋าถือขึ้นเครื่อง Hand Carry 7 กก.ต่อ 1 ใบ (ทั้งนี้หากสายการบินมีการแจ้งเปลี่ยนแปลงในเรื่องของน้ำหนักกระเป๋า การสะสมไมล์ หรืออื่นใดที่เป็นประกาศจากสายบิน ทางบริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการยึดตามการเปลี่ยนแปลงตามประกาศนั้นๆ)
  • ค่ารถโค้ชนำเที่ยวตามรายการระบุ (กฎหมายในยุโรปไม่อนุญาตให้คนขับรถเกิน 12 ชั่วโมงต่อวัน)
  • ค่าน้ำดื่มบนรถวันละ 1 ขวด/ท่าน
  • ค่าธรรมเนียมการยื่นวีซ่าเชงเก้น สถานฑูตจะไม่คืนค่าวีซ่าให้ท่านไม่ว่าจะผ่านการพิจารณาหรือไม่ก็ตาม

กรณีมีวีซ่าแล้ว จะคืนเงินให้ท่าน 4,000 บาท

  • ค่าไกด์ท้องถิ่นและหัวหน้าทัวร์นำเที่ยวตามรายการ
  • ประกันโควิด-19 วงเงินคุ้มครองค่ารักษาพยาบาล 50,000 USD
  • ประกันอุบัติเหตุวงเงิน 2,000,000 บาท (เป็นไปเงื่อนไขตามกรมธรรม์)

เงื่อนไขประกันการเดินทาง  ค่าประกันอุบัติเหตุและค่ารักษาพยาบาล คุ้มครองเฉพาะกรณีที่ได้รับอุบัติเหตุระหว่างการเดินทาง ไม่คุ้มครองถึงการสูญเสียทรัพย์สินส่วนตัวและไม่คุ้มครองโรคประจำตัวและปัญหาสุขภาพอื่นๆของผู้เดินทาง

  • ภาษีน้ำมันและภาษีตั๋วทุกชนิด(สงวนสิทธิเก็บเพิ่มหากสายการบินปรับขึ้นก่อนวันเดินทาง)
  • ค่าทำหนังสือเดินทางไทย และค่าธรรมเนียมสำหรับผู้ถือพาสปอร์ตต่างชาติ
  • ค่าใช้จ่ายส่วนตัว อาทิ อาหารและเครื่องดื่มที่สั่งเพิ่มพิเศษ,โทรศัพท์-โทรสาร,อินเตอร์เน็ต,มินิบาร์,ซักรีดที่ไม่ได้ระบุไว้ในรายการ
  • ค่าใช้จ่ายอันเกิดจากความล่าช้าของสายการบิน,อุบัติภัยทางธรรมชาติ,การประท้วง,การจลาจล,การนัดหยุดงาน,การถูกปฏิเสธไม่ให้ออกและเข้าเมืองจากเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองและเจ้าหน้าที่กรมแรงงานทั้งที่เมืองไทยและต่างประเทศซึ่งอยู่นอกเหนือความควบคุมของบริษัทฯ
  • ภาษีมูลค่าเพิ่ม 7%

**ทิปหัวหน้าทัวร์/ไกด์ท้องถิ่น/คนขับรถ ไม่บังคับ ขึ้นอยู่กับความพึงพอใจของท่าน**

การจองทัวร์ :

  • กรุณาจองทัวร์ล่วงหน้า ก่อนการเดินทาง พร้อมชำระมัดจำ 40,000 บาท ส่วนที่เหลือชำระทันทีก่อนการเดินทางไม่น้อยกว่า 30 วัน มิฉะนั้นถือว่าท่านยกเลิกการเดินทางโดยอัตโนมัติ (ช่วงเทศกาลกรุณาชำระก่อนเดินทาง 45 วัน)

กรณียกเลิก : (จอยกรุ๊ป)

  • ยกเลิกก่อนการเดินทาง 45 วัน บริษัทฯ จะคืนเงินค่ามัดจำให้ทั้งหมด ยกเว้นในกรณีวันหยุดเทศกาล, วันหยุดนักขัตฤกษ์ ยกเลิกก่อนการเดินทาง 60 วัน จะคืนเงินค่ามัดจำให้ทั้งหมด
  • ยกเลิกน้อยกว่า 45 วัน ก่อนการเดินทาง หักค่าทัวร์ 50%จากราคาขาย และยึดเงินมัดจำทั้งหมดไม่ว่ากรณีใด ๆ ทั้งสิ้น
  • ยกเลิกน้อยกว่า 30 วัน ก่อนการเดินทาง บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์เก็บเงินค่าทัวร์ทั้งหมดไม่ว่ากรณีใด ๆ ทั้งสิ้น

กรณียกเลิก : (ตัดกรุ๊ป)

  • ยกเลิกหรือเลื่อนการเดินทางต้องทำก่อนการเดินทาง 60 วัน บริษัทฯจะคืนเงินค่ามัดจำให้ทั้งหมด ยกเว้นในกรณีวันหยุดเทศกาล,วันหยุดนักขัตฤกษ์ ทางบริษัทฯขอสงวนสิทธิ์ยึดเงินมัดจำโดยไม่มีเงื่อนไขใดๆทั้งสิ้น
  • ยกเลิกการเดินทางภายใน 60 วัน ทางบริษัทฯขอสงวนสิทธิ์ยึดเงินมัดจำโดยไม่มีเงื่อนไขใดๆทั้งสิ้น
  • ยกเลิกการเดินทางหลังชำระเต็มจำนวนทางบริษัทฯขอสงวนสิทธิ์เก็บเงินค่าทัวร์ทั้งหมดโดยไม่มีเงื่อนไขใดๆทั้งสิ้น

กรณีเจ็บป่วย :

  • กรณีเจ็บป่วย จนไม่สามารถเดินทางได้ ซึ่งจะต้องมีใบรับรองแพทย์จากโรงพยาบาลรับรอง บริษัทฯจะทำการเลื่อน การเดินทางของท่านไปยังคณะต่อไป แต่ทั้งนี้ท่านจะต้องเสียค่าใช้จ่ายที่ไม่สามารถยกเลิกหรือเลื่อนการเดินทางได้ตามความเป็นจริง
  • ในกรณีเจ็บป่วยกะทันหันก่อนล่วงหน้าเพียง 7 วันทำการ ทางบริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการคืนเงินทุกกรณี

กรณีวีซ่าที่ท่านยื่นไม่ผ่านการพิจารณาและคณะสามารถออกเดินทางได้ท่านจะต้องเสียค่าใช้จ่ายจริงที่เกิดขึ้นดังต่อไปนี้

  • ค่าธรรมเนียมการยื่นวีซ่าและค่าดำเนินการตามจริง ทางสถานทูตจะไม่คืนค่าธรรมเนียมใดๆทั้งสิ้นแม้ว่าจะ ผ่านหรือไม่ผ่านการพิจารณา
  • ค่ามัดจำตั๋วเครื่องบิน หรือตั๋วเครื่องบินที่ออกมาจริง ณ วันยื่นวีซ่า ซึ่งตั๋วเป็นเอกสารที่สำคัญในการยื่นวีซ่า หากท่านไม่ผ่านการพิจารณา ตั๋วเครื่องบินถ้าออกตั๋วมาแล้วจะต้องทำการ REFUND โดยจะมีค่าธรรมเนียมที่ท่านต้องถูกหักบางส่วน และส่วนที่เหลือจะคืนให้ท่านภายใน 45-60 วัน(ตามกฎของแต่ละสายการบิน) ถ้ายังไม่ ออกตั๋วท่านจะเสียแต่ค่ามัดจำตั๋วตามจริงเท่านั้น
  • ค่าห้องพักในทวีปยุโรป ถ้าคณะออกเดินทางได้ และท่านไม่ผ่านการพิจารณาวีซ่า ตามกฎท่านจะต้องโดนค่ามัดจำห้องใน 2 คืนแรกของการเดินทางหากท่านไม่ปรากฏตัวตามวันที่เข้าพัก ทางโรงแรมจะต้องยึดค่าห้อง 100% ในทันที ทางบริษัทจะแจ้งให้ท่านทราบ และมีเอกสารชี้แจงให้ท่านเข้าใจ
  • หากท่านผ่านการพิจารณาวีซ่า แล้วยกเลิกการเดินทางทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการยึดค่าใช้จ่ายทั้งหมด 100%
  • ทางบริษัทเริ่มต้น และจบ การบริการ ที่สนามบินสุวรรณภูมิกรณีท่านเดินทางมาจากต่างจังหวัด หรือ ต่างประเทศ และจะสำรองตั๋วเครื่องบิน หรือพาหนะอย่างหนึ่งอย่างใดที่ใช้ในการเดินทางมาสนามบิน ทางบริษัท จะไม่รับผิดชอบค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ เพราะเป็นค่าใช้จ่ายที่นอกเหนือจากโปรแกรมการเดินทางของบริษัท ฉะนั้น ท่านควรจะให้กรุ๊ป FINAL 100% ก่อนที่จะสำรองยานพาหนะ
Share on social networks
โปรแกรมทัวร์ที่น่าสนใจ