23.30 น. : คณะพร้อมกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารขาออก ชั้น 4 ประตูทางเข้าระหว่างหมายเลข 9 เคาน์เตอร์สายการบิน EVA Air เคาน์เตอร์เช็คกรุ๊ป ROW T
**กรณีที่บางท่านเดินทางมาจากต่างประเทศหรือต่างจังหวัดกรุณาตรวจสอบเวลาการเดินทางแต่ละ กำหนดการเดินทางอีกครั้งก่อนทำการจองตั๋วโดยสารส่วนตัวของท่าน เนื่องจากรายการทัวร์เป็นรายการซีรี่และได้มีการดำเนินการไว้ล่วงหน้าหลายเดือน เมื่อเปลี่ยนฤดูกาล เวลาการเดินทางอาจมีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย**
02.20 น. : นำท่านออกเดินทางสู่กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย โดยสายการบิน EVA Air เที่ยวบินที่ BR-61
08.35 น. : เดินทางถึงสนามบินกรุงเวียนนา นำท่านผ่านขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมืองและตรวจรับสัมภาระ รถโค้ชรอรับท่านและนำท่านเดินทางสู่ เมืองลินซ์ Linz เมืองใหญ่อันดับ 3 ของประเทศออสเตรียและเป็นเมืองหลวงของเขต Upper Austria อยู่ทางตอนเหนือของประเทศริมฝั่งแม่น้ำดานูบ เป็นเมืองที่มีความโดดเด่นในด้านการผลิตเหล็กกล้า เครื่องจักร อุปกรณ์ไฟฟ้าและผลิตภัณฑ์ยาสูบ เมืองนี้มีการพัฒนาเรื่อยมา นับตั้งแต่สมัยค่าโรมันซึ่งเป็นศูนย์กลางทางการค้าที่สำคัญในอดีต (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2.30 ชั่วโมง)
กลางวัน : รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารพื้นเมือง
บ่าย : นำท่านชมจัตุรัสใจกลางเมืองเฮ้าส์พลาส ถ่ายรูปกับอาคารวิหารเก่าสไตล์บาร็อคที่มีหอคอยทรงโดมหัวหอม เป็นวิหารที่สร้างอุทิศเพื่อนักบุญอิกเนเชียสในปี ค.ศ.1669 และถ่ายรูปกับรถรางไฟฟ้าพอสลิงค์เบิร์กบาห์น ที่ก่อตั้งขึ้นเมือปี ค.ศ.1898 ซึ่งเป็นรถรางขึ้นสู่เนินชมวิวซึ่งเป็นที่ตั้งของโบสถ์ Postlingbergkirche Walfahrtsbasilika จากนั้นถ่ายรูปกับวิหารใหม่หรือที่รู้จักกันในชื่อ Cathedral of Immaculate Conception เป็นโบสถ์นิกายโรมันคาธอลิคที่เป็นอาคารสไตล์โกธิค จัดเป็นโบสถ์ใหญ่ที่สุดอีกแห่งหนึ่งของออสเตรีย จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองซาลสเบิร์ก Salzburg เมืองแห่งศิลปินเพลง ซึ่งเป็นสถานที่ของเด็กอัจฉริยะโมสาร์ตที่เพิ่งจะฉลองครบรอบ 250 ปี ในปี 2006 ที่ผ่านมา (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.30 ชั่วโมง)
ให้ท่านชมเมืองซาลสเบิร์ก เมืองที่ได้ชื่อว่าเป็นเมืองแห่งศิลปินเพลง และยังเป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์ระดับโลกอย่าง The Sound of Music ที่โด่งดัง รวมถึงยังเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมแบบบาร็อค และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก นำท่านเดินข้ามแม่น้ำซาลสอัคช์เพื่อเดินเล่นชมเมืองเก่าของ ซาลสเบิร์ก สู่จัตุรัสกลางเมืองเพื่อถ่ายรูปคู่กับอนุเสาวรีย์โมสาร์ต ชมมหาวิหารใหญ่หรือมหาวิหารแห่งเมืองซาลสเบิร์ก สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยเรอเนอซองส์ตอนปลายต่อบาร็อคตอนต้น ถือเป็นโบสถ์บาร็อคยุคแรก โดยสร้างขึ้นใหม่เพื่อแทนโบสถ์หลังเดิมที่ถูกไฟไหม้ใหญ่จนเกินซ่อมแซมและถูกระเบิดสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ถล่มเสียหาย จากนั้นให้ท่านเดินเล่นบนถนนเกไตรเด้ ที่มีบ้านเรือนเรียงราย ซึ่งถูกสร้างขึ้นช่วงในศตวรรษที่ 15-18 ลักษณะเด่นคือมีลานบ้านที่มีหลังคาสวยงาม ป้ายเหล็กที่บ่งบอกชื่อร้านค้าหรือบ้านเรือนที่ทำด้วยมือและกรอบหน้าต่างที่เป็นภาพปูนแกะสลัก ปัจจุบันเป็นย่านช้อปปิ้งที่มีร้านค้าแบรนด์เนมมากมายและเป็นที่ตั้งของบ้านเกิดของโมสาร์ต ที่เพิ่งฉลองครบรอบ 250 ปีเมื่อปี 2006 ตั้งอยู่บนถนนเส้นนี้ด้วย (เทศบาลเมืองไม่อนุญาตให้นำรถบัสนำนักท่องเที่ยวเข้าในเขตบริเวณเมืองเก่า) รวมทั้งชมสวนมิราเบล ที่มีดอกไม้นานาพันธุ์ตลอดปี
ค่ำ : รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารจีน
เช้า : รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม
นำท่านเดินทางสู่เมืองฮอลล์สตัท Hallstatt เมืองมรดกโลกที่เก่าแก่ย้อนหลังกลับไปกว่า 4,000 ปี ช่วงที่เจริญรุ่งเรืองที่สุดในอดีตประมาณปี 800-400 ก่อนคริสตกาล และยังมีทิวทัศน์ที่สวยงามเป็นที่หลงใหลของนักเดินทางมากมาย (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง) นำท่านเดินเท้าเลาะริมทะเลสาบบนถนนเลียบทะเลสาบที่เรียกว่า “ซี สตราซ” See Strasse ระยะทางประมาณ 300 เมตร อีกด้านมีร้านขายของที่ระลึก ที่ศิลปินพื้นบ้านออกแบบเองเป็นระยะสลับกับบ้านเรือนสไตล์อัลไพน์ที่เก่าแก่ไม่ขาดสาย บ้างอยู่ระดับพื้นดิน บ้างอยู่บนหน้าผาลดหลั่นกันเป็นชั้นๆ และบ้านแต่ละหลังล้วนประดับประดาด้วยของเก่า ดอกไม้หลากสีสันสวยงามปลายสุดของถนนซีสตราซ ท่านจะได้ชมจัตุรัสประจำเมืองซึ่งเป็นลานหินขนาดย่อม ประดับด้วยน้ำพุกลางลาน และอาคารบ้านเรือนที่สวยงาม อิสระให้ท่านได้พักผ่อนนั่งจิบกาแฟหรือเดินเที่ยวชมเมือง
กลางวัน : รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารพื้นเมือง กับเมนูปลาเทร้าท์ย่าง Grill whole trout
บ่าย : นำท่านเดินทางข้ามพรมแดนสู่ประเทศสาธารณรัฐเช็ค โดยเดินทางสู่เมืองเชสกี้บูโยวิช เมืองใหญ่ในเขตเซ้าท์โบฮีเมียและยังเป็นเมืองศูนย์กลางการเมืองและการปกครองรวมทั้งการค้าภาคใต้ทั้งหมด ตั้งอยู่บนฝั่งแม่น้ำวัลตาวา ต้นกำเนิดเบียร์บัดไวเซอร์ (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง) ผ่านชมบ้านเรือนต่างๆ และทัศนียภาพงดงามระหว่างเมืองจนถึงเมืองเชสกี้บูโยวิช ให้ท่านเดินเล่นบริเวณจัตุรัส Namesti Premysla Otakara II กลางเมืองที่ใหญ่ที่สุดในเขตยุโรปตะวันออก โดยมีการตั้งชื่อจัตุรัสเพื่อเป็นเกียรติแด่พระเจ้า Premsyl Otakar ที่ 2 ท่านสามารถเดินชมอาคารสวยๆ สไตล์บาร็อค อาทิ เช่น อาคารที่ว่าการเมือง กลางจัตุรัสมีน้ำพุ Samsonova Kasna หรือน้ำพุแซมสันจัดเป็นสถานที่สำคัญและโดดเด่นของจัตุรัสแห่งนี้ และรวมถึงชมความสวยงามของโบสถ์เซ้นต์นิโคลัส ติดกันมีหอคอย Black Tower มีความสูง 72.29 เมตร สร้างเสร็จมาตั้งแต่ปี ค.ศ.1577 เพื่อใช้เป็นหอนาฬิกาและหอระฆังประจำเมือง
ค่ำ : รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารจีน
เช้า : รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม
นำท่านเดินทางเข้าสู่ กรุงปราค Prague เมืองหลวงของสาธารณรัฐเช็ค นครหลวงแห่งอาณาจักรโบฮีเมียที่โด่งดังในอดีต ตั้งแต่ยุคสมัยของกษัตริย์ชาร์ลสที่ 4 ได้สร้างให้ปราคกลายเป็นหนึ่งในนครที่สวยที่สุดอีกแห่งหนึ่งของยุโรป (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง) นำชม กรุงปราค เมืองหลวงแห่งสาธารณรัฐเช็ค ปัจจุบันเป็นเมืองท่องเที่ยวชื่อดังที่ได้รับความนิยมมากที่สุดแห่งหนึ่งในกลุ่มยุโรปตะวันออก เป็นเมืองที่น่าตื่นตาตื่นใจ พรั่งพร้อมไปด้วยศิลปะ ดนตรี การเต้นรำ ภาพยนตร์และละครเวที ทั้งยังเป็นอัญมณีแห่งสถาปัตยกรรมยุโรปขนานแท้ เป็นเมืองที่มีความสวยงามและโรแมนติก รอดพ้นจากภัยสงครามในอดีตและได้รับการอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดีและได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโก้ในปี ค.ศ.1992
นำท่านเข้าชมความสวยงามของ กลุ่มปราสาทแห่งกรุงปราค ที่ตั้งอยู่บนเนินเขาริมฝั่งแม่น้ำวัลตาวาอดีตที่ประทับของจักรพรรดิแห่งโบฮีเมีย ปัจจุบันเป็นที่ทำการของคณะรัฐบาล ชมวิวสวยบนเนินเขาที่สามารถมองเห็นตัวเมืองปราคที่อยู่คนละฝั่งแม่น้ำ ที่ท่านจะเห็นถึงชื่อที่มาของเมืองแห่งปราสาทร้อยยอด ประกอบไปด้วยยอดแหลมของอาคารต่างๆ เดินชมภายนอกเขตของตัวปราสาท ซึ่งบริเวณเดียวกันมีมหาวิหารเซนต์วิตัส ตั้งอยู่ในย่านปราสาทปราค สร้างในสมัยพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 14 โดยมีสถาปนิกเอกชาวฝรั่งเศส Matthias of Arras เป็นที่เก็บมงกุฎเพชรซึ่งทำขึ้นในสมัยพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 4 กษัตริย์ผู้สร้างความเจริญสูงสุดจนทำให้เมืองปราค เป็นการสร้างแบบสถาปัตยกรรมโกธิคที่ได้ตกแต่งประดับประดาไปด้วยหัวสัตว์ประหลาดมากมายที่ทำด้วยหินตั้งอยู่บนหลังคาและปากท่อรางน้ำฝน นอกจากนี้รอบๆ ตัวปราสาทมีจุดที่น่าสนใจอยู่หลายแห่ง อย่างเช่นโบสถ์เซนต์จอร์จ ให้ท่านถ่ายภาพของปราสาทอันสวยงาม และชมหอนาฬิกาดาราศาสตร์ โดยทุกๆ ชั่วโมงตั้งแต่เวลา 09.00 น. – 21.00 น. เมื่อถึงเวลาที่นาฬิกาบอกเวลา จะมีหน้าต่างเล็กๆ สองบานเปิดออก ขบวนตุ๊กตารูปปั้นที่เป็นสาวกพระเยซูจะพากันเดินพาเหรดออกมา โดยนาฬิกาดาราศาสตร์แห่งนี้สามารถบอกเวลาได้ทั้ง วัน เดือน ปี รวมไปถึงจักรราศีอีกด้วยซึ่งถูกสร้างขึ้นมากว่า 600 ปีมาแล้ว พร้อมให้ท่านสัมผัสกับบรรยากาศสวยงามของ สะพานชาร์ลส ที่ทอดข้ามแม่น้ำวัลตาวา สัญลักษณ์ที่สำคัญของปราคที่สร้างขึ้นในยุคของกษัตริย์ชาร์ลสที่ 4 ปัจจุบันเป็นสถานที่ที่เหล่าศิลปินต่างๆ นำผลงานมาแสดงและขายให้กับนักท่องเที่ยวและผู้ที่สนใจ
กลางวัน : รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารไทย
บ่าย : นำท่านเดินทางข้ามพรมแดนสู่ประเทศออสเตรีย นำท่านเดินทางสู่ กรุงเวียนนา Vienna เมืองหลวงของประเทศออสเตรีย หนึ่งในเมืองที่มีความโรแมนติกมากที่สุดเมืองหนึ่งของยุโรป สะอาดและสวยงามด้วยศิลปะต่างๆ ที่สะท้อนถึงวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์อันรุ่งเรืองในอดีตกระจายอยู่ทั่วเมือง เวียนนายังเป็นเมืองใหญ่ที่สุดในประเทศออสเตรีย มีแม่น้ำสายสำคัญของยุโรปคือแม่น้ำดานูบไหลผ่าน (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3.30 ชั่วโมง)
ค่ำ : รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารพื้นเมือง
เช้า : รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม
นำท่านชมกรุงเวียนนาที่เป็นทั้งศูนย์กลางทางเศรษฐกิจและการปกครองของประเทศ และมีความสำคัญในระดับนานาชาติ โดยเป็นสถานที่ตั้งของหน่วยงานขององค์การสหประชาชาติหลายแห่ง อาทิเช่น United Nations Industrial Development Organization (UNIDO), Organization of Petroleum Exporting Countries (OPEC) และยังเป็นที่ตั้งของสำนักงานสหประชาชาติที่สามของโลกอีกด้วย มีเวลาให้ท่านเก็บภาพความสวยงามที่แวดล้อมไปด้วยอาคารสถาปัตยกรรมเก่าแก่อันงดงาม อาทิ โรงละครโอเปร่าที่สร้างขึ้นในระหว่างปีค.ศ.1863-1869, พระราชวังฮอฟสเบิร์ก กลุ่มอาคารที่เคยเป็นที่ประทับของราชสำนักฮับสบูร์กมาตั้งแต่คริสตศตวรรษที่13-20, ตึกรัฐสภา ซึ่งสร้างขึ้นในระหว่างปีค.ศ.1873-1883, พระราชวังเบลวาแดร์, สวนสเตร๊าส์และโบสถ์เซ้นต์สตีเฟ่น เป็นต้น อาทิ พระราชวังฮับสเบิร์ก, พระราชวังเบลวาแดร์ หรือศาลาว่าการเมืองของกรุงเวียนนา เป็นต้น สมควรแก่เวลานำท่านเดินทาง พาร์นดอร์ฟ (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 0.40 ชั่วโมง) อิสระให้ท่านช้อปปิ้ง แม็คอาร์เธอร์เกลนดีไซน์เนอร์เอ๊าท์เล็ต McArthur Glen Designer Outlet เอ๊าท์เล็ตแห่งแรกของประเทศออสเตรียและเป็นแหล่งช้อปปิ้งใหญ่สุดที่มีร้านค้ามากกว่า 120 ร้านกับสินค้า
** เพื่อความสะดวกในการเลือกซื้อสินค้าให้ท่านอิสระอาหารกลางวันตามอัธยาศัย **
บ่าย : นำท่านเดินทางข้ามพรมแดนสู่ กรุงบูดาเปสต์ Budapest เมืองหลวงของ ประเทศฮังการี (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2.30 ชั่วโมง) เมืองแสนสวยของประเทศฮังการี ได้ชื่อว่า “ไข่มุกแห่งแม่น้ำดานูบ” ด้วยความงดงามของสายน้ำที่คั่นแบ่งเมืองเป็นสองฝั่ง ร่องรอยของอดีตเมื่อครั้งอยู่ภายใต้ม่านเหล็กคือ เสน่ห์อันน่าหลงใหลที่ผสานไปกับความงดงามทางศิลปะที่สั่งสมมาแต่ครั้งบรรพกาล
ค่ำ : รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารจีน
เช้า : รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม
นำท่านถ่ายรูป ณ ฮีโร่สแควร์ หรืออนุสาวรีย์จัตุรัสวีรชน ซึ่งเป็นอนุเสาวรีย์ที่สร้างขึ้นในปี ค.ศ.1896 เพื่อเป็นอนุสรณ์ครบรอบ 1,000 ปี แห่งชัยชนะของฮังกาเรียน เสาสูงตระหง่านของอนุสาวรีย์เป็นที่ตั้งของรูปหล่อเทวทูตกาเบรียล อันเป็นสัญลักษณ์ของคริสตจักรคาทอลิก รอบเสาสูงเป็นที่ตั้งของรูปหล่อผู้นำของชนเผ่าทั้ง 7 ที่ร่วมกันก่อตั้งอาณาจักรฮังการีขึ้นเมื่อคริสต์ศตวรรษที่ 9 และมีเวลาให้ท่านเดินเล่นถ่ายรูปและเช็คอินกับสถานที่ต่างๆ ในเขตจัตุรัสและเลือกซื้อสินค้าตามอัธยาศัย จากนั้นนำชมถนนเส้นที่สวยงามที่สุดของเมืองบูดาเปสต์พร้อมชมนครที่สวยงามด้วยสถาปัตยกรรมอันล้ำค่าริมสองฝั่งแม่น้ำดานูบ
แวะชมและถ่ายรูปภายนอกกับป้อมปราการ Fisherman’s Bastion ซึ่งสร้างขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ.1905 โดยกลุ่มชาวประมงฮังกาเรียน สร้างไว้เพื่อรำลึกถึงความกล้าหาญของชาวประมงผู้เสียสละชีพจากการรุกรานของมองโกล บนป้อมแห่งนี้ถือได้ว่าเป็นจุดชมวิวรอบเมืองบูดาที่สวยที่สุด สามารถชมความงามของแม่น้ำดานูบได้แบบพาโนรามา มองเห็นสะพานเชนและอาคารรัฐสภาฮังการีริมแม่น้ำดานูบที่งดงามตรึงตาตรึงใจ (ท่านสามารถเลือกชำระเพิ่มเติมค่าขึ้นชมวิวได้สอบถามได้จากหัวหน้าทัวร์) ให้ท่านถ่ายรูปกับภายนอกของโบสถ์แมทธิอัส Matthias Church ซึ่งโบสถ์นี้เคยใช้จัดพิธีสวมมงกุฎให้กษัตริย์มาแล้วหลายพระองค์ชื่อโบสถ์มาจากชื่อกษัตริย์แมทธิอัส ซึ่งพระองค์ทรงเป็นกษัตริย์ที่ทรงพระปรีชาสามารถมาก ในสมัยของพระองค์ถือว่าเป็นสมัยฟื้นฟูศิลปวิทยาอย่างแท้จริง สิ่งก่อสร้างที่งดงามเกิดขึ้นมากในเมืองหลวงและเมืองอื่นๆ ซึ่งโบสถ์นี้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโก้เรียบร้อยแล้ว อิสระให้ท่านชมและเลือกซื้อของฝากของที่ระลึกได้ตามอัธยาศัย
และให้ท่านไม่พลาดไฮไลท์ของการชมเมืองบูดาเปสต์ที่ดีที่สุด!! นำท่าน ล่องเรือแม่น้ำดานูบ Danube River Cruise แม่น้ำดินแดนโรแมนติคของประเทศฮังการี ชมความงดงามยามเย็นของอาคารรัฐสภาและอาคารสถาปัตยกรรมต่างๆ ที่ต่างประดับประดาด้วยแสงไฟโดดเด่นและสวยงามเรียงรายสองฝั่งแม่น้ำดานูบ มนต์เสน่ห์ที่ไม่เสื่อมคลาย และรับการยกย่องว่าเป็นเมืองโรแมนติกบนสายน้ำแห่งหนึ่งของโลก
กลางวัน : รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารพื้นเมือง
บ่าย : นำท่านเดินทางข้ามพรมแดนสู่ ประเทศสโลวัก เข้าสู่ เมืองบราติสลาวา Bratislava (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง) นครหลวงแห่งสาธารณรัฐสโลวักหรือสโลวาเกีย ที่ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำดานูบ เป็นเมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดของประเทศสโลวัค รวมทั้งเป็นเมืองที่มีประชากรหนาแน่นที่สุดในภูมิภาคยุโรปกลาง มีประชากรประมาณ 450,000 คน บราติสลาวาตั้งอยู่บนสองฝั่งแม่น้ำดานูบ ที่บริเวณพรมแดนของ
สโลวาเกียกับออสเตรียและฮังการี เมืองนี้ตั้งอยู่ห่างจากกรุงเวียนนาเพียง 50 กิโลเมตร จากนั้นนำท่านถ่ายรูปกับอาคารรัฐสภา, มหาวิทยาลัยโรงละครและสถาบันวัฒนธรรม ฯลฯ เนื่องจากเมืองนี้เคยตกอยู่ใต้อำนาจของหลายชาติ เช่น ออสเตรีย ฮังการี เยอรมัน จึงมีชื่อเรียกในภาษาอื่นๆ มากมาย อาทิ พอซโซนี (ฮังการี) เพรชพอรอค (ภาษาสโลวักเก่า) เพรสส์บูร์ก (เยอรมันและภาษาอังกฤษ) ให้ท่านถ่ายรูปภายนอก ปราสาทบราติสลาวา (Bratislava Castle Courtyard) ซึ่งปราสาทนี้เป็นอาคารทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าตั้งอยู่บนเนินเขาร็อกกี้ฮิลล์ ริมฝั่งแม่น้ำดานูบสร้างขึ้นตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 9 – 18 ซึ่งเคยถูกเพลิงไหม้เสียหาย จากนั้นมีการก่อสร้างเรื่อยมาและมีการก่อสร้างใหม่อีกครั้งในปี 1956-1964 ซึ่งท่านสามารถชมทัศนียภาพอันงดงามของเมืองได้จากมุมของปราสาทแห่งนี้
ค่ำ : รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารจีน
เช้า : รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม
นำท่านเดินทางเข้าสู่กรุงเวียนา ประเทศออสเตรียอีกครั้ง นำท่านเข้าชมความงดงามของ พระราชวัง
เชรินน์บรุนน์ Schonbrunn Palace พระราชวังฤดูร้อนแห่งราชวงศ์ฮับสบวร์กที่มีความสวยงามและยิ่งใหญ่ไม่แพ้พระราชวังใดในยุโรป ตกแต่งห้องด้วยศิลปะในหลายรูปแบบทั้งบาร็อคและร็อคโคโคหรือศิลปะประยุกต์จากทางเอเซียและยังมีเครื่องเรือนเครื่องใช้ต่างๆ ประดับอยู่อย่างวิจิตรงดงาม รวมทั้งสวนภายในพระราชวังที่สวยงามไม่แพ้ที่ใด สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยพระเจ้าโยเซฟที่ 1 เป็นผู้ดำริในการสร้างให้มีความหรูหราโอ่อ่าเทียบเท่ากับพระราชวังแวร์ซายส์ของฝรั่งเศสเป็นพระองค์แรกแต่พระราชวังเดิมได้รับความเสียหายจากการทำสงครามจึงได้มีการก่อสร้างและบูรณะขึ้นมาใหม่โดยสถาปนิกประจำราชสำนักและมีการสานต่อการก่อสร้างมาโดยตลอดมาเสร็จสมบูรณ์ในสมัยจักรพรรดินีมาเรีย เทเรซ่า ในปี 1749 โดยพระราชวังแห่งนี้มีห้องต่างๆ มากมายกว่า 1,400 ห้อง สีที่โดดเด่นคือสีเหลืองซึ่งเป็นสีสัญลักษณ์แห่งความเรืองโรจน์ของระบอบราชาธิปไตยภายใต้ราชวงศ์ฮับสบวร์ก ทำให้เวียนนามีความโดดเด่นจนได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกขององค์การยูเนสโกในปี ค.ศ.1996
จากนั้นนำท่านสู่ย่านถนนคนเดินหรือ Walking Street ที่ถนนคาร์ทเนอร์ ถือเป็นย่านถนนคนเดินที่มีความสำคัญมากที่สุดของเมืองเวียนนา อาคารต่างๆ ในบริเวณนี้รอดพ้นจากการถูกทำลายเมื่อสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 และได้รับการปรับปรุงอีกครั้งด้วยสไตล์แบบโนเบิล ให้ท่านเลือกซื้อสินค้าแบรนด์เนมต่างๆ รวมถึงของที่ระลึกมากมาย (ร้านค้าบางร้านอาจปิดทำการหากตรงกับวันอาทิตย์)
กลางวัน : รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารจีน
14.30 น. : นำท่านเดินทางเตรียมตัวเดินทางสู่สนามบินกรุงเวียนนา
18.35 น. : ออกเดินทางกลับจากสนามบินกรุงเวียนนา โดยสายการบิน EVA Air เที่ยวบินที่ BR-62
10.00 น. : เดินทางถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพ..
**กรณีที่บางท่านเดินทางต่อไปต่างประเทศหรือต่างจังหวัดกรุณาตรวจสอบเวลาการเดินทางแต่ละกำหนดการเดินทางอีกครั้งก่อนทำการจองตั๋วโดยสารส่วนตัวของท่าน เนื่องจากรายการทัวร์เป็นรายการซีรี่และได้มีการดำเนินการไว้ล่วงหน้าหลายเดือน เมื่อเปลี่ยนฤดูกาล เวลาการเดินทางอาจมีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย**