16.30 น. : นัดคณะพร้อมกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ ชั้น 4 ประตูหมายเลข 8 เคาน์เตอร์ Q สายการบิน Etihad Airways เจ้าหน้าที่พร้อมคอยต้อนรับและอำนวยความสะดวกด้านเอกสารและสัมภาระ
**กรณีท่านที่เดินทางมาจากต่างประเทศหรือต่างจังหวัดกรุณาตรวจสอบเวลาการเดินทางแต่ละกำหนดการเดินทางอีกครั้งก่อนทำการจองตั๋วโดยสารส่วนตัวของท่าน เนื่องจากรายการทัวร์เป็นรายการซีรี่และได้มีการดำเนินการไว้ล่วงหน้าหลายเดือน เมื่อเปลี่ยนฤดูกาล เวลาการเดินทางอาจมีการปรับเปลี่ยนตามฤดูกาลเล็กน้อย**
17.00 น. : ออกเดินทางจากสนามบินสุวรรณภูมิ โดยสายการบิน Etihad Airways เที่ยวบินที่ EY431
23.10 น. : เดินทางถึงสนามบินนครอาบูดาบี ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เพื่อให้ท่านแวะเปลี่ยนเครื่อง
**กำหนดการเดินทางวันที่ 22 ต.ค. เที่ยวบินจะเปลี่ยนเป็น EY407 เวลาเดินทางเป็น 19.30-23.10 น.**
02.15 น. : นำท่านออกเดินทางจากสนามบินนครอาบูดาบี โดยสายการบิน Etihad Airways เที่ยวบินที่ EY031
07.45 น. : เดินทางถึงสนามบินชาร์ลเดอโกลล์ นครปารีส ประเทศฝรั่งเศส หลังผ่านขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมืองและตรวจรับสัมภาระเรียบร้อยแล้ว รถโค้ชรอรับท่านจากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองชอมบอร์ด Chambord เมืองที่ตั้งอยู่ในเขตลุ่มแม่น้ำลัวร์ (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง) เส้นเลือดหล่อเลี้ยงแคว้นลัวร์ และเป็นแม่น้ำสายยาวที่สุดของฝรั่งเศสมีความยาวประมาณ 1,013 กิโลเมตร หล่อเลี้ยงต้นองุ่นของหลายร้อยตำบลในหลายแคว้นสองฟากฝั่งมีปราสาทหรือชาโตของกษัตริย์และเชื้อพระวงศ์ที่สวยงามนับพันแห่ง สะท้อนถึงความเป็นอยู่อันหรูหราฟุ่มเฟือยของเจ้าขุนมูลนายในยุคนั้น ปัจจุบันปราสาทเหล่านี้กลายเป็นสวรรค์ของนักท่องเที่ยวที่สนใจประวัติศาสตร์ของฝรั่งเศส ให้ท่านแวะถ่ายรูปภายนอกปราสาทชอมบอร์ด Chateau de Chambord เป็นพระราชวังที่ใหญ่ที่สุดในบรรดาวังต่างๆ ในลุ่มแม่น้ำลัวร์ และเพราะเป็นปราสาทที่ ออกญาพระวิสุทธิสุนทร (ปาน) อัครราชทูตกรุงสยามรัชสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช เคยพำนักเมื่อ ครั้งที่เดินทางไปเจริญสัมพันธไมตรีกับฝรั่งเศส ชอมบอร์ด ได้รับการยกย่องว่าเป็นปราสาทที่ผสมผสาน สถาปัตยกรรมแบบเรอเนสซองส์ของฝรั่งเศสยุคกลางกับรูปแบบโครงสร้างแบบอิตาเลียนคลาสสิก บาร็อค และ ร็อคโคโค ได้อย่างเหมาะสมและลงตัวที่สุด จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองบลัวส์ Blois อีกหนึ่งเมืองใหญ่แถบดินแดนลุ่มแม่น้ำลัวร์ (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาที)
กลางวัน : รับประทานอาหารกลางวัน ณ. ภัตตาคารจีน
บ่าย : นำท่านชม เมืองบลัวส์ ซึ่งเป็นเป็นเมืองเก่าเเก่โบราณที่มีความสำคัญทางประว้ติศาสตร์และมีชื่อเสียงเเละมีความสวยงาม เหมาะเเก่การมาเที่ยวชมเป็นอย่างมาก ตั้งอยู่ตอนกลางของประเทศฝรั่งเศส ในจังหวัดลัวเรแชร์ แคว้นซ็องทร์-วาลเดอลัวร์ ริมฝั่งแม่น้ำลัวร์ นับว่าเป็นเมืองในยุคเเรกๆ ของฝรั่งเศสตั้งเเต่สมัยที่พวกโกลเข้ามาปกครองในบริเวณเเห่งนี้ ซึ่งในบริเวณเเห่งนี้มีปราสาทหลายแห่งก่อสร้างเเละตั้งเรียงรายกันอยู่ตามแนวเขตเเม่น้ำลัวร์ ชมสะพานหินข้ามแม่น้ำลัวร์ ซึ่งมีความเก่าเเก่เเละสร้างมาตั้งเเต่คริสต์ศตวรรษที่ 18 โดยเป็นจุดที่นักท่องเที่ยวจะได้ชมความงดงามของเเม่น้ำลัวร์อย่างชัดเจน รวมถึงชมเขตเมืองเก่าที่มีความสวยงามของอาคารบ้านเรือนในยุคเก่าที่ได้รับการปรับปรุงตกแต่งใหม่มาเป็นร้านค้าเเละร้านอาหารมากมายหลายเเห่ง ไว้คอยบริการนักท่องเที่ยว และเมืองเเห่งนี้เคยเป็นที่พำนักของราชฑูตสยามในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราชที่ส่งไปเจริญสัมพันธไมตรีกับพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 ซึ่งก็คือโกษาปาน โดยท่านโกษาปานนั้นได้ขึ้นท่าที่เมืองชายฝั่งก่อนจะเดินทางเพื่อเข้าปารีสเเละเเวะพักที่เมืองบลัวส์เเห่งนี้เป็นเวลา 2 คืนด้วยกัน และต่อมาองค์การยูเนสโก้ได้ขึ้นทะเบียนบริเวณตอนกลางของลุ่มแม่น้ำลัวร์ระหว่างแม่น้ำแมนและซุลลีย์-เซอร์-ลัวร์ ให้เป็นมรดกโลกในปี ค.ศ.2000
จากนั้นให้ท่านถ่ายรูปกับภายนอกพระราชวังแห่งบลัวส์ Blois Royal Castle หรือ Chateau de Blois พระราชวังที่ตั้งอยู่บนฝั่งของแม่น้ำลัวร์ เคยเป็นที่ประทับของพระมหากษัตริย์หลายพระองค์ รวมทั้งพระเจ้าหลุยส์ที่ 12 และยังเป็นสถานที่นักบุญโจนส์ออฟอาร์ค เดินทางไปรับพรจากอาร์คบิช้อฟแห่งแรงส์ในปี ค.ศ.1429 ตัวพระราชวังตั้งอยู่ใจกลางเมืองบลัวส์ ประกอบไปด้วยสิ่งก่อสร้างและอาคารหลายหลังที่สร้างขึ้นระหว่างคริสต์ศตวรรษที่ 13-17 สมควรแก่เวลานำท่านเดินทางต่อสู่ เมืองตูร์ Tours เมืองใหญ่ที่สุดในลุ่มแม่น้ำลัวร์ และมีประวัติยาวนานตั้งแต่สมัยจักรวรรดิโรมันครั้งหนึ่งเคยถูกยกให้เป็นเมืองหลวงของฝรั่งเศสในสมัยของพระเจ้าหลุยส์ที่ 11 ปัจจุบันเป็นเมืองมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงทางด้านภาษา วรรณคดีและกฎหมาย (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง) นำท่านชมเมืองตูร์ ศูนย์กลางของดินแดนที่ได้รับสมญานามว่าอุทยานแห่งประเทศฝรั่งเศส ซึ่งได้มีการกล่าวชมไว้ ในหนังสือ The Lily of the Valley และเป็นเมืองหน้าด่านของการผ่านเข้าไปท่องเที่ยวปราสาทลุ่มแม่น้ำลัวร์ ซึ่งเป็นดินแดนที่มีความงามและความมั่งคั่งในหลายศตวรรษที่ผ่านมาในสมัยก่อนบริเวณนี้ เป็นที่ตั้งของราชสำนักฝรั่งเศส, ที่อยู่ของข้าราชบริพารและท่านเคานท์ผู้ต้องการจะก้าวขึ้นเป็นกษัตริย์ นำท่านผ่านชมเมืองโดยรอบ ผ่านชมความงดงามของ วิหารตูร์ Tours Cathedral หรือวิหารเซ้นต์แกไทน์ Saint-Gatien’s Cathedral คริสตจักรนิกายโรมันคาทอลิค ที่สร้างขึ้นเพื่ออุทิศให้กับนักบุญเซ้นต์แกไทน์ สร้างขึ้นในช่วงระหว่าง ค.ศ.1170-1547 โดยมีศิลปะแบบโกธิค ต่อมาวิหารตูร์ได้รับการประกาศให้เป็นอนุเสาวรีย์ทางประวัติศาสตร์ ในปี ค.ศ.1862 จากนั้นนำท่านเดินเล่นบริเวณเมืองเก่าหรือจัตุรัสพลูเมอโร Plumereau Square ศูนย์กลางทางการท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของเมืองตูร์ โดยจัตุรัสถูกโอบล้อมด้วยเหล่าอาคารบ้านเรือนยุคกลาง ส่วนใหญ่เป็นส่วนประกอบจากไม้ นอกจากนี้ยังมีร้านอาหารและคาเฟ่ตั้งเรียงรายสองฝั่ง จากนั้นชมโบสถ์เซ้นต์มาร์ติน Saint Martin Basilica โบสถ์ที่สร้างขึ้นเพื่ออุทิศให้แด่เซ้นต์มาร์ตินที่ถูกสร้างขึ้นในช่วงระหว่างปี ค.ศ.1886-1924 ในรูปแบบนีโอไบเซนไทน์ ออกแบบโดยสถาปนิกชื่อดังแห่งยุคกลาง Victor Laloux ต่อมาได้กลายเป็นอนุเสาวรรีย์ทางประวัติศาสตร์ในปี ค.ศ.1840
ค่ำ : รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารพื้นเมือง
จากนั้นนำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก Mercure Tours Centre Gare หรือระดับเทียบเท่า
เช้า : รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม
นำท่านเดินทางสู่ เมืองออร์ลีนส์ Orleans หรือเมืองออร์เลอ็อง เมืองในภาคเหนือของประเทศฝรั่งเศส หากจากมหานครปารีสประมาณ 120 กิโลเมตร (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.45 ชั่วโมง) เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำลัวร์จัดเป็นเมืองมรดกโลกอีกแห่งหนึ่งของฝรั่งเศส เป็นเมืองที่มีการพัฒนามาตั้งแต่สมัยโบราณจนถึงการแลกเปลี่ยนทางการค้า เป็นท่าเรือการค้าทางแม่น้ำที่สำคัญและเป็นที่ตั้งสำนักงานใหญ่ของชุมชนพ่อค้าที่แวะเวียนมาที่ลุ่มแม่น้ำลัวร์บ่อยครั้ง และมีบทบาทสำคัญในสงครามร้อยปีระหว่างอังกฤษและฝรั่งเศสหรือที่รู้จักกันโดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับบทบาทของโจนออฟอาร์ค วีรสตรีคนสำคัญแห่งประวัติศาสตร์ฝรั่งเศส นำท่านชมภายนอกของบ้านโจนออฟอาร์ค ในอดีตเคยเป็นที่พำนักของโจนออฟอาร์ค ต่อมาในปี ค.ศ.2012 ได้รับการปรับปรุงให้กลายมาเป้นพิพิธภัณฑ์บอกเล่าเรื่องราวต่างๆ ของวีรสตรีผู้นี้ ให้ท่านเข้าและถ่ายรูปกับโบสถ์เซ้นต์ครัวส์ Sainte-Croix ที่ได้รับการก่อสร้างแบบโกธิคและได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นอนุสรณ์สถานทางประวัติศาสตร์ เมื่อปี ค.ศ.1862 มีหอคอยระฆังที่ถูกเรียกชื่อตามโจนออฟอาร์คที่ยอดโบสถ์จะมีรูปปั้นของโจนออฟอาร์คอยู่ด้วย นำชมเขตเมืองเก่าที่ตั้งของศาลากลางของเมืองที่ก่อสร้างตามแบบสมัยเรอแนสซองส์และโกธิคและในช่วงการปฏิวัติฝรั่งเศสยังใช้เป็นที่รับรองคณะกรรมการ บุคคลสำคัญต่างๆ รวมไปถึงกษัตริย์ของฝรั่งเศสในอดีตด้วย ผ่านชมสะพานจอร์จที่ 5 George V-Bridge เป็นสะพานที่สร้างขึ้นเพื่อเป็นทั้งสะพาน ถนน และรถรางทอดข้ามแม่น้ำลัวร์ สะพานสร้างด้วยอิฐก่อโค้งระยะทาง 325 เมตร ออกแบบโดย Jean Hupeau ระหว่างปี ค.ศ.1751-1760 และสะพานนี้ได้ถูกเปลี่ยนชื่อเป็นจอร์จที่ 5 ในเวลาต่อมาเพื่อเป็นเกียรติแก่พระเจ้าจอร์จที่ 5 หลังสงครามโลกครั้งที่ 1
กลางวัน : รับประทานอาหารกลางวัน ณ. ภัตตาคารพื้นเมือง
บ่าย : นำท่านเดินทางสู่เมืองแวร์ซายส์ Versailles เมืองที่ตั้งของพระราชวังหรูหราชื่อดังของโลก ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของกรุงปารีส ซึ่งปัจจุบันเป็นส่วนหนึ่งของมหานครปารีส (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง) นำท่านเข้าชม พระราชวังแวร์ซายส์ Versailles Palace พระราชวังที่ยิ่งใหญ่และสวยงามแห่งหนึ่งของโลกและนับเป็นหนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคปัจจุบันด้วย เดิมนั้นแวร์ซายส์เป็นเพียงเมืองเล็กๆ แห่งหนึ่งเท่านั้น มีผู้คนอาศัยอยู่เบาบางบริเวณส่วนใหญ่เป็นป่าเขาเยี่ยงชนบทอื่นๆ ของฝรั่งเศส เมื่อพระเจ้าหลุยส์ที่ 13 แห่งฝรั่งเศสยังทรงพระเยาว์ ขณะพระชนมายุได้ 23 พระชันษา ทรงนิยมล่าสัตว์ในป่า และทรงเห็นว่าตำบลแวร์ซายส์น่าจะเหมาะแก่การประทับเพื่อล่าสัตว์ จึงโปรดเกล้าฯ ให้สร้างพระตำหนักสำหรับพักชั่วคราวเท่านั้น เมื่อพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 ขึ้นครองบัลลังก์ จึงมีพระประสงค์ที่จะสร้างพระราชวังแห่งใหม่ เพื่อเป็นศูนย์กลางในการปกครองของพระองค์ จึงเริ่มมีการปรับปรุงพระตำหนักเดิมในปี ค.ศ.1661 โดยใช้เงินทั้งหมด 5 แสนล้านฟรังค์ คนงานอีก 30,000 คนและใช้เวลาอยู่ถึง 30 ปีจึงแล้วเสร็จในปี ค.ศ.1688 ทุกส่วนทำด้วยหินอ่อนสีขาวเป็นแบบอย่างศิลปกรรมที่งดงามมาก การก่อสร้างพระราชวังแวร์ซายส์แห่งนี้ได้นำเงินมาจากค่าภาษีอากรของราษฎรชาวฝรั่งเศส ต่อมาจึงได้มีกองทัพประชาชนบุกเข้ายึดพระราชวังและจับพระเจ้าหลุยส์ที่ 16 แห่งฝรั่งเศส กับพระนางมารี อองตัวเนต ประหารด้วยกิโยติน ในวันที่ 16 ตุลาคม ค.ศ.1789 ปัจจุบันพระราชวังแวร์ซายส์ยังอยู่ในสภาพดีและเปิดให้ประชาชนเข้าชมได้ นำท่านชมภายในที่มีการแบ่งเป็นห้องต่างๆ อาทิ ห้องบรรทม ห้องเสวย ห้องสำราญ เป็นต้น ทุกห้องล้วนมีเครื่องประดับงดงามตระการตาและภาพเขียนที่มีชื่อเสียง อาทิ ห้องกระจก (Galerie des Glaces หรือ The Hall of Mirrors) เป็นห้องที่มีชื่อเสียงมากที่สุดซึ่งเคยใช้เป็น ห้องลงนามในสัญญาสงบศึกระหว่างสัมพันธมิตรกับจักรวรรดิเยอรมัน ในสงครามโลกครั้งที่ 1 และใช้เป็นที่ลงนาม ในเมื่อเยอรมนีบุกตีชนะฝรั่งเศสในสงครามโลกครั้งที่ 2 อีกด้วย ห้องนี้พระเจ้าหลุยส์ที่ 14 ทรงทำการก่อสร้างเอง ภายในห้องประกอบด้วยกระจกยักษ์ 17 บาน เปิดออกแล้วจะเห็นสวนแวร์ซายส์อันสวยงาม ในพระราชวังแวร์ซายส์มีห้องทั้งหมด 700 ห้อง รวมภาพวาดทั้งหมด 6,123 ภาพและงานแกะสลักทั้งหมด 15,034 ชิ้น พร้อมฟังบรรยายจากมัคคุเทศก์ทั้งในส่วนของกษัตริย์และพระราชินีรวมทั้งห้องโถงกระจกที่ทูตจากสยามได้เคยเข้าเฝ้าพระเจ้าหลุยส์ที่14 ให้เวลาท่านเดินเล่นบริเวณอุทยาน
ค่ำ : รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารจีน
จากนั้นนำท่านเดินทางเข้าสู่มหานครปารีส เมืองแห่งแฟชั่นและความโรแมนติค ศูนย์กลางทางเศรษฐกิจและวัฒนธรรมที่ล้ำสมัยแห่งหนึ่งของโลก (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง)
นำท่านเข้าสู่ที่พัก Mercure Paris Saint Ouen หรือระดับเทียบเท่า
เช้า : รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม
นำท่านเดินทางสู่ ย่านมองมาร์ต Montmarte ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของนครปารีสและเป็นจุดที่สูงที่สุดของเมืองและเป็นย่านแห่งศิลปะอีกด้วย (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 20 นาที) ซึ่งเป็นที่ตั้งของ โบสถ์ซาเครเกอร์ Sacre-Coeur หัวใจอันศักดิ์สิทธิ์แห่งปารีส จุดชมวิวยอดนิยมที่อยู่ไม่ไกลจากกรุงปารีส โบสถ์แห่งนี้สร้างขึ้นบนเนินเขามงต์มาร์ตสูงจากระดับน้ำทะเล 129 เมตร เนินเขาแห่งเดียวในกรุงปารีส เพื่อเป็นอนุสรณ์สถานที่อุทิศแด่ชาวฝรั่งเศสที่เสียชีวิตจากสงครามกับปเยอรมันในช่วงปี ค.ศ.1870-1871 และเพื่ออุทิศแก่พระหฤทัยของพระเยซู โดยออกแบบตามศิลปะสไตล์โรมัน-ไบเซนไทน์ โดยโปล อะบาดี สถาปนิกชาวฝรั่งเศสที่เป็น 1 ใน 77 สถาปนิกผู้ชนะการประกวด ปัจจุบันยังเป็นโบสถ์และมหาวิหารรองในคริสตจักรโรมันคาทอลิก ให้ท่านนั่งกระเช้า Funicular ขึ้นสู่โบสถ์ด้านบน จากด้านบนของเนินเขาสามารถมองเห็นทัศนียภาพของปารีสได้อย่างชัดเจนรวมถึงวิวของหอไอเฟิลที่สวยงาม นำท่านเข้าชมภายในได้ ชมการตกแต่งด้วยกระจกสีสวยงามและโมเสกขนาดใหญ่ที่ใช่ระยะเวลาในการจัดทำกว่า 10 ปี จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ย่านเซอร์ริส Serris ย่านชานเมืองของปารีสมความโดดเด่นที่เซอร์ริสถือเป็นปอดธรรมชาติของเมืองและเป็นที่ตั้งของเอ๊าท์เล็ตที่มีชื่อของฝรั่งเศส (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง) นำท่านเดินทางสู่ La Vallee Village พรีเมี่ยมเอ๊าท์เล็ตขนาดใหญ่ ให้ท่านมีเวลาเลือกซื้อสินค้าแบรนด์เนมจำนวนกว่า 100 ร้านค้า อาทิ Armani, Balenciaga, Boss, Bottega Veneta, Burberry, Calvin Klein, Celine, Clarins, Coach, DIESEL, Dolce&Gabbana, Furla, Gucci, Givenchy, L’Occitane, Levi’s, Longchamp, Longines, Michael Kors, Paul Smith, Marc Jacobs, Rado, Prada, Polo Ralph Lauren, Salvatore Ferragamo, Valentino เป็นต้น และยังท่านพักผ่อนกับร้านอาหารและของหวานอีกหลากหลายจากภายในเอ๊าท์เล็ต อาทิเช่น Menu Palais, Pret A Manger, Creperie Marguerite หรือสายหวาน เช่น LeChocolate Alain Ducasse, Amorino, ร้านมาการ็องชื่อดัง Laduree, Pierre Herme Paris เป็นต้น **เพื่อความสะดวกในการเลือกซื้อสินค้า และการพักผ่อน อิสระอาหารกลางวันตามอัธยาศัยภายในเอ๊าท์เล็ต**
บ่าย : สมควรแก่เวลานัดหมายนำท่านเดินทางกลับเข้าสู่ นครปารีส (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 50 นาที) นำท่านถ่ายรูปกับ Parc du Champ de Mars สวนสาธารณะแบบเปิดโล่งขนาดใหญ่ในกรุงปารีส ที่เริ่มก่อสร้างในปี ค.ศ.1765 ออกแบบโดยอ็อง ชัก กาบรีแยล ใกล้กับหอไอเฟล โดยตั้งชื่อตามกัมปุมาร์ติอุส (ลานเทพสงคราม) ในกรุงโรมเพื่อเป็นเกียรติแก่เทพมาร์ส ซึ่งเป็นเทพแห่งสงครามของโรมัน และสวนนี้เคยถูกใช้เป็นลานสวนสนามของกองทัพฝรั่งเศสในอดีต รวมถึงเป็นสถานที่เกิดการสังหารหมู่เมื่อครั้งที่เกิดการชุมนุมกันเพื่อเรียกร้องให้พระเจ้าหลุยส์ที่ 16 ลงจากราชบัลลังก์ จากนั้นนำท่านสู่ท่าเรือเพื่อนำท่าน ล่องเรือบาโตมุช ในแม่น้ำแซน แม่น้ำสายหลักของนครปารีส ชมทัศนียภาพสองฟากฝั่งและสถาปัตยกรรมอันงดงามของอาคารสวยงามต่างๆ จากนั้นมีเวลาให้ท่านเลือกซื้อสินค้าแบรนด์เนมจากร้านค้าปลอดภาษี ที่ราคาสินค้าย่อมเยากว่าข้างนอกมีส่วนลดพิเศษให้เฉพาะนักท่องเที่ยวเท่านั้น เพื่อให้ได้เลือกซื้อสินค้าปลอดภาษีในราคาถูก อาทิเช่น เครื่องสำอาง, น้ำหอม, เครื่องประดับ, กระเป๋าหนังและเครื่องหนังอื่นๆ มากมาย รวมทั้งเสื้อผ้าแบรนด์เนมจากฝรั่งเศส เชิญท่านช้อปปิ้งจุใจกับสินค้าปลอดภาษีคุณภาพเยี่ยม จากร้านค้าดิวตี้ฟรีชื่อดังของปารีส
ค่ำ : รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารพื้นเมือง พิเศษ!! ด้วยเมนูหอยเอสคาโก เมนูดังและเป็นเอกลักษณ์ของฝรั่งเศส
จากนั้นนำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก Mercure Paris Saint Ouen หรือระดับเทียบเท่า
เช้า : รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม
นำท่านเดินทางสู่ เมืองจิแวร์นี Giverny (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.30 ชั่วโมง) เป็นเมืองอันเป็นที่ตั้งของหมู่บ้านเล็กๆ และหนึ่งในเจ้าของบ้านเล็กๆ นั้นคือ บ้านโมเน่ต์ Claude Monet ศิลปินอิมเพรสชั่นนิสม์ที่โด่งดัง ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำแซงค์ในเขตนอร์มังดี นำท่านเข้าชมบ้านสองชั้นที่ปกคลุมไปด้วยพืชพรรณไม้นานาชนิดที่ถือว่ามีบรรยากาศและทิวทัศน์ที่งดงาม ประกอบไปด้วยห้องและเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ ภายในบ้านยังคงสภาพเดิม ห้องนั่งเล่น, ห้องนอนและห้องครัวขนาดใหญ่พร้อมอุปกรณ์ทำครัวครบครัน เสมือนเมื่อครั้งโมเน่ต์ยังมีชีวิตอยู่ ไฮไลท์ของบ้านคือ สวนสวย 2 แห่งที่อยู่ในที่เดียวกัน สวนไม้ดอกคลาสสิคสไตล์ฝรั่งเศส “คลอส นอร์แมนด์” Clos Normand และสวนไม้น้ำ ขึ้นมาคู่กับสวนไม้ดอก เหมือนกับโมเน่ต์ได้ตวัดปลายพู่กันลงบนผ้าใบ กลางสวนไม้น้ำมีสระบัวที่เป็นต้นกำเนิดของภาพเขียนชุดอันเลื่องชื่อ “Water Lilies” เงาสะท้อนบนพื้นน้ำในสระบัวเป็นสิ่งที่โมเน่ต์ชื่นชอบ ให้ท่านเดินเล่นบริเวณสวนสวยแห่งนี้ (ไม่รวมค่าเข้าพิพิธภัณฑ์) สมควรแก่เวลานำท่านเดินทางกลับสู่ ปารีส (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.30 ชั่วโมง)
กลางวัน : รับประทานอาหารกลางวัน ณ. ภัตตาคารจีน
บ่าย : นำท่านชมมหานครปารีส นครหลวงแห่งแฟชั่นชั้นนำของโลกนำท่านชมโดยรอบเริ่มจากเก็บภาพสวยของหอคอยไอเฟิลบริเวณหน้าโรงเรียนการทหารหรือจัตุรัสทรอคาเดโร, ผ่านชมประตูชัยแห่งจักรพรรดินโปเลียน ณ.จัตุรัสชาร์ลสเดอโกลล์, ถนนชองเอลิเซ่ย่านหรูหราราคาแพงที่โด่งดัง จัตุรัสคองคอร์ตที่ออกแบบโดยเลอโนตร สถาปนิกผู้ริเริ่มสร้างเมืองแวร์ซายส์ให้พระเจ้าหลุยส์ที่ 14 ที่ชวนให้ระลึกถึงการปฏิวัติใหญ่ฝรั่งเศส ซึ่งเป็นที่ตั้งของเสาหินโอเบลิสจากวิหารลักซอร์ในอียิปต์, โดมอินวาลิด สถานที่เก็บพระศพจักรพรรดินโปเลียน เป็นต้น ให้ท่านถ่ายรูปภายนอกกับพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ พิพิธภัณฑ์ทางศิลปะตั้งอยู่ในกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์เป็นพิพิธภัณฑ์ที่มีชื่อเสียงที่สุด เก่าแก่ที่สุดและใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ได้รับการออกแบบจากสถาปนิกชาวจีน-อเมริกัน ซึ่งได้เปิดให้สาธารณะชนเข้าชมได้เมื่อปี ค.ศ.1793 มีประวัติความเป็นมายาวนานตั้งแต่สมัยราชวงศ์กาเปเซียง ตัวอาคารเดิมเคยเป็นพระราชวังหลวง ซึ่งปัจจุบันเป็นสถานที่ที่จัดแสดงและเก็บรักษาผลงานทางศิลปะที่ทรงคุณค่าระดับโลกเป็นจำนวนมาก อย่างเช่น ภาพเขียนโมนาลิซา ผลงานของเลโอนาร์โดดาวินชี หรือภาพ Venus de Milo ของอเล็กซานดรอสแห่งแอนทีออก ในปี ค.ศ.2006 ซึ่งพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์มีผู้มาเยี่ยมชมเป็นจำนวน 8.3 ล้านคน ทำให้เป็นพิพิธภัณฑ์ที่มีผู้มาเยี่ยมชมมากที่สุดในโลกและยังเป็นสถานที่ที่มีนักท่องเที่ยวมาเยือนมากที่สุดในกรุงปารีส จากนั้นนำท่านเลือกซื้อสินค้าแบรนด์เนมหลากหลายคอลเล็คชั่นใหม่ๆ จากห้างสรรพสินค้า La Samaritaine Paris ห้างใหญ่ใจกลางกรุงปารีสใกล้สถานีรถไฟ Pont Neuf ที่ขยายจากร้านเสื้อผ้าเล็กๆ สู่อาคารห้างสรรพสินค้าที่มีแผนกต่างๆ กว่า 90 แผนก ตกแต่งอย่างหรูหราสวยงาม และยังใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำซีรี่เรื่องดัง Emily in Paris ซึ่งออกอากาศทาง Netflix
ค่ำ : รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารไทย พิเศษ!! ด้วยเมนูอาหารไทยของร้าน Bien Bien ร้านอาหารไทยยอดนิยมในนครปารีส
จากนั้นนำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก Mercure Paris Saint Ouen หรือระดับเทียบเท่า
เช้า : รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรมหรืออาหารเช้าแบบกล่อง
06.30 น. : ให้ท่านเช็คเอ๊าท์จากที่พักเตรียมตัวเดินทางสู่สนามบินชาร์ลเดอโกลล์ และมีเวลาให้ท่านทำคืนภาษี Vat Refund ที่สนามบิน
10.30 น. : ออกเดินทางจากสนามบินชาร์ลสเดอโกลล์ โดยสายการบิน Etihad Airways เที่ยวบินที่ EY032
19.00 น. : เดินทางถึงสนามบินอาบูดาบี ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ จากนั้นให้ท่านแวะเปลี่ยนเครื่อง
22.35 น. : ออกเดินทางจากสนามบินอาบูดาบี โดยสายการบิน Etihad Airways เที่ยวบินที่ EY402
08.05 น. : เดินทางกลับถึงสนามบินสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพ…
**กรณีท่านที่เดินทางต่อไปต่างประเทศหรือไปต่างจังหวัดกรุณาตรวจสอบเวลาการเดินทางแต่ละกำหนดการเดินทางอีกครั้งก่อนทำการจองตั๋วโดยสารส่วนตัวของท่าน เนื่องจากรายการทัวร์เป็นรายการซีรี่และได้มีการดำเนินการไว้ล่วงหน้าหลายเดือน เมื่อเปลี่ยนฤดูกาล เวลาการเดินทางอาจมีการปรับเปลี่ยนตามฤดูกาลเล็กน้อย*
รายการทัวร์อาจมีการเปลี่ยนแปลงไปตามความเหมาะสมหรือสภาพอากาศ หรือมีเหตุการณ์อื่นๆ ที่ไม่คาดคิดหรือมีผลกับการเดินทางและรายการทัวร์ หรือสถานที่ใดที่ไม่สามารถเข้าชมได้ด้วยสาเหตุต่างๆ หรือสถานที่ปิดโดยมิได้รับแจ้งให้ทราบล่วงหน้า บริษัทฯ ขออนุญาตทำการเปลี่ยนแปลงสถานที่อื่นๆ ทดแทนให้ ทั้งนี้เพื่อประโยชน์ของคณะเป็นสำคัญ
หมายเหตุ
การชำระเงิน
ทางบริษัทฯ จะขอเก็บเงินค่ามัดจำเป็นจำนวน 40,000 บาทต่อผู้โดยสารหนึ่งท่าน สำหรับการจองทัวร์ โดยเรียกเก็บทันทีหลังจากการจองทัวร์ ส่วนที่เหลือจะขอเก็บทั้งหมดก่อนเดินทางอย่างน้อย 21 วันทำการ มิฉะนั้นทางบริษัทฯ จะขอสงวนสิทธิ์ในการคืนเงินค่ามัดจำทั้งหมด
การยกเลิก
ข้อมูลเพิ่มเติมเรื่องโรงแรมที่พัก
เงื่อนไขน่ารู้สำหรับผู้เดินทางเข้าประเทศฝรั่งเศสเกี่ยวกับโควิด19
– ผู้เดินทางสามารถเดินทางเข้าได้โดยไม่ต้องแสดงผลตรวจโควิด19 แต่จะต้องเป็นผู้ได้รับวัคซีนแล้วเท่านั้น
– ผู้เดินทางเข้าฝรั่งเศสจะได้ต้องรับวัคซีนโควิด19 อาทิ ซิโนแวค, ซิโนฟาร์ม, แอสเตร้าซิเนก้า, ไฟลเซอร์, จอห์นสันแอนด์จอห์นสันและโมเดอน่า ครบโดส สำหรับท่านที่ได้รับวัคซีนครบโดสแล้ว มีความจำเป็นที่จะได้รับวัคซีนเข็มกระตุ้นที่เป็น MRNA เข็มสุดท้ายไม่เกินระยะเวลา 270 วัน
– เมื่อเดินทางถึงฝรั่งเศส ดาวน์โหลด Application TousAntiCovid เพื่อใช้ในการติดตามการท่องเที่ยวและการพักอาศัยรวมถึงการเข้าใช้บริการร้านค้า ร้านอาหารต่างๆ
หมายเหตุ
เอกสารในการขอยื่นวีซ่าเชงเก้น (ฝรั่งเศส) ใช้เวลาพิจารณาโดยรวม 15 วัน
– ผู้ยื่นคำร้องต้องแสดงตัวและสแกนนิ้วมือ ณ วันนัดหมายยื่นคำร้องที่ศูนย์ยื่น
– วัน/เวลานัดหมายเป็นไปตามกฎของสถานทูตและศูนย์ยื่น
– รูปถ่ายหากไม่ได้มาตรฐาน ต้องทำการถ่ายใหม่ที่ศูนย์ยื่น โดยผู้ยื่นคำร้องต้องชำระเงินค่าถ่ายรูปด้วยตนเอง
– การถ่ายสำเนาเอกสารใดๆ ผู้ยื่นคำร้องชำระเงินด้วยตนเอง
– ผู้ยื่นคำร้อง กรุณาส่งสำเนาหน้าหนังสือเดินทางที่เป็นปัจจุบันที่สุด พร้อมกรอกข้อมูลเบื้องต้นสำหรับเพื่อใช้ในการทำนัดหมายกรุณากรอกข้อมูลตามความเป็นจริง พร้อมเบอร์โทร.ที่สามารถติดต่อได้ ไม่ควรใช้เบอร์โทร.ผู้แทน ยกเว้น ผู้ยื่นคำร้องสูงอายุมากๆ หรือเด็กเล็กมากๆ
– เอกสารต้นฉบับที่เป็นภาษาไทย อาทิ สำเนาหนังสือรับรองบริษัท / กิจการร้านค้า, สำเนาทะเบียนบ้าน (กรณีเด็ก), สำเนาสูติบัตร (กรณีผู้ที่อายุต่ำกว่า 20 ปี), สำเนาทะเบียนสมรส, สำเนาทะเบียนหย่า, สำเนาใบเปลี่ยนชื่อ, สำเนาใบเปลี่ยนนามสกุลจะต้องถูกแปลเป็นภาษาอังกฤษ ทั้งนี้ทางบริษัทฯ จะบริการท่าน ยกเว้น สำเนาหนังสือสัญญาซื้อขาย/สัญญากู้/สัญญาอาชีพพิเศษที่มีเนื้อหาระบุเจาะจง กรุณาใช้บริการศูนย์การแปลภาษาอังกฤษ เพื่อหลีกเลี่ยงความผิดพลาดในด้านงานแปล ค่าใช้จ่าย ผู้ยื่นคำร้องจะต้องชำระด้วยตนเอง
หนังสือรับรองการทำงาน หรือเอกสารบ่งชี้การมีอาชีพและมีรายได้ของผู้เดินทาง
** สำเนาสลิปเงินเดือน ถ่ายสำเนาย้อนหลังไม่ต่ำกว่า 3 เดือน พร้อมฉบับแปลเป็นภาษาอังกฤษ **
** สำเนาสลิปเงินเดือน ถ่ายสำเนาย้อนหลังไม่ต่ำกว่า 3 เดือน พร้อมฉบับแปลเป็นภาษาอังกฤษ **
** กรณีที่ไม่มีสำเนาสลิปเงินเดือน หรือทำงานแบบไม่มีสลิป ให้ทำจดหมายชี้แจงมาเป็นภาษาอังกฤษ ชี้แจงโดยละเอียด เช่น รับเงินเดือน โดยเป็นเงินสด หรือวิธิอื่นแล้วแต่กรณี **
– สำเนาสมุดบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ส่วนตัว ถ่ายสำเนาทุกหน้าย้อนหลัง 6 เดือน และปรับสมุดอัพเดทถึงเดือนปัจจุบันที่สุดเท่าที่จะทำได้หรือไม่ต่ำกว่า 15 วันนับจากวันนัดหมายยื่นวีซ่า พร้อมสำเนาหน้าบัญชีหน้าแรกที่มีชื่อเจ้าของบัญชี
– หากสมุดบัญชีธนาคารใดที่ ไม่มีเลขที่เล่มกำกับทุกหน้ารายการต้องขอสเตทเม้นท์จากธนาคารย้อนหลัง 6 เดือนพร้อมประทับตราจากธนาคารเท่านั้นและปรับยอดให้เป็นปัจจุบันไม่ต่ำกว่า 15 วัน นับจากวันนัดหมายยื่นวีซ่า
– หากรายการปรับสมุดบัญชีของท่านมีบางเดือนหายไป ขอให้ออกเป็น statement จากธนาคารย้อนหลังไม่ต่ำกว่า 6 เดือนและปรับยอดให้ล่าสุด ไม่ต่ำกว่า 15 วันนับจากวันนัดหมายยื่นวีซ่า แต่หากใช้ statement แล้วยังคงไม่มีการเคลื่อนไหวทุกเดือน ขอให้ทำหนังสือหรือจดหมายเป็นลายลักษณ์อักษรชี้แจงเป็นภาษาอังกฤษ ตามความเป็นจริง อาทิ ไม่มีการเคลื่อนไหวเนื่องจากไม่ได้ติดต่อธนาคารเป็นระยะเวลานานหรือเหตุผลอื่นๆ ตามแต่ละบุคคล เป็นต้น
– หากมีการต่อเล่มจากสมุดเล่มเก่า กรุณาถ่ายสำเนาหน้าแรกที่มีชื่อเจ้าของบัญชีของเล่มเก่าที่ต่อ พร้อมกับตัวเลขบัญชีเงินฝากเป็นปัจจุบัน
– กรณีมีเงินฝากในบัญชีน้อยเกินไปใน 1 เล่ม กรุณาแสดงสำเนาสมุดบัญชีเล่มอื่นแนบด้วย อาทิ เช่น บัญชีเงินฝากประจำ เป็นต้น
– กรณีที่เดินทางเป็นครอบครัว หากใช้บัญชีใดบัญชีหนึ่งในการยื่นขอวีซ่า ต้องออกหนังสือรับรองค่าใช้จ่ายให้บุคคลในครอบครัวด้วย แต่อย่างไรก็ตาม โดยเฉพาะคู่สามี-ภรรยา จะต้องมีสำเนาสมุดบัญชีการเงินส่วนตัวประกอบด้วยแม้ว่าจะจดทะเบียนสมรสแล้วก็ตาม หากมีการเงินในบัญชีน้อย ฝ่ายที่มีการเงินมากกว่าจะต้องทำจดหมายรับรองการเงินพร้อมระบุชื่อและความสัมพันธ์ชี้แจงต่อสถานทูตเป็นลายลักษณ์อักษรด้วย
*** สถานทูตไม่รับบัญชีกระแสรายวันทุกกรณี *** ทั้งนี้เพื่อแสดงให้เห็นว่ามีฐานะทางการเงินเพียงพอที่จะครอบคลุมกับค่าใช้จ่ายได้อย่างไม่เดือดร้อนเมื่อกลับสู่ภูมิลำเนา
*** การบิดเบือนข้อเท็จจริงประการใดก็ตามอาจจะถูกระงับมิให้เดินทางเข้าประเทศในกลุ่มเชงเก้นเป็นการถาวร และถึงแม้ว่าท่านจะถูกปฏิเสธวีซ่า สถานทูตไม่คืนค่าธรรมเนียมที่ได้ชำระไปแล้วและหากต้องการขอยื่นคำร้องใหม่ก็ต้องชำระค่าธรรมเนียมใหม่ทุกครั้ง
*** หากสถานทูตมีการสุ่มเรียกสัมภาษณ์บางท่าน ทางบริษัท ขอความร่วมมือในการเชิญท่านไปสัมภาษณ์ตามนัดหมายและโปรดแต่งกายสุภาพ ทั้งนี้ทางบริษัทฯ จะส่งเจ้าหน้าที่ไปอำนวยความสะดวกและประสานงานตลอดเวลาและหากสถานทูตขอเอกสารเพิ่มเติม ทางบริษัทฯใคร่ขอรบกวนท่านจัดส่งเอกสารดังกล่าวเช่นกัน
*** กรณีที่ท่านยกเลิกการเดินทางภายหลังจากการได้วีซ่าแล้ว ทางบริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการแจ้งสถานทูต ยกเลิกวีซ่าของท่าน เนื่องจากการขอวีซ่าในแต่ละประเทศจะถูกบันทึกไว้เป็นสถิติในนามของบริษัทฯ
*** เมื่อท่านได้ชำระเงินค่ามัดจำหรือทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นการชำระผ่านตัวแทนของบริษัทฯ หรือชำระโดยตรงกับทางบริษัทฯ จะขอถือว่าท่านรับทราบและยอมรับในเงื่อนไขต่าง ๆ ของบริษัทฯที่ได้ระบุไว้โดยทั้งหมด
** กรณีมีการขอใช้หนังสือเดินทางในระหว่างการยื่นวีซ่า ท่านต้องแจ้งความจำนงแก่บริษัททัวร์ให้ทราบล่วงหน้า แต่หากกรณีท่านที่ต้องใช้หนังสือเดินทางก่อนกำหนดวันยื่นวีซ่าและท่านไม่สามารถนำหนังสือเดินทางมาแสดงได้ทัน ท่านนั้นจะต้องมายื่นเดี่ยวและแสดงตัวที่สถานทูตตามกำหนดการของสถานทูตเช่นเดียวกัน **
*** ทางสถานทูตจะรับพิจารณาเฉพาะท่านที่มีเอกสารพร้อมและมีความประสงค์ที่จะเดินทางไปท่องเที่ยวยังประเทศตามที่ระบุเท่านั้น การปฏิเสธวีซ่าอันเนื่องมาจากหลักฐานในการขอยื่นวีซ่าปลอมหรือผิดวัตถุประสงค์ในการยื่นขอวีซ่าท่องเที่ยว ทางบริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการคืนเงิน โดยจะหักค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริงและจะคืนให้ท่านหลังจากทัวร์ออกเดินทางภายใน 20 วัน โปรแกรมการเดินทางอาจเปลี่ยนแปลงได้ตามความเหมาะสม ทั้งนี้จะคำนึงถึงประโยชน์และความปลอดภัยของผู้เดินทางเป็นหลัก
Error: Contact form not found.
Error: Contact form not found.
Error: Contact form not found.
Error: Contact form not found.
Error: Contact form not found.
Error: Contact form not found.