กัสโต้ เวิล์ด ทัวร์

บริการคุณภาพ ทุกเส้นทางท่องเที่ยว

เลขที่ 11/03295

ทัวร์ปากีสถาน แกรนด์ปากีสถาน ใบไม้เปลี่ยนสี

ทัวร์ปากีสถาน
รหัส 059-1128
วันที่เดินทาง
ต.ค.65
ช่วงเวลา
11 วัน 9 คืน
ราคาเริ่มต้น
95,000 บาท
แผนการเดินทาง
วันที่ 1
กรุงเทพ – การาจี (พักค้าง 2 คืน)

16.00 น. : คณะพบเจ้าหน้าที่และหัวหน้าทัวร์ เคาน์เตอร์เช็คอิน เคาน์เตอร์ สายการบินไทย (TG) อาคารผู้โดยสารขาออก ณ สนามบินสุวรรณภูมิ สัมภาระน้ำหนัก 23 กก. สำหรับโหลด (ท่านละ 1 ใบ)  และ ถือขึ้นเครื่องไม่เกิน 7 กก.   หมายเหตุ : ท่านต้องแสดงหลักฐานได้รับวัคซีน Covid 19 ครบ 2 เข็ม ขณะเช็คอิน

19.35 น. : ออกเดินทางสู่นครการาจี ประเทศปากีสถานโดยสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG341  (ใช้เวลาบินประมาณ 5 ชั่วโมง) สายการบินฯ มีบริการ อาหารค่ำ ระหว่างเที่ยวบิน

22.35 น. : เดินทางถึงสนามบินการาจี นำท่านผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก

นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พักระดับ 5 ดาว PC Continental Hotel Karachi*****  หรือเทียบเท่า (คืนที่ 1)

วันที่ 2
การาจี - พระราชวังโมฮัตตา – สุสานสถานชาค์คันดิ - มัสยิดทูบา – ตลาด Empress

เช้า : รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม

นำท่านเข้าชมพระราชวังโมฮัตตา (Mohatta Palace) เป็นวังหรูหราที่สร้างขึ้นในช่วงปลายทศวรรษ 1920 วังอันสง่างามนี้สร้างขึ้นในระดับต่างๆ และเป็นบ้านพักฤดูร้อนสำหรับครอบครัว Mohatta เป็นเวลาสองทศวรรษก่อนที่พวกเขาจะออกเดินทางไปอินเดียในปี 1947 ปัจจุบันเป็นพิพิธภัณฑ์ที่สำคัญอีกแห่งของกรุงการาจี ที่ยังคงอนุรักษ์ได้อย่างดีเยี่ยม

ได้เวลานำท่านเข้าชมพิพิธภัณฑ์บ้านคูอิด อิ อาซัม (Quaid e Azam) ซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์บ้านที่สามารถอนุรักษ์ไว้ได้เป็นอย่างดีอีกแห่งของการาจี เป็นพิพิธภัณฑ์ที่สะท้อนให้เห็นถึงการดำเนินชีวิตของมูฮัมหมัด อาลี จินนาห์ ผู้ก่อตั้งประเทศปากีสถาน นับเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าเยือนมากในกรุงการาจี

กลางวัน : รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (Western Style)

บ่าย : นำท่านเยือนสุสานชาค์คันดิ (Chaukandi Tombs) สุสานโบราณที่ได้รับการคัดเลือกเป็นมรดกโลก UNESCO World Heritage ในปี 2017 สร้างขึ้นโดยหินทรายช่วงศตวรรษที่ 15-17 สร้างขึ้นในรูปแบบสถาปัตยกรรมแบบสินธุตอนล่าง นับเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวโบราณที่สวยงามใกล้กรุงการาจี ได้เวลานำท่านเข้าชมมัสยิดทูบา (Tooba Masjid) มัสยิดที่มีการออกแบบก่อสร้างเป็นโดมขนาดใหญ่ และได้รับการบันทึกว่าเป็นมัสยิดที่มีโดมขนาดใหญ่ที่สุดโดยไม่มีเสาค้ำกลางโดม และ ในปี 2018 ได้รับการบันทึกว่าเป็นมัสยิดที่ใหญ่เป็นอันดับ 18 ของโลกอีกด้วย มัสยิดแห่งนี้สร้างขึ้นในปี 1966-1969 สมควรแก่เวลานำท่านเดินเล่นบริเวณ Empress Market สร้างขึ้นระหว่างปี 1884 – 1889 เพื่อเป็นเกียรติแก่พระราชินีวิคตอเรีย แห่งอังกฤษ

ค่ำ : รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร

นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พักระดับ 5 ดาว PC Continental Hotel Karachi*****  หรือเทียบเท่า (คืนที่ 2)

วันที่ 3
อาคารฮินดูจิมกายา - บินภายในสู่อิสลามาบัด (พักค้าง 2 คืน)

เช้า : รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม

นำท่านเที่ยวชมอาคารฮินดู จิมกายา (Hindu Gymkhana) เป็นอาคารยุคอาณานิคมที่ตั้งอยู่บนถนน Sarwar Shaheed ในเมืองการาจี เป็นอาคารสาธารณะแห่งแรกในการาจีที่ใช้รูปแบบสถาปัตยกรรมยุคฟื้นฟูโมกุล ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 1925 โดยชาวฮินดูในการาจี เพื่อเป็นสโมสรเฉพาะสำหรับชุมชนของชาวฮินดู และยังคงเป็นที่ตั้งของสถาบันศิลปะการแสดงแห่งชาติปากีสถาน เป็นหมู่อาคารโคโลเนียลที่สวยงามอีกแห่งของการาจี

11.00 น. : นำท่านเดินทางสู่สนามบินการาจีกลางวัน : อิสระอาหารกลางวันภายในสนามบินการาจี

13.00 น. : ออกเดินทางจากสนามบินการาจีสู่สนามบินอิสลามาบัด (ใช้เวลาบินประมาณ 1.55 ชั่วโมง)

14.55 น. : เดินทางถึงสนามบินอิสลามาบัด

นำท่านเดินทางเข้าชมมัสยิดไฟซาล (Faisal Mosque) (กรุณาแต่งกายสุภาพ ผู้หญิงเตรียมผ้าคลุมผมไปด้วย) มัสยิดแห่งนี้เปิดใช้อย่างเป็นทางการเมื่อปี ค.ศ. 1987 สร้างโดยกษัตริย์ซาอุดิอาระเบีย King Faisal จึงนำพระนามของพระองค์ใช้เป็นชื่อมัสยิดแห่งนี้ ออกแบบโดยสถาปนิกชาวตุรกี ให้มีลักษณะคล้ายทรงเต็นท์ 8 เหลี่ยมของชาวเบดูอิน ซึ่งมาถึงบริเวณนี้เป็นพวกแรก มัสยิดไฟซาลสามารถจุคนได้ถึง 100,000 คน และบริเวณรอบนอกจุได้อีกกว่า 200,000 คน และมีเสามินาเรท (หอขาน) 4 ต้น ขนาบสี่มุม สูงต้นละ 79 เมตร นับเป็นมัสยิดที่ใหญ่และสวยงามประจำกรุงอิสลามาบัด ได้เวลานำท่านเดินทางสู่อนุสาวรีย์ปากีสถาน (Pakistan Monument) เป็นอนุสาวรีย์แห่งชาติและพิพิธภัณฑ์แห่งชาติ ตั้งอยู่บริเวณเนินเขาชาการ์ปาเรียนทางตะวันตก สร้างขึ้นเพื่อเป็นสัญลักษณ์ของความสามัคคีของชาวปากีสถาน ออกแบบสร้างให้เหมือนรูปกลีบดอกไม้สี่กลีบ สร้างขึ้นจากหินแกรนิต โดยแต่ละกลีบนั้นเป็นตัวแทนแคว้นสำคัญของปากีสถานทั้ง 4 แห่งได้แก่ แคว้นบาลูจิสถาน, แคว้นสินธ์, แคว้นปัญจาบ และแคว้นไคเบอร์ปัคตูนควา โดยแต่ละกลีบจะมีภาพแกะสลักของ สถานที่สำคัญของประเทศทั้ง 4 แห่ง ได้แก่ มัสยิดแบดชาฮิ, ป้อมเมืองลาฮอร์, ช่องเขาไคเบอร์ และมินาร์ เอ ปากีสถาน ในใจกลางของอนุสาวรีย์จะมีประติมากรรมรูปสามเหลี่ยมที่มีฐานเป็นดาวห้าแฉก ล้อมรอบไปด้วยน้ำ ที่แสดงถึงบุคคลสำคัญอย่าง มูฮัมหมัด อาลี จินนาห์ บิดาแห่งปากีสถานและมูฮัมมัด อิกบาล กวีและนักปรัชญาที่มีชื่อเสียงแห่งปากีสถาน ซึ่งดวงดาวและพระจันทร์ยังเป็นสัญลักษณ์ของศาสนาอิสลาม อิสระให้ท่านได้ถ่ายรูปและเก็บภาพตามอัธยาศัย

ค่ำ : รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารไทย

นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พักระดับ 5 ดาว PC Continental Hotel Islamabad*****  หรือเทียบเท่า (คืนที่ 1)

วันที่ 4
อิสลามาบัด - ตักศิลา (เมืองมรดกโลก)

เช้า : รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม

นำท่านเดินทางสู่เมืองตักศิลา (Taxila) (ระยะทาง 34 ก.ม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง) ตั้งอยู่ในรัฐปันจาบของปากีสถาน ปัจจุบันเหลือเพียงร่องรอยทางประวัติศาสตร์ที่สะท้อนให้เห็นถึงความเจริญรุ่งเรืองในอดีต นำท่านชมสถานที่สำคัญ อาทิเช่น พิพิธภัณฑ์ โบสถ์และเจดีย์ ที่มีอยู่เป็นจำนวนมาก ทำให้องค์กรยูเนสโกได้ประกาศให้เป็นมรดกโลกในปี 1980 เมืองตักศิลานี้ยังมีชื่อเสียงในการที่เป็นศูนย์กลางของการเรียนรู้ศิลปะแบบคานธีรา ประติมากรรม สถาปัตยกรรม การศึกษา และพระพุทธศาสนา มีแหล่งโบราณคดีกว่า 50 แห่งกระจายอยู่รอบเมือง จุดชมเมืองที่สำคัญๆ อาทิเช่น เจดีย์ธรรมยาสิกา, เมืองเก่าชีร์กัป,  อารามจูเลี่ยน, เทวาลัยจันเดียล  อิสระให้ท่านได้เก็บภาพความสวยงามของเมืองเก่าตามอัธยาศัย

กลางวัน : รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

บ่าย : นำท่านเข้าชมพิพิธภัณฑ์ตักศิลา (Taxila Museum) พิพิธภัณฑ์ที่มีคอลเลกชันที่สำคัญและครอบคลุมของศิลปะแบบคัณฑราช ตั้งแต่ศตวรรษที่ 1 ถึง 7 ศตวรรษ วัตถุมากที่สุดในคอลเลกชันที่ถูกขุดขึ้นมาจากซากปรักหักพังของตักศิลาโบราณ นับเป็นพิพิธภัณฑ์ที่เก็บสะสมวัตถุโบราณที่ขุดค้นพบในเมืองตักศิลาไว้เป็นจำนวนมาก และหลายชิ้นยังคงสภาพสมบูรณ์สะท้อนให้เห็นถึงความรุ่งเรืองของเมืองตักศิลาในอดีตได้เป็นอย่างดี นำท่านสักการะพระบรมสารีริกธาตุ (พระทันตธาตุ) ที่ได้มีการเก็บรักษาไว้เป็นอย่างดีภายในพิพิธภัณฑ์แห่งนี้

ค่ำ : รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร

นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พักระดับ 5 ดาว PC Continental Hotel Islamabad*****  หรือเทียบเท่า (คืนที่ 2)

วันที่ 5
บินภายในสู่เมืองสการ์ดู – กิลกิต - พระพุทธรูปคาร์กาห์

เช้า : รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม

08.00 น. : นำท่านเดินทางสู่สนามบินอิสลามาบัด

10.15 น. : ออกเดินทางสู่เมืองสการ์ดู โดยเที่ยวบิน PK451 (ใช้เวลาบินประมาณ 1 ชั่วโมง)

11.55 น. : เดินทางถึงสนามบินสการ์ดู

กลางวัน : รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

นำท่านสู่เมืองกิลกิต (Gilgit) เป็นเมืองหลวงตั้งอยู่ทางตอนเหนือของประเทศปากีสถาน ห่างจากเมืองอิสลามาบัดระยะทางโดยประมาณ 500 กิโลเมตร หากนั่งรถจะใช้เวลาประมาณ 15-18 ชั่วโมง เมืองกิลกิตนั้นเป็นเมืองสำคัญในอดีตเพราะเคยเป็นเมืองที่มีเส้นทางสายไหมตัดผ่านและเป็นเส้นทางเผยแพร่พุทธศาสนาไปยังเมืองต่างๆ ปัจจุบันกลายเป็นจุดเชื่อมต่อที่สำคัญไป ตามทางหลวงโคราคารัม (Karakoram) ที่มีเส้นทางเชื่อมต่อไปยังเมืองสการ์ดู, เมืองจิตราล, เมืองเปศวาร์อิสลามาบัด และประเทศจีน นำท่านออกเดินทางไปตามถนนหลวงคาราโครัม ท่านจะได้สัมผัสกับความสวยงามของแม่น้ำฮุนซารวมถึงหมู่บ้านต่างๆ ริมทางขนานกับเส้นทางสายไหมเก่า ซึ่งในอดีตเป็นเส้นทางการค้าและวัฒนธรรม นำท่านชมพระพุทธรูปคาร์กาห์ (Kargah Buddha) พระพุทธรูปยืนถูกแกะสลักไว้บนหน้าผาในหุบเขาคาร์กาห์ (Kargah Valley) ในสมัยคริสต์ศตวรรษที่ 7  พระพุทธรูปมีลักษณะเป็นพระยืน ในลักษณะแบบนูนต่ำ องค์พระมีความสูง 50 ฟุต ปรากฏเด่นอยู่บนหน้าผาหินตั้งชัน ถูกค้นพบในช่วงปี ค.ศ. 1938 – 1939 ห่างจากองค์พระไปประมาณ 400 เมตร ยังค้นพบเจดีย์ 3 องค์ด้วยเช่นกัน ยังมีตำนานที่เกี่ยวกับพระพุทธรูปแกะสลักคาร์กาห์นี้ที่ถูกเล่าขานโดยชาวบ้านในท้องถิ่น ตามตำนานระบุว่าครั้งหนึ่ง บริเวณแถบนี้มียักษ์กินคนตนหนึ่งอาศัยอยู่ เรียกกันว่า “ยักษิณี” (Yakhsni) ชาวบ้านนั้นได้รับความเดือดร้อนจากยักษ์ตนนี้ จึงได้ร้องขอความช่วยเหลือจากนักบวชที่ผ่านทางมาและนักบวชก็ได้ตรึงนางยักษิณีตนนี้ไว้ที่ก้อนหินเพื่อไม่ให้สร้างความเดือดร้อนให้กับชาวบ้าน

ค่ำ : รับประทานอาหารค่ำในโรงแรม

นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พักระดับ 4 ดาว Serena Hotel Gilgit ****  หรือเทียบเท่า

วันที่ 6
กิลกิต – จุดชมวิวราคาโปชิ – สะพานฮุซเซน - พาสสุ - ล่องเรือทะเลสาบอัตตาบัต – ฮุนซา

เช้า : รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม

นำท่านสู่จุดชมวิวยอดเขาราคาโปชิ (Rakaposhi View Point) สัมผัสความสวยงามของเทือกเขาราคาโปชิที่ปกคลุมด้วยหิมะอย่างใกล้ชิด ยอดเขาแห่งนี้มีความสูง 7,790เมตรเหนือระดับน้ำทะเลและถูกจัดอันดับความสูงอยู่ในอันดับที่ 27 ของโลก อิสระให้ท่านได้เก็บภาพความวามพิสุทธิ์ของธรรมชาติและเทือกเขาแห่งนี้ตามอัธยาศัย ได้เวลานำท่านสู่เมืองกุลมิต (Gulmit) แปลว่า หุบเขาแห่งทุ่งดอกไม้ ตามความหมายของภาษาท้องถิ่น มีพื้นที่ครอบคลุมทางเหนือของหุบเขาฮุนซา เป็นเมืองที่มีความเก่าแก่มีอายุมานานหลายทศวรรษตั้งอยู่บนความสูง 2,408 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล

บ่าย : นำท่านเดินทางสู่เมืองพาสสุ (Passu) ซึ่งเป็นหมู่บ้านเล็ก ๆ บนทางหลวงคาราโครัมไฮเวย์ ติดกับแม่น้ำท่านจะได้ตื่นตาตื่นใจไปกับยอดเขาที่มีลักษณะคล้ายกับทางแหลมของหลังคาปราสาทจนได้ชื่อว่า Passu Cones หรือ Passu Cathedral จากนั้นนำท่านแวะชมธารน้ำแข็งพาสสุ (Passu Glacier) ที่สามารถมองเห็นจากจุดพักรถ สำหรับธารน้ำแข็งพาสสุนั้นเป็นธารน้ำแข็งที่เกิดจากหิมะที่ตกมาสะสมจนหนา 50 – 60 เมตร แล้วเคลื่อนตัวลงมาตามไหล่เขาอย่างช้าๆ ทำให้เกิดการสึกกร่อนลึกลงไปเพราะความหนักของหิมะ พื้นดินที่รองรับจึงเกิดเป็นร่องลึกและกว้างเพราะมีน้ำหนักของน้ำแข็งกดทับ ธารน้ำแข็งจะค่อยๆ ครูดบริเวณที่รองรับจนเกิดหุบเขาตัดขวางรูปตัวยู เมื่อธารน้ำแข็งไหลไปถึงตอนล่าง ธารน้ำแข็งก็ค่อย แตกออกและละลายกลายเป็นลำธาร นำท่านสู่สะพานฮุซเซนแห่งทะเลสาบโบริท (Hussaini suspension bridge) สะพานแขวนมีอายุนับร้อยปี ถูกจัดให้เป็นสะพานที่น่ากลัวที่สุดในโลก สะพานมีลักษะเป็นสะพานถูกขึงด้วยสลิงพาดด้วยไม้แบบห่างๆ ดังนั้นเวลาข้ามเราจะมองเห็นแม่น้ำที่ไหลอยู่ด้านล่างให้ท่านได้ลองเดินข้ามสะพานแห่งนี้ หรือถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึก สมควรแก่เวลานำท่านเดินทางสู่ท่าเรือทะเลสาบอัตตาบัต เพื่อสัมผัสประสบการณ์ล่องเรือชมทะเลสาบอัตตาบัต (Attabad Lake) ชมความงดงามของทะเลสาบสีฟ้าราวกับเทอร์ควอยซ์ตัดกับเทือกเขาที่มีหิมะปกคลุม ทะเลสาบตั้งอยู่ในหุบเขาฮุนซา เกิดจากดินถล่มเพราะแผ่นดินไหวเมื่อปี  2009 ลงมาปิดกั้นการไหลของน้ำในแม่น้ำฮุนซาจึงเกิดเป็นทะเลสาบแห่งนี้  ทะเลสาบมีความยาว  21 เมตร และลึก 103 เมตร ทางการจีนได้ช่วยสร้างอุโมงค์ผ่านภูเขาเพื่อเชื่อมกับถนนคาราโครัมใหม่ที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบัน ทะเลสาบอัตตาบัดจึงกลายเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวขึ้นชื่อแห่ง

ค่ำ : รับประทานอาหารค่ำ ในโรงแรม

นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พักระดับ 4 ดาว Darbar Hotel **** หรือเทียบเท่า  

กรุณาเตรียมกระเป๋าใบเล็กสำหรับค้างคืน 1 คืน บน Eagle’s Nest Hotel

วันที่ 7
ฮุนซา – หุบเขานาการ์ – ฮอปเปอร์ กลาเซียร์ – ป้อมปราการบาลิต - Eagle’s Nest

เช้า : รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม

นำท่านเดินทางสู่หุบเขานาการ์ (Nagar Valley) (ระยะทาง 35 กิโลเมตร) มีความสูงจากระดับน้ำทะเลที่ 2,438 เมตร อดีตเคยเป็นเมืองหลวงรัฐนาการ์ จนกระทั่งล่มสลายลงในปี ค.ศ. 1974 ปัจจุบันเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เต็มไปด้วยความงดงามของต้นไม้ ลำธาร ท่านจะได้สัมผัสกับความสวยงามของ แนวเทือกเขาราคาโปชิ และเทือกเขาอื่นๆ อีกกว่า 30 ยอดเขา อิสระให้ท่านได้เก็บภาพธรรมชาติตามอัธยาศัย จากนั้นนำท่านเดินทางสู่หุบเขาฮอปเปอร์ (Hopper Valley) เพื่อชมธารน้ำแข็งฮอปเปอร์ (Hopper Glacier) เป็นธารน้ำแข็งที่มีความเก่าแก่จากการทับถมของหิมะอย่างยาวนาน จากหิมะจนกลายเป็นหิน ได้มีบันทึกว่าธารน้ำแข็งแห่งนี้เป็น เคลื่อนไหวเร็วที่สุดในโลก จุดที่เราจะเข้าไปชมนั้นจะเป็นจุดที่ใกล้ธารน้ำแข็งมากที่สุดซึ่ง เราสามารถเข้าไปชมในจุดที่กำหนดเท่านั้น

กลางวัน : รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

บ่าย : นำท่านเดินทางเข้าชมป้อมปราการบาลิต (Balit Fort) ตั้งอยู่ในหุบเขาฮุนซาใกล้เมืองคาริมาบัดทางตอนเหนือของปากีสถาน โดยได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโกตั้งแต่ปี ค.ศ. 2004 ป้อมปราการมีความเก่าแก่ถึง 700 ปี ในอดีตเคยเป็นพระราชวังหลวงที่มีสถาปัตยกรรมรูปแบบผสมผสาน ระหว่างแคชเมียร์กับทิเบต พระราชวังได้มีการปรับปรุงและต่อเติมในส่วนต่าง ๆ เพิ่มขึ้น จนมีรูปแบบเหมือนดังเช่นปัจจุบัน ทางขึ้นของป้อมปราการนั้นรถไม่สามารถขึ้นไปได้ จะต้องเดินเท้าขึ้นไปเท่านั้น ตามทางที่เดินขึ้นไปท่านจะได้เพลิดเพลินกับวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม และร้านมีขายของที่ระลึกให้ท่านได้เลือกชมเลือกซื้อตลอดเส้นทางเช่นกัน เมื่อท่านขึ้นไปถึงแล้วท่านได้พบกับความสวยงามของป้อมปราการและเทือกเขาที่ล้อมรอบ และวิวของหมู่บ้านที่ลดหลั่นลงไปเป็นขั้นๆ

ค่ำ : รับประทานอาหารค่ำในโรงแรม

นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก Eagle’s Nest Hotel****  หรือเทียบเท่า

วันที่ 8
เลดี้ฟิงเกอร์ – สการ์ดู

05.00 น.        นำท่านชมความงดงามของพระอาทิตย์ขึ้นที่ยามเช้า ณ จุดที่ได้ขชื่อว่าสวยที่สุดแห่งเทือกเขานี้ บริเวณที่ได้รับการขนานนามว่า นิ้วมือของหญิงสาว หรือ Lady Finger และบริเวณนี้สามารถเห็นยอดเขาที่สูงที่สุดระดับโลกถึง 5 เขา คือ รัคคาโปชิ, ดิราน, โกลเดนพีค, อัลเตอร์พีค และ มูโลไจแอนท์พีค อิสระให้ท่านได้เก็บภาพความประทับใจและความสวยงามของธรรมชาติโดยรอบตามอัธยาศัย

 

เช้า : รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม

นำท่านเดินทางสู่เมืองสการ์ดู (Skardu) เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ในกิลกิต-บัลติสสถาน แห่งปากีสถานและทำหน้าที่เป็นเมืองหลวงของเขตสการ์ดู ตั้งอยู่ที่ระดับความสูงเกือบ 2,500 เมตร ในหุบเขาสการ์ดู ที่จุดบรรจบกันของแม่น้ำสินธุและแม่น้ำสิการ์ เมืองนี้เป็นประตูสำคัญบนเส้นทางแยกคาราโครัมไฮเวย์และเทือกเขาหิมาลัย ระหว่างทางท่านจะได้สัมผัสกับบรรยากาศธรรมชาติแห่งเทือกเขาหิมาลัย และส่วนของคาราโครัมไฮเวย์ รวมถึงสการ์ดูไฮเวย์อีกด้วย

กลางวัน : รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

บ่าย : นำท่านชมป้อมปราการคาร์โปโช (Lharpocho Fort) ซึ่งเป็นป้อมปราการที่สร้างขึ้นในสมัยศตวรรษที่ 16 บนชะง่อนหินหน้าผาสูง และเป็นป้อมปราการที่ไว้ป้องกันเมืองสการ์ดู ป้อมแห่งนี้ได้ถูกทำลายในช่วงการเข้ายึดครองของจักรวรรดิโมกุล แต่ยังคงความแข็งแกร่งและตั้งตระหง่านมาจนปัจจุบัน นำท่านเข้าชมความยิ่งใหญ่ของป้อมปราการหินแห่งนี้ สมควรแก่เวลานำท่านล่องเรือในทะเลสาบรูปหัวใจ (Heart Lake) ซึ่งเป็นทะเลสาบที่สวยงามมากอีกแห่งของเมืองสการ์ดู

ค่ำ : รับประทานอาหารค่ำในโรงแรม

นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พักระดับ 4 ดาว Shangri La Resort Skardu****  หรือเทียบเท่า

วันที่ 9
สการ์ดู – ลาฮอร์

เช้า : รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม

07.30 น. : นำท่านเดินทางสู่สนามบินสการ์ดู

09.10 น. : ออกเดินทางสู่เมืองลาฮอร์ โดยเที่ยวบิน PK454 (ใช้เวลาบินประมาณ 1.20 ชั่วโมง)

10.30 น. : เดินทางถึงสนามบินลาฮอร์

กลางวัน : รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารจีน

บ่าย : นำท่านเข้าชมสวนชาลิมาร์ (Shalimar Garden) เป็นกลุ่มสวนเปอร์เซีย  เริ่มสร้างในปี ค.ศ. 1637 และสร้างเสร็จในปี ค.ศ. 1641 ควบคุมการสร้างโดยคาลิลุเลาะห์ ข่าน ขุนนางในราชสำนักจักรพรรดิชาห์ชะฮันแห่งจักรวรรดิโมกุล ร่วมกับอาลี มาร์ดาน ข่านและมุลละ อะลอล มอล์ก ตูนี แต่เดิมที่ดินที่สร้างสวนเป็นของตระกูลเมียนแห่งเมืองบักบันปุระ ภายหลังจักรพรรดิชาห์ชะฮัน พระราชทานพระราชานุญาตให้ตระกูลนี้เป็นผู้ดูแลสวนเป็นการตอบแทนที่ถวายที่ดิน สวนชาลิมาร์อยู่ในการดูแลของตระกูลเมียนนานกว่า 350 ปี จนกระทั่งในปี ค.ศ. 1962 โมฮัมหมัด อัยยุบข่าน อดีตประธานาธิบดีปากีสถานประกาศให้สวนชาลิมาร์อยู่ในการดูแลของรัฐ และในปี ค.ศ. 1981 สวนชาลิมาร์ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมร่วมกับป้อมลาฮอร์ นำท่านเดินทางสู่ชายแดนวากาห์ (Wagah Border) ซึ่งเป็นจุดชายแดนปากีสถาน อินเดีย และ จะมีพิธีวากาห์ หรือ พิธีเดินเปลี่ยนเวรยาม สวนสนามชายแดน Wagah-Attari เกิดขึ้นที่ขอบประตูสองชั่วโมงก่อนพระอาทิตย์ตกดินในแต่ละวัน สมควรแก่เวลานำท่านเดินทางกลับเมืองลาฮอร์

ค่ำ : รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น

นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พักระดับ 5 ดาว PC Continental Hotel *****  หรือเทียบเท่า

วันที่ 10
ลาฮอร์

เช้า : รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม

นำท่านเข้าชมสุเหร่าบัดซาฮิ (Badshahi Mosque) หรือ สุเหร่าหลวง (Royal Mosque) ที่ได้รับการกล่าวขานว่าเป็นสุเหร่าที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ด้านหน้าของสุเหร่าเป็นลานกว้าง มีหอสวดมนต์ที่จุคนได้ราวสองพันคน ลานกว้างของมัสยิดนี้จุคนได้ราวห้าหมื่นคน สุเหร่าบัดซาฮิถูกปล่อยให้รกร้างเกือบ 100 ปีและได้รับการบูรณะให้อยู่ในสภาพที่เห็นในปี พ.ศ. 2503 ก่อนที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 จะเสด็จประพาสสุเหร่าแห่งนี้ในอีกสองปีต่อมา นำท่านเข้าชมป้อมปราการลาฮอร์ (Lahore Fortress) ได้รับการยกย่องให้เป็นมรดกโลกโดยองค์การ UNESCO ในปี 1981 ป้อมปราการนี้ถูกสร้างในศตวรรษที่ 11 หลังคริสตกาล เป็นสถานที่เพียงแห่งเดียวที่สามารถเห็นความแตกต่างของสถาปัตยกรรมโมกุล ในแต่ละยุคสมัยของผู้ปกครองที่ได้สร้างต่อเติม ป้อมลาฮอร์เป็นพระราชวังโบราณสร้างโดยจักรพรรดิอักบาร์ (Akbar The Great) ในระหว่างปี 2099-2149 บนฐานของเชิงเทินโบราณได้รับการต่อเติมโดยจักรพรรดิโมกุลองค์ต่อๆ มา เช่น จะฮานกีร์และราชโอรสรวมไปถึงชาห์จะฮาน (Shah Jahan) ผู้ก่อสร้างทัชมาฮาล นำท่านเข้าชมความสวยงามและความยิ่งใหญ่ของป้อมลาฮอร์

กลางวัน : รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

บ่าย : นำท่านเข้าชมพิพิธภัณฑ์ลาฮอร์ (Lahore Museum) ซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์ที่เก่าแก่ที่สุดของประเทศปากีสถาน ภายในจัดแสดงสิ่งของทางประวัติศาสตร์ที่มีค่ามากมาย ซึ่งมีห้องแสดงโชว์หลายห้อง จาก คันทราราฎษ์ GANDHARA, ศาสนาพุทธ BUDDHIST, เจน JAIN, โมกุล MOGUL และ สมัยอาณานิคม พระพุทธรูปที่มีชื่อเสียงที่สุด คือพระพุทธรูปปางทุกข์กริยาของพระพุทธเจ้า (สิทธัตถะ) ก็ถูกแสดงอยู่ที่นี่ ได้เวลานำท่านเข้าชมมัสยิดวาซิรข่าน (Wazir Jhan Masjid) เป็นอีกหนึ่งมัสยิดจากสถาปัตยกรรมโมกุลที่สามารถพบได้ในเมืองลาฮอร์ ขึ้นชื่อเรื่องความงามของงานดินเผาเคลือบลงสีและงานกระเบื้องแบบกาชาน จากนั้นนำท่านเที่ยวชมเมืองลาฮอร์ พร้อมเก็บภาพความสวยงามของเมือง

ค่ำ : รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร

20.30 น. : นำท่านเดินทางสู่สนามบินลาฮอร์

23.40 น. : ออกเดินทางสู่กรุงเทพมหานคร โดยเที่ยวบิน TG346 (ใช้เวลาบินประมาณ 5 ชั่วโมง)

วันที่ 11
กรุงเทพฯ

06.10 น. : เดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิโดยสวัสดิภาพ

 

เงื่อนไข

โปรแกรมท่องเที่ยว (ตามที่ระบุไว้ในรายการ) อัตรานี้รวมถึง

  • ตั๋วเครื่องบินไป-กลับชั้นนักท่องเที่ยวโดยสายการบิน TG / PK (กระเป๋าเดินทาง 1 ใบ น้ำหนัก ไม่เกิน 20 กก./ท่าน)
  • ค่าภาษีสนามบิน,ค่าภาษีน้ำมัน,ค่าประกันภัยทางอากาศ
  • ค่าประกันภัยการเดินทางอุบัติเหตุวงเงิน 1,500,000 บาท และ ค่ารักษาพยาบาลในต่างประเทศวงเงิน 2,000,000 บาท ค่ารักษาพยาบาลหลังกลับจากต่างประเทศภายใน 21 วัน วงเงิน 40,000 บาท (ประกันภัยไม่ครอบคลุมผู้ที่อายุเกิน 85 ปี) ประกันครอบคลุมการติดโควิดและการรักษาในต่างประเทศ (ต้องมีใบเสร็จโรงพยาบาลเท่านั้น)
  • ค่าภาษีในทุกประเทศ (ประเทศตามระบุในโปรแกรมทัวร์)
  • ค่าที่พักตลอดการเดินทาง (พักห้องคู่)
  • ค่าอาหารทุกมื้อตามระบุ, ค่าพาหนะ หรือรถรับ-ส่ง ระหว่างนำเที่ยว, ค่าเข้าชมสถานที่
  • ค่าวีซ่าปากีสถาน
  • เจ้าหน้าที่ (ไกด์ไทย) คอยอำนวยความสะดวกตลอดการเดินทาง และทิปต่างๆ

 

อัตรานี้ไม่รวมถึง

  • ค่าพนักงานยกกระเป๋าในโรงแรม ซึ่งท่านต้องดูแลกระเป๋าด้วยตัวท่านเอง เพื่อป้องกันการสูญหาย
  • ค่าใช้จ่ายส่วนตัวอาทิ ค่าซักรีด ค่าโทรศัพท์-แฟกซ์ และค่าใช้จ่ายอื่นๆที่ไม่ได้ระบุในรายการ
  • ค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% และภาษีหัก ณ ที่จ่าย 3%

**ราคาอาจมีการปรับขึ้น – ลง ตามราคาน้ำมันที่ปรับขึ้นลง แต่จะปรับตามความเป็นจริงที่สายการบินประกาศปรับ

และที่มีเอกสารยืนยันเท่านั้น (คิด ณ วันที่ 21 เมษายน 2565) **

ข้อแนะนำและแจ้งเพื่อทราบ

  • สำหรับห้องพักแบบ 3 เตียง กรุณาแจ้งล่วงหน้าเพื่อตรวจสอบกับทางโรงแรม มีบริการเฉพาะบางโรงแรมเท่านั้น กรณีเดินทางเป็นผู้ใหญ่ 3 ท่าน แนะนำให้ท่าน เปิดห้องพัก เป็น 2 ห้องจะสะดวกกับท่านมากกว่า
  • กรณีเดินทางเป็นตั๋วกรุ๊ป หากออกตั๋วแล้ว ไม่สามารถขอคืนเงินได้ และไม่สามารถเปลี่ยนวันเดินทางได้
  • กระเป๋าเดินทางเพื่อโหลดท่านละ 1 ใบ น้ำหนักไม่เกิน 20 กก. , กระเป๋าถือขึ้นเครื่อง น้ำหนักไม่เกิน 7 กก.

การชำระเงิน       งวดที่ 1 : สำรองที่นั่งจ่าย 50,000 บาท/ท่าน ภายใน 3 วันหลังมีการยืนยันกรุ๊ปเดินทางแน่นอน

                             งวดที่ 2 : ชำระส่วนที่เหลือ 30 วัน ล่วงหน้าก่อนออกเดินทาง

 

กรณียกเลิก         

  • แจ้งยกเลิกเดินทาง 30 วันล่วงหน้าก่อนการเดินทางหักค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริง เช่นมัดจำตั๋วเครื่องบิน, วีซ่าและค่าดำเนินการ (ถ้ามี), ค่าโรงแรม, ค่าตั๋วรถไฟ โดยจะมีรายละเอียดแสดงให้แก่ลูกค้าได้รับทราบ (หมายเหตุ: ช่วง Peak season สายการบินให้มัดจำล่วงหน้า 2-3 เดือน ก่อนการเดินทาง)
  • แจ้งยกเลิกเดินทาง 15-29 วันก่อนการเดินทาง หักค่าทัวร์ 50% + ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริง
  • แจ้งยกเลิกเดินทาง 0-14 วันก่อนการเดินทาง ยึดค่าทัวร์ 100%
  • ผู้เดินทางที่ไม่สามารถเข้า-ออกเมืองได้ เนื่องจากการยื่นเอกสารปลอม หักค่าใช้จ่าย 100%

***หากมีการยกเลิกการจองทัวร์ หลังได้ทำการยื่นวีซ่าเรียบร้อยแล้ว บริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการนำเล่มพาสปอร์ตไปยกเลิกวีซ่าในทุกกรณี ไม่ว่าค่าใช้จ่ายในการยื่นวีซ่าจะรวมหรือแยกจากรายการทัวร์ก็ตาม***

 

กรณีเดินทางโดยลูกค้าจัดการตั๋วเครื่องบินเอง (Land Only)

*ในกรณีลูกค้าดำเนินการเรื่องตั๋วเครื่องบินเองและมาเที่ยวร่วมกับคณะ (Join Tour) ลูกค้าต้องดำเนินการมาพบคณะทัวร์ด้วยตัวเอง และต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการมาพบคณะใหญ่ด้วยตัวเอง รวมถึงหากกรณีเที่ยวบินของคณะใหญ่เกิดความล่าช้าหรือยกเลิกเที่ยวบินอันด้วยสาเหตุใดๆก็ตาม

 

หมายเหตุ :

  • บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการยกเลิกการเดินทางในกรณีที่มีผู้เดินทางน้อยกว่า 10 ท่าน โดยจะแจ้งให้ผู้เดินทางทราบล่วงหน้าอย่างน้อย 30 วันก่อนการเดินทาง
  • บริษัทฯขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงการพาเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยวใดๆที่ปิดทำการ โดยจะจัดหาสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆเพื่อทดแทนเป็นลำดับแรก หรือคืนค่าเข้าชมแก่คณะผู้เดินทางแทน
  • บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงรายการท่องเที่ยว กรณีที่เกิดเหตุจำเป็นสุดวิสัย อาทิ การล่าช้าของสายการบิน การนัดหยุดงาน  การประท้วง  ภัยธรรมชาติ  การก่อจราจล  อุบัติเหตุ  ปัญหาการจราจร ฯลฯ หรือสถานการณ์อื่นๆที่อยู่นอกเหนือการควบคุมของบริษัท  ทั้งนี้จะคำนึงและรักษาผลประโยชน์ของผู้เดินทางไว้ให้ได้มากที่สุด
  • เนื่องจากการท่องเที่ยวนี้เป็นการชำระแบบเหมาจ่ายกับบริษัทตัวแทนในต่างประเทศ ท่านไม่สามารถที่จะเรียกร้องเงินคืน ในกรณีที่ท่านปฎิเสธหรือสละสิทธิ์ ในการใช้บริการที่ทางทัวร์จัดให้ ยกเว้นท่านได้ทำการตกลง หรือ แจ้งให้ทราบ ก่อนเดินทาง
  • บริษัทฯ จะไม่รับผิดชอบค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น หากท่านถูกปฎิเสธการตรวจคนเข้าเมือง และจะไม่คืนเงินค่าทัวร์ที่ท่านชำระมาแล้ว หากท่านถูกปฎิเสธการเข้าเมือง เนื่องจากการกระทำที่ส่อไปในทางผิดกฎหมาย หรือการหลบหนีเข้าเมือง
  • ในกรณีที่ท่านจะใช้หนังสือเดินทางราชการ (เล่มสีน้ำเงิน)เดินทางกับคณะ บริษัทฯสงวนสิทธิ์ที่จะไม่รับผิดชอบ หากท่านถูกปฏิเสธการเข้าหรือออกนอกประเทศใดประเทศหนึ่ง เพราะโดยปกตินักท่องเที่ยวใช้หนังสือเดินทางบุคคลธรรมดา เล่มสีเลือดหมู

 

ตั๋วเครื่องบิน

  • ในการเดินทางเป็นหมู่คณะผู้โดยสารจะต้องเดินทางไป-กลับ หากท่านต้องการเลื่อนวันเดินทางกลับ ท่านจะต้องชำระ ค่าใช้จ่ายส่วนต่างที่สายการบินเรียกเก็บโดยสายการบิน เป็นผู้กำหนด ซึ่งทางบริษัทฯ ไม่สามารถเข้าไปแทรกแซงได้ และในกรณีที่ยกเลิกการเดินทาง ถ้าทางบริษัทได้ออกตั๋วเครื่องบินไปแล้ว ผู้เดินทางต้องรอ Refund ตามระบบของสายการบินเท่านั้น (ในกรณีที่ตั๋วเครื่องบินสามารถทำการ Refund ได้เท่านั้น)
  • ท่านที่จะออกตั๋วเครื่องบินภายในประเทศ เช่น เชียงใหม่ ภูเก็ต หาดใหญ่ ฯลฯ โปรดแจ้งฝ่ายขายก่อนเพื่อขอคำยืนยันว่าทัวร์นั้นๆ ยืนยันการเดินทาง แน่นอน หากท่านออกตั๋วภายในประเทศโดยไม่ได้รับการยืนยันจากพนักงาน แล้วทัวร์นั้นยกเลิก บริษัทฯไม่สามารถรับผิดชอบค่าใช้จ่ายใดๆที่เกี่ยวข้องกับตั๋วเครื่องบินภายในประเทศได้
  • เมื่อท่านจองทัวร์และชำระมัดจำแล้ว หมายถึงท่านยอมรับในข้อความและเงื่อนไขที่บริษัทฯแจ้งแล้วข้างต้น

 

โรงแรมและห้อง

  • ห้องพักในโรงแรมเป็นแบบห้องพักคู่ ( TWN/DBL ) ในกรณีที่ท่านมีความประสงค์จะพักแบบ 3 ท่าน / 3 เตียง

(TRIPLE ROOM ) ขึ้นอยู่กับข้อกำหนดของห้องพักและรูปแบบของห้องพักของแต่ละโรงแรม ซึ่งมักมีความแตกต่างกัน ซึ่งอาจจะทำให้ท่านไม่ได้ห้องพักติดกันตามที่ต้องการ หรือ อาจไม่สามารถจัดห้องที่พักแบบ 3 เตียงได้

  • โรงแรมหลายแห่งในยุโรป จะไม่มีเครื่องปรับอากาศเนื่องจากอยู่ในแถบที่มีอุณหภูมิต่ำ เครื่องปรับอากาศที่มีจะให้บริการในช่วงฤดูร้อนเท่านั้น
  • ในกรณีที่มีการจัดประชุมนานาชาติ ( TRADE FAIR ) เป็นผลให้ค่าโรงแรมสูงขึ้น 3-4 เท่าตัว บริษัทฯขอสงวนสิทธิ์ในการปรับเปลี่ยนหรือย้ายเมืองเพื่อให้เกิดความเหมาะสม

กระเป๋าเล็กถือติดตัวขึ้นเครื่องบิน

  • กรุณางดนำของมีคม ทุกชนิด ใส่ในกระเป๋าใบเล็กที่จะถือขึ้นเครื่องบิน เช่น มีดพับ กรรไกรตัดเล็บทุกขนาด ตะไบเล็บ เป็นต้น กรุณาใส่ในกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ห้ามนำติดตัวขึ้นบนเครื่องบินโดยเด็ดขาด
  • วัตถุที่เป็นลักษณะของเหลว อาทิ ครีม โลชั่น น้ำหอม ยาสีฟัน เจล สเปรย์ และเหล้า เป็นต้น จะถูกทำการตรวจอย่างละเอียดอีกครั้ง โดยจะอนุญาตให้ถือขึ้นเครื่องได้ไม่เกิน 10 ชิ้น ในบรรจุภัณฑ์ละไม่เกิน 100 ml. แล้วใส่รวมเป็นที่เดียวกันในถุงใสพร้อมที่จะสำแดงต่อเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตามมาตรการองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ ( ICAO )
  • หากท่านซื้อสินค้าปลอดภาษีจากสนามบิน จะต้องปิดผนึกถุงโดยระบุ วันเดินทาง เที่ยวบิน จึงสามารถนำขึ้นเครื่องได้ และห้ามมีร่องรอยการเปิดปากถุงโดยเด็ดขาด

 

สัมภาระและค่าพนักงานยกสัมภาระ

  • สำหรับน้ำหนักของสัมภาระที่ทางสายการบินอนุญาตให้โหลดใต้ท้องเครื่องบิน คือ 20-30 กิโลกรัม (สำหรับผู้โดยสารชั้นประหยัด/ Economy Class Passenger ซึ่งขึ้นกับแต่ละสายการบิน) การเรียกเก็บค่าระวางน้ำหนักเพิ่มเป็นสิทธิ์ของสายการบินที่ท่านไม่อาจปฏิเสธได้ หาก น้ำหนักกระเป๋าเดินทางเกินกว่าที่สายการบินกำหนด
  • สำหรับกระเป๋าสัมภาระที่ทางสายการบินอนุญาตให้นำขึ้นเครื่องได้ ต้องมีน้ำหนักไม่เกิน 7 กิโลกรัมและมีสัดส่วนไม่เกิน 5 x 13.5 x 21.5 สำหรับหน่วยวัด “นิ้ว” (Inch) หรือ 19 x 35 x 55 สำหรับหน่วยวัด “เซนติเมตร” (Centimeter)
  • ในบางรายการทัวร์ ที่ต้องบินด้วยสายการบินภายในประเทศ น้ำหนักของกระเป๋าอาจจะถูกกำหนดให้ต่ำกว่ามาตรฐานได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับข้อกำหนดของแต่ละสายการบิน บริษัทขอสงวนสิทธิ์ไม่รับภาระ ความรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในน้ำหนักส่วนที่เกิน
  • กระเป๋าและสัมภาระที่มีล้อเลื่อนและมีขนาดใหญ่เกินไป ไม่เหมาะกับการเป็นกระเป๋าถือขึ้นเครื่องบิน (Hand carry)

 

การชดเชยค่ากระเป๋าในกรณีเกิดการสูญหาย

  • ของมีค่าทุกชนิด ขอแนะนำไม่ควรใส่เข้าไปในกระเป๋าใบใหญ่ที่เช็คไปกับเครื่อง เพราะหากเกิดการสูญหาย เพราะหากเกิดการสูญหาย สายการบินจะรับผิดชอบชดใช้ตามกฎไออาต้าเท่านั้น ซึ่งจะชดใช้ให้ประมาณ กิโลกรัมละ 20 USD คูณด้วยน้ำหนักกระเป๋าจริง ทั้งนี้จะชดเชยไม่เกิน USD 400 กรณีเดินทางชั้นธรรมดา (Economy) หรือ USD 600 กรณีเดินทางชั้นธุรกิจ (Business) ดังนั้นจึงไม่แนะนำให้โหลดของมีค่าทุกประเภทลงกระเป๋าใบใหญ่
  • กรณีกระเป๋าใบใหญ่เกิดการสูญหายระหว่างการท่องเที่ยว (ระหว่างทัวร์ ไม่ใช่ระหว่างบิน) โดยปกติประกันภัยการเดินทางที่บริษัททัวร์ได้จัดทำให้ลูกค้าจะไม่ครอบคลุมค่าชดเชยในกรณีกระเป๋าใบใหญ่สูญหาย
  • กรณีกระเป๋าใบเล็ก (Hand Carry) เกิดการสูญหาย บริษัทฯ ไม่สามารถรับผิดชอบชดเชยค่าเสียหายให้ท่านได้ ดังนั้นท่านต้องระวังทรัพย์สินส่วนตัวของท่าน

 

 

 

 

 

 

 

 

 

เอกสารประกอบการขอวีซ่าปากีสถาน

(ใช้เวลาในการขอวีซ่าประมาณ 5 วันทำการ)

  1. หนังสือเดินทาง อายุใช้งานได้ เกิน 6 เดือนขึ้นไป และ มีหน้าว่างอย่างน้อย 2 แผ่น
  2. หลักฐานการได้รับวัคซีนครบโดส (สำเนาวัคซีนพาสปอร์ต หรือ Certificate Vaccine)
  3. รูปถ่ายสีหน้าตรง ขนาด 3.5 x 4.5 ซ.ม. จำนวน 3 รูป พื้นฉากหลังรูปต้องเป็นพื้นสีขาว (อย่าถ่ายเอง เพราะพื้นเป็นสีเทา ใช้ไม่ได้) ห้ามสวมแว่นสายตา
  4. สำเนาบัตรประชาชน
  5. สำเนาทะเบียนบ้าน (กรุณาถ่ายหน้าแรกที่มีรายละเอียดบ้านเลขที่มาด้วย)
  6. สำเนาทะเบียนสมรส (กรณีผู้หญิง…..หากมีการเปลี่ยนคำนำหน้าเป็น …นาง… ต้องแนบมา)
  7. สำเนาทะเบียนหย่า (กรณีผู้หญิง…..ถ้าหย่าและหากมีการใช้คำนำหน้าเป็น ….นาง…ต้องแนบมา)
  8. สูติบัตร (กรณีเด็กต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์ต้องแนบสูติบัตรมา)
  9. กรณีเด็กอายุต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์: (หากเด็กไม่ได้เดินทางพร้อม พ่อและแม่) ต้องยื่นเอกสารเพิ่มเติมดังนี้
    • เด็ก เดินทางกับบุคคลอื่น บิดาและมารดาต้องทำหนังสือแสดงความยินยอม ซึ่งออกให้โดยที่ว่าการเขตหรืออำเภอเท่านั้น และให้ระบุว่า ยินยอมให้เด็กเดินทางกับใคร (ระบุชื่อ) มีความสัมพันธ์อย่างไรกับครอบครัว
    • เด็ก เดินทางกับบิดา มารดาต้องทำหนังสือแสดงความยินยอมซึ่งออกให้โดยที่ว่าการเขตหรืออำเภอเท่านั้นและให้ระบุว่า มารดายินยอมให้เด็กเดินทางกับบิดา (ระบุชื่อบิดา)
    • เด็ก เดินทางกับมารดา บิดาต้องทำหนังสือแสดงความยินยอมซึ่งออกให้โดยที่ว่าการเขตหรืออำเภอเท่านั้นและให้ระบุว่า บิดายินยอมให้เด็กเดินทางกับมารดา (ระบุชื่อมารดา)
  10. หลักฐานการทำงาน (จดหมายรับรองการทำงาน) ทำเป็นภาษาอังกฤษ

จดหมายรับรองการทำงานให้ระบุ  TO WHOM IT MAY CONCERN (ไม่ต้องระบุสถานทูตและประเทศ) กรณีผู้เดินทางเป็น

  • เจ้าของกิจการ : ใช้หนังสือจดทะเบียนบริษัทฯ ที่มีรายชื่อผู้ประกอบกิจการ (อายุไม่เกิน 3 เดือน)
  • กรณีผู้เดินทางเป็นเจ้าของร้านค้า : ใช้ทะเบียนพาณิชย์ที่มีชื่อผู้เป็นเจ้าของร้านค้า
  • กรณีพนักงานบริษัท : ใช้จดหมายรับรองการทำงานจากนายจ้าง ระบุตำแหน่ง ระยะเวลาการว่าจ้าง / เงินเดือน
  • กรณีที่เป็นข้าราชการ : ใช้หนังสือรับรองจากหน่วยงาน
  • กรณีเกษียณอายุราชการ: ถ่ายสำเนาบัตรข้าราชการบำนาญ
  • กรณีเป็นนักเรียนนักศึกษา ต้องมีหนังสือรับรองจากสถาบันศึกษา นั้นว่ากำลังศึกษาอยู่ ระบุชั้นปีที่ศึกษา
  1. หลักฐานการเงิน : (กรุณาเตรียมให้ถูกต้อง ใช้ทั้ง Bank Statement)
    • หนังสือรับรองสถานะทางการเงิน (Bank Statement) ของบัญชีออมทรัพย์ (Saving account) ออกโดยธนาคาร ระบุชื่อเจ้าของบัญชีให้ครบถ้วน มีอายุไม่เกิน 15 วันนับจากวันที่จะยื่นวีซ่า ย้อนหลัง 6 เดือน

 

ช่วงเดินทาง
27/09/2022 07/10/2022
จำนวน
ราคา
95,000 บาท
จอง
ว่าง ที่
จองทัวร์
ทัวร์ปากีสถาน แกรนด์ปากีสถาน ใบไม้เปลี่ยนสี
เดินทาง 27/09/2022 07/10/2022
*** พักเดี่ยวเพิ่มท่านละ 16,000 ***
*** เด็กอายุ 2-11 ปี พักกับผู้ใหญ่ 2 ท่าน เสริมเตียง 90,000 ***
*** ชั้นธุรกิจเพิ่มเงินจากราคาทัวร์ (TG) เริ่มต้นที่ท่านละ (ราคาสามารถยืนยันได้ก็ต่อเมื่อที่นั่ง confirm เท่านั้น) 25,000 - 40,000 ***
*** ไม่เอาตั๋วเครื่องบินหักคืนทั้งใบ (BKK-KHI//LHE-BKK) 16,000 ***
กรุณากรอกข้อมูลให้ครบถ้วน

Error: Contact form not found.

ช่วงเดินทาง
07/10/2022 17/10/2022
จำนวน
ราคา
95,000 บาท
จอง
ว่าง ที่
จองทัวร์
ทัวร์ปากีสถาน แกรนด์ปากีสถาน ใบไม้เปลี่ยนสี
เดินทาง 07/10/2022 17/10/2022
*** พักเดี่ยวเพิ่มท่านละ 16,000 ***
*** เด็กอายุ 2-11 ปี พักกับผู้ใหญ่ 2 ท่าน เสริมเตียง 90,000 ***
*** ชั้นธุรกิจเพิ่มเงินจากราคาทัวร์ (TG) เริ่มต้นที่ท่านละ (ราคาสามารถยืนยันได้ก็ต่อเมื่อที่นั่ง confirm เท่านั้น) 25,000 - 40,000 ***
*** ไม่เอาตั๋วเครื่องบินหักคืนทั้งใบ (BKK-KHI//LHE-BKK) 16,000 ***
กรุณากรอกข้อมูลให้ครบถ้วน

Error: Contact form not found.

ช่วงเดินทาง
14/10/2022 24/10/2022
จำนวน
ราคา
95,000 บาท
จอง
ว่าง ที่
จองทัวร์
ทัวร์ปากีสถาน แกรนด์ปากีสถาน ใบไม้เปลี่ยนสี
เดินทาง 14/10/2022 24/10/2022
*** พักเดี่ยวเพิ่มท่านละ 16,000 ***
*** เด็กอายุ 2-11 ปี พักกับผู้ใหญ่ 2 ท่าน เสริมเตียง 90,000 ***
*** ชั้นธุรกิจเพิ่มเงินจากราคาทัวร์ (TG) เริ่มต้นที่ท่านละ (ราคาสามารถยืนยันได้ก็ต่อเมื่อที่นั่ง confirm เท่านั้น) 25,000 - 40,000 ***
*** ไม่เอาตั๋วเครื่องบินหักคืนทั้งใบ (BKK-KHI//LHE-BKK) 16,000 ***
กรุณากรอกข้อมูลให้ครบถ้วน

Error: Contact form not found.

Tags ที่เกี่ยวข้อง ชายแดนวากาห์ (Wagah Border) ทะเลสาบรูปหัวใจ (Heart Lake) ทะเลสาบอัตตาบัต (Attabad Lake) ธารน้ำแข็งฮอปเปอร์ (Hopper Glacier) ป้อมปราการคาร์โปโช (Lharpocho Fort) ป้อมปราการบาลิต (Balit Fort) ป้อมปราการลาฮอร์ (Lahore Fortress) พระบรมสารีริกธาตุ (พระทันตธาตุ) พระพุทธรูปคาร์กาห์ (Kargah Buddha) พระราชวังโมฮัตตา (Mohatta Palace) พิพิธภัณฑ์บ้านคูอิด อิ อาซัม (Quaid e Azam) พิพิธภัณฑ์ลาฮอร์ (Lahore Museum) มัสยิดทูบา (Tooba Masjid) มัสยิดวาซิรข่าน (Wazir Jhan Masjid) มัสยิดไฟซาล (Faisal Mosque) ยอดเขาราคาโปชิ (Rakaposhi View Point) สวนชาลิมาร์ (Shalimar Garden) สะพานฮุซเซน สุสานชาค์คันดิ (Chaukandi Tombs) สุเหร่าบัดซาฮิ (Badshahi Mosque) หุบเขานาการ์ (Nagar Valley) หุบเขาฮอปเปอร์ (Hopper Valley) อนุสาวรีย์ปากีสถาน (Pakistan Monument) อาคารฮินดู จิมกายา (Hindu Gymkhana) เมืองกิลกิต เมืองกุลมิต (Gulmit) เมืองตักศิลา (Taxila) เมืองพาสสุ (Passu) เมืองสการ์ดู (Skardu)
Share on social networks
โปรแกรมทัวร์ที่น่าสนใจ