กัสโต้ เวิล์ด ทัวร์

บริการคุณภาพ ทุกเส้นทางท่องเที่ยว

เลขที่ 11/03295

ทัวร์ตุรเคีย AMAZING TURKIEY SPRING

รหัส 048-2889
วันที่เดินทาง
มี.ค.66 - พ.ค.66
ช่วงเวลา
9 วัน 6 คืน
ราคาเริ่มต้น
41,993 บาท
แผนการเดินทาง
วันที่ 1
กรุงเทพ-อิสตันบูล

19.30 น : พร้อมกัน ณ เคาน์เตอร์เช็คอินสายการบินเตอร์กิช อาคารผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศสนามบินสุวรรณภูมิโดยมีเจ้าหน้าที่ของบริษัทฯ คอยต้อนรับและอำนวยความสะดวกด้านสัมภาระและเอกสารการเดินทางทำผ่านขั้นตอนการตรวจคนออกนอกประเทศ

23.30 น. : ออกเดินทางสู่นครอิสตันบูล ประเทศตุรกี โดยเที่ยวบิน TK 69 (ใช้เวลาบินประมาณ 10.25 ชั่วโมง) เพลิดเพลินกับภาพยนตร์หลากหลายกับ จอทีวีส่วนตัวทุกที่นั่ง และสายการบินฯ บริการ อาหารกลางค่ำและอาหารเช้าระหว่างเที่ยวบินสู่นครอิสตันบูล ประเทศตุรกี

วันที่ 2
สุเหร่าสีน้ำเงิน-โบสถ์เซนต์โซเฟีย-ล่องเรือช่องแคบบอสฟอรัส-พระราชวังโดลมาบาห์เช่

06.30 น. : เดินทางถึงกรุงอิสตันบูล ประเทศตุรกี นำท่านผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร

หลังจากนั้นนำทุกท่านสู่เมืองอิสตันบูล นำชม สุเหร่าสีน้ำเงิน (BLUE MOSQUE) สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ทางศาสนา ที่มีความสวยงามแห่งหนึ่ง ชื่อนี้ได้มาจากกระเบื้องเคลือบสีน้ำเงินที่ใช้ปูตลอดแนวฝาผนังด้านในและถูกสร้างขึ้นบนพื้นที่  ซึ่งเคยเป็นวังของจักรพรรดิไบเซนไทน์ โดยสุลต่านอาหเม็ตที่ 1 ค.ศ. 1609 ใช้เวลาสร้างทั้งหมด7 ปีและ จากนั้นนำชม โบสถ์เซนต์โซเฟีย (St. Sophia) ซึ่งเป็นศิลปะแบบไบแซนไทม์ ได้รับการยกย่องให้เป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคโบราณ สร้างขึ้นสมัยจักรพรรดิคอนสแตนติน ของจักรวรรดิไบแซนไทม์ เดิมใช้เป็นโบสถ์คริสต์แต่หลังจากจักรวรรดิออตโตมันเข้ามาปกครองจึงได้เปลี่ยนโบสถ์ดังกล่าวมาเป็นมัสยิด แต่ได้เปลี่ยนเป็นพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติในสมัย เคมาล อะตาเติร์ก หลังจากที่เป็นโบสถ์ในศาสนาคริสต์เป็นเวลากว่า 916 ปี และเป็นมัสยิดของศาสนาอิสลามอีกกว่า 447 ปี ปัจจุบันเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมความงามและความยิ่งใหญ่ ภายในมีภาพประดับโมเสกทองที่สมบูรณ์บ่งบอกถึงความศรัทธาอันแรงกล้าของจักรพรรดิคอนสแตนตินที่มีต่อคริสต์ศาสนา

เที่ยง : บริการอาหารเที่ยง ณ ภัตตาคาร

นำท่านชม พระราชวังโดลมาบาห์เช่ ซึ่งเป็นพระราชวังที่สะท้อนให้เห็นถึงความเจริญอย่างมากทางด้านวัฒนธรรมและสถาปัตยกรรมของจักรวรรดิออตโตมัน เป็นศิลปะที่ผสมผสานของยุโรปและตะวันออก ที่ได้รับการออกแบบตกแต่งอย่างสวยงาม นาฬิกาทุกเรือนของที่นี่จะถูกตั้งเวลาไว้ที่ 09.05 น. ซึ่งเป็นเวลาที่ เคมเล อตาเติร์ก วีรบุรุษของชาติถึงแก่อสัญกรรม ในวันที่ 10 พ.ย. ค.ศ. 1938 จากนั้นนำท่าน ล่องเรือช่องแคบบอสฟอรัส ซึ่งเป็นช่องแคบที่เชื่อมทะเลดำ (The Black Sea) เข้ากับทะเลมาร์มาร่า (Sea Of Marmara) ความยาวทั้งสิ้นประมาณ 32 ก.ม. ความกว้าง ตั้งแต่ 500 เมตร จนถึง 3 ก.ม. ถือว่าสุดขอบของทวีปยุโรป และสุดขอบของทวีปเอเชียมาพบกันที่นี่  นอกจากความสวยงามแล้วช่องแคบบอสฟอรัสยังเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญยิ่งในการป้องกันประเทศตุรกีอีกด้วย  เพราะมีป้อมปืนตั้งเรียงรายอยู่ตามช่องแคบเหล่านี้  ว่ากันว่าจะกระทั่งถึงยุคของการนำเอาเรือปืนใหญ่มาใช้ และไม่เคยปรากฏว่า กรุงอิสตันบูลถูกถล่มจนเสียหายอย่างหนักมาก่อนเลย ทั้งที่เป็นเพราะป้อมปืนดังกล่าวนี่เอง ในปีค.ศ.1973 มีการเปิดใช้สะพานบอสฟอรัส  ซึ่งทำให้เกิดการเดินทางไปมระหว่างฝั่งเอเชียและยุโรปสะดวกมากขึ้น  ขณะล่องเรือท่านจะได้เพลิดเพลินกับทิวทัศน์ สองข้างทาง ไม่ว่าจะเป็นพระราชวังโดลมาบาเช่ หรือบ้านเรือนสไตล์ยุโรปของบรรดาเศรษฐี ซึ่งล้วนแต่สวยงามตระการตาทั้งสิ้น

ได้เวลาอันสมควรนำท่านสู่ ตลาดสไปซ์มาร์เกต อิสระให้ท่านได้เลือกซื้อของฝาก ท่านสามารถเลือกซื้อของฝากได้ในราคาย่อมเยาว์ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องประดับ ชาหรือกาแฟ รวมถึงผลไม้อบแห้งอันขึ้นชื่อของตุรกีอย่าง แอปปลิคอท หรือจะเป็นถั่วพิทาชิโอ ซึ่งมีให้เลือกซื้อมากมาย

ค่ำ : บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร

วันที่ 3
บูซาร์-ชานัคคาเล่-ทรอย

เช้า : บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

นำท่านนั่งเรือเฟอร์รี่ข้ามฝั่งสู่ เมืองบูซ่าร์ Bursa เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของตุรกี มีความสำคัญและใหญ่เป็นอันดับที่ 4 ของประเทศและเมืองนี้ยังมีชื่อเสียงทางด้านเส้นไหมเพื่อส่งออกไปยังตลาดต่างๆ ในอดีตเคยเป็นศูนย์กลางการปกครองของอาณาจักรออตโตมาน ตั้งแต่ปีค.ศ.1326-1362 และ จากนั้นได้ย้ายเมืองหลวงไปตั้งที่เอดิร์เน ที่อยู่ทางด้านเหนือของกรุงคอนสแตนดิโนเปิล นำท่านสู่Bursa Silk House โดยตลาดแห่งนี้ค้าขายผลิตภัณฑ์จากผ้าไหมเป็นหลัก และด้วยสีสันของผ้าไหมที่สดใสนี่เองที่ทำให้ตลาดแห่งนี้กลายเป็นตลาดที่สวยงามที่สุด จนครั้งหนึ่งสมเด็จพระนางเจ้า ควีนอลิซาเบท แห่งอังกฤษเคยมาเยือนด้วย

เที่ยง : บริการอาหารเที่ยง ณ ภัตตาคาร

นำท่านเดินทางสู่ เมืองชานัคคาเล่ (Cannakkale) ซึ่งตั้งอยู่บนทะเลมาร์มาราและทะเลอีเจียน เมืองแห่งนี้จึงเคยเป็นชุมทางการค้า ศูนย์กลางการเดินเรือเชื่อมต่อเอเชียกับยุโรป นำท่านชมม้าไม้จำลองแห่งกรุงทรอย ซึ่งเปรียบเสมือนสัญลักษณ์อันชาญฉลาดด้านกลศึกของนักรบโบราณโดยเป็นสาเหตุทำให้กรุงทรอยแตก ให้ท่านได้เก็บภาพประทับใจกับม้าไม้เมืองทรอยที่ตั้งตระง่านอยู่กลางเมือง จากนั้นเดินทางสู่โรงแรมที่พัก

ค่ำ : บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร (บุฟเฟ่ต์)

วันที่ 4
เพอร์กามัม- เมืองเอฟฟิซุส-คูซาดาซี

เช้า : บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

เดินทางสู่เมืองเพอร์กามัม (Pergamum) ที่ตั้งอยู่ทางด้านตะวันตกเฉียงเหนือ ซึ่งเป็นที่ตั้งเมืองโบราณของกรีกที่มีความสำคัญของพวกเฮเลนนิสติก ถูกสร้างในราวปี 281-133 ก่อนคริสตกาลโดยไลซีมาคุส ที่เป็นแม่ทัพของอเล็กซานเด อร์มหาราช จนกระทั่งถึงราชวงศ์แอทตาลิด จึงได้ยกให้กับโรมัน กาลเวลาที่ล่วงเลยมานับพันปีในอดีตนั้นเมืองนี้คือเมืองที่เคยเจริญรุ่งเรืองจนถึงขีดสุดมาแล้วในสมัยกรีกโบราณ ซึ่งปัจจุบันนี้เป็นยังคงเป็นรักษารูปแบบการสร้างบ้านแบบโบราณหลากหลายสีสันสด

เที่ยง : บริการอาหารเที่ยง ณ ภัตตาคาร   

เดินทางสู่เมืองคูซาดาซีตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศตุรกีตัดกับชายฝั่งทะเลอีเจี้ยนซึ่งเป็นท่าเรือที่สำคัญ ระหว่างการเดินทางท่านจะได้ชมทัศนียภาพอันสวยงามของท้องทะเลสีฟ้าค รมของทะเลอีเจี้ยนนำท่านสู่เมืองเอฟฟิซุส (City of Ephesus) เมืองโบราณ ที่ขนานนามว่า มหานครแห่งแรกและยิ่งใหญ่ที่สุดในเอเชีย ที่มีการบำรุงรักษาไว้เป็นอย่างดีเมืองหนึ่งเคยเป็นที่อยู่ของชาวโยนก (Ionian) จากกรีก ซึ่งอพยพเข้ามาปักหลักสร้างเมือง ซึ่งรุ่งเรืองขึ้นในศตวรรษที่ 6 ก่อนคริสตกาล ต่อมาถูกรุกรานเข้ายึดครองโดยพวกเปอร์เซียและกษัตริย์อเล็กซานเดอร์มหาราชภายหลังเมื่อโรมันเข้าครอบครองก็ได้สถาปนา “เอฟฟิซุส” ขึ้นเป็นเมืองหลวงต่างจังหวัดของโรมัน นำท่านเดินบนถนนหินอ่อนผ่านใจกลางเมืองเก่าที่สองข้างทางเต็มไปด้วยซากสิ่งก่อสร้างเมื่อสมัย 2,000 ปีที่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นโรงละครกลางแจ้งที่สามารถจุผู้ชมได้กว่า 30,000 คน ซึ่งยังคงใช้งานได้จนถึงปัจจุบันนี้ นำท่านชมห้องอาบน้ำแบบโรมันโบราณ (ROMAN BATH) ที่ยังคงเหลือร่องรอยของห้องอบไอน้ำให้เห็นอยู่จนถึงทุกวันนี้, ห้องสมุดโบราณที่มีวิธีการเก็บรักษาหนังสือไว้ได้เป็นอย่างดีทุกสิ่งทุกอย่างล้วนเป็นศิลปะแบบเฮเลนนิสติคที่มีความปราณีต  

ค่ำ : บริการอาหารค่ำ (บุฟเฟ่ต์) ณ โรงแรมที่พัก

วันที่ 5
เมืองออตโตมัน-โรงงานเครื่องหนัง-เมืองปามุคคาเล่

เช้า : บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

นำท่านสู่หมู่บ้านออตโตมันดั้งเดิม ชมอารยะธรรมและบ้านเรือนสมัยแบบเก่าของสมัยออตโตมันที่ยังคงหลงเหลืออยู่ในปัจจุบัน อิสระให้ท่านเก็บภาพประทับใจ และเลือกชมซื้อสินค้าพื้นเมือง ได้เวลาอันสมมควร จากนั้นนำท่านเยี่ยมชมโรงงานเครื่องหนัง (Leather Jacket Factory) ซึ่งมีชื่อเสียงโด่งดังของประเทศตุรกี ตุรกีเป็นประเทศที่ผลิตหนังที่มีคุณภาพที่สุด อีกทั้งยังผลิตเสื้อหนังส่งให้กับแบรนด์ดังในอิตาลี เช่น Versace , Prada , Michael Kors  อิสระให้ท่านเลือกซื้อสินค้าได้ตามอัธยาศัย

เที่ยง : บริการอาหารเที่ยง ณ ภัตตาคาร   

นำท่านเดินทางสู่เมืองปามุคคาเล่ (PAMUKKALE) นำท่านเข้าชมปราสาทปุยฝ้าย  เมืองที่มีน้ำพุเกลือแร่ร้อนไหลทะลุขึ้นมาจากใต้ดินผ่านซากปรักหักพังของเมืองเก่าแก่สมัยกรีกก่อนที่ไหลลงสู่หน้าผาผลจากการไหลของน้ำพุเกลือแร่ร้อนนี้ได้ก่อให้เกิดทัศนียภาพของน้ำตกสีขาวเป็นชั้นๆหลายชั้นและผลจากการแข็งตัวของแคลเซียมทำให้เกิดเป็นแก่งหินสีขาวราวหิมะขวางทางน้ำเป็นทางยาว ซึ่งมีความงดงามมาก ปามุคคาเล่ ได้รับการยกย่องจากองค์การยูเนสโก้ให้เป็นมรดกโลกทางธรรมชาติและวัฒนธรรมในปี ค.ศ. 1988

ค่ำ : บริการอาหารค่ำ (บุฟเฟ่ต์) ณ โรงแรมที่พัก

วันที่ 6
เมืองคอนย่า-คาราวานสไรน์-เมืองคัปปาโดเจีย

เช้า : บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

นำท่านเดินทางสู่ เมืองคอนย่า (Konya) อดีตเมืองหลวงของอาณาจักรเซลจูคเติร์กในช่วงปี ค.ศ. 1071 – 1308 รวมทั้งยังเป็นศูนย์กลางที่สําคัญของภูมิภาคแถบนี้

เที่ยง : บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

เดินทางสู่  เมืองคัปปาโดเจีย เป็นเมืองที่อยู่ระหว่างทะเลดำกับภูเขาเทารุส เป็นดินแดนที่มีภูมิประเทศอันน่าอัศจรรย์ซึ่งเกิดจากลาวาภูเขาไฟที่ไหลออกมาปกคลุมพื้นที่เป็นบริเวณกว้าง แล้วทับถมเป็นเวลาหลายล้านปี  เมื่อวันเวลาผ่านไป พายุ ลม ฝน และหิมะได้เป็นกัดเซาะแผ่นดิน มาเรื่อยๆ ก่อให้เกิดการแปรสภาพเป็นหุบเขาร่องลึก เนินเขา กรวยหินและเสารูปทรงต่างๆ เกิดเป็นภูมิประเทศที่งดงาม แปลกตาและน่าอัศจรรย์ ดั่งสวรรค์บนดิน จนได้ชื่อว่า “ดินแดนแห่งปล่องนางฟ้า”  และได้รับการแต่งตั้งจากองค์การยูเนสโกให้เป็นเมืองมรดกโลกทางธรรมชาติและวัฒนธรรมแห่งแรกของตุรกี และยังเป็นเมืองที่มีความสำคัญมาแต่โบราณกาลเพราะเป็นส่วนหนึ่งของเส้นทางสายไหม เส้นทางค้าขายและแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมที่ทอดยาวจากตุรกีไปจรดประเทศจีน โดยระหว่างทางนําท่านชมความสวยงาม “คาราวานสไรน์” ที่พักแรมและที่แลกเปลี่ยนสินค้าระหว่างทางของชาวเติร์กในสมัยออตโตมัน ในการเดินทางนี้ท่านจะได้ชมทัศนียภาพที่งดงามตามธรรมชาติตลอดสองฝั่งทางของภูมิภาคตอนกลางของตุรกี รวมถึงวิถีชีวิตตามชนบทและทัศนียภาพที่สวยงามของทุ่งหญ้าสลับกับภูเขาซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของคัปปาโดเจีย

ค่ำ : บริการอาหารค่ำ (บุฟเฟ่ต์)  ณ  โรงแรมที่พัก Dedeli  Cave Hotel 5*  หรือเทียบเท่า

* หมายเหตุ: กรณีห้องพักของโรงแรมถ้ำเต็ม ขอสงวนสิทธิ์ในการปรับเปลี่ยนเป็นโรงแรมเทียบเท่าระดับเดียวกัน*

วันที่ 7
บอลลูน-นครใต้ดิน-หมู่บ้านของนกพิราบ-หมู่บ้านอวานอส-เมืองอุชิซาร์

เช้า : บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

05.00 น. : สำหรับท่านที่สนใจนั่งบอลลูน พร้อมกัน ณ บริเวณล๊อบบี้ **(ทัวร์นั่งบอลลูนนี้ไม่รวมอยู่ในรายการทัวร์  ค่าขึ้นบอลลูนราคาเริ้มต้นที่ 280-350 ดอลล่าสหรัฐ ในกรณีที่ชำระด้วยเงินสด บริษัทตัวแทนผู้ให้บริการทัวร์บอลลูนในตุรกี มีประกันภัยให้กับทุกท่าน แต่สำหรับประกันภัยที่ทำจากเมืองไทย ไม่ครอบคลุมการขึ้นบอลลูน และเครื่องร่อนทุกประเภท  ดังนั้นการเลือกซื้อ Optional Tourรายการนี้ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแต่ละท่าน)**

นำท่านชม นครใต้ดิน(underground city) ซึ่งเกิดจาการขุดเจาะพื้นดินลงไป 10 กว่าชั้น เพื่อใช้เป็นที่หลบภัยจากข้าศึกศัตรูในยามสงคราม ของชาวคัปปาโดเจียในอดีต โดยทั้งจากชาวอาหรับจากทางตะวันออกที่ที่ต้องการเข้ามายึดครองดินแดนนี้เพื่อประโยชน์ทางการค้า และชาวโรมันจากทางตะวันตก ด้วยเหตุผลเดียวกัน รวมทั้งต้องการที่จะหยุดยั้งการเผยแพร่ศาสนาคริสต์ในดินแดนแถบนี้ด้วย โดยชั้นล่างที่ลึกที่สุด ลึกถึง 85 เมตร เมืองใต้ดินแห่งนี้มีครบทุกอย่าง ทั้งห้องโถง, ห้องนอน, ห้องน้ำ, ห้องถนอนอาหาร, ห้องครัว, ห้องอาหาร, โบสถ์, ทางหนีฉุกเฉิน ฯลฯ แม้จะเป็นเมืองขนาดใหญ่ที่ขุดลึกลงไปใต้ดินหลายชั้น แต่ว่าอากาศในนั้นถ่ายเทเย็นสบาย หน้าร้อนอากาศเย็น หน้าหนาวอากาศอบอุ่น มีอุณหภูมิเฉลี่ย 17-18 องศาเซลเซียส และด้วยการออกแบบที่ดี มีทางออกฉุกเฉินที่เป็นทางระบายอากาศไปในตัส ทำให้อากาศถ่ายเทได้สะดวก จากนั้นนำท่านชม หมู่บ้านของนกพิราบ โดยชาวบ้านได้ขุดเจาะโพรง เจาะรูเอาไว้ให้นกมาอยู่อาศัยเพื่อจะได้เก็บขี้นกพิราบไป

เที่ยง : บริการอาหารกลางวัน  ณ ภัตตาคาร

นำท่านสู่ หมู่บ้านอวานอส ซึ่งเป็นหมู่บ้านที่มีชื่อเสียงเกี่ยวกับเครื่องปั้นดินเผา และงานเซรามิก แทบทุกร้านจะมีผลิตภัณฑ์จากงานปั้นวางอยู่หน้าร้าน แต่ในบ้านมีโชว์เครื่องปั้นหม้อทุกบ้าน อวานอสเป็นเมืองเล็กๆที่มีแม่น้ำไหลผ่าน แต่เป็นแม่น้ำที่มีตะกอนแดง ชาวบ้านเลยนำดินจากแม่น้ำมาลองปั้นใช้เป็นอุปกรณ์ ของเครื่องใช้ ที่ใช้ภายในบ้าน เช่น ถ้วย ชาม ไห ฯลฯ ต่อมาได้เริ่มปั้นพวกโอ่ง แจกัน และเครื่องประดับบ้าน ชมการสาธิตการทำเครื่องปั้นดินเผาของแบบดั้งเดิมของชาวคัปปาโดเกีย จากนั้นนำท่านสู่ เมืองอุชิซาร์ เป็นพื้นที่ที่มีจุดเด่นคือภูเขาขนาดใหญ่มีรูพรุนเหมือนรวงผึ้ง รายล้อมไปด้วย หินทรงกระโจม กรวยคว่ำ และเจดีย์เต็มไปหมด ที่สำคัญก็คือส่วนหนึ่งของหินเหล่านี้มีคนอาศัยอยู่ภายใน ในลักษณะ“บ้านถ้ำ” มาช้านานนับจากอดีตถึงปัจจุบัน เป็นการอยู่อาศัยแบบ“เจาะเข้าไป”ภายในหิน โดยไม่มีการ“ทุบทำลายหิน”เหล่านี้ทิ้งเพื่อปรับพื้นที่ให้ราบเรียบแต่อย่างใด ส่วนบ้านที่ปลูกสร้างขึ้นใหม่ก็ทำอย่างกลมกลืน ไม่ทำลายทัศนียภาพ นับเป็นการอยู่อาศัยกับธรรมชาติอย่างอิงแอบพึ่งพิงที่น่ายกย่องเป็นอย่างยิ่ง

ค่ำ : บริการอาหารค่ำ (บุฟเฟ่ต์)  ณ  โรงแรมที่พัก Dedeli Cave Hotel 5*  หรือเทียบเท่า

* หมายเหตุ: กรณีห้องพักของโรงแรมถ้ำเต็ม ขอสงวนสิทธิ์ในการปรับเปลี่ยนเป็นโรงแรมเทียบเท่าแทนระดับเดียวกัน*

วันที่ 8
Carpet school-หุบเขาเดฟเรนท์-PANORAMIC VIEW

เช้า : บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

นำท่านเข้าชมโรงงานผลิตพรม (Carpet School & Factory) ชมวิธีการทอพรมแบบดั้งเดิมซึ่งถือได้ว่าเป็นสินค้าที่มีชื่อเสียงของตุรกี ก่อนจะนำท่านสู่หุบเขาเดฟเรนท์ (Devrent Valley) หุบเขาแห่งจินตนาการ ตื่นตากับอัศจรรย์ของภูมิประเทศที่แปลกตาที่ดูคล้ายพื้นผิวดวงจันทร์ หรือดาวเคราะห์ดวงอื่น ในจักรวาลมากกว่าพื้นผิวโลก เต็มไปด้วยหินรูปทรงแปลกตา Panoramic view ท่านจะได้ชมธรรมชาติแปลกตาของกลุ่มภูเขาหินเป็นรูปกรวยมีหมวกวางอยู่ข้างบนแปลกตาสวยงามมากไม่มีที่ใดเหมือน อิสระให้ท่านเก็บภาพ

เที่ยง : บริการอาหารกลางวัน  ณ ภัตตาคาร

บ่าย : จากนั้นเดินทางสู่เมืองไครซีรี นำท่านสู่ย่านช้อปปิ้งให้ท่านได้มีเวลาเลือกชื้อของฝากต่างๆ ก่อนจะได้เวลาสมควรนำท่านเดินทางสู่สนามบิน Kayseri 

18.15-19.45 : เดินทางสู่สนามบินอิสตันบูล เที่ยวบินที่ TK2015 (บินภายในประเทศ)

**ค่ำ : อิสระอาหารค่ำตามอัธยาศัย**

วันที่ 9
อิสตันบูล-กรุงเทพ

01.45 น. : ออกเดินทางสู่ประเทศไทย โดยเที่ยวบินที่ TK 68 (ใช้เวลาบินประมาณ 9 ชั่วโมง)

15.25 น. : เดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพและความประทับใจ

เงื่อนไข
  1. ค่าตั๋วเครื่องบินไป-กลับ เที่ยวบินชั้นประหยัด(กรุงเทพ-อิสตันบูล-กรุงเทพ) และรวมตั๋วเครื่องบินภายในประเทศตุรกี 1 เที่ยว
  2. ค่าภาษีสนามบิน, ค่าภาษีน้ำมัน, ค่าประกันภัยทางอากาศ, ค่าภาษีประเทศตุรกี
  3. ค่าพาหนะทุกชนิด หรือ รถรับ-ส่ง ระหว่างนำเที่ยวพร้อมคนขับรถที่ชำนาญเส้นทาง
  4. ค่าที่พักห้องละ 2-3 ท่าน ในโรงแรมตามที่ระบุในรายการหรือระดับเดียวกัน
  5. ค่าอาหารทุกมื้อที่ระบุตามรายการ , น้ำดื่มวันละ 1 ขวด
  6. ค่าบัตรเข้าชมสถานที่และการแสดงทุกแห่งที่ระบุตามรายการ
  7. ค่าประกันอุบัติเหตุในระหว่างการเดินทาง คุ้มครองในวงเงินท่านละ 1,000,000.- บาท
  1. ค่าจัดทำหนังสือเดินทาง
  2. ภาษีต่าง ๆ เช่น ภาษี 7% ภาษีหัก ณ ที่จ่าย 3% ฯลฯ
  3. ค่าอาหารและเครื่องดื่มสั่งพิเศษ นอกเหนือรายการ
  4. ค่ายกขนกระเป๋าเดินทางท่านละ 1 ใบ โดยเฉลี่ย 1 USD / ท่าน
  5. ค่าทิปพนักงานขับรถ-ทิปหัวหน้าทัวร์-ทิปไกด์ท้องถิ่น ( 90 USD/ท่าน/ทริป) ชำระพร้อมค่าทัวร์งวดสุดท้าย
  6. ค่าใช้จ่ายส่วนตัวอาทิ ค่าซักรีด, โทรศัพท์-แฟกซ์, เครื่องดื่มมินิบาร์ และค่าใช้จ่ายอื่นๆที่ไม่ได้ระบุในรายการ
  7. ค่าประกันสุขภาพการเดินทาง กรณีป่วยต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลในต่างประเทศ

เงื่อนไขการให้บริการ

  1. ในการจองครั้งแรกมัดจำท่านละ20,000 บาทภายใน3วันหลังจองส่วนที่เหลือทั้งหมดชำระก่อนเดินทาง 30 วัน
  2. เนื่องจากราคานี้เป็นราคาโปรโมชั่น ตั๋วเครื่องบินต้องเดินทางตามวันที่ ที่ระบุบนหน้าตั๋วเท่านั้น จึงไม่สามารถยกเลิก หรือเปลี่ยนแปลงการเดินทางใดๆ ทั้งสิ้น ถ้ากรณียกเลิก หรือเปลี่ยนแปลงการเดินทาง ทางบริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการคืนเงินทั้งหมดให้กับท่าน
  3. เมื่อท่านออกเดินทางไปกับคณะแล้ว ท่านงดการใช้บริการรายการใดรายการหนึ่งหรือไม่เดินทางพร้อมคณะถือว่าท่านสละสิทธิ์ ไม่อาจเรียกร้องค่าบริการ และเงินมัดจำคืน ไม่ว่ากรณีใดๆ ทั้งสิ้นกรณีที่กองตรวจคนเข้าเมืองทั้งที่กรุงเทพฯ และในต่างประเทศปฏิเสธมิให้เดินทางออก หรือเข้าประเทศที่ระบุในรายการเดินทาง บริษัทฯของสงวนสิทธิ์ที่จะไม่คืนค่าบริการไม่ว่ากรณีใดๆ ทั้งสิ้น
Share on social networks
โปรแกรมทัวร์ที่น่าสนใจ