20.00 น. : พร้อมกัน ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศขาออก ชั้น 4 เคาน์เตอร์ สายการบิน TURKISH AIRLINES โดยมีเจ้าหน้าที่บริษัทฯ คอยต้อนรับและอำนวยความสะดวกด้านเอกสาร ติดแท็กกระเป๋าก่อนขึ้นเครื่อง
22.55 น. : นำท่านเดินทางออกสู่ เมืองอิสตันบูล ประเทศตุรเคีย โดย สายการบิน TURKISH AIRLINES
05.45 น. : เดินทางถึง ท่าอากาศยานอิสตันบลู ประเทศตุรเคีย นำท่านผ่านขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมืองและพิธีการทางศุลกากร (เวลาท้องถิ่นช้ากว่าประเทศไทยประมาณ 3 ชั่วโมง กรุณาปรับนาฬิกาของท่านเพื่อความสะดวกในการนัดหมายเวลา)
เช้า : นำทุกท่านเดินทางเยี่ยมชม สุเหร่าสีน้ำเงิน(Blue Mosque) สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ทางศาสนาที่มีความสวยงาม (ภายในอาจมีการปรับปรุง ทำให้บางช่วงไม่สามารถชมด้านในได้) *กรุณาแต่งกายสุภาพ และสุภาพสตรีให้เตรียมผ้าคลุมไว้สำหรับรับใช้คลุมศรีษะระหว่างเที่ยวชม สุเหร่าสีน้ำเงิน* ฮิปโปโดม (Hippodrome) ตั้งอยู่ที่จัตุรัสสุลต่านอาเหม็ดซึ่งคั่นระหว่างมหาวิหารโซเฟีย Hagia Sophia ใช้เป็นสนามแข่งม้าและแข่งรถศึก(Chariot Racing) สุเหร่าเซนต์โซเฟีย (Mosque of Hagia Sophia) เดิมเคยเป็นโบสถ์ของคริสต์ศาสนา นิกายออร์โธดอกส์ ต่อมาถูกเปลี่ยนเป็นสุเหร่า ปัจจุบันเป็นพิพิธภัณฑ์ (ปิดเข้าชมทุกวันจันทร์) จากนั้นพาท่านถ่ายภาพกับ พระราชวังทอปกาปี (Topkapi Palace) อดีตเคยเป็นที่ประทับของสุลต่านแห่งราชวงศ์ออตโตมัน ปัจจุบันพระราชวังทอปกาปีกลายเป็นพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติที่ใช้เก็บ มหาสมบัติอันล้ำค่า (ปิดเข้าชมทุกวันอังคาร)
เที่ยง : รับประทานอาหารเที่ยง (มื้อที่1)
นำท่านเดินทางสู่ เมืองชานัคคาเล่ (Canakkale) เป็นเมืองท่าสำคัญที่มีดินแดนอยู่ในยุโรปและเอเชียเช่นเดียวกับอิสตันบูล เมืองนี้เป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์ของสงครามโลกครั้งที่ 1 เพราะชานัคคาเล่นี้ทหารสัมพันธมิตรได้ยกพลขึ้นบกและทำการรบในสงครามกาลิโปลีหรือกัลป์ลิโปลี โดยทุกๆปีจะมีการจัดงานรำลึกให้กับผู้เสียชีวิตในวัน ANZAC DAY ทุกวันที่ 25 เมษายน ของทุกปี นำทุกท่านเดินทางไปเช็คอินแลนด์มาร์คสำคัญ ม้าไม้เมืองทรอย (Troy) หรือ ม้าโทรจัน (Trojan Horse) เป็นม้าขนาดใหญ่ที่ทำมาจากไม้ในประเทศตุรเคีย ซึ่งมีชื่อเสียงมาจากภาพยนตร์ Troy เป็นม้าไม้ที่โด่งดังที่สุด ม้าไม้เมืองทรอยนี้เกิดขึ้นจากอุบายของโอดิสเซียส ในการทำสงครามบุกเข้าเมืองทรอย เป็นการสู้รบกันระหว่างกองทัพของชาวกรีก และกองทัพของชาวทรอย หรือชาวโทรจันที่มีป้อมปราการแข็งแรง หลังจากที่รบยืดเยื้อมานานกว่า 10 ปีแล้ว ในที่สุดกองทัพกรีกก็ได้คิดแผนการที่จะตีกรุงทรอยให้ได้ โดยการออกอุบายสร้างม้าไม้จำลอง หรือที่เรียกกันว่า ม้าไม้เมืองทรอยขึ้นมา แล้วลากไปวางไว้หน้ากำแพงเมืองทรอย เพื่อให้ทหารกรีกแสร้งทำเป็นถอยออกไป เมื่อชาวทรอยเห็นแล้วเข้าใจว่าเป็นบรรณาการที่ทางฝ่ายกรีกสร้างขึ้นมาเพื่อบูชาเทพเจ้า และถอยไปแล้วจึงลากเข้าไปไว้ในเมืองและฉลองชัยชนะ พอตกดึก ทหารกรีกที่ซ่อนตัวอยู่ในม้าไม้ ก็ได้ไต่ลงมาเผาเมืองและปล้นเมืองทรอยได้เป็นอันสำเร็จ
เย็น : รับประทานอาหารเย็น (มื้อที่ 2)
เช้า : รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม (มื้อที่ 3)
นำท่านเดินทางมุ่งหน้าสู่ เมืองเพอร์กามอน หรือ แบร์กาม่า (Pergamon or Bergama) เป็นเมืองชายฝั่งทะเลเอเจียนของประเทศตุรกี ตั้งอยู่ในจังหวัด อิซเมียร์ ในอดีตกลุ่มชาวกรีก อีโอเลียน(Aeolian) เป็นผู้บุกเบิกในการเข้ามาตั้งรกรากในช่วง 800 ปีก่อนคริสตกาล ปัจจุบันนี้ยังมีซากเมืองโบราณที่ยังคงหลงเหลือไว้ให้ชมกัน จากนั้นพาท่านเดินเล่นเดินชม หมู่บ้านโบราณในเมืองเพอร์กามอน (Pergamon Traditional House Street) เป็นหมู่บ้านดั้งเดิมที่ยังคงรักษาสไตล์ตุรกีไว้เพียงแค่ไม่กี่หลัง แต่ละหลังจะมีสีสันที่สวยงามแปลกตาพร้อมวิวทิวทิศน์ที่น่ารักของหมู่บ้านแห่งนี้อีกด้วย จากนั้นให้ท่านอิสระเดินเล่นและถ่ายรูปชิคๆรอบหมู่บ้านได้ตามอัธยาศัย
เที่ยง : รับประทานอาหารเที่ยง (มื้อที่ 4)
นำท่านเดินทางสู่ เมืองคูซาดาซี (Kusadasi) เป็นท่าเรือธรรมชาติที่ใช้มาตั้งแต่ก่อนคริสตกาลหลังจากที่ตกเป็นอาณาจักรออตโตมัน มหาเสนาดีโอคุซ เมห์เหม็ด พาชา ผู้เป็นวิเซียร์แห่งสุลต่านอาห์เหม็ดที่ 1 และสุสต่านออสมันที่ 2 ได้สร้างสุเหร่าคาไลชิและโรงอาบน้ำ ตลอดจนกำแพงเมืองที่พักสำหรับกองคาราวาน เพื่อให้คูซาดาสึเป็นเมืองท่าที่เหมาะในการทำการค้าระหว่างยุโรปและแอฟริกาใต้ และ คูซาดาสึเพิ่งเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวเมื่อปี ค.ศ.1980
จากนั้นนำท่านเดินทางไปช้อปปิ้งที่ ร้านขนมหวานเตอร์กิช ดีไลท์ (Turkish Delight & Olive Oli Store) เป็นขนมหวานทรงลูกเต๋าที่ประกอบขึ้นจากแป้งและน้ำตาล มักจะมีอัลมอนด์ ถั่วพิสทาชิโอ วอลนัท และแมคคาเดเมียผสมเข้าไปด้วย โดยส่วนมากหน้าตาจะมีสีชมพูเข้ม แต่ก็ดูจางลงไปทันทีเมื่อเสิร์ฟกับน้ำตาลไอซิ่งที่คลุกเคล้าประหนึ่งแป้งฝุ่น ทั้งตัวขนมที่ทำจากน้ำตาลเป็นหลัก คนตุรกีส่วนใหญ่มักจะเสริฟทานพร้อมกับชาหรือกาแฟเพื่อเกลี่ยรสสัมผัส และปัจจุบันเตอร์กิช ดีไลท์ เป็นของฝากยอดนิยมของประเทศตุรกีอีกด้วย จากนั้นพาท่านไป วิหารเทพีอาร์เทมิส (The Temple of Artemis) 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ยุคโบราณ เป็นวิหารสร้างด้วยหินอ่อน เลียบแบบศิลปะแบบกรีกโบราณ สร้างเพื่อถวายเทพเจ้าอาร์เทมีส หรือเทพเจ้าอารเตมิซ (เทพเจ้าแห่งดวงจันทร์ของกรีก) ผู้มาจากสวรรค์ ผู้ช่วยชาวเมืองให้พ้นจากหายนะและภัยพิบัติได้ อยู่ในเมืองอีเฟซุสบนชายฝั่งแห่งหนึ่ง ปัจจุบันนี้คือประเทศตุรเคีย ในรัชสมัยของกษัตริย์อเล็กซานเดอร์แห่งกรีก จัดเป็นวัดที่สวยงามแห่งหนึ่งจนกลายเป็นที่รู้จักว่า เป็นสิ่งมหัศจรรย์ของโลกในยุคเก่า
เย็น : รับประทานอาหารเย็น (มื้อที่ 5)
เช้า : รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม (มื้อที่ 6)
พาทุกท่าน ช้อปปิ้งที่ ศูนย์ผลิตเสื้อหนังคุณภาพสูง ซึ่งตุรเคียเป็นประเทศที่ผลิตหนังที่มีคุณภาพที่สุด อีกทั้งยังผลิตเสื้อหนังส่งให้กับแบรนด์ดังในอิตาลี เช่น Versace , Prada , Michael Kors อิสระให้ท่านเลือกซื้อสินค้าได้ตามอัธยาศัย จากนั้นพาท่านเข้าชม เมืองโบราณเอฟฟิซุส City of Ephesus อาคารที่เป็นสัญลักษณ์ของนครเอฟฟิซุส คือ ห้องสมุดของเซลซุส Library of Celsus และอาคารสำคัญอีกแห่งคือวิหารแห่งจักรพรรดิเฮเดรียน Temple of Hadrian
เที่ยง : รับประทานอาหารเที่ยง (มื้อที่ 7)
นำท่านเดินทางสู่ เมืองปามุคคาเล่ (Pamukkale) เมืองแห่งสปา เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่มีบ่อน้ำพุร้อนธรรมชาติที่มีชื่อเสียงมาก คำว่า “ปามุคคาเล่” ในภาษาตุรเคีย หมายถึง “ปราสาทปุยฝ้าย” เป็นน้ำตกหินปูนสีขาวที่เกิดขึ้นจาการธารน้ำใต้ดินที่มีอุณหภูมิประมาณ 35 องศาเซลเซียส จากนั้นพาท่านชม ปราสาทปุยฝ้าย ปามุคคาเล่ (Cotton castle ) เมืองแห่งน้ำพุเกลือแร่ร้อน นำท่านชมหน้าผาที่ขาวกว้างใหญ่ด้านข้างของอ่างน้ำ เป็นรูปร่างคล้ายหอยแครงและน้ำตกแช่แข็ง ถ้ามองดูจะดูเหมือนสร้างจากหิมะ เมฆหรือปุยฝ้าย น้ำแร่ที่ไหลลงมาแต่ละชั้นจะแข็งเป็นหินปูน ห้อยย้อยเป็น รูปร่างต่าง ๆ อย่างมหัศจรรย์ น้ำแร่นี้มีอุณหภูมิประมาณ 33-35 องศาเซลเซียส ประชาชนจึงนิยมไปอาบหรือนำมาดื่ม เพราะเชื่อว่ามีคุณสมบัติในการรักษาโรคหัวใจ โรคไขข้ออักเสบ ความดันโลหิตสูง โรคทางเดินปัสสาวะ และโรคไต ในอดีตกาลชาวโรมันเชื่อว่าน้ำพุร้อนสามารถรักษาโรคได้
นำท่านเดินทางไปเช็คอินที่ เมืองโบราณเฮียราโพลิส (Hierapolis) นครโบราณเฮียราโพลิส เมืองแห่งความศักสิทธิ์ เมืองนี้มีอายุกว่า 2,200 ปี บริเวณทางเข้าจะพบกับหลุมศพจำนวนมาก พื้นที่ตรงนี้เรียกว่า เนโครโพลิส (Necropolis) เป็นหลุมศพของผู้มีอิทธิพลในสมัยโบราณ และภายในยังมีโบราณสถานมากมาย เช่น สระน้ำโบราณ มีน้ำใสสีฟ้าอมเขียว สามารถมองเห็นซากโบราณที่จมอยู่ใต้น้ำได้ โรงละครขนาดใหญ่ ในอดีตใช้เป็นสถานที่จัดแข่งขันและจัดงานเทศกาลสำคัญต่างๆ พิพิธภัณฑ์เฮียราโพลิส อาคารที่ใช้เป็นพิพิธภัณฑ์ในปัจจุบัน เคยเป็นโรงอาบน้ำกลางแจ้งซึ่งเป็นโรงอาบน้ำที่ใหญ่ที่สุดของเมือง ถูกใช้เป็นพิพิธภัณฑ์มาตั้งแต่ปี ค.ศ.1984 ส่วนภายในพิพิธภัณฑ์นอกจากจะมีผลงานของเฮียราโพลิสแล้วยังมีผลงานจากเมืองอื่นๆอีกมากมายอีกด้วย
เย็น : รับประทานอาหารเย็น (มื้อที่ 8)
เช้า : รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม (มื้อที่ 9)
นำท่านออกเดินทางสู่ เมืองคอนย่า (Konya) เป็นเมืองที่นิยมใช้เป็นจุดพักของการเดินทางในอดีตเคยเป็นเมืองหลวงของอาณาจักรเซลจุกเติร์ก ซึ่งเป็นอาณาจักรแห่งแรกของชาวเติร์กในตุรเคีย หรือที่ยุคนั้นเรียกอนาโตเลียเป็นอู่ข้าวอู่น้ำของประเทศ
เที่ยง : รับประทานอาหารเที่ยง (มื้อที่ 10)
นำทุกท่านแวะถ่ายภาพกับประตูหินอ่อนด้านหน้า Sultan Han Caravanserai หรือที่รู้จักกันในชื่อ สุลต่านฮานี เป็นที่พักกองคาราวานในอดีต ตั้งอยู่ที่หมู่บ้านสุลต่านฮานี สร้างโดยสุลต่านอาเลดดิน เคย์โคบาท ราวศตวรรษที่ 13 ประตูทำด้วยหินอ่อนสกัดลวดลายโบราณ ตรงกลางเป็นสุเหร่า ส่วนบริเวณอื่นในอดีตใช้เป็นครัว ห้องน้ำ และห้องนอน นำท่านเดินทางสู่ เมืองคัปปาโดเกีย (Cappadocia) ซึ่งองค์การยูเนสโก้ได้ประกาศให้เป็นเมืองมรดกโลก เมืองที่มีลักษณะภูมิประเทศสวยงามมาก
เย็น : รับประทานอาหารเย็น (มื้อที่ 8)
เช้า : รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม (มื้อที่ 12)
นำท่านเดินทางชม ปราสาทหินยูชิซาร์ (Uchisar Castle) เป็นปราสาทหินธรรมชาติตั้งแต่สมัยโรมันไบเซนไทน์ ที่ในอดีตใช้เป็นป้อมปราการสำหรับส่งสัญญาณเตือนภัย ปราสาทหินธรรมชาติแห่งนี้เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่คุ้มค่ากับการมาชมอย่างยิ่ง เพราะนอกจากชมปราสาทหินธรรมชาติอันน่าทึ่งเหล่านี้แล้ว และยังได้ชมทัศนียภาพที่สวยงามแบบพาโนราอีกด้วย จากนั้นนำท่านเดินทางไปถ่ายภาพที่ หุบเขานกพิราบ (Pigeon Valley) เป็นจุดชมวิวที่อยู่ตรงบริเวณหน้าผาที่ชาวเมืองโบราณได้ขุดเจาะเป็นรูไว้ เพื่อให้นกพิราบเข้าไปทำรังอาศัยอยู่อย่างมากมาย สามารถมองเห็นปราสาทอุชิซาร์ ได้จากระยะไกล บริเวณริมผามีต้นไม้จำลองที่เต็มไปด้วยดวงตาสีฟ้าแขวนอยู่โดดเด่น ด้วยเรื่องของความเชื่อกับผู้คนนั้นเป็นของคู่กันมาเนิ่นนาน เช่นกันกับดินแดนแถบนี้ที่มีความเชื่อเรื่องนัยน์ตาปิศาจ
พาทุกท่านแวะช้อปปิ้งที่ ร้านจิวเวอร์รี่ ชมความสวยงามของเพชรและอัญมณีที่หลากหลาย อิสระกับการเลือกซื้อสินค้าเครื่องประดับเพื่อเป็นของที่ระลึกได้ตามอัธยาศัย
เที่ยง : รับประทานอาหารเที่ยง (มื้อที่ 13)
จากนั้นพาทุกท่าน ช้อปปิ้งที่ ร้านเครื่องปั้นดินเผา ของเรา ชิ้นงานแฮนด์เมดที่ไม่ซ้ำใคร มีไม่กี่ชิ้น และมีเอกลักษณ์เป็นของตัวเองในแต่ละผลงาน เหมาะสำหรับท่านที่ชอบสะสมสิ่งของเหล่านี้ มีตั้งแต่ ถ้วย ชาม จาน แจกัน โคมไฟ รวมไปถึงของแต่งบ้านมากมาย
เย็น : รับประทานอาหารเย็น (มื้อที่ 14)
พิเศษ!!! นำท่านชม ระบำหน้าท้องตรุเคีย (Belly Dance) เป็นการเต้นรำที่เชื่อกันว่าเก่าแก่สุดอย่างหนึ่ง มีรากสืบสาวได้ถึง 6,000 ปี ในดินแดนแถบทะเลเมดิเตอร์เรเนียน สัมพันธ์กับวัฒนธรรมบูชาพระแม่ผู้เป็นแหล่งที่มาของพลังชีวิต และมีพิธีกรรมเกี่ยวพันกับความอุดมสมบูรณ์ เอื้อให้การคลอดลูกเป็นไปโดยสวัสดิภาพ แต่เดิมจึงเป็นการร่ายรำที่เน้นการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อท้องและสะโพก ช่วยให้นางรำมีร่างกายแข็งแรง (พร้อมเสิร์ฟ Local Drink ไม่จำกัด) จากนั้นนำท่านเข้าสู่ที่พักแรมพักผ่อนตามอัธยาศัย
เช้า : รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม (มื้อที่ 15)
นำทุกท่านเดินทางสู่ หุบเขาเกอเรเม (Goreme Valley) มีเอกลักษณ์คือภูมิทัศน์อันสวยงามและน่าอัศจรรย์ ซึ่งรอบๆ บริเวณนี้เต็มไปด้วยหินรูปทรงประหลาดต่างๆ เป็นจำนวนมากที่สร้างขึ้นโดยธรรมชาติ ผู้คนนิยมมาถ่ายภาพเช็คอินและยังสามารถชมทัศนียภาพอันงดงามแบบพาโนรามาได้อีกด้วย จากนั้นพาท่านแวะช้อปปิ้งที่ โรงงานทอพรม (Carpet) สำหรับผู้หลงใหลและรักในศิลปะโบราณแห่งพรมเปอร์เซีย ด้วยคอลเลคชั่นพรมที่หลากหลายทั้งแบบทอมือ และทอเครื่องจักรที่สามารถทำให้บ้านลูกค้ามีสิ่งแวดล้อมที่ดีโดยพิมพ์ที่คมชัดสวยงาม อิสระกับการเลือกซื้อสินค้าเพื่อเป็นของที่ระลึกได้ตามอัธยาศัย
จากนั้นพาทุกท่านเที่ยวชม นครใต้ดินชาดัค Cardak Underground City ภูเขาหินที่ถูกเปลี่ยนเป็นเมืองใต้ดิน มี facilities ครบ มีการแบ่งซอยห้องแบบบ้านในปัจจุบัน ห้องครัว ห้องนอน ห้องส่วนกลางไว้ทำกิจกรรม หรือพื้นที่สำหรับจอดสัตว์เลี้ยง ส่วนเหตุที่เขาต้องสร้างเมืองใต้ดิน เพื่อใช้เป็นที่หลบซ่อนของชาวเมืองจากการรุกรานของข้าศึกในสมัยทำสงคราม ใช้อยู่อาศัยกันนานเป็นเดือน มีทางหนีฉุกเฉิน และระบบระบายอากาศอันยอดเยี่ยม สามารถเข้าไปทีเดียว 10 คนก็ยังรู้สึกหายใจได้โล่ง นับเป็นสิ่งมหัศจรรย์ที่สร้างจากฝีมือมนุษย์ในยุคอดีต
16.35 : บินภายในประเทศสู่ ท่าอากาศยานไคเซรี เที่ยวบิน TK2013 ใช้เวลาบิน 1 ชั่วโมง
18.10 : ท่าอากาศยานอิสตันบลู ประเทศตุรเคีย เพื่อเดินทางกลับสู่กรุงเทพฯ
20.55 : เดินทางกลับ กรุงเทพฯ โดยสายการบิน TURKISH AIRLINES
10.10 : เดินทางถึง ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพ
หมายเหตุ : กรุณาอ่านศึกษารายละเอียดทั้งหมดก่อนทำการจอง เพื่อความถูกต้องและความเข้าใจตรงกันระหว่างท่านลูกค้าและบริษัท ฯ และเมื่อท่านตกลงชำระเงินมัดจำหรือค่าทัวร์ทั้งหมดกับทางบริษัทฯ แล้ว ทางบริษัทฯ จะถือว่าท่านได้ยอมรับเงื่อนไขข้อตกลงต่างๆ ทั้งหมด