กัสโต้ เวิล์ด ทัวร์

บริการคุณภาพ ทุกเส้นทางท่องเที่ยว

เลขที่ 11/03295

ทัวร์ตุรกี TURKIYE TULIP & SPRING

รหัส 011-3266
วันที่เดินทาง
เม.ย.66 - พ.ค.66
ช่วงเวลา
9 วัน 6 คืน
ราคาเริ่มต้น
37,888 บาท
แผนการเดินทาง
วันที่ 1
สนามบินสุวรรณภูมิ

20.00 .       คณะพร้อมกัน  ณ สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศ ชั้น 4 ประตู 7 เคาน์เตอร์ N  สายการบิน TURKISH AIRLINE (TK) มีเจ้าหน้าที่บริษัทฯคอยต้อนรับและอำนวยความสะดวกด้านเอกสารการเดินทาง

23.05 น.       ออกเดินทางสู่ เมืองอิสตันบูล ประเทศตุรกี โดยสายการบิน TURKISH AIRLINES (TK)  เที่ยวบินที่ TK69 (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง) (ใช้เวลาบินประมาณ 10.25 ชั่วโมง) สายการบินฯ บริการอาหารค่ำและอาหารเช้าระหว่างเที่ยวบินสู่นครอิสตันบูล ประเทศตุรกี

วันที่ 2
20.00 น. คณะพร้อมกัน ณ สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศ ชั้น 4 ประตู 7 เคาน์เตอร์ N สายการบิน TURKISH AIRLINE (TK) มีเจ้าหน้าที่บริษัทฯคอยต้อนรับและอำนวยความสะดวกด้านเอกสารการเดินทาง 23.05 น. ออกเดินทางสู่ เมืองอิสตันบูล ประเทศตุรกี โดยสายการบิน TURKISH AIRLINES (TK) เที่ยวบินที่ TK69 (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง) (ใช้เวลาบินประมาณ 10.25 ชั่วโมง) สายการบินฯ บริการอาหารค่ำและอาหารเช้าระหว่างเที่ยวบินสู่นครอิสตันบูล ประเทศตุรกี

05.15 น.       เดินทางถึง สนามบินอิสตันบูล (ISTANBUL AIRPORT) สนามบินใหม่ที่ใหญ่ที่สุดของประเทศตุรเคีย  นำท่านผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมือง,ศุลกากรและรับสัมภาระเรียบร้อย (เวลาประเทศตุรเคียช้ากว่าประเทศไทย 4-5 ชั่วโมง กรุณาปรับเวลาให้ตรงตามเวลาท้องถิ่น เพื่อความสะดวกในการนัดหมาย) ในฤดูหนาว ตุรเคียจะช้ากว่าไทย 5 ชม. (เริ่มประมาณเดือนตุลาคม-กุมภาพันธ์) และฤดูร้อน (เริ่มประมาณ มีนาคม-กันยายน) ตุรเคียจะช้ากว่าเมืองไทย 4 ชั่วโมง

นำท่านชม สุเหร่าเซนต์โซเฟีย (MOSQUE OF HAGIA SOPHIA) หรือวิหารเซนต์โซเฟีย หรือ HAGHIA SOFIA (ฮายาโซฟีอา) บางคนอาจออกเสียงฮาเกียโซเฟีย หรือในภาษาตุรเคียเรียก AYASOFYA เซนต์โซเฟีย แปลว่า โบสถ์แห่งปัญญาอันศักดิ์สิทธิ์ คำว่า “SOFIA” มาจากคำในภาษากรีกที่แปลว่า “ปัญญา” จึงไม่มีความเกี่ยวข้องกับนักบุญที่ชื่อ SOFIA แต่อย่างใด เซนต์โซเฟียนับเป็นสิ่งก่อสร้างจากฝีมือมนุษย์ที่มีความสวยงามอลังการ ตั้งอยู่ในกรุงคอนสแตนติโนเปิล (CONSTANTINOPLE) หรือปัจจุบันคือกรุงอิสตันบูล ประเทศตุรเคีย สุเหร่าแห่งนี้เป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกลำดับที่ 8 ในยุคกลาง สร้างในสมัยของจักรพรรดิจัสติเนียน แห่งจักรวรรดิไบแซนไทน์

นำท่านชม  สุเหร่าสีน้ำเงิน (BLUE MOSQUE) หรือ SULTAN  AHMET MOSQUE ถือเป็นสุเหร่าที่มีสถาปัตยกรรมเป็นสุดยอดของ 2 จักรวรรดิ คือ ออตโตมันและไบเซนไทน์ เพราะได้รวบรวมเอาองค์ประกอบจากวิหารเซนต์โซเฟียผนวกกับสถาปัตยกรรมแบบอิสลามดั้งเดิม ถือว่าเป็นมัสยิดที่ใหญ่ที่สุดในตุรเคีย สามารถจุคนได้เรือนแสน ใช้เวลาในการก่อสร้างนานถึงระหว่างปี ค.ศ. 1609-1616 โดยตั้งชื่อตามสุลต่านผู้สร้างซึ่งก็คือ SULTAN AHMED นั้นเอง

นำท่านชม สุเหร่าเซนต์โซเฟีย (MOSQUE OF HAGIA SOPHIA) หรือวิหารเซนต์โซเฟีย หรือ HAGHIA SOFIA (ฮายาโซฟีอา) บางคนอาจออกเสียงฮาเกียโซเฟีย หรือในภาษาตุรเคียเรียก AYASOFYA เซนต์โซเฟีย แปลว่า โบสถ์แห่งปัญญาอันศักดิ์สิทธิ์ คำว่า “SOFIA” มาจากคำในภาษากรีกที่แปลว่า “ปัญญา” จึงไม่มีความเกี่ยวข้องกับนักบุญที่ชื่อ SOFIA แต่อย่างใด เซนต์โซเฟียนับเป็นสิ่งก่อสร้างจากฝีมือมนุษย์ที่มีความสวยงามอลังการ ตั้งอยู่ในกรุงคอนสแตนติโนเปิล (CONSTANTINOPLE) หรือปัจจุบันคือกรุงอิสตันบูล ประเทศตุรเคีย สุเหร่าแห่งนี้เป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกลำดับที่ 8 ในยุคกลาง สร้างในสมัยของจักรพรรดิจัสติเนียน แห่งจักรวรรดิไบแซนไทน์

นำท่านชม  สุเหร่าสีน้ำเงิน (BLUE MOSQUE) หรือ SULTAN  AHMET MOSQUE ถือเป็นสุเหร่าที่มีสถาปัตยกรรมเป็นสุดยอดของ 2 จักรวรรดิ คือ ออตโตมันและไบเซนไทน์ เพราะได้รวบรวมเอาองค์ประกอบจากวิหารเซนต์โซเฟียผนวกกับสถาปัตยกรรมแบบอิสลามดั้งเดิม ถือว่าเป็นมัสยิดที่ใหญ่ที่สุดในตุรเคีย สามารถจุคนได้เรือนแสน ใช้เวลาในการก่อสร้างนานถึงระหว่างปี ค.ศ. 1609-1616 โดยตั้งชื่อตามสุลต่านผู้สร้างซึ่งก็คือ SULTAN AHMED นั้นเอง

อิสระอาหารกลางวันตามอัธยาศัย

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่  เมืองอังการา (ANKARA)  เมืองหลวงของประเทศตุรเคีย เมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสองรองจากอิสตันบูล มีความสำคัญทั้งทางธุรกิจและอุตสาหกรรม เป็นศูนย์กลางของรัฐบาลตุรเคียและเป็นที่ตั้งของสถานทูตประเทศต่างๆ ศูนย์กลางของการค้าขาย ให้ท่านอิสระพักผ่อนบนรถชมวิวเมือง (ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 5 ชม.)

ค่ำ : รับประทานอาหารค่ำ

วันที่ 3
เมืองอังการา - ทะเลสาบเกลือ - เมืองคัปปาโดเกีย - เกอเรเม่ - หุบเขาเดฟเรนท์ - นครใต้ดินซาดัค

เช้า : รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

นำท่านเดินทางสู่  เมืองคัปปาโดเกีย (CAPPADOCIA)  มาจากภาษาเปอร์เชีย คัตปาตุกา (KATPATUKA) เมืองมหัศจรรย์ที่ได้รับการประกาศจากองค์การยูเนสโกให้เป็นเมืองมรดกโลก เมื่อปี ค.ศ.1985 เมืองนี้เกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟและถูกลาวาปกคลุมหลายพื้นที่ทับถมกันเป็นระยะเวลายาวนานจนกลายเป็นหิน ผ่านลม,ฝน,พายุ ปัจจุบันเกิดเป็นภูมิประเทศที่มีความสวยงามแปลกตาจนกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่นิยมสำหรับนักท่องเที่ยวและอีกไฮไลท์ของเมืองนี้คือเป็นจุดขึ้นบอลลูนที่มีวิวสวยงามที่สุด  (ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 4 ชม.)

ระหว่างทาง แวะถ่ายรูป  ทะเลสาบเกลือ (LAKE TUZ)  ทะเลสาบที่ใหญ่เป็นอันดับสองในตุรเคียและเป็นหนึ่งในทะเลสาบน้ำเค็มที่ใหญ่ที่สุดในโลก

เที่ยง : รับประทานอาหารกลางวัน

นำท่านสู่จุดชมวิว เกอเรเม่ สถานที่แห่งนี้เกิดขึ้นจากการขุดเจาะถ้ำหินหลายลูกเพื่อทำเป็นโบสถ์สำหรับเป็นศูนย์รวมของผู้ที่นับถือศาสนาคริสต์ เป็นถิ่นฐานที่ตั้งของผู้คนตั้งแต่ก่อนคริสตกาลและยังเป็นสถานที่ซึ่งชาวคริสเตียนยุคแรกใช้หลบหนีภัยการล่าสังหารจากจักวรรดิโรมัน ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโกในปี ค.ศ. 1985 ปัจจุบันเป็นพิพิธภัณฑ์แบบเปิดที่แสดงเรื่องราวชีวิตความเป็นอยู่ของชาวคัปปาโดเชียน (CAPPADOCIAN)

นำท่านชมวิวของ หุบเขาเดฟเรนท์ (DEVRENT VALLEY) เป็นที่รู้จักกันในชื่อเรียกว่า หุบเขาแห่งมโนคติ (IMAGINARY VALLY) และ หุบเขาสีชมพู (PINK VALLEY) ที่มีชื่อว่าหุบเขาแห่งมโนคติก็เนื่องมาจากบรรดาหินรูปทรงแปลกประหลาดซึ่งมีอยู่จำนวนมากมายที่ชวนให้ต้องใช้จินตนาการในการมอง

นำท่านชม นครใต้ดินชาดัค (UNDERGROUND CITY OF CHADAK) เมื่อ 2-3 พันปีก่อนคริสตกาล ชาวคัปปาโดเชียได้มีการสร้างเมืองใต้ดินเพื่อเป็นหลุมหลบภัยจากการบุกรุกของชาวโรมัน ขุดเจาะไปเรื่อยๆ จนใต้พื้นดินคัปปาโดเชียกลายเป็นเมืองอีกหลายๆ เมือง ภายในมีทั้ง โบสถ์คริสจักร โรงเรียนสอนศาสนา โรงเก็บไวน์ คอกไม้ บ่อน้ำ ห้อง โถง ห้องนอน ห้องน้ำ ห้องถนอมอาหาร ห้องครัว ห้องอาหาร ฯลฯ และยังมีอีกหลายส่วนที่ยังไม่ได้ขุดค้น ให้ท่านได้ชมความมหัศจรรย์เมืองใต้ดินและเก็บภาพประทับใจตามอัธยาศัย จนถึงเวลาอันสมควร

ค่ำ : รับประทานอาหารค่ำ

วันที่ 4
เมืองคัปปาโดเกีย - *OPTION TOUR ขึ้นบอลลูนชมเมืองคัปปาโดเกีย* หรือ JEEP SAFARI หรือ CLASSIC CAR* - หุบเขานกพิราบ - หุบเขาอุซิซาร์ - หุบเขาพาซาแบค - เมืองคอนย่า - คาราวานซาราย - พิพิธภัณฑ์เมฟลานา

เช้า : รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

แวะถ่ายรูป หุบเขานกพิราบ (PIGEON VALLEY)  จุดชมวิวอยู่ตรงบริเวณหน้าผาที่ชาวเมืองโบราณได้ขุดเจาะเป็นรู เพื่อให้นกพิราบเข้าไปทำรังอาศัยอยู่  ชาวบ้านเลี้ยงนกพิราบไว้เพื่อนำมูลมาทำเป็นปุ๋ยบำรุงต้นไม้ จากจุดชมวิวสามารถมองเห็นปราสาทอุชิซาร์ (UCHISAR CASTLE) และยังมีต้นไม้จำลองที่เต็มไปด้วยดวงตาสีฟ้าแขวนอยู่โดดเด่น อิสระถ่ายภาพตามอัธยาศัย

แวะถ่ายรูป       หุบเขาอุซิซาร์ (UCHISAR VALLEY) หุบเขาคล้ายจอมปลวกขนาดใหญ่ ใช้เป็นที่อยู่อาศัย ซึ่งหุบเขาดังกล่าวมีรูพรุน มีรอยเจาะ รอยขุด อันเกิดจากฝีมือมนุษย์ไปเกือบทั่วทั้งภูเขา เพื่อเอาไว้เป็นที่อยู่อาศัย

นำท่านผ่านชม หุบเขาพาซาแบค (PASABAG VALLEY) กลุ่มภูเขาหินแปลกตารูปกรวยคล้ายมีหมวกวางอยู่บนสุด อดีตเมื่อ 1,500 ปีที่แล้วสถานที่แห่งนี้เคยเป็นที่พำนักของบาทหลวงไซมอนที่เดินทางมาเพื่อปลีกวิเวก แสวงหาที่ปฏิบัติธรรมและได้มาเจอสถานที่แห่งนี้ (HERMITAGE OF ST.SIMON) และเป็นที่นิยมสำหรับพระอีกหลายองค์ในเวลาต่อมา จนได้รับอีกสมญาว่า THE VALLEY OF THE MONKS

เที่ยง : รับประทานอาหารกลางวัน

เดินทางสู่  เมืองคอนย่า (KONYA) ในอดีตเคยเป็นเมืองหลวงของอาณาจักรเซลจุกเติร์ก (ค.ศ. 1077-1118) อาณาจักรแห่งแรกของชาวเติร์กในตุรเคีย หรือที่ยุคนั้นเรียกอนาโตเลีย เป็นอู่ข้าวอู่น้ำของประเทศ คนส่วนใหญ่มีอาชีพทำนา มีการปลูกฝิ่นและผลไม้อร่อย เมืองนี้มีประวัติที่เก่าแก่มาก เป็นที่ตั้งของสุสานเมฟลานา ผู้ริเริ่มการทำสมาธิแบบเป็นวงกลม ในแต่ละปีจึงมีผู้แสวงบุญมาเยือนที่นี่กันเป็นจำนวนมาก (ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 3 ชม.) ระหว่างทางแวะถ่ายรูป คาราวานซาราย        (CARAVANSARAI) ที่พักของกองคาราวานในสมัยโบราณ เป็นสถานที่พักแรมของกองคาราวานตาเส้นทางสายไหมและชาวเติร์กสมัยออตโตมัน

นำท่านชม พิพิธภัณฑ์เมฟลานา (MEVLANA MUSEUM) ได้รับการประกาศรับรองให้เป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโกแห่งสหประชาชาติ เป็นที่ตั้งของสำนักพวกเดอร์วิช (DERVISH) มีหน้าที่ในการชักชวนพลเมืองชาวคริสต์ในคาบสมุทรอนาโตเลีย ให้หันมานับถือศาสนาอิสลาม และลดช่องว่างระหว่างราษฏรกับผู้ปกครองชาวเซลจุก ส่วนหนึ่งของพิพิธภัณฑ์นี้เป็นสุสานของเมฟานา เจลาเลดดิน ภายนอกเป็นหอทรงกระบอกปลายแหลมสีเขียวสดใส ภายในประดับประดาฝาผนังแบบมุสลิม โดยใช้สีมากมายตระการตา ซึ่งหาชมได้ยาก และยังเป็นสุสานสำหรับผู้ติดตาม สานุศิษย์ บิดา และบุตรของเมฟลานาด้วย

ค่ำ : รับประทานอาหารค่ำ

วันที่ 5
เมืองอิสปาร์ต้า - *สวนดอกไม้ หรือ สวนผลไม้ - เมืองปามุคคาเล่ - ปราสาทปุยฝ้าย - เฮียราโพลิส

เช้า : รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

นำท่านเดินทางสู่ เมืองอิสปาร์ตา (ISPARTA) เป็นที่รู้จักกันในนาม “เมืองแห่งดอกกุหลาบ” เนื่องจากเมืองแห่งนี้ปลูกดอกกุหลาบส่งออกให้กับประเทศฝรั่งเศส เพื่อผลิตน้ำหอม ระหว่างทางนำท่านเที่ยวชม สวนดอกไม้ หรือ สวนผลไม้ (FARM) ตามฤดูกาลนั้นๆ ซึ่งบริเวณเมืองนี้ เป็นพื้นที่ลุ่มสลับกับภูเขารายล้อม จึงมีพื้นที่ในการปลูกดอกไม้ ผลไม้ตามฤดูกาลอย่างมากมาย ให้ท่านได้อิสระลิ้มลองรสชาติของผลไม้และอิสระให้ได้เก็บภาพบรรยากาศสวยงามภายในสวนตามอัธยาศัย (ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 2 ชม.)

เที่ยง : รับประทานอาหารกลางวัน

เดินทางสู่  เมืองปามุคคาเล่ (PAMUKKALE) แปลว่า ปราสาทปุยฝ้าย (COTTON CASTLE) อยู่ในเมืองชื่อเดียวกัน จังหวัดเดนิซลี ประเทศตุรเคีย เป็นเนินเขาหินปูนสีขาว มีความยาวประมาณ 2.7 กิโลเมตร สูง 160 เมตร เกิดจากน้ำพุร้อนที่นำแคลเซียมคาร์บอเนตมาตกตะกอน ปามุคคาเล่ ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นแหล่งมรดกโลกร่วมกับฮีเอราโปลิสซึ่งเป็นเมืองโบราณที่ตั้งอยู่บนปามุคคาเล่ ใน พ.ศ. 2531 (ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 5 ชม.)

นำท่านชม  ปราสาทปุยฝ้าย (PAMUKKALE)  น้ำตกหินปูนสีขาวที่เกิดขึ้นจากธารน้ำใต้ดินที่มีอุณหภูมิประมาณ 35 องศาเซลเซียส ซึ่งเป็นแร่หินปูนผสมอยู่ในปริมาณที่สูงมากไหลลงมาจากภูเขา “คาลดากึ” ที่ตั้งอยู่ห่างออกไปทางทิศเหนือ และทำปฏิกิริยาจับตัวแข็งเกาะกันเป็นริ้ว เป็นแอ่ง เป็นชั้น ลดหลั่นกันไปตามภูมิประเทศ เกิดเป็นประติมากรรมธรรมชาติ อันสวยงามแปลกตาที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ จนทำให้ปามุคคาเล่และเมืองเฮียราโพลิสได้รับการยกย่องจากองค์การยูเนสโกให้เป็นมรดกโลกทางธรรมชาติและวัฒนธรรมในปี ค.ศ. 1988 ชมความสวยงามของแอ่งน้ำหินปูนธรรมชาติตัดกับหน้าผาที่กว้างขวางมีลักษณะสวยงามมหัศจรรย์แตกต่างออกไปมากมายคล้ายหิมะ ก้อนเมฆหรือปุยฝ้ายน้ำแร่มีอุณหภูมิประมาณ 33 – 35.5 องศาเซลเซียส อิสระเก็บภาพประทับใจจนถึงเวลาอันสมควร

นำท่านชม  เมืองเฮียราโพลิส (HIERAPOLIS) เมืองโรมันโบราณที่สร้างล้อมรอบบริเวณที่เป็นน้ำพุเกลือแร่ร้อนซึ่งเชื่อกันว่ามีสรรพคุณในการรักษาโรคเมื่อเวลาผ่านไปภัยธรรมชาติได้ทำให้เมืองนี้เกิดการพังทลายลงเหลือเพียงซากปรักหักพังกระจายอยู่ทั่วไป เช่นโรงละครแอมฟิเธียร์เตอร์ขนาดใหญ่ วิหารอพอลโล สุสานโรมันโบราณ

ค่ำ : รับประทานอาหารค่ำ

วันที่ 6
เมืองคูซาดาซี - เมืองโบราณเอฟฟิซุส - เมืองอิซเมียร์ - ตลาดเคเมอราติ

เช้า : รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

เดินทางสู่  เมืองคูซาดาซี (KUSADASI)  เมืองท่าที่สำคัญทางการค้าอีกเมืองหนึ่งของตุรเคียที่เป็นสถานที่ตั้งของโบราณสถานที่สำคัญสิ่งมหัศจรรย์ยุคโบราณ (ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 3 ชม.) 

นำท่านชม เมืองโบราณเอฟิซุส (EPHESUS) เมืองโบราณที่มีการบำรุงรักษาไว้เป็นอย่างดีเมืองหนึ่ง เคยเป็นที่อยู่ของชาว (IONIA) จากกรีก ซึ่งอพยพเข้ามาปักหลักสร้างเมือง ซึ่งรุ่งเรืองขึ้นในศตวรรษที่ 6 ก่อนคริสต์กาล ต่อมาถูกรุกรานเข้ายึดครองโดยพวกเปอร์เซียและกษัตริย์อเล็กซานเดอร์มหาราช ภายหลังเมื่อโรมันเข้าครอบครองก็ได้สถาปนาเอฟฟิซุส ขึ้นเป็นเมืองหลวงต่างจังหวัดของโรมัน

เที่ยง : รับประทานอาหารกลางวัน

นำท่านเดินทางสู่ เมืองอิซเมียร์ หรืออิซมีร์ (IZMIR) เป็นมหานครในปลายสุดทางตะวันตกของอานาโตเลีย ถือว่าเป็นเมืองที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับสามของประเทศตุรเคีย เป็นรองแค่อิสตันบูล กับอังการา และเป็นเมืองริมทะเลอีเจียนที่มีประชากรหนาแน่นที่สุดรองจากเอเธนส์  ถูกล้อมรอบไปด้วยภูเขาอีกทั้งยังถือว่าเป็นเมืองที่ค่อนข้างพลุกพล่านไปด้วยผู้คนรวมไปถึงถนนที่ค่อนข้างกว้าง อาคารกระจกและศูนย์ช็อปปิ้งที่ทันสมัย เที่ยวชม ย่านเมืองเก่าอิซเมียร์ ห้ามพลาดกับ จัตุรัสโคนัค (KONAK SQUARE ), หอนาฬิกาอิซเมียร์ (IZMIR CLOCK TOWER) เป็นต้น (ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 2 ชม.)

จากนั้นให้ท่านอิสระ ชม ชิม ช้อป ที่ ตลาดเคเมอราลติ (KEMERALTI MARKET) ตลาดเก่าแก่ของเมืองอิซเมียร์ที่มีมาตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 17 แม้ตลาดท้องถิ่นแห่งนี้ไม่ได้ยิ่งใหญ่เท่าแกรนด์บาซาร์ในอิสตันบูล แต่ก็เป็นที่ตั้งของร้านค้ามากมาย และจำหน่ายสินค้าทุกประเภทเท่าที่จะเป็นไปได้ 

ค่ำ : รับประทานอาหารค่ำ

วันที่ 7
ชมย่านเมืองเก่าอิซเมียร์ - จัตุรัสโคนัค - หอนาฬิกาอิซเมียร์ - เมืองชานัคคาเล่ - ม้าไม้จำลองเมืองทรอย

เช้า : รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม 

นำท่านเดินทางสู่ จัตุรัสโคนัค (KONAK SQUARE) ที่สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1901 ตั้งอยู่ในใจกลางเมืองอิซเมียร์ โดยมี หอนาฬิกาอิซเมียร์ (IZMIR CLOCK TOWER) เป็นสัญลักษณ์สำคัญของจังหวัดอิซเมียร์ที่มีความงดงามและมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ของประเทศตุรกี ครั้งหนึ่งภาพของหอนาฬิกาแห่งนี้ยังเคยปรากฏอยู่บนธนบัตรใบละ 500 ลีราตุรกี ในช่วงปีค.ศ. 1983 – 1989 มาแล้วด้วยเช่นกัน

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่  ชานัคคาเล่ (CANAKKALE)  เมืองท่าที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งของตุรเคียมีดินแดนอยู่ในยุโรปและเอเชียเช่นเดียวกับอิสตันบูล เมืองนี้เป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์ของสงครามโลกครั้งที่ 1 เพราะที่ชานัคคาเล่นี้ทหารสัมพันธมิตรได้ยกพลขึ้นบกและทำการรบในสงครามกาลิโปลี (GALLIPOLI)หรือ กัลป์ลิโปลีโดยในทุกๆปีจะมีการจัดงานรำลึกให้กับผู้เสียชีวิตในวัน ANZAC DAY ทุกวันที่ 25 เมษายน ทุกปี ในสงครามโลกครั้งที่ 1 ตุรเคียเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ แต่กลับชนะในสงคราม กัลป์ลิโผลี จนทำให้นายพล มุสตาฟา เคมาล ปาชา (MUSTAFA KEMAL PASHA) กลายเป็นมหาวีรบุรุษสำคัญของชาติ ซึ่งต่อมา มุสตาฟา เคมาล ปาชา ก็คือ อตาเติร์ก บิดาแห่งชาติตุรเคีย (ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 5 ชม.)

อิสระอาหารกลางวันตามอัธยาศัย

แวะถ่ายรูป   HOLLYWOOD ม้าไม้จำลองเมืองทรอย (WOODEN HORSE OF TROY) ซึ่งอยู่ใจกลางเมืองชานัคคาเล่ ม้าไม้เมืองทรอยตามเรื่องเล่านั้นเกิดจากการต่อสู้ระหว่างกองทัพกรีกและกรุงทรอย ต่อสู้กันนานนับสิบปี กองทัพกรีกจึงคิดแผนการที่จะตีกรุงทรอยโดยการสร้างม้าไม้ โดยทหารกรีกได้เข้าไปซ่อนตัวอยู่ภายในซอกต่างๆของม้าและเข็นไปไว้หน้าเมืองทรอย ชาวเมืองทรอยเห็นก็นึกว่ากองทัพกรีกได้ถอยทัพยอมแพ้ไปแล้วและมอบม้าไม้จำลองเป็นของขวัญ จึงเข็นเข้าไปไว้ในเมือง ตกกลางคืนชาวทรอยนอนหลับหมด ทหารที่ซ่อนอยู่ในม้าก็ออกมาเปิดประตูให้กองทัพกรีกเข้ามาทำการยึด และเผากรุงทรอยจนย่อยยับ ซึ่งม้าไม้จำลองแห่งเมืองทรอยที่เห็นอยู่ในเมือง   ชานัคคาเล่ นี้ได้รับมาจาก  กองถ่ายทำละคร วอเนอร์ บราเธอร์ ใช้ถ่ายทำละคร เรื่องทรอย เมื่อถ่ายทำเสร็จแล้วจึงยกให้เป็นสมบัติของที่นี่ตั้งแต่ปี 2004   อิสระเก็บภาพประทับใจตามอัธยาศัย จนถึงเวลานัดหมาย

ค่ำ : รับประทานอาหารค่ำ

วันที่ 8
เมืองอิสตันบูล - ชมวิวเมืองอิสตันบูลที่เนินเขา CAMLICA - มัสยิดซูเลย์มานีเย - สไปร์ทมาร์เก็ต - หอคอยกาลาตา - จัตุรัสทักซิม

เช้า : รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม 

เดินทางสู่  เมืองอิสตันบูล (ISTANBUL)  เมืองสำคัญอันดับ 1ของประเทศ เดิมชื่อ คอนแสตนติโนเปิล เป็นเมืองที่มีประชากรมากที่สุดในประเทศตุรเคีย ตั้งอยู่บริเวณช่องแคบบอสฟอรัส(BOSPHORUS) ซึ่งทำให้อิสตันบูลเป็นเมืองสำคัญเพียงเมืองเดียวในโลก ที่ตั้งอยู่ใน 2 ทวีปคือ ทวีปยุโรป (ฝั่ง THRACE ของบอสฟอรัส) และทวีปเอเชีย (ฝั่งอนาโตเลีย) ซึ่งในอดีตอิสตันบูลเป็นเมืองสำคัญของชนเผ่าจำนวนมากในบริเวณนั้น จึงส่งผลให้อิสตันบูลมีชื่อเรียกแตกต่างกันออกไป  (ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 6 ชม.)

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เนินเขา CAMLICA ที่ซึ่งคุณจะได้เห็นทิวทัศน์อันน่าทึ่งบนยอดเขา คุณจะได้ชมวิวเมืองแบบไร้สิ่งกีดขวางบนยอดเขา CAMLICA HILL ซึ่งตั้งอยู่ทางฝั่งเอเชียของอิสตันบูล

เที่ยง : รับประทานอาหารกลางวัน

นำท่านชม มัสยิดซูเลย์มานีเย เป็นมัสยิดหลวงของออตโตมันที่ตั้งอยู่ในอิสตันบูลในตุรกี เป็นมัสยิดที่ใหญ่เป็นอันดับสองของอิสตันบูล มัสยิดซิวเลย์มานีเยสร้างตามพระบรมราชโองการของสุลต่านสุลัยมานแห่งจักรวรรดิออตโตมัน โดยมีมิมาร์ ซินานเป็นสถาปนิก เป็นสถาปัตยกรรมแบบอิสลาม ที่เริ่มก่อสร้างในปี ค.ศ. 1550 และสร้างเสร็จในปี ค.ศ. 1557 มัสยิดซิวเลย์มานีเยมีความเด่นสง่าที่แสดงความสำคัญของสุลต่านสุลัยมานในประวัติศาสตร์แต่มีขนาดเล็กกว่าอะยาโซเฟีย

นำท่านเดินทางสู่  ตลาดเครื่องเทศ (SPICE MARKET) ตั้งอยู่ใกล้กับสะพานกาลาตา สร้างขึ้นตั้งแต่ช่วงปี ค.ศ. 1660 เป็นตลาดในร่มและเป็นตลาดที่ใหญ่เป็นอันดับสองในอิสตันบูล สินค้าส่วนใหญ่คือเครื่องเทศเป็นหลัก ทั้งยังมีถั่วชนิดต่าง ๆ รังผึ้ง น้ำมันมะกอก ไปจนถึงเสื้อผ้าเครื่องประดับ ฯลฯ

ผ่านชม หอคอยกาลาตา GALATA TOWER (GALATA KULESI) หรือบางทีเรียกว่า CHRISTEA TURRIS ซึ่งแปลว่า หอคอยแห่งพระคริสต์ ในภาษาละติน เป็นหอคอยหินยุคกลางในเขตกาลาตา-คาราค็อย (GALATA – KARAKÖY) ของนครอีสตันบูล, ประเทศตุรเคีย เป็นอีกหนึ่งในสถานที่สำคัญที่โดดเด่นที่สุดของเมือง  ด้วยลักษณะทรงกระบอกสูง ของหอคอยที่โดดเด่นเหนือเส้นขอบฟ้า ทำให้เกิดทัศนียภาพอันงดงาม ของคาบสมุทร และบริเวณโดยรอบของเมืองอิสตันบูล นอกจากนี้ตลอดแนวถนน ยังเต็มไปด้วยอาคาร และร้านค้า ที่มีสถาปัตยกรรมสไตล์ยุโรป ที่สวยงามและแปลกตาอีกด้วย

นำท่านเดินทางสู่ จตุรัสทักซิม (TAKSIM SQUARE) ตั้งอยู่ในย่านเบโยกลู ในเขตยุโรปของนครอิสตันบูล, ประเทศตุรเคีย เป็นสถานท่องเที่ยวสำคัญที่มีชื่อเสียง และถือเป็นหัวใจ ของนครอิสตันบูลสมัยใหม่ โดยคำว่า TAKSIM หมายถึง “การแบ่งแยก” หรือ “การกระจาย” ซึ่งมีที่มาจากในรัชสมัยของ สุลต่านมะห์มุด 1 (SULTAN MAHMUD I) ด้วยสถานที่แห่งนี้เคยเป็นที่ตั้งของ อ่างเก็บน้ำหินยุคออตโตมัน และเป็นจุดที่สายน้ำหลัก จากทางตอนเหนือถูกรวบรวม และกระจายออกไปยังส่วนอื่นๆ ของเมือง นอกจากนี้คำว่า ทักซิม (TAKSIM) ยังหมายถึง รูปแบบดนตรีพิเศษในเพลงคลาสสิก ของประเทศตุรเคียอีกด้วย ในปัจจุบันจตุรัสแห่งนี้ เป็นสถานที่ใช้ในการจัดกิจกรรมสาธารณะ เช่น ขบวนพาเหรด ในการเฉลิมฉลองปีใหม่ หรือการพบปะทางสังคมอื่นๆ และเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยม สำหรับนักท่องเที่ยวทั้งใน และต่างประเทศ

อิสระอาหารเย็นตามอัธยาศัย 

ถึงเวลานัดหมาย สมควรแก่เวลา นำท่านเดินทางสู่สนามบินอิสตันบูล

วันที่ 9
สนามบินอิสตันบูล - สนามบินสุวรรณภูมิ

01.45 น. : เดินทางสู่ ประเทศไทย โดยสายการบิน TURKISH AIRLINES เที่ยวบินที่ TK68  (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง) (ใช้เวลาบินประมาณ 9 ชั่วโมง)

15.20 น. : เดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูมิ  ประเทศไทยโดยสวัสดิภาพ พร้อมความประทับใจ

เงื่อนไข
  • ค่าตั๋วเครื่องบินไป-กลับพร้อมคณะ
  • ค่าภาษีสนามบินทุกแห่งที่ระบุตามรายการ
  • Rค่าน้ำหนักกระเป๋าสัมภาระท่านละไม่เกิน 30 กิโลกรัม
  • ค่ารถรับ-ส่งและนำเที่ยวตามรายการ พร้อมคนขับรถที่ชำนาญเส้นทาง
  • ค่าที่พักตามที่ระบุในรายการ พักห้องละ 2 ท่าน หรือ  3 ท่าน
  • แต่ละโรงแรมจะมีการวางผังห้องพักแต่ละประเภทแตกต่างกัน จึงทำให้ห้องพักแต่ละประเภทไม่ได้อยู่ติดกันหรืออยู่คนละชั้น บางโรงแรมอาจไม่มีห้องพักแบบ 3 ท่าน หากต้องการเข้าพัก 3 ท่าน อาจเป็น เตียงใหญ่ 1 เตียง และ 1 เตียงเสริมแบบพับ หรือ SOFA BED  ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับรูปแบบการจัดห้องพักของโรงแรมนั้น ๆ
    หรือ อาจมีความจำเป็นต้องแยกห้องพักเป็น พัก 2 ท่าน 1 ห้อง และ พักเดี่ยว 1 ห้อง ไม่ว่ากรณีใดใด ทางบริษัท ฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการเรียกเก็บค่าบริการค่าห้องพักเดี่ยวเพิ่มกับผู้เข้าพัก
  • ค่าเข้าชมสถานที่ต่างๆ ตามรายการ
  • ค่าอาหารตามมื้อที่ระบุในรายการ
  • ค่ามัคคุเทศก์ผู้มีประสบการณ์นำเที่ยวคอยบริการและอำนวยความสะดวกตลอดการเดินทาง
  • ค่าประกันอุบัติเหตุระหว่างเดินทาง วงเงินท่านละ 1,000,000 บาท  (เงื่อนไขตามกรมธรรม์)
  • ค่าใช้จ่ายส่วนตัวนอกเหนือจากรายการที่ระบุ เช่น ค่าทำหนังสือเดินทาง,ค่าโทรศัพท์,ค่าอินเตอร์เน็ต,ค่าซักรีด,มินิบาร์ในห้อง รวมถึงค่าอาหารและเครื่องดื่มที่สั่งเพิ่มนอกเหนือรายการ ค่าธรรมเนียมหนังสือเดินทาง,ค่าน้ำหนักเกินจากทางสายการบินกำหนด,ค่ารักษาพยาบาล กรณีเกิดการเจ็บป่วยจากโรคประจำตัว,ค่ากระเป๋าเดินทางหรือของมีค่าที่สูญหายในระหว่างการเดินทางเป็นต้น
  • ค่าทิปคนขับรถ, มัคคุเทศก์ท้องถิ่น ท่านละ 3,000 บาท /ต่อตลอดการเดินทาง/ต่อท่าน ชำระที่สนามบิน ณ วันเดินทาง
    *ในส่วนค่าทิปหัวหน้าทัวร์ ไม่รวมอยู่ในค่าทิปไกด์และคนขับรถ ตามมาตรฐานการให้ทิปหัวหน้าทัวร์ วันละ 100 บาท/ท่าน/วัน
  • ค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% และภาษีหัก ณ ที่จ่าย 3%
  • ค่าธรรมเนียมน้ำมันและภาษีสนามบิน ในกรณีที่สายการบินมีการปรับขึ้นราคา 
  • ค่าพนักงานยกกระเป๋า ณ โรงแรมที่พัก (ทางบริษัทฯไม่ได้จัดให้แก่ท่านเนื่องจากป้องกันการสูญหายจากมิจฉาชีพที่แฝงตัวเข้ามาในโรงแรมที่พักและเพื่อความสะดวกรวดเร็วในการเข้าห้องพักสำหรับทุกท่าน)
  • ค่าตรวจ RT-PCR TEST (กรณีมีการเรียกตรวจ)
  1. ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการยกเลิกการเดินทางในกรณีที่มีนักท่องเที่ยวร่วมเดินทางน้อยกว่า 15 ท่าน โดยจะแจ้งให้ทราบล่วงหน้าอย่างน้อย 10 วันก่อนการเดินทาง
  2. บริษัทฯ มีสิทธิ์ที่จะเปลี่ยนแปลงรายละเอียดบางประการในทัวร์นี้ เมื่อเกิดเหตุสุดวิสัยจนไม่อาจแก้ไขได้
  3. รายการท่องเที่ยว โรงแรมที่พัก สามารถเปลี่ยนแปลงได้ตามความเหมาะสม โดยคำนึงถึงผลประโยชน์ของผู้เดินทางเป็นสำคัญ
  4. บริษัทฯ ไม่รับผิดชอบค่าเสียหายในเหตุการณ์ที่เกิดจากสายการบิน ภัยธรรมชาติ เช่น พายุไต้ฝุ่น ปฏิวัติและอื่นๆที่อยู่นอกเหนือการควบคุมของทางบริษัทฯหรือค่าใช้จ่ายเพิ่ม เติมที่เกิดขึ้นทางตรงหรือทางอ้อม เช่น การเจ็บป่วย, การถูกทำร้าย, การสูญหาย, ความล่าช้า หรือจากอุบัติเหตุต่างๆ
  5. ทางบริษัทฯ จะไม่รับผิดชอบใดๆ ทั้งสิ้นหากเกิดกรณีความล่าช้าจากสายการบิน, การประท้วง, การนัดหยุดงาน, การก่อจลาจล หรือกรณีที่ท่านถูกปฏิเสธ การเข้าหรือออกเมืองจากเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง หรือเจ้าหน้าที่กรมแรงงานทั้งจากไทย และต่างประเทศซึ่งอยู่นอกเหนือความรับผิดชอบของบริษัทฯ
  6. หากไม่สามารถไปเที่ยวในสถานที่ที่ระบุในโปรแกรมได้ อันเนื่องมาจากธรรมชาติ ความล่าช้า และความผิดพลาดจากทางสายการบิน จะไม่มีการคืนเงินใดๆทั้งสิ้น แต่ทั้งนี้ทางบริษัทฯจะจัดหารายการเที่ยวสถานที่อื่นๆมาให้ โดยขอสงวนสิทธิ์การจัดหานี้โดยไม่แจ้งให้ทราบล่วงหน้า
  7. ราคานี้คิดตามราคาตั๋วเครื่องบินในปัจจุบัน หากราคาตั๋วเครื่องบินปรับสูงขึ้น บริษัทฯ สงวนสิทธิ์ที่จะปรับราคาตั๋วเครื่องบินตามสถานการณ์ดังกล่าว
  8. หนังสือเดินทางต้องมีอายุเหลือการใช้งานมากกว่า 7 เดือน และบริษัทฯ รับเฉพาะผู้มีจุดประสงค์เดินทางเพื่อท่องเที่ยวเท่านั้น
  9. ทางบริษัทฯจะไม่รับผิดชอบใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านใช้บริการของทางบริษัทฯไม่ครบ อาทิ ไม่เที่ยวบางรายการ, ไม่ทานอาหารบางมื้อ เพราะค่าใช้จ่ายทุกอย่าง ทางบริษัทฯได้ชำระค่าใช้จ่ายให้ตัวแทนต่างประเทศแบบเหมาขาดก่อนออกเดินทางแล้ว
  10. ทางบริษัทฯจะไม่รับผิดชอบใดๆ ทั้งสิ้น หากเกิดสิ่งของสูญหายจากการโจรกรรม และ/หรือ เกิดอุบัติเหตุที่เกิดจากความประมาทของตัวนักท่องเที่ยวเอง
  11. เนื่องจากตั๋วเครื่องบินเป็นตั๋วราคาพิเศษ เมื่อออกตั๋วไปแล้วในกรณีที่ท่านไม่สามารถเดินทางพร้อมคณะไม่ว่าด้วยเหตุผลใดก็ตาม ตั๋วเครื่องบินไม่สามารถนำมาเลื่อนวันหรือคืนเงินได้
  12. ในกรณีที่ลูกค้าต้องออกตั๋วโดยสารภายในประเทศ กรุณาติดต่อเจ้าหน้าที่ของบริษัท ฯ ก่อนทุกครั้ง มิฉะนั้นทางบริษัทฯจะไม่รับผิดชอบค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น
  13. หากในคณะของท่านมีผู้ต้องการดูแลพิเศษ นั่งรถเข็น (WHEELCHAIR), เด็ก, ผู้สูงอายุ, มีโรคประจำตัว หรือไม่สะดวกในการเดินทางท่องเที่ยวในระยะเวลาเกินกว่า 4 – 5 ชั่วโมงติดต่อกัน ท่านและครอบครัวต้องให้การดูแลสมาชิกภายในครอบครัวของท่านเอง เนื่องจากการเดินทางเป็นหมู่คณะ หัวหน้าทัวร์มีความจำเป็นต้องดูแลคณะทัวร์ทั้งหมด
  14. มัคคุเทศก์ พนักงาน หรือตัวแทนของทางบริษัท ไม่มีอำนาจในการให้คำสัญญาใดๆ แทนบริษัท เว้น แต่มีเอกสารลงนามโดยผู้มีอำนาจของบริษัทกำกับเท่านั้น
  15. เมื่อท่านตกลงชำระเงินไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนกับทางบริษัทฯ ทางบริษัทฯ จะถือว่าท่านได้ยอมรับในเงื่อนไขข้อตกลงต่างๆ ที่ได้ระบุไว้แล้วทั้งหมด
  16. ทางบริษัทเริ่มต้นและจบการบริการที่สนามบินสุวรรณภูมิกรณีท่านเดินทางมาจากต่างจังหวัดหรือต่างประเทศและจะสำรองตั๋วเครื่องบินหรือพาหนะอย่างหนึ่งอย่างใดที่ใช้ในการเดินทางมาสนามบิน ทางบริษัทจะไม่รับผิดชอบค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ เพราะเป็นค่าใช้จ่ายที่นอกเหนือจากโปรแกรมการเดินทางของบริษัท ฉะนั้นท่านควรจะให้กรุ๊ป FINAL 100% ก่อนที่จะสำรองยานพาหนะ
Share on social networks
โปรแกรมทัวร์ที่น่าสนใจ