กัสโต้ เวิล์ด ทัวร์

บริการคุณภาพ ทุกเส้นทางท่องเที่ยว

เลขที่ 11/03295

ทัวร์ตุรกี MIRACLE

รหัส 026-3142
วันที่เดินทาง
มี.ค.66
ช่วงเวลา
9 วัน 6 คืน
ราคาเริ่มต้น
39,999 บาท
แผนการเดินทาง
วันที่ 1
สนามบินสุวรรณภูมิ - อิสตันบูล

19.00   พบกันที่ เคาน์เตอร์เช็คอิน N ประตู 7 สายการบิน เตอร์กิช แอร์ไลน์ TK เจ้าหน้าที่บริษัทฯ คอยให้การต้อนรับและอำนวยความสะดวกทางด้านสัมภาระและเอกสารการเดินทางก่อนขึ้นเครื่อง

23.00   ออกเดินทางสู่ กรุงอิสตันบูล โดยสายการบิน เตอร์กิช แอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ TK 69 (บินตรง ใช้เวลาในการบิน ประมาณ 10.30 ชั่วโมง)

วันที่ 2
กรุงอิสตันบูล – เมืองบูร์ซาร์ - เมืองเอสกิเชฮีร์

05.15   เดินทางถึง กรุงอิสตันบูล หลังจากผ่านขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมือง และรับกระเป๋าเรียบร้อยแล้ว ให้ท่านได้มีเวลา ทำภารกิจส่วนตัว หรือบางท่านที่ต้องการแลกเงิน ก็สามารถแลกได้ที่เคาน์เตอร์รับแลกเงิน เมื่อเสร็จภารกิจส่วนตัวเรียบร้อยแล้ว นำท่านขึ้นรถโค้ช มุ่งหน้าสู่เมืองบูร์ซ่าร์ Busar (ระยะทาง 197 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2.30 ชั่วโมง) นำท่านชมความงามของมัสยิดเก่าแก่ของเมืองบูร์ซ่า Grand Mosque ภายในจะพบกับผลงานอันละเอียดอ่อนและประณีตของงานกระเบื้องประดับที่มีสีสันลวดรายที่ละเอียด และซับซ้อนอย่างพิสดาร ทั้งลายรูปวงกลม รูปดาว ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของศาสนาอิสลาม และรูปเรขาคณิต ให้ท่านได้ชมความสวยงามของตัวเมืองที่ในอดีตกษัตริย์ที่เคยปกครองอาณาจักรออตโตมาน ได้ใช้เมืองนี้เป็นที่ฝังศพ และนอกจากนั้นยังถูกตกแต่งให้เป็นสวนที่สวยงามร่มรื่นไปด้วยต้นไม้ที่เขียวชอุ่มเป็นจำนวนมาก จนได้ชื่อว่าเป็นเมืองที่มีสีเขียว Green Bursa สุสานสีเขียว Green Tomb สุเหร่าสีเขียว หรือ Yesil Mosque สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ทางศาสนา ที่มีความสวยงามอีกแห่งหนึ่งของเมืองเบอร์ซา ถูกสร้างขึ้นในช่วงปี ค.ศ. 1491 – 1421 โดยสถาปนิกชื่อ Haci Ivaz Pasa โดยใช้รูปแบบสถาปัตยกรรมแบบเบอร์ซาอาคารสุเหร่ามีความโดดเด่นด้วยการใช้กระเบื้องหินอ่อนสีฟ้าเขียวในการตกแต่ง ผนังและเพดานด้านในก็ถูกตกแต่งด้วยกระเบื้องโมเสคสีฟ้าเขียวนอกจากนี้ภายในสุเหร่าแห่งนี้ยังมีที่บรรจุศพของสุลต่านเมห์เมดที่ 1 และครอบครัว สถานที่แห่งนี้จึงถือได้ว่าเป็นสถาปัตยกรรมที่ทรงคุณค่าของประเทศตุรกีอิสระให้ท่านได้ช้อปปิ้ง ณ ตลาดผ้าไหมเมืองบูร์ซา Bursa Silk Market ตลาดผ้าไหมเมืองบูร์ซาที่ตั้งอยู่ทางภาคตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศตุรเกีย ซึ่งอยู่ไม่จากทะเลมาร์มามากนัก โดยตลาดแห่งนี้ค้าขายผลิตภัณฑ์จากผ้าไหมเป็นหลัก โดยเฉพาะผ้าคลุมศีรษะลวดลายพื้นเมืองจะขายดีเป็นพิเศษ อันเนื่องมาจากตุรเกียเป็นประเทศที่มีผู้นับถือศาสนาอิสลามมากอีกหนึ่งประเทศ ซึ่งนอกจากผ้าคลุมแล้วก็ยังมีเสื้อผ้าหลากหลายแบบและด้วยสีสันของผ้าไหมที่สดใสนี่เองที่ทำให้ตลาดแห่งนี้กลายเป็นตลาดที่สวยงามที่สุด จนครั้งหนึ่งสมเด็จพระนางเจ้า ควีนอลิซาเบท แห่งอังกฤษเคยมาเยือน

เที่ยง   รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารพื้นเมือง

นำท่านเดินทางสู่ เมืองเอสกิเซฮีร์ Eskisehir (ระยะทาง 152 กิโลเมตรใช้เวลาเดินทางประมาณ 2.30 ชั่วโมง) คำว่า เอสกิเชฮีร์ หมายถึง “เมืองเก่า” ก่อตั้งมาไม่ต่ำกว่า 1,000 ปี ก่อนคริสตกาล ปัจจุบันยังคงมีสภาพอาคารบ้านเรือนโบราณสถาน หลงเหลือให้นักท่องเที่ยวได้เห็นอยู่พอสมควร เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของตุรเคีย และเป็นเมืองหลวงของจังหวัด เอสกิเชฮีร์ สภาพภูมิศาสตร์ของเมืองตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำพอสุข อยู่เหนือระดับน้ำทะเล 792 เมตร ทำให้สามารถมองเห็นหุบเขา Phrygian ได้อย่างชัดเจน มีนักท่องเที่ยวนิยม เดินทางมาท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก และด้วยเมืองตั้งอยู่ริมแม่น้ำพอสุข นำท่าน ล่องเรือชมความสวยงามของแม่น้ำพอสุข ผ่านชมบ้านสมัยโบราณ สวนสาธารณะ จากนั้น นำท่าน ล่องเรือกอนโดล่า ซึ่งเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวที่มาเยือน ชาวตุรเคีย จึงขนานนามเมือง เอสกิเชฮีร์ แห่งนี้ว่า “เวนสิแห่งตุรเคีย”

ค่ำ   รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรม

พักค้างคืน ที่ Anemon Eskisehir Hotel 5 ดาว หรือเทียบเท่า มาตรฐานตุรเคีย

วันที่ 3
เมืองเอสกิเชเฮียร์ – เมืองอิซเมียร์ - เมืองคูซาดาซึ

เช้า   รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

นำท่านเดินทางสู่ เมืองอิซเมียร์ Izmir (ระยะทาง 505 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 5.30 ชั่วโมง) เป็นเมืองท่าที่สำคัญที่สุดอันดับสองของประเทศตุรเคีย อดีตเคยเป็นเมอืงที่ชาวคริสติ์นิกายออโธดอกซ์มากที่สุดในประเทศ จนถึงปี ค.ศ. 1992 มีการย้ายพลเมืองกลุ่มชาวคริสต์นิกายออโธดอกซ์ ออกไป แต่ถึงอย่างไรก็ตามปัจจุบันนี้ยังคงมีความเป็นอยู่ที่คล้ายคลึงกับชาวตะวันตก

บ่าย   รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร อาหารจีน

นำเดินท่านสู่ เมืองโบราณเอฟฟิซุส City of Ephesus อดีต เป็นเมืองหลวงแห่งเอเชียของอาณาจักรโรมัน ชม อาคารที่เป็นสัญลักษณ์ของ นครเอฟฟิซุส คือ ห้องสมุดของเซลซุส Library of Celsus และอาคารสำคัญอีกแห่งคือ วิหารแห่งจักรพรรดิเฮเดรียน Temple of Hadrian สร้างขึ้นถวายแด่จักรพรรดิเฮเดรียน ความโดเด่นของวิหารแห่งนี้คืออยู่ในสภาพที่สมบูรณ์มาก จากนั้นปิดท้ายกันที่สิ่งก่อสร้างที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในนครเอฟฟิซุส คือ โรงละคร Great Theatre ซึ่งสร้างโดยสกัดเข้าไปในไหล่เขาให้เป็นที่นั่ง สามารถจุคนได้ถึง 25,000 คน ซึ่งคิดเป็น 1 ใน 10 ของประชากรในยุคนั้น สร้างสมัยกรีกโบราณ แต่พวกโรมันมาปรับปรุงให้ยิ่งใหญ่มากขึ้น จากนั้น นำท่านช้อปปิ้ง ณ ศูนย์ผลิตเสื้อหนังคุณภาพสูง ซึ่งตุรเคียเป็นประเทศที่ผลิตหนังที่มีคุณภาพที่สุด อีกทั้งยังผลิตเสื้อหนังส่งให้กับแบรนด์ดังในอิตาลี เช่น Versace , Prada , Michael kors อิสระให้ท่านเลือกซื้อสินค้าได้ตามอัธยาศัย ได้เวลาพอสมควร นำท่านเดินทางสู่ เมืองคูซาดาซึ Kusadasi (ระยะทาง 19 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาที) เป็นเมืองท่าที่สำคัญทางการค้าอีกเมืองหนึ่งของตุรกี

ค่ำ   รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรม

พักค้างคืน ที่ Le Bleu Hotel Kusadasi 5 ดาว หรือเทียบเท่า มาตรฐานตุรเคีย

วันที่ 4
เมืองคูซาดาซึ - เมืองปามุคคาเล่

เช้า   รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

นำท่านออกเดินทางสู่ เมืองปามุคคาเล่ Pamukkale (ระยะทางประมาณ 189 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง) เป็นอีกหนึ่งเมืองที่มีนักท่องเที่ยวให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก นำท่านชมความมหัศจรรย์ทางธรรมชาติ ณ เมืองปามุคคาเล่ Pamukkale คำว่า “ปามุคคาเล่” ในภาษาตุรกี หมายถึง “ปราสาทปุยฝ้าย” Pamuk หมายถึง ปุยฝ้าย และ Kale หมายถึง ปราสาท เป็นน้ำตกหินปูนสีที่เกิดขึ้นจากธารน้ำใต้ดินที่มีอุณหภูมิประมาณ 35 องศาเซลเซียส ซึ่งเป็นที่มีแร่หินปูน (แคลเซี่ยมออกไซด์) ผสมอยู่ในปริมาณที่สูงมาก ไหลรินลงมาจากภูเขา “คาลดากึ” ที่ตั้ง อยู่ห่างออกไปทางทิศเหนือ รินเอ่อล้นขึ้นมาเหนือผิวดิน และทำปฏิกิริยาจับตัวแข็งเกาะกันเป็นริ้ว เป็นแอ่ง เป็นชั้น ลดหลั่นกันไปตามภูมิประเทศเกิดเป็นประติมากรรมธรรมชาติ อันสวยงามแปลกตา และโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ยากจะหาที่ใดเหมือน จนทำให้ ปามุคคาเล่ ได้รับการยกย่องจากองค์การยูเนสโก้ให้เป็นมรดกโลกทางธรรมชาติและวัฒนธรรมในปี ค.ศ. 1988 นำท่านชม ปราสาทปุยฝ้าย (ปามุคคาล่)

เที่ยง   รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารพื้นเมือง

นำท่านชม ปราสาทปุยฝ้าย (ปามุคคาล่) เมืองแห่งน้ำพุเกลือแร่ร้อน นำท่านชมหน้าผาที่ขาวกว้างใหญ่ด้านข้างของอ่างน้ำ เป็นรูปร่างคล้าย  หอยแครงและน้ำตกแช่แข็ง ถ้ามองดูจะดูเหมือนสร้างจากหิมะ เมฆหรือปุยฝ้าย น้ำแร่ที่ไหลลงมาแต่ละชั้นจะแข็งเป็นหินปูน ห้อยย้อยเป็นรูปร่างต่าง ๆ อย่างมหัศจรรย์ น้ำแร่นี้มีอุณหภูมิประมาณ 33-35 องศาเซลเซียส ประชาชนจึงนิยมไปอาบหรือนำมาดื่ม เพราะเชื่อว่ามีคุณสมบัติในการรักษาโรคหัวใจ โรคไขข้ออักเสบ ความดันโลหิตสูง โรคทางเดินปัสสาวะ และโรคไต ในอดีตกาลชาวโรมันเชื่อว่าน้ำพุร้อนสามารถรักษาโรคได้

ค่ำ   รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรม

พักค้างคืน ที่ Pam Thermal Hotel 5 ดาว หรือเทียบเท่า มาตรฐานตุรเคีย

วันที่ 5
เมืองปามุคคาเล่ – เมืองคอนย่า - เมืองคัปปาโดเกีย

เช้า   รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

นำท่านเดินทางสู่ เมืองคอนย่า Konya (ระยะทาง 401 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 5.30 ชั่วโมง) อดีตเคยเป็นเมืองหลวงของอาณาจักรเซลจุก ซึ่งเป็นอาณาจักรแห่งแรกของพวกเติร์กบนแผ่นตุรเคีย ในช่วงปี 1071-1275 ทำให้สถาปัตยกรรมแบบเซลจุกดั้งเดิมมีให้เห็นอย่างโดดเด่นที่นี่และยังเป็นเมืองที่เป็นศูนย์กลางของนิกายเมฟเลวี ที่ถือกำเนิดมาจากการก่อตั้งของ เมฟลาน เจลาลุดดิน ผู้ซึ่งเป็นกวีเอกชาวอัฟกานิสถาน ที่ทำให้ชาวคริสต์จำนวนไม่น้อยหันมาเข้ารับนับถือศาสนาอิสลาม เขาจึงเปรียบเสมือนผู้วิเศษในสายเหล่าบรรดาสาวก ทุกๆ กลางเดือน ธันวาคม ของทุกปี โรงแรมในเมืองคอนย่าจะถูกจองเต็มเป็นส่วนใหญ่ เนื่องจากเหล่าสาวกของนิกายเมฟลาวี จะมาร่วมพิธีซีมา หรือ การเฉลิมฉลองเพื่อร่วมรำลึกถึงเมฟลานา เจลาลุดดิน โดยการเต้นรำ เดอร์วิช ทุกคนจะนุ่งกระโปรงสีขาวบานกรอมเท้า หมุนตัวเข้ากับเสียงดนตรี

บ่าย   รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารพื้นเมือง

นำท่านเดินทางสู่ เมืองคัปปาโดเกีย Cappadocia (ระยะทาง 232 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3.20 ชั่วโมง) ระหว่างทางให้ท่านได้แวะพักเปลี่ยนอิริยาบถด้วยถ่ายภาพบริเวณกำแพงที่ทอดยาว และซุ้มประตูทางเข้าของสถานที่พักแรมของพ่อค้าชาว เติร์ก สมัยออตโตมัน นำท่านชม เมืองคัปปาโดเกีย Cappadocia ดินแดนที่มีภูมิประเทศอันน่าอัศจรรย์แปรสภาพเป็นหุบเขาร่องลึก เนินเขา กรวยหิน และเสารูปทรงต่าง ๆ ที่งดงาม คัปปาโดเกีย Cappadocia เป็นชื่อเก่าแก่ภาษาฮิตไทต์ (ชนเผ่ารุ่นแรก ๆ ที่อาศัยอยู่ในดินแดนแถบนี้) แปลว่า ดินแดนม้าพันธุ์ดี ตั้งอยู่ทางตอนกลางของตุรกี เป็นพื้นที่เกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟเออซิเยส และ ภูเขาไฟฮาซาน เมื่อประมาณ 3 ล้านปีที่แล้ว เถ้าลาวาที่พ่นออกมาและเถ้าถ่านจำนวนมหาศาลกระจายทั่วบริเวณจนทับถมเป็นแผ่นดินชั้นใหม่ขึ้นมา จากนั้นกระแส น้ำ ลม ฝน แดด และหิมะ กัดเซาะกร่อนหิน แผ่นดินภูเขาไฟไปเรื่อย ๆ นับแสนนับล้านปี จนเกิดเป็นภูมิประเทศประหลาดแปลกตาน่าพิศวง ที่เต็มไปด้วยหินรูป แท่ง กรวย ปล่อง กระโจม โดม และอีกสารพัดรูปทรง ดูประหนึ่งดินแดนในเทพนิยายจนผู้คนในพื้นที่เรียกขานกันว่า ปล่องไฟนางฟ้า ในปี ค.ศ. 1985 ยูเนสโก้ได้ประกาศให้พื้นที่มหัศจรรย์แห่งนี้เป็นมรดกโลกทางธรรมชาติและวัฒนธรรมแห่งแรกของตุรกี จากนั้นให้ท่านได้แวะชม โรงงานทอพรม อิสระกับการเลือกซื้อสินค้าและของที่ระลึกได้ตามอัธยาศัย

ค่ำ   รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรม

จากนั้นนำท่านชม “ระบำหน้าท้อง” Belly Dance ประกอบดนตรีของสาวน้อยชาวตุรกี

พักค้างคืน ที่ Uchisar Kaya Cave Hotel โรงแรมตกแต่งสไตล์ถ้ำ หรือเทียบเท่า

!! หมายเหตุ ในกรณีที่โรงแรมถ้ำเต็ม จะเปลี่ยนเป็นนอนโรงแรมระดับ 5 ดาว แทน !!

วันที่ 6
เมืองคัปปาโดเกีย – เมืองอังคาร่า

แนะนำโปรแกรมพิเศษ ไม่รวมอยู่ในราคาทัวร์ Optional Tour

บอลลูน ทัวร์ Balloon Tour สำหรับท่านใดที่สนใจชมความสวยงามของเมืองคัปปาโดเกีย บริเวณมุมสูง ทัวร์นี้ จำเป็นต้องออกจากโรงแรม ประมาณ 05.00 น. โดยจะมีรถท้องถิ่นมารับที่โรงแรมไปยังจุดปล่อยบอลลูน ค่าขึ้นบอลลูนประมาณท่านละ 300 ดอลล่าสหรัฐ ในกรณีที่ชำระเป็นเงินสด และ 320 ดอลล่าสหรัฐ ในกรณีที่ชำระด้วยบัตรเครดิต เจ้าหน้าที่บริษัทบอลลูน รอรับท่าน เพื่อเปิดประสบการณ์ใหม่ที่ไม่ควรพลาด

รถจี๊บ ทัวร์ Jeep Tour สำหรับท่านใดที่สนใจชมความสวยงามของเมืองคัปปาโดเกีย บริเวณภาคพื้นดิน โปรแกรมรถจี๊บ ทัวร์นี้ จำเป็นต้องออกจากโรงแรม ประมาณ 05.00 น.-06.00 น. โดยจะมีรถท้องถิ่นมารับที่โรงแรม เพื่อชมความสวยามโดยรอบของเมืองคัปปาโดเกีย บริเวณภาคพื้นดิน ที่รถเล็กสามารถที่จะตะลุย ลัดเลาะไปได้ โดยใช้เวลาอยู่บนรถจี๊บ ประมาณ 1 ชั่วโมง ค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมในการนั่งรถจี๊บอยู่ที่ท่านละ 110 เหรียญดอลล่าร์สหรัฐ (110USD) โปรดทราบ ประกันอุบัติเหตุที่รวมอยู่ในโปรแกรมทัวร์ ไม่ครอบคลุมกิจกรรพิเศษ ไม่ครอบคลุมการนั่งรถจี๊บ ทัวร์ ดั้งนั้นขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของท่าน

รถเอทีวี ทัวร์ ATV Tour สำหรับท่านใดที่สนใจชมความสวยงามของเมืองคัปปาโดเกีย บริเวณภาคพื้นดิน โปรแกรมรถเอทีวี ทัวร์นี้ จำเป็นต้องออกจากโรงแรม ประมาณ 05.00 น.-06.00 น. โดยจะมีรถท้องถิ่นมารับที่โรงแรม เพื่อชมความสวยามโดยรอบของเมืองคัปปาโดเกีย บริเวณภาคพื้นดิน ที่รถเล็กสามารถที่จะตะลุย ลัดเลาะไปได้ โดยใช้เวลาอยู่บนรถจี๊บ ประมาณ 1 ชั่วโมง ค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมในการนั่งรถจี๊บอยู่ที่ท่านละ 110 เหรียญดอลล่าร์สหรัฐ (110USD) โปรดทราบ ประกันบัติเหตุที่รวมอยู่ในโปรแกรมทัวร์ ไม่ครอบคลุมกิจกรรพิเศษ ไม่ครอบคลุมการนั่งรถจี๊บ ทัวร์ ดั้งนั้นขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของท่าน

รถคลาสสิค Classic Car สำหรับท่านใดที่สนใจชมความสวยงามของเมืองคัปปาโดเกีย บริเวณภาคพื้นดิน โปรแกรมรถ คลาสสิค คาร์ร์นี้ จำเป็นต้องออกจากโรงแรม ประมาณ 05.00 น.-06.00 น. โดยจะมีรถท้องถิ่นมารับที่โรงแรม เพื่อชมความสวยามโดยรอบของเมืองคัปปาโดเกีย บริเวณภาคพื้นดิน โดยที่รถ คลาสสิคนี้ จะมีเจ้าหน้าที่เป็นคนขับรถ พาท่านนั่งไปยังจุดถ่ายภาพสวย ๆ เห็นวิวบอลลูน ขึ้นเป็นแบคกราวน์ด้านหลัง เป็นภาพที่สวยงามมาก ๆ โปรแกรมรถ คลาสสิค คาร์ กำลังเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวทั่วทุกมุมโลกที่เดินทางมาท่องเที่ยวเมืองคัปปาโดเกียแห่งนี้ รถ 1 คน สามารถนั่งได้ 3-4 คคน โดยใช้เวลาอยู่บนรถจี๊บ ประมาณ 1 ชั่วโมง ค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมในการนั่งรถจี๊บอยู่ที่ท่านละ 100 เหรียญดอลล่าร์สหรัฐ (100USD) โปรดทราบ ประกันอุบัติเหตุที่รวมอยู่ในโปรแกรมทัวร์ ไม่ครอบคลุมกิจกรรพิเศษ ไม่ครอบคลุมการนั่งรถจี๊บ ทัวร์ ดั้งนั้นขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของท่าน

คำแนะนำ สำหรับท่านที่เลือกซื้อทัวร์

ท่านที่เมารถ กรุณารับประทานยาแก้เมารถล่วงหน้าอย่างน้อย ครึ่งชั่วโมง ก่อนออกเดินทาง ควรแจ้งให้หัวหน้าทัวร์ทราบ ตั้งแต่ก่อนวันเดินทาง (ตั้งแต่อยู่ที่ประเทศไทย เพื่อเตรียมยามาจากประเทศไทย) กิจกรรมนี้ไม่อนุญาตให้ผู้ที่เป็นโรคหัวใจขั้นรุนแรง หรือ ตั้งครรภ์ เข้าร่วมทัวร์โดยเด็ดขาด กรณีเกิดความเสียหายไม่ว่ากรณีใด ๆ ทางบริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการไม่รับผิดชอบทุกกรณี

เช้า   รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

นำท่านชม พิพิธภัณฑ์กลางแจ้งเกอเรเม่ Goreme Open Air Museum ซึ่งเป็นศูนย์กลางของศาสนาคริสต์ในช่วง ค.ศ. 9 ซึ่งเป็นความคิดของชาวคริสต์ที่ต้องการเผยแพร่ศาสนาโดยการขุดถ้ำเป็นจำนวนมากเพื่อสร้างโบสถ์ และยังเป็นการป้องกันการรุกรานของชนเผ่าลัทธิอื่นที่ไม่เห็นด้วยกับศาสนาคริสต์ ชม โบสถ์เซนต์บาร์บารา St. Barbar Church โบสถ์มังกร Snake Church และ โบสถ์แอปเปิ้ล Apple Church ให้ท่านได้ ถ่ายรูปกับภูเขารูปทรงต่าง ๆ ได้ตามอัธยาศัย จากนั้นให้ท่านได้แวะชม โรงงานเซรามิค และ โรงงานเพชร อิสระกับการเลือกซื้อสินค้าและของที่ระลึกได้ตามอัธยาศัย

เที่ยง   รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารพื้นเมือง

นำท่านชม นครใต้ดินไคมัคลี Underground City of Derinkuyu or Kaymakli เกิดจากการขุดเจาะพื้นดินลึกลงไป 10 กว่าชั้น เพื่อใช้เป็นที่หลบภัยจากข้าศึกศัตรูนครใต้ดินไคมัคลีมีชั้นล่างที่ลึกที่สุดลึกถึง 85 เมตร เมืองใต้ดินแห่งนี้มีครบเครื่องทุกอย่างทั้งห้องโถง ห้องนอน ห้องน้ำ ห้องถนอมอาหาร ห้องครัว ห้องอาหาร โบสถ์ ทางหนีฉุกเฉิน ฯลฯ ได้เวลาพอสมควร นำท่านเดินทางสู่ กรุงอังคาร่า Ankara (ระยะทาง 298 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3.30 ชั่วโมง)

ค่ำ   รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรม

พักค้างคืน ที่ New Park Hotel 5 ดาว หรือเทียบเท่า มาตรฐานตุรเคีย

วันที่ 7
กรุงอังคาร่า - กรุงอิสตันบูล

เช้า   รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

นำท่านสู่ กรุงอิสตันบูล Istanbul (ระยะทาง 446 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 5.50 ชั่วโมง)

บ่าย   รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารพื้นเมือง

นำท่านชม พระราชวังทอปกาปึ Topkapi Palace สร้างขึ้นในสมัยสุลต่านเมห์เมตที่ 2 เปลี่ยนเป็นพิพิธภัณฑ์ในปี ค.ศ. 1924 พิพิธภัณฑ์พระราชวังทอปกาปึ ห้องที่โด่งดังและเป็นที่สนใจคือห้องท้องพระคลังอันเป็นที่เก็บสมบัติ และวัตถุล้ำค่ามากมาย โดยมีกริชแห่งทอปกาปึด้ามประดับด้วยมรกตใหญ่ 3 เม็ด กับเพชร 86 กะรัต เป็นไฮไลท์ที่สำคัญ ส่งท้ายช่วงบ่ายด้วยการนำท่านสู่ ย่านช้อปปิ้ง แกรนด์บาซาร์ Grand Bazaar แหล่ง ช้อปปิ้งขนาดใหญ่ของเมืองประกอบไปด้วยร้านค้ากว่า 4,000 ร้าน มีสินค้าให้เลือกหลากหลายหมวดหมู่คล้ายตลาดนัดจตุจักรบ้านเรา แต่ความน่าสนใจของที่นี่คงจะเป็นความแปลกตาของสินค้าที่ไม่ค่อยคุ้นตานัก ทั้ง งานเสื้อผ้า เครื่องหนัง เครื่องประดับ และของฝาก ซึ่งหนึ่งในนั้นเป็นสินค้าที่ค่อนข้างขึ้นชื่อของที่นี่นั่น ก็คือ พรมพื้นเมือง ที่เรียกว่า พรมคิลิม Kilim ที่ถักทอด้วยขนสัตว์หรือเส้นไหม โดยเน้นลวดลายแบบเรขาคณิตเป็นหลัก พรมแต่ละผืนนั้นจะใช้เวลาในการทอที่แตกต่างกัน ไปขึ้นอยู่กับลวดลายและ ขนาด แต่โดยเฉลี่ยแล้วจะใช้ระยะเวลาประมาณ 6 เดือน ถึง 2 ปีต่อผืน ให้ท่านอิสระช้อปปิ้งสินค้าได้ตามอัธยาศัย

เย็น   รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารพื้นเมือง

ส่งท้ายกันด้วยย่านจัตุรัสทักซิมสแควร์ Taksim Square ตั้งอยู่ใน ย่านเบโลกลู Beyoglu ในเขตยุโรปของนครอีสตันบูล เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง และถือเป็นหัวใจของนครอีสตันบูลสมัยใหม่ เป็นสถานที่ในการจัดกิจกรรมสาธารณะ เช่น ขบวนพาเหรด ในการเฉลิมฉลองปีใหม่ หรือการพบปะทางสังคม มีสถานบันเทิง ร้านค้าตกตกแต่งหลากหลายสไตล์ คาเฟต์นั่งชิลด์ ชิลด์ เป็นถนนที่ไม่เคยหลับใหล จึงเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยม สำหรับนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศ ไฮไลท์ที่สำคัญของ Taksim Square อีกอย่างหนึ่งก็คือ รถรางสีแดงแสด ที่วิ่งจากจัตุรัสทักซิมไปตามถนนใกล้กันกับสถานีทูเบล ซึ่งเป็นสถานีรถไฟใต้ดินที่เก่าแห่งหนึ่งในกรุงอิสตันบูล

ค่ำ   พักค้างคืน ที่ Tryp by Wyndham Airport 5 ดาว หรือเทียบเท่า มาตรฐานตุรเคีย

วันที่ 8
กรุงอิสตันบูล – กรุงเทพมหานคร

เช้า   รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

นำท่าน ล่องเรือช่องแคบบอสฟอรัส Cruise Along the Bosphorus ซึ่งเป็นช่องแคบขนาดใหญ่และสองฝั่งมีความสวยงามมาก ช่องแคบนี้ทำหน้าที่เป็นเส้นแบ่งระหว่างยุโรป และเอเชีย เชื่อมระหว่าง ทะเลดำ The Black Sea เข้ากับ ทะเลมาร์มาร่า Sea of Marmara มีความยาว 32 กิโลเมตร ให้ท่านได้ชมทิวทัศน์ทั้งสองข้างที่สวยงามตระการตาของ ช่องแคบบอสฟอรัสที่เป็นจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญยิ่งในการป้องกันประเทศตุรกีอีกด้วย เพราะมีป้อมปืนตั้งเรียงรายอยู่ตามช่องแคบเหล่านี้

จากนั้นนำท่านสัมผัสบรรยากาศใหม่ที่เทรนด์กำลังมาแรงสุด ๆ กับการชมเมืองอิสตันบูลในรูปแบบสไตล์เมืองเก่า ย่าน Fener & Balat เป็นชุมชนชาวยิว เก่าแก่กว่า 100 ปี ที่อาศัยอยู่ในเขตเมืองเก่าของกรุงอิสตันบูล ซึ่งบริเวณนี้จะอยู่ในบริเวณส่วนที่เป็นฝั่งยุโรป ชาวยิวส่วนใหญ่จะสร้างบ้านตามแนวสันเขาเล่นระดับอย่างมีเอกลักษณ์ ตัวอาคารเองก็ดูคลาสสิคในแบบตึกเก่าแก่ และที่สำคัญยังแต่งแต้มไปด้วยสีสันสดใสสะดุดตาน่ามองมิใช่น้อย จนทำให้เกิดเป็นมุมถ่ายรูป ชิค ชิค เก๋ เก๋ ถูกใจบรรดา หนุ่ม สาว และช่างภาพเป็นอันมาก บอกได้คำเดียวว่าถูกใจใช่เลย

จากนั้นนำท่านชม ฮิปโปโดรม Hippodrome หรือ สนามแข่งม้าโบราณ มีเสาโอเบลิสค์ซึ่งเหลือแค่ส่วนปลายที่ยาว 20 เมตร แต่กระนั้นก็ยังสวยงามน่าดูมาก เพราะทั้งเสามีงานแกะสลักอันมีความหมายและมีค่ายิ่ง จากนั้นนำท่านชม สุเหร่าสีน้ำเงิน Blue Mosque ที่มาของชื่อสุเหร่าสีน้ำเงินเป็นเพราะเขาใช้กระเบื้องสีน้ำเงินในการตกแต่งภายใน ซึ่งทำเป็นลายดอกไม้ต่าง ๆ เช่น ดอกกุหลาบ คาร์เนชั่น ทิวลิป เอกลักษณ์เด่นอีกอย่างแต่อยู่ภายนอกคือ หอประกาศเชิญชวนเมื่อถึงเวลาที่จะต้องทำพิธีละหมาด Minaret 6 หอ เท่ากับสุเหร่าที่นครเมกกะ จากนั้นนำท่านเดินต่อไปชมสถานที่ซึ่งเป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคกลาง สุเหร่าเซนต์โซเฟีย Mosque of Hagia Sophia ปัจจุบันเป็นที่ประชุมสวดมนต์ของชาวมุสลิม ในอดีตโบสถ์แห่งนี้เป็นโบสถ์ทางศาสนาคริสต์ ภายในมีเสางามค้ำที่สลักอย่างวิจิตร และประดับไว้งดงาม 108 ต้น

บ่าย   รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารพื้นเมือง

จากนั้นนำท่านสู่ ย่านช้อปปิ้ง ตลาดสไปซ์ มาร์เก็ต Spice Market หรือตลาดเครื่องเทศ ท่านสามารถเลือกซื้อของฝากได้ในราคาย่อมเยา ไม่ว่าจะเป็นเครื่องประดับ ชาหรือกาแฟ รวมถึงผลไม้อบแห้งอันเลื่องชื่อของตุรกี อย่างแอปปลิคอท หรือจะเป็นถั่วพิทาชิโอ ฯลฯ

16.30   นำท่านเดินทางสู่ สนามบิน อิสตันบูล เพื่อเตรียมตัวเดินทางกลับ กรุเทพมหานคร

20.00   ออกเดินทางสู่ กรุงเทพมหานคร โดยสายการบิน เตอร์กิช แอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ TK 64 (ใช้เวลาในการบิน ประมาณ 9.35 ชั่วโมง)

วันที่ 9
กรุงอิสตันบูล – กรุงเทพมหานคร

10.10   เดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพ พร้อมความประทับใจ

เงื่อนไข

Share on social networks
โปรแกรมทัวร์ที่น่าสนใจ