19.00 น. : พร้อมกัน ณ เคาเตอร์เช็คอินสายการบินเตอร์กิชแอร์ไลน์
23.30 น. : ออกเดินทางสู่นครอิสตันบูล ประเทศตุรกี โดยเที่ยวบิน TK 69
06.10 น. : เดินทางถึงกรุงอิสตันบูล ประเทศตุรกี นำท่านผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร
หลังจากนั้นนำทุกท่านสู่เมืองอิสตันบูล ชมสนามแข่งม้าโบราณของชาวโรมัน “ฮิบโปโดรม” จัตุรัสสุลต่านอาห์เมต นำชม สุเหร่าสีน้ำเงิน (BLUE MOSQUE) สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ทางศาสนา ที่มีความสวยงามแห่งหนึ่ง ชื่อนี้ได้มาจากกระเบื้องเคลือบสีน้ำเงินที่ใช้ปูตลอดแนวฝาผนังด้านในและถูกสร้างขึ้นบนพื้นที่ ซึ่งเคยเป็นวังของจักรพรรดิไบเซนไทน์ โดยสุลต่านอาหเม็ตที่ 1 ค.ศ. 1609 ใช้เวลาสร้างทั้งหมด7 ปีและ จากนั้นนำท่านชม โบสถ์เซนต์โซเฟีย (St. Sophia) ซึ่งเป็นศิลปะแบบไบแซนไทม์ ได้รับการยกย่องให้เป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคโบราณ สร้างขึ้นสมัยจักรพรรดิคอนสแตนติน ของจักรวรรดิไบแซนไทม์ เดิมใช้เป็นโบสถ์คริสต์แต่หลังจากจักรวรรดิออตโตมันเข้ามาปกครองจึงได้เปลี่ยนโบสถ์ดังกล่าวมาเป็นมัสยิด แต่ได้เปลี่ยนเป็นพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติในสมัย เคมาล อะตาเติร์ก หลังจากที่เป็นโบสถ์ในศาสนาคริสต์เป็นเวลากว่า 916 ปี และเป็นมัสยิดของศาสนาอิสลามอีกกว่า 447 ปี ปัจจุบันเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมความงามและความยิ่งใหญ่ ภายในมีภาพประดับโมเสกทองที่สมบูรณ์บ่งบอกถึงความศรัทธาอันแรงกล้าของจักรพรรดิคอนสแตนตินที่มีต่อคริสต์ศาสนา
**หมายเหตุ กรณีเดินทางช่วงเดือนเมษายน-กลางพฤษภาคม ทางเราจะนำท่านชมสวนดอกทิปลิป**
เที่ยง : บริการอาหารเที่ยง ณ ภัตตาคาร
นำท่านชมพระราชวัง โดลมาบาเช่ (Dolmabache Palace) พระราชวังแห่งนี้สร้างโดย สุลต่านอับดุล เมอจิท ซึ่งเป็นพระราชวังที่สะท้อนให้เห็นถึงความเจริญอย่างสูงสุดทางวัฒนธรรม และทางวัตถุของจักรวรรดิออตโตมาน จากนั้นนำ นำท่าน ล่องเรือช่องแคบบอสฟอรัส ซึ่งเป็นช่องแคบที่เชื่อมทะเลดำ (The Black Sea) เข้ากับทะเลมาร์มาร่า (Sea Of Marmara) ความยาวทั้งสิ้นประมาณ 32 ก.ม. ความกว้าง ตั้งแต่ 500 เมตร จนถึง 3 ก.ม. ถือว่าสุดขอบของทวีปยุโรป และสุดขอบของทวีปเอเชียมาพบกันที่นี่ นอกจากความสวยงามแล้วช่องแคบบอสฟอรัสยังเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญยิ่งในการป้องกันประเทศตุรกีอีกด้วย เพราะมีป้อมปืนตั้งเรียงรายอยู่ตามช่องแคบเหล่านี้ ว่ากันว่าจะกระทั่งถึงยุคของการนำเอาเรือปืนใหญ่มาใช้ และไม่เคยปรากฏว่า กรุงอิสตันบูลถูกถล่มจนเสียหายอย่างหนักมาก่อนเลย ทั้งที่เป็นเพราะป้อมปืนดังกล่าวนี่เอง ในปีค.ศ.1973 มีการเปิดใช้สะพานบอสฟอรัส ซึ่งทำให้เกิดการเดินทางไปมระหว่างฝั่งเอเชียและยุโรปสะดวกมากขึ้น ขณะล่องเรือท่านจะได้เพลิดเพลินกับทิวทัศน์ สองข้างทาง ไม่ว่าจะเป็นพระราชวังโดลมาบาเช่ หรือบ้านเรือนสไตล์ยุโรปของบรรดาเศรษฐี ซึ่งล้วนแต่สวยงามตระการตาทั้งสิ้น นำท่านสู่ ตลาดสไปซ์มาร์เกต อิสระให้ท่านได้ชมสีสันของตลาดอียิปต์โบราณท่านสามารถเลือกซื้อของฝากได้ในราคาย่อมเยาว์ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องประดับ ชาหรือกาแฟ รวมถึงผลไม้อบแห้งอันขึ้นชื่อของตุรกีอย่าง แอปปลิคอท หรือจะเป็นถั่วพิทาชิโอ ซึ่งมีให้เลือกซื้อมากมาย นำท่านสู่จัตุรัสทักซิม ( Taksim Square) หรือ ย่านทักซิม สแควร์ เป็นย่านที่คึกคักที่สุดในมหานครอิสตันบูล เพราะเป็นย่านที่เป็นจุดศูนย์รวมของนักท่องเที่ยวทั่วโลก มีช็อปปิ้ง สตรีท ที่รายล้อมไปด้วยร้านค้าทั้งแบรนด์โลคอล และแบรนด์อินเตอร์มากมาย แถมยังมีบูติกโฮเต็ลอิพๆ และบาร์เก๋ๆ ให้คุณได้ชมบรรยากาศความคึกคักของถนนเส้นนี้
ค่ำบริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร นำท่านเข้าสู่ที่พัก RETAJ ROYAL HOTEL 5* HOTEL หรือเทียบเท่
เช้า : บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม ได้เวลาอันสมควรนำท่านสู่สนามบินอิสตันบูล
09.00 น. : นำท่านเดินทางสู่ สนามบินอิชเมียร์ (Izmir) โดยเที่ยวบิน TK 2320
11.00 น. : เดินทางถึงสนามบินสนามบินอิชเมียร์
เมืองอิซเมียร์(Izmir) ตั้งอยู่ทางปลายสุดทางตะวันตกของคาบสมุทรอานาโตเลีย (Anatolia) หรือที่เรามักเรียกกันว่า เอเชียไมเนอร์ (Asia Minor) ปัจจุบันเมืองอิซเมียร์นั้นถือว่าเป็นเมืองที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ซึ่งมีอายุเก่าแก่มากกว่า 5,000 ปี เป็นเมืองที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับสามของประเทศตุรกี ตัวเมืองนั้นตั้งอยู่รอบๆอ่าวขนาดใหญ่ ซึ่งพื้นที่ส่วนใหญ่นั้นถูกล้อมรอบไปด้วยภูเขา อีกทั้งยังถือว่าเป็นเมืองที่ค่อนข้างพลุกพร่านไปด้วยผู้คน รวมไปถึงถนนที่ค่อนข้างกว้าง อาคารกระจกและศูนย์ช็อปปิ้งที่ทันสมัย นั่นจึงส่งผลให้เมืองมีบรรยากาศของทะเลเมดิเตอร์เรเนียนยุโรปมากกว่าตุรกีแบบดั้งเดิม อิสระให้ท่านชมเมืองและเก็บภาพประทับใจ
เที่ยง : บริการอาหารเที่ยง ณ ภัตตาคาร
นำท่านเยี่ยมชมโรงงานเครื่องหนัง (Leather Jacket Factory) ซึ่งมีชื่อเสียงโด่งดังของประเทศตุรกี ตุรกีเป็นประเทศที่ผลิตหนังที่มีคุณภาพที่สุด อีกทั้งยังผลิตเสื้อหนังส่งให้กับแบรนด์ดังในอิตาลี เช่น Versace , Prada , Michael Kors อิสระให้ท่านเลือกซื้อสินค้าได้ตามอัธยาศัยจากนั้นได้เวลาอันสมควร นำท่านสู่หมู่บ้านออตโตมันดั้งเดิม ชมอารยะธรรมและบ้านเรือนสมัยแบบเก่าของสมัยออตโตมันที่ยังคงหลงเหลืออยู่ในปัจจุบัน อิสระให้ท่านเก็บภาพประทับใจ และเลือกชมซื้อสินค้าพื้นเมือง จากนั้นได้เวลาอันสมควรนำท่านสู่โรงแรมที่พัก
ค่ำ : บริการอาหารค่ำ ณ โรงแรมที่พัก RAMADA RESORT 5* Hotel หรือเทียบเท่า
เช้า : บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านชมเมืองเอฟฟิซุส (City of Ephesus) เมืองโบราณที่มีการบำรุงรักษาไว้เป็นอย่างดีเมืองหนึ่งเคยเป็นที่อยู่ของชาวโยนก (Ionian) จากกรีก ซึ่งอพยพเข้ามาปักหลักสร้างเมือง ซึ่งรุ่งเรืองขึ้นในศตวรรษที่ 6 ก่อนคริสตกาล ต่อมาถูกรุกรานเข้ายึดครองโดยพวกเปอร์เซียและกษัตริย์อเล็กซานเดอร์มหาราชภายหลังเมื่อโรมันเข้าครอบครองก็ได้สถาปนา “เอฟฟิซุส” ขึ้นเป็นเมืองหลวงต่างจังหวัดของโรมัน นำท่านเดินบนถนนหินอ่อนผ่านใจกลางเมืองเก่าที่สองข้างทางเต็มไปด้วยซากสิ่งก่อสร้างเมื่อสมัย 2,000 ปีที่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นโรงละครกลางแจ้งที่สามารถจุผู้ชมได้กว่า 30,000 คน ซึ่งยังคงใช้งานได้จนถึงปัจจุบันนี้ นำท่านชมห้องอาบน้ำแบบโรมันโบราณ (ROMAN BATH) ที่ยังคงเหลือร่องรอยของห้องอบไอน้ำให้เห็นอยู่จนถึงทุกวันนี้, ห้องสมุดโบราณที่มีวิธีการเก็บรักษาหนังสือไว้ได้เป็นอย่างดีทุกสิ่งทุกอย่างล้วนเป็นศิลปะแบบ เฮเลนนิสติคที่มีความอ่อนหวานและฝีมือปราณีต
เที่ยง : บริการอาหารเที่ยง ณ ภัตตาคาร
จากนั้นเดินทางสู่เมืองปามุคคาเล่ (PAMUKKALE) หรือปราสาทปุยฝ้าย เมืองที่มีน้ำพุเกลือแร่ร้อนไหลทะลุขึ้นมาจากใต้ดินผ่านซากปรักหักพังของเมืองเก่าแก่สมัยกรีกก่อนที่ไหลลงสู่หน้าผาผลจากการไหลของน้ำพุเกลือแร่ร้อนนี้ได้ก่อให้เกิดทัศนียภาพของน้ำตกสีขาวเป็นชั้นๆหลายชั้นและผลจากการแข็งตัวของแคลเซียมทำให้เกิดเป็นแก่งหินสีขาวราวหิมะขวางทางน้ำเป็นทางยาว ซึ่งมีความงดงามมาก ปามุคคาเล่ ได้รับการยกย่องจากองค์การยูเนสโก้ให้เป็นมรดกโลกทางธรรมชาติและวัฒนธรรมในปี ค.ศ. 1988 ชม นครโบราณเฮียราโปลิส (Hierapolis City ) และบ่อน้ำแร่ในอดีตเคยเป็นสระน้ำร้อน ปัจจุบันเป็นโรงแรมน้ำแร่ที่มีอุณหภูมิ 35 องศาเซลเซียส ประกอบด้วยดินปูนและเกลือแร่ ไหลเป็นน้ำตกจากที่สูง 100 เมตรลงสู่พื้น สายน้ำที่ถูกอากาศเย็นตัวลงทำให้แคลเซียมตกตะตอน เกิดเป็นอ่างแคลเซียมธรรมชาติ ขนาดมหึมา เรียกว่า ปามุกคาเล่ ในยุคโรมันสถานที่แห่งนี้เป็นเมืองตากอากาศที่สวยงาม
ค่ำ : บริการอาหารค่ำ ณ โรงแรมที่พัก LYCUSRIVER TERMAL 5* HOTEL หรือเทียบเท่า
เช้า : บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
เดินทางสู่เมืองอันทาเลียเป็นจังหวัดที่ตั้งอยู่ทางด้านตะวันตกเฉียงใต้ของอะนาโตเลียหรือเอเชียไมเนอร์ แถบบริเวณริมทะเลเมดิเตอร์เรเนียนที่ล้อมรอบไปด้วยเทือกเขา และยังเป็นเมืองศูนย์กลางการปกครองของจังหวัดอันทาลยาด้วย จังหวัดนี้ตั้งอยู่บนที่ราบของแพมฟีเลีย (Pamphylia) ซึ่งในอดีตที่นานมาเล้วเป็นแผ่นดินที่เกิดจากการทรุดตัวของการเปลี่ยนแปลง ของเปลือกโลกที่เกิดมาจากแผ่นดินไหวและการระเบิดของภูเขาไฟเป็นผืนแผ่นดินโบราณที่อุดมสมบูรณ์ อันทาเลีย ยังเป็นเมืองท่าเรือโบราณที่เคยมีความสำคัญมาแต่ในอดีตที่ถูกสร้างโดยจักรพรรดิอัตตาลุสที่2 ซึ่งต้องการให้เป็นเหมือนกับสวรรค์บนโลก (Heaven on Earth) และได้ตั้งชื่อเมืองนี้ว่า อัตตาเลีย (Attaleia) ตัวเมืองอันทาเลียได้รับการบูรณะพัฒนาให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวนานาชาติจนได้รับฉายาว่า ริเวียร่าแห่งตุรกี” นำทุกท่านชม ซุ้มประตูเฮเดรียน (Hadrain’s Gate) ซึ่งสร้างขึ้นในปีค.ศ.130เพื่อเป็นอนุสรณ์ในครั้งที่จักรพรรดิฮาเดรียนได้เดินทางมาที่เมืองนี้ซึ่งเป็นโบราณสถานที่มี ชื่อเสียงที่มีประตูทางเข้าไปยังวังที่สวยงามที่ถูกสร้างด้วยหินอ่อนเป็นรูปประตูถึงสามโค้งเพื่อให้เป็นเกียรติยศแด่องค์จักรพรรดิชมหอนาฬิกาที่คาเล่ คาปิซึ และ จตุรัส Republic ณ จุดนี้ทุกท่านจะได้ชมวิวอันสวยงามของทะเลเมดิเตเรเนียนที่น้ำทะเลสีฟ้าตัดใสสะท้อนสีของท้องฟ้า รวมไปถึงภาพขุนเขาของเทือกเขาโอลิมปัสที่ยิ่งใหญ่ จากนั้นนำทุกท่านชมหอคอยแห่งสุเหร่าคอร์คุต ซึ่งเริ่มแรกนั้นสร้างเพื่อใช้เป็นวัดในจักรวรรดิโรมัน หลังจากนั้นได้ถูกใช้เป็นโบสถ์ถวายแด่พระแม่มารีในยุคไบแซนไทน์และท้ายที่สุดได้เปลี่ยนเป็นสุเหร่าในยุคอิสลามครองเมือง ซึ่งในปัจจุบันนี้ตัวสุเหร่าชำรุดแตะหอคอยอะซาน หรือ หอคอยที่ใช้สำหรับเรียกในคนละหมาดนั้นยังคงอยู่อิสระให้ทุกท่านได้เดินชมจตุรัสและตรอกถนนที่เต็มไปด้วยบ้านเรือนและสวนสวยในสไตล์ออตโตมัน
เที่ยง : บริการอาหารเที่ยง ณ ภัตตาคาร
นำท่านชมความงามของน้ำตกลาร่าซึ่งเป็นน้ำตกที่มีชื่อเสียงของเมืองอันทาเลียโดยน้ำตกเกิดจากแม่น้ำดูเดน1ในแม่น้ำสายสำคัญของประเทศทุกท่านจะได้ชมสายธารที่ไหลเป็นคลองยาวไหลผ่านโตรกหินหลายชั้น ก่อให้เกิดเป็นน้ำตกหลายชั้นหลายตอน บางตอนลักษณะเหมือนกับลำธารเล็กๆ จนไปสิ้นสุดที่หน้าผาหินริมทะเลก่อนจะตกลงสู่ทะเลเมดิเตอร์เรเนียนจนกลายเป้นน้ำตกอีกจุดที่มีความสวยงามมาก
ค่ำ : บริการอาหารค่ำ ณ โรงแรมที่พัก Ramada Plaza Antalya 5*HOTEL หรือเทียบเท่า
เช้า : บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
เดินทางสู่เมือง Manavgat ซึ่งเป็นเมืองที่ถูกล้อมรอบด้วยเทือกเขา ปกคลุมไปด้วยป่าไม้ที่สวยงาม มีแม่น้ำสายสำคัญคือแม่น้ำ Manavgat ซึ่งไหลผ่านเมืองให้ความอุดมสมบูรณ์ นำท่านชมความงามของน้ำตก Manavgat waterfall และสามเหลี่ยมปากแม่น้ำที่มีความอุดมสมบูรณ์ทางธรรมชาติที่สำคัญที่สุดของเมือง อิสระให้ท่านเก็บภาพความประทับ ได้เวลาอันสมควรนำท่านเดินทางสู่เมืองคอนย่า (Konya) อดีตเมืองหลวงของอาณาจักร เซลจูคในช่วงปี ค.ศ. 1071 – 1308 รวมทั้งยังเป็นศูนย์กลางที่สําคัญของภูมิภาคแถบนี้ ท่านจะได้เพลิดเพลินกับ ทัศนียภาพที่งดงามตามธรรมชาติตลอดสองฝั่งทาง ของภูมิภาคตอนกลางของตุรกี
เที่ยง : บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองคัปปาโดเจีย เป็นเมืองที่อยู่ระหว่างทะเลดำกับภูเขาเทารุส มีความสำคัญมาแต่โบราณกาล เพราะเป็นส่วนหนึ่งของเส้นทางสายไหม เส้นทางค้าขายและแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมที่ทอดยาวจากตุรกีไปจรดประเทศจีน ระหว่างทางนําท่านชม “คาราวานสไรน์” เดินทางต่อสู่คัปปาโดเจีย ระหว่างเดินทางท่านจะได้เพลิดเพลินกับทัศนียภาพที่งดงามตามธรรมชาติตลอดสองฝั่งทางของภูมิภาคตอนกลางของตุรกี ให้ท่านสัมผัสประสบการณ์พิเศษพักโรงแรมถ้ำ ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของคัปปาโดเจีย ให้ท่านพักผ่อนตามอัธยาศัย ณ ทีพักโรงแรม
ค่ำ : บริการอาหารค่ำ ณ โรงแรมที่พัก : ANATOLIA HOUSE CAVE 5* HOTEL หรือเทียบเท่า
* หมายเหตุ: กรณีห้องพักของโรงแรมถ้ำเต็ม ขอสงวนสิทธิ์ในการปรับเปลี่ยนเป็นโรงแรมเทียบเท่าระดับเดียวกัน*
เช้า : บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
05.00 น. : สำหรับท่านที่สนใจนั่งบอลลูน พร้อมกัน ณ บริเวณล๊อบบี้ **(ทัวร์นั่งบอลลูนนี้ไม่รวมอยู่ในรายการทัวร์ ค่าขึ้นบอลลูนท่านละ 250 ดอลล่าสหรัฐ ในกรณีที่ชำระด้วยเงินสด และราคา 260 ดอลล่าสหรัฐ ในกรณีที่ชำระด้วยบัตรเครดิต บริษัทตัวแทนผู้ให้บริการทัวร์บอลลูนในตุรกี มีประกันภัยให้กับทุกท่าน แต่สำหรับประกันภัยที่ทำจากเมืองไทย ไม่ครอบคลุมการขึ้นบอลลูน และเครื่องร่อนทุกประเภท ดังนั้นการเลือกซื้อ Optional Tourรายการนี้ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแต่ละท่าน)**
นำท่านชม นครใต้ดิน(underground city) ซึ่งเกิดจาการขุดเจาะพื้นดินลงไป 10 กว่าชั้น เพื่อใช้เป็นที่หลบภัยจากข้าศึกศัตรูในยามสงคราม ของชาวคัปปาโดเจียในอดีต โดยทั้งจากชาวอาหรับจากทางตะวันออกที่ที่ต้องการเข้ามายึดครองดินแดนนี้เพื่อประโยชน์ทางการค้า และชาวโรมันจากทางตะวันตก ด้วยเหตุผลเดียวกัน รวมทั้งต้องการที่จะหยุดยั้งการเผยแพร่ศาสนาคริสต์ในดินแดนแถบนี้ด้วย โดยชั้นล่างที่ลึกที่สุด ลึกถึง 85 เมตร เมืองใต้ดินแห่งนี้มีครบทุกอย่าง ทั้งห้องโถง, ห้องนอน, ห้องน้ำ, ห้องถนอนอาหาร, ห้องครัว, ห้องอาหาร, โบสถ์, ทางหนีฉุกเฉิน ฯลฯ แม้จะเป็นเมืองขนาดใหญ่ที่ขุดลึกลงไปใต้ดินหลายชั้น แต่ว่าอากาศในนั้นถ่ายเทเย็นสบาย หน้าร้อนอากาศเย็น หน้าหนาวอากาศอบอุ่น มีอุณหภูมิเฉลี่ย 17-18 องศาเซลเซียส และด้วยการออกแบบที่ดี มีทางออกฉุกเฉินที่เป็นทางระบายอากาศไปในตัว ทำให้อากาศถ่ายเทได้สะดวก นำท่านชมหมู่บ้านของนกพิราบ โดยชาวบ้านได้ขุดเจาะโพรงเจาะรูเอาไว้ให้นกมาอยู่อาศัย นำท่านเข้าชมโรงงานผลิตพรม (Carpet School & Factory) ชมวิธีการทอพรมแบบดั้งเดิมซึ่งถือได้ว่าเป็นสินค้าที่มีชื่อเสียงของตุรกี จากนั้น
เที่ยง : บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
นำท่านสู่ เมืองอุชิซาร์ หมู่บ้านนำพิราบ เป็นพื้นที่ที่มีจุดเด่นคือภูเขาขนาดใหญ่มีรูพรุนเหมือนรวงผึ้ง รายล้อมไปด้วย หินทรงกระโจม กรวยคว่ำ และเจดีย์เต็มไปหมด ที่สำคัญก็คือส่วนหนึ่งของหินเหล่านี้มีคนอาศัยอยู่ภายใน ในลักษณะ“บ้านถ้ำ” มาช้านานนับจากอดีตถึงปัจจุบัน เป็นการอยู่อาศัยแบบ“เจาะเข้าไป”ภายในหิน โดยไม่มีการ“ทุบทำลายหิน”เหล่านี้ทิ้งเพื่อปรับพื้นที่ให้ราบเรียบแต่อย่างใด ส่วนบ้านที่ปลูกสร้างขึ้นใหม่ก็ทำอย่างกลมกลืน ไม่ทำลายทัศนียภาพ นับเป็นการอยู่อาศัยกับธรรมชาติอย่างอิงแอบพึ่งพิงที่น่ายกย่องเป็นอย่างยิ่ง นำท่านสู่ หมู่บ้านอวานอส ซึ่งเป็นหมู่บ้านที่มีชื่อเสียงเกี่ยวกับเครื่องปั้นดินเผา และงานเซรามิก แทบทุกร้านจะมีผลิตภัณฑ์จากงานปั้นวางอยู่หน้าร้าน แต่ในบ้านมีโชว์เครื่องปั้นหม้อทุกบ้าน อวานอสเป็นเมืองเล็กๆที่มีแม่น้ำไหลผ่าน แต่เป็นแม่น้ำที่มีตะกอนแดง ชาวบ้านเลยนำดินจากแม่น้ำมาลองปั้นใช้เป็นอุปกรณ์ ของเครื่องใช้ ที่ใช้ภายในบ้าน เช่น ถ้วย ชาม ไห ฯลฯ ต่อมาได้เริ่มปั้นพวกโอ่ง แจกัน และเครื่องประดับบ้าน ชมการสาธิตการทำเครื่องปั้นดินเผาของแบบดั้งเดิมของชาวคัปปาโดเกีย
ค่ำ : บริการอาหารค่ำ (บุฟเฟ่ต์) ณ โรงแรมที่พัก: ANATOLIA HOUSE CAVE 5* HOTEL หรือเทียบเท่า
* หมายเหตุ: กรณีห้องพักของโรงแรมถ้ำเต็ม ขอสงวนสิทธิ์ในการปรับเปลี่ยนเป็นโรงแรมเทียบเท่าระดับเดียวกัน*
เช้า : บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านสู่หุบเขาเดฟเรนท์ (Devrent Valley) หุบเขาแห่งจินตนาการ ตื่นตากับอัศจรรย์ของภูมิประเทศที่แปลกตาที่ดูคล้ายพื้นผิวดวงจันทร์ หรือดาวเคราะห์ดวงอื่น ในจักรวาลมากกว่าพื้นผิวโลก เต็มไปด้วยหินรูปทรงแปลกตา อิสระให้ท่านเก็บภาพ panoramic view
เที่ยง : บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย : จากนั้นเดินทางสู่เมืองไครซีรี นำท่านสู่ย่านช้อปปิ้งให้ท่านได้มีเวลาเลือกชื้อของฝากต่างๆ ก่อนจะได้เวลาสมควรนำท่านเดินทางสู่สนามบิน Kayseri
18.20-19.50 น. : เดินทางสู่เมืองอิสตันบูล เที่ยวบินที่ TK2015 (บินภายในประเทศ)
**ค่ำ อิสระอาหารค่ำตามอัธยาศัย**
01.45 น. : ออกเดินทางสู่ประเทศไทย โดยเที่ยวบินที่ TK 68 (ใช้เวลาบินประมาณ 9 ชั่วโมง)
15.25 น. : เดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ โดยสวัสดีภาพและความประทับใจ
อัตราค่าบริการนี้รวม
อัตราค่าบริการนี้ไม่รวม
หมายเหตุ
เงื่อนไขการให้บริการ
หมายเหตุ
ข้อแนะนําและแจ้งเพื่อทราบ
หมายเหตุ :
Error: Contact form not found.
Error: Contact form not found.
Error: Contact form not found.
Error: Contact form not found.
Error: Contact form not found.
Error: Contact form not found.
Error: Contact form not found.
Error: Contact form not found.
Error: Contact form not found.
Error: Contact form not found.
Error: Contact form not found.
Error: Contact form not found.
Error: Contact form not found.