กัสโต้ เวิล์ด ทัวร์

บริการคุณภาพ ทุกเส้นทางท่องเที่ยว

เลขที่ 11/03295

ทัวร์ตุรกี แกรนด์ตุรกี

ทัวร์ตุรกี
รหัส 002-1744
วันที่เดินทาง
ส.ค.65 - ต.ค.65
ช่วงเวลา
10 วัน 7 คืน
ราคาเริ่มต้น
65,900 บาท
แผนการเดินทาง
วันที่ 1
ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ - อิสตันบูล

20.30 น. : สมาชิกทุกท่านพร้อมกัน ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศ
เคาน์เตอร์สายการบินเตอร์กิช แอร์ไลน์ ประตูทางเข้า 10 เคาน์เตอร์ U  โดยมีเจ้าหน้าที่ของบริษัทฯ คอยอำนวยความสะดวกและดูแลเรื่องสัมภาระพร้อมบัตรที่นั่ง

23.30น. : ออกเดินทางสู่ เมืองอิสตันบลู โดยสายการบิน TURKISK AIRLINES เที่ยวบินที่ TK 069

วันที่ 2
อิสตันบลู - ชานัคคาเล - ทรอย - ม้าไม้เมืองทรอย - ไอยวาริค

06.10 น. : เดินทางถึง ท่าอากาศยานอิสตันบลู อาตาตูร์ก หลังผ่านพิธีการตรวจคนเข้า เมือง และด่านศุลกากรเรียบร้อยแล้ว

ออกเดินทางสู่ “เมืองชานัคคาเล่” (CANAKKALE) ซึ่งมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ เดิมมีชื่อว่า “โบกาซี” (BOGAZI) หรือ เฮลเลสปอนต์ (HELLESPONT) ตั้งอยู่บนจุดแคบที่สุดของช่องแคบดาร์ดาแนลส์ใกล้กับแหลมเกลิโบลูบนฝั่งของทะเลมาร์มาร่าและติดกับทะเลอีเจียน โดยมีชื่อเสียงในด้านการท่องเที่ยว เนื่องจากมีซากโบราณสถานที่ถูกสร้างขึ้นในสมัยโรมันหลายแห่ง นำท่านเข้าสู่ท่าเรือ “อีเคบัท” (ECEABAT) เพื่อเปลี่ยนเป็นเรือเฟอร์รี่ ข้ามฟากสู่ชานัคคาเล่ (ฝั่งเอเชีย) ระหว่างการล่องเรือชมความสวยงามของช่องแคบคาร์ดาแนลส์

เที่ยง : บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

บ่าย : นำท่านชม “เมืองทรอย” (TROY) ปัจจุบันกรุงทรอย ได้ตั้งอยู่ในเมืองชานัคคาเล่ ซึ่งได้มีการขุดค้นซากกรุงทรอยที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 4,000 ปีซึ่งเป็นแหล่งโบราณคดีที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งของโลก โดยนักโบราณคดีชาวเยอรมันชื่อเฮนริค ชไลแมนน์ (HEINRICH SCHLIEMANN) ในปี 1870 ปัจจุบันเหลือเพียงซากที่ทับถมซ้อนกันถึง 9 ชั้น และอนุสรณ์อันยิ่งใหญ่อย่างม้าไม้เมืองทรอย นำชม  “ม้าไม้จำลองเมืองทรอย” ที่ชื่อว่า “ม้าไม้โทรจัน” ซึ่งเปรียบเสมือนสัญลักษณ์อันชาญฉลาดด้านกลศึกของนักรบโบราณซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้กรุงทรอยแตก สงครามม้าไม้ เป็นสงครามที่สำคัญตำนานของกรีกและเป็นสงครามระหว่างกองทัพของชาวกรีกและกรุงทรอยหลังจากสู้รบกันเป็นเวลาสิบปี  ได้เวลาอันสมควร นำท่าน เดินทางสู่ “เมืองไอยวาริค” (ระยะทาง 167 กม.)

ค่ำ : บริการอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรม

วันที่ 3
ไอยวาริค - เพอร์กามัม - เอเฟซุส - เมืองโบราณเอเฟซุส - โรงงานเครื่องหนัง - คูซาดาซึ

เช้า : บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรมที่พัก

จากนั้น นำท่านเดินทางสู่ “เมืองเพอร์กามา” (BERGAMA) (ระยะทาง 63 กม.) เป็นเมืองชายฝั่งทะเลเอเจียนของประเทศตุรกี ในอดีตกลุ่มชาวกรีก อีโอเลียน (AEOLIAN) เป็นผู้บุกเบิกในการเข้ามาตั้งรกราก ในช่วง 800 ปีก่อนคริสตกาล และยังมีซากเมืองโบราณที่ยังหลงเหลืออยู่ให้ชม เมืองเพอร์กามาเป็นเมืองโบราณ มีความเจริญรุ่งเรืองสูงสุดในช่วงราว 281-133 ปี ก่อนคริสตกาล ซึ่งถือเป็นยุคทองของศิลปะและวิทยาการของกรีก เรียกว่ายุค “เฮลเลนลิสติก” (HELLENISTIC) โดยดินแดนอนาโตเลีย (หรือตุรกีในปัจจุบัน) ซึ่งเดิมก่อนหน้านี้อยู่ภายใต้อาณาจักรเปอร์เซีย และต่อมาถูกยึดครองโดย พระเจ้าอเล็กซานเดอร์มหาราช เป็นระยะเวลาประมาณ 10 ปี หลังจากนั้น พระเจ้าอเล็กซานเดอร์มหาราชก็สิ้นพระชนม์ อาณาจักรทั้งหมดของพระองค์จึงถูกแบ่งออกเป็น 4 ส่วน ปกครองโดยขุนพลสำคัญของพระองค์ 4 คนคือ 1.คัสซันโดรส (CASSANDROS) ปกครองมาซิโดเนีย และ กรีซ 2.เซเลอคุส (SELEUSCUS) ปกครองเมโซโปเตเมีย ซีเรีย และอานาโตเลียตะวันออก 3.ปโตเลมี (PTOLEMY) ปกครองอียิปต์ ลิเบีย และอานาโตเลียตอนเหนือ 4.ไลซิมาคุส (LYSIMACHUS) ปกครองอานาโตเลียตอนใต้และตะวันตก

นำทุกท่านชม “แท่นบูชาเพอร์กามา” (PERGAMON ALTAR) เป็นสิ่งก่อสร้างที่สร้างขึ้นในช่วงรัชสมัยของกษัตริย์ EUMENES II ในช่วงครึ่งแรกของศตวรรษที่ 2 บนระเบียงแห่งหนึ่งของเมืองกรีกโบราณ PERGAMON โครงสร้างมีความกว้าง 35.64 เมตรและลึก 33.4 เมตร บันไดหน้าเพียงลำพังกว้างเกือบ 20 เมตร ฐานตกแต่งด้วยผ้าสักหลาดนูนสูงโล่งอกแสดงการต่อสู้ระหว่างเหล่ายักษ์และเทพเจ้าโอลิมเปียที่รู้จักกันในนาม GIGANTOMACHY มีผนังชั้นสองที่มีขนาดเล็กกว่าและได้รับการอนุรักษ์ไว้น้อยกว่าบนผนังศาลด้านใน นำชม RED BASILICA หรือที่รู้จักกันในชื่อ RED HALL และ RED COURTYARD เป็นวิหารเก่าแก่ที่ถูกทำลายในเมืองโบราณของ PERGAMON ซึ่งปัจจุบัน BERGAMA ทางตะวันตกของประเทศตุรกี วัดนี้สร้างขึ้นในสมัยจักรวรรดิโรมันอาจอยู่ในช่วงเวลาของเฮเดรียนและตามคำสั่งของพระองค์ เดินทางสู่ มหานครโบราณยุคสมัยกรีกและโรมัน “เอเฟซุส” (EPHESUS) (ระยะทาง 188 กม.)   โดยมีอายุมากกว่า 2,500 ปี ถูกสร้างขึ้นก่อนยุคคริสตกาล

เที่ยง : บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

บ่าย : นำชม “เมืองโบราณเอเฟซุส” หรือ เอเฟส เมืองโบราณยุคกรีกโรมัน เป็นเมืองเก่ายุคจักรวรรดิโรมันที่ถือว่าเจริญรุ่งเรืองด้วยศิลปะวิทยาการ มีระบบวางท่อน้ำ หอสมุด และอื่นๆรวมทั้งโรงละครใหญ่ทรงโค้งแบบพิมพ์นิยมของกรีกโบราณ มีลานกว้างตรงกลาง แบ่งที่นั่งคนดูเป็น 3 ชั้นตามระดับความสำคัญไล่ไปจนถึงคนธรรมดาสามัญ ใช้เป็นที่เป็นที่ประชุม จัดแสดงละครและการต่อสู้สิงสาราสัตว์ของเหล่าทาส จากนั้น เข้าชม “โรงงานเครื่องหนัง” ซึ่งมีชื่อเสียงโด่งดังของประเทศตุรกี ได้เวลาอันสมควร นำท่านออกเดินทางสู่ “เมืองคุซาดาซึ” (KUSADASI)

ค่ำ : บริการอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรม

วันที่ 4
คูซาดาซึ - ปามุคคาเล่ - นครโบราณเฮียราโพลิส - ปราสาทปุยฝ้าย - อันตัลยา

เช้า : บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรมที่พัก

นำท่านเดินทางสู่ “ปามุคคาเล่” (PAMUKKALE) (ระยะทาง 191 กม.) บ่อน้ำร้อนศักดิ์สิทธิ์ซึ่งธรรมชาติได้สร้างสรรค์ขึ้นมา โดยคำว่า “ปามุคคาเล่” ในภาษาตุรกี หมายถึง “ปราสาทปุยฝ้าย” PAMUK หมายถึง ปุยฝ้าย และ KALE หมายถึง ปราสาท เป็นน้ำตกหินปูนสีขาวที่เกิดขึ้นจากธารน้ำใต้ดิน ซึ่งเป็นที่มีแร่หินปูนผสมอยู่ในปริมาณที่สูงมาก ไหลรินลงมาจากภูเขา “คาลดากึ”

เที่ยง : บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

บ่าย : นำท่านชม “นครโบราณเฮียราโพลิส” หรือนครศักดิ์สิทธิ์ (HIERAPOLIS) สันนิษฐานกันว่ามีอายุประมาณ 2,200 ปี เพราะถูกสร้างขึ้นก่อนคริสตกาล ในยุคของกษัตริย์ยูเมเนสที่ 2 แห่งอาณาจักรเพอร์กามอน โดยสร้างให้อยู่ใกล้กับแอ่งน้ำแร่ร้อนปามุคคาเล่ แต่หากถอดความคำว่าเฮียราโพลิส หมายถึง เมืองแห่งความศักดิ์สิทธ์ เช่นเดียวกับเมืองทุกเมืองที่มียุครุ่งโรจน์และยุคเสื่อมถอยเฮียราโพลิสเองก็เป็นแบบนั้น หลังจากเมืองนี้ถูกยกให้พวกโรมัน ก็เกิดแผ่นดินไหวครั้งรุนแรงจนเมืองย่อยยับ

ค่ำ : บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร เมนูซีฟู้ด

วันที่ 5
อันตัลยา - หอคอยฮิดิร์ลิค - ล่องเรืออันตัลยา - คอนยา พิพิธภัณฑ์เมฟลานา

เช้า : บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรมที่พัก

เดินทางสู่ “เมืองคัปปาโดเกีย” (CAPPADOCIA) (ระยะทาง 240 กม.) เมืองที่มีลักษณะภูมิประเทศสวยงามและเป็นดินแดนที่มีภูมิประเทศอันน่าอัศจรรย์ คัปปาโดเกีย  เป็นชื่อเก่าแก่ภาษาฮิตไทต์ (ชนเผ่ารุ่นแรกๆ ที่อาศัยอยู่ในดินแดนแถบนี้)

ระหว่างทาง แวะเที่ยวชม “คาราวานสไลน์” (CAVARANSERAI) ที่พักกองคาราวานในอดีตของสุลต่านฮานี ตั้งอยู่ที่หมู่บ้านสุลต่านฮานีสร้างโดยสุลต่านอาเลดดิน เคย์โคบาท ราวศตวรรษที่ 13 ประตูทำด้วยหินอ่อนสกัดลวดลายโบราณตรงกลางเป็นสุเหร่า ส่วนบริเวณอื่นจัดเป็นครัว โรงอาบน้ำ และห้องนอน โดยคำว่า “คาราวานสไลน์” หมายถึง ที่พักของผู้ที่ตรากตรำมาจากการเดินทาง โดยคาราวานสไลน์นั้น มักมีประตูสูงกว่าตัวอาคารมากเพื่อให้นักเดินทางมองเห็นได้แต่ไกล

เที่ยง : บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

บ่าย : เดินทางสู่ “ไคมัคลี” (KAYMAKLI) เพื่อนำท่านชม “นครใต้ดิน” (KAYMAKLI UNDERGROUND CITY) เมืองใต้ดินโบราณที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยเมืองใต้ดินของตุรกีมีอยู่หลายแห่ง แต่ละแห่งมีอุโมงค์เชื่อมต่อถึงกัน เป็นสถานที่ที่ผู้นับถือศาสนาคริสต์ใช้หลบภัยชาวโรมันที่ต้องการทำลายร้างพวกนับถือศาสนาคริสต์ เมืองใต้ดินที่มีขนาดใหญ่ แต่ละชั้นมีความกว้างและสูงขนาดเท่าเรายืนได้ ทำเป็นห้อง ๆ มีทั้งห้องครัวห้องหมักไวน์ มีโบสถ์ ห้องโถงสำหรับใช้ประชุม มีบ่อน้ำและระบบระบายอากาศที่ดี แต่อากาศค่อนข้างบางเบาเพราะอยู่ลึกและทางเดินบางช่วงค่อนข้างแคบจนเดินสวนกันไม่ได้

ค่ำ : บริการอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรม

นำท่านชมการแสดงพื้นเมือง “ระบำหน้าท้อง” (BELLY DANCE) อันเลื่องชื่อ ณ เมืองคัปปาโดเกีย ระบำหน้าท้องเป็นการเต้นรำที่เก่าแก่อย่างหนึ่ง เกิดขึ้นเมื่อประมาณ 6,000 ปี ในดินแดนแถบอียิปต์ และเมดิเตอร์เรเนียนนักประวัติศาสตร์เชื่อกันว่าชนเผ่ายิปซีเร่ร่อนคือคนกลุ่มสำคัญที่ได้อนุรักษ์ระบำหน้าท้องให้มีมาจนถึงปัจจุบัน และการเดินทางของชาวยิปซีทำให้ระบำหน้าท้องแพร่หลายมีการพัฒนาจนกลายเป็นศิลปะที่โดดเด่น สวยงามจนกลายมาเป็นระบำหน้าท้องตุรกีในปัจจุบัน (บริการเครื่องดื่มฟรีตลอดการแสดง)

วันที่ 6
คอนยา - คาราวานสไลน์ - คัปปาโดเกีย - นครใต้ดิน - ระบำหน้าท้อง

เช้า : บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรมที่พัก เดินทางสู่ “เมืองคัปปาโดเกีย” (CAPPADOCIA) (ระยะทาง 240 กม.) เมืองที่มีลักษณะภูมิประเทศสวยงามและเป็นดินแดนที่มีภูมิประเทศอันน่าอัศจรรย์ คัปปาโดเกีย  เป็นชื่อเก่าแก่ภาษาฮิตไทต์ (ชนเผ่ารุ่นแรกๆ ที่อาศัยอยู่ในดินแดนแถบนี้) แปลว่า ดินแดนม้าพันธุ์ดีตั้งอยู่ทางตอนกลางของตุรกีเป็นพื้นที่เกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟเออซิเยส และ ภูเขาไฟฮาซาน เมื่อประมาณ 3 ล้านปีที่แล้ว เถ้าลาวาที่พ่นออกมาและเถ้าถ่านจำนวนมหาศาลกระจายทั่วบริเวณจนทับถมเป็นแผ่นดินชั้นใหม่ขึ้นมา กระแส น้ำ ลม ฝน แดด และหิมะ กัดเซาะกร่อนหิน แผ่นดินภูเขาไฟไปเรื่อย ๆ นับแสนนับล้านปีจนเกิดเป็นภูมิประเทศประหลาดแปลกตาน่าพิศวง ที่เต็มไปด้วยหินรูป แท่ง กรวย ปล่อง กระโจม โดม และอีกสารพัดรูปทรง ดูประหนึ่งดินแดนในเทพนิยายจนผู้คนในพื้นที่เรียกขานกันว่า ปล่องไฟนางฟ้า ในปีค.ศ. 1985 ยูเนสโกได้ประกาศให้พื้นที่มหัศจรรย์แห่งนี้เป็นมรดกโลกทางธรรมชาติและวัฒนธรรมแห่งแรกของตุรกี ระหว่างทาง

แวะเที่ยวชม “คาราวานสไลน์” (CAVARANSERAI) ที่พักกองคาราวานในอดีตของสุลต่านฮานี ตั้งอยู่ที่หมู่บ้านสุลต่านฮานีสร้างโดยสุลต่านอาเลดดิน เคย์โคบาท ราวศตวรรษที่ 13 ประตูทำด้วยหินอ่อนสกัดลวดลายโบราณตรงกลางเป็นสุเหร่า ส่วนบริเวณอื่นจัดเป็นครัว โรงอาบน้ำ และห้องนอน โดยคำว่า “คาราวานสไลน์” หมายถึง ที่พักของผู้ที่ตรากตรำมาจากการเดินทาง โดยคาราวานสไลน์นั้น มักมีประตูสูงกว่าตัวอาคารมากเพื่อให้นักเดินทางมองเห็นได้แต่ไกล

เที่ยง : บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

บ่าย : เดินทางสู่ “ไคมัคลี” (KAYMAKLI) เพื่อนำท่านชม “นครใต้ดิน” (KAYMAKLI UNDERGROUND CITY) เมืองใต้ดินโบราณที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยเมืองใต้ดินของตุรกีมีอยู่หลายแห่ง แต่ละแห่งมีอุโมงค์เชื่อมต่อถึงกัน เป็นสถานที่ที่ผู้นับถือศาสนาคริสต์ใช้หลบภัยชาวโรมันที่ต้องการทำลายร้างพวกนับถือศาสนาคริสต์ เมืองใต้ดินที่มีขนาดใหญ่ แต่ละชั้นมีความกว้างและสูงขนาดเท่าเรายืนได้ ทำเป็นห้อง ๆ มีทั้งห้องครัวห้องหมักไวน์ มีโบสถ์ ห้องโถงสำหรับใช้ประชุม มีบ่อน้ำและระบบระบายอากาศที่ดี แต่อากาศค่อนข้างบางเบาเพราะอยู่ลึกและทางเดินบางช่วงค่อนข้างแคบจนเดินสวนกันไม่ได้

ค่ำ : บริการอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรม

นำท่านชมการแสดงพื้นเมือง “ระบำหน้าท้อง” (BELLY DANCE) อันเลื่องชื่อ ณ เมืองคัปปาโดเกีย ระบำหน้าท้องเป็นการเต้นรำที่เก่าแก่อย่างหนึ่ง เกิดขึ้นเมื่อประมาณ 6,000 ปี ในดินแดนแถบอียิปต์ และเมดิเตอร์เรเนียนนักประวัติศาสตร์เชื่อกันว่าชนเผ่ายิปซีเร่ร่อนคือคนกลุ่มสำคัญที่ได้อนุรักษ์ระบำหน้าท้องให้มีมาจนถึงปัจจุบัน และการเดินทางของชาวยิปซีทำให้ระบำหน้าท้องแพร่หลายมีการพัฒนาจนกลายเป็นศิลปะที่โดดเด่น สวยงามจนกลายมาเป็นระบำหน้าท้องตุรกีในปัจจุบัน (บริการเครื่องดื่มฟรีตลอดการแสดง)

วันที่ 7
คัปปาโดเกีย - ชมวิวเมืองคัปปาโดเกียโดยบอลลูน*** - พิพิธภัณฑ์กลางแจ้งเกอเรเม่ - อุชิซาร์ - พาซาแบค - อิสตันบูล

05.30 น. : ***สำหรับท่านที่สนใจ ขึ้นบอลลูน เพื่อชมความงามของพระอาทิตย์ขึ้น ท่านสามารถเลือกซื้อ OPTIONAL HOT AIR BALLOON TOUR ได้ ในราคาประมาณ 250 USD ต่อท่าน (ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ) สำหรับประกันภัยที่ทำจากเมืองไทย ไม่ครอบคลุมการขึ้นบอลลูน และ เครื่องร่อนทุกประเภท ดังนั้นการเลือกซื้อ OPTIONAL TOUR ขึ้นกับดุลยพินิจของท่าน)***

เช้า : บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรมที่พัก

นำชม “พิพิธภัณฑ์กลางแจ้งเกอเรเม่” (GOREME OPEN AIR MUSEUM) ซึ่งเป็นศูนย์กลางของศาสนาคริสต์ในช่วง ค.ศ. 9 ซึ่งเป็นความคิดของชาวคริสต์ที่ต้องการเผยแพร่ศาสนาโดยการขุดถ้ำเป็นจำนวนมากเพื่อสร้างโบสถ์และยังเป็นการป้องกันการรุกรานของชนเผ่าลัทธิอื่นที่ไม่เห็นด้วยกับศาสนาคริสต์ นำท่านสู่ “อุชิซาร์” (UCHISAR) หนึ่งในความมหัศจรรย์ของคัปปาโดเกีย หุบเขาอุซิซาร์ หุบเขาคล้ายจอมปลวกขนาดใหญ่ ใช้เป็นที่อยู่อาศัย ซึ่งหุบเขาดังกล่าวมีรูพรุน มีรอยเจาะ รอยขุด เหมือนรวงผึ้ง อันเกิดจากฝีมือมนุษย์ไปเกือบทั่วทั้งภูเขา เพื่อเอาไว้เป็นที่อาศัย อุซิซาร์ คือ บริเวณที่สูงที่สุดของบริเวณโดยรอบ ในอดีตอุซิซาร์ มีไว้ทำหน้าที่เป็นป้อมปราการที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติเอาไว้สอดส่องข้าศึกยามมีภัยอีกด้วย นำท่านชมความงดงาม RED VALLEY ผาหินสีขาวอมชมพูอมแดง ทิวทัศน์อันตระการตา ซึ่งเป็นอีกหนึ่งหุบเขาคู่กันได้รับการยอมรับว่าเป็นอีกสถานที่หนึ่งที่งดงามที่สุดในคัปปาโดเกีย

เที่ยง : บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง (เมนูพิเศษ!!! เคบับหม้อดินเผาอาหารขึ้นชื่อของเมืองคัปปาโดเกีย มาแล้วต้องลองให้ได้)

บ่าย : นำท่านชม “พาซาแบค” (PASABAG VALLEY) หินทรงสูงใหญ่มีรูปร่างคล้ายเห็ดสามหัว เป็นหนึ่งในสถานที่สำคัญที่มีชื่อเสียงที่สุดของคัปปาโดเกีย อีกทั้งยังเป็นสถานที่ที่ดีที่สุดในการชมปล่องไฟสามเศียร ซึ่งถูกโอบล้อมไปด้วยหินธรรมชาติที่มีความสวยงามแปลกตา ได้เวลาอันสมควร นำท่านเดินทางสู่ DEVRENT VALLEY ซึ่งเป็นจุดชมวิวที่สามารถเห็นปล่องไฟนางฟ้าในรูปแบบต่างๆ  นำท่านแวะ “ชมโรงงานทอพรม”  “โรงงานเซรามิค” และ “ร้านจิวเวอร์รี่” สินค้าคุณภาพดี และขึ้นชื่อของประเทศตุรกี ให้เวลาท่านเลือกซื้อตามอัธยาศัยอิสระกับการเลือกซื้อสินค้า และของที่ระลึก

17.00 น. ; บริการอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร
หลังรับประทานอาหาร ออกเดินทางสู่ สนามบินไคเซอรี่

20.10 น. :  ออกเดินทางสู่ อิสตันบูล โดยสายการบินเตอร์กิช แอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ TK 2015

21.40 น. : เดินทางถึง อิสตันบูล นำทุกท่านเดินทางเข้าสู่ตัวเมือง “อิสตันบูล” (ISTANBUL) เดิมชื่อ คอนสแตนติโนเปิล เป็นเมืองที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานหลายศตวรรษตั้งแต่ก่อนคริสตกาล ตั้งอยู่บริเวณช่องแคบบอสฟอรัส ซึ่งทำให้อิสตันบูลเป็นเมืองสำคัญเพียงเมืองเดียวในโลก ที่ตั้งอยู่ใน 2 ทวีป คือ ทวีปยุโรป และทวีปเอเชีย สถาปัตยกรรมอันงดงามผสมผสานทั้ง 2 ทวีป ทำให้อิสตันบูลมีเอกลักษณ์เฉพาะที่พิเศษ อีกทั้งยังเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจ วัฒนธรรม และประวัติศาสตร์ของประเทศตุรกี โดยบริเวณเมืองเก่าเป็นที่ตั้งของพระราชวังโบราณ มัสยิด โบราณสถาน พิพิธภัณฑ์ รวมถึงอาคารแบบออตโตมันและแบบยุโรป

วันที่ 8
อิสตันบูล - สุเหร่าสีน้ำเงิน - สุเหร่าเซนต์โซเฟีย - สวนอีเมอร์กัน - ฮิปโปโดรม - อ่างเก็บน้ำเยเรบาทัน - แกรนด์บาซาร์

เช้า : บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรมที่พัก

นำท่านชม “สุเหร่าสีน้ำเงิน” (BLUE MOSQUE) หรือชื่อเดิม คือ สุเหร่าสุลต่านห์อาร์เหม็ดที่ 1 (SULTAN AHMED MOSQUE) ** การเข้าชมสุเหร่าทุกแห่ง ขอความร่วมมือจากทุกท่านในการแต่งกายเรียบร้อย ด้านในต้องถอดรองเท้า ถอดหมวก ถอดแว่นตาดำ เป็นการเคารพสถานที่ ถ่ายรูปได้ ห้ามส่งเสียงดัง และกรุณาทำกิริยาให้สำรวม สำหรับผู้หญิง แนะนำควรมีผ้าคลุมผม

เที่ยง : บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารจีน

บ่าย : นำท่านเก็บภาพ “สุเหร่าเซนต์โซเฟีย” (SAINT SOPHIA) หรือ โบสถ์ฮาเจีย โซเฟีย 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคกลาง ก่อนจะได้รับคัดเลือกเข้ารอบสุดท้ายให้เป็น 1 ใน 21 สิ่งมหัศจรรย์ยุคใหม่อีกครั้งในปี ค.ศ. 2007 เป็นต้นแบบสถาปัตยกรรมโบสถ์ของคริสต์ศาสนิกชนตะวันตกยุคไบเซนไทน์ (BYZANTINE) ทั้งนิกายออร์โธดอกซ์ และ คาทอลิกกรีก ในอดีตเป็นโบสถ์ทางศาสนาคริสต์ ปัจจุบันเป็นที่ประชุมสวดมนต์ของชาวมุสลิม  นำท่านชม “ฮิปโปโดรม” (HIPPODROME) หรือสนามแข่งม้าโบราณ ซึ่งมีเสาโอเบลิสค์ซึ่งเหลือแค่ส่วนปลายที่ยาว 20 เมตร มีงานแกะสลักอันมีความหมายและมีค่ายิ่ง จากนั้น ได้เวลาอันสมควร นำท่านชมเทศกาลทิวลิป ณ “สวนอีเมอร์กัน” (EMIRGAN PARK) สวนสาธารณะที่มีชื่อที่เสียงที่สุดของตุรกี

นำท่านสู่ “แกรนด์บาซาร์” (GRAND BAZAAR) ตลาดช้อปปิ้งที่ใหญ่และโด่งดังที่สุดในตุรกีเป็นตลาดสไตล์เตอร์กิชแท้ ๆ ภายในตลาดตกแต่งไว้อย่างสวยงามและเป็นตลาดเก่าแก่เปิดมานานกว่า 1,500 ปี ซึ่งสร้างตั้งแต่ปี ค.ศ. 1453 มีเนื้อที่ทั้งหมดเกือบ ๆ 200 ไร่ มีร้านค้าขายของต่าง ๆ มากถึง 5,000 ร้านค้า ที่ตลาดแกรนด์บาซ่าร์มีสินค้าให้เลือกมากมายไม่ว่าจะเป็นของกินเล่นขนมของตุรกีที่หาซื้อจากที่ไหนไม่ได้ ของที่ระลึกที่แนะนำก็จะเป็น ลูกปัดตาปีศาจ เครื่องราง  ชา ผลไม้อบแห้ง  ถั่วหลากชนิด เช่น ถั่วแมคคาดาเมีย พิตาชิโอ หรือจะเป็นขนมหวาน เตอร์กิสดีไลต์  เครื่องเทศ  เซรามิก จาน ชาม แจกัน เครื่องดนตรีพื้นเมือง โคมไฟ พวงกุญแจหรือกระเบื้องเพนท์ติดผนัง และของที่ระลึกอื่นอีกมากมาย

ค่ำ : บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร

วันที่ 9
อิสตันบูล - พระราชวังโดลมาบาเชห์ - พระราชวังทอปคาปึ เก็บภาพหอคอยกาลาตา - ล่องเรือชมช่องแคบบอสฟอรัส - ตลาดเครื่องเทศ - สนามบินอิสตันบูล

เช้า : บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรมที่พัก

นำท่านเข้าชม “พระราชวังโดลมาบาเชห์” (DOLMABAHCE PALACE) สร้างโดยสุลต่านอับดุล เมซิด (ABDUL MECIT) ในปี ค.ศ.1843-1856 ยุคปลายอาณาจักรออตโตมัน สร้างด้วยหินอ่อน ศิลปะแบบตะวันออกผสมผสานกับตะวันตก ตัวอาคารยาวถึง 600 เมตร ตั้งอยู่ริมชายฝั่งทะเลมาร์มาราในช่องแคบบอสฟอรัสบนฝั่งทวีปยุโรป ทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางการปกครองของจักรวรรดิออตโตมัน จากนั้น นำ

ท่านเข้าชม “พระราชวังทอปคาปึ” (TOPKAPI PALACE) ตั้งอยู่ในเขตเมืองเก่าซึ่งถือเป็นเขตประวัติศาสตร์ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากยูเนสโกตั้งแต่ปี ค.ศ. 1985 พระราชวังทอปคาปึ สร้างขึ้นโดยสุลต่านเมห์เมตที่ 2 ในปี ค.ศ.1459 บนพื้นที่กว้างใหญ่ถึง 4 ลานกว้าง และมีอาคารขนาดเล็กอีกจำนวนมาก ณ จุดที่สร้างพระราชวังแห่งนี้สามารถมองเห็นช่องแคบบอสฟอรัส โกลเดนฮอร์นและทะเลมาร์มาร่าได้อย่างชัดเจน ในช่วงที่เจริญสูงสุดของอาณาจักรออตโตมัน พระราชวังแห่งนี้มีราชวงศ์และข้าราชบริพารอาศัยอยู่รวมกันมากถึงสี่พันกว่าคน นำท่านเข้าชมส่วนของท้องพระโรงที่เป็นที่จัดแสดงทรัพย์สมบัติ ข้าวของเครื่องใช้ส่วนพระองค์เครื่องเงินต่างๆ มากมาย

เที่ยง : บริการอาหารมื้อกลางวัน ณ ภัตตาคาร KONYALI ตั้งอยู่ในพระราชวังทอปคาปิ

*** หมายเหตุ : กรณีร้าน KONYALI ปิดให้บริการ ทางบริษัทฯ ขออนุญาตนำทุกท่านรับประทานอาหารกลางวัน ร้าน DERALIYE เป็นการทดแทน ***

บ่าย : เดินทางสู่ “ย่านกาลาตา” ตั้งอยู่ชายฝั่งทางตอนเหนือของช่องแคบโกลเด้นฮอร์น (GOLDEN HORN) นำชม “หอคอยกาลาตา” (GALATA TOWER) หอคอยหินยุคกลางสไตล์โรมัน เป็นหนึ่งในแลนด์มาร์คของอิสตันบูล ด้วยลักษณะทรงกระบอกสูง ของหอคอยที่โดดเด่นเหนือเส้นขอบฟ้า ทำให้เกิดทัศนียภาพอันงดงาม ของคาบสมุทรและบริเวณโดยรอบของเมืองอิสตันบูล

นำทุกท่าน “ล่องเรือชมช่องแคบบอสฟอรัส” (BOSPHORUS CRUISE) ถือเป็นหนึ่งในช่องแคบเลื่องชื่ออันดับต้นๆของโลก เป็นพรมแดนธรรมชาติที่แบ่งอิสตันบูลออกจากยุโรปและเอเชีย ซึ่งเป็นช่องแคบที่เชื่อมต่อกับทะเลดำ (THE BLACK SEA) เข้ากับทะเลมาร์มาร่า (SEA OF MARMARA) ความยาวทั้งสิ้นประมาณ 32 ก.ม. ความกว้างตั้งแต่ 500 เมตร จนถึง 3 ก.ม. ถือว่าสุดขอบของทวีปยุโรปและสุดขอบของทวีปเอเชียมาพบกันที่นี่ ระหว่างการล่องเรือ

ผ่านชม พระราชวังโดลมาบาเชห์ สร้างโดย สุลต่านอับดุล เมซิด (ABDUL MECIT) ในปี 2399 ใช้เวลาสร้างถึง 30 ปี สร้างด้วยหินอ่อน ศิลปะแบบตะวันออกผสมผสานกับตะวันตก ตัวอาคารยาวถึง 600 เมตร ตั้งอยู่ริมชายฝั่งทะเลมาร์มาราในช่องแคบบอสฟอรัสบนฝั่งทวีปยุโรป นำท่านสู่ “ตลาดเครื่องเทศ” (SPICE MARKET) ตั้งอยู่ใกล้กับสะพานกาลาตา ตลาดตั้งอยู่ในร่มและเป็นตลาดใหญ่อันดับสองในอิสตันบูลรองจากแกรนด์บาร์ซาร์ ตลาดเครื่องเทศแห่งกรุงอิสตันบูลนี้สร้างตั้งแต่ช่วงปี ค.ศ. 1660 โดยเป็นส่วนหนึ่งของศูนย์การค้า เยนี คามี รายได้จากค่าเช่าร้านส่วนหนึ่งจะนำมาบำรุงมัสยิดและกิจกรรมการกุศลอื่นๆ มักเรียกขานกันจนติดปากว่าตลาดอียิปต์ เพราะที่นี่มีชื่อเสียงในเรื่องสินค้าที่นำเข้าจากกรุงไคโร โดยสินค้าจะมีเครื่องเทศเป็นหลัก นอกจากเครื่องเทศ ถั่วชนิดต่างๆ รังผึ้ง และน้ำมันมะกอก ยังหาซื้อลูกฟิก ขนมเตอร์กิชดีไลท์ (LOKUM) ผลไม้ทั้งสดและแห้ง ของที่ระลึก เครื่องประดับ เครื่องแต่งกาย ชาชนิดต่างๆ

ค่ำ : บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารไทย

สมควรแก่เวลา นำทุกท่านเดินทางสู่ ท่าอากาศยานอิสตันบูล อาตาตูร์ก

 

วันที่ 10
อิสตันบูล - กรุงเทพฯ

01.55 น. : เหิรฟ้ากลับสู่ กรุงเทพฯ โดยสายการบินเตอร์กิช แอร์ไลน์ (TURKISH AIRLINES) เที่ยวบินที่ TK 068

15.00 น. : เดินทางถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพพร้อมความประทับใจ

เงื่อนไข
  1. ค่าตั๋วเครื่องบินชั้นประหยัด ไป-กลับ กรุงเทพฯ-อิสตันบูล-กรุงเทพฯ
  2. เที่ยวบินภายในประเทศ 1 เที่ยว (ไคเซอรี่-อิสตัลบูล)
  3. ค่ารถปรับอากาศนำเที่ยวตามระบุไว้ในรายการ พร้อมคนขับรถที่ชำนาญเส้นทาง กฎหมายในยุโรปไม่อนุญาตให้คนขับรถเกิน 12 ช.ม./วัน
  4. โรงแรมที่พักตามระบุหรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน โรงแรมส่วนใหญ่ในยุโรปจะไม่มีเครื่องปรับอากาศ เนื่องจากอยู่ในแถบที่มีอุณหภูมิต่ำและราคาโรงแรมจะปรับขึ้น 3-4 เท่าตัว หากวันเข้าพักตรงกับงานเทศกาลเทรดแฟร์หรือการประชุมต่างๆ อันเป็นผลที่ทำให้ต้องมีการปรับเปลี่ยนย้ายเมือง โดยคำนึงถึงความเหมาะสมเป็นหลัก
  5. ค่าอาหารที่ระบุในรายการ ให้ท่านได้เลิศรสกับอาหารท้องถิ่นในแต่ละประเทศ
  6. ค่าบริการนำทัวร์โดยหัวหน้าทัวร์ผู้มีประสบการณ์นำเที่ยวให้ความรู้ และคอยดูแลอำนวยความสะดวกตลอดการเดินทาง
  7. ค่าประกันอุบัติเหตุในการเดินทางวงเงินท่านละ 2,000,000 บาท (ตามเงื่อนไขกรมธรรม์) หากท่านอายุเกิน 75 ปี หรือไม่ได้เดินทางไปและกลับพร้อมกรุ๊ป ท่านต้องซื้อประกันเดี่ยวเพิ่ม
  8. ค่า RT-PCR TEST ก่อนเดินทางกลับประเทศไทย
  9. ค่าทิปไกด์ท้องถิ่นและพนักงานขับรถตลอดการเดินทาง
  10. น้ำดื่มบริการบนรถโค้ช
  1. ค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม 7 % และค่าภาษีหัก ณ ที่จ่าย 3 %
  2. ค่าทิปหัวหน้าทัวร์ วันละ 100.-บาท / ท่าน (1,00บาท ตลอดการเดินทาง)
  3. ค่าใช้จ่ายส่วนตัว อาทิ ค่าโทรศัพท์ ค่าซักรีด ค่าเครื่องดื่มและอาหารนอกเหนือจากที่ระบุในรายการ
  4. ค่าผกผันของภาษีน้ำมันที่ทางสายการบินแจ้งเปลี่ยนแปลงกะทันหัน

หมายเหตุ

  • ทางบริษัทเริ่มต้น และจบ การบริการ ที่สนามบินสุวรรณภูมิ กรณีท่านเดินทางมาจากต่างจังหวัด หรือต่างประเทศ และจะสำรองตั๋วเครื่องบิน หรือพาหนะอย่างหนึ่งอย่างใดที่ใช้ในการเดินทางมาสนามบิน ทางบริษัทจะไม่รับผิดชอบค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ เพราะเป็นค่าใช้จ่ายที่นอกเหนือจากโปรแกรมการเดินทางของบริษัท ฉะนั้นท่านควรจะให้กรุ๊ป FINAL 100% ก่อนที่จะสำรองยานพาหนะ

เงื่อนไขการยกเลิก 

    1. ยกเลิกก่อนการเดินทาง 30 วัน – คืนค่าใช้จ่ายทั้งหมด ยกเว้นกรุ๊ปที่เดินทางช่วงวันหยุด หรือเงินค่ามัดจำที่ต้องการันตีที่นั่งกับสายการบิน หรือ กรุ๊ปที่มีการการันตีค่ามัดจำที่พักโดยตรงหรือโดยการผ่านตัวแทนในประเทศ หรือต่างประเทศและไม่อาจขอคืนเงินได้ (ค่าใช้จ่ายตามความเป็นจริง)
    2. ยกเลิกก่อนการเดินทาง 15-29 วันขึ้นไป – – – เก็บค่าใช้จ่าย 50 % ของราคาทัวร์
    3. ยกเลิกก่อนการเดินทาง 1-14 วัน – – – เก็บค่าบริการทั้งหมด 100 %
Share on social networks
โปรแกรมทัวร์ที่น่าสนใจ