19.30 น. : พร้อมกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ เคาน์เตอร์สายการบินเตอร์กิชแอร์ไลน์ เคาน์เตอร์ U ประตู 9 Turkish Airlines (TK) โดยมีเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกแก่ทุกท่าน
23.30 น. : ออกเดินทาง (บินตรง)สู่ประเทศตุรกี เมืองอิสตันบูล โดยเที่ยวบินที่ TK 69
06.10 น. : เดินทางถึง ท่าอากาศยานอิสตันบูล สนามบินแห่งใหม่ของ ประเทศตุรกี พบการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากเจ้าหน้าที่ (เวลาท้องถิ่นที่ตุรกีช้ากว่าประเทศไทย 4 ชั่วโมง)
เดินทางสู่ เมืองอิสตันบูล เป็นเมืองที่มีประชากรมากที่สุดในประเทศตุรกี ตั้งอยู่บริเวณช่องแคบบอสฟอรัส ซึ่งทำให้อิสตันบูลเป็นเมืองสำคัญเพียงเมืองเดียวในโลก ที่ตั้งอยู่ใน 2 ทวีป คือ ทวีปยุโรป (ฝั่ง Thrace ของบอสฟอรัส) และทวีปเอเชีย (ฝั่งอานาโตเลีย)
เช้า : บริการอาหารเช้า ณ ภัตตาคาร ชมจัตุรัสสุลต่านอาห์เหม็ด(Sultanahmed Complex) หรือที่มีชื่อเรียกมาแต่โบราณว่า ฮิปโปโดรม(Hippodrome)ซึ่งย่านแห่งนี้แต่เดิมเป็นจุดศูนย์กลางของเมืองในยุคไบแซนไทน์และใช้เป็นลานกว้างสำหรับแข่งกีฬาขับรถม้า ชมพระราชวังทอปกาปึ(Topkapi Palace) อันเป็นพระราชวังที่ประทับของสุลต่านมานานกว่า 3 ศตวรรษ สร้างโดย ‘จักรพรรดิเมห์เม็ตผู้พิชิต'(MEHMET THE CONQUEROR)
ชมอุโมงค์เก็บน้ำใต้ดินเยเรบาตัน(Basilica Cistern)เป็นอุโมงค์เก็บน้ำที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในนครอิสตันบูลสามารถเก็บน้ำได้มากถึง 88,000 ลูกบาศก์เมตร สร้างขึ้นตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 6 ภายในอุโมงค์มีเสากรีกต้นสูงใหญ่ตั้งแต่ค้ำเรียงรายเป็นแถวถึง 336 ต้น ปัจจุบันเป็นเพียงที่ท่องเที่ยวอย่างเดียวเท่านั้น
กลางวัน : บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร จากนั้นช้อปปิ้งณสไปซ์มาเก็ตเป็นตลาดที่มีอายุเก่าแก่ยาวนาน ถึง 350 กว่าปี
เมืองชานักกาเล(Canakkale) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 5 ชั่วโมง) เป็นเมืองที่ปัจจุบันเป็นเมืองท่องเที่ยวที่สำคัญของตุรกี มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ เดิมมีชื่อว่า โบกาซี่ (Bogazi) หรือ เฮลเลสปอนต์ (Hellespont) มีความยาว 65 กิโลเมตร ส่วนที่แคบที่สุดกว้าง 1.3 กิโลเมตร เนื่องจากตั้งอยู่บนจุดแคบที่สุดของช่องแคบดาร์ดาแนลส์ ใกล้กับแหลมเกลิโบลูของกรีซ บนฝั่งของ 2 ทะเลคือ ทะเลมาร์มารา และ ทะเลเอเจียนชานักกาเล อยู่ห่างจากกรุงอิสตันบูล เมืองหลวงของตุรกีด้วยการเดินทางทางรถยนต์ประมาณ 4 ชั่วโมง เคยเป็นที่ตั้งของเมืองทรอย ที่ปรากฏในสงครามกรุงทรอย ปัจจุบัน มีซากของกำแพงเมืองที่เป็นหินหนาปรากฏอยู่ จึงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญ
เย็น : บริการอาหารเย็น ณ ห้องอาหารของโรงแรม
เช้า : บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่าน แวะถ่ายรูป ม้าไม้เมืองทรอย (Trojan horse) เป็นม้าขนาดใหญ่ที่ทำจากไม้ จากมหากาพย์อีเลียดเรื่องสงครามเมืองทรอย ม้าไม้นี้เกิดขึ้นจากอุบายของโอดิสเซียส ในการบุกเข้าเมืองทรอย ที่มีป้อมปราการแข็งแรง หลังจากที่รบยืดเยื้อมานานถึง 10 ปีแล้ว ด้วยการให้ทหารสร้างม้าไม้นี้ขึ้นมา แล้วลากไปวางไว้หน้ากำแพงเมืองทรอย แล้วให้ทหารกรีกแสร้งทำเป็นล่าถอยออกไป เมื่อชาวทรอยเห็นแล้วเข้าใจว่าเป็นบรรณาการที่ทางฝ่ายกรีกสร้างขึ้นมาเพื่อบูชาเทพเจ้าและล่าถอยไปแล้ว จึงลากเข้าไปไว้ในเมืองและฉลองชัยชนะ เมื่อตกดึก ทหารกรีกที่ซ่อนตัวอยู่ในม้าไม้ ก็ไต่ลงมาเผาเมืองและปล้นเมืองทรอยได้เป็นที่สำเร็จ
กลางวัน : บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
เดินทางสู่เมือง เพอร์กามัม (PERGAMON) ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง เดินทางสู่จุดขึ้นกระเช้าเมืองเพอร์กามัม (PERGAMON) โดยอยู่ห่างจากบริเวณปลายแหลมของทะเลอีเจี้ยน (Aegean Sea)ไปประมาณ 16 ไมล์ (26 กิโลเมตร) ซึ่งในอดีตเมืองโบราณแห่งนี้เคยเป็นเมืองหลวงของราชอาณาจักรเพอร์กามอน ปัจจุบันเมืองเพอร์กามอนได้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมกรีกโบราณที่สำคัญแห่งหนึ่ง นักท่องเที่ยวที่มาเยือนเมืองกรีกโบราณแห่งนี้ ช่วงใจกลางเมืองเบอร์กามาเป็นวัดเซราพิส(Temple of Serapis) ถูกสร้างขึ้นในช่วงต้นศตวรรษที่ 2 โดยใต้ถุนโบสถ์นั้นถูกใช้เป็นที่ฝังศพ ด้านบนประกอบไปด้วยส่วนต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นวิหารหลัก หรือ หอศิลป์ต่างๆ โดยในเมืองเพอร์กามัม มีสิ่งปลูกสร้างมากมายที่ยังคงหลงเหลือจากอดีตให้ท่านได้ชมอีกมากมาย เดินทางสู่ เมืองคูซาดาซึ KUSADASI ระยะทาง 199 กิโลเมตร (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง) เป็นเมืองท่าที่สำคัญทางการค้าอีกเมืองหนึ่งของตุรกี
เย็น : รับประทานอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร
เช้า : บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านชมโรงงานผลิตเสื้อหนัง ที่มีคุณภาพและชื่อเสียงของตุรกี เสื้อแจ็กเก็ตและหนัง มีคุณภาพดี แบบทันสมัย มีน้ำหนักเบา ฟอกหนังดี นุ่มบางเบา สวมใส่สบายขึ้น ราคาถูกกว่าในยุโรปหรือสหรัฐอเมริกาครึ่งต่อครึ่ง เพราะตุรกีเป็นผู้ผลิตและส่งออกไปขายทั่วโลก
ชมบ้านพระแม่มารี (HOUSE OF VERGIN MARY) เชื่อกันว่าเป็นที่สุดท้ายที่พระแม่มารีมาอาศัยอยู่และสิ้นพระชนม์ในบ้านหลังนี้ตั้งอยู่บนภูเขาสูงเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่คริสศาสนิกชนจะต้องหาโอกาสขึ้นไปนมัสการให้ได้สักครั้ง
กลางวัน : บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
จากนั้น ชมเมืองโบราณเอฟฟิซุส (Ephesus) เมืองโบราณที่ได้มีการบำรุงรักษาไว้เป็นอย่างดีแห่งหนึ่งของโลก เมืองเอฟฟิซุสเป็นเมืองในยุคโบราณที่ยิ่งใหญ่ สวยงามสมกับการเป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคโบราณเมืองโบราณเอฟฟิซุส รุ่งเรืองในยุคสมัยกรีก และโรมัน มีอายุกว่า 2,500 ปี เป็นที่อยู่อาศัยของชาวไอโอเนียน (Ionian) ที่อพยพมาจากกรีก ซึ่งรุ่งเรืองขึ้นมาในศตวรรษที่ 6 ก่อนคริสต์กาลแผนผังเมืองเอฟฟิซุสนั้นได้ชื่อว่าเป็นเลิศทางด้านยุทธศาตร์ทหาร และการค้า ให้ท่านลิ้มลอง Turkish Delight ขนมประจำท้องถิ่นของประเทศตุรกี ซึ่งคนท้องถิ่นเรียกอีกอย่างว่า “โลคุม (Lokum)” มีรสชาติหวานทำจากแป้งและน้ำตาล มักจะเสิร์ฟคู่กับชาหรือกาแฟ
จากนั้นนำท่านเดินสู่ ปามมุคคาเล (PAMUKKALE) ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง
เย็น : รับประทานอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร
เช้า ä บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านชม จากนั้น นำท่านสู่ เฮียราโพลิส (Hierapolis) ซึ่งมีความหมายว่า เมืองแห่งความศักดิ์สิทธิ์ สร้างขึ้นก่อนคริสตกาล มีอายุประมาณ 2,200 ปี จุดเด่นสำคัญของที่แห่งนี้คือ มีโรงละครขนาดใหญ่ ที่สามารถจุคนได้ถึง 12,000 คน อดีตงานเทศกาลหรือการแข่งขันต่างๆก็จะจัดที่โรงละครแห่งนี้ และรอบๆจะประกอบไปด้วย โรงอาบนน้ำโบราณ สระน้ำโบราณ ประตูเมือง ฯลฯ นำชม ปามุคคาเล แปลว่า ปราสาทปุยฝ้าย (Cotton Castle) มีลักษณะเป็นระเบียงน้ำพุเกลือร้อน ซึ่งเกิดขึ้นจากการเกิดแผ่นดินไหวของโลกในอดีต
กลางวัน äบริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
เดินทางสู่ เมืองคัปปาโดเกีย(Cappadocia) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง) เป็นชื่อเก่าแก่ภาษาฮิตไตต์ แปลว่า“ดินแดนม้าพันธุ์ดี” ตั้งอยู่ทางตอนกลางของตุรกีเป็นพื้นที่พิเศษเกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟเออซิเยส และภูเขาไฟ ฮาซาน เมื่อประมาณ 3 ล้านปีมาแล้ว (ปัจจุบันภูเขาไฟทั้ง 2 ดับแล้ว) ทำให้ลาวาที่พ่นออกมาและเถ้าถ่านจำนวนมหาศาลกระจายไปทั่วบริเวณทับถมเป็นแผ่นดินชั้นใหม่ขึ้นมา ที่เต็มไปด้วยหินรูป แท่ง กรวย(คว่ำ) ปล่อง กระโจม โดม และอีกสารพัดรูปทรง จนผู้คนในพื้นที่เรียกขานกันว่า “ปล่องไฟนางฟ้า” ที่ในปี ค.ศ.1985 ยูเนสโกได้ประกาศให้พื้นที่มหัศจรรย์แห่งนี้เป็นมรดกโลกทางธรรมชาติและวัฒนธรรมแห่งแรกของตุรกี
ระหว่างทาง แวะถ่ายรูป สถานีคาราวาน (Caravanserai) มักจะเป็นสิ่งก่อสร้างที่มีอิทธิพลจากเปอร์เชียที่ก่อสร้างเป็นที่พักเล็กข้างทางที่นักเดินทางสามารถใช้สำหรับการพักผ่อนให้หายเหนื่อยจากการเดินทางสถานีคาราวานตั้งอยู่ได้จากการคมนาคมทางการค้าการติดต่อสื่อสารและการเดินทางของผู้คนในเครือข่ายของเส้นทางการค้า (trade routes) ที่ครอบคลุมเอเชีย, แอฟริกาเหนือ และ ยุโรปตะวันออกเฉียงใต้ สถานีคาราวานอาจจะเป็นที่รู้จักในภาษาไทยด้วยชื่อเรียกว่า “โรงเตี๊ยม“
เย็น ä รับประทานอาหารเย็น ณ ห้องอาหารโรงแรม
เช้า ä บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
ชมพิพิธภัณฑ์กลางแจ้งเกอเรเม (GOREME OPEN MUSEUM) เป็นสถานที่ที่มีความงดงามและเต็มไปด้วยคุณค่าทางประวัติศาสตร์ ได้รับขึ้นทะเบียนจากองค์การยูเนสโกให้เป็นมรดกโลกในปี1984 สร้างโดยชาวคริสต์ที่หลบหนีการเข่นฆ่าคนต่างศาสนาของทหารออตโตมัน และสร้างโบสถ์ไว้มากกว่า 30 แห่ง จนกลายเป็นศูนย์กลางสำนักสงฆ์เมื่อราวปี 300-1200 ภายในมีภาพวาดเฟรสโกบนผนังและเพดานภายในถ้ำที่ถูกวาดไว้ตั้งแต่ศตวรรษที่ 9 ช่างงดงามตราตรึงใจแก่ผู้มาเยือน แวะชิม TURKISH ICE CREAM MADO
นำชม ชมโรงงานผลิต พรมทอมือ หัตถกรรมของชาวตุรกีที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก มีคุณภาพดี ลวดลายสวยงาม และมีราคาแพง หาซื้อได้ทั่วไป ลวดลายแตกต่างกันออกไปตามแหล่งที่ผลิต แต่ละท้องถิ่นจะมีสินค้าขึ้นชื่อของตนเองโดยเฉพาะ พรมที่มีราคาแพงจะทอด้วยขนสัตว์ มีชื่อเสียงมากที่สุดต้องเป็นของเมืองเฮเรเค (Hereke)พรมมี 2 แบบ ตามลักษณะความยาวของเส้นใบที่ใช้ทอคือ ฮาลี (Hali) เป็นพรมทั่วไป ที่นิยมขายกันอย่างแพร่หลาย ทำจากวัสดุ ทั้งขนสัตว์ ฝ้าย ไหม ระหว่างการทอเมื่อผูกปมแล้วจะตัดเส้นใยออก จะเหลือเพียงด้านเดียวที่มีขนปุยฟูขึ้นมา เป็นลวดลายตามที่ต้องการ อีกแบบคือ “คาลิม” (Kilim) ทอจากขนสัตว์ ฝ้าย และไหม ราคาถูกกว่าฮาลี ชนิดที่มีชื่อเสียงจะมาจากเมืองเฮเรเค
เที่ยง ä บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
จากนั้น นำท่าน ชมนครใต้ดินคาดัค (Cardak Underground City) เกิดจากการขุดเจาะพื้นดินลึกลงไป 10 กว่าชั้น เพื่อใช้เป็นที่หลบภัยจากข้าศึกศัตรู ในยามสงคราม
ชมหุบเขานกพิราบ(Pigeon Valley)ได้ชื่อนี้มาจากบ้านนกพิราบที่สลักเข้าไปในหิน นกชนิดนี้ทำหน้าที่เป็นผู้ส่งสารที่สำคัญสำหรับผู้ที่เคยอาศัยอยู่ในแถบนี้ และยังเป็นสัตว์เลี้ยงอีกด้วย ผู้มาเยือนบางคนเลือกที่จะสำรวจภูมิประเทศแปลกประหลาดนี้ เรียนรู้เกี่ยวกับผู้คนที่เคยอาศัยอยู่ในบ้านถ้ำที่แกะเข้าไปในหินเหล่านี้ ที่นี่แตกต่างจากชุมชนถ้ำส่วนใหญ่ในแคปพาโดเชียตรงที่หุบเขา Pigeon Valley ไม่มีโบสถ์
นำท่าน ชมโรงงานเซรามิคและโรงงานจิวเวอรี่ อิสระเชิญท่านเลือกชมสินค้าตามอัธยาศัย
เย็น ä รับประทานอาหารเย็น ณ โรงแรมสไตล์ถ้ำ
นำท่านชมการแสดงพื้นเมือง “โชว์ระบำหน้าท้อง” Belly Danceเป็นการเต้นรำที่เก่าแก่อย่างหนึ่ง เกิดขึ้นมาเมื่อประมาณ 6000 ปีในดินแดนแถบอียิปต์และเมดิเตอร์เรเนียน นักประวัติศาสตร์เชื่อกันว่า ชนเผ่ายิปซีเร่ร่อนคือคนกลุ่มสำคัญที่ได้อนุรักษ์ระบำหน้าท้องให้มีมาจนถึงปัจจุบัน และการเดินทางของชาวยิปซีทำให้ระบำหน้าท้องแพร่หลาย มีการพัฒนาจนกลายเป็นศิลปะที่โดดเด่น สวยงาม จนกลายมาเป็นระบำหน้าท้องตุรกีในปัจจุบัน
***ท่านจะได้รับประทานเครื่องดื่มท้องถิ่นไม่อั้น*** ไวน์ เหล้า เบียร์ น้ำอัดลม น้ำผลไม้
เช้า : บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (มื้อที่ 16)
จากนั้นออกเดินทางสู่กรุงอังการา (ANKARA) ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมง หรือที่มีชื่อตามประวัติศาสตร์ว่า Angora เป็นเมืองหลวงของตุรกีในปัจจุบัน และเป็นเมืองใหญ่อันดับ ๒ รองจากนครอิสตันบูล กรุงอังการาตั้งอยู่ในเขต Central Anatolia ใจกลางประเทศตุรกีบนที่ราบสูงอนาโตเลีย โดยอยู่ห่างจากนครอิสตันบูลทางทิศตะวันออกเฉียงใต้เป็นระยะทางประมาณ ๔๕๐ กิโลเมตร กรุงอังการาเป็นที่ตั้งของรัฐบาลกลาง ส่วนราชการต่าง ๆ และสถานเอกอัครราชทูตประเทศต่าง ๆ ในตุรกี
ระหว่างทาง แวะทะเลสาบน้ำเค็ม (LAKE TUZTUZGOLU) ทะเลสาบน้ำเค็มที่ใหญ่เป็นอันดับสองของตุรกี เมื่อหน้าร้อนมาถึงน้ำจะเหือดแห้งเหลือแต่เพียงเกลือกองเป็นแผ่นหนาหลายสิบเซนติเมตร มองเห็นเป็นพื้นสีขาวสุดลูกหูลูกตา และยังเคยเป็นสถานที่ถ่ายทำหนัง Star War อีกด้วย
เที่ยง : บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร นำท่านเดินทางสู่มหานครอิสตันบูล (ISTANBUL)
ค่ำ : บริการอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร
เช้า : บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
จากนั้นนำท่านชมพระราชวังโดลมาบาห์เช่ (Dolmabahce Palace) ซึ่งสร้างเสร็จในสมัยของสุลต่านอับดุลเมจิตซึ่งทรงคลั่งไคลความเป็นยุโรปอย่างที่สุดทรงมีพระประสงค์จะให้พระราชวังแห่งนี้เป็นที่ประทับแห่งใหม่แทนพระราชวังทอปกาปิการอสร้างพระราชวังโดลมาบาห์เช เน้นความหรูหราอลังการสะท้อนความเป็นสถาปัตยกรรมแบบยุโรปที่เด่นชัด ด้านหน้าพระราชวังมีหอนาฬิกาใหญ่สไตล์บาร็อกตั้งตระหง่าน ขณะที่ตัวพระราชวังนั้นงดงามด้วยศิลปะแบบนีโอคลาสสิก ลูกกรงบันไดยังตกแต่งด้วยแก้วเจียระไน ห้องโถงใหญ่ประดับ
นำท่านล่องเรือช่องแคบบอสพอรัส(Bosporus Strait) เป็นช่องแคบที่กั้นระหว่างตุรกีเธรซที่อยู่ในทวีปยุโรปกับคาบสมุทรอานาโตเลียในทวีปเอเชีย เป็นช่องแคบหนึ่งของตุรกีคู่กับช่องแคบดาร์ดะเนลส์ทางตอนใต้ที่เชื่อมกับทะเลอีเจียน ช่องแคบบอสฟอรัสทางตอนเหนือและช่องแคบดาร์ดาเนลส์ทางตอนใต้เชื่อมระหว่างทะเลดำกับทะเลมาร์มะราซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของทะเลเมดิเตอร์เรเนียนช่องแคบบอสฟอรัสยาวราว 30 กิโลเมตร ส่วนที่กว้างที่สุดกว้าง 3,700 เมตร ส่วนที่แคบที่สุดกว้าง 700 เมตร ความลึกระหว่าง 36 ถึง 124 เมตร ฝั่งทะเลของช่องแคบเป็นเมืองอิสตันบูลที่มีประชากรหนาแน่นถึงราว 11 ล้านคน
กลางวัน : บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร พิเศษ!! ชมวิวหอคอย Galata Tower
นำท่านชมฮายาโซฟีอา (HAGIA SOPHIA) เดิมเคยเป็นโบสถ์ของคริสต์ศาสนา ต่อมาถูกเปลี่ยนเป็นสุเหร่า ปัจจุบันเป็นพิพิธภัณฑ์ ตั้งอยู่ที่นครอิสตันบูล ประเทศตุรกี ถือเป็นสิ่งก่อสร้างที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งและมักถูกจัดให้อยู่ในรายการสิ่งมหัศจรรย์ของโลกในยุคกลางฮายาโซฟีอาเคยเป็นโบสถ์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกมานานเกือบพันปี
เดินทางสู่ตลาดในร่ม (Kapali Carsisi หรือ Covered Bazaar) หรือ แกรนด์บาซาร์ (Grand Bazaar) เป็นตลาดเก่าแก่ สร้างครั้งแรกในสมัยสุลต่านเมห์เม็ดที่ 2 เมื่อปี ค.ศ. 1461 ตลาดนี้กินเนื้อที่กว่า 2 แสนตารางเมตรประกอบด้วยร้านค้ากว่า 4,000 ร้าน
เย็น : บริการอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร พิเศษ!! เมนูซีฟู๊ด
20.00 น. : ได้เวลาอันสมควร เดินทางเข้าสู่สนามบินอิสตันบูล
01.55 น. : ออกเดินทางกลับกรุงเทพฯ โดยสายการบินสายการบินเตอร์กิชแอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ TK68
15.00 น. : เดินทางถึงกรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพพร้อมความประทับใจมิรู้ลืม
เงื่อนไขประกันการเดินทาง ค่าประกันอุบัติเหตุและค่ารักษาพยาบาล คุ้มครองเฉพาะกรณีที่ได้รับอุบัติเหตุระหว่างการเดินทางไม่คุ้มครองถึงการสูญเสียทรัพย์สินส่วนตัวและไม่คุ้มครองโรคประจำตัวของผู้เดินทาง
การจองทัวร์ :
กรณียกเลิก : (จอยกรุ๊ป)
กรณียกเลิก : (ตัดกรุ๊ป)
กรณีเจ็บป่วย :