กัสโต้ เวิล์ด ทัวร์
บริการคุณภาพ ทุกเส้นทางท่องเที่ยว
เลขที่ 11/03295
22.00 น.
พร้อมกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ ประตูหมายเลข 10 เคาน์เตอร์ U สายการบินแอร์เอเชีย เอ๊กซ์ เจ้าหน้าที่ของบริษัท ให้การต้อนรับและอำนวยความสะดวกด้านเอกสารและสัมภาระ
00.55 น.
ออกเดินทางสู่ สนามบินคันไซ ประเทศญี่ปุ่น โดย สายการบินแอร์เอเชีย เอ๊กซ์ เที่ยวบินที่ XJ612
08.45 น.
เดินทางถึง สนามบินคันไซ ประเทศญี่ปุ่น (เวลาท้องถิ่นเร็วกว่าเวลาประเทศไทย 2 ชม.) ผ่านขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมือง ด่านศุลกากร และรับกระเป๋าเรียบร้อยแล้ว
[สำคัญมาก!!ไม่อนุญาตให้นำอาหารสด จำพวก เนื้อสัตว์ พืช ผัก ผลไม้ เข้าประเทศญี่ปุ่นหากฝ่าฝืนมีโทษจับปรับได้]
เดินทางสู่ เมืองโกเบ (Kobe) ซึ่งอยู่ในจังหวัดเฮียวโกะ และเป็นหนึ่งใน 10 เมืองใหญ่ของประเทศญี่ปุ่นที่น่าดึงดูดใจสำหรับนักท่องเที่ยว โดยที่ท่าเรือโกเบนั้น ในยุคศตวรรษที่ 19 ก็เป็นหนึ่งในท่าเรือที่เปิดทำการค้าขายกับต่างประเทศเป็นครั้งแรกอีกด้วย ย่านโกเบฮาร์เบอร์แลนด์ (Kobe Harborland) ตั้งอยู่ที่บริเวณท่าเรือโกเบ เป็นย่านที่รวมทั้งแหล่งช็อปปิ้งและความบันเทิงที่หลากหลายที่โด่งดังมากๆ มีทั้งร้านกาแฟ ร้านอาหาร ร้านค้า และสวนสนุก ซึ่งเป็นจุดนัดพบที่นิยมของชาวเมือง โดยสามารถเดินเล่นตามทางเดินริมน้ำเพื่อชื่นชมบรรยากาศแบบคลาสสิค นอกจากนี้ยังมีโรงภาพยนตร์ และร้านอาหารตั้งอยู่ในบริเวณโกดังอิฐโบราณที่รีโนเวทมาจากสมัยศตวรรษที่ 19 อีกด้วย บริเวณนี้มีห้างใหญ่ๆ 2 ห้าง ไม่ว่าจะเป็นห้าง Umie Mosaic ตั้งอยู่ริมน้ำ ภายในมีร้านค้าเล็กๆขายเสื้อผ้า และร้านอาหารที่สามารถเห็นท่าเรือโกเบได้อย่างชัดเจน นอกจากนี้ยังมีสวนสนุกเล็กๆสามารถขึ้นไปชมวิวบนชิงช้าสวรรค์ที่ตั้งอยู่หลังอาคารห้างโมเสค
นำท่านเดินทางสู่ ปราสาทฮิเมจิ ด้วยลักษณะของตัวปราสาทที่มีสีขาวราวกับหิมะในฤดูหนาวจึงมีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า “ปราสาทนกกระยางขาว” หรือ “ปราสาทนกกระสา” ถือเป็นปราสาทที่ใหญ่โตที่สุดในบรรดาปราสาทที่หลงเหลือมาจากยุคกลางของญี่ปุ่นและถึงแม้ตัวเมืองจะถูกทิ้งระเบิดอย่างหนักในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 แต่ตัวปราสาทกลับไม่ได้รับความเสียหายแต่อย่างใด และได้รับการยกย่องจากยูเนสโกให้เป็นมรดกโลกและสมบัติประจำชาติญี่ปุ่นเมื่อเดือนธันวาคม ปี 1993 เป็นที่รู้จักกันดีในตำนานพื้นบ้านเกี่ยวกับผีที่ขึ้นชื่อ เรื่อง “ผีนับจาน” หรือซารายาชิกิ คือ เรื่องราวของโอกิกุ สาวใช้ของซามูไรผู้หนึ่งที่ทำจานล้ำค่าของตระกูลซามูไรแตก จึงถูกลงโทษด้วยการโยนร่างลงในบ่อน้ำ โดยในเวลาค่ำคืนจะมีผู้ได้ยินเสียงผู้หญิงโหยหวนดังมาจากบ่อน้ำเป็นเสียงนับจานช้า ๆ จนครบเก้าใบ ซึ่งบ่อน้ำนี้ยังปรากฏมาจนถึงทุกวันนี้
กลางวัน
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ร้านอาหาร (มื้อที่ 1)
นำท่านมุ่งสู่ ถนนช้อปปิ้งมิยูกิ โดริ แหล่งช้อปปิ้งย่านใจกลางเมืองฮิเมจิ มีความยาวเกือบ 1 กิโลเมตร จุดเด่นของย่านนี้ คือ การสร้างหลังคาที่คลุมทั่วตลาด ไม่ว่าจะฝนตก แดดออก พายุหิมะเข้า ก็สามารถมาเดินช้อปปิ้งได้อย่างสบายใจคล้าย ๆ กับถนนช้อปปิ้งทานุกิโคจิที่ฮอกไกโด ให้ท่านได้เลือกช้อปปิ้งกับร้านค้า ร้านอาหาร ร้านเครื่องสำอางค์และร้านเสื้อผ้าแฟชั่นต่าง ๆ ตั้งเรียงรายอยู่ตลอด 2 ข้างทาง รวมไปถึงร้านอย่าง เดอ มิกิ คิตตี้ (Café de Miki Kitty) เป็นคาเฟ่ที่เอาใจสาวกคิตตี้โดยเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็นการตกแต่งร้านรวมถึงอาหารและเครื่องดื่มล้วนเป็นลายเจ้าเหมียวคิตตี้ แมวน้อยแสนน่ารักชี่อดังของซานริโอนั้นเอง
มิตซุย เอาท์เล็ต (Mitsui Outlet) เอาท์เล็ตขนาดใหญ่ที่เดินทางสะดวกสบาย ตั้งอยู่หน้าสถานีคุระชิกิ (Kurashiki) มีสินค้ามากมายให้เลือกซื้อ ทั้งสินค้าแบรนด์เนมของญี่ปุ่นและจากต่างประเทศ และถือเป็นเอาท์เล็ตที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคชูโงะคุอีกด้วย
ค่ำ
รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรม (มื้อที่ 2)
เช้า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (มื้อที่ 3)
เมืองเก่าคุราชิกิ (Kurashiki) ในจังหวัดโอคายาม่า (Okayama) จะมีกำแพงดินสีขาวของโกดังและบ้านโบราณที่เรียงรายไปตลอดเส้นข้างทาง คลองสายเล็กๆ ที่สามารถล่องเรือชมวิวได้ สิ่งปลูกสร้างโบราณหลายแห่งภายในเมืองคุราชิกินั้นสร้างในสมัยเอโดะจนถึงสมัยเมจิ (ประมาณปี ค.ศ. 1603 – 1912) ซึ่งเป็นยุครุ่งเรืองเฟื่องฟูอย่างมากของญี่ปุ่น โดยเป็นช่วงที่มีการค้าขายกับทางตะวันตก จนเกิดการผสมผสานกันทางวัฒนธรรมและออกมาเป็นสถาปัตยกรรมแบบตะวันตกร่วมสมัย ซึ่งยังคงมีการอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดี ปัจจุบัน บ้านและโกดังโบราณและสิ่งปลูกสร้างต่างๆ ได้มีการดัดแปลงเป็นร้านค้า ร้านอาหาร คาเฟ่ พิพิธภัณฑ์ โรงแรม ลานเบียร์ และอื่นๆ อีกมากมาย ทำให้เมืองนี้มีการผสมผสานของสถาปัตยกรรมโบราณได้อย่างลงตัว
สะพาน Tatara สะพานที่เป็นหนึ่งในสามเส้นทางของ โครงการสะพานฮอนชู – ชิโกกุ เชื่อมต่อหมู่เกาะ ฮอนชู และ ชิโกกุ สะพานมีระยะกึ่งกลาง 890 เมตร (2,920 ฟุต) ในปี 2010 มีช่วงหลักที่ยาวที่สุดเป็นอันดับสี่ของสะพานที่วางสายเคเบิลหลังจาก สะพานสุตอง ทางด่วนเป็นชุดของถนนและ ฝั่งตรงข้าม ทะเลเซโตะใน ในญี่ปุ่น สะพานคุรุชิมะ – ไคเกียว อยู่บนเส้นทางเดียวกัน สะพานแห่งนี้เปิดใช้เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2542 มีช่องจราจรสองช่องทางในแต่ละทิศทางและมีช่องทางสำหรับจักรยานจักรยานยนต์และคนเดินเท้าเพิ่มเติม เดิมทีสะพาน Tatara ถูกวางแผนไว้เป็น สะพานแขวน ในปี 1973 ในปี 1989 ได้เปลี่ยนการออกแบบเป็นสะพานพักสายเคเบิลที่มีช่วงเดียวกัน
เกาะชิโกะคุ (Shikoku) คือ 1 ใน 4 เกาะหลักของญี่ปุ่น บริเวณรอบเกาะโอบล้อมด้วยทะเลเซโตะ (Seto Inland Sea) และมหาสมุทรแปซิฟิก ประกอบด้วย 4 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดเอะฮิเมะ (Ehime), จังหวัดคางาวะ (Kagawa), จังหวัดโทคุชิมะ (Tokushima) และจังหวัดโคชิ (Kochi) บนเกาะนี้มีธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ อากาศค่อนข้างอบอุ่นจึงมีพืชพักให้ทานได้ตลอดทั้งปี จุดเด่นบนเกาะนี้คือ มีอุด้งที่แสนอร่อยลือชื่อ มีเส้นทางปั่นจักรยาน มีโชยุที่เป็นรสชาติดั้งเดิม มีความเขียวชอุ่มของต้นไม้ในขุนเขา มีเส้นทางจาริกแสวงบุญที่ยาวนานถึง 1,200 ปีไปยังวัด 88 แห่ง ทั้งนี้พื้นที่บริเวณโดยรอบยังมีเกาะเล็กเกาะน้อยที่มีมนต์เสน่ห์น่าค้นหา
เดินทางสู่ เมืองมัตสึยามะ นำท่านเดินทางชม ปราสาทมัตสึยามะ ตั้งอยู่บนเนินเขาคัตสึยะมะได้รับการคัดเลือกให้ติด 100 สุดยอดปราสาทในญี่ปุ่นเมื่อปี 2006 และเป็น 100 สุดยอดสถานที่ทางประวัติศาสตร์ในโครงการญี่ปุ่นแสนสวยเมื่อปี 2007 พื้นที่สวนสาธารณะชิโระยะมะทั้งหมดซึ่งรวมถึงพื้นที่คูน้ำได้รับการบรรจุเป็นสถานที่ประวัติศาสตร์แห่งชาติและได้รับเลือกเป็น 100 สุดยอดสถานที่ชมซากุระในญี่ปุ่น (1990) และ 100 สุดยอดสวนทางประวัติศาสตร์ของญี่ปุ่น (2006) อีกด้วย นอกจากนี้นำท่านนั่งกระเช้าหรือนั่งเก้าอี้เลื่อนขึ้นชมปราสาทมัตสึยาม่าเพื่อชมวิวอันสวยงามระหว่างทางขึ้นปราสาทมัตสึยาม่า
กลางวัน
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ร้านอาหาร (มื้อที่ 4)
ถนนโดโงะ ไฮคาระ มีของฝากท้องถิ่นให้เลือกซื้อมากมาย ซึ่งยาว 250 เมตร และเป็นที่ตั้งของร้านอาหารและร้านค้ากว่า 60 แห่ง มีร้านจำนวนมากที่เปิดให้บริการจนถึง 22:00 น. เป็นแหล่งซื้อของที่เต็มไปด้วยเมนูอาหารที่หลากหลาย เหมาะสำหรับท่านที่เป็นนักชิม ท่านสามารถลิ้มลองเมนู เช่น บอตชาน ดังโงะ (เกี๊ยวหวาน) เค้กทาร์ตอันมีชื่อของเอฮิเมะ และปลาสับทอดสูตรดั้งเดิมของเอฮิเมะและยังเหมาะสำหรับการหาซื้อของฝาก ซึ่งมีให้เลือกมากมายไม่ว่าจะเป็นเครื่องเคลือบ Tobe ware แบบดั้งเดิม ผ้าเชิดตัวอิมาบาริอันอ่อนนุ่ม และส้มแมนดารินเอฮิเมะ ที่เป็นสัญลักษณ์ของจังหวัดเอฮิเมะในบริเวณนี้ สำหรับแฟนค่ายสตูดิโอจิบลิก็จะมีร้านจิบลิที่ขายสินค้าซึ่งเกี่ยวข้องกับสตูดิโอ
หอนาฬิกาบตจังคาระคุริ มีอีกชื่อว่า หอนาฬิกาโบ๊ทจัง (Botchan Karakuri Clock) ตั้งอยู่ที่เมืองมัตสึยามะ (Matsuyama) จ.เอฮิเมะ (Ehime) ใกล้ๆ กับบ่อออนเซ็นเท้า โฮโจเอ็นสแควร์ เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวของเมืองมัตสึยามะ ที่ปลายสุดของศูนย์การค้าจะมีนาฬิกาโบตจังคารากูริ นาฬิกาเรือนนี้จะแสดงความวิเศษออกมาทุก ๆ ชั่วโมงตั้งแต่ 8 นาฬิกาจนถึง 22 นาฬิกา เมื่อถึงเวลา นาฬิกาจะยืดตัวขึ้นเพื่อแสดงตัวละครจากเรื่องโบตจังในนิยายของนัตสึเมะ โซเซกิพร้อมเสียงดนตรีประกอบ ข้าง ๆ นาฬิกาจะมีอ่างล้างเท้าขนาดเล็กเพื่อแช่เท้าเพื่อผ่อนคลายหลังจากเดินเที่ยวทั้งวัน
โดโกะอนเซ็น (Dogo Onsen) มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 3,000 ปี และได้รับการพูดถึงว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ถือว่าเป็นสัญลักษณ์ของจังหวัดเอะฮิเมะและเกาะชิโกะกุ อาคารบ่อแช่น้ำร้อน ที่เป็นศูนย์กลางที่ตั้งอยู่กลางเมืองถูกยกย่องให้เป็นสมบัติทางวัฒนธรรมของประเทศ อีกทั้งยังได้รับความนิยมเนื่องจากถูกใช้เป็นต้นแบบของสถานที่ในอนิเมชั่นเรื่อง “Spirited Away” โดยสตูดิโอจิบลินอกจากนี้ รอบ ๆ โดโงะอนเซ็น (Dogo Onsen) ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจมากมาย ทั้งสวนสาธารณะ วัด และศาลเจ้า แช่ตัวเสร็จแล้ว อย่าลืมแวะเดินเที่ยวรอบ ๆ เมืองอนเซ็นแห่งนี้ด้วย มาสัมผัสประสบการณ์และวัฒนธรรมแบบญี่ปุ่นสมัยก่อนที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนานได้ที่นี่
ค่ำ
รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรม (มื้อที่ 5)
เช้า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (มื้อที่ 6)
พิพิธภัณฑ์ผ้าขนหนู Towel Museum จังหวัดเอะฮิเมะ ผ้าขนหนูอิมาบาริ (Imbari Towel) เป็นผลิตภัณฑ์ชื่อดังของจังหวัดเอะฮิเมะ (Ehime) ด้วยสิ่งแวดล้อมทางธรรมชาติที่เหมาะสมและมาตรฐานการตรวจสอบอันเข้มงวด ทำให้สามารถผลิตผ้าขนหนูเนื้อดีคุณภาพเยี่ยม ซึ่งมีชื่อเสียงเป็นอย่างมากในประเทศญี่ปุ่น โดยที่เมืองอิมาริ (Imabari City) ในจังหวัดฮิเอะฮิเมะ เป็นที่ตั้งของผ้าขนหนู ( Towel Museum) ให้ท่านได้เลือกซื้อของที่ระลึก อาทิ ผ้าขนหนู อย่างเพลิดเพลิน
สะพานอิยะโนะคะซึระบะชิ เป็นหนึ่งในสะพานโบราณที่มีความแปลกติด 1 ใน 3 ของญี่ปุ่น สร้างจากไม้เนื้อแข็งหนัก 5 ตัน ทุกๆ 3 ปีจะมีการบูรณะซ่อมแซมใหม่ สะพานทอดพาดยาวอยู่กับต้นสนซีดาร์ขนาดใหญ่ที่ปลายทั้งสองข้าง และมีสายเคเบิลเหล็กซ่อนอยู่ภายในเถาวัลย์เพื่อความปลอดภัย ท่านสามารถเดินสะพานได้ เมื่อลองข้ามสะพานก้าวหนึ่งก้าวสะพานจะสั่นไหวเล็กน้อย นี่คือความตื่นเต้นของการข้ามสะพานนี้ เป็นสะพานที่ใหญ่ที่สุดและเป็นที่นิยมมากที่สุด ทอดยาวเป็นระยะทาง 45 เมตร กว้าง 2 เมตร สูงจากผิวน้ำ 14 เมตร (น้ำหนักประมาณ 6 ตัน) ข้ามแม่น้ำอิยะ(Iya River) ที่ใจกลางหุบเขา และให้ผู้มาเยี่ยมชมมองเห็นทัศนียภาพที่สวยงาม ช่วงใบไม้เปลี่ยนสี จะประทับใจแน่นอนเพราะที่นี่คือจุดชมใบไม้เปลี่ยนสียอดนิยมที่มีความสวยงาม ตามทางระหว่างเราเดินข้ามสะพานสองข้างทางก็เต็มไปด้วยใบไม้สีส้มเหลืองตามฤดูซึ่งตัดกับสีของแม่น้ำสีฟ้า มีความสวยงามน่าจดจำ
กลางวัน
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ร้านอาหาร (มื้อที่ 7)
ศาลเจ้าโคโตฮิระกู (Kotohira-gu Shrine) หรืออีกชื่อหนึ่งว่า คมปิระซัง (Konpira san) ตั้งอยู่บนภูเขาโซซุ จังหวัดคางาวะ (Kagawa) ในเมืองโคโตฮิระที่สถิตของเทพเจ้าแห่งทะเลจึงเป็นที่เคารพบูชาของชาวเรือ และเป็น 1 ใน 88 ศาลเจ้าและวัดแห่งการแสวงบุญบนเกาะชิโกะคุ ที่ศาลเจ้าแห่งนี้ยังสามารถสักการะ Juichimen-Kannon หรือเจ้าแม่กวนอิม 11 พักตร์ได้ด้วย การเดินขึ้นไปศาลเจ้าจะต้องขึ้นบันไดกว่า 800 ขั้น และหากต้องการเดินขึ้นไปยังศาลเจ้าชั้นในสุด จะต้องเดินต่ออีก 1,368 ขั้น ซึ่งตลอดทางขึ้นบันไดจะได้ชมความงามเป็นพิเศษของใบเมเปิ้ลสีแดงในช่วงใบไม้ร่วงนอกจากนี้ระหว่างทางเดินก่อนมาถึงศาลเจ้าจะผ่านถนนที่มีร้านค้าตั้งอยู่มากมาย
ค่ำ
รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารภายในโรงแรม (มื้อที่ 8)
เช้า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารภายในโรงแรม (มื้อที่ 9)
เดินชมเมืองเก่า ย่าน เมืองเก่าอุดาสึ เป็นบริเวณอนุรักษ์บ้านเรือนแบบดั้งเดิมของญี่ปุ่น ลักษณะของบ้านมีกำแพงป้องกันไฟไหม้ที่สร้างยกหลังคาให้สูงขึ้นหนึ่งระดับ เพื่อป้องกันการรุกลามของไฟไหม้ เป็นวิธีการป้องกันภัยอันชาญฉลาดของคนในยุคก่อน เมืองมิโนในสมัยเอโดะเป็นเมืองของพ่อค้า จึงทำให้หลงเหลือบ้านแบบอุดะสึอยู่เป็นจำนวนมาก และปัจจุบันก็ยังคงรักษาสภาพแบบเดิมเอาไว้
สวนริทสึริน (Ritsurin Garden) อยู่ที่จังหวัดคางาวะ (Kagawa) ภูมิภาคชิโกกุ (Shikoku) เป็น 1 ใน 3 ของสวนที่มีภูมิทัศน์สวยงามและมีชื่อเสียงที่สุดของญี่ปุ่น เป็นสวนขนาดกว้างใหญ่ครอบคลุมพื้นที่มากถึง 750,000 ตารางเมตร มีทั้งภูเขาและสระน้ำในบริเวณสวน พร้อมด้วยภูเขาชิอุง (Shiun Mountain) สูงตระหง่านอยู่เบื้องหลัง ภายในบริเวณสวนมีสระน้ำ 6 สระและเนินเขาจำลอง 13 จุด การวางตำแหน่งของต้นสน สะพาน และการจัดวางหินต่างๆ งดงามลงตัว เหมาะจะถ่ายรูปทิวทัศน์สวยๆ เก็บไว้เป็นที่ระลึก ภายในสวนมีต้นไม้ ดอกไม้หลายสายพันธุ์ปลูกไว้ทั่วบริเวณเช่น ต้นซากุระ ต้นบ๊วย ต้นเมเปิ้ล สวนดอกไอริส เป็นต้น โดยเฉพาะต้นสนเก่าแก่ที่มีจำนวนมากกว่า 1,000 ต้นและเป็นสวนสนโบราณที่ได้รับการดูแลอย่างดีจึงกลายเป็นเอกลักษณ์
กลางวัน
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ร้านอาหาร (มื้อที่ 10)
สะพาน Ohnaruto (โอนารุโตะ) เป็นอีกแห่งที่เหมาะสำหรับการชมน้ำวน จาก “Uzu-no-michi” ทางเดินทอดอยู่ก้นสะพาน นักท่องเที่ยวสามารถมองเห็นวิวเหนือมหาสมุทรแปซิฟิกและทะเลในของญี่ปุ่น
นำท่านเดินทางสู่ ย่านชินไซบาชิ เต็มไปด้วยความหลากหลายของร้านค้าและแบรนด์ดังมากมายตั้งอยู่ปะปนไปกับร้านค้าแบบดั้งเดิมของญี่ปุ่น ได้แก่ Apple Store, Dior, Chanel, Gucci, H&M, Hermès, Louis Vuitton และอื่นๆ เรียกได้ว่าเป็นศูนย์รวมแทบจะทุกยี่ห้อดังทั่วโลกเลยก็ว่าได้ นอกจากนี้แล้วยังมีสินค้าจำพวกอาหารและเครื่องดื่มหรือตุ๊กตาน่ารักๆ ก็มีให้เลือกซื้อเช่นกัน และนอกเหนือไปจากร้านค้าทันสมัยจากแบรนด์ต่างๆ แล้วที่ชินไซบาชิยังมี Shopping Arcade ที่เอาร้านค้าเล็กๆ มารวมไว้ภายใต้หลังคาเดียวกันมีเส้นทางยาวประมาณ 600 เมตรมีสินค้าให้เลือกสรรมากมาย อาทิ ชุดกิโมโนแบบดั้งเดิม,อัญมณีเครื่องประดับและร้านหนังสือ เป็นแหล่งที่ตั้งของห้างสรรพสินค้าชื่อดังและร้านค้ามากมายให้ท่านได้ช้อปปิ้งได้จุใจ และยังมีสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญๆต่างๆมากมาย
ค่ำ
อิสระอาหารค่ำตามอัธยาศัย
เช้า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารภายในโรงแรม (มื้อที่ 11)
สมควรแก่เวลาเดินทางนำท่านเดินทางสู่สนามบินคันไซ
ถึง สนามบินคันไซ ทำการเช็คอิน และโหลดกระเป๋าสัมภาระ
09.50 น.
ออกเดินทางสู่ กรุงเทพฯ โดยสายการบินแอร์เอเชีย เอ๊กซ์ เที่ยวบินที่ XJ613
13.50 น.
เดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ พร้อมความประทับใจ
หมายเหตุ
