05:00 น. : พร้อมกันที่สนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารขาออกชั้น 4 เคาน์เตอร์ P เคาน์เตอร์โดยสายการบินเจแปนแอร์ไลน์ ประตูทางเข้าหมายเลข 7-8 เจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวก ณ เคาน์เตอร์
หมายเหตุ เคาน์เตอร์เช็คอินปิดบริการก่อนเวลาเครื่องออกอย่างน้อย 60 นาที หลังจากที่ผู้โดยสารทุกท่านได้รับบัตรขึ้นเครื่องแล้ว กรุณาทำการตรวจสอบประตูขึ้นเครื่องกับหน้าจอมอนิเตอร์ก่อนขึ้นเครื่องอีกครั้ง เนื่องจากประตูขึ้นเครื่องอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้อันเนื่องมาจากเหตุผลของทางสนามบินและ สายการบิน และขอเรียนเชิญผู้โดยสารทุกท่านพร้อมกัน ณ ประตูขึ้นเครื่องก่อนเวลาเครื่องออก อย่างน้อย 30 นาที
08:05 น. : ออกเดินทางจากกรุงเทพฯ โดยสายการบินแห่งชาติสายการบินเจแปนแอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ JL 708 (เวลาท้องถิ่นประเทศญี่ปุ่นเร็วกว่าประเทศไทย 2 ชั่วโมง กรุณาปรับเป็นเวลาท้องถิ่นเพื่อนัดหมาย)
16:20 น. : เดินทางถึงประเทศญี่ปุ่น ณ สนามบินนานาชาตินาริตะอินเตอร์เนชั่นแนล บนเกาะฮอนชู เกาะที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่น ภายหลังจากการผ่านขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมือง และผ่านด่านศุลกากรแล้ว นำท่านรับกระเป๋า หลังจากตรวจเช็กสัมภาระเรียบร้อยแล้ว นำท่านเดินทางโดยรถ ชัตเตอร์บัส
ค่ำ : รับประทานอาหารค่ำภายในโรงแรม
เช้า : รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
นำท่านชม “เทศกาลดอกทิวลิป Sakura Tulip Festa” ณ เมืองซากุระ ในจังหวัดชิบะ จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 35 โดยเป็นสวนมีขนาดใหญ่ที่สุดในภูมิภาคคันโต ที่นี่มีทิวลิปมากถึง 100 ชนิด รวมกว่า 670,000 ต้น ภาพของทุ่งดอกทิวลิปสีแดง เหลือง ชมพู และอีกสารพัดสีซึ่งทอดยาวไปสุดขอบฟ้าโดยมีกังหันลมเนเธอร์แลนด์เป็นฉากหลัง เป็นสถานที่วิเศษสุดสำหรับการใช้เวลาพักผ่อนกับครอบครัวและเพื่อนฝูง นอกจากทุ่งดอกทิวลิปแล้ว อีกสิ่งที่น่าสนใจก็คือ กังหันลม De Liefde ที่ทำขึ้นในประเทศเนเธอร์แลนด์ และได้นำมาประกอบเองที่เมืองซากุระในปี ค.ศ.1994 เพื่อเป็นสัญลักษณ์ของ Sakura Furusato Square และแสดงถึงมิตรภาพอันดีงามระหว่างประเทศญี่ปุ่นและเนเธอร์แลนด์ที่มีมาอย่างยาวนาน โดย De Liefde เป็นกังหันลมตัวแรกในประเทศญี่ปุ่นที่ใช้สูบน้ำได้จริง มีความสูงถึง 15.6 เมตร ทำขึ้นจากอิฐและเสาคอนกรีตเ สริมเหล็ก นักท่องเที่ยวสามารถเข้าไปชมภายในกังหันลมได้ด้วย… (ปริมาณพันธุ์ไม้ดอกขึ้นอยู่กับตามสภาพอากาศเป็นปัจจัยหลัก)
เที่ยง : รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย : นำท่านเดินทางสู่เมือง “โยโกฮาม่า” เป็นเมืองหลักของจังหวัดคานากา ตั้งอยู่ติดกับอ่าวโตเกียวใน ภูมิภาคคันโต เป็นเมืองท่าที่สำคัญของญี่ปุ่นและเป็นเมืองที่มีประชากรมากกว่า 3 ล้านคนซึ่งมีจำนวนมากเป็นอันดับที่ 2 รองจาก กรุงโตเกียว ซึ่งเป็นเมืองหลวงของญี่ปุ่น นอกจากนี้เมืองโยโกฮาม่าเป็นเมืองที่มีความทันสมัยและเป็นศูนย์กลางในด้านการค้ากับชาติอื่นๆ มีชาวต่างชาติมาอาศัยอยู่เป็นจำนวนมากทั้งชาวจีนและชาวตะวันตก…
นำท่านเดินทางสู่ “พิพิธภัณฑ์ราเม็ง ชินโยโกฮาม่า” เมืองโยโกฮาม่า จังหวัดคานากาว่า ประเทศญี่ปุ่น พิพิธภัณฑ์เกี่ยวกับอาหารโดยเฉพาะแห่งแรกๆ ของญี่ปุ่นนี้ ก่อตั้งขึ้นมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1994 เพื่อนำเสนอเรื่องราวของราเมง เอาไว้แบบครบถ้วนความอร่อย ทั้งเนื้อหา และรสชาติ ผ่านพื้นที่ที่แบ่งออกเป็น 3 ชั้น สองโซนหลัก เริ่มจากชั้น 1 พื้นที่แสดงประวัติน่าสนใจต่าง ๆ ของราเมง อาทิ คอลเลกชั่นราเมง ไม่ว่าจะเป็นเส้นราเมง ถ้วยราเมง ช้อนทานราเมง ที่แสดงถึงวิวัฒนาการ คัลเจอร์ และวัฒนธรรมการกินราเมงในแต่ละพื้นที่ได้อย่างน่าสนุก ก่อนไปละลายทรัพย์กันที่ร้านขายของที่ระลึกราเมง ขณะที่ส่วนไฮไลต์ของพิพิธภัณฑ์ต้องยกให้ ย่านราเมง ในพื้นที่ชั้นใต้ดินทั้งสองชั้น (B1/B2) ของตัวพิพิธภัณฑ์ ที่สถาปัตยกรรมทุกอย่างภายใน ไม่ว่าจะเป็นร้านค้า ดวงไฟ พื้นทางเดิน โต๊ะ เก้าอี้ ฯลฯ ล้วนถูกดีไซน์ให้อยู่ในบรรยากาศของเมืองชิตามาชิ ช่วงปี ค.ศ. 1958 ซึ่งเป็นยุคจุดกำเนิดของราเมงนั่นเอง แถมเพิ่มขีดความสุขของคนรักในการทานราเมง ด้วยการนำร้านราเมงชื่อดังจากทั่วทุกสารทิศของประเทศญี่ปุ่น มาเปิดขายภายในย่านราเมงแห่งนี้ แบบหมุนเวียนร้านใหม่ ๆ ไปเรื่อย ๆ ตลอดทั้งปีไปเลย…
นำท่านชม “สวนซันเคเอ็น” ตั้งอยู่ทางใต้ของเมืองโยโกฮาม่า นับว่าเป็นสวนสวยสไตล์ญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมแท้ๆที่ให้กลิ่นอายชนบทญี่ปุ่นเบาๆ เรียกได้ว่าสวนแห่งนี้เต็มไปด้วยดอกไม้นานาพันธุ์ที่ตกแต่งอย่างสวยงาม ซึ่งจะทำให้คุณรู้สึกเหมือนอยู่ในเกียวโตมากกว่าโยโกฮาม่า สวนซันเคเอ็นแห่งนี้นั้นถูกสร้างขึ้นโดย Hara Sankei และได้ทำการเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมเมื่อประมาณปี 1904 อาคารเก่าแก่ที่อยู่ในสวนแห่งนี้ก็ยังคงอนุรักษ์ไว้ ภายในสวนนี่เรียกได้ว่าจัดแต่งแบบองค์ประกอบดั้งเดิมเน้นๆมีทั้งสระน้ำ ลำธารสายเล็กๆ และสวนดอกไม้ตามฤดูกาล ที่แม้ไม่ได้ยิ่งใหญ่อลังการ แต่บอกเลยว่าเป็นความสวยที่ลงตัวมากๆแห่งหนึ่งเลย…
นำท่านเข้าสู่ที่พัก ATAMI KAMENOI HOTEL
ค่ำ : รับประทานอาหารค่ำในโรงแรม
เช้า : รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่ “วัดซูเซนจิ” เป็นวัดพุทธนิกายเซ็น ก่อตั้งในปี ค.ศ.807 โดยพระสงฆ์ที่มีนามว่า “โคโบไดชิ” ตั้งอยู่ใจกลางเมือง ที่นี่นอกจากจะเป็นวัดเก่าแก่แล้ว ยังเป็นที่ที่เกิดเหตุการณ์ที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ของญี่ปุ่นด้วย เพราะที่นี่เป็นที่รู้กันว่าเป็นที่กักขังและลอบสังหารมินาโมะโตะ โนะ โยริอิเอะ โชกุนคนที่สองของรัฐบาลคามาคุระนั่นเอง…
นำท่านเดินชม “จิคุรินโนะโคมิจิ เส้นทางป่าไผ่” เป็นทางเดินเลียบไปกับแม่น้ำคัตสึระ ที่ไหลผ่านใจกลางเมืองชูเซ็นจิ ออนเซ็น ทางเดินปูด้วยกระเบื้องหิน สองฝั่งริมทางเดินมีต้นไผ่ขึ้นเรียงรายระยะทางยาว 300 เมตร ระหว่างทางมีม้านั่งทรงกลมทำด้วยไม้ไผ่ให้ได้นั่งพักผ่อน และแวะถ่ายภาพ แต่เก๋ไก๋ที่สุดตรงลานตรงกลางของป่าไม้ มีแคร่กลมขนาดใหญ่ ความพิเศษของแคร่อันนี้นอกจากเป็นที่นั่งพักขาแล้ว ถ้าคุณเอนกายลงนอนคุณจะได้เห็นแนวไผ่สีเขียวขจีตัดกับท้องฟ้าสีครามเป็นมุมที่สวยงามและแปลกตามากทีเดียวท่ามกลางแสงอาทิตย์อ่อนๆ ที่ทอดลำแสงลงมา ลมพัดเย็นเอื่อยๆ บรรยากาศชวนให้ท่านรู้สึกผ่อนคลายและสบายใจ… นำท่านเดินข้าม “สะพานแห่งความรัก” อธิษฐานขอพรให้โชคดีเรื่องความรัก ระหว่างทางตลอดสายของแม่น้ำคัตสึระจะมีสะพานสีแดง 4 สะพาน และสะพานหินอีกหนึ่งสะพาน รวมเป็น 5 สะพาน ซึ่งทั้งหมดเป็นสะพานที่เชื่อกันว่านำโชคในเรื่องของความรัก
นำท่านเดินทางสู่ “อิซุโนะคุนิ พาโนรามา พาร์ค” เป็นสถานที่พักผ่อนตั้งอยู่บนภูเขาคาซึรากิ ที่มีความ
สูง 452 เมตร มีองค์ประกอบที่เรียก “แอร์พาร์ค” โดยใช้เวลาแค่ 7 นาทีสำหรับนั่งไปบนยอดเนินเขาด้วย “กระเช้าไฟฟ้า” การเดินทาง 1,791 เมตรผ่านระดับความสูง 411 เมตรที่ต่างระดับกัน ภายในพื้นที่เป็นที่ตั้งของ “ระเบียงชมวิวภูเขาไฟฟูจิ” ที่จัดเตรียมไว้เพื่อชมวิวภูเขาฟูจิโดยเฉพาะ เราจึงจะได้เพลิดเพลินกับวิวภูเขาไฟฟูจิและอ่าวซุรุกะกันแบบ 360 องศาเลยทีเดียว แถมยังมีบริการแช่เท้าในออนเซ็นไปพร้อมกับการชมวิว นอกจากนี้ด้านบนยังมีศาลเจ้าและพระพุทธรูปหินจิโซขนาดเล็ก 100องค์ ที่นักท่องเที่ยวนิยมแวะขึ้นมาสักการะเพื่อความเป็นสิริมงคล และขอพรเรื่องโชคลาภ รวมถึงเนื้อคู่ กันอีกด้วย…
นำท่านเดินทางสู่ “อิซุโนะคุนิ พาโนรามา พาร์ค” เป็นสถานที่พักผ่อนตั้งอยู่บนภูเขาคาซึรากิ ที่มีความสูง 452 เมตร มีองค์ประกอบที่เรียก “แอร์พาร์ค” โดยใช้เวลาแค่ 7 นาทีสำหรับนั่งไปบนยอดเนินเขาด้วย “กระเช้าไฟฟ้า” การเดินทาง 1,791 เมตรผ่านระดับความสูง 411 เมตรที่ต่างระดับกัน ภายในพื้นที่เป็นที่ตั้งของ “ระเบียงชมวิวภูเขาไฟฟูจิ” ที่จัดเตรียมไว้เพื่อชมวิวภูเขาฟูจิโดยเฉพาะ เราจึงจะได้
เพลิดเพลินกับวิวภูเขาไฟฟูจิและอ่าวซุรุกะกันแบบ 360 องศาเลยทีเดียว แถมยังมีบริการแช่เท้าในออนเซ็นไปพร้อมกับการชมวิว นอกจากนี้ด้านบนยังมีศาลเจ้าและพระพุทธรูปหินจิโซขนาดเล็ก 100องค์ ที่นักท่องเที่ยวนิยมแวะขึ้นมาสักการะเพื่อความเป็นสิริมงคล และขอพรเรื่องโชคลาภ รวมถึงเนื้อคู่ กันอีกด้วย…
เที่ยง : รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย : นำชม “ตลาดปลานุมะสึ” บริเวณทางเดินชมตลาดบนชั้น 2 จะสามารถมองลงมาเห็นการประมูลปลาของบรรดาผู้ค้าส่งบริเวณชั้น 1 ที่แสนคึกคักเต็มไปด้วยชีวิตชีวาได้อย่างใกล้ชิดอีกด้วย เรียกว่าเป็นสถานที่ที่ไม่อยากให้พลาดเลยจริงๆ…
นำท่านเดินทางสู่เมือง “โกเท็มบะ” เพื่อให้ท่านได้อิสระช้อปปิ้ง “โกะเท็มบะ พรีเมี่ยม เอ้าท์เล็ต” ศูนย์รวมแฟชั่นทันสมัยที่ราคาถูกจนคุณแปลกใจแหล่งรวมพลของแบรนด์เนมชื่อดังทั่วโลก ทั้งแฟชั่นนำสมัยของคนทุกวัย หรือแฟชั่นกีฬาจากทั่วทุกค่ายที่พร้อมใจกันมาลดราคากันตลอดปี อาทิ COACH, TIMBERLAND, NIKE, PUMA, HUSH PUPPIES, ADIDAS และสินค้าแเบรนด์เนมอื่น ๆ มากมายนำท่านเดินทางสู่ “มหานครโตเกียว”
ค่ำ : รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
เช้า : รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
เที่ยง : อิสระอาหารกลางวันตามอัธยาศัย (ไม่รวมในรายการ)
ค่ำ : อิสระอาหารค่ำตามอัธยาศัย (ไม่รวมในรายการ)
เช้า : รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม นำท่านเดินทางชม “บ้านยามาโมโตะเทอิ” ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นทรัพย์สินทางวัฒนธรรมที่จับต้องได้โดยเขตคัตสึชิกะผสมผสานสถาปัตยกรรมที่อยู่อาศัยแบบญี่ปุ่นโชอินซุคุริเข้ากับสถาปัตยกรรมยุโรป ให้ท่านได้ชมทิวทัศน์อันงดงามของสวนสไตล์โชอิน พร้อมเพลิดเพลินไปกับการดื่มชาเขียวมัทฉะและรับประทานขนมหวานแบบดั้งเดิมวากาชิ (ขนมหวานตามฤดูกาล)
นำท่านอิสระช้อปปิ้งที่ “นาริตะ อิออน มอลล์” ห้างที่ใหญ่ที่สุดในแถบนาริตะ ให้อิสระกับทุกท่านได้ช้อปปิ้งในแหล่งช้อปปิ้งแห่งใหม่มีร้านค้าให้เลือกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า รองเท้า นาฬิกา เครื่องประดับ เครื่องสำอาง และที่ขาดเสียมิได้ คือ ร้านร้อยเยน ที่ทุกท่านสามารถซื้อหาของใช้ดีๆและของฝากได้อย่างจุใจ นอกจากนี้ยังมีโซนซุปเปอร์มาร์เก็ต ซึ่งท่านสามารถหาซื้อ กาแฟ เหล้าบ๊วย ผงโรยข้าว ขนม เครื่องปรุงรส บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ของใช้ในครัวเรือน แผนกเครื่องนอน ผลไม้ ฯลฯ
เที่ยง : อิสระอาหารกลางวันตามอัธยาศัย (ไม่รวมในรายการ)
14:00 น. : นำท่านเดินทางสู่ สนามบินนานาชาตินาริตะ ตั้งอยู่ในจังหวัดชิบะ ดำเนินการโดยบริษัทท่าอากาศยานนานาชาตินาริตะ แปรสภาพเดิมมาจากองค์การบริหารงานท่าอากาศยานนานาชาติโตเกียว แห่งใหม่ ท่าอากาศยานนานาชาตินาริตะเป็นสนามบินหลักที่ให้บริการผู้โดยสารระหว่างประเทศ ที่เดินทางเข้าและออกจากประเทศญี่ปุ่น และเป็นจุดเชื่อมต่อการเดินทางระหว่างทวีปเอเชียและอเมริกา เป็นสนามบินที่รองรับเที่ยวบินสำหรับผู้โดยสารมากอันดับ 2 ของญี่ปุ่น (รองจากสนามบินนานาชาติฮาเนะดะ) เป็นสนามบินที่รองรับการขนส่งทางอากาศเป็นอันดับ 1 ของญี่ปุ่นและอันดับ 3 ของโลก
18:25 น. : เหินฟ้าสู่ประเทศไทย โดยสายการบินแห่งชาติสายการบินไทย เที่ยวบินที่ JL707
23:35 น. : เดินทางถึงท่าอากาศยานสนามบินสุวรรณภูมิประเทศไทย โดยสวัสดิภาพพร้อมภาพความประทับใจ
(โรงแรมในประเทศญี่ปุ่นส่วนใหญ่ห้องพักมีขนาดเล็ก โรงแรมจะบล็อคเฉพาะห้องคู่ (2 เตียงเดี่ยวใน 1 ห้อง Western Style หรือ Japanese Style) ให้กับทัวร์แบบหมู่คณะ ส่วนห้องพักต่างชนิดต้องแจ้งคำขอเป็นกรณีไป เช่น การขอห้องคู่ชนิด DBL (1 เตียงขนาด 5 ฟุต จะทราบชนิดของห้องพักเมื่ออยู่หน้างาน) และหากท่านมีความประสงค์จะพัก 3 ท่านต่อห้อง (ห้องคู่+เสริมเตียง) ท่านต้องยอมรับในพื้นที่อันจำกัดของห้องพัก และกรณีโรงแรมไม่มีห้องพักที่เสริมเตียงได้ โรงแรมจะจัดห้องพักให้ท่าน 1 ห้องคู่ + 1 ห้องเดี่ยว
สำคัญ…เงื่อนไขและรายละเอียดของการเดินทาง (กรุณาอ่านรายละเอียดทุกข้อ)