กัสโต้ เวิล์ด ทัวร์

บริการคุณภาพ ทุกเส้นทางท่องเที่ยว

เลขที่ 11/03295

ทัวร์ญี่ปุ่น NAGOYA TAKAYAMA OSAKA NEW YEAR

ทัวร์ญี่ปุ่น
รหัส 006-2365
วันที่เดินทาง
ธ.ค.65
ช่วงเวลา
7 วัน 5 คืน
ราคาเริ่มต้น
75,900 บาท
แผนการเดินทาง
วันที่ 1
กรุงเทพฯ (สนามบินสุวรรณภูมิ) – นาโกย่า (สนามบินชูบุเซ็นแทร์) (TG644 00.05 – 07.30)
21.00 น. พร้อมกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ ประตูหมายเลข 2 เคาน์เตอร์ C สายการบินไทย เจ้าหน้าที่ ให้การต้อนรับและอำนวยความสะดวกด้านเอกสารและสัมภาระ
วันที่ 2
นาโกย่า (สนามบินชูบุเซ็นแทร์) – เมืองกิฟุ – ร้านมีด Hamono-ya Sansu – เมืองกุโจฮาจิมัง – พิพิธภัณฑ์กุโจฮะจิมัง – เมืองทาคายาม่า – แช่น้ำแร่ธรรมชาติ
00.05 น. ออกเดินทางสู่ สนามบินชูบุ เซ็นแทร์ ประเทศญี่ปุ่น โดย สายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG 644 (สายการบินมีบริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง)
07.30 น. เดินทางถึง สนามบินชูบุ เซ็นแทร์ ประเทศญี่ปุ่น (เวลาท้องถิ่นเร็วกว่าเวลาประเทศไทย 2 ชม.)ผ่านขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมือง ด่านศุลกากร และรับกระเป๋าเรียบร้อยแล้ว [สำคัญมาก!!ไม่อนุญาตให้นำอาหารสด จำพวก เนื้อสัตว์ พืช ผัก ผลไม้ เข้าประเทศญี่ปุ่นหากฝ่าฝืนมีโทษจับปรับได้]
  ร้านมีด Hamono-ya Sansu เป็นร้านที่เครื่องมีดต้นตำหรับของเมืองเซกิ ซึ่งมีประวัติยาวนานกว่า 75 ปี สถานที่ที่ผลิตมีดได้คมสุด ๆ อีกทั้งยังเป็นเมืองที่มีชื่อเสียงเรื่องการตีดาบญี่ปุ่นอย่างดาบเซกิ สำหรับที่ร้านซันชูนี้มีเครื่องใช้ของมีคมต่างๆ มากมายกว่า 3,000 ชิ้น ไม่ว่าจะเป็นมีดหรือกรรไกรตัดแต่งกิ่งและสวน กรรไกรตัดเล็บ กรรไกรหลากขนาด หรือมีดสำหรับทำครัวหลากหลายรูปแบบที่ช่วยให้การเตรียมวัตถุดิบของคุณง่ายยิ่งขึ้นอกจากนี้ยังมีดาบญี่ปุ่น ขนมและเครื่องดื่มเย็นๆ จำหน่ายอีกด้วย พร้อมทั้งสามารถชมสุดยอดการแสดงดาบของวิชาอิไอกิริ ได้แบบใกล้ๆ ด้วยการใช้ดาบซามูไรฟันฉับเดียวต้นไผ่ขาดเป็น 2 ท่อน!!
กลางวัน  บริการอาหารกลางวัน ณ ร้านอาหาร
  เมืองกุโจฮะจิมัง เมืองที่หลงเหลือบรรยากาศแบบย้อนยุคสมัยอดีต กุโจฮะจิมังมีรางน้ำจำนวนมากจนถูกเรียกว่าเป็นเมืองแห่งสายน้ำ ซึ่งจะได้ยินเสียงน้ำไหลสะท้อนไปทั่วทั้งตัวเมือง ด้วยบรรยากาศที่ทำให้หวนนึกถึงอดีตนั้น ทำให้ทั้งเมืองเสมือนกับเป็นอีกโลกหนึ่งก็ว่าได้ เพียงแค่เดินในเมืองแห่งนี้ ก็จะสามารถสัมผัสบรรยากาศราวกับย้อนเวลาไปอดีตได้อย่างแน่นอน
  พิพิธภัณฑ์กุโจฮะจิมัง ฮาคุรันคัง ที่รวบรวมเสน่ห์ของเมืองกุโจฮะจิมังเอาไว้ นักท่องเที่ยวสามารถเรียนรู้วิธีการร่ายรำกุโจโอโดริ ซึ่งเป็นการร่ายรำประจำเมืองที่ในทุกช่วงฤดูร้อนจะมีการจัดเทศกาลการร่ายรำสุดยิ่งใหญ่ 1 ใน 3 ของญี่ปุ่นขึ้น โดยจะจัดต่อเนื่องกันถึง 33 คืน ตั้งแต่ปลายเดือนกรกฎาคมถึงต้นเดือนกันยายน นอกจากนี้ยังมีโซนเรียนรู้ประวัติศาสตร์และการร่ายรำจากผู้รู้อย่างใกล้ชิด รวมถึงจุดจำหน่ายขนมและของฝากประจำเมืองกุโจอีกด้วย
ค่ำ  บริการอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรม
ที่พัก  เดินทางเข้าสู่ที่พัก HIDA PLAZA ONSEN HOTEL หรือเทียบเท่า

หลังมื้ออาหารค่ำ ให้ท่านได้ผ่อนคลายกับการแช่น้ำจากแร่ธรรมชาติสไตล์ญี่ปุ่น

วันที่ 3
ตลาดเช้าทาคายาม่า – ทาคายาม่า จินยะ – LITTLE KYOTO ซันมาซิ ซูจิ – หมู่บ้านชิราคาวาโกะ – เมืองนาโกย่า – ชมงานประดับไฟ Nabana no sato Winter Illumination
เช้า  บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารภายในโรงแรม
  ตลาดเช้าทาคายาม่า ให้ท่านได้เพลิดเพลินกับการเลือกซื้อเลือกชมผักสดผลไม้หลากหลายชนิดอาหารพื้นเมืองที่นำมาปรุงสดๆสะอาด และยังมีเสื้อผ้า กระเป๋า ของแกะสลัก ของเล่นของที่ระลึกของพื้นเมืองต่างๆมากมาย
  ที่ว่าการอำเภอเก่าทาคายาม่า ซึ่งเป็นจวนผู้ว่าแห่งเมืองทาคายาม่า เป็นที่ทำงานและที่อยู่อาศัยของผู้ว่าราชการจังหวัดฮิดะ เป็นเวลากว่า 176 ปี ภายใต้การปกครองของโชกุนตระกูลกุกาวา ในสมัยเอโดะ
  ถนนสายซันมาจิ ซูจิ เป็นย่านเมืองเก่าที่ยังคงอนุรักษ์บ้านเรือนสมัยเอโดะกว่า 300 ปี ไว้ได้เป็นอย่างดี ตัวเมืองล้อมรอบด้วยคูน้ำและถนน 3 สายเล็กๆ ที่มีประวัติความเป็นมาอันยาวนาน ซึ่งในช่วงที่ไม่มีหิมะตกร้านค้าจะเปิดให้เลือกซื้อสินค้าพื้นเมือง ของที่ระลึก รวมทั้งสาเกที่ขึ้นชื่อด้วย คนที่อาศัยอยู่แถวนี้ ดัดแปลงบ้านเป็นร้านขายของต่างๆ (traditional shop)เพื่อรับนักท่องเที่ยว และยังมีการขายสินค้าพื้นเมืองหลายอย่าง เช่น เกี๊ยะ กระดาษญี่ปุ่น (washi) ของที่ระลึก ชาม ตุ๊กตา
กลางวัน  บริการอาหารกลางวัน ณ ร้านอาหาร

 

  หมู่บ้านมรดกโลกชิราคาวาโกะ ซึ่งเป็นหมู่บ้านที่ยังคงอนุรักษ์บ้านสไตล์ญี่ปุ่นขนานแท้ดั้งเดิมและได้รับเลือกจากองค์กรยูเนสโกให้เป็นมรดกโลกในเดือนธันวาคม ปี 1995 โครงสร้างของบ้านสามารถรองรับหิมะที่ตกหนักในช่วงฤดูหนาวได้ดีและรูปร่างของหลังคาเหมือนกับสองมือพนมของพระเจ้า จึงเรียกหมู่บ้านสไตล์นี้ว่า“กัสโซ”จะมีความยาวประมาณ 18 เมตร ความกว้าง 10 เมตร
  จากนั้นเดินทางต่อสู่ นาโกย่า เป็นเมืองที่มีประวัติศาสตร์มายาวนาน เป็นเมืองใหญ่ที่สุดใน ภูมิภาคจูบุ ซึ่งอยู่ตรงกลางของประเทศญี่ปุ่น มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย ทั้งสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ และสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ
  เทศกาลแสดงไฟ NABANA NO SATO เป็นงานประดับไฟที่สุดอลังการของญี่ปุ่น โดยมีไฮไลท์คือ “อุโมงค์ไฟดาวล้านดวง” วิวดอกไม้นานาพันธุ์ ซึ่งดอกไม้เป็นสิ่งดึงดูดใจหลักของงานประดับไฟ โดยแปลงสวนแบ่งออกเป็น 2 ส่วน มีดอกไม้และต้นไม้หลายๆพันธุ์ ส่วนของสวน Begonia ขนาดใหญ่ที่มีดอกไม้เพียงอย่างเดียวมากกว่า 12,000 ชนิด บานสะพรั่งตลอดปี ส่วนในอาคารเรือนกระจกยักษ์มีพันธุ์ไม้ที่ปลูกในกระถางทั้งสวนดอกไม้ Andes และสวนดอกไม้ Begonia
ค่ำ  รับประทานอาหารค่ำ ณ ร้านอาหาร
วันที่ 4
กิจกรรม ลานสกี Biwako Valley Ski Resort – เมืองเกียวโต – วัดคินคะคุจิ – ศาลเจ้าฟูชิมิอินาริ – ช้อปปิ้ง JR KYOTO STATION
เช้า  บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารภายในโรงแรม
  สัมผัสประสบการณ์ความสนุกสนานกับ กิจกรรม ณ ลานสกี Biwako Valley Ski Resort (ตามสภาพอากาศ) นำท่านนั่งกระเช้าขึ้นสู่ลานสกี โดยท่านจะได้อิสระเพลิดเพลินไปกับหิมะขาวโพลน พร้อมถ่ายรูปเก็บความประทับใจ หรือสนุกไปกับการลองเช่า “ถาดเลื่อนหิมะ”(Snow Sled) ราคาทัวร์นี้ไม่รวม ค่าเช่าเครื่องเล่นทุกชนิดและชุดสำหรับเล่นสกี อุปกรณ์ Snow Sled ราคา 500 – 1,200 เยน / ชุดเล่นสกี+อุปกรณ์การเล่นสกี ราคา 5,000 – 25,000 เยน
กลางวัน  บริการอาหารกลางวัน ณ ร้านอาหาร
  วัดคินคะคุจิ (Kinkakuji Temple) หรือวัดทอง เป็นวัดเก่าแก่ของเมืองเกียวโต เป็นวัดที่รู้จักมากที่สุดวัดหนึ่งในประเทศญี่ปุ่น สร้างเมื่อปี พ.ศ. 1940 ในอดีตพลับพลาหลังนี้เคยถูกลอบวางเพลิงในปี พ.ศ.2493 โดยพระภิกษุที่บวชอยู่ในวัด ซึ่งศาลาสีทองที่เห็นในปัจจุบันเพิ่งได้รับการแปะผนังทองไปเมื่อปี พ.ศ.2530 ที่ผ่านมา จึงมองเห็นเหลืองอล่ามสะท้อนในสระน้ำอย่างสวยงาม วัดคินคะคุจิ ประกอบด้วย วิหารมี 3 ชั้น โดยชั้นแรกมีลักษณะเป็นพระราชวัง ชั้นที่สองเป็นแบบบ้านซามูไร ส่วนชั้นที่สามเป็นแบบวัดเซน มีตำนานเกี่ยวกับการ์ตูนเรื่องอิกคิวซัง ว่าวัดนี้เคยเป็นที่พำนักของโชกุนอาชิคางะ โยชิมิซึ ผู้ที่ชอบทายปุจฉา-วิสัชนา กับอิกคิวซังในการ์ตูนเรื่องอิคิวซัง เณรน้อยเจ้าปัญญา ก็จำลองเรื่องราวเหตุการณ์ของศาลาทองในวัดนี้ให้เป็นปราสาทของท่านโชกุน ก่อนที่จะยกให้เป็นทรัพย์สมบัติของวัดโรกุนนอนจิ
  ศาลเจ้าฟุชิมิ อินาริ (Fujimi-inari) หรือ ศาลเจ้าจิ้งจอกเป็นศาลเจ้าชินโต (Shinto) ที่มีความสำคัญแห่งหนึ่งของเมืองเกียวโต มีชื่อเสียงโด่งดังจาก ประตูโทริอิ (Torii Gate) หรือเสาประตูสีแดงที่เรียงตัวกันข้างหลังศาลเจ้าจำนวนหลายหมื่นต้นจนเป็นทางเดินได้ทั่วทั้งภูเขาอินาริ (Mt. Inari) ที่ผู้คนเชื่อกันว่าเป็นภูเขาศักดิ์สิทธ์ โดย เทพอินาริ (หรือ พระแม่โพสพ ตามความเชื่อของไทย) จะเป็นตัวแทนของความอุดมสมบูรณ์ การเก็บเกี่ยวข้าว รวมไปถึงพืชผลไร่นาต่างๆ และมักจะมีจิ้งจอกเป็นสัตว์คู่กาย (บ้างก็ว่าท่านชอบแปลงร่างเป็นจิ้งจอก) จึงสามารถพบเห็นรูปปั้นจิ้งจอกมากมายด้วยเช่นกัน ศาลเจ้าแห่งนี้มีความเก่าแก่มากถูกสร้างขึ้นตั้งแต่ก่อนสร้างเมืองเกียวโตซะอีก คาดกันว่าจะเป็นช่วงประมาณปีค.ศ. 794 หรือกว่าพันปีมาแล้ว อีกทั้งที่แห่งนี้ยังได้เป็นส่วนหนึ่งของภาพยนตร์ฮอลลีวู้ด เรื่อง MEMOIRS OF GEISHA อีกด้วย
  สถานีรถไฟเกียวโต [JR KYOTO STATION] เป็นสถานีรถไฟสายหลักของเกียวโต และเป็นหนึ่งในสถานีรถไฟที่ใหญ่ที่สุดของประเทศญี่ปุ่น มีการออกแบบอาคารให้ดูสมัยใหม่ และยังเป็นแหล่งศูนย์รวมร้านค้า ร้านอาหารมากมายตั้งอยู่เรียงรายทั้งด้านในและด้านนอกสถานี แถมที่นี้ยังมีศูนย์การค้า Porta ขนาดใหญ่ให้ได้ช้อปปิ้งกันอีกด้วย
ค่ำ  อิสระรับประทานอาหารค่ำ ณ แหล่งช้อปปิ้ง JR TOWER
ที่พัก  เดินทางเข้าสู่ที่พัก OSAKA FUJIYA HOTEL หรือเทียบเท่า
วันที่ 5
อิสระท่องเที่ยวและช้อปปิ้งเมืองโอซาก้า
เช้า  บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารภายในโรงแรม
  ให้ท่านได้เลือกอิสระท่องเที่ยวตามสถานที่ต่างๆใน เมืองโอซาก้า โดยมีไกด์ค่อยให้คำแนะนำต่างๆกับท่านในการเดินทาง เช่น ย่านชินไซบาชิ เต็มไปด้วยความหลากหลายของร้านค้าและแบรนด์ดังมากมายตั้งอยู่ปะปนไปกับร้านค้าแบบดั้งเดิมของญี่ปุ่น ได้แก่ Apple Store, Dior, Chanel, Gucci, H&M, Hermès, Louis Vuitton และอื่นๆ เรียกได้ว่าเป็นศูนย์รวมแทบจะทุกยี่ห้อดังทั่วโลกเลยก็ว่าได้ นอกจากนี้แล้วยังมีสินค้าจำพวกอาหารและเครื่องดื่มหรือตุ๊กตาน่ารักๆ ก็มีให้เลือกซื้อเช่นกัน และนอกเหนือไปจากร้านค้าทันสมัยจากแบรนด์ต่างๆ แล้วที่ชินไซบาชิยังมี Shopping Arcade ที่เอาร้านค้าเล็กๆ มารวมไว้ภายใต้หลังคาเดียวกันมีเส้นทางยาวประมาณ 600 เมตรมีสินค้าให้เลือกสรรมากมาย อาทิ ชุดกิโมโนแบบดั้งเดิม,อัญมณีเครื่องประดับและร้านหนังสือ เป็นแหล่งที่ตั้งของห้างสรรพสินค้าชื่อดังและร้านค้ามากมายให้ท่านได้ช้อปปิ้งได้จุใจ และยังมีสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญๆต่างๆมากมาย เช่น

เมืองนารา (Nara) อดีตเมืองหลวงเก่าของชาวญี่ปุ่น ที่ตั้งขึ้นมาในปี 710 และได้รับอิทธิพลของศาสนาพุทธอย่างเต็มที่ จนกระทั่งถึงปัจจุบันนี้ยังคงมีสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์มากมาย รวมไปถึงวัดวาอารามที่เก่าแก่ที่สุดอีกด้วย

วัดโทไดจิ (Todaiji) วัดหลวงพ่อโตแห่งเมืองนารา หรือ ไดบุทสึ (Daibutsu of Nara) นับเป็นหนึ่งในวัดที่มีชื่อเสียงมากที่สุดและมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ของประเทศญี่ปุ่นอย่างมาก จุดเด่น คืออาคารหลักของวัดแห่งนี้ เป็นอาคารไม้ที่ใหญ่ที่สุดในโลก หลวงพ่อโตหรือ ไดบุตสึ ยังเด่นที่ประดิษฐานด้านในอาคารหลักนี่ ซึ่งก็เรียกได้ว่ามีขนาดที่ใหญ่มากที่สุดของญี่ปุ่น มีความสูงมากถึง 15 เมตร วัดแห่งนี้นั้นถูก สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 752 สามารถตรัสรู้ได้ และเป็นที่ชื่นชอบสำหรับนักท่องเที่ยวก็คือเจ้ากวางน้อยใหญ่ที่เดินควักไขว่ไปมา ซึ่งก็สามารถให้อาหารกวางเหล่านั้นด้วยขนมแซมเบ้ที่ทำมาสำหรับกวางโดยเฉพาะ โดยจะมีร้านที่ขายราคาก็จะอยู่ประมาณห่อละ 150 เยน

* เพื่อให้ท่านได้สนุกสนานอย่างเต็มที่จึงไม่มีบริการอาหารกลางวันและอาหารค่ำ *

ที่พัก  เดินทางเข้าสู่ที่พัก OSAKA FUJIYA HOTEL หรือเทียบเท่า
วันที่ 6
โกเบ – เดินเล่นย่านคิตาโนะ – โกเบ ไชน่าทาวน์ – โกเบ ฮาร์เบอร์แลนด์ – ริงค์กุ พรีเมียม เอาท์เล็ท – อิออน มอล์
เช้า  บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารภายในโรงแรม
  เดินทางสู่ เมืองโกเบ (Kobe) ซึ่งอยู่ในจังหวัดเฮียวโกะ และเป็นหนึ่งใน 10 เมืองใหญ่ของประเทศญี่ปุ่นที่น่าดึงดูดใจสำหรับนักท่องเที่ยว โดยที่ท่าเรือโกเบนั้น ในยุคศตวรรษที่ 19 ก็เป็นหนึ่งในท่าเรือที่เปิดทำการค้าขายกับต่างประเทศเป็นครั้งแรกอีกด้วย เดินเล่นย่านคิตาโน๊ะ (Kitano Ijinkan) เป็นย่านที่มีกลิ่นอายของ 2 วัฒนธรรมอย่างชัดเจน ปัจจุบันยังคงมีบ้านสไตล์ยุโรปอยู่หลายหลัง โดยบางหลังได้มีการปรับพื้นที่ภายในบ้านให้เป็น พิพิธภัณฑ์ บ้างก็ปรับให้เป็นแกลเลอรี่ ส่วนสถานที่ ที่คนนิยมมาเยี่ยมชมคือ Weathercock House อาคารทรงยุโรปที่มีกังหันลมไก่ อยู่บนหลังคา โดยสถานที่นี้ ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นสมบัติสถานแห่งชาติอีกด้วย
  นานกิงมาจิ (Nankinmachi) ย่านไชน่าทาวน์ของเมืองโกเบ และถือเป็นแหล่งชุมชนชาวจีนที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคคันไซ โดยที่ย่านนี้ได้เติบโตมาจากชาวจีนผู้เข้ามาทำการค้าในช่วงที่ญี่ปุ่นเปิดประเทศในปี 1868 ปัจจุบันนี้เป็นแหล่งการค้าสำคัญที่จะมีสินค้าจากเมืองจีนเข้ามาขายมากมาย เช่น ผักดอง เส้นบะหมี่ ผลไม้ ฯลฯ รวมถึงร้านอาหารจีนอันเลิศรส ก็ตั้งเรียงรายอยู่ ณ จุดนี้อีกด้วย
  ย่านโกเบฮาร์เบอร์แลนด์ (Kobe Harborland) ตั้งอยู่ที่บริเวณท่าเรือโกเบ เป็นย่านที่รวมทั้งแหล่งช็อปปิ้งและความบันเทิงที่หลากหลายที่โด่งดังมากๆ มีทั้งร้านกาแฟ ร้านอาหาร ร้านค้า และสวนสนุก ซึ่งเป็นจุดนัดพบที่นิยมของชาวเมือง โดยสามารถเดินเล่นตามทางเดินริมน้ำเพื่อชื่นชมบรรยากาศแบบคลาสสิค นอกจากนี้ยังมีโรงภาพยนตร์ และร้านอาหารตั้งอยู่ในบริเวณโกดังอิฐโบราณที่รีโนเวทมาจากสมัยศตวรรษที่ 19 อีกด้วย บริเวณนี้มีห้างใหญ่ๆ 2 ห้าง ไม่ว่าจะเป็นห้าง Umie Mosaic ตั้งอยู่ริมน้ำ ภายในมีร้านค้าเล็กๆขายเสื้อผ้า และร้านอาหารที่สามารถเห็นท่าเรือโกเบได้อย่างชัดเจน นอกจากนี้ยังมีสวนสนุกเล็กๆสามารถขึ้นไปชมวิวบนชิงช้าสวรรค์ที่ตั้งอยู่หลังอาคารห้างโมเสค และห้าง Canal Garden
กลางวัน  อิสระรับประทานอาหารกลางวัน ณ แหล่งช้อปปิ้ง
  ริงค์กุ พรีเมียม เอาท์เล็ท (Rinku Premium Outlet) แหล่งช้อปปิ้งขนาดใหญ่ ที่มีการออกแบบให้ดูเหมือนกับรีสอร์ทโดยได้แรงบันดาลใจมาจากเมืองท่าชาร์ลสตันอันมีประวัติศาสตร์ของอเมริกาและมีร้านค้าถึง 150 ร้านที่พร้อมให้ท่านได้เดินเข้าไปเลือกซื้อของ ทั้งสินค้าแบรนด์เนมของญี่ปุ่น หรือ ของต่างชาติ เช่น Prada , Burburry , Coach , Nike , Adidas , Dior , Hugo boss , Levi’s ฯลฯ
  ช้อปปิ้งต่อที่ ห้างอิออน มอลล์ (Aeon mall) ให้ท่านได้ซื้อของฝากมากมายหลากหลายชนิด อาทิเช่น ขนมโมจิ เบนโตะ ผลไม้ตามฤดูกาล และพิเศษสุดกับร้าน 100 เยน ทีทุกอย่างในร้านราคาเพียง 100 เยนเท่านั้น
ค่ำ  อิสระรับประทานอาหารค่ำ ณ แหล่งช้อปปิ้ง
   เดินทางเข้าสู่ที่พัก KANSAI WASHINTON AIRPORT HOTEL หรือเทียบเท่า
วันที่ 7
โอซาก้า (สนามบินคันไซ) – กรุงเทพฯ (สนามบินสุวรรรภูมิ) (TG623 11.00-15.40)
เช้า  บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารภายในโรงแรม
08.00 น. สมควรแก่เวลาเดินทางนำท่านเดินทางสู่สนามบินโอซาก้า
09.00 นำทุกท่านทำการ CHECK IN และโหลดสัมภาระ เพื่อเดินทางกลับสู่ประเทศไทย
11.00 น. ออกเดินทางสู่ กรุงเทพฯ โดยสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG623 (สายการบินมีบริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง)
15.40 น. เดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ พร้อมความประทับใจ
เงื่อนไข
  • ค่าตั๋วเครื่องบินไป-กลับ พร้อมกันทั้งคณะ
  • ค่าอาหารตามมื้อที่ระบุในรายการ
  • ค่าภาษีสนามบินทุกแห่งที่มี
  • ค่าจ้างมัคคุเทศก์บริการตลอดการเดินทาง
  • ค่าน้ำหนักกระเป๋าสัมภาระท่านละไม่เกิน 30 ก.ก.
  • ค่ารถรับ-ส่ง และนำเที่ยวตามรายการ
  • ค่าที่พักตามที่ระบุในรายการ (พักห้องละ 2 ท่าน)
  • ค่าเข้าชมสถานที่ต่างๆ ตามรายการ
  • ค่าประกันอุบัติเหตุระหว่างเดินทาง วงเงินท่านละ 1,000,000 บาท (เงื่อนไขตามกรมธรรม์)
  1. ค่าทำหนังสือเดินทางไทย และเอกสารต่างด้าวต่างๆ (ทางรัฐบาลญี่ปุ่นประกาศยกเลิกวีซ่าให้กับคนไทย ผู้ที่ประสงค์จะพำนักระยะสั้นใน ประเทศญี่ปุ่นไม่เกิน 15 วัน **ถ้ากรณีทางรัฐบาลญี่ปุ่นประกาศให้กลับมาใช้วีซ่า ผู้เดินทางจะต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มในการขอวีซ่าตามที่ สถานทูตกำหนด)
  2. ค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่นอกเหนือที่ระบุ อาทิเช่น ค่าอาหาร-เครื่องดื่ม นอกเหนือจากรายการ ค่าซักรีด ค่าโทรศัพท์ ค่ามินิบาร์ในห้องและค่าพาหนะต่างๆ ที่ไม่ได้ระบุในรายการ รวมทั้งค่าธรรมเนียมในกรณีกระเป๋าสัมภาระที่มีน้ำหนักเกินกว่าที่สายการบินนั้นๆ กำหนด หรือสัมภาระใหญ่เกินขนาดมาตรฐาน
  3. ค่าภาษีน้ำมัน ที่สายการบินเรียกเก็บเพิ่ม ภายหลังจากทางบริษัทฯ ได้ออกตั๋วเครื่องบินไปแล้ว ซึ่งลูกค้าต้องชำระส่วนต่างเพิ่ม
  4. ค่าทิปมัคคุเทศก์และคนขับรถ รวม 1,500 บาท /ทริป/ท่าน ซึ่งต้องชำระ ณ วันเดินทางที่สนามบินต้นทางสำหรับส่วนที่เพิ่มเติมแก่หัวหน้าทัวร์ที่ดูแลคณะจากเมืองไทย  ตามแต่ท่านจะเห็นสมควรขึ้นอยู่กับความพึงพอใจในบริการ
  5. ไม่รวมค่าตรวจ RT-PCR ภายใน 72 ชั่วโมงก่อนการเดินทาง มีใบรับรองผลการตรวจเป็นภาษาอังกฤษตามแบบฟอร์มของทางญี่ปุ่น

 

หมายเหตุ

  1. จำนวนผู้ เดินทางต้องมีขั้นต่ำ 10 ท่านขึ้นไปต่อกรุ๊ป มิฉะนั้น ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการงดออกเดินทางและเลื่อนการเดินทางไปในวันอื่นต่อไป โดยทางบริษัทฯ จะแจ้งให้ท่านทราบล่วงหน้า นอกจากผู้เดินทางทุกท่านยินดีที่จะชำระค่าบริการเพิ่มเพื่อให้คณะเดินทางได้ ทางเรายินดีที่จะประสานงานในการเดินทางตามประสงค์ให้ท่านต่อไป
  2. ขอสงวนสิทธิ์การเก็บค่าน้ำมันและภาษีสนามบินทุกแห่งเพิ่ม หากสายการบินมีการปรับขึ้นก่อนวันเดินทาง
  3. บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนเที่ยวบิน โดยมิต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้าอันเนื่องจากสาเหตุต่างๆ
  4. บริษัทฯ จะไม่รับผิดชอบใดๆ ทั้งสิ้น หากเกิดกรณีความล่าช้าจากสายการบิน, การประท้วง, การนัดหยุดงาน, การก่อการจลาจล, ภัยธรรมชาติ, โรคระบาด, การนำสิ่งของผิดกฎหมาย ซึ่งอยู่นอกเหนือความรับผิดชอบของบริษัทฯ
  5. บริษัทฯ จะไม่รับผิดชอบใดๆ ทั้งสิ้น หากเกิดสิ่งของสูญหาย อันเนื่องเกิดจากความประมาทของท่านอันเกิดจากการโจรกรรม และ อุบัติเหตุจากความประมาทของนักท่องเที่ยวเอง
  6. เมื่อท่านตกลงชำระเงินมัดจำหรือค่าทัวร์ทั้งหมดกับทางบริษัทฯ แล้ว ทางบริษัทฯ จะถือว่าท่านได้ยอมรับเงื่อนไขข้อตกลงต่างๆ ทั้งหมด
  1. บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงรายการโดยมิต้องแจ้งล่วงหน้า ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาวะอากาศ การเมือง สายการบิน และราคาอาจเปลี่ยนแปลงได้ตามความเหมาะสม ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับอัตราแลกเปลี่ยนของเงินสกุล (เยน) โดยมิต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
  2. อัตราค่าบริการนี้คำนวณจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ ณ วันที่ทางบริษัทเสนอราคา ดังนั้น ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการปรับราคาค่าบริการเพิ่มขึ้น ในกรณีที่มีการเปลี่ยนแปลงอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ ค่าตั๋วเครื่องบิน ค่าภาษีเชื้อเพลิง ค่าประกันภัยสายการบิน การเปลี่ยนแปลงเที่ยวบินฯลฯ
  3. การบริการของรถบัสนำเที่ยวญี่ปุ่น ตามกฏหมายประเทศญี่ปุ่น สามารถให้บริการวันละ 10 ชั่วโมง มิอาจเพิ่มเวลาได้ โดยมัคคุเทศก์และคนขับจะเป็นผู้บริหารเวลาตามความเหมาะสม ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพการจราจรในวันเดินทางนั้นๆ เป็นหลัก จึงขอสงวนสิทธิ์ในการปรับเปลี่ยนเวลาท่องเที่ยวตามสถานที่ในโปรแกรมการเดินทาง  อีกทั้งโปรแกรมอาจจะมีการปรับเปลี่ยนตามความเหมาะสมของสภาพอากาศและฤดูกาลทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวเป็นสำคัญ
  4. มัคคุเทศก์ พนักงาน หรือตัวแทนของทางบริษัท ไม่มีอำนาจในการให้คำสัญญาใดๆ แทนบริษัท เว้นแต่มีเอกสารลงนามโดยผู้มี อำนาจของบริษัทกำกับเท่านั้น
Share on social networks
โปรแกรมทัวร์ที่น่าสนใจ