21.00 น. นัดหมายพบกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ ประตู 8 เคาเตอร์ R สายการบินเจแปนแอร์ไลน์ จุดนัดพบ ป้ายบริษัททัวร์ เจ้าหน้าที่บริการช่วยโหลดสัมภาระและกระเป๋าเดินทาง
00.05 น. ออกเดินทางสู่สนามบินโอซาก้า ด้วยเที่ยวบิน JL 728 สายการบินเจแปนแอร์ไลน์
08.05 น. ถึง สนามบินโอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น นำท่านผ่านตรวจคนเข้าเมืองเป็นที่เรียบร้อย
นำท่านเดินทางสู่เมืองเกียวโต วัดเอนโคจิ เป็นวัดที่มีชื่อเสียงมากอีกแห่งของเมืองเกียวโต ก่อตั้งขึ้นประมาณปี 1601 โดยโชกุน Tokugawa Ieyasu ภายในเป็นจุดชมใบไม้แดงที่เลื่องชื่อ เพราะจะมีสวนหย่อมสไตล์ญี่ปุ่นบริเวณลานวัดทั้งจะมีสระน้ำและต้นเมเปิ้ลเรียงรายอยูเป็นจำนวนมาก
กลางวัน เนื่องจากช่วงนั้นวัดมีนักท่องเที่ยวจำนวนมากเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาในการชมใบไม้เปลี่ยนสี ทางทัวร์จะจัดมื้ออาหารแบบง่ายๆเพื่อรองท้องระหว่างเข้าชมแหล่งท่องเที่ยวเป็นข้าวปั้นและแซนวิชพร้อมน้ำชา
สวนรุริโคอิน เป็นวัดที่อยู่คู่ประวัติศาสตร์เมืองยาเสะ ในช่วงสงครามจินชิน โออามะโนะโอจิซึ่งภายหลังกลับมาเป็นจักรพรรดิ์เทนมุ ได้ถูกธนูปักที่หลังจึงได้มารักษาตัว ณ ที่แห่งซึ่งมีบ่อน้ำร้อนแปดสาย จึงเป็นที่มาของประวัติศาสตร์และชื่อของเมือง นับจากนั้นที่แห่งนี้ก็ได้รับการบูชาสักการะจากเหล่าขุนนางชั้นสูงและนักรบในนาม ดินแดนแห่งความสงบสุข ในที่แห่งนี้ยังมีห้องชงชาที่มีประวัติศาสตร์เล่าขานกันมายาวนาน “คิคาคุเท”
วัดโทฟุคุจิ หนึ่งในห้าวัดเซนที่มีชื่อเสียง (Daitokuji, Nanzenji, Kenninji, Tofukuji, Tenryuji) สร้างมาตั้งแต่ปี พ.ศ.1779 โดยมีสถาปัตยกรรมการก่อสร้างคล้ายวัดโทไดจิ ในเมืองนารา และได้รับการขึ้นทะเบียนขึ้นทะเบียนโลกจากองค์การยูเนสโกด้านวัฒนธรรม ช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสีประมาณเดือนพฤศจิกายน ต้นเมเปิลในวัดเปลี่ยนเป็นสีแดงสดใบที่ร่วงหล่นดุจปูพรมสีแดง ให้ท่านได้บันทึกภาพความประทับใจ
ค่ำ รับประทาน อาหารค่ำ ณ ร้านอาหารญี่ปุ่น
เข้าพัก ณ โรงแรม KARAKSA OSAKA NAMBA หรือเทียบเท่า
เช้า รับประทาน อาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
OPTION 1 : เมืองเกียวโต – อาราชิยาม่า – ชมป่าไผ่ – วัดเทนริวจิ [ไกด์พาเดินทางโดยรถไฟไม่รวมค่ารถไฟและค่าเข้าชมวัด]
อาราชิยาม่า สถานที่สุดโรแมนติกที่แม้แต่ชาวญี่ปุ่นเองยังมักจะไปเที่ยวพักผ่อนในวันหยุดเพื่อชื่นชมกับความสวยงามตามธรรมชาติ ชมป่าไผ่ ไผ่ที่ขึ้นอยู่สองข้างท้างเสมือนหนึ่งเป็นอุโมงค์ให้เดินผ่านถูกปลูกขึ้นตั้งแต่สมัยเฮอันหรือกว่าพันปีมาแล้ว เพื่อใช้ในการประดับสวนและชื่นชมความสวยงามและใช้ในการบำบัดจิตใจมาแต่ครั้งโบราณ จนกระทั่งกาลเวลาผ่านไปไผ่เหล่านี้ก็ยังได้รับการดูแลเป็นอย่างดี เมื่อเข้าสู่ป่าไผ่แล้ว จะได้สัมผัสถึงสายลมจากธรรมชาติที่กระทบกับใบไผ่ ความเขียวขจีและความสดชื่นตลอดเส้นทาง สะพานโทเคะทสึ มีความยาว200 เมตร ซึ่งชื่อของสะพานนี้มีความหมายว่าสะพานที่มองเห็นดวงจันทร์อยู่ข้างหน้า เบื้องล่างของสะพานคือแม่น้ำโออิที่ไหลมาจากตาน้ำในภูเขาอาราชิยามะที่ยังคงความใสสะอาดมาจนถึงปัจจุบันให้ท่านเพลิดเพลินกับการถ่ายรูปตามอัธยาศัยวัดเทนริวจิ เป็นวัดนิกายเซนสาขารินไซ วัดนี้สร้างขึ้นในปี 1339 เพื่ออุทิศแด่จักรพรรดิโกะไดโกะภายในวัดมีสวนชื่อซึ่งยังคงสภาพเดิมเหมือนที่เจ้าอาวาสองค์แรกของวัดได้สร้างไว้ วัดนี้ยังได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก เมื่อ ค.ศ.1994 เป็นหนึ่งในจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีที่มีชื่อเสียงอีกแห่งของเมืองเกียวโต
OPTION 2 : อิสระช้อปปิ้งหรือเลือกหรือยูนิเวอร์แซลสตูดิโอเต็มวัน [ไกด์แนะนำการเดินทาง]
ยูนิเวอร์แซล สตูดิโอ ร่วมสนุกท้าทายกับเครื่องเล่นหลากหลายชนิดตื่นเต้น ระทึกใจจากหนังดังที่ท่านชื่นชอบ เช่น ฉากเพลิงไหม้จากเรื่อง “แบ็คดราฟท์”ล่องเรือผจญภัยกับไดโนเสาร์จากเรื่อง“จูราสสิคพาร์ค” นั่งเรือเพื่อพบกับความน่าสะพรึงกลัวเหมือนอยู่ ในเหตุการณ์จริงกับ “จอว์” ใช้ทุนสร้างมหาศาลกว่า 1,500 ล้านเยน(เฉพาะจอว์) และสนุกสนานไปกับเครื่องเล่นภาคใหม่ของ “สไปเดอร์แมน” ที่รอให้ท่านพิสูจน์ความมันส์ พร้อมทั้งพบกับโซนใหม่ “วันเดอร์แลนด์” เป็นโซนสวนสนุกสไตล์ครอบครัวให้ท่านได้เพลิดเพลินกับตัวการ์ตูนสุดน่ารักชื่อดังของญี่ปุ่น Hello Kitty, Snoopy, Sesame Street หรือให้ท่านพบกับโซนใหม่ล่าสุดที่จะเปิดตัววันที่ 15 กรกฎาคมนี้ คือโซน“HARRY POTTER” ที่สร้างเพื่อเอาใจเหล่าสาวกของแฮร์รี่พอตเตอร์ ให้ท่านได้เข้าไปสัมผัสบรรยากาศของโลกเวทมนตร์ในฉากต่างๆจากภาพยนตร์ หรือท่านที่สนใจช้อปปิ้งนำท่านช้อปปิ้ง ณ ย่านชินไซบาชิ ให้ท่านเพลิดเพลินกับการช้อปปิ้งสินค้ามากมายหลายชนิด ทั้งเครื่องไฟฟ้า กล้องถ่ายรูปดิจิตอล นาฬิกา เครื่องเล่น เกมส์ หรือสินค้าแฟชั่นที่เอาใจคุณผู้หญิง เช่น กระเป๋า รองเท้า เสื้อผ้าแบรนด์เนม แฟชั่นล้ำอนาคตสำหรับวัยทีนทั้งหลาย เครื่องสำอางยี่ห้อดังของญี่ปุ่นไม่ว่าจะเป็น KOSE, KANEBO, SK II, SHISEDO และอื่นๆอีกมากมาย
*** เพื่อให้ท่านได้สนุกสนานอย่างเต็มที่จึงไม่มีบริการอาหารกลางวันและอาหารค่ำ ***
เข้าพัก ณ โรงแรม KARAKSA OSAKA NAMBA หรือเทียบเท่า
เช้า รับประทาน อาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
วัดเรียวอันจิ เป็นวัดที่มีชื่อเสียงมากในศตวรรษที่ 16 มีสวนที่งดงามมากๆ ในพุทธนิกายเซน สวนแห่งนี้เป็นสถานที่ในการทำสมาธิซึ่งนำไปสู่การรู้แจ้ง เมื่อมองดูเผินๆอาจจะไม่ค่อยมีความสวยงามมากนัก แต่ถ้าเพ่งจิตมองให้ลึกซึ้งจะเห็นว่าก้อนกรวดเหมือนกับการแสวงหาสัจธรรมที่เรียกกันว่าการรู้แจ้ง ซึ่งเป็นความเชื่อของนิกายเซนที่สืบทอดกัน มาจิตที่กำลังเพ่งอยู่นี้จินตนาการกลายเป็นภาพในลักษณะเชิงเปรียบเทียบ ซึ่งบางทีอาจจะจินตนาการเป็นวิวทิวทัศน์ว่านี่คือหมู่เกาะ ก้อนกรวดพวกนี้เหมือนทะเล ลายคราดเหมือนกับคลื่นในมหาสมุทร ส่วนกำแพงคุณอาจจะมองเห็นเป็นภาพอาทิตย์อัศดงหรือเป็นภาพทิวทัศน์ก็ได้เป็นหรือเป็นภาพทิวทัศน์ก็ได้เป็นความเพลิดเพลินอย่างหนึ่งที่จิตของเราจินตนาการออกมา
กลางวัน รับประทาน อาหารกลางวัน ณ ร้านอาหารญี่ปุ่น [เมนูหม้อไฟซูโม่]
วัดคิโยมิสึ หรือ วัดน้ำใส มีอายุเก่าแก่ยิ่งกว่าเมืองเกียวโต คือยาวนานกว่า 1,200 ปี จุดเด่นอันเป็นเอกลักษณ์ของวัดคือ ห้องโถงใหญ่ สร้างยื่นออกจากหน้าผา มีเสาไม้ขนาดใหญ่ 139 ต้น ค้ำยัน และสิ่งที่น่าอัศจรรย์ คือ สร้างโดยไม่ได้ใช้ตะปูเลย ดังนั้นองค์การยูเนสโกได้ขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลก และเชิญทุกท่านได้ดื่มน้ำศักดิ์สิทธิ์สามสายอันเกิดขึ้นจากธรรมชาติที่ไหลมาจากเทือกเขาอีกด้วย จากนั้นให้ท่านอิสระช้อปปิ้ง ณ ถนนกาน้ำชา ซึ่งตั้งอยู่ระหว่างทางเข้าวัดคิโยมิสึ ร้านค้าต่างๆ ได้ตกแต่งเลียนแบบสมัยเฮอัน ซึ่งมีสินค้าพื้นเมืองนานาชนิด เช่น รองเท้าโซริ(รองเท้าเกี๊ยะแบบญี่ปุ่น), ชุดยูกะตะ, ตุ๊กตานางระบำญี่ปุ่น, ขมมชูครีมสอดไส้นานาชนิด, ร้าน 1,000 เยน, ชาเขียวเกียวโต ที่ขึ้นชื่ออีกแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น, ของที่ระลึกแบบญี่ปุ่นดั้งเดิม เป็นต้นสดงดงาม
นาบะนะโนะซาโตะ เป็นสถานที่จัดแสดงไฟในฤดูหนาวที่มีชื่อเสียงติดอันดับต้นๆของประเทศญี่ปุ่นซึ่งทุกปีจะมีการจัดแสดงไฟ LEDs หลายล้านดวง และบางจุดก็มีการจัดแสดงแสงสีประกอบเสียงเพลงซะด้วย โดยธีมงานส่วนใหญ่จะเกี่ยวกับธรรมชาติ สายน้ำ อุโมงค์แห่งแสง สวนดอกไม้ที่เนรมิตขึ้นจากดวงไฟ เป็นต้น โดยงานแสดงไฟแห่งนี้ถือเป็นหนึ่งในงานเทศกาลที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่นอีกด้วย
ค่ำ รับประทาน อาหารค่ำ ณ ร้านอาหารญี่ปุ่น [เมนูบุฟเฟ่ห์ปิ้งย่าง]
เข้าพัก ณ โรงแรม THE B NAGOYA HOTEL หรือเทียบเท่า
เช้า รับประทาน อาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
เมืองโอบาระ ชมความมหัศจรรย์ของธรรมชาติที่ซากุระจะเบ่งบานพร้อมกับใบไม้เปลี่ยนสี ซากุระพันธุ์นี้มีชื่อว่า ชิกิซากุระ หรือ ซากุระสี่ฤดูโดยมีความพิเศษที่แตกต่างจากซากุระทั่ว ๆ ไปคือจะบาน 2 ครั้งต่อปี เริ่มบานในช่วงกลางเดือนมีนาคมในฤดูใบไม้ผลิและจะบานอีกครั้งตอนปลายเดือนพฤศจิกายนในฤดูใบไม้ร่วง ให้ทุกท่านได้เพลิดเพลินกับการชมซากุระที่ออกดอกคู่กับใบไม้เปลี่ยนสีอย่างเพลิดเพลินใจ [การบานของซากุระขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ]
กลางวัน รับประทาน อาหารกลางวัน ณ ร้านอาหารญี่ปุ่น
หุบเขาโครังเค ขึ้นชื่อว่าเป็นจุดที่ดีที่สุดในการชมใบไม้เปลี่ยนสีของภูมิภาคชุบุ บริเวณหุบเขาโครันเคนั้นจะเต็มไปด้วยเมเปิ้ลราว 4,000 ต้น ตลอดเส้นทางท่านจะได้เดินชมต้นเมเปิ้ลและทิวทัศน์ของใบไม้เปลี่ยนสีที่ผลัดเปลี่ยนเป็นสีแดงเหลืองส้มตามฤดูกาล จุดชมใบไม้เปลี่ยนสีที่สวยที่สุดคือเส้นทางริมแม่น้ำโทโมเอะ ซึ่งมีสะพานไม้ไทเกะสึเคียวคือสะพานที่สัญลักษณ์ประจำหุบเขาโครังเคนั่นเอง [ใบไม้เปลี่ยนสีขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ]
ชมอุโมงค์ใบเมเปิ้ล ต้นเมเปิ้ลที่ขึ้นอยู่ทั้ง 2 ฝั่งของคลองน้ำจะเปลี่ยนสีทั้งส้มและแดง ใบที่แห้งแล้วก็จะร่วงหล่นลงที่คลองน้ำ ทำให้ทั้งด้านบนและด้านล่างเต็มไปด้วยใบเมเปิ้ล จึงดูเหมือนกับเป็นอุโมงค์ใบเมเปิ้ล ในตอนกลางคืนจะมีไฟประดับยาวตามทางเดินไปตลอดแนวอีกด้วย โดยจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 1-23 พฤษจิกายน ของทุกปี
ค่ำ รับประทาน อาหารเย็น ณ โรงแรม [เมนูขาปูยักษ์พร้อมน้ำจิ้มซีฟู๊ด]
เข้าพัก ณ โรงแรม TOMINOKO HOTEL หรือเทียบเท่า / แช่ออนเซนเพื่อผ่อนคลายความเมื่อยล้า
เช้า รับประทาน อาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
ภูเขาไฟฟูจิ ที่มีความสูงเหนือจากระดับน้ำทะเล 3,776 เมตร ภูเขาที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักไปทั่วโลกและยังถือว่าเป็นสัญลักษณ์หนึ่งของประเทศญี่ปุ่น นำท่านขึ้นสู่ชั้นที่ 5 ของภูเขาไฟฟูจิ (ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ) ที่ทุกท่านจะได้เห็นถึงความสวยงามของตัวภูเขาและวิวโดยรอบของภูเขาไฟฟูจิ
หมู่บ้านโอชิโนะฮักไก เป็นจุดท่องเที่ยวที่สร้างเป็นหมู่บ้านเล็กๆ ประกอบด้วยบ่อน้ำทั้ง 8 นี้เป็นน้ำจากหิมะที่ละลายในช่วงฤดูร้อนที่ไหลมาจากทางลาดใกล้ๆภูเขาไฟฟูจิผ่านหินลาวาที่มีรูพรุนอายุกว่า 80 ปี ทำให้น้ำใสสะอาดเป็นพิเศษ นักท่องเที่ยวสามารถดื่มน้ำเย็นจากแหล่งน้ำได้โดยตรง นอกจากนี้ยังมีร้านอาหาร ร้านจำหน่ายของที่ระลึก และซุ้มรอบๆบ่อ ที่ขายทั้งผัก ขนมหวาน ผักดอง งานฝีมือ และผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นอื่นๆให้ลิ้มลองชิม
กลางวัน รับประทาน อาหารกลางวัน ณ ร้านอาหารญี่ปุ่น [เมนูเซตย่างหินภูเขาไฟ]
ถนนอิโจนามิกิ ทั้งสองฟากฝั่งถนนจะเต็มไปด้วยต้นแปะก๊วยกว่า 146 ต้น ที่ปลูกเรียงรายกันอย่างเป็นระเบียบสวยงาม มีลักษณะเป็นลำต้นสูงยอดแหลม เมื่อเข้าสู่ช่วงกลางเดือนพฤศจิกายน ใบแปะก๊วยสีเขียวก็จะเริ่มเปลี่ยนเป็นสีเหลืองทอง อากาศสบายๆให้ท่านได้เดินถ่ายรูปเล่นตามอัธยาศัย
ถนนชินจูกุ ช้อปปิ้งสินค้านานาชนิด อาทิเช่น สินค้าอิเล็คทรอนิกกล้องถ่ายรูป นาฬิกาชื่อดัง CASIO, SEIKO ณ ร้าน BIG CAMERA หรือ SAKURAYA, เสื้อผ้า ข้าวของเครื่องใช้ ภายใต้แบรนด์ MUJI, กระเป๋า หรือ รองเท้าแฟชั่น, เครื่องสำอางค์ชื่อดังของญี่ปุ่น SHISHEDO, KANEBO, SEKISE, SKII และช้อปปิ้งสุดมันส์ ณ ร้าน 100 เยนอย่างจุใจ
ค่ำ อิสระรับประทาน อาหารค่ำตามอัธยาศัย
เข้าพัก ณ โรงแรม SHINJUKU HOTEL หรือเทียบเท่า
เช้า รับประทาน อาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
วัดอาซากุซะ วัดที่เก่าแก่ที่สุดในกรุงโตเกียว นำท่านนมัสการขอพรจากพระพุทธรูปเจ้าแม่กวนอิมทองคำ นอกจากนั้นท่านยังจะได้พบกับโคมไฟขนาดยักษ์ที่มีความสูงถึง 4.5 เมตรซึ่งแขวนอยู่บริเวณประตูทางเข้าวัด และยังสามารถเลือกซื้อเครื่องรางของขลังได้ภายในวัด ฯลฯ
ไดเวอร์ซิตี้โอไดบะ ให้ท่านได้อิสระช้อปปิ้งในแหล่งช้อปปิ้งขนาดใหญ่ที่มีร้านค้าต่าง ๆ และยังมีห้างให้เลือกเดินทั้ง AQUA CITY , VENUS FORT, DECK และห้ามพลาดถ่ายรูปกับกันดั๊มจำลองขนาดเท่าตัวจริง !!!
กลางวัน อิสระรับประทานอาหารกลางวัน ตามอัธยาศัย
ได้เวลาอันสมควรนำท่านเดินทางสู่สนามบินฮาเนดะเพื่อเดินทางกลับสู่กรุงเทพฯ
18.25 น. ออกเดินทางสู่สนามบินสุวรรณภูมิ ด้วยเที่ยวบิน JL 707 สายการบินเจแปนแอร์ไลน์
23.05 น. เดินทางถึงท่าอากาศยานสนามบินสุวรรณภูมิประเทศไทย โดยสวัสดิภาพและความประทับใจ
อัตรานี้รวม
อัตรานี้ไม่รวม
การชำระเงิน
การยกเลิกหรือเลื่อนการเดินทาง
สำคัญ
เงื่อนไขและรายละเอียดของการเดินทาง (กรุณาศึกษารายละเอียดทุกข้อ)