20.00 น. | พร้อมกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ ประตูหมายเลข 2 เคาน์เตอร์ C สายการบินไทย เจ้าหน้าที่ ให้การต้อนรับและอำนวยความสะดวกด้านเอกสารและสัมภาระ |
23.55 น. | ออกเดินทางสู่ สนามบินชิโตเซะ ประเทศญี่ปุ่น โดย สายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG 670 (สายการบินมีบริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง) |
08.20 น. | เดินทางถึง สนามบินชิโตเซะ ประเทศญี่ปุ่น (เวลาท้องถิ่นเร็วกว่าเวลาประเทศไทย 2 ชม.) ผ่านขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมือง ด่านศุลกากร และรับกระเป๋าเรียบร้อยแล้ว [สำคัญมาก!!ไม่อนุญาตให้นำอาหารสด จำพวก เนื้อสัตว์ พืช ผัก ผลไม้ เข้าประเทศญี่ปุ่นหากฝ่าฝืนมีโทษจับปรับได้] |
เดินทางสู่ เมืองอาซาฮิคาว่า เป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสองของเกาะฮอกไกโด รองจากนครซัปโปโระมีร้านค้าที่ขายข้าวและผักที่ปลูกได้ในเมือง และยังมีร้านขายอาหารทะเลตั้งอยู่มากมาย การคมนาคมสมบูรณ์แบบ ทำให้แต่ละปีมีผู้มาท่องเที่ยวกว่า 5 ล้านคนจากทั้งในและต่างประเทศ |
ราเมนต้นตำรับแท้สไตล์ฮอกไกโดที่ หมู่บ้านราเมนอาซาฮิคาว่า (Asahikawa Ramen Village) ราเมนของที่นี่มีรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์และได้รับการกล่าวขานถึงความอร่อยมายาวนานกว่าทศวรรษ หมู่บ้านราเมนอาซาฮิคาว่าได้ถือกำเนิดขึ้นในปี 1996 โดยรวบรวมร้านราเมนชื่อดังของเมืองอาซาฮิคาว่าทั้ง 8 ร้านมาอยู่รวมกันเป็นอาคารหลังคาเดียว เสมือนหมู่บ้านราเมนที่รวบรวมร้านดังขั้นเทพไว้ในที่เดียว ในประเทศญี่ปุ่นจะแบ่งประเภทราเมนตามสูตรทั้งหมด 4 สูตร ได้แก่ ชิโอะราเมน (ราเมนผสมเกลือในน้ำซุป) โชยุราเมน (ราเมนผสมซีอิ๊วญี่ปุ่น) มิโซะราเมน ต้นกำเนิดมาจากฮอกไกโด (ผสมเต้าเจี้ยวญี่ปุ่นในน้ำซุป) ทงคัตซึราเมน (ราเมนกระดูกหมูสีขาวครีม) นอกจากนี้ยังแบ่งตามสูตรของแต่ละท้องถิ่น | ||
กลางวัน | รับประทานอาหารกลางวัน ณ หมู่บ้านราเมน (CASH BACK) (มื้อที่ 1) | |
สวนสัตว์อาซาฮิยาม่า เป็นสวนสัตว์ที่มีชื่อเสียงของเมืองอาซาฮิคาวะ จุดเด่นของสวนสัตว์แห่งนี้ คือ “อุโมงค์แก้วเพนกวิน” ซึ่งจะมีการแสดงขบวนเดินพาเหรดนกเพนกวิน และอีกส่วนหนึ่งก็คือ โดมแก้วขนาดเล็ก จะเป็นโซนหมีขั้วโลกและหมาป่า ทำให้เราสามารถเห็นสัตว์ที่อาศัยอยู่ในขั้วโลกอย่างใกล้ชิด ในช่วงฤดูหนาวป็นช่วงที่เหมาะแก่การที่เดินทางมาชมการจัดแสดงของการเดินพาเหรดเพนกวิน อีกทั้งนี้ยังมีสัตว์ป่าพื้นเมืองของฮอกไกโด เช่น กวาง นกอินทรี หมาป่า เครน โดยเฉพาะเครนที่ตอนนี้หาชมได้ยาก เนื่องจากตอนนี้ได้สูญพันธุ์ไปแล้ว | ||
เทศกาลน้ำแข็งโซอุนเคียว (Sounkyo Ice Fall Festival) หรือเทศกาลน้ำแข็งประจำปีของโซอึนเคียวเป็นเทศกาลน้ำแข็งที่มีชื่อเสียงของฮอกไกโด จะพบกับการประติมากรรมและสถาปัตยกรรมจากน้ำแข็ง ซึ่งมีหลากหลายรูปทรงและงานศิลปะต่างๆ อีกทั้งยังมีสิ่งที่น่าสนใจก็คือความแตกต่างของการเกาะตัวของน้ำแข็งที่แกะสลักซ้ำไปมาหลายครั้งเพื่อสร้างสรรค์ประติมากรรมด้วยความปราณีต การชมเทศกาลน้ำแข็งในช่วงกลางวันกับกลางคืนจะมีความแตกต่างกัน ตอนกลางวันน้ำแข็งจะสะท้อนกับแสงแดดเป็นสีขาวอมฟ้า ในช่วงตอนกลางคืนน้ำแข็งสะท้อนแสงไฟสีรุ้ง | ||
เย็น | รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรม (มื้อที่ 2) |
เช้า | รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (มื้อที่ 3) | |
ล่องเรือตัดน้ำแข็ง โดยเรือจะวิ่งตัดทะเลน้ำแข็งออกไปนอกชายฝั่งทะเลโอคอทสก์ นำนักท่องเที่ยวไปชมก้อนน้ำแข็งที่ลอยมาจากขั้วโลกเหนือ ในช่วงปลายฤดูหนาวเดือนกุมภาพันธ์-มีนาคม หากโชคดี อาจจะได้เห็นสัตว์ทะเลที่มาจากฝั่งทะเลตอนเหนือ เช่น อินทรีย์ทะเลสเตลเลอร์ (STELLER’S SEA EAGLE) และแมวน้ำลายจุด เดิมเรือนี้ใช้เพื่อสำรวจน้ำมันในรัฐอลาสก้า เริ่มนำมาใช้ เป็นกิจกรรมท่องเที่ยวตั้งแต่ปี 2004 การล่องเรือแต่ละรอบใช้เวลา 45 นาที ถึง1 ชั่วโมง **เนื่องจากเป็นช่วงไฮซีซั่น จะระบุประเภทของเรือและท่าเรืออีกครั้งก่อนเดินทาง ทั้งนี้จุดขึ้นเรือตัดน้ำแข็งมี 2 จุดที่สามารถชมได้คือที่จุดมอนเบ็ทสึท่าเรือกะนิงโกะสเตชั่น และที่อะบะชิริท่าเรือออโรร่า เทอร์มินอล** | ||
กลางวัน | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ร้านอาหาร (มื้อที่ 4) | |
น้ำตกกิงกะมีชื่อเรียกอีกชื่อว่าน้ำตกทางช้างเผือก มีต้นน้ำอยู่ในภูเขาโซอุนเคียว จุดเด่นของน้ำตกกิงกะคือ ธารน้ำตกที่ไหลลงมาจากหน้าผาเป็นเส้นเล็กไขว้กันไปมาคล้ายเส้นด้ายสีขาว ส่วนในฤดูหนาวน้ำตกจะกลายเป็นน้ำแข็ง น้ำตกกิงกะเป็น 1 ใน 2 ของน้ำตกที่มีชื่อเสียงของหมู่บ้านโซอุนเคียว น้ำตกริวเซ ตั้งอยู่ไม่ไกลจากน้ำตกกิงกะ เป็นน้ำตกมีความสูงประมาณ 90 เมตร น้ำตกริวเซมีอีกชื่อหนึ่งว่าน้ำตกดาวตก เนื่องจากสายน้ำเส้นใหญ่ที่ไหลลงมาจากชะง่อนผานั้นเมื่อต้องกับแสงอาทิตย์จะแลดูงดงามคล้ายกับดวงดาวที่กำลังตกมาจากฟากฟ้านั่นเอง น้ำตกกิงกะและน้ำตกริวเซ ได้ชื่อว่าเป็นน้ำตกคู่สามีกับภรรยาแห่งอุทยานแห่งชาติไดเซ็ทสึซัง | ||
เมืองฟุราโน่ (FURANO) เป็นเมืองเล็กๆ ที่มีอากาศเย็นและแห้งประกอบกับดินแถบนั้นเป็นดินภูเขาไฟ จึงเหมาะแก่การเพาะปลูกผลิตผลทางการเกษตร โดยเฉพาะดอกไม้ แต่ในช่วงเวลาที่เป็นหิมะก็จะเป็นลานหิมะขนาดใหญ่สุดลูกหูลูกตา หน้าหนาวจะสวยมาก เมืองที่ตั้งอยู่ในกลางเกาะฮอกไกโด | ||
หมู่บ้านเทพนิยาย นิงเกิ้ลเทอเรส (NINGLE TERRACE) เป็นหมู่บ้านงานฝีมือและทางเดินไม้ในป่าที่เหมือนกับศิลปะในเทพนิยาย ซึ่งประกอบด้วยร้านค้า 15 ร้าน ที่จำหน่ายสินค้าแบบออริจินัลของท้องถิ่น ตั้งอยู่ใจกลางหมู่บ้าน ร้านค้าต่างๆ จะอยู่ไม่ไกลกันมาก ทำให้ดูเหมือนเป็นหมู่บ้านกลางป่า คล้ายหมู่บ้านในเทพนิยาย | ||
เย็น | รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรม (มื้อที่ 5) |
เช้า | รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (มื้อที่ 6) |
อิสระเพลิดเพลินและสนุกสนานกับ กิจกรรม ลานสกี ชิคิไซโนะ โอกะ มีกิจกรรมมากมายให้ท่านได้เลือกไม่ว่าจะเป็น. Snow Mobile, Snow Rafting, Snow Shoes, Dog Sledding
** รายการนี้ รวมอัตราค่าคอร์สในการเล่นกิจกรรม และ เครื่องเล่นภายในลานสกีตามที่กำหนด ** |
|
กลางวัน | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ร้านอาหาร (มื้อที่ 7) |
เมืองโอตารุ (Otaru) เป็นเมืองท่าสำคัญสำหรับซัปโปโร นำท่านชม คลองโอตารุ (Otaru Canal) ที่มีความยาว 1.5 กิโลเมตร ถือเป็นสัญลักษณ์ของเมืองโอตารุ โดยมีโกดังเก่าบริเวณโดยรอบปรับปรุงเป็นร้านอาหารเรียงรายอยู่ คลองแห่งนี้สร้างเมื่อปี 1923 โดยสร้างขึ้นจากการถมทะเล เพื่อใช้สำหรับเป็นเส้นทางการขนถ่ายสินค้ามาเก็บไว้ที่โกดัง แต่ภายหลังได้เลิกใช้และมีการถมคลองครึ่งหนึ่งเพื่อทำถนนหลวงสาย 17 แล้วเหลืออีกครึ่งหนึ่งไว้เป็นสถานที่ท่องเที่ยว โดยมีการสร้างถนนเรียบคลองด้วยอิฐแดงเป็นทางเดินเท้ากว้างประมาณ 2 เมตร | |
พิพิธภัณฑ์กล่องดนตรี พิพิธภัณฑ์กล่องดนตรีโอตารุเป็นหนึ่งในร้านค้าที่ใหญ่ที่สุดของพิพิธภัณฑ์กล่องดนตรีในญี่ปุ่น โดยตัวอาคารมีความเก่าแก่สวยงาม และถือเป็นสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ของเมือง | |
โรงเป่าแก้วคิตาอิชิ มีชื่อเสียงทางด้านการเป่าแก้วมายาวนาน โดยในอดีตนั้นจุดประสงค์ของการเป่าแก้วเพื่อใช้เป็นทุ่นให้เรือ แต่ปัจจุบันนี้เป้าหมายของการเป่าแก้วเพื่อใช้เป็นของใช้หรือของที่ระลึกแทน ซึ่งโรงเป่าแก้วคิตาอิชิเป็นโรงงานที่มีชื่อเสียงและเก่าแก่ที่สุด โดยก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ปี 1901 ท่ามกลางโรงเป่าแก้วที่มีอยู่มากมาย และผลงานที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของโรงงานแห่งนี้ | |
ร้านจำหน่ายของฝาก ร้านจำหน่ายของฝากของที่ระลึก ที่อยู่ไม่ไกลจากตัวเมืองซัปโปโร ภายในมีสินค้าลดราคามากมาย ให้ท่านได้อิสระเลือกซื้อสินค้าภายในร้าน | |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ ร้านอาหาร (มื้อที่ 8)
บุฟเฟ่ต์ปิ้งย่าง ขาปูยักษ์และเนื้อสัตว์ชนิดต่างๆ แบบไม่อั้น |
เช้า | รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (มื้อที่ 09) |
ให้ท่านได้อิสระท่องเที่ยวในเมืองซัปโปโร แหล่งที่ตั้งของห้างสรรพสินค้าชื่อดังและร้านค้ามากมาย รวมไปถึงที่เที่ยวจุด Check in ต่างๆมากมาย |
เช้า | รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (มื้อที่ 10) |
สมควรแก่เวลาเดินทางนำท่านเดินทางสู่สนามบินชิโตเซะ | |
ถึง สนามบินชิโตเซะ ทำการเช็คอิน และโหลดกระเป๋าสัมภาระ | |
10.00 น. | ออกเดินทางสู่ กรุงเทพฯ โดยสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG 671 (สายการบินมีบริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง) |
15.50 น. | เดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ พร้อมความประทับใจ |
สำหรับส่วนที่เพิ่มเติมแก่หัวหน้าทัวร์ที่ดูแลคณะจากเมืองไทย ตามแต่ท่านจะเห็นสมควรขึ้นอยู่กับความพึงพอใจในบริการ
หมายเหตุ