กัสโต้ เวิล์ด ทัวร์

บริการคุณภาพ ทุกเส้นทางท่องเที่ยว

เลขที่ 11/03295

ทัวร์ญี่ปุ่น HIMEJI WAKAYAMA OSAKA SAKURA

รหัส 006-3388
วันที่เดินทาง
มี.ค.66 - เม.ย.66
ช่วงเวลา
5 วัน 3 คืน
ราคาเริ่มต้น
36,900 บาท
แผนการเดินทาง
วันที่ 1
กรุงเทพฯ (สนามบินสุวรรณภูมิ) – โอซาก้า (สนามบินคันไซ) (XJ622 00.55-08.45)

21.00 น.
คณะพร้อมกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ ประตูหมายเลข 10 เคาน์เตอร์U สายการบินแอร์เอเชีย เอ๊กซ์ เจ้าหน้าที่ให้การต้อนรับและอำนวยความสะดวกด้านเอกสารและสัมภาระ

วันที่ 2
สนามบินคันไซ – เมืองวาคายามะ – ชมซากุระรอบปราสาทวาคายาม่า (ด้านนอก) - ตลาดปลาคุโรชิโอะ อิจิบะ – ศาลเจ้าสุมิโยชิ ไทชะ – Shopping ย่านชินเซไก

00.55 น.
ออกเดินทางสู่ สนามบินคันไซ ประเทศญี่ปุ่น โดยสายการบินแอร์เอเชีย เอ๊กซ์ เที่ยวบินที่ XJ622(มีบริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง)

08.45 น.
เดินทางถึง สนามบินคันไซ ประเทศญี่ปุ่น (เวลาท้องถิ่นเร็วกว่าเวลาประเทศไทย 2 ชม.) ผ่านขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมือง ด่านศุลกากร และรับกระเป๋าเรียบร้อยแล้ว

[สำคัญมาก!! ไม่อนุญาตให้นำอาหารสด จำพวก เนื้อสัตว์ พืช ผัก ผลไม้ เข้าประเทศญี่ปุ่นหากฝ่าฝืนมีโทษจับปรับได้]

ออกเดินทางสู่ จังหวัดวาคายามะ เป็นจังหวัดที่ต้ังอยู่ในภูมิภาคคันไซของเกาะฮนชูของประเทศญี่ปุ่น มีอาณาเขตติดต่อกับจังหวัดโอซากะทางทิศเหนือ จังหวัดมิเอะและจังหวัดนาระทางทิศ ตะวันออกเฉียงเหนือ วากายามะเป็นเมืองหลวงและเมืองใหญ่สุดของจังหวัด ตั้งอยู่ทางตะวันตกของ คาบสมุทรคิอิบนช่องแคบคิอิซึ่งเชื่อมต่อระหว่างมหาสมุทรแปซิฟิกและทะเลเซโตะใน โดยอยู่ฝั่งตรงข้ามกับจังหวัดโทกูชิมะบนเกาะชิโกกุ ชมซากุระรอบ ปราสาทวากายามะ (Wakayama Castle) (ด้านนอก) ปราสาทแห่งนี้เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวหลักของเมืองวากายามะ ตั้งอยุ่บนเนินเขาภายในมีส่วนประกอบต่าง ๆ ตามรูปแบบของปราสาทดั้งเดิมเอาไว้อยู่หลายส่วน ถึงแม้ว่าส่วนใหญ่จะเป็นการสร้างขึ้นมาใหม่ทีหลัง แต่ก็เน้นที่ความคล้ายคลึงกับของเดิม มีคูน้ำและสวนขนาดใหญ่ล้อมรอบ Wakayama Castle นั้นสร้างขึ้นในยุคเอโดะโดย Toyotomi Hideyoshi ตั้งแต่ปี ค.ศ.1585 แต่ตกเป็นของ Tokugawa Ieyasu ในเวลาต่อมา ผ่านยุคสมัยของสงครามมาหลายครั้ง แต่ครั้งที่ปราสาทเสียหายอย่างหนัก รวมถึงหอคอยปราสาทถูกทำลายลงด้วยคือในสงครามโลกครั้งที่ 2 เมื่อปี 1945 (ช่วงปลายมีนาต้นเมษา ท่านจะได้ชมซากุระสวยๆภายในบริเวณ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ)

นำท่านแวะ ตลาดคุโรชิโอะ อิจิบะ (Kuroshio Market) หรืออีกชื่อคือ “ทูน่า แลนด์” และเป็นแหล่ง ขายปลาทูน่าครีบน้ำเงินแปซิฟิกที่จับได้ในพื้นที่ นำท่านชมปลาที่มีช่ือเสียงที่สุดในญี่ปุ่นแบบเพิ่งจับมา สด ๆ และเพลิดเพลินกับโชว์การแล่ปลาทูน่าทั้งตัวอย่างช่ำชองพร้อมฟังผู้เชี่ยวชาญอธิบายส่วนต่าง ๆ ของปลา อิสระให้ท่านได้เลือกซื้อของทะเลสด ๆ และของที่ระลึกซ่ึงมีผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นให้เลือกมากมาย

กลางวัน
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ร้านอาหาร (มื้อที่ 1)

นำท่านสักการะ ศาลเจ้าสุมิโยชิ ไทชะ ศาลเจ้าชินโต ที่ตั้งอยู่ในแขวงซูมิโยชิ โอซาก้า จังหวัดโอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น เป็นศาลเจ้าที่สำคัญที่สุดในบรรดาศาลเจ้าซูมิโยชิทั้งหมดในประเทศญี่ปุ่น ก่อสร้างขึ้นเมื่อ ค.ศ. 211 รูปแบบสถาปัตยกรรมการสร้างก็ถือว่าโดดเด่นไม่แพ้ที่ไหน ๆ สามารถพูดได้เลยว่าระดับเอเชียยังหาพบได้ยาก เพราะถูกสร้างด้วยรูปแบบที่เรียกว่า สุมิโยชิ – ซึคุริ (Sumiyoshi – zukuri)  นอกจากนี้ศาลเจ้าแห่งนี้ยังขึ้นชื่อเรื่องความศักดิสิทธิ์ของเทพคามิ (เทพเจ้าชินโต) ที่เชื่อว่าเมื่อสักการะแล้วจะเดินทางปลอดภัยแคล้วคลาดจากอันตรายทั้งหลายทั้งปวง

นำท่านช้อปปิ้ง ย่านชินเซไก (Shinsekai) เป็นเหมือน “โลกใหม่” ของโอซาก้ามี หอคอยสึเทนคาคุ Tsutenkaku Tower ที่เป็นเหมือนสัญลักษณ์ที่อยู่ตรงย่านนี้ โดยถูกสร้างขึ้นในปี 1912 ตามแบบหอไอเฟลในปารีส แต่ในระหว่างสงครามโลกครั้งที่สองหอคอยแห่งนี้ได้ถูกทำลายลง จากนั้นไม่นานประมาณปี 1956 ก็ได้ทำการสร้างขึ้นมาใหม่ มีความสูงถึง 103 เมตร อีกทั้งอาหารขึ้นชื่อของย่านนี้ที่ห้ามพลาดก็คือ คุชิคาสึ (kushikatsu) ของทอดเสียบไม้ มีทั้งไก่, เนื้อวัว, ฟักทอง และหน่อไม้ รวมถึงของหวานก็มีกล้วยและไอศกรีมทอดด้วยเช่นกัน ร้านส่วนใหญ่จะเปิด 24 ชั่วโมง และจะคึกคักมากเป็นพิเศษในตอนหัวค่ำ

เย็น
อิสระอาหารเย็นตามอัธยาศัย

วันที่ 3
เกียวโต - เมืองมิยามะ – หมู่บ้านโบราณคายาบูกิ โนะซาโต – วัดคิโยมิสุ – ถนนกาน้ำชา – ศาลเจ้าเฮอัน – กิจกรรมชงชา และศูนย์จำหน่ายสินค้าคุณภาพ – ช้อปปิ้ง ชินไซบาชิ

เช้า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (มื้อที่ 2)

นำท่านออกเดินทางสู่ เมืองเกียวโต (Kyoto) ซึ่งในอดีตเคยเป็นเมืองหลวงของประเทศญี่ปุ่น และยาวนานที่สุด คือ ตั้งแต่ปี ค.ศ. 794 จนถึง 1868 ร่วม ๆ 1,100 ปีเลยทีเดียว เมืองเกียวโตจึงเป็นเมืองที่มีสถานที่สำคัญ ๆ ที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมดังเดิมของญี่ปุ่น

นำท่านมุ่งหน้าสู่ เมืองมิยามะ แวะชม หมู่บ้านโบราณมิยามะ คายาบุกิโนะซาโตะ (Miyama Kayabuki no Sato) เป็นหมู่บ้านเกษตรกรรมท้องถิ่นเล็ก ๆ ในชนบทเมืองมิยามะ โดยส่วนใหญ่บ้านเรือนยังคงโครงสร้างแบบดั้งเดิมที่สร้างขึ้นเมื่อราวเกือบ 200 ปีมาแล้วไว้ได้อย่างสมบูรณ์ ซึ่งคนในเกียวโตเรียกบ้านแบบนี้ว่าแบบคิตายามะ (Kitayama Style Farmhouse) ด้านหน้าหมู่บ้านเป็นทุ่งดอกโซบะ สีขาวที่ออกดอกบานสะพรั่งไปทั่วบริเวณ อีกทั้งยังมีดอกไม้ตามฤดูกาลที่ผลัดกันชูช่อสวย ๆ ตลอดทั้งปี เมื่อเดินเข้ามาถึงทางเข้าหมู่บ้านก็จะเห็นตู้ไปรษณีย์สีแดงเป็นสัญลักษณ์ที่โดดเด่น ทางเดินในหมู่บ้านที่กว้างราว 5 เมตรมีฝาท่อระบายน้ำลวดลายปลาคู่ตรงกลางถนน และยังมีแม่น้ำยุระ (Yura) ที่ไหลลงจากหุบเขาทอดโค้งผ่านหน้าหมู่บ้าน

นำท่านชม วัดคิโยะมิซุ (Kiyomizu) หรือ วัดน้ำใส เป็นวัดที่มีชื่อเสียงโด่งดังที่สุดในญี่ปุ่น เนื่องจากวัดนี้มีสถาปัตยกรรมโบราณที่งดงามชวนตะลึงจนยูเนสโกได้บันทึกให้วัดแห่งนี้ขึ้นเป็นมรดกโลก (UNESCO world heritage sites) ซึ่งที่มาของชื่อวัดน้ำใสก็มาจากการที่วัดแห่งนี้นั้นได้ถูกสร้างขึ้นปี ค.ศ. 780 แล้วได้มีน้ำที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติจากน้ำตกโอโตวะ (Otowa Waterfall) ไหลผ่านตัววัด จุดที่ถือว่าเป็นไฮไลท์ของที่นี่ คือ อาคารไม้ขนาดใหญ่ที่การสร้างทั้งหมดนี้ไม่มีการใช้ตะปูใด ๆ ทั้งสิ้น ถือว่าเป็นภูมิปัญญาของคนโบราณที่ยอดเยี่ยม และโถงอาคารถูกสร้างให้ยื่นออกไปภายนอกทำให้บริเวณนี้เป็นจุดชมวิวที่สวยงาม มองเห็นเมืองเกียวโตในฤดูต่าง ๆ และเป็นจุดชมซากุระและชมใบไม้แดงที่ขึ้นชื่อของเกียวโตอีกด้วย จากนั้นช้อปปิ้ง ณ ถนนกาน้ำชา ซึ่งตั้งอยู่ระหว่างทางเข้าวัดคิโยมิสึ ร้านค้าต่างๆ ได้ตกแต่งเลียนแบบสมัยเฮอัน ซึ่งมีสินค้าพื้นเมืองนานาชนิด เช่น รองเท้าโซริ(รองเท้าเกี๊ยะแบบญี่ปุ่น), ชุดยูกะตะ, ตุ๊กตานางระบำญี่ปุ่น

กลางวัน
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ร้านอาหาร (มื้อที่ 3)

นำท่านสู่ ศาลเจ้าเฮอัน เป็นศาลเจ้าที่ถูกสร้างขึ้นเนื่องในโอกาสครบรอบปี 1100 ของเมืองเกียวโตเมื่อร้อยกว่าปีก่อน โดยจุดไฮไลท์ของที่นี่ คือ ประตูโทริอิยักษ์สีแดงที่ตั้งอยู่ด้านหน้าของวัดที่สามารถเห็นแต่ไกล ศาลเจ้าแห่งนี้นั้นถูกสร้างขึ้นเพื่อให้ระลึกถึงจักรพรรดิคามมุ และจักรพรรดิ์โคเมอิที่เป็นจักรพรรดิองค์แรกและองค์สุดท้ายของเกียวโต นอกจากนี้ตัวศาลเจ้าเองก็มีดีไม่แพ้จุดอื่น ๆ เช่นกัน โดยเฉพาะสถาปัตยกรรม ตัวอาคารหลัก ๆ นั้นมีต้นแบบมาจากพระราชวังสมัยยุคเฮอัน บริเวณสวนที่รายรอบวัดนั้นก็แลดูร่มรื่นเต็มไปด้วยต้นไม้หลากหลายสายพันธุ์เน้นการตกแต่งสไตล์ญี่ปุ่นดั้งเดิม

สัมผัสวัฒนธรรมดั้งเดิมของชาวญี่ปุ่น นั่นก็คือ การเรียนพิธีชงชาญี่ปุ่น (Sado) โดยการชงชาตามแบบญี่ปุ่นนั้น มีขั้นตอนมากมาย เริ่มตั้งแต่การชงชา การจับถ้วยชา และการดื่มชา ทุกขั้นตอนนั้นล้วนมีขั้นตอนที่มีรายละเอียดที่ประณีตและสวยงามเป็นอย่างมาก และท่านยังมีโอกาสได้ลองชงชาด้วยตัวท่านเองอีกด้วย ซึ่งก่อนกลับให้ท่านอิสระเลือกซื้อของที่ฝากของที่ระลึกตามอัธยาศัย

ย่านชินไซบาชิ เต็มไปด้วยความหลากหลายของร้านค้าและแบรนด์ดังมากมายตั้งอยู่ปะปนไปกับร้านค้าแบบดั้งเดิมของญี่ปุ่น ให้ท่านได้ช้อปปิ้งได้จุใจ

เย็น
อิสระอาหารเย็นตามอัธยาศัย

วันที่ 4
เมืองฮิเมจิ – ชมซากุระรอบปราสาทฮิเมจิ – ถนนช้อปปิ้งมิยูกิ โดริ – ริงค์กุ พรีเมียม เอาท์เล็ท – อิออน มอล์

เช้า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (มื้อที่ 4)

นำท่านเดินทางสู่ เมืองฮิเมจิ ชมซากุระรอบ ปราสาทฮิเมจิ (ด้านนอก) ด้วยลักษณะของตัวปราสาทที่มีสีขาวราวกับหิมะในฤดูหนาวจึงมีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า “ปราสาทนกกระยางขาว” หรือ “ปราสาทนกกระสา” ถือเป็นปราสาทที่ใหญ่โตที่สุดในบรรดาปราสาทที่หลงเหลือมาจากยุคกลางของญี่ปุ่นและถึงแม้ตัวเมืองจะถูกทิ้งระเบิดอย่างหนักในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 แต่ตัวปราสาทกลับไม่ได้รับความเสียหายแต่อย่างใด และได้รับการยกย่องจากยูเนสโกให้เป็นมรดกโลกและสมบัติประจำชาติญี่ปุ่นเมื่อเดือนธันวาคม ปี 1993 (ช่วงปลายมีนาต้นเมษาท่านจะได้ชมซากุระสวยๆภายในบริเวณ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ)

นำท่านมุ่งสู่ ถนนช้อปปิ้งมิยูกิ โดริ แหล่งช้อปปิ้งย่านใจกลางเมืองฮิเมจิ มีความยาวเกือบ 1 กิโลเมตร จุดเด่นของย่านนี้ คือ การสร้างหลังคาที่คลุมทั่วตลาด ไม่ว่าจะฝนตก แดดออก พายุหิมะเข้า ก็สามารถมาเดินช้อปปิ้งได้อย่างสบายใจคล้าย ๆ กับถนนช้อปปิ้งทานุกิโคจิที่ฮอกไกโด ให้ท่านได้เลือกช้อปปิ้งกับร้านค้า ร้านอาหาร ร้านเครื่องสำอางค์และร้านเสื้อผ้าแฟชั่นต่าง ๆ ตั้งเรียงรายอยู่ตลอด 2 ข้างทาง รวมไปถึงร้านอย่าง เดอ มิกิ คิตตี้ (Café de Miki Kitty) เป็นคาเฟ่ที่เอาใจสาวกคิตตี้โดยเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็นการตกแต่งร้านรวมถึงอาหารและเครื่องดื่มล้วนเป็นลายเจ้าเหมียวคิตตี้ แมวน้อยแสนน่ารักชี่อดังของซานริโอนั้นเอง

กลางวัน
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ร้านอาหาร (มื้อที่ 5)

นำท่านช้อปปิ้ง ริงค์กุ พรีเมียม เอาท์เล็ท (Rinku Premium Outlet) แหล่งช้อปปิ้งขนาดใหญ่ ที่มีการออกแบบให้ดูเหมือนกับรีสอร์ทโดยได้แรงบันดาลใจมาจากเมืองท่าชาร์ลสตันอันมีประวัติศาสตร์ของอเมริกาและมีร้านค้าถึง 150 ร้านที่พร้อมให้ท่านได้เดินเข้าไปเลือกซื้อของ ทั้งสินค้าแบรนด์เนมของญี่ปุ่น หรือ ของต่างชาติ เช่น Prada , Burburry , Coach , Nike , Adidas , Dior , Hugo boss , Levi’s ฯลฯ

จากนั้นนำท่านช้อปปิ้งต่อ อิออน มอลล์ (Aeon Mall) ห้างสรรพสินค้าที่มีสาขาอยู่ทั่วประเทศญี่ปุ่น มีร้านค้าที่หลากหลายมากกว่า 150 ร้าน เช่น MUJI, 100 yen shop, Sanrio store, Capcom games arcade , ร้านขายเครื่องกีฬา และซุปเปอร์มาร์เก็ตขนาดใหญ่ ให้ท่านได้เก็บจัดการลิสต์ของฝากมาจากคนที่บ้านได้อย่างครบครันเต็มที่

เย็น
อิสระอาหารเย็นตามอัธยาศัย

วันที่ 5
โอซาก้า (สนามบินคันไซ) – กรุงเทพฯ (สนามบินสุวรรรภูมิ) (XJ613 09.50-13.50)

สมควรแก่เวลาเดินทางนำท่านเดินทางสู่ สนามบินคันไซ

นำทุกท่านทำการ CHECK IN และโหลดสัมภาระ เพื่อเดินทางกลับสู่ประเทศไทย

09.50 น.
ออกเดินทางสู่ กรุงเทพฯ โดยสายการบินแอร์เอเชีย เอ๊กซ์ เที่ยวบินที่ XJ613 (มีบริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง)

13.50 น.
เดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ พร้อมความประทับใจ

เงื่อนไข
  • ค่าตั๋วเครื่องบินไป-กลับ พร้อมกันทั้งคณะ
  • ค่าอาหารตามมื้อที่ระบุในรายการ
  • ค่าภาษีสนามบินทุกแห่งที่มี
  • ค่าจ้างมัคคุเทศก์บริการตลอดการเดินทาง
  • ค่าน้ำหนักกระเป๋าสัมภาระท่านละไม่เกิน 20 ..   
  • ค่ารถรับ-ส่ง และนำเที่ยวตามรายการ
  • ค่าที่พักตามที่ระบุในรายการ (พักห้องละ 2 ท่าน)
  • ค่าเข้าชมสถานที่ต่างๆ ตามรายการ
  • ค่าประกันอุบัติเหตุระหว่างเดินทาง วงเงินท่านละ 1,000,000 บาท  (เงื่อนไขตามกรมธรรม์)
  1. ค่าทำหนังสือเดินทางไทย และเอกสารต่างด้าวต่างๆ (ทางรัฐบาลญี่ปุ่นประกาศยกเลิกวีซ่าให้กับคนไทย ผู้ที่ประสงค์จะพำนักระยะสั้นใน ประเทศญี่ปุ่นไม่เกิน 15 วัน **ถ้ากรณีทางรัฐบาลญี่ปุ่นประกาศให้กลับมาใช้วีซ่า ผู้เดินทางจะต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มในการขอวีซ่าตามที่ สถานทูตกำหนด)
  2. ค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่นอกเหนือที่ระบุ อาทิเช่น ค่าอาหาร-เครื่องดื่ม นอกเหนือจากรายการ ค่าซักรีด ค่าโทรศัพท์ ค่ามินิบาร์ในห้องและค่าพาหนะต่างๆ ที่ไม่ได้ระบุในรายการ รวมทั้งค่าธรรมเนียมในกรณีกระเป๋าสัมภาระที่มีน้ำหนักเกินกว่าที่สายการบินนั้นๆ กำหนด หรือสัมภาระใหญ่เกินขนาดมาตรฐาน
  3. ค่าภาษีน้ำมัน ที่สายการบินเรียกเก็บเพิ่ม ภายหลังจากทางบริษัทฯ ได้ออกตั๋วเครื่องบินไปแล้ว ซึ่งลูกค้าต้องชำระส่วนต่างเพิ่ม
  4. ค่าทิปมัคคุเทศก์และคนขับรถ รวม 1,500 บาท /ทริป/ท่าน ซึ่งต้องชำระ ณ วันเดินทางที่สนามบินต้นทาง

สำหรับส่วนที่เพิ่มเติมแก่หัวหน้าทัวร์ที่ดูแลคณะจากเมืองไทย  ตามแต่ท่านจะเห็นสมควรขึ้นอยู่กับความพึงพอใจในบริการ

  1. ไม่รวมค่าตรวจ RT-PCR ภายใน 72 ชั่วโมงก่อนการเดินทาง มีใบรับรองผลการตรวจเป็นภาษาอังกฤษตามแบบฟอร์มของทางญี่ปุ่น

หมายเหตุ

  1. จำนวนผู้ เดินทางต้องมีขั้นต่ำ 10 ท่าน ขึ้นไปต่อกรุ๊ป มิฉะนั้น ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการงดออกเดินทางและเลื่อนการเดินทางไปในวันอื่นต่อไป โดยทางบริษัทฯ จะแจ้งให้ท่านทราบล่วงหน้า นอกจากผู้เดินทางทุกท่านยินดีที่จะชำระค่าบริการเพิ่มเพื่อให้คณะเดินทางได้ ทางเรายินดีที่จะประสานงานในการเดินทางตามประสงค์ให้ท่านต่อไป
  2. ขอสงวนสิทธิ์การเก็บค่าน้ำมันและภาษีสนามบินทุกแห่งเพิ่ม หากสายการบินมีการปรับขึ้นก่อนวันเดินทาง
  3. บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนเที่ยวบิน โดยมิต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้าอันเนื่องจากสาเหตุต่างๆ
  4. บริษัทฯ จะไม่รับผิดชอบใดๆ ทั้งสิ้น หากเกิดกรณีความล่าช้าจากสายการบิน, การประท้วง, การนัดหยุดงาน, การก่อการจลาจล, ภัยธรรมชาติ, โรคระบาด, การนำสิ่งของผิดกฎหมาย ซึ่งอยู่นอกเหนือความรับผิดชอบของบริษัทฯ
  5. บริษัทฯ จะไม่รับผิดชอบใดๆ ทั้งสิ้น หากเกิดสิ่งของสูญหาย อันเนื่องเกิดจากความประมาทของท่านอันเกิดจากการโจรกรรม และ อุบัติเหตุจากความประมาทของนักท่องเที่ยวเอง
  6. เมื่อท่านตกลงชำระเงินมัดจำหรือค่าทัวร์ทั้งหมดกับทางบริษัทฯ แล้ว ทางบริษัทฯ จะถือว่าท่านได้ยอมรับเงื่อนไขข้อตกลงต่างๆ ทั้งหมด
  1. บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงรายการโดยมิต้องแจ้งล่วงหน้า ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาวะอากาศ การเมือง สายการบิน และราคาอาจเปลี่ยนแปลงได้ตามความเหมาะสม ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับอัตราแลกเปลี่ยนของเงินสกุล (เยน) โดยมิต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
  2. อัตราค่าบริการนี้คำนวณจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ ณ วันที่ทางบริษัทเสนอราคา ดังนั้น ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการปรับราคาค่าบริการเพิ่มขึ้น ในกรณีที่มีการเปลี่ยนแปลงอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ ค่าตั๋วเครื่องบิน ค่าภาษีเชื้อเพลิง ค่าประกันภัยสายการบิน การเปลี่ยนแปลงเที่ยวบินฯลฯ
  3. การบริการของรถบัสนำเที่ยวญี่ปุ่น ตามกฏหมายประเทศญี่ปุ่น สามารถให้บริการวันละ 10 ชั่วโมง มิอาจเพิ่มเวลาได้ โดยมัคคุเทศก์และคนขับจะเป็นผู้บริหารเวลาตามความเหมาะสม ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพการจราจรในวันเดินทางนั้นๆ เป็นหลัก จึงขอสงวนสิทธิ์ในการปรับเปลี่ยนเวลาท่องเที่ยวตามสถานที่ในโปรแกรมการเดินทาง  อีกทั้งโปรแกรมอาจจะมีการปรับเปลี่ยนตามความเหมาะสมของสภาพอากาศและฤดูกาลทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวเป็นสำคัญ
  4. มัคคุเทศก์ พนักงาน หรือตัวแทนของทางบริษัท ไม่มีอำนาจในการให้คำสัญญาใดๆ แทนบริษัท เว้นแต่มีเอกสารลงนามโดยผู้มี อำนาจของบริษัทกำกับเท่านั้น
Share on social networks
โปรแกรมทัวร์ที่น่าสนใจ