กัสโต้ เวิล์ด ทัวร์

บริการคุณภาพ ทุกเส้นทางท่องเที่ยว

เลขที่ 11/03295

ทัวร์ญี่ปุ่น ฮอกไกโด ซัปโปโร ฮาโกดาเตะ โอตารุ

ทัวร์ญี่ปุ่น
รหัส 007-1996
วันที่เดินทาง
ธ.ค.65 - ม.ค.66
ช่วงเวลา
6 วัน 4 คืน
ราคาเริ่มต้น
65,990 บาท
แผนการเดินทาง
วันที่ 1
สนามบินสุวรรณภูมิ

20.30 : นัดหมายพร้อมกันที่ สนามบินสุวรรณภูมิ ประเทศไทย โปรดสังเกตุป้าย เลทส์โกกรุ๊ป พบเจ้าหน้าที่คอยให้การต้อนรับพร้อมอำนวยความสะดวกเช็คอินให้แก่ท่าน

23.55 : ออกเดินทางสู่ สนามบินชิโตเซะ เกาะฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น โดยสายการบิน THAI AIRWAYS เที่ยวบินที่ TG670 พร้อมบริการอาหารบนเครื่อง (ใช้เวลาเดินทาง 6 ชั่วโมง 25 นาที)

วันที่ 2
สนามบินชิโตเซะ - เมืองฮาโกดาเตะ - สวนสาธารณะโกเรียวคาคุ - โกดังอิฐแดงริมน้ำ - เนินฮาจิมันซากะ

08.20 : เดินทางถึง สนามบินชิโตเซะ เกาะฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น (เวลาท้องถิ่นเร็วกว่าประเทศไทย 2 ชั่วโมง) ผ่านการตรวจคนเข้าเมืองรับสัมภาระผ่านจุดคัดกรองตามระเบียบของสนามบิน นำท่านเดินทางสู่ เมืองฮาโกดาเตะ (ใช้ระยะเวลาเดินทางโดยประมาณ 3 ชั่วโมง 30 นาที) ซึ่งเป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของภูมิภาคฮอกไกโด ตั้งอยู่ปลายสุดทางตอนใต้ของเกาะ มีชื่อเสียงด้านทิวทัศน์ที่สวยงามของภูเขาฮาโกดาเตะ และอาหารทะเลสดใหม่ในอดีตเป็นเมืองหนึ่งที่มีท่าเรือสำหรับเปิดการค้าระหว่างประเทศในช่วงหลังจากยุคแยกประเทศ เมืองฮาโกดาเตะจึงได้รับอิทธิพลจากต่างประเทศเป็นอย่างมาก

เที่ยง : บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

จากนั้นนำท่านชม สวนสาธารณะโกเรียวคาคุ ที่ได้รับเลือกให้เป็นแหล่งประวัติศาสตร์แห่งชาติ ปัจจุบันเป็นสวนสาธารณะที่โอบล้อมด้วยธรรมชาติ ท่านสามารถเพลิดเพลินไปกับการเดินชมทัศนียภาพอันสวยงามได้ตลอดสี่ฤดู: ชมซากุระบานในฤดูใบไม้ผลิ, พฤกษาเขียวขจีในฤดูร้อน, ไม้ผลัดใบในฤดูใบไม้ร่วงและหิมะในฤดูหนาว ชั้นจุดชมวิวที่ติดกับหอคอยโกเรียวคาคุเป็นจุดชมวิวมุมกว้างขวางที่สามารถมองเห็นป้อมปราการรูปดาวขนาดมหึมา (สะพานข้ามเข้าไปในพื้นที่รูปดาวเปิด 09.00-19.00 ไม่รวมค่าขึ้นหอคอยมีค่าใช้จ่ายเพิ่มท่านละ 900 เยน)

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ โกดังอิฐแดงริมน้ำ ตั้งอยู่ที่ริมแม่น้ำของอ่าวฮาโกดาเตะ ในเมืองฮาโกดาเตะของฮอกไกโดโกดังอิฐแดงของที่นี่นั้นเรียกได้ว่าศูนย์รวมแหล่งช้อปปิ้ง ร้านอาหาร และสถานบันเทิงที่ให้บรรยากาศเก่าๆ ด้วยสิ่งก่อสร้างที่ดูคลาสสิกที่แม้จะดูเก่าแก่แต่ก็มีคลาสในเวลาเดียวกัน โดยเดิมทีที่นี่เคยเป็นคลังสินค้าอิฐสีแดงที่เคยใช้ค้าขายในปลายสมัยเอโดะ ภายหลังจากที่ไม่ได้ใช้งานเป็นคลังสินค้าอีกต่อไปแล้ว

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เนินฮาจิมันซากะ ซึ่งเป็นเนินที่ทอดยาวโดยมีวิวท่าเรืออันงดงามอยู่ปลายทางแห่งนี้ ได้รับเลือกให้เป็นอันดับ 1 ใน “เนินของญี่ปุ่นที่น่าเที่ยวมากที่สุด” เป็นเนินซึ่งเป็นสัญลักษณ์หนึ่งของฮอกไกโดเลย ในช่วงฤดูหนาว ต้นไม้บริเวณริมถนนทั้งสองข้างทางจะมีการไลท์อัพ ประดับไฟส่องแสงสวยงามควบคู่ไปกับแสงไฟจากท่าเรือที่อยู่ไกลออกไป กลายเป็นวิวทิวทัศน์ที่แสนโรแมนติกที่สุด

ค่ำ : บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร

วันที่ 3
ศาลากลางฮาโกดาเตะเก่า - โนโบริเบทสึ - หุบเขานรกจิโกกุดานิ - นั่งกระเช้าชมวิวภูเขาไฟอุสุซาน - สวนหมีโชวะชินซัง - จุดชมวิวทะเลสาบโทยะ

เช้า : บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

นำท่านเดินชมบริเวณด้านนอก ศาลาประชาคมเก่าของฮาโกดาเตะ ซึ่งอาคารแห่งนี้มีชื่อเสียงและมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ในฮาโกดาเตะ ที่ถูกกำหนดให้เป็นทรัพย์สินทางวัฒนธรรมที่สำคัญ ที่นี่มีหอประชุมใหญ่ตระการตาและห้องต่างๆ ที่สงวนไว้สำหรับแขกพิเศษ สมาชิกราชวงศ์ของญี่ปุ่นเคยเข้าพักในห้องเหล่านี้มาแล้ว เมื่อคราวเสด็จมาเยือนฮาโกดาเตะ (ไม่รวมค่าเข้าชมประมาณท่านละ 300 เยน)

นำท่านเดินทางสู่ โนโบริเบทสึ (ใช้ระยะเวลาเดินทางโดยประมาณ 2 ชั่วโมง 30 นาที) เมืองที่เป็นเมืองตากอากาศชื่อดังแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น มีชื่อเสียงด้านออนเซ็น เป็นเมืองที่เหมาะสำหรับไปพักค้างคืนและเข้าออนเซ็นเป็นอย่างยิ่ง นำท่านชม จิโกคุดานิ หรือ หุบเขานรก ภายในบริเวณนี้ประกอบไปด้วยบ่อน้ำพุร้อนและบ่อโคลนเดือดเกิดขึ้นตามธรรมชาติ  จากการระเบิดของภูเขาไฟเมื่อหนึ่งพันปีก่อน ทำให้มีลักษณะคล้ายกระทะทองแดง  ซึ่งจะมีควันพวยพุ่งอยู่ตลอดเวลา  จากใต้พิภพ

ทำให้ผู้คนขนานนามที่แห่งนี้ว่า หุบเขานรก และที่นี่ยังเป็นต้นกำเนิดบ่อออนเซนที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพและผิวพรรณแห่งเมืองโนโบริเบทสึที่มีชื่อสียงที่สุดบนเกาะฮอกไกโดอีกด้วย

เที่ยง : บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

จากนั้นนำทุกท่าน นั่งกระเช้าไฟฟ้าสู่ภูเขาไฟอุสุซาน เป็นภูเขาไฟที่ทำให้เกิดทะเลสาบโทยะขึ้นมา จากหลักฐานพบว่า ภูเขาไฟลูกนี้มีการปะทุขึ้นมาทุกๆ 20-50 ปี ดังนั้นจึงทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงภุมิทัศน์ของพื้นที่แถบนี้อย่างต่อเนื่อง ล่าสุดมีการปะทุไปเมื่อปี พ.ศ. 2543 บนยอดเขาจะเห็นปากปล่องภูเขาไฟที่ยังคุกรุ่นมีควันสีขาวลอยขึ้นมาตลอดเวลา (ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ) (รวมค่าขึ้นกระเช้าและค่าเข้าสวนหมีแล้ว)

จากนั้นนำท่านเข้าชม สวนหมีภูเขาไฟโชวะชินซัน (Showa-Shinzan Bear Park) เป็นสถานที่เพาะพันธุ์หมีสีน้ำตาล นักท่องเที่ยวสามารถเยี่ยมชมลูกหมีสีน้ำตาลได้อย่างใกล้ชิดผ่านกระจกใส และมีหมีโตเต็มวัยที่ไม่ดุร้ายโชว์ลีลาอ้อนขออาหารจากนักท่องเที่ยว เป็นภาพที่น่ารักน่าเอ็นดูทีเดียว หากใครต้องการใกล้ชิดกว่านี้ก็สามารถเข้าไปยังห้องสังเกตการณ์พิเศษ กรงมนุษย์ ซึ่งจะมองเห็นหมีสีน้ำตาลเดินผ่านไปมา และได้ยินเสียงและกลิ่นของหมีผ่านรูระบายอากาศเล็กๆ นอกจากนี้ยังยังขายขนมปัง และแอปเปิ้ล ให้นักท่องเที่ยวได้ป้อนอาหารหมีอีกด้วย

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ จุดชมวิวทะเลสาบโทยะ เป็นจุดชมวิวทะเลสาบโทยะ แบบพาโนราม่า และยังสามารถมองเห็นภูเขาน้อยใหญ่ที่อยู่รายรอบ ทะเลสาบโทยะเป็นทะเลสาบขนาดใหญ่รูปวงกลม มีเส้นรอบวงยาวประมาณ 40 กิโลเมตร เกิดจากปากปล่องภูเขาไฟ ตั้งอยู่ใกล้กับทะเลสาบชิโกสึ

ค่ำ : บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร

ที่พัก      Hilton Niseko Village Hotel, Niseko ระดับ 5 ดาว หรือเทียบเท่า

สกีรีสอร์ทที่ได้รับรางวัลอยู่ที่เชิงเขาอันนุปุริ โดยนั่งกระเช้าลอยฟ้าเพียง 10 นาทีขึ้นไปด้านบน  ทุกท่านสามารถผ่อนคลายในอ่างน้ำพุร้อนธรรมชาติ (ออนเซ็น)  พร้อมทิวทัศน์ของภูเขาโยเท นอกจากนี้ทุกท่านยังสามารภเพลิดเพลินในการเล่นสกีได้อีกด้วย

 

วันที่ 4
สกีรีสอร์ท - ลานกิจกรรมหิมะ - โอตารุ - คลองโอตารุ - พิพิธภัณฑ์กล่องดนตรี - ถนนซาไกมาชิ

เช้า : บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

หลังจากนั้น ให้ท่านได้อิสระเพลิดเพลินกับการเล่นสกี หรือกิจกรรมต่างๆ ภายในโรงแรม  (ไม่รวมค่าชุด และอุปกรณ์) ** ทั้งนี้การเล่นกิจกรรมหิมะต่างๆนั้น ขึ้นกับสภาพภูมิอากาศ และปริมาณความหนาของหิมะ ณ เวลานั้น **

นำท่านเดินทางเข้าสู่ ลานกิจกรรมหิมะ ให้ท่านได้เพลิดเพลินกับ กิจกรรมหิมะให้เล่น เช่น สโนว์โมบิล และสโนสเลด หรือจะเลือกเล่นผาดโผนในสไตล์ท่านเอง (ไม่รวมค่าอุปกรณ์ และค่าเครื่องเล่น ประมาณ 5,000-15,000 เยน) ** ทั้งนี้การเล่นกิจกรรมหิมะต่างๆนั้น ขึ้นกับสภาพภูมิอากาศ และปริมาณความหนาของหิมะ ณ เวลานั้น*

เที่ยง : บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

นำท่านเดินทางสู่ เมืองโอตารุ ซึ่งถือเป็นเมืองท่าที่มีบรรยากาศสุดแสนโรแมนติก รวมถึงการตกแต่งของบ้านเรือนนั้น ส่วนใหญ่ได้ถูกออกแบบเป็นสไตล์ตะวันตกเนื่องจากในอดีต เมืองโอตารุได้รับอิทธิพลมาจากการทำการค้าระหว่างประเทศญี่ปุ่นและประเทศในแถบยุโรป อิสระให้ท่านเดินชมความสวยงามของเมืองเลียบคลองโอตารุอันสวยงามน่าประทับใจ คลองโอตารุเป็นคลองที่เกิดขึ้นจากการถมทะเล สร้างเสร็จเมื่อปี ค.ศ. 1923 เพื่อเป็นเส้นทางขนถ่ายสินค้าจากเรือใหญ่สู่โกดังในเมือง ภายหลังเลิกใช้จึงถมคลองครึ่งหนึ่งเป็นถนนสำหรับนักท่องเที่ยวแทนโกดังต่างๆ ซึ่งเป็นอาคารอิฐสีแดงจึงกลายเป็นสัญลักษณ์ของเมือง และได้ปรับปรุงเป็นร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึกนั่นเอง

จากนั้นนำท่านชม พิพิธภัณฑ์กล่องดนตรี ซึ่งมีอายุเกือบร้อยปี ท่านสามารถชมกล่องดนตรีในรูปแบบต่างๆ สวยงามมากมายที่ถูกสะสมมาจากอดีตจนถึงปัจจุบัน อีกทั้งยังสามารถเลือกคิดแบบทำกล่องดนตรีในสไตล์ของตัวเองขึ้นมาเป็นที่ระลึกหรือเป็นของฝากให้คนรักได้อีกด้วย

นอกจากนี้ด้านหน้าพิพิธภัณฑ์ยังมี “นาฬิกาไอน้ำโบราณ” สไตล์อังกฤษ ที่เหลืออยู่เพียง 2 เรือนบนโลกเท่านั้น ซึ่งเป็นของที่ระลึกที่เมือง Vancouver มอบให้แก่เมือง Otaru นาฬิกานี้จะพ่นไอน้ำประกอบกับมีเสียงดนตรีดังขึ้นทุกๆ 15 นาที เหมือนกับนาฬิกาไอน้ำอีกเรือนหนึ่งที่ประเทศแคนนาดา ถ้ามาฮอกไกโดแล้วไม่มาชม ต้องไปชมที่แคนนาดากันนะจ๊ะ

อิสระให้ท่านได้เลือกซื้อ เลือกชมสินค้ามากมายกับ ถนนซาไกมาชิ  โดยด้านขวามือก็ต้องสะดุดตา สะดุดใจ ไปกับความน่ารักของเจ้าแมวน้อยคิตตี้ ที่ท้าทายรอให้ทุกๆท่านเข้าไปเยี่ยมชม ผ่านมาแล้วจะผ่านเลยไปได้อย่างไรกัน แวะชมกันสักหน่อยสิค่ะ เมื่อเข้าไปในร้านทุกท่านสามารถเลือกแก้วเป็นลวดลายตามใจชอบแต่ละท่านได้เลยนะจ๊ะ ซึ่งข้างหลังแก้วจะมีการสกรีนคำว่า otaru ติดไว้ด้วยนะคะ ซึ่งแก้วก็จะมีมากมายหลากหลายแบบให้เลือก ราคาก็จะแตกต่างกันออกไป เมื่อซื้อแก้วพร้อมเครื่องดื่มเรียบร้อยแล้วสามารถเติมเครื่องดื่มฟรีได้อีกรอบด้วยนะคะ เลือกเครื่องดื่มเรียบร้อยแล้ว เชิญเลือกที่นั่งตามอัธยาศัยที่บริเวณชั้นสองได้เลยจ้า หรือถ้าใครไม่อยากนั่งบริเวณชั้นหนึ่งจะเป็นโซนขายของที่ระลึก หรือจะสนุกสนานไปกับการหมุนตู้กาชาปองเสี่ยงทายหาของฝากไปฝากคนที่คุณรักก็ตามแต่สะดวกเลยค่ะ

ออกจากร้านคาเฟ่คิตตี้ไม่ทันไร ก็จะเจอร้านถัดมาที่เรียกกันว่า มาฮอกไกโด ทั้งทีต้องไม่พลาด LETAO กันนะจ๊ะ เป็นคาเฟ่ให้นั่งทานและสามารถสั่งกลับได้ ซึ่งบางวันอาจจะต้องรอคิวกันสักนิดนึง  สิ่งต้องห้ามก็คือ ห้ามพลาดที่จะลิ้มรส และห้ามพลาดที่จะหิ้วกลับมาเป็นของฝากบุคคลอันเป็นที่รักยิ่งโดยเด็ดขาด LETAO ที่ควรค่าแก่การทานคือชีสเค้กนั่นเอง สัมผัสลิ้นที่นุ่มละมุน กลิ่นหอมหวาน ให้รสชาติหวานพอดี ลิ้มรสพร้อมกับจิบชาและชมบรรยากาศสุดแสนโรแมนติก ไม่มีอะไรจะฟินไปยิ่งกว่านี้แล้วววว.

มากันที่ร้านแนะนำร้านสุดท้ายกันค่ะ ร้านนี้ก็คือ คาเฟ่สนูปปี้ เอาใจคนรักสนูปปี้ ซึ่งจุดเด่นของร้านนี้ก็คือไอศกรีมนั่นเองค่ะ ซึ่งมีหลากหลายรสชาติให้เลือกชิม เป็นซอฟท์ครีมเนื้อนุ่มละมุน ภายในร้านแบ่งเป็นสองชั้น ซึ่งชั้นที่สองจะเป็นโซนร้านอาหาร การตกแต่งร้านก็ไม่พลาดที่จะตกแต่งไปด้วยสนูปปี้ทั้งร้านแน่นอนค่ะ นอกจากอาหาร ของหวาน เครื่องดื่มแล้ว ทางร้านยังจำหน่ายของที่ระลึกเกี่ยวกับสนูปปี้เพื่อเอาใจคนรักสนูปปี้กันด้วยค่ะ มีให้ท่านได้เลือกซื้ออย่างมากมาย

ค่ำ : บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร

วันที่ 5
อุทยานโมอาย - พระอะตะมะ ไดบุตสึ - ตลาดปลาซัปโปโรโจไง - ทำเนียบรัฐบาลเก่าฮอกไกโด - หอนาฬิกาซัปโปโร - สวนโอโดริ - ช้อปปิ้งทานุกิโคจิ

เช้า : บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

จากนั้นนำท่านชม อุทยานโมอาย (ใช้ระยะเวลาเดินทางโดยประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที) ที่ออกแบบโดย Tadao anda สถาปนิกชื่อดังของโลก ก่อสร้างตั้งแต่ ค.ศ. 1982 ไอเดียคล้ายวัฒนธรรมจากโมอายและอียิปต์ ออกแบบรูปร่างตั้งให้อยู่ในภูเขาของดอกลาเวนเดอร์ พระพุทธรูปเป็นแนวคิดโครงสร้างจากการเรียงลำดับของจิตวิญญาณ องค์พระมีชื่อว่า Atama Daibutsu เปิดให้เข้าชมอย่างเป็น ทางการ เมื่อวันที่ 17 ก.ค. 2559 ที่ผ่านมา

อุทยานโมอาย มีพื้นที่ประมาณ 540,000 ตารางเมตร มี 40,000 กลุ่มของที่บรรจุอัฐิและรองรับได้ 70,000 กลุ่ม (ชาวญี่ปุ่นไม่มีการฝังศพ ใช้การเผา และจะซื้อที่ดินใว้เก็บ”อัฐิ”เก็บแบบทั้งตระกูลรวมไว้) โมอายแห่งญี่ปุ่น เป็นชื่อที่ผู้คนเรียกขาน เป็นหนึ่งในสุสานที่ใหญ่ที่สุดในฮอกไกโด

จากนั้นนำท่านสู่ ตลาดซัปโปโรโจไง ประกอบด้วยร้านค้า และร้านอาหารกว่า 80 ร้าน เรียงรายตลอดบล็อกขึ้นไปนอกตลาดขายส่งซัปโปโร เป็นหนึ่งในตลาดที่ใหญ่ที่สุดของเมือง บรรยากาศตามร้านต่างๆ ก็จะมีความคล้ายคลึงกับตลาดปลาทางโตเกียวหรือโอซาก้า

เที่ยง : อิสระอาหารกลางวันตามอัธยาศัย ณ ตลาดปลาซัปโปโรโจไง ให้ท่านได้เลือกทานอาหารได้ตามใจชอบในแบบของท่านไม่ว่าจะเป็น ปูทาราบะ ปูซูไซ หรือจะเลือกทานเป็นซูชิ ซาซิมิ ข้าวหน้าปลาดิบ รับรองว่าสด สะอาด ถูกใจทุกท่านที่ชอบทานอาหารญี่ปุ่นแน่นอน

ของขึ้นชื่อเมื่อมาเยือนตลาดปลาแห่งนี้และพลาดไม่ได้เลย คือ ปูยักษ์ ซึ่งปูยักษ์ที่นี่จะใหญ่มาก หากได้มาเยือนฮอกไกโดแล้วแนะนำว่าไม่ควรพลาด มาต่อสถานที่สุดฮิตอีกหนึ่งจุดคือ ร้านขายของสดแล้วก็ยังมีร้านขายอาหารแห้งแปรรูป ของกึ่งสำเร็จรูป เป็นการแปรรูปของสดจากทะเลหรือเป็นนำมาทำเป็นของอบแห้งเพื่อยืดอายุการเก็บรักษาอาหาร และของนิยมซื้อฝากกันยอดฮิตคือ “มิโสะปู” สามารถนำไปทำซุปมิโสะได้เลยแถมอร่อยมากๆด้วย

จากนั้นนำท่านชม ทำเนียบรัฐบาลเก่าฮอกไกโด เริ่มก่อสร้างเมื่อปี พ.ศ. 2416 เป็นอาคารสไตล์นีโอบาร็อคอเมริกาที่ใช้อิฐมากกว่า 2.5 ล้านก้อนเป็นอิฐที่ทำมาจากหมู่บ้านซิโรอิชิและโทโยชิร่า ตึกนี้ผ่านการใช้งาน มายาวนานกว่า 80 ปีแต่ความงดงามที่เห็นนั้นได้รับการบูรณะซ่อมแซมใหม่หลังจากถูกไฟไหม้เมื่อปี พ.ศ. 2454 แต่ด้วยความสวยงามของสถาปัตยกรรมที่หลงเหลืออยู่ไม่กี่แห่ง จึงได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นสมบัติทางวัฒนธรรมสำคัญของชาติเมื่อปีพ.ศ. 2512

นำท่านผ่านชม หอนาฬิกาซัปโปโร เป็นหอนาฬิกาที่เก่าแก่และเป็นอีกสัญลักษณ์ที่สำคัญของเมืองซัปโปโรอีกแห่งหนึ่ง สร้างตั้งแต่ปี พ.ศ. 2421 เดิมทีเป็นโรงฝึกงานของมหาวิทยาลัย ฮอกไกโด แต่ได้ปรับเปลี่ยนสร้างเป็นหอนาฬิกาและมีระฆังตีบอกเวลาตั้งแต่ พ.ศ.2424 จนถึงปัจจุบันก็ยังสามารถบอกเวลาได้อยู่ และด้วยความเก่าแก่ที่อยู่คู่กับเมืองซัปโปโรมานานจึงได้รับการขึ้นทะเบียน ให้เป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น

นำท่านผ่านชม สวนโอโดริ สวนสวยใจกลางเมืองที่ทอดตัวยาวจากตะวันออกไปตะวันตกโดยมีความยาว 1,400 เมตร สวนโอโดริเป็นที่รู้จักในฐานะสวนสาธารณะแต่ที่จริงแล้วเป็นถนนโดยในปีค.ศ.1871 (ปีเมจิที่ 4) และยังเป็นที่จัดงานเทศกาลขึ้นชื่อของฮอกไกโดอีกด้วย สามารถที่จะสนุกสนานเพลิดเพลินได้ตลอดทุกฤดูกาล ในฤดูใบไม้ผลิมีเทศกาลดอกไลแล็ค ฤดูร้อนมีเทศกาล YOSAKOI โซรันและเบียร์การ์เด้น ฤดูใบไม้ร่วงมีเทศกาลออทั่มเฟสซึ่งรวบรวมเอาอาหารของฮอกไกโดมาไว้และในฤดูหนาวมีเทศกาลหิมะซึ่งพัฒนามาเป็นเทศกาลระดับโลก

จากนั้นนำท่านช้อปปิ้งสินค้าเครื่องสำอางค์ อาหารเสริม เครื่องประดับคุณภาพดีที่ร้านค้าปลอดภาษี DUTY FREE สามารถเลือกซื้อสินค้าได้ตามอัธยาศัย ซึ่งมีสินค้าให้เลือกซื้อมากมาย ไม่ว่าจะเป็น เครื่องสำอางแบรนด์ดัง ทั้งของต่างประเทศและแบรนด์ดังของญี่ปุ่น หรือว่าจะเป็นอาหารเสริมคุณภาพดีซึ่งไม่วามารถหาซื้อจากที่ไหนได้ นอกจากร้านค้าปลอดภาษีเท่านั้น อิสระให้ท่านเลือกซื้อตามอัธยาศัย

จากนั้นนำท่าน ช้อปปิ้งสินค้าเครื่องสำอางค์ อาหารเสริม เครื่องประดับคุณภาพดีที่ร้านค้าปลอดภาษี DUTY FREE สามารถเลือกซื้อสินค้าได้ตามอัธยาศัย ซึ่งมีสินค้าให้เลือกซื้อมากมาย ไม่ว่าจะเป็น เครื่องสำอางแบรนด์ดัง ทั้งของต่างประเทศและแบรนด์ดังของญี่ปุ่น หรือว่าจะเป็นอาหารเสริมคุณภาพดีซึ่งไม่วามารถหาซื้อจากที่ไหนได้ นอกจากร้านค้าปลอดภาษีเท่านั้น และนำท่านช้อปปิ้งที่ ทานุกิโคจิ เป็นแหล่งช้อปปิ้งอาเขตบนถนนคนเดินที่มีหลังคามุงบังแดดบังฝนและหิมะ  มีความยาว 7 บล็อกถนน มีร้านค้าตั้งเรียงรายอยู่กว่า 200 ร้านค้า Susukin  มีร้าน BIG CAMERA จำหน่ายกล้องดิจิตอล, เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็คทรอนิคส์,ร้าน100เยน, ร้านUNIQLO ขายเสื้อผ้าแฟชั่นวัยรุ่น,ร้าน MATSUMOTO KIYOSHI ขายยาและเครื่องสำอาง

ค่ำ : บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร พิเศษ!! บริการท่านด้วยเมนู บุฟเฟ่ต์ปูชูไว และปูทาราบะ นอกจากนี้ยังมีอาหารทะเลอื่นๆอีกมากมาย อาทิ หอยเชลล์ หอยนางรม กุ้งทะเล ซาชิมิสดๆ และซูชิหน้าต่างๆ (ไม่รวมเครื่องดื่มแอลกฮอล์)

วันที่ 6
สนามบินชิโตเสะ - สนามบินสุวรรณภูมิ ประเทศไทย

10.00 : นำท่านเดินทางสู่ สนามบินสุวรรณภูมิ ประเทศไทย โดยสายการบิน THAI AIRWAYS เที่ยวบินที่ TG671 พร้อมบริการอาหารบนเครื่อง พร้อมบริการอาหารบนเครื่อง (ใช้เวลาเดินทาง 7 ชั่วโมง 50 นาที)

15.50 : เดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูมิ ประเทศไทยโดยสวัสดิภาพ … พร้อมความประทับใจ

เงื่อนไข

Share on social networks
โปรแกรมทัวร์ที่น่าสนใจ