21.30 น. พร้อมกัน ณ สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศ ประเทศ ชั้น 4 เคาน์เตอร์ สายการบิน ROYAL JORDANIAN เที่ยวบินที่ RJ 183 พบกับเจ้าหน้าที่ของบริษัทฯ ให้การต้อนรับและอำนวยความสะดวก
00.20 น. ออกเดินทาง สู่ เมืองอัมมาน (AMM) โดยสายการบิน ROYAL JORDANIAN เที่ยวบินที่ RJ 183
04.50 น. เดินทางถึงสนามบินนานาชาติ (AMM อัมมาน ควีน อาเลีย QUEEN ALIA)
ณ กรุงอัมมาน ประเทศจอร์แดน ใช้เวลาในการเดินทาง 9 ชั่วโมง
จะมีเจ้าหน้าที่ด้าน VISA มาคอยอำนวยความสะดวกแก่คณะทัวร์ (เวลาท้องถิ่นช้ากว่าประเทศไทย 4 ชั่วโมง) เมืองหลวงของประเทศจอร์แดน หรือ ราชอาณาจักรฮัชไมต์จอร์แดนศูนย์กลางแห่งตะวันออกกลางที่มีการผสมผสานความเก่าแก่เข้ากับยุคสมัยปัจจุบัน หลังจากผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมือง และศุลกากรแล้ว รับสัมภาระเรียบร้อยแล้ว ออกจากประตูไป ทางด้านซ้ายมือ ท่านสามารถแลกเงิน,ซื้อ SIM INTERNET ได้เลย
ราคาขึ้นอยู่กับ GB
-INTERNET BUNDLE 6GB = 17 USD , 12GB = 19 USD , 18GB = 22 USD
นำทุกท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก CHECK IN ณ โรงแรม AMBASSADOR HOTEL พักผ่อนตามอัธยาศัย
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่าน ชมรอบเมืองหลวงกรุงอัมมาน เมืองหลวงที่ตั้งอยู่บนภูเขา7ลูกและมีประวัติศาสตร์ยาวนานมากกว่า 6,000 ปีผ่านชมย่านเมืองเก่า,เมืองใหม่,ย่านธุรกิจ,ตลาดใจกลางเมือง,ย่านคนรวย ฯลฯ
ชมป้อมปราการแห่งกรุงอัมมาน (CITDAEL) ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นจุดสังเกตเหตุบ้าน การเมืองต่างๆรอบเมืองเชิญอิสระถ่ายรูปตรงจุดชมวิวที่สวยที่สุดของเมืองแห่งนี้ โดยมีฉากหลังเป็น โรละครโรมัน ROMANSTHEATER ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศจอร์แดนจุผู้ชมได้ถึง 6,000 คน และตึกรามบ้านช่องที่ตั้งอยู่บนภูเขาสูงอันแปลกตายิ่งนักที่สันนิษฐานว่าน่าจะถูกสร้างขึ้นระหว่างปี ค.ศ. 161-180 ในสมัยโรมัน พระราชวังเก่าอุมเมยาด สร้างขึ้นในประมาณปี ค.ศ. 720 โดยผู้นำชาวมุสลิม ของราชวงศ์ ในสมัยมุสลิมได้เข้ามาปกครองประเทศจอร์แดนซึ่งภายในประกอบห้องทำงาน, ห้องรับแขกฯลฯ
ผ่านชมพระราชวังของพระมหากษัตริย์ อับดุลลาห์ที่สอง (RAGHADAN PALACE) ที่ตั้งอยู่บนภูเขามีทำเลที่สวยงามมากที่สุดในกรุงอัมมาน และมีทหารคอยเฝ้าดูแลตรวจตราอย่างเข้มงวด
นำท่านเดินทางสู่เมืองนครเจอราช (JERASH) หรือ “เมืองพันเสา” เป็นอดีต 1 ใน 10 หัวเมืองเอกตะวันออกอันยิ่งใหญ่ของอาณาจักรโรมัน สันนิษฐานว่าเมืองนี้น่าจะถูกสร้างในราว 200 – 100 ปีก่อนคริสตกาล เดิมทีในอดีตเมืองแห่งนี้ชื่อว่า ในปี ค.ศ. 749 นครแห่งนี้ได้ถูกแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ทำลาย และถูกฝังกลบโดยทรายหลังจากนั้นก็ได้สูญหายไปเป็นนับพันปี ชมซุ้มประตูกษัตรย์เฮเดรียนและสนามแข่งม้าฮิปโปโดรม
นำท่านเดินเข้าประตูทางทิศใต้ ชมโอวัลพลาซ่า สถานที่ชุมนุม พบปะ สังสรรค์ของชาวเมือง, วิหารเทพซีอุสฯลฯโรงละครทางทิศใต้(สร้างในราวปี ค.ศ. 90-92) จุผู้ชมได้ถึง 3,000 คน มีจุดเสียงสะท้อนตรงกลางโรงละครเชิญทดสอบกับความอัศจรรย์เพียงพูดเบา ๆก็จะมีเสียงสะท้อนก้องเข้ามาในหูของเรา
ชมวิหารเทพีอาร์เทมิส เป็นเทพีประจำเมืองเจอราช สร้างในราวปี ค.ศ. 150 สร้างขึ้นพื่อใช้เป็นสถานที่สำหรับทำพิธีบวงสรวง และบูชายัญต่อเทพีองค์นี้ แบ่งเป็น 3 ชั้น คือ ชั้นนอก ชั้นกลาง ชั้นใน
จากนั้นนำทุกท่านเดินทางกลับสู่เมืองอัมมาน
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ โรงแรมที่พัก
นำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก โรงแรม AMBASSADOR HOTEL @AMMAN
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่เมืองมาดาบา (ประมาณ 30 กิโลเมตร) อดีตเส้นทางสำคัญสมัยโรมัน ดินแดนอันศักดิ์สิทธิ์แห่งเยรูซาเล็ม และเมืองแห่งเรื่องราวของโมเสสที่สำคัญทางหน้าประวัติศาสตร์ของศาสนายูดา, คริสต์ และอิสลาม ยังเป็นศูนย์กลางที่ขึ้นชื่อเรื่องการทำโมเสก เป็นศิลปะการตกแต่งด้วยชิ้นแก้ว, หิน, หรือกระเบื้องชิ้นเล็กๆ ซึ่งใช้ในการตกแต่งมหาวิหาร หรือในปัจจุบันใช้ประยุกต์ในการตกแต่งบ้านเรือนหรือ เมืองแห่งโมเสก ชม โบสถ์กรีก-ออโธดอกซ์แห่งเซนต์จอร์จ ถูกสร้างในราวปี ค.ศ. 600 ยุคของไบแซนไทน์ ชมภาพแผนที่ดินแดนศักดิสิทธิ์แห่งเยรูซาเลม ตกแต่งโดยโมเสกสีต่างๆ ประมาณ 2.3 ล้านชิ้นแสดงถึงพื้นที่ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ ในแถบรอบทะเลเมดิเตอร์เรเนียน, เยรูซาเลม, แม่น้ำจอร์แดน, ทะเลเดดซี, เขาไซนาย, อียิปต์ ฯลฯ
นำท่านชมยอดเขาเมาท์เนโบ MOUNT NEBO มีความสูง 817 เมตร จากระดับน้ำทะเล เชื่อกันว่าเป็นสถานที่ฝังศพของโมเสส ผู้นำชาวยิวส์ที่เดินทางจากอิยิปต์มายังเยรูซาเลม และเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดแห่งหนึ่งของจอร์แดน ที่แห่งนี้เป็นสถานที่สุดท้ายของโมเสส ก่อนจะชี้ทางให้ผู้สืบทอดนำพาผู้คนไปยังดินแดนพันธสัญญา ในประเทศอิสราเอลปัจจุบัน เมื่อยืนอยู่บนยอดเขาจะมองไปเห็นดินแดนแห่งพันธะสัญญา THE PROMISED LAND ที่โมเสสเคยเห็นบนยอดเขานี้ และเป็นที่จาริกแสวงบุญของชาวคริสต์มาแต่โบราณ และโบสถ์บนยอดเขาได้ถูกสร้างขึ้นในปลายศตวรรษที่สี่เพื่อเป็นการบ่งชี้จุดที่คาดว่าโมเสสเสียชีวิต MOUNT NEBO ยังเคยเป็นสถานที่มาเยือนของสันตะปาปา ของศาสนาคริสต์ โดยสันตะปาปาจอห์นปอลที่ 2 ได้มาแวะพำนักที่นี่ ระหว่างการเดินทางไปเยือนดินแดนศักดิ์สิทธิ์ และได้ปลูกต้นมะกอก สัญญลักษณ์ของสันติภาพไว้ข้างๆโบสถ์ไบแซนไทน์ด้วย
ชมพิพิธภัณฑ์ขนาดย่อม ภายในเก็บสิ่งของต่าง ๆ ที่ขุดพบภายในบริเวณนี้ พร้อมทั้งมีภาพถ่ายต่าง ๆ ภาพถ่ายที่สำคัญคือภาพที่โป๊บ จอห์น ปอลที่ 2 เสด็จมาแสวงบุญที่นี่และได้ประกาศให้เป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์ ในปี ค.ศ. 2000
ชมอนุสรณ์ไม้เท้าศักดิ์สิทธ์แห่งโมเสส ออกแบบเป็นลักษณะเป็นไม้เท้าในรูปแบบไม้กางเขน โดยอุทิศเป็นสัญลักษณ์ของโมเสส และพระเยซู เชิญถ่ายรูป ณ จุดชมวิว โดยในวันที่ท้องฟ้าแจ่มใส ท่านสามารถมองเห็น แม่น้ำจอร์แดน, ทะเลเดดซี, เมืองเจอริโก และประเทศอิสราเอล ได้จากจุดนี้อย่างชัดเจน
เที่ยง รับประทานอาหารเที่ยง ณ ร้านอาหาร
นำท่านสู่ SHOUBAK ปราสาทครูเสดโชบัค หรือที่รู้จักกันในพวกนักรบครูเสดชื่อ มอนทรีลแห่ง ตะวันออก (MONTREAL) สร้างขึ้นโดยกษัตร์บอลด์วินที่ 1 แห่งเยรูซาเลม ในปี ค.ศ. 1115 เพื่อใช้เป็นป้อม ปราการควบคุมเส้นทางกองคาราวานที่จะเดินทางจากดามัสกัสไปอิยิปต์ ในอดีตเมืองแห่งนี้มีชาวคริสต์อาศัยอยู่ ราว 6,000 คน และในปี ค.ศ. 1189 ได้ถูกทำลายลงโดยนักรบมุสลิมภายใต้การนำทัพของ ซาลาดิน (SALADIN) บริเวณข้างล่าง หรือเขาข้างปราสาทโชบัค ท่านสามารถมองเห็นบ้านช่อง สภาพการอยู่ภายในถ้ำหลงเหลืออยู่
นำท่านเดินทางสู่เมืองเพตรา (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 40 นาที)
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ร้านอาหาร PETRA KITCHEN
ร้านอาหาร PETRA KITCHEN ถือได้ว่าเป็นร้านที่มีชื่อเสียงในเพตรา ท่านจะได้ร่วมเรียนทำอาหารท้องถิ่นที่เป็นต้นตำรับในบรรยากาศสบายๆ แบบครอบครัว ทุกท่านจะได้เข้าชมและร่วมกันทำอาหารกับเชฟท้องถิ่น โดยจัดเตรียมวัสดุอุปกรณ์สำหรับอาหารมื้อค่ำอันแสนพิเศษ อาหารที่พบในเมนูของครอบครัวชาวจอร์แดน โดยใช้วัตถุดิบสดใหม่และแบ่งปันสูตรอาหารและรสชาติให้แก่ผู้เข้าร่วมหลักสูตรอาหารและให้ทุกท่านได้ร่วมรับประทานอาหารในมื้อนี้
เดินทางกลับสู่ที่พัก พักผ่อนตามอัธยาศัย
นำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก โรงแรม PETRA MOON @PETRA ระดับ 4 ดาวหรือเทียบเท่า
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเข้าสู่เมืองเพตร้า (ได้รับการประกาศให้เป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโกปี ค.ศ. 1985 และ 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของแห่งโลกใหม่ จากการตัดสินโดยการโหวตจากบุคคลนับล้านทั่วโลกในวันมหัศจรรย์ 07/ 07/ 07) มหานครสีดอกกุหลาบที่ซ่อนตัวอยู่ในหุบเขาแห่งโมเสส (WADI MUSA)มีประวัติศาสตร์อันยาวนานหลายพันปีเคยเป็นถิ่นที่อยู่อาศัยทั้งชาวอีโดไมท์จวบจนกระทั่งถึงยุครุ่งเรืองเฟื่องฟูในการเข้ามาครอบครองดินแดนของชาวอาหรับเผ่าเร่ร่อนนาบาเทียนในช่วงระหว่าง 100 ปี ก่อนคริสตกาล – ปี ค.ศ 100และได้เข้ามาสร้างอาณาจักร, บ้านเมือง ฯลฯ จนกระทั่งในปีค.ศ. 106 นครแห่งนี้ตกอยู่ภายใต้การปกครองของอาณาจักรโรมันที่นำโดย กษัตริย์ทราจัน และได้ผนึกเมืองแห่งนี้ให้เป็นหนึ่งในอาณาจักรโรมันแห่งแหลมอาระเบียตะวันออก (ทุกท่านสามารถขี่ม้าภายในเส้นทางที่ม้าเดินในเพตราได้ ซึ่งรวมอยู่ในค่าบัตรแล้ว เพียงแต่ต้องจ่ายค่าทิปแก่คนจูงม้า ท่านละ 5 USD ต่อท่าน /ต่อเที่ยว หรือแล้วแต่การต่อรองราคา กับคนจูงม้า กรณีอยากขี่ลา,ขี่อูฐ,รถม้าลาก ฯลฯ สอบถามโดยตรงต่อเจ้าหน้าที่หรือสอบถามที่หัวหน้าทัวร์) ระยะทางที่เดินเข้าไปในเพตรา ประมาณ 800 เมตร บนถนนทรายเพื่อตรงเข้าสู่หน้าเมืองพร้อมชมทัศนียภาพรอบข้างที่เป็นภูเขาทั้งสองฝั่ง ธารน้ำ คลังสมบัติ ภูเขาทั้งสองฝั่งที่มีรูปร่างหน้าตาต่างกันออกไป
นำท่านเดินเท้าเข้าสู่ถนนเข้าเมือง THE SIQ เป็นช่องทางเดินที่ขนาบสองฝั่งด้วยหน้าผา กว่า 1.5 กิโลเมตรที่เกิดจากการแยกตัวของเปลือกโลกและการซัดเซาะของน้ำเมื่อหลายล้านปีก่อน ส่วนใหญ่ทางเดินร่มๆ สบายๆ (ทางเดินค่อนข้างลาดลง ไม่เหนื่อย ระหว่างทางก็มีมุมสวยๆ ให้เก็บภาพเรื่อยๆ และมีบรรดาคนมาขายของที่ระลึก เดินชมความสวยงามของผาหินสีชมพูสูงชันทั้ง 2 ข้างคล้ายกับแคนยอนน้อย ๆ และ สิ่งก่อสร้าง รูปปั้นแกะสลัก ต่างๆ
เที่ยง รับประทานอาหารเที่ยง ณ ร้านอาหารโรงแรม TAYBET ZAMAN VILLAGE RESTAURANT @ OLD VILLAGE HOTEL
นำท่านออกเดินทางสู่ ทะเลทรายวาดิรัม (WADI RUM) ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 40 นาที
ทะเลทรายแห่งนี้ในอดีตเป็นเส้นทางคาราวานจากประเทศซาอุฯ เดินทางไปยังประเทศซีเรียและปาเสลไตน์ (เคยเป็นที่อยู่อาศัยของชาวนาบาเทียนก่อนที่จะย้ายถิ่นฐานไปสร้างอาณาจักรอันยิ่งใหญ่ที่เมืองเพตร้า) ในศึกสงครามอาหรับรีโวลท์ระหว่างปีค.ศ. 1916–1918 ทะเลทรายแห่งนี้ได้ถูกใช้เป็นฐานบัญชาการในการรบของนายทหารชาวอังกฤษ ทีอี ลอว์เรนซ์และเจ้าชายไฟซาล ผู้นำแห่งชาวอาหรับร่วมรบกันขับไล่พวกออตโตมันที่เข้ามารุกรานเพื่อครอบครองดินแดนและต่อมายังได้ถูกใช้เป็นสถานที่จริงในการถ่ายทำภาพยนต์ฮอลลีวูดอันยิ่งใหญ่ในอดีตเรื่อง “LAWRENCE OF ARABIA” (และในปี ค.ศ.1963 สามารถกวาดรางวัลออสการ์ได้ถึง 7 รางวัล และรางวัลจากสถาบันอื่นๆ มากกว่า 30 รางวัล นำแสดงโดย PETER O’TOOLE, OMAR SHARIF
นำท่าน นั่งรถกระบะเปิดหลังคารับบรรยากาศทะเลทราย ที่ถูกกล่าวขานว่าสวยงามที่สุดของโลกแห่งหนี่ง ด้วยเม็ดทรายละเอียดสีส้มอมแดงอันเงียบสงบที่กว้างใหญ่ไพศาล (สีของเม็ดทราบนั้นปรับเปลี่ยนไปตามแสงของดวงอาทิตย์)
ชมน้ำพุแห่งลอว์เรนซ์ สถานที่ในอดีตนายทหาร ทีอี ลอว์เรนซ์ ทหารชาวอังกฤษใช้เป็นสถานที่พักและคิดแผนการสู้รบกันพวกออตโตมัน
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ทะเลทรายวาดิรัม
นำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก โรงแรม MAZAYEN CAMP BUBBLE TENT @WADI RUM
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเดินทางเข้าสู่เมืองอาคาบา ซึ่งเป็นเมืองท่า และเมืองท่องเที่ยวตากอากาศที่สำคัญของประเทศจอร์แดน เป็นเมืองแห่งเดียวของประเทศจอร์แดนที่ถูกประกาศให้เป็นเมืองปลอดภาษี มีประชากรอาศัยราว 70,000 คน ตั้งอยู่ใกล้ๆ กับฉนวนกาซาฝั่งตรงข้าม คืออิสราเอล โดยมีทะเลแดงคั่น เป็นเมืองค่อนข้างทันสมัยแต่ก็มีวัฒนธรรมของจอร์แดนมากพอสมควร และมีสิ่งที่น่าสนใจ คือ เสาธงสูงที่สุดในโลกซึ่งได้รับการบันทึกไว้ใน Guinness Book of World Records ด้วย
นำท่านลงเรือท้องกระจก (GLASS BOAT) เล่นน้ำตามอัธยาศัย (ใช้เวลาประมาณ 3 – 4 ชั่วโมง “กรุณาเตรียมชุดสำหรับลงเล่นน้ำ หรือดำน้ำดูปะการัง มาด้วย” น้ำทะเลที่นี่ใสมาก แต่ด้วยความลึกและการมองผ่านกระจกหนาจึงทำให้ดูปะการังและซากเรือไม่ค่อยชัดมาก
นำท่านแล่นสู่จุดที่ชมปะการัง ลึกแค่ประมาณ 5 – 6 เมตร ส่วนจุดเรือจมลึกประมาณ 27 เมตร ปะการังโดยส่วนใหญ่ไม่ค่อยมีสีสรร สัตว์ทะเล เช่น ปลาสิงโต ปลานกแก้ว Goby fish ปลิงทะเล หอยเม่น และยังเป็นแหล่งดำน้ำลึกที่มีชื่อเสียงอีกด้วย ทะเลที่นี้มีน่าน ครอบคลุมถึง 4 ประเทศ คือ ประเทศจอร์แดน, อิสราเอล, อิยิปต์และ ซาอุดิอาระเบีย ชมความใสของน้ำทะเล,ชมปะการัง, ปลาทะเลหลากหลายชนิด, เม่นทะเล, แมงกะพรุน ฯลฯ (ทะเลแดงเป็นทะเลแห่งประวัติสาสตร์ ที่ได้มีการกล่าวขานในพระคัมภีร์ของศาสนาคริสต์ว่าทะเลแห่งนี้เป็นสถานที่โมเสสได้ทำอัศจรรย์ โดยการชูไม้เท้าแหวกทะเลแดงเป็นทางเดินพาชาวอิสราเอลหนีให้รอดพ้นจากการตามล่าของทหารอิยิปต์ เพื่อจับไปเป็นทาสของอียิปต์ และจุดมุ่งหมายเพื่อเดินทางไปสู่แผ่นดินแห่งพันธะสัญญาที่พระเป็นเจ้าทรงมอบให้กับชาวอิสราเอล นั่นคือก็คือกรุงเยรูซาเลมในปัจจุบัน)
เที่ยง รับประทานอาหารเที่ยง BBQ บนเรือ
อาหารเที่ยงแบบบุฟเฟ่ต์บนเรือ มีทั้งปลา ไก่ และแกะบาร์บีคิว ทานกับผักสลัดและแป้งโรตี
สมควรแก่เวลา นำคณะเดินทาง สู่เมืองเดดซี DEAD SEA โดยใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่งโมง (ระยะทาง 200 กิโลเมตร)
ทะเลเดดซี (DEAD SEA) ทะเลสาบเดดซีตั้งอยู่พรมแดนระหว่างอิสราเอลและจอร์แดน เกิดจากน้ำที่ไหลมาจากลำธารในจอร์แดน มีส่วนผสมของโซเดียมและแมกนีเซียม ทำปฏิกิริยากับน้ำพุร้อนที่อยู่ด้านล่างทะเลสาบ โดยมีความเค็ม มากกว่าทะเลอื่นถึง 4 เท่า มีความยาว 76 กิโลเมตร กว้างถึง 18 กิโลเมตร มีจุดลึกที่สุดคือ 400 เมตร และอยู่ต่ำกว่าระดับน้ำทะเล 417.5 เมตร นับเป็นพื้นที่ที่อยู่ต่ำกว่าระดับน้ำทะเลมากที่สุดในโลก น้ำในทะเลเดดซีมีความหนาแน่นมาก มีเกลือละลายในน้ำถึง 25% จึงทำให้วัตถุลอยเหนือน้ำ แม้แต่คนว่ายน้ำไม่เป็นก็ลอยตัวได้ในเดดซีและถูกบันทึกลงในหนังสือ กินเนสส์ ว่า เป็นจุดที่ต่ำที่สุดในโลก เชิญท่าน อิสระในการลงเล่นน้ำทะเลและพิสูจน์ ความจริงว่าท่านลอยตัวได้จริงหรือไม่ (การลงเล่นน้ำในทะเลนั้นมีวิธีขั้นตอนการลงเล่น และข้อควรระวังต่างๆ ควรฟังคำแนะนำจากมัคคุเทศก์ท้องถิ่นและหัวหน้าทัวร์)
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ โรงแรมที่พัก
นำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก โรงแรม HOLIDAY INN DEAD SEA RESORT @DEAD SEA
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำทุกท่านเดินทางไป ณ MAIN HOT SPRIN RESORT & SPA อยู่ทางใต้ของอัมมาน เป็นน้ำพุร้อนและน้ำตกแร่ร้อนที่เฮโรดมหาราชกล่าว เพื่ออาบน้ำ เป็นการช่วยบำบัดด้วยความร้อน และเพลิดเพลินไปกับการแช่น้ำร้อนตั้งแต่สมัยกรุงโรม น้ำพุร้อนที่นี้มีชื่อเสียงที่สุดในเนินเขาเหนือทะเลเดดซีคือฮัมมามัตมาอิน ห่างจากรีสอร์ทในทะเลเดดซี 18.5 กม. น้ำที่นี่ มีอุณหภูมิตั้งแต่ 45 °C ถึง 60 °C โดยมาจากเนินเขาในน้ำตกหลายสายและมีน้ำไหลน้อยลงและรวบรวมไว้ในสระน้ำ โดยมีส่วนประกอบด้วยโพแทสเซียม แมกนีเซียม และแคลเซียม
เที่ยง รับประทานอาหารเที่ยง ณ ร้านอาหาร ในโรงแรม MAIN HOT SPRIN RESORT & SPA
นำท่านเดินทางเข้า สู่กรุงอัมมาน ระหว่างทางแวะซื้อผลิตภัณฑ์ที่ทำจากเดดซี เช่น โคลนพอกตัว พอกหน้า สบู่ และสินค้าอื่นที่ทำจากเดดซีอีกมากมาย ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง สู่กรุงอัมมาน
นำท่าน ช้อปปิ้ง ห้าง CITY MALL- CARREFOUR เป็น 2 ห้างใหญ่ติดกัน มีของแบรนด์เนมให้เลือกสรรมากมาย
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ CHINESE RESTAURANT
จากนั้นสมควรแก่เวลา พาคณะเดินทางไปยังสนามบิน สู่สนามบินนานาชาติ (AMM อัมมาน ควีน อาเลีย QUEEN ALIA)
01.15 น. ออกเดินทางกลับสู่ ประเทศไทย ด้วยสายการบิน ROYAL JORDANNIAN เที่ยวบินที่ RJ182
14.25 น. เดินทางกลับถึง สนามบินสุวรรณภูมิ ด้วยความสวัสดิภาพและความประทับใจ มิรู้ลืมเลือน
อัตราค่าบริการนี้รวม
อัตราค่าบริการนี้ไม่รวม
เงื่อนไขการจองทัวร์
เงื่อนไขการยกเลิกทัวร์