กัสโต้ เวิล์ด ทัวร์

บริการคุณภาพ ทุกเส้นทางท่องเที่ยว

เลขที่ 11/03295

ทัวร์จอร์แดน AMAZING JORDAN

รหัส 048-9279
วันที่เดินทาง
เม.ย.66
ช่วงเวลา
6 วัน 3 คืน
ราคาเริ่มต้น
68,550 บาท
แผนการเดินทาง
วันที่ 1
ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ

21.30 น.   พร้อมกัน ณ เคาน์เตอร์เช็คอินสายการบิน ROYAL JORDANIAN อาคารผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศสนามบินสุวรรณภูมิโดยมีเจ้าหน้าที่ของบริษัทฯ คอยต้อนรับและอำนวยความสะดวกด้านสัมภาระและเอกสารการเดินทางทำผ่านขั้นตอนการตรวจคนออกนอกประเทศ

วันที่ 2
กรุงเทพฯ – อัมมาน - มาดาบา - ทะเลเดดซี

00.25 น.   ออกเดินทางสู่กรุงอัมมาน ประเทศจอร์แดน เที่ยวบินที่ RJ183

05.10 น.   ถึงท่าอากาศยาน QUEEN ALIA ประเทศจอร์แดน นำท่านผ่านขั้นตอนการตรวจหนังสือเดินทางและรับสัมภาระเรียบร้อย

เช้า   รับประทานอาหารเช้า ณ ภัตตาคารอาหารท้องถิ่น

นำทุกท่านสู่เมืองมาดาบาหรือเมืองแห่งโมเสกเป็นเมืองในดินแดนศักดิ์สิทธิ์เยรูซาเล็ม (The Holy Land) ว่ากันว่าที่นี่มีงานศิลปะโมเสกที่สวยงามมาก ชมดินแดนศักดิ์สิทธิ์เมาท์เนโบที่ตั้งอยู่บนยอดเขาซึ่งเป็นสถานที่ที่โมเสสเสียชีวิต ปัจจุบันยังมีหลุมพระศพสถิตอยู่ ณ ที่แห่งนี้ ชมโบสถ์อนุสรณ์โมเสส (The Moses Memorial Church) ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นที่ระลึกถึงโมเสส สถานที่แห่งนี้สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 300-400 ในยุคไบแซนไทน์ ตอนต้นคริสต์ศักราช ให้ทุกท่านได้ชมวิวทิวทัศน์และเก็บภาพประทับใจที่จะมองเห็นทัศนียภาพทั้งแม่น้ำจอร์แดน ทะเลเดดซี นครเจริโค เมืองเบธเลแฮม และเมืองเยรูซาเล็ม และชมโบสถ์กรีกออร์โธดอกซ์แห่งเซนต์จอร์จ บนพื้นโบสถ์มีแผนที่ทำด้วยกระเบื้องโมเสกสีสวยงามจำนวนกว่า 2 ล้านชิ้น ซึ่งมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ของโลก สร้างขึ้นในสมัยศตวรรษที่ 6 หรือราว ๆ ปี ค.ศ. 600 ในยุคไบแซนไทน์ แผนที่นี้แสดงให้เห็นพื้นที่ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ต่าง ๆ ในอดีต

เที่ยง   รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น

จากนั้นนำทุกท่านเดินทางสู่ ทะเลเดดซี (Dead Sea) ทะเลสาบเดดซีเป็นทะเลสาบน้ำเค็มขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ใน ในระหว่างเขตแดนของจอร์แดนและอิสราเอลทะเลที่ถูกบันทึกลงในหนังสือกินเนสส์ว่า เป็นจุดที่ต่ำที่สุดในโลก ต่ำกว่าระดับน้ำทะเลถึง 400 เมตร และมีความเค็มที่สุดในโลกมากกว่า 20 เปอร์เซ็นต์ของน้ำทะเลทั่วไป ทำให้ไม่มีสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่ได้ในท้องทะเลแห่งนี้ และด้วยความหนาแน่นของน้ำในทะเลสาบเดดซีนี้เองที่เป็นเหตุผลว่าทำไมเราถึงสามารถลอยตัวอยู่ในทะเลสาบดังกล่าวได้ ทะเลสาบแห่งนี้ยังขึ้นชื่อในเรื่องการรักษาโรคและการบำรุงรักษาผิวพรรณน้ำในทะเลเดดซีเป็นแหล่งรวมของแร่ธาตุต่าง ๆ เพราะการที่ไม่มีพื้นที่เชื่อต่อกับแม่น้ำสายอื่นให้ไหลออกได้ทำให้แร่ธาตุต่าง ๆมารวมกันอยู่ในทะเลสาบแห่งนี้เป็นจำนวนมากและทำให้หลายคนเชื่อกันว่า ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดจากทะเลสาบเดดซี อุดมไปด้วยแร่ธาตุที่สมบูรณ์และสามารถช่วยเรื่องสุขภาพได้ โดยเฉพาะเรื่องผิวพรรณ ทั้งโคลนจากเดดซี เกลือจากเดดซีที่มีความเค็มมากกว่าเกลือที่อื่นหลายเท่าตัวหนักก็มักจะนำมาใช้ในทางการประทินผิวและรักษาผิวพรรณ ทั้งนี้สามารถช่วยรักษาได้ทั้งรังแค โรคผิวหนังรวมทั้งพิษทั้งแมลงกัดต่อย ช่วยให้ผิวนุ่มขึ้น ดูแล้วคล้ายกับว่าสถานที่แห่งนี้ กลายเป็นแหล่งรวมแร่ธาตุอิสระให้ทุกท่านได้เดินเล่นริมหาดทะเลเดดซี ลงเล่นน้ำทะเลพิสูจน์ว่าสามารถลอยตัวในน้ำทะเลได้จริงหรือไม่ พอกโคลนทะเลเดดซีเพื่อบำรุงผิวและผ่อนคลายกล้ามเนื้อ หรือดื่มด่ำกับการทำสปาทรีทเมนต์ด้วยผลิดภัณฑ์จากทะเลเดดซี อิสระให้ทุกท่านได้พักผ่อนหย่อนใจตามอัธยาศัย (การลงเล่นน้ำในทะเลนั้นมีวิธีขั้นตอนการลงเล่น และข้อควรระวังต่าง ๆ ควรฟังคำแนะนำจากมัคคุเทศก์ท้องถิ่น และหัวหน้าทัวร์) **กรุณาเตรียมเสื้อยืดกางเกงขาสั้นเพื่อลงเล่นน้ำ **

เย็น   รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น

นำท่านเข้าสู่ที่พัก ณ HOLIDAY INN DEAD SEA 4* หรือเทียบเท่า

วันที่ 3
ทะเลเดดซี - เพตรา - มหาวิหารศักดิ์สิทธิ์ เอลคาซเนท์

เช้า   รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม

นำท่านเดินทางสู่ เมืองเพตรา มหานครศิลาทรายสีชมพูที่แกะสลักขึ้นจากภูเขาทั้งลูก สถานที่แห่งนี้ตั้งอยู่ระหว่างทะเลเดดซี กับอ่าวอะกาบะ ซึ่งซ่อนตัวอยู่ภายใต้อ้อมกอดของหุบเขาวาดี มูซา ที่สูงชันประดุจเป็นปราการอันยิ่งใหญ่ ถูกลืมเลือนไปจากความทรงจำของผู้คนและสูญหายไปจากแผนที่นานนับพันปี จนกระทั้งในปี ค.ศ. 1812 เมื่อมีนักสำรวจชาวสวิตเซอร์แลนด์ โยฮันน์ ลุควิก บวร์กฮาร์ท เดินทางผ่านมาพบเห็นและออกมาเขียนหนังสือ เล่าขานถึงความสวยงามและความมหัศจรรย์ของนครแห่งนี้ เพตราแห่งนี้จึงเริ่มปรากฏแก่สายตาชาวโลกอีกครั้งและในปี ค.ศ.1985 องค์การยูเนสโก้ได้ประกาศให้เพตราเป็นเมืองมรดกโลก โดยกล่าวอธิบายไว้ว่า “เป็นหนึ่งในสิ่งที่ล้ำค่ามากที่สุดของมรดกทางวัฒนธรรมแห่งมวลมนุษยชาติ” (one of the most precious cultural properties of man’s cultural heritage) และยังได้รับคัดเลือกเป็นหนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลกอีกด้วย

เที่ยง   รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น

นำท่านขี่ม้า (รวมค่าบริการและค่าทิปให้แก่เคนจูงม้าเรียบร้อยแล้ว แต่ไม่รวมค่าขี่ลา, ขี่อูฐ, รถม้าลาก ฯลฯ สนในกรุณาติดต่อที่หัวหน้าทัวร์ และบริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการคืนเงินทุกกรณี หากท่านใดสละสิทธิ์ในการรวมกิจกรรมนี้) ให้ท่านนั่งม้าลัดเลาะไปตามพื้นหินและทรายกว่า 600 เมตร มุ่งหน้าไปในเส้นทางมหัศจรรย์ที่ทางเข้าออกของเมืองเพตรา พร้อมชมทัศนียภาพรอบข้างที่เป็นภูเขาทั้งสองฝั่งที่มีรูปร่างหน้าตาต่างกันออกไป จากนั้นเดินเท้าเข้าสู่เมืองบริเวณซอกเขาเรียกว่าซิค SIQ เป็นหุบเขาสูงกว่า 250 ฟุต ที่เกิดจากการแยกตัวของเปลือกโลกและการกัดเซาะของน้าเมื่อหลายล้านปีก่อนจนเกิดเป็นช่องทางเดินเล็ก ๆ ระหว่างหุบเขา ชมสีสันความสวยงามของหินสีต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นจากธรรมชาติ และยังมีภาพศิลปะแกะสลักจากภูเขา อาทิ รูปปั้นแกะสลักต่าง ๆ เช่น รูปปั้นเทพเจ้าต่าง ๆ รูปกองคาราวานอูฐ, รูปชาวนาบาเทียน, ท่อส่งลำเลียงน้ำเข้าสู่เมือง ฯลฯ เข้าเขตหน้าผาสูงชั้นสองข้างทางสู่มหานครแห่งศิลาทรายสีชมพู ตื่นตาตื่นใจกับความสวยงามของมหาวิหารศักดิ์สิทธิ์ เอล-คาซเนท์ (Al-Khazneh) ที่นี่เคยใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์ เรื่องอินเดียน่า โจนส์ ภาค 3 ขุมทรัพย์สุดขอบฟ้า และ หนังฟอร์มยักษ์อย่าง ทรานส์ฟอร์มเมอร์ ภาค 2 สถานที่แห่งนี้ถูกสันนิษฐานว่า สร้างในราวศตวรรษที่ 1-2 โดยผู้ปกครองเมืองในเวลานั้น มหาวิหารถูกแกะสลักจากภูเขาสีชมพูทั้งลูก อย่างกลมกลืนได้สัดส่วนและสวยงามน่าอัศจรรย์ เป็นอาคารสองชั้น ชมโรงละครโรมันโบราณ (Roman Theatre) ที่แกะสลักจากภูเขา โดยมีแนบราบของที่นั่งเท่ากันและมีความสมดุลได้อย่างน่าทึ่ง สันนิษฐานว่าเดิมทีสร้างโดยชาวนาบาเธียน ต่อมาในสมัยที่โรมันเข้ามาปกครองได้สร้างต่อเติม มีที่นั่ง 32 แถว สามารถบรรจุคนได้ประมาณ 3,000 คน อิสระให้ท่านเก็บภาพประทับใจ

เย็น   รับประทานอาหารค่ำ ณ โรงแรมที่พัก

นำท่านเข้าสู่ที่พัก ณ PETRA ELITE 4* หรือเทียบเท่า

วันที่ 4
เพตรา – ทะเลทรายวาดิรัม

เช้า   รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม

นำทุกท่านสู่ทะเลทรายวาดิรัม (Wadi Rum) มีอีกชื่อหนึ่งว่า “หุบเขาแห่งพระจันทร์” (The Valley of the Moon) วาดิรัมมีประวัติศาสตร์ยาวนาน ว่ากันว่ามีมนุษย์อยู่อาศัยมาแล้วตั้งแต่ 8,000 ปีก่อนคริสตกาล (นับถึงตอนนี้ก็ราว 1 หมื่นปี) แม้ว่าจะมีสภาพแวดล้อมแห้งแล้ง หาสิ่งมีชีวิตอยู่ได้ยากก็ตาม ในทะเลทรายวาดิรัมมีภาพเขียนฝาหนังของมนุษย์ยุคโบราณหลายจุด แสดงให้เห็นวิถีชีวิตความเป็นอยู่ ของคนสมัยนั้นวาดิรัมเคยเป็นที่การอาศัยของมนุษย์หลายชาติชน หลายอารยธรรม หลายวัฒนธรรม ตั้งแต่ยุคก่อนประวัติศาสตร์ ทั้งพวกนาบีเทียน ที่มีหลักฐานเป็นภาพบนหินในรูปแบบของพวกนาบีเทียน วิจิตรกรรมฝาผนัง และสถานที่ประกอบพิธีกรรม เผ่าเบดูอินก็เช่นเดียวกัน มีหลักฐานว่าพวกเราอาศัยอยู่บริเวณโดยรอบ คืนนี้ให้ท่านสัมผัสประสบการณ์นอนแค้มป์กลางทะเลทราย ให้ท่านได้ชมพระอาทิตย์ลับขอบฟ้าจนกระทั้งตกดิน นอนดูทะเลดาวนับล้านๆดวงในทะเลทรายแห่งนี้ อิสระให้ท่านพักผ่อนตามอัธยาศัย

เที่ยง   รับประทานอาหารกลางวัน ณ แค้มกลางทะเลทราย แบบท้องถิ่นของชาวเบดูอิน

นำท่านขึ้นรถจี๊ปซาฟารีสู่ ทะเลทรายวาดิรัม (WADI RUM) ที่ถูกกล่าวขานว่าเป็นทะเลทรายสวยงามที่สุดของโลกแห่งหนี่ง ด้วยเม็ดทรายละเอียดสีส้มอมแดง ปรับเปลี่ยนไปตามแสงของดวงอาทิตย์ ในสงครามอาหรับ ระหว่างปี ค.ศ. 1916–1918 ทะเลทรายแห่งนี้ได้ถูกใช้เป็นฐานบัญชาการรบของนายทหารชาวอังกฤษ ทีอี ลอว์เรนซ์ และเจ้าชายไฟซาล ผู้นำแห่งชาวอาหรับ ร่วมรบขับไล่กองทัพออตโตมัน ที่เข้ามารุกรานเพื่อ ครอบครองดินแดน และต่อมายังได้ถูกใช้เป็นสถานที่ ในการถ่ายทำภาพยนตร์ฮอลลีวูด เรื่อง “LAWRENCE OF ARABIA” ชมน้ำพุแห่งลอว์เรนซ์ สถานที่ในอดีตนายทหาร ทีอี ลอว์เรนซ์ ชาวอังกฤษใช้เป็นสถานที่พัก และคิดแผนการสู้รบกับกองทัพออตโตมัน นำท่านท่องทะเลทรายต่อไปยัง ภูเขาคาซารี (Khazali Canyon) ชมภาพเขียนแกะสลักก่อนประวัติศาสตร์ที่ เป็นภาพแกะสลักของชาวนาบาเทียนที่ แสดงถึงเรื่องราวในชีวิตประจำวันต่าง ๆ และรูปภาพต่าง ๆ ผ่านชมเต็นท์ชาวเบดูอิน ที่อาศัยอยู่ในทะเลทรายทะเลทรายแห่งนี้ในอดีตเป็นเส้นทางคาราวาน จากประเทศซาอุดิอารเบีย เดินทางไปยังประเทศซีเรียและปาเลสไตน์ เคยเป็นที่อยู่อาศัยของชาวนาบาเทียน ก่อนที่จะย้ายถิ่นฐานไปสร้างอาณาจักรอันยิ่งใหญ่ที่เมืองเพตรา

เย็น   รับประทานอาหารค่ำ ณ แค้มกลางทะเลทราย แบบท้องถิ่นของชาวเบดูอิน

นำท่านเข้าสู่ที่พัก ณ MEGIC PRIVATE CAMP 4* หรือเทียบเท่า

วันที่ 5
ทะเลทรายวาดิรัม – เมืองโชบัค – ปราสาทโชบัค - เมืองอัมมาน

เช้า   รับประทานอาหารเช้า ณ แค้มกลางทะเลทราย

นำท่านสู่ SHOUBAK ปราสาทครูเสดโชบัค หรือที่รู้จักกันในพวกนักรบครูเสดชื่อ มอนทรีลแห่งตะวันออก (MONTREAL) สร้างขึ้นโดยกษัตร์บอลด์วินที่ 1 แห่งเยรูซาเลม ในปี ค.ศ. 1115 เพื่อใช้เป็นป้อมปราการควบคุมเส้นทางกองคาราวานที่จะเดินทางจากดามัสกัสไปอิยิปต์ ในอดีตเมืองแห่งนี้มีชาวคริสต์อาศัยอยู่ ราว 6,000 คน และในปี ค.ศ. 1189 ได้ถูกทาลายลงโดยนักรบมุสลิมภายใต้การนาทัพของ ซาลาดิน (SALADIN) บริเวณข้างล่าง หรือเขาข้างปราสาทโชบัค ท่านสามารถมองเห็นบ้านช่อง สภาพการอยู่ภายในถ้ำหลงเหลืออยู่

เที่ยง   รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น

นำทุกท่านเดินทางสู่ เมืองอัมมาน (Amman) เมืองหลวงของประเทศจอร์แดน เป็นเมืองที่มีประวัติศาสตร์อันซับซ้อนสะท้อนให้เห็นในความหลากหลายของประชากรและสถาปัตยกรรมหลากรูปแบบโบสถ์และมัสยิดต่างๆ ทำให้รู้ว่าเมืองแห่งนี้ประกอบไปด้วยประชากรหลากหลายเชื้อชาติและวัฒนธรรม แม้ในท่ามกลางศูนย์การค้าสมัยใหม่ของเมือง ท่านจะได้สัมผัสรากเหง้าของวัฒนธรรมอันเก่าแก่ในตลาดโบราณที่มีสีสัน ซากปรักหักพังตั้งแต่ยุคโรมัน พิพิธภัณฑ์ทางวัฒนธรรมและอนุสาวรีย์ที่บอกเล่าประวัติศาสตร์ของเมือง ชม โรงละครโรมัน อายุกว่า 2,000 ปี ที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นศูนย์กลางของนครอัมมาน แต่ปัจจุบันก็ยังทำให้ผู้ที่พบเห็นได้ทึ่งกับการวางแผนทางด้านงานวิศวกรรมของโรมัน อันชาญฉลาดและมีดีไซน์ที่น่าจดจำ โรงละครโรมันแห่งนี้เป็นหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวที่สวยงามมากที่สุดในอัมมาน โรงละคร มีความลาดเอียงลึกลงไป เอื้อให้เสียงที่ได้ยินรอบตัวนั้นมีคุณภาพเยี่ยม การออกแบบสุดสร้างสรรค์นี้สามารถบรรจุคนได้ประมาณ 6,000 คน สันนิษฐานว่าน่าจะถูกสร้างขึ้นระหว่างปี ค.ศ. 161-180 สมัยการปกครองของ แอนโทนิอุส ปิซุส (Antoninus Pius) ชม ป้อมปราการแห่งกรุงอัมมาน (Amman Citadel) บนยอดเขาสูงสุดในกรุงอัมมาน ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นจุดสังเกตเหตุบ้านการเมืองต่าง ๆ รอบเมือง แม้จะเหลือเพียงซากปรักหักพังแต่ยังสวยงามและมีอายุย้อนกลับไปตั้งแต่สมัยยุคหิน เผยให้เห็นอิทธิพลด้านสถาปัตยกรรมที่มาจากยุคเหล็ก รวมถึงยุคโรมัน ยุคไบแซนไทน์และยุคอุมัยยะฮ์ จากนั้นนำท่านชม วิหารเฮอร์คิวลิส (Temple of Hercules) ที่สร้างขึ้นระหว่างปี ค.ศ.162-166 วิหารแห่งนี้มีขนาดใหญ่กว่าวิหารที่อยู่ในโรมโบราณเสียอีก เดินผ่านทางเข้าที่เป็นแนวเสาระเบียง ไปยังสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ข้างใน จากนั้นเคลื่อนตัวไปที่หินขนาดใหญ่ที่อยู่บริเวณปลายหน้าผา ตรงนี้จะเป็นจุดชมวิวพาโนรามาอันสวยงามของเมือง ใกล้กันนั้นมีมือรูปกำปั้นขนาดใหญ่ที่ทำจากหินอ่อนเผยให้เห็นความขาวโพลนจนแทบไม่มีเลือด ผ่านชม พระราชวังของพระมหากษัตริย์อับดลุลาห์ที่สอง (Raghadan Palace) ที่ตั้งอยู่บนภูเขามีทำเลที่สวยงามที่สุดในกรุงอัมมาน และมีทหารคอยเฝ้าดูแลตรวจตราอย่างเข้มงวด นำท่านสู่ ห้าง CITY MALL อิสระให้ทุกท่านได้ช้อปปิ้งสินค้าต่าง ๆ ทั้งสินค้าแบรนด์เนมและสินค้าพื้นเมือง

เย็น   รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร

21.00 น.   เดินทางสู่ท่าอากาศยาน QUEEN ALIA ประเทศจอร์แดน เพื่อเตรียมตัวเหินฟ้ากลับสู่ประเทศไทย

วันที่ 6
อัมมาน – ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ

02.15 น.   เหินฟ้าสู่กรุงเทพฯ โดยสายการบิน ROYAL JORDANIAN เที่ยวบินที่ RJ182

15.15 น.   เดินทางถึงกรุงเทพมหานครโดยสวัสดิภาพ พร้อมความประทับใจ

เงื่อนไข

อัตราค่าบริการนี้รวม

  1. ค่าตั๋วเครื่องบินไป-กลับ เที่ยวบินชั้นประหยัด (กรุงเทพฯ-อัมมาน//อัมมาน-กรุงเทพฯ)
  2. ค่าพาหนะทุกชนิด หรือ รถรับ-ส่ง ระหว่างนำเที่ยวพร้อมคนขับรถที่ชำนาญเส้นทาง
  3. ค่าที่พักห้องละ 2-3 ท่าน ในโรงแรมตามที่ระบุในรายการหรือระดับเดียวกัน
  4. ค่าอาหารทุกมื้อที่ระบุตามรายการ , น้ำดื่มวันละ 1 ขวด
  5. ค่าวีซ่าและ ค่าบัตรเข้าชมสถานที่และการแสดงทุกแห่งที่ระบุตามรายการ
  6. ค่าทิปคนจูงม้าและคนขับรถจี๊ปซาฟารี – ค่าทิปพนักงานขับรถ-ทิปไกด์ท้องถิ่น-หัวหน้าทัวร์
  7. ค่าประกันอุบัติเหตุในระหว่างการเดินทาง คุ้มครองในวงเงินท่านละ 1,000,000.- บาท

อัตราค่าบริการนี้ไม่รวม

  1. ค่าจัดทำหนังสือเดินทาง
  2. ภาษีต่าง ๆ เช่น ภาษี 7% ภาษีหัก ณ ที่จ่าย 3% ฯลฯ
  3. ค่าใช้จ่ายส่วนตัวอื่น ๆ เช่น ค่าโทรศัพท์, ค่าซักรีด, มินิบาร์และทีวีช่องพิเศษ ฯลฯ และที่ไม่ได้ระบุไว้ในรายการ
  4. ค่าอาหารและเครื่องดื่มสั่งพิเศษ นอกเหนือรายการ
  5. ค่ายกขนกระเป๋าเดินทางท่านละ 1 ใบ โดยเฉลี่ย 1 USD / ท่าน
  6. ค่าประกันสุขภาพการเดินทาง กรณีป่วยเข้าต้องรักษาตัวเข้าโรงพยาบาลในต่างประเทศ

เงื่อนไขการให้บริการ

  1. ในการจองครั้งแรกมัดจำท่านละ 20,000 บาท  ส่วนที่เหลือทั้งหมดชำระก่อนเดินทาง 30 วัน
  2. เนื่องจากราคานี้เป็นราคาโปรโมชั่น ตั๋วเครื่องบินต้องเดินทางตามวันที่ ที่ระบุบนหน้าตั๋วเท่านั้น จึงไม่สามารถยกเลิก หรือเปลี่ยนแปลงการเดินทางใด ๆ ทั้งสิ้น ถ้ากรณียกเลิก หรือเปลี่ยนแปลงการเดินทาง ทางบริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการคืนเงิน ทั้งหมดหรือบางส่วนให้กับท่าน
  3. เมื่อท่านออกเดินทางไปกับคณะแล้ว ท่านงดการใช้บริการรายการใดรายการหนึ่งหรือไม่เดินทางพร้อมคณะถือว่าท่านสละสิทธิ์ ไม่อาจเรียกร้องค่าบริการ และเงินมัดจำคืน ไม่ว่ากรณีใด ๆ ทั้งสิ้นกรณีที่กองตรวจคนเข้าเมืองทั้งที่กรุงเทพฯ และในต่างประเทศปฏิเสธมิให้เดินทางออก หรือเข้าประเทศที่ระบุในรายการเดินทาง บริษัทฯของสงวนสิทธิ์ที่จะไม่คืนค่าบริการไม่ว่ากรณีใด ๆ ทั้งสิ้น

หมายเหตุ

  1. การยกเลิกจะต้องแจ้งทางบริษัทก่อนเดินทางอย่างน้อย 45 วัน มิฉะนั้นบริษัทฯ จะขอสงวนสิทธิ์ในการคืนเงินทั้งหมด
  2. บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ยกเลิกการเดินทางก่อนล่วงหน้า 14 วัน ในกรณีที่ไม่สามารถทำกรุ๊ปได้ไม่ถึงจำนวนอย่างน้อย 15 ท่าน ซึ่งในกรณีนี้ทางบริษัทฯ ยินดีคืนเงินให้ทั้งหมด หรือจัดหาคณะทัวร์อื่นให้ถ้าต้องการ
  3. บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ที่จะเปลี่ยนแปลงรายละเอียดบางประการในทัวร์นี้ เมื่อเกิดเหตุจำเป็นสุดวิสัยจนไม่อาจแก้ไขได้ และจะไม่รับผิดชอบใด ๆ ในกรณีที่สูญหาย สูญเสียหรือได้รับบาดเจ็บที่นอกเหนือความรับผิดชอบของหัวหน้าทัวร์และเหตุสุดวิสัยบางประการ เช่น การนัดหยุดงาน ภัยธรรมชาติ การจลาจล ต่าง ๆ
  4. บริษัทจะไม่รับผิดชอบ หรือ คืนเงินค่าทัวร์ ในกรณีที่ท่านถูกปฏิเสธในการให้วีซ่า หรือ ปฏิเสธเข้าเมือง ในทุกกรณี
  5. ในกรณีที่ท่านผู้โดยสารต้องการใช้พาสปอร์ตเล่มสีน้ำเงิน (ราชการ) ในการเดินทาง บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ไม่ รับผิดชอบใด ๆในการที่ท่านอาจจะถูกปฏิเสธมิให้เข้าเมือง เพราะโดยปกติในการท่องเที่ยวจะใช้เล่มสีเลือดหมู
  6. บริษัทฯ ไม่รับผิดชอบค่าเสียหายในเหตุการณ์ที่เกิดจากสายการบิน ภัยธรรมชาติ ปฏิวัติ และอื่น ๆ ที่นอกเหนือการ ควบคุมของทางบริษัทฯ หรือ ค่าใช้จ่ายเพิ่มที่เกิดขึ้นทางตรง หรือทางอ้อม เช่น การเจ็บป่วย การถูกทำร้าย การสูญ-หาย ความล่าช้า หรือ อุบัติเหตุต่าง ๆ
  7. ราคานี้คิดตามราคาบัตรโดยสารเครื่องบิน ณ ปัจจุบัน หากมีการปรับราคาบัตรโดยสารสูงขึ้น ตามอัตรา ค่าน้ำมัน หรือ ค่าเงินแลกเปลี่ยน ทางบริษัท สงวนสิทธิ์ที่จะปรับราคา ตามสถานการณ์ดังกล่าว
  8. เนื่องจากรายการทัวร์นี้เป็นแบบเหมาจ่ายเบ็ดเสร็จ หากท่านสละสิทธิ์การใช้บริการใดๆตามรายการ หรือถูกปฏิเสธการเข้าประเทศไม่ว่าในกรณีใดก็ตาม ทางบริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ไม่คืนเงินในทุกกรณี
  9. สำหรับที่นั่ง Long Leg โดยปกติอยู่บริเวณทางออกประตูฉุกเฉิน และผู้ที่จะนั่งต้องมีคุณสมบัติตรงตามที่สายการบินกำหนด เช่น ต้องเป็นผู้ที่มีร่างการแข็งแรง สามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้ในระดับดีมาก และช่วยเหลือผู้อื่นได้อย่างรวดเร็ว ในกรณีที่เครื่องบินเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉิน หรือมีปัญหา เช่น สามารถเปิดประตูฉุกเฉินได้ (น้ำหนักของประตูประมาณ 20 กิโลกรัม) และไม่ใช่ผู้ที่มีปัญหาด้านสุขภาพ และอำนาจในการให้ที่นั่ง Long Leg ขึ้นอยู่กับทางเจ้าหน้าที่เช็คอินของสายการบิน ตอนเวลาเช็คอินเท่านั้น และมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมตามที่สายการบินเรียกเก็บ
Share on social networks
โปรแกรมทัวร์ที่น่าสนใจ