18.00 น. : พบกันที่ เคาน์เตอร์เช็คอิน U ประตู 9 – 10 สายการบิน เตอร์กิช แอร์ไลน์ TK เจ้าหน้าที่บริษัทฯ คอยให้การต้อนรับและอำนวยความสะดวกทางด้านสัมภาระและเอกสารการเดินทางก่อนขึ้นเครื่อง
23.00 น. : ออกเดินทางสู่ กรุงอิสตันบูล โดยสายการบิน เตอร์กิช แอร์ไลน์
เที่ยวบินที่ TK 65 บินตรง (ใช้เวลาในการบิน ประมาณ 10.25 ชั่วโมง)
04.10 น. : เดินทางถึง กรุงอิสตันบูล ประเทศตุรกี (แวะเปลี่ยนเที่ยวบิน)
06.25 น. : ออกเดินทางสู่ เมืองบาตูมีโดยสายการบิน เตอร์กิช แอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ TK 390 (ใช้เวลาในการบิน ประมาณ 1.55 ชั่วโมง)
09.20 น. : เดินทางถึงสนามบิน เมืองบาตูมี Batumi ประเทศจอร์เจีย เป็นเมืองท่าชายทะเลและเป็นหนึ่งในเมืองเศรษฐกิจที่สำคัญของประเทศจอร์เจีย ตัวเมืองบาตูมีนั้นตั้งอยู่ติดทะเลดำ อยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศ เมืองบาตูมียังได้รับการสนับสนุนให้เป็นเมืองท่องเที่ยวตั้งแต่ปี ค.ศ. 2010 เป็นต้นมา โดยได้มีการปรับรูปโฉมตัวอาคารและตัวเมืองเก่า ซึ่งมีโรงแรมที่มีระดับมาตรฐานเชนโรงแรมสากลเปิดใหม่เพิ่มขึ้นตลอดเวลา เพื่อรองรับการขายตัวของการท่องเที่ยวในอนาคตที่นับวันจะมียอดนักท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้นทุกปี
เที่ยง : รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารพื้นเมือง Gold Fish Restaurant
นำท่านเดินชมย่าน จตุรัสปิอาซซ่า Piazza Square หนึ่งในจัตุรัสที่สำคัญของเมืองบาตูมี ภายในจัตุรัสจะรายล้อมไปด้วยร้านอาหาร ร้านกาแฟน่ารัก มากมายอยู่ทั่วไป มีเนื้อที่กว่า 5,700 ตารางเมตร มีประชากรราว 200,000 คน ตั้งอยู่ใกล้กับงทะเลดำ สถาปัตยกรรมส่วนใหญ่ได้รับแรงบันดาลใจมากจากประเทศอิตาลี โดยจะสังเกตได้จากภาพโมเสกและงานกระจกสีต่าง ๆ ที่หาดูได้ตามอาคารโดยรอบจัตุรัส นำท่านแวะถ่ายรูปกับ รูปปั้นอาลี และ นีโน่ Ali and Nino Moving Sculptures รูปปั้นพิเศษมีความสูง 8 เมตร ตั้งอยู่ริมทะเลดำ รูปปั้นหญิงชายคู่นี้สามารถที่จะเคลื่อนไหวได้ทุก ๆ 10 นาที (เริ่มตั้งแต่ 19.00 น.) สำหรับจุดประสงค์ที่สร้างรูปปั้นนั้นก็เพื่อแสดงถึงวามรักของหนุ่มสาวที่มีความแตกต่างกันทางด้านเชื่อชาติ ศาสนา และยังแสดงให้เห็นถึงสันติภาพระหว่างประเทศจอร์เจีย และ ประเทศอาร์เซอร์ไบจาน อีกด้วย จากนั้นนำท่าน ล่องเรือทะเลดำ ชมความงดงามของอ่าวเมืองบาตูมี สาเหตุที่ได้ชื่อว่าทะเลดำก็เนื่องจากดินโคลนบริเวณชายฝั่งนั้น เป็นดินทรายของทะเลแห่งนี้เป็นสีดำ อันเนื่องมาจากสารไฮโดเจนซัลไฟด์นั่นเอง ท่านจะได้สัมผัสถึงความเจริญเติบโตของเมืองบาตูมี ไม่ว่าจะเป็นโรงแรมที่มีขนาดใหญ่ตั้งตระหง่านให้เห็นอย่างชัดเจน เช่นโรงแรม Radisson Blue Batumi หรือว่าจะเป็นชิงช้าสวรรค์ขนาดยักษ์ เป็นภาพที่มีความสวยงามแปลกตาสำหรับนักท่องเที่ยว
ค่ำ : รับประทานอาหารค่ำ ณ Alphabet Tower
พักค้างคืนที่ : Radisson Blue Batumi Hotel 4 ดาว หรือเทียบเท่า
เช้า : รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่ เมืองคูไทซี Kutaisi (ระยะทาง 157 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง) เป็นเมืองที่มีขนาดใหญ่เป็นดับสองของประเทศจอร์เจีย และเคยเป็นเมืองหลวงเก่าแก่ของอาณาจักร โคลซิส Colchis หรืออาณาจักรจอร์เจียนโบราณนั่นเอง
เที่ยง : รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารพื้นเมือง Paolo Restaurant
นำท่านชม โบสถ์เบกราติ Bagrati Church โบสถ์ออโธดอกซ์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศจอร์เจีย และมีความสำคัญทางศาสนาและวัฒนธรรมจนได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก เป็นที่เรียบร้อย โบสถ์แห่งนี้ถูกสร้างขึ้นมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 11ตอนที่รบได้รับชัยชนะจากสงครามและรวบรวมจอร์เจียกลับมาเป็นปึกแผ่นได้ ซึ่งต่อมาได้ถูกทำลายจากผลของสงครามกับเติร์ก ส่งผลทำให้โบสถ์นั้นได้รับความเสียหายไปบ้าง และได้รับการบูรณะกลับมาได้ใกล้เคียงสภาพเดิมมากที่สุด จากนั้นนำท่านชม อารามเกลาติ Gelati Monastery อารามหลวงของเมือง ถูกสร้างขึ้นตามพระประสงค์ของกษัตริย์เดวิดที่ 4 กษัตริย์ผู้ปกครองประเทศจอร์เจีย ในช่วงศตวรรษที่ 10-11 โดยที่อารามนั้นจะประกอบไปด้วยโบสถ์ 2 แห่ง คือ โบสถ์พระแม่มารี และโบสถ์เซนต์จอร์จ-เซนต์นิโคลัส ภายในตัวโบสถ์นั้นจะมีภาพเขียเฟรสโก้ที่สวยงามมากมายอยู่หลายภาพด้วยกัน นอกจากนี้อารามเกลาตินั้นยังเป็นสถาบันชั้นนำของประเทศที่ผลิตนักวิทยาศาสตร์,นักเทววิทยาและนักปราชญ์ชื่อดังเป็นจำนวนมาก ซึ่ง องค์การยูเนสโก้ได้ประกาศให้อารา เกลาติแห่งนี้เป็นหนึ่ง ในมรดกโลกสถาน เมื่อปี ค.ศ. 1944 เป็นต้นมา
จากนั้นนำท่าน เดินเล่น ชิลด์ ชิลด์ ชมสินค้าพื้นเมือง หาซื้อของฝากของที่ระลึกติดไม้ติดมือกันที่ตลาด Central Market ตลาดแห่งนี้มีสินค้าให้ท่านได้เลือกซื้อได้มากมาย โดยเฉพาะสินค้าพื้นเมือง โดยเฉพาะอย่างยิง ไวน์ ขนม และผลไม้ ที่มีวางขายเป็นจำนวนมาก จนได้รับฉายาว่า Colorful Market ก็เนื่องจากมี ผลไม้นานาพันธุ์ที่มีสีสันสดใสวางขายเรียงรายกันอย่างสวยงาม
ค่ำ : รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารพื้นเมือง Baraka Restaurant
พักค้างคืนที่ : Best Western Hotel 4 ดาว หรือเทียบเท่า
เช้า : รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่ เมืองโกรี Gori (ระยะทาง 149 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง) อดีตเป็นเมืองอุตสาหกรรมและเกษตรกรรมในยุคการปกครองโดยสหภาพโซเวียต และเป็นบ้านเกิดของ โจเซฟสตาลิน Joseph Stalin จอมเผด็จการที่ทรงอิทธิพลและอันตรายที่สุดคนหนึ่งของโลกในช่วงศตวรรษที่ 20
เที่ยง : รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารพื้นเมือง Shin Da Gori Restaurant
นำท่านเข้าชม พิพิธภัณฑ์โจเซฟ สตาลิน Joseph Stalin State Museum ซึ่งตั้งอยู่ในจัตุรัสกลางเมืองกอรี Gori อดีตเป็นผู้ปกครองสหภาพโซเวียตนั้นเอง พิพิธภัณฑ์แห่งนี้เป็นที่เก็บรวบรวมเรื่องราวของสตาลินไว้อย่างมากมาย ไม่วาจะเป็นภาพถ่ายภาพวาด ข้าวของเครื่องใช้ส่วนตัว ของขวัญของกำนัลจากบรรดามิตรประเทศ โดยแบ่งออกเป็น 3 โซนด้วยกัน ได้แก่ Stalin’s House ที่จำลองบ้านเกิดสมัยเด็กของสตาลินเอาไว้ Stalin Museum โซนนี้คือโซนหลักของพิพิธภัณฑ์ ซึ่งเก็บรวบรวมเรื่องราวทั้งหมดของสตาลินรวมไปถึงรูปต่าง ๆ แถมยังเป็นส่วนของพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์แห่งลัทธิสังคมนิยมอีกด้วย และสุดท้าย คือ Stalin’s Railway Carriage เป็นโบกี้รถไฟสีเขียวที่นำมาจัดแสดงไว้ เพราะว่าสตาลินเป็นคนนำรถไฟรุ่นนี้เข้ามาใช้ในโซเวียตเป็นครั้งแรก โจเซฟ สตาลิน คือผู้นำที่ยิ่งใหญ่ของสหภาพโซเวียต ได้รับการขนานนามว่า“บิดาแห่งสหภาพโซเวียต” เป็นผู้นำคอมวิวนิสต์ที่สามารถนำพาโซเวียตให้มีชัยชนะเหนือพวกนาซีได้ในสงครามโลก และได้พัฒนาประเทศให้เจริญก้าวหน้าจนทำให้สหภาพโซเวียตก้าวขึ้นสู่ประเทศมหาอำนาจของโลก และได้ปกครองสหภาพโซเวียตด้วยระบบคอมมิวนิสต์คู่ขนานไปกับอเมริกาที่มีการปกครองแบบประชาธิปไตย ได้เวลาพอสมควร นำท่านเดินทางสู่ เมืองอัพลิสต์ซิเคห์ Uplistsikhe (ระยะทาง 15 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาที) นำท่านชม Uplistsikhe Cave หนึ่งในเมืองถ้ำเก่าแก่ของจอร์เจีย ที่ตามประวัติศาสตร์ของชาวจอร์เจียได้มีการจดบันทึกเรื่องราวไว้ว่า ณ เมืองถ้ำแห่งนี้ได้มีการตั้งฐิ่นฐานในดินแดนแถบนี้กว่า 3,000 ปี โดยช่วงที่เมืองนี้มีความเจริญถึงขีดสุดคือ ในช่วง คริสตวรรษที่ 9-11 ก่อนที่จะถูกรุกรานและทำลายโดยชาวมองโกลในช่วงคริสตวรรษที่ 11 หินผาขนาดใหญ่ที่ถูกสกัดและสลักเสลาเป็นช่องห้องโถงมากมาย คือที่ตั้งของนครบนแนวเทือกเขาหินทราย ในอดีตกาลนครถ้ำแห่งนี้ยังเป็นส่วนหนึ่งของเส้นทางสายไหมที่เชื่อมต่ออาณาจักรไบแซนไทน์กับประเทศอินเดียและประเทศจีน
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองคาซเบกี Kazbeki (ระยะทาง 197 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมง) หรือปัจจุบันเรียกว่า เมืองสเตปันสมินดา Steansminda ชื่อนี้เปลี่ยนเมื่อปี 2006 หลังจากนักบุญนิกายออร์โธด๊อก ชื่อ สเตฟาน ได้มาพำนักอาศัยและก่อสร้างสถานที่สำหรับจำศีลภาวนาขึ้น เป็นเมืองเล็ก ๆ ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำเทอร์กี้ ถือ เป็นศูนย์กลางทางการท่องเที่ยวบนเทือกเขาคอเคซัส Caucasus ที่สำคัญของประเทศจอร์เจีย มีภูมิทัศน์ที่สวยงามโดยรอบ และเป็นจุดชมวิวของยอดเขาคาซเบกี้อีกด้วย
ค่ำ : รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรม
พักค้างคืนที่ : The Room Hotel 4 ดาว หรือเทียบเท่า
เช้า : รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่าน ขึ้นรถ 4WD (รถขับเคลื่อน 4 ล้อ) เพื่อเข้าสู่ใจกลางหุบเขาคอเคซัส Caucasus นำท่านชมความสวยงามของ โบสถ์เกอร์เกตี้ Gergeti Trinity Church หรือเรียกว่า โบสถ์สมินดา ซาเมบา Tsminda Sameba Church สร้างด้วยหินแกรนิตขนาดใหญ่ สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 14 เป็นโบสถ์ชื่อดังกลางหุบเขาคอเคซัส และเป็นสัญลักษณ์ที่สำคัญของประเทศจอร์เจีย ตั้งอยู่บนเทือกเขาคาซเบกี้ ที่ระดับความสูงจากน้ำทะเล 2,170 เมตร เป็นจุดชมวิวยอดเขา Kazbeg หนึ่งในยอดเขาที่สวยที่สุดของเทือกเขาคอเคซัส
(*** ในกรณีที่มีหิมะตกหนัก จนไม่สามารถเดินทางได้ ทางบริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ ปรับเปลี่ยนโปรแกรมตามความเหมาะสม ***)
ให้ท่านได้อิสระถ่ายภาพกับวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม เช็คอิน ดื่มด่ำกับอากาศที่แสนบริสุทธิ์ ได้เวลาพอสมควรนำท่านออกเดินทางต่อไปยัง อนุสาวรีย์มิตรภาพจอร์เจีย Russia Georgia Friendship Monument หรือสนธิสัญญา Georgievsk Monument (ระยะทาง 354 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง) เป็นอนุสาวรีย์ที่สร้างขึ้นในปี 1983 เพื่อเฉลิมฉลองร้อยปีของสนธิสัญญา Georgievsk และมิตรภาพที่ต่อเนื่องระหว่างโซเวียต จอร์เจีย กับ โซเวียต รัสเซีย ให้ท่านได้ภาพเป็นที่ระลึกได้ตามอัธยาศัย นำท่านออกเดินทางสู่ เมืองกูดาอูรี่ Gudauri (ระยะทาง 39 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง)
เที่ยง : รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารพื้นเมือง ท่านสามารถเห็นวิวแบบ 360 องศา
นำท่านเดินทางสู่ ป้อมอนานูรี่ Ananuri Fortress (ระยะทาง 57 ก.ม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.30 ชั่วโมง) ป้อมปราสาทที่ตั้งอยู่ริมฝั่งซ้ายของแม่น้ำอรักวี เป็นที่ประทับของเอริสตาวิสหรือดยุคแห่งอรักวีราชวงศ์ศักดินาผู้ปกครองดินแดนแห่งลุ่มแม่น้ำอารักวี และเป็นสมรภูมิรบแย่งชิงอำนาจกับเจ้าปกครองแคว้นอื่น ๆ หลายต่อหลายครั้ง ภายในป้อมปราการประกอบไปด้วยประสาท 2 หลัง โบสถ์ 2 แห่งคือโบสถ์แม่พระผู้พรหมจรรย์และโบสถ์แม่พระเสด็จขึ้นสวรรค์ (อัสสัมชัญ) และที่ฝังศพของดยุคแห่งอรักวี ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมแบบจอร์เจีย
จากนั้นนำท่านออกเดินทางสู่ อนุสาวรีย์ The Chronicle of Georgia (ระยะทาง 62 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.30 ชั่วโมง) หรือแท่งหินสีดำแกะสลักขนาดใหญ่ยักษ์ บนแท่นหินจะแกะสลักออกมาเป็นรูปต่าง ๆ บอกเล่าเรื่องราวของประเทศจอร์เจียในอดีต สร้างขึ้นโดย ซุราป สถาปนิกชื่อดัง เริ่มสร้างขึ้นเมื่อปี 1985 ประกอบไปด้วยแท่งเสา 16 แท่ง แต่ละแท่งสูง 35 เมตร โดยที่แต่ละเสาจะแบ่งยอกเล่าเรื่องราวออกเป็น 3 ส่วน คือ ล่างสุดเกี่ยวกับพระคัมภีร์ ส่วนกลาง คือ เรื่องของชนชั้นสูงในจอร์เจีย และส่วนบนจะเล่าเกี่ยวกับเหตุการณ์สำคัญของประเทศ
เย็น : รับประทานอาหารเย็น ภัตตาคาร อาหารจีน Ensemble Chinese Restaurant
ค่ำ : พักค้างคืน ที่ Holiday In Tbilisi Hotel 4 ดาว หรือเทียบเท่า
เช้า : รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านออกเดินทางสู่ เมืองมิทสเคต้า Mitskheta (ระยะทาง 25 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาที) ที่ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของกรุงทบิลีซี ในจังหวัดคาร์ทลี่ ทางด้านตะวันออกของจอร์เจีย เมืองนี้นับว่าเป็นเมืองที่มีความเก่าแก่แห่งหนึ่งของประเทศจอร์เจียโดยปัจจุบันเป็นศูนย์กลางการปกครองของแคว้นมิทสเคต้าและเทียนิตี้ มีประชากรอาศัยยู่ประมาณ 20,000 คน เนื่องจากมีโบราณสถานทางด้านประวัติศาสตร์มากมายแห่งจึง ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในปี ค.ศ. 1994 UNESCO World Heritage Site นำท่านชม วิหารจวารี Jvari Church หรืออารามแห่งกางเขน ซึ่งเป็นวิหารในรูปแบบของคริสต์ศาสนา นิกายออร์โธดอกซ์ ที่ถูกสร้างขึ้นในราวศตวรรษที่ 6 วิหารแห่งนี้ตั้งอยู่บนภูเขาที่แม่น้ำสองสายไหลมาบรรจบกัน คือ แม่น้ำมิควารี และ แม่น้ำอรักวี ภายในโบสถ์แห่งนี้มีไม้กางเขนขนาดใหญ่ ซึ่งชาวเมืองกล่าวกันว่า นักบุญนีโนแห่งคัปปาโดเกีย (ปัจจุบันเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญของประเทศตุรกี) ได้นำไม้กางเขนมาพร้อมกับการเผยแพร่ศาสนาคริสต์เป็นครั้งแรกในช่วงโบราณกาล อิสระให้ท่านได้มีเวลาถ่ายภาพเป็นที่ระลึกได้ตามอัธยาศัย
จากนั้นนำท่านสู่ วิหารสเวติสโคเวลี Svetitskhoveli Cathedral สัญลักษณ์ของการเปลี่ยนแปลงความเชื่อมานับถือศาสนาคริสต์ ซึ่งกลายมาเป็นศาสนาประจำชาติ เมื่อปี ค.ศ. 337 และเป็นสิ่งก่อสร้างในยุคโบราณที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของจอร์เจีย สร้างขึ้นในคริสตวรรษ ที่ 11 ภายในมีภาพเขียนเฟรสโก้ ที่สวยมีความสวยงามเป็นอย่างมาก
เที่ยง : รับประทานอาหารกลางวันแบบโลคอลสไตล์ Local Georgian and European Cuisine ที่ The Chamber of Wine
นำท่านเดินทางกลับสู่ กรุงทบิลิซี Tbilisi (ระยะทาง 27 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 40 นาที)จากนั้นนำท่านไปยังเขตเมืองเก่า ชมบริเวณ โรงอาบน้ำแร่กำมะถัน Sulphur Baths หรือภาษาจอร์เจียน เรียกว่า Abanotubani (อะบานูออูบานิ) เป็นสถานที่สำหรับแช่น้ำพุร้อนที่มีแร่กำมะถัน ตามตำนานเล่าขานว่าในสมัยกษัตริย์วาคตัง ที่ 1 กอร์กัชลี นกเหยี่ยวของพระองค์ได้ตกลงไปในบริเวณดังกล่าว จึงทำให้ค้นพบบ่อน้ำพุร้อนแห่งนี้ขึ้น ลักษณะของโรงอาบน้ำคล้าย ๆ กับออนเซนของชาวญี่ปุ่นผสมผสานกับการอาบน้ำแบบตุรกี นำท่านชมโรงอาบน้ำที่มีการสร้าง สร้างเป็นหลังคาโดม และให้บริการตั้งแต่ยุคกลางจนถึงปัจจุบันที่มีรูปแบบตัวอาคารที่หลากหลาย บางแห่งมีหอมินาเร่ต์ขนาบข้าง ประดับด้วยโมเสคชิ้นเล็กสวยงามยิ่ง ระหว่างทางท่านสามารถที่จะมองเห็นโบสถ์นิกายออร์โธดอกซ์ที่เก่าแก่มากมาย
นำท่านสู่ ถนนชาร์เดนี Shardeni Street ซึ่งเป็นถนนคนเดิน สองข้างทางไปด้วยร้านค้าที่เป็นลักษณะห้องแถวยาว ๆ และมีร้านขายกาแฟตกแต่งสไตล์น่ารัก ๆ ร้านขายของที่ระลึก รวมถึงงานศิลปกรรมที่ผลิตด้วยมือ นอกจากนี้ยังมีพวกเสื้อผ้าแฟชั่นที่มีชื่อเสียงของจอร์เจีย ให้ท่านได้สัมผัสกับผู้คนที่เดินท้องถิ่นและนักท่องเที่ยวที่เดินจับจ่ายซื้อสินค้าที่เนืองแน่นบนถนนแห่งนี้ จากนั้นนำท่านสู่ สะพานแห่งอิสรภาพ The Bridge of Peace สะพานคนเดินสไตล์โมเดิร์น สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 2010 โดยใช้เหล็กและกระจกใส สร้างข้ามแม่น้ำมตควารี เพื่อเชื่อมฝั่งเมืองเก่าและเมืองใหม่ของกรุง ทบิลิซี มีความยาวโดยประมาณ 150 เมตร ซึ่งสะพานแห่งนี้ถือเป็นสัญลักษณ์ของกรุงทบิลิซียุคใหม่ อิสระให้ท่านได้ภาพเป็นที่ระลึกได้ตามอัธยาศัย
จากนั้นนำท่านเดินต่อสู่สถานีกระเช้า เพื่อนำท่าน ขึ้นกระเช้าไฟฟ้าสู่ ป้อมนาริคาล่า Narikala Fortress ให้ท่านได้ชมป้อมปราการซึ่งเป็นป้อมโบราณที่ถูกสร้างในราวศตวรรษที่ 4 ในรูปแบบของซูริส ทซิเค หมายถึงรูปแบบที่ไม่มีความสม่ำเสมอกันและต่อมาในราวศตวรรษที่ 7สมัยราชวงศ์ฮุมัยยาด ได้มีการก่อสร้างต่อขยายออกไปอีก และต่อมาในสมัยของกษัตริย์เดวิด (ปี ค.ศ. 1089-1125) ได้มีการสร้างเพิ่มเติมขึ้นอีกซึ่งต่อมาเมื่อพวกมองโกลได้เข้ามายึดครอง ก็ได้เรียกชื่อป้อมแห่งนี้ว่า นาริน กาลา Narin Qala ซึ่งมีหมายถึง ป้อมอันเล็ก Little Fortressและต่อมาบางส่วนก็ได้พังทลายลงเพราะว่าเกิดแผ่นดินไหว และได้ถูกรื้อทำลายลง ให้ท่านได้อิสระถ่ายภาพจากมุมสูงของป้อมจะเป็นมองบริเวณตัวเมืองทบิลิซี ได้อย่างชัดเจน
เย็น : รับประทานอาหารเย็น ภัตตาคารพื้นเมือง Funicular Restaurant
พิเศษ!! กับดินเนอร์สุดหรู อลังการ ณ ภัตตาคารที่ใหญ่ที่สุดะหรูหราที่สุดในกรุง ทบิลิซี่ ที่ตั้งอยู่บนยอดเขา ท่านสามารถที่จะเห็นตัวเมืองทบิลิซีจากมุมสูงได้อย่างชัดเจน ภายในภัตตาคารตกแต่งหรูหราสุดอลังการ
ค่ำ : พักค้างคืน ที่ Holiday Inn Tbilisi Hotel 4 ดาว หรือเทียบเท่า
เช้า : รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านชม โบสถ์ตรีนิตี้ Holy Trinity Cathedral of Tbilisi หรือ ซามีบา มีความหมายว่า โบสถ์พระตรีเอกานุภาพศักดิ์สิทธิ์ แห่งกรุงทบิลิซี หรือ อารามซามีบา ชื่อเรียกของคนท้องถิ่น เป็นวิหารหลักของชาวคริสต์นิกายจอร์เจียนออร์โธดอกซ์ ในกรุงทบิลิซี ก่อสร้างขึ้นระหว่างปี ค.ศ. 1995-2004 ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 3 ของศาสนาคริสนิกายออร์โธดอกซ์ตะวันออกทั่วโลก แม้จะมีอายุไม่มากแต่ก็เป็นบถ์ตัวอย่างของสถาปัตยกรรมแบบจอร์เจียนท้องถิ่น ที่มีรูปแบบทางศิลปะจากไบแซนไทน์ โบสถ์เป็นอาคารขนาดใหญ่ที่มีความสวยงามโดดเด่นเป็นอันมาก จากนั้นนำท่านสู่ โบสถ์เมเตห์คี Metekhi Church เป็นโบสถ์ที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนานอยู่คู่บ้านคู่เมืองของทบิลิซี ตั้งอยู่บริเวณริมหน้าผาของแม่น้ำทวารี เป็นโบสถ์หนึ่งที่สร้างอยู่ในบริเวณที่มีประชากรอาศัยอยู่ ซึ่งเป็นประเพณีโบราณที่มีมาแต่ก่อนกษัตริย์วาคตัง ที่ 1 แห่งจอร์กาซาลี ได้สร้างป้อมและโบถส์ไว้ที่บริเวณนี้ ต่อมาในปี ค.ศ. 1278-1284 ได้มีการสร้างขยายโดยกษัตริย์ เซนต์ เดมิท รีอัส ที่ 2 ให้มีโดมสูงเป็นสัญลักษณ์ของโบสถ์ในนิกายออร์โธดอกซ์ ต่อมาได้ถูกทำลาย และได้มีการก่อสร้างขึ้นอีกหลายครั้ง จนในปี ค.ศ. 1235 ได้ถูกพวกมองโกลบุกทำลายและก็ได้สร้างขึ้นใหม่อีกครั้ง
เที่ยง : รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารพื้นเมือง
จากนั้นนำท่านสู่ Tbilisi Mall ห้างสรรพสินค้าที่มีชื่อเสียงของกรุงทบิลิซี ช้อปปิ้งสินค้าก่อนที่จะอำลาจอร์เจียด้วยความประทับใจ ได้เวลาพอสมควรนำท่านเดินทางสู่สนาบิน
17.25 น. : ออกเดินทางสู่ กรุงเทพมหานคร โดยสายการบิน เตอร์กิช แอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ TK 383 (ใช้เวลาในการบิน ประมาณ 2.35 ชั่วโมง)
18.55 น. : เดินทางถึง กรุงอิสตันบูล ประเทศตุรกี (แวะเปลี่ยนเที่ยวบิน)
01.45 น. : ออกเดินทางสู่ กรุงเทพมหานคร โดยสายการบิน เตอร์กิช แอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ TK 68 (ใช้เวลาในการบิน ประมาณ 9.35 ชั่วโมง)
15.25 น. : เดินทางถึงสนามบิน สุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพ พร้อมความประทับใจ
อัตราค่าบริการนี้รวมถึง
อัตราค่าบริการนี้ไม่รวมถึง
ข้อแนะนำบางประการและต้องแจ้งให้นักท่องเที่ยวทราบก่อนการเดินทาง
สำหรับห้องพักแบบ 3 เตียง มีบริการเฉพาะบางโรงแรมเท่านั้น กรณีเดินทางเป็นผู้ใหญ่ 3 ท่าน บริษัทฯ ขอแนะนำให้นักท่องเที่ยวเปิดห้องพัก เป็น 2 ห้อง จะสะดวกกับนักท่องเที่ยวมากกว่า
กรณีเดินทางเป็นตั๋วกรุ๊ป หากออกตั๋วแล้ว นักท่องเที่ยวไม่สามารถขอคืนเงินได้ และไม่สามารถเปลี่ยนวันเดินทางได้
กระเป๋าเดินทางเพื่อโหลด สำหรับชั้นท่องเที่ยว ท่านละ 1 ใบ (น้ำหนักไม่เกิน 30 กิโลกรัม)
กระเป๋าถือขึ้นเครื่อง Hand Carry (น้ำหนักไม่เกิน 7 กิโลกรัม)
หมายเหตุ
ตั๋วเครื่องบิน
โรงแรมและห้อง
กระเป๋าเล็กถือติดตัวขึ้นเครื่องบิน
สัมภาระและค่าพนักงานยกสัมภาระ
Error: Contact form not found.
Error: Contact form not found.
Error: Contact form not found.